The economist นั่งเทียนเขียนข่าว

== ข้อความถูกระงับโดยผู้ดูแล ==

พอดีที่บ้านรับ the economist (มันส่งมาเแงไม่ได้จ่ายเงินอ่ะ) ปกติก็ recycle โดยที่ไม่ได้อ่านมาตลอดแต่วันนี้สะดุดตากับคำบางคำบนปก

Thailand: the royals and the sort-of coup

เลยอ่านสะหน่อยว่าจะโยงอะไรยังไง

อ่านจบแทบจะเอาไปเผาทิ้ง เขียนมาได้ไง ไม่มีหลักฐานอะไรซักอย่าง หาชื่อคนเขียนไม่เจอในหนังสือ แดงแจ๋ ข่าวลงข่าวลือมาหมดรู้เลยว่ามาจากข้างใหน

ใครรู้มั่งว่าใครเขียน

Edited by MOD_01, 25 May 2014 - 10:43.

สำนักข่าวต่างประเทศส่วนใหญ่พวกสีแดงให้ข่าวทั้งนั้น คิดว่าน่าจะเป็นพวกนักวิชาการคอมมิวนิสต์

ลิเบอรัลว่อนน่าบีทั้งหลายเป็นคนให้ข่าว ดูข่าวจากไทยทาง google,yahoo หรือข่าวต่างประเทศทั้งหลาย

แทบจะโยนคอมพิวเตอร์ทิ้ง  ฝากถึงหน่วยงานข่าวของทหารด้วย ว่าต้องมีหน่วยงานที่รับผิดชอบ

ในเรื่องนี้ต้องฉับไวและต้องคมชัด ในเรื่องประเด็นต่างๆ … เพราะตอนนี้ทักษิณซื้อนักข่าวต่างประเทศไปเยอะ

ฝรั่งที่มองเข้ามาในไทยจะมองแบบไ่ม่เข้าใจเพราะคนละวัฒนธรรมกัน

ไม่เว้นแม้แต่พวกที่เข้ามาอยู่ มาทำงาน หรือมาได้เมียคนไทย

ฝรั่งเกษียณได้เงินเกษียณก้อนใหญ่เข้ามาอยู่เมืองไทยค่าครองชีพจะถูกกว่าสามารถประคองเงินก้อนสุดท้ายของชีวิตไว้ได้

เพียงทำงานสอนภาษาเล็กๆน้อยๆอย่างที่ขอนแก่นหรือหนองคายก็สามาถข้ามไปสแตมป์ที่ลาวได้ง่าย เมียคนไทยเอาใจใส่ดีกว่าเมียฝรั่ง

ครูฝรั่งตอนเด็กของเราเป็นมิชันนารีแคนาเดียน ส่วนครูของน้องเป็นบริติช   ก่อนมาไทยพวกเขาถูกฝังชิปมาว่าไม่ให้ล่วงเกินสถาบัน

เพราะเป็นสิ่งที่อันทัชเอเบิลของคนไทย (นี่ครูเขาเล่าให้ฟังทั้งคู่เลยนะ)  ครูแคนาเดียนลองศึกษาดูเขากลับซาบซึ้งในหลวง

บางทีสัมผัสได้ว่ามากกว่าคนไทยบางคนซะอีก ส่วนริชาร์ดครูของน้องกลับเห็นด้วยกับเสื้อแดงในหลายเรื่อง

เช่นเกลียดอภิสิทธิ์ - สุเทพ และบอกยิ่งลักษณ์สู้สู้  แต่ก็นั่นแหละฝรั่งหัวแดงเนาะ    ประหลาดอยู่อย่างเขาเคารพพระเทพมาก

บอกว่าพระเทพน่ารัก ชีปุ้มปุ้ย .. หนังสือพิมพ์ฝรั่งนั้น พวกฝรั่งที่รู้จักไม่ได้อ่าน อาจหัวไม่ถึงอิโคโนมิสท์ ขอรายงานพี่วันศุกร์เรื่องฝรั่งในเมืองไทยแค่นี้

สำหรับนิตยสารต่างประเทศ นักข่าววิเคราะห์เก่งๆ เขาให้ดูแลข่าวประเทศใหญ่ๆ เช่น ยุโรป จีน รัสเซีย ฯลฯ พวกที่มาทำข่าวเกี่ยวกับเมืองไทย ส่วนใหญ่เป็นพวกนักข่าวฝึกหัด ด้อยประสพการณ์ หรืออนาคตไปไม่ไกล วิธีเขียนข่าวก็ไปฟังเขาเล่ามาอีกที ขี้เกียจหรือไม่ก็วิเคราะห์ข้อมูลไม่เป็น ครับ...บางทียังสับสน ระหว่างประเทศ Thailand กับ Taiwan อยู่เลย...

พวกนี้เขาไม่ได้เน้นความน่าเชื่อถือของข่าว แต่เน้นการกระจายข่าวไปในวงกว้าง

ให้คนเห็นมากๆ เพื่อแสดงว่ายังมีคนกลุ่มนี้ที่ไม่เห็นด้วยนะ มันมีลับลวงพรางอยู่นะ

มันเหมือนกับเวลาที่คน 2 ฝ่าย มีเรื่องกัน

ฝ่ายหนึ่งเงียบไม่ปริปากพูดใดๆ แต่อีกฝ่ายร้องแรกแหกกระเชอใส่ร้ายต่างๆ นานา เท็จบ้างจริงบ้าง

ร้องตะโกนไปเรื่อยๆ ให้คนอื่นได้ยินได้ฟังมากเข้าว่า คนที่ไม่รู้เรื่องราวต้นสายปลายเหตุก็อาจจะตัดสินใจเชื่อฟังๆ นั้นก็ได้

เพราะคนภายนอกไม่รู้จักสภาพของสังคมไทย จึงทึกทักเอาตามมาตรฐานของตนเองว่าคงเหมือนๆ กัน

ทีนี้ หากการกระจายข่าวเน้นในวงกว้างเช่นนี้ ถ้ามีคนรับรู้ 100 คน เกิดเชื่อตามที่มันให้ข่าวสัก 50 คน ก็บรรลุจุดประสงค์ของเขาแล้ว

ขอวิจารณ์ในเชิงเศรษฐศาสตร์ เท่านั้นครับ ประเด็นที่ผู้เขียนมีแค่

1 Thailand risks financial markets taking fright, cutting it off from international capital.

2 The cost of the country’s political crisis and lack of economic direction is fast becoming clear

หมายถึง ไทยมีความเสี่ยงที่ตลาดเงินจะไม่มีคนมาลงทุนจากต่างประเทศ ค่าความเสียหายจากความยุ่งเหยิงทางการเมืองและการไม่มีความชัดเจนทางนโยบายทางเศรษฐกิจเริ่มที่จะชัดเจนมากขึ้น ซึ่ง 2 หัวข้อนี่ง่ายต่อการคาดเดา หลังจากนั้นผู้เขียนร่ายยาวไปเรื่อย ว่าอะไรเป็นตัวแปรที่จะบอกอนาคตของประเทศ แต่ถูกหรือเปล่าไม่มีใครรู้

2 หัวข้อนี้ไม่ยากต่อการแก้ไขครับ ขึ้นอยู่กับว่าจะแก้หรืิอเปล่า

การลงทุน ถ้าคุ้ม มีประกันว่าเขาไม่น่าขาดทุน (ความเสี่ยงต่ำ) เงินก็เข้า

ส่วนโยบายทางเศรษฐกิจ เน้นกลไกตลาดเสรี แค่นี้เขา (ตปท) ก็เลิกเชียทักษินแล้ว

Edited by Tom PR, 25 May 2014 - 12:36.

The Economist นี่พวกทักษิณทั้งนั้นครับ ชัดมานานแล้ว

สมัยจักรภพ เพ็ญแขเรืองอำนาจ  สนิทกับดิอิโคโนมิสต์มาก นอกจาก BBC

== ข้อความถูกระงับโดยผู้ดูแล ==

พอดีที่บ้านรับ the economist (มันส่งมาเแงไม่ได้จ่ายเงินอ่ะ) ปกติก็ recycle โดยที่ไม่ได้อ่านมาตลอดแต่วันนี้สะดุดตากับคำบางคำบนปก

Thailand: the royals and the sort-of coup

เลยอ่านสะหน่อยว่าจะโยงอะไรยังไง

อ่านจบแทบจะเอาไปเผาทิ้ง เขียนมาได้ไง ไม่มีหลักฐานอะไรซักอย่าง หาชื่อคนเขียนไม่เจอในหนังสือ แดงแจ๋ ข่าวลงข่าวลือมาหมดรู้เลยว่ามาจากข้างใหน

ใครรู้มั่งว่าใครเขียน

หน้าโฆษณา/ประชาสัมพันธ์กระมั่ง....

ใครๆ ก็ซื้อพื้นที่ข่าวได้.....ฮา

ต้องชม lobbyists ของทักษิณค่ะ มีหลายเจ้า ในจะคนใน Foreign Policy อีก

แถมผลงานอีเพ็ญอีก ไอ้พวกใน FCCT ก็พวกมันทั้งน้านนนนนน นึกว่างาน reunion

ของฝรั่งแดง เวลาจัดงานสัมมนาแต่ละที

พอดีได้ยินเพื่อนบอกว่าทักษิณซื้อสำนักข่าวฝรั่งได้ด้วยเหรอ ขอบอกว่าได้ แต่ไม่ใช่

โดยตรง การที่จะทำได้ก็ทำโดยผ่าน lobbyists ซึ่งเป็นอาชีพที่ถูกกฎหมาย และเวลา

เค้าทำ เค้าก็จะไม่โจ่งแจ้งมาก ไม่ใช่แบบโกหกเลยว่าเหลี่ยมเป็นคนดีไม่มีตำหนิ ส่วน

เทคนิคที่ชอบใช้ก็จะเป็นเล่าไม่หมด เลือกเล่าด้านไม่ดีของอีกฝ่ายมากกว่า ประมาณนี้ค่ะ

คนที่ไม่มี background เรื่องการเมืองไทย ก็อาจจะเชื่อถือ ด้วยชื่อเสียงเก่า (ย้ำว่าเก่านะคะ)

ของสื่อนั้น ๆ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมชาวต่างชาติถึงต่อต้านรัฐประหารมาก เพราะเค้ามีภาพ

ในหัวมาตลอดแล้วว่ารุนแรง คนโดนทหารกดขี่ บลา บลา พอไปอ่านสื่อพวกนี้ ที่ทำงาน

ขยันขันแข็งกับ lobbyists ของไอ้เวรเหลี่ยมด้วย ยิ่งเข้าไปใหญ่

วิธีแก้นะคะ (อาจจะไม่ได้ผลทันทีแต่ก็ดีกว่าไม่ทำค่ะ) คือเราต้องช่วยกันให้ความรู้กับฝรั่งค่ะ

อันนี้เป็นสิ่งที่คสชยังไม่มีหน่วยงานเป็นชิ้นเป็นอัน พวกเราก็ต้องร่วมด้วยช่วยกันค่ะ

ช่วยกันแชร์ความจริงให้โลกได้รู้ แล้วถ้าเกิดเห็นพวกเสื้อแดงหรือลิเบอร่านวอนนาบีไปโกหกไรไว้

ก็ต้องช่วยกันแก้ข่าวค่ะ คนไทยมีตั้งไม่รู้กี่ล้านคน ถ้าช่วยกันซัก 10,000 คนก็จะทำให้ฝรั่งเห็นว่า

เออ นี่คือเสียงของคน local จริง ๆ นะ ซึ่งถ้าฝรั่งที่มีสมองและไม่โดนล้างสมองโดยภรรยาคนไทย

ที่ฝักใฝ่เสื้อแดง ก็อาจจะกลับมา reconsider ใหม่ได้ค่ะ