http://www.thaipost....ws/180414/89114
วิบากกรรมยังไม่จบ! ไทยวืดประมูลข้าว 8 แสนตันให้ฟิลิปปินส์ หลังเวียดนามเสนอราคาต่ำ หันทำตลาดอื่นที่ต้องการข้าวคุณภาพอย่างมาเลเซีย ล่าสุดรัฐปล่อยข้าวให้เอกชนรวม 5.2 แสนตันทั้งแบบประมูลทั่วไปและคำสั่งซื้อโดยตรง ระบุได้ราคาดี จับตา "โต้ง" แจง ป.ป.ช.
นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การประมูลข้าวที่ฟิลิปปินส์ ปริมาณรวม 8 แสนตัน โดยไทยได้สนับสนุนให้เอกชนไปร่วมการประมูลเมื่อ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าเวียดนามเสนอขายขาวข้าว 15% ทำให้เวียดนามสามารถเสนอราคาที่ต่ำมากได้ จึงประเมินในเบื้องต้นว่าไทยไม่น่าจะชนะการประมูลครั้งนี้ เพราะไทยโดยเอกชน 2-3 รายเสนอขายข้าว 5% ซึ่งเป็นข้าวคุณภาพดี จึงไม่สามารถไปแข่งขันราคากับเวียดนามได้
อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปไทยจะพิจารณาตลาดที่ต้องการข้าวคุณภาพเพื่อแบ่งส่วนแบ่งตลาดกับเวียดนามให้ชัดเจนหลีกเลี่ยงการแข่งขันเพื่อตัดราคาขายกัน และจะไม่ทำให้ข้าวคุณภาพของไทยเสียตลาด โดยล่าสุดมาเลเซียสนใจซื้อข้าวจากไทยหลายแสนตัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา
นายสุรศักดิ์กล่าวอีกว่า คณะกรรมการพิจารณาระบายข้าวสต็อกรัฐบาลได้สรุปผลการระบายข้าวล่าสุดรวม 5.2 แสนตัน แบ่งเป็นการระบายแบบประมูลทั่วไป และการเสนอซื้อแบบตรงเพื่อการส่งออก และเมื่อรวมผลการประมูลข้าวในส่วนภูมิภาคที่จังหวัดสุพรรณบุรีปริมาณ 1.69 แสนตัน สามารถระบายได้รวม 6 หมื่นตัน ก็จะทำให้มีการระบายข้าวรวมเกือบ 6 แสนตัน โดยจะนำข้อสรุปเสนอให้นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตีและ รมว.พาณิชย์พิจารณาเห็นชอบหรือไม่ต่อไป
“เมื่อสัปดาห์ก่อนเราเปิดประมูลรวม 8 แสนตัน ไม่สามารถขายได้ประมาณ 2 แสนตัน เพราะมีการเสนอราคาต่ำกว่าเกณฑ์ที่ได้ตั้งไว้ จึงตัดสิทธิ์ผู้ที่เสนอราคาต่ำออกไป และพิจารณาเฉพาะผู้ที่เสนอราคาตามเกณฑ์ ทำให้การระบายข้าวครั้งนี้ได้ราคาดี และมีเอกชนทั้งจากโรงสี พ่อค้า และผู้ส่งออกที่ได้ซื้อข้าวจากรัฐบาล” นายสุรศักดิ์กล่าว
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้ปากคำต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะพยานโครงการรับจำนำข้าว ที่ได้รับมอบหมายจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ลงไปตรวจสอบปัญหาสต็อกข้าวในโกดัง ภายหลังการให้ปากคำเป็นเวลา 3 ชั่วโมง
พล.ต.ต.ธวัชกล่าวว่า ป.ป.ช.ซักถามถึงวิธีการ ขั้นตอน และผลการตรวจสต็อกข้าวในโกดังตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ตรวจสอบ ได้ชี้แจงว่าการตรวจ สต็อกข้าวใช้เจ้าหน้าที่ 3 หมื่นคนในการลงพื้นที่ตรวจสอบทั่วประเทศ ผลการตรวจสอบพบว่าไม่มีปัญหาการทุจริตในโครงการ ส่วนโรงสีที่มีปัญหามีเพียงไม่กี่แห่ง และได้ลงโทษไปแล้ว รู้สึกพอใจการให้ปากคำครั้งนี้ มั่นใจว่าชี้แจงได้ไม่มีปัญหา เพราะเป็นเรื่องที่ได้ตรวจสอบด้วยตัวเองทุกขั้นตอน นอกจากนี้ได้ยื่นเอกสารประกอบการชี้แจงเกี่ยวกับผลการตรวจสต็อกข้าว 78 แผ่น หลังจากนี้ ป.ป.ช.คงไม่มีการเรียกมาชี้แจงเพิ่มเติมอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 18 เม.ย. นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง จะให้ปากคำในฐานะพยานคดีจำนำข้าวต่อ ป.ป.ช. ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลโครงการ ส่วนการพิจารณากรณีที่ทีมทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ขอให้ ป.ป.ช.ไต่สวนพยานโครงการรับจำนำข้าวเพิ่มเติมอีก 2 ปาก คือ นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี และนายสมชัย สัจจพงษ์ ผอ.สำนักเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) นั้น ที่ประชุม ป.ป.ช.ยังไม่มีมติว่าจะอนุญาตให้มาเป็นพยานหรือไม่ เนื่องจากต้องขอรอฟังคำชี้แจงจากนายกิตติรัตน์ก่อน.