"สนธิ"แฉ ปตท.โกหกประชาชน 10 ข้อ ย้ำ"ชินวัตร"ถือหุ้น 0.002 เปอร์เซ็นต์ถือว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน เชื่อ "ภิญโญ" เป็นสายล้มเจ้า ฉะนั้นอย่าอวดตัวเป็นสื่อมวลชนที่แท้จริง ยื่น 8 ข้อเสนอโต้กลับ "สมศักดิ์ เจียมฯ" ท้าพวกนักวิชาการล้มเจ้าลาออกจากการเป็นอาจารย์ เนื่องจาก พ.ร.บ. ระเบียบราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาฯ ต้องเลื่อมใสการปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซัดอย่าหน้าด้านอยู่รับเงินเดือนต่อ ทั้งๆที่ทำผิดกฎหมาย
วันที่ 22 มี.ค. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ช่วงหนึ่ง ว่า ทีวีช่องไทยพีบีเอสเกิดจากการผลักดันของเอ็นจีโอ แล้วเอ็นจีโอหลายคนมีวาระซ่อนเร้นที่จะใช้ทีวีสาธารณะตัวนี้เผยแพร่อุดมการณ์ที่ตัวเองเชื่อ คือพวกนี้จะไร้เดียงสา เหมือน นายสมชัย สุวรรณบรรณ ผอ.ไทยพีบีเอส ที่บอกว่าเอาเรื่องที่พูดใต้ดินขึ้นมาพูดบนดินเพื่อให้มีการถกเถียงกัน สร้างปัญญาให้กับคน เหมือนอย่างที่นายภิญโญอ้าง แต่คนพวกนี้ไม่เคยคิดว่ามาตรา 112 มีมานานแล้ว และอธิบายได้ชัดว่าผู้ใดกระทำการหมิ่นประมาทให้ร้ายหรืออาฆาตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องมีโทษ แต่ถ้าวิจารณ์ด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์สามารถทำได้ แต่ไม่ใช่ไปลบมาตรา 112 เพื่อให้หมิ่นประมาทได้เต็มที่ ถ้าชั่งน้ำหนักข่าวระหว่างมาตรา 112 กับระบบการเมืองที่ทำให้เกิดการกินบ้านกินเมือง อันหลังมันหนักหนาสาหัสกว่า แต่เนื่องจากมาตรา 112 เป็นวาระที่ตั้งเอาไว้ เพื่อสั่นคลอนสถาบันพระมหากษัตริย์
ส่วนที่ นายภิญโญ ไตรสุริยธรรมา เขียนกลอนขึ้นมาระบุว่า "เผาตึกทั้งตึกไล่คน เผาคนหนึ่งคนไล่ล่า เผาพิราบเพื่อเซ่นบูชา ปราถนาหนึ่งเดียวล้มรัฐ" ข้อที่ 1 นายภิญโญ หลงตัวเองมาก พยายามจะชูตัวเองว่าเป็นสื่อมวลชนที่แท้จริง ซึ่งตนขอฉีกหน้ากากนายภิญโญหน่อย สมัยที่เขาทำนิตยสารโอเพ่น คนที่เขียนบทความลงนิตยสาร ดูรายชื่อทีมที่เขียนได้เลย จะเกี่ยวโยงกับขบวนการที่ต้องการล้มมาตรา 112 ทั้งนั้นเลย แล้ว นายภิญโญ กับ นายปราบดา หยุ่น เป็นเพื่อนซี้กัน มีแนวความคิดเดียวกัน นอกจากนี้นายภิญโญ ยังสนิท กับ นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม (ประธานกรรมการบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่) แล้ว นายไพบูลย์ ก็คือนอมินีเจ้าของตัวจริงของหนังสือพิมพ์มติชน แล้วนายภิญโญ ยังมีคอลัมน์ประจำอยู่ที่มติชนสุดสัปดาห์ แล้วเคยเขียนในหัวข้อ "คำพยากรณ์ของกษัตริย์ถึงกษัตริย์" ข้อเขียนนี้สะท้อนความคิดว่านายภิญโญเห็นด้วยกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยยกตัวอย่างกษัตริย์ประเทศต่างๆมาโน้มน้าวให้ผู้อ่านเข้าใจว่าถึงเวลาแล้วที่สถาบันกษัตริย์ต้องเปลี่ยนแปลง มีช่วงหนึ่งระบุว่า "สมเด็จพระจักรพรรดิและ สมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น เมื่อเสด็จไปเยี่ยมราษฎรที่ประสบภับพิฐัติหลังเหตุการณ์สึนามิทั้ง 2 พระองค์ได้น้อมพระวรกายลงไปรับฟังปัญหาของประชาชนของพระองค์อย่างใกล้ชิด จนระดับของพระเศียรต่ำกว่าประชาชนที่นั้งอยู่เสียด้วยซ้ำ การวางตัวสงบเสงี่ยมภายใต้รัฐธรรมนูญที่จำกัดบทบาทมิให้ต้องยุ่งเกี่ยวกับการเมืองทำให้สถาบันกษัตริย์ญี่ปุ่นกลับมาสง่างามได้อีกครั้งหลังจากนำประเทศชาติพ่ายแพ้อย่างย่อยยับในสงครามโลกครั้งที่ 2" คำถามที่ตนอยากถามกลับคือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีพระราชจริยวัตรที่มากกว่านี้ด้วยซ้ำ เคยเห็นไหมภาพที่พระองค์ทรงก้มลงจนกระทั่งพระเศียรแทบจะติดกับหญิงชราที่ทูลเกล้าถวายดอกไม้ให้ แล้วที่พระองค์เสด็จไปตามที่ทุรกันดารเพื่อแก้ปัญหาให้ชาวบ้าน กษัตริย์ญี่ปุ่นไม่ได้ทำแต่กษัตริย์ไทยทำ ทำไมนายภิญโญไม่พูดถึงกรณีนี้ แล้วนายภิญโญยังพูดเรื่องสถาบันกษัตริย์ของอังกฤษไว้อย่างหน้าสนใจ เขาพูดว่า "สถาบันกษัตริย์ของอังกฤษนั้น สื่อมวลชนกระทั่งประชาชนธรรมดา สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ทุกเรื่อง ถ้าเป็นไปด้วยความสุจริตก็มิได้ทำให้สถาบันฯเสื่อมถอยลงแต่ประการใด" แต่สิ่งที่นายภิญโญกับพรรคพวกกำลังต่อสู้เรื่องมาตรา 112 คุณกำลังต่อสู้ให้คนอย่าง ดา ตอร์ปิโด นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นายจักรภพ เพ็ญแข แล้วไปอ่านข้อความที่ ดา ตอร์ปิโด วิพากษ์วิจารณ์สถาบันฯ ไม่ได้วิจารณ์โดยสุจริตเลย นายภิญโญ ต้องเข้าใจว่าขบวนการล้มเจ้าพวกนี้ มันไม่ต้องการวิพากษ์วิจารณ์อย่างบริสุทธิ์ใจ ในทางสร้างสรรค์ แต่มันจะอิงแอบแนบแน่นอยู่กับเกมการเมืองเพื่อหวังผลทางอำนาจการทำลายล้างทำให้สถาบันฯเป็นเพียงสัญลักษณ์ พร้อมสถาปนาระบอบการปกครองขึ้นมาใหม่ชัดเจน
บอกตรงๆนายภิญโญ เป็นคนหนุ่ม มีอนาคต เพียงแต่ว่าคุณอยากดังมากจนเกินไป แล้วต้องยอมรับว่าคุณเป็นสายล้มเจ้า แต่อยู่ในขบวนด้วยหรือเปล่าไม่รู้ แต่เป็นสายนั้น เพราะฉะนั้นแล้วจะมาบอกว่าตัวเองเป็นสื่อมวลชนที่จะเอาปัญญามาให้คนได้อย่างไร
นายสนธิ กล่าวต่อถึง นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ว่า นายสมศักดิ์เป็นคนประหลาด ตนไม่ค่อยอยากด่าเท่าไหร่ เพราะมีความรู้สึกว่าเขากึ่งๆ บ้า สติไม่ดี มีความเคียดแค้นฝังใจเยอะตั้งแต่เหตุการณ์ 6 ตุลา และคิดว่าการที่ สตช. มาประกาศให้ทุกโรงพักรับแจ้งความเป็นการกระทำที่ไม่ถูก เท่ากับว่าไปเติมฟืนในกองไฟ เพราะ นายสมศักดิ์ เป็นคนเพี้ยนแบบนี้มาตั้งแต่ต้นแล้ว
ข้อเสนอ 8 ข้อของ นายสมศักดิ์ พิสูจน์ได้ชัดว่าเขาไม่ต้องการที่จะวิจารณ์สถาบันกษัตริย์อย่างสุจริตใจ อย่างเช่นข้อที่ 1.ให้ยกเลิกมาตรา 8 ที่บอกว่าพระมหากษัตริย์อยู่ในสถานภาพที่จะละเมิดไม่ได้ แล้วให้เพิ่มมาตราในลักษณะเดียวกับรัฐธรรมนูญปี 2475 ให้สภาพิจารณาความผิดของกษัตริย์ได้ 2.ให้ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
3.ให้ยกเลิกองคมนตรี 4.ให้ยกเลิกการจัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายสถาบันพระมหากษัตริย์ 5.ยกเลิกการประชาสัมพันธ์ด้านเดียวทั้งหมด 6.ยกเลิกให้พระราชอำนาจในการแสดงความเห็นทางการเมืองทั้งหมด 7. ยกเลิกให้พระราชอำนาจเรื่องโครงการหลวงทั้งหมด 8.ยกเลิกการบริจาค - รับบริจาคโดยเสด็จพระราชกุศล
ตนมีข้อเสนอ 8 ข้อ เหมือนกัน 1. ตาม พ.ร.บ.ระเบียบราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาฉบับที่ 2 พ.ศ.2547 มาตรา 7 (3) บัญญัติถึงคุณสมบัติทั่วไปและลักษณะต้องห้าม ผู้ที่จะเข้ารับราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา หนึ่งในนั้นคือ "ต้องเป็นผู้เลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข" ตนเสนอว่า นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล หรืออาจารย์อีกหลายคน ที่ไม่พอใจสถาบันกษัตริย์ แสดงความกล้าหาญทำตามกฎหมาย คือต้องลาออกจากการเป็นอาจารย์ในสถาบันอุดมศึกษาทั้งหมด อย่าหน้าด้านอยู่รับเงินเดือนจากสถาบันอุดมศึกษา เพราะคุณขัดต่อ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน มาตรา 7 (3)
2.ภายใต้กฎหมายดังกล่าว ถ้าไม่ลาออกตนอยากให้สถาบันอุดมศึกษาต้องปลดออก หรือไล่พวกอาจารย์ที่ไม่เลื่อมใสในสถาบันกษัตริย์ออก มิเช่นนั้นแล้วผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษาเหล่านั้น ควรแสดงความรับผิดชอบลาออกไปด้วยกัน คุณเป็นมหาวิทยาลัยแล้วคุณจ้างอาจารย์ที่ไม่เชื่อมั่นในสถาบันกษัตริย์มาสอนหนังสือได้อย่างไร เพราะว่ารัฐธรรมนูญบอกว่า ประเทศไทยปกครองในระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ถ้ายอมรับตรงนี้แล้วให้พวกอาจารย์ที่ไม่ยอมรับพระมหากษัตริย์ มาสอนหนังสือ ผู้บริหารก็ผิดด้วย อย่ามาอ้างเสรีภาพในเรื่องการแสดงออกทางความคิด เพราะกฎหมายมีอยู่แล้วชัดเจน
3.ตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่าด้วยจรรยาบรรณของบุคลากร และอาจารย์ พ.ศ.2551 แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 2554 ได้กำหนดไว้ข้อที่ 14 ว่า "บุคลากรพึงปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถโดยไม่เลือกปฏิบัติ และปราศจากอคติ" แต่พวกอาจารย์ในมหาวิทยาลัยหลายคนที่มีความเป็นอคติต่อสถาบันฯ
4. เรียกร้องให้ นายสมศักดิ์และนักวิชาการหลายๆคน หยุดโกหกประชาชนเรื่องประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า ทำให้ไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์พระมหากษัตริย์ได้ ทั้งที่กฎหมายนี้บัญญัติเอาไว้แต่เพียงว่า "ผู้ใดหมิ่นประมาทดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี- 15 ปี ขึ้นไป" กฎหมายฉบับนี้ไม่ได้ห้ามให้วิพากษ์วิจารณ์ แต่ห้ามการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงการอาฆาตมาดร้าย ซึ่งเป็นสิทธิพื้นฐานของมนุษย์ธรรมดาทุกคนที่ได้รับการปกป้องดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งประมุขแห่งรัฐ เพียงแต่คนที่เขาต้องการให้ยกเลิกเขาต้องการหมิ่นประมาทดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่างหาก
5.เรียกร้องนายสมศักดิ์และพรรคพวกของเขา หยุดโกหกบิดเบือนประชาชน ว่าการลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 มีบทลงโทษรุนแรงเกินเหตุจำเป็น ทั้งๆที่ความจริงแล้วกฎหมายหมิ่นประมาทของประเทศไทย มีบทลงโทษเป็นลำดับขั้นตามความสำคัญในบริบทของสังคมไทย เพื่อให้สังคมเรียบร้อย เขามีเป็นขั้นตอน
6. เสนอ นายสมศักดิ์และพรรคพวก หยุดโกหกเรื่องโทษการคุ้มครองประมุขของรัฐไทย ล้าหลังไม่เป็นที่ยอมรับในเวทีนานาชาติ กรณีนายจอห์นนี่ โลแกน สเปนเซอร์ เขียนกลอนอาฆาตมาดร้ายประธานาธิบดีบารัก โอบามา ในปี 2550 ศาลตัดสินจำคุก 2 ปี 9 เดือน ปี 2553 วัยรุ่นคนหนึ่งอายุ 17 ปี ชื่อนายลุก แองเจล สงอีเมล์ไปทำเนียบขาวเมื่อ 11 กันยายน 2553 เรียกโอบามา ว่าพริก คืออวัยวะเพศชาย ถูกสั่งห้ามเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาตลอดชีวิต
7. เสนอ นายสมศักดิ์และพรรคพวก หยุดหลอกตัวเองว่าคนไทยไม่เทิดทูนและรักพระเจ้าอยู่หัว โดยอ้างว่าเป็นเพียงเพราะคนไทยยังไม่มีข้อมูลอีกด้านหนึ่งที่ตัวเองหวังโจมตีให้ร้าย แต่ความเป็นจริงแล้วคนไทยส่วนใหญ่ในประเทศนี้ ไม่ต้องการการดูหมิ่นประมาทอาฆาตมาดร้าย สถาบันพระมหากษัตริย์ และหนุนมาตราที่บัญญัติไว้มาตรา 8 ว่าองค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดไม่ได้
8. ขอให้ทหารทำหน้าที่ในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ตามที่ได้ปฏิญาณตนเอาไว้ อย่าได้ดีแต่พูด และคำราม
นายสนธิ ยังกล่าวด้วยว่า ไทยพีบีเอสมีอีแอบหลายคนที่ออกมาจากไอทีวี เป็นพวกของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ฉะนั้นไทยพีบีเอสเป็นทีวีซึ่งไม่ใช่ทีวีที่ นายสมชัย สุวรรณบรรณ คิดว่ามันควรจะเป็น นายสมชัย ฝรั่งจ๋าเพราะอยู่บีบีซีมานาน เลยเห็นว่าบีบีซีวิพากษ์วิจารณ์สมเด็จพระนางเจ้าเอลิซาเบธได้ ไทยพีบีเอสน่าจะวิจารณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯได้ ทั้งที่มันคนละเรื่องกัน คนละวัฒนธรรม
แล้วต้องถามก่อนว่าพระเจ้าอยู่หัวองค์นี้ ได้ทำความยากลำบากอะไรให้แก่ชาติไทยหรือเปล่า ถ้าพระองค์ท่านไม่ได้ทำแล้ว พระองค์ท่านมีแต่คุณูปการให้แก่ชาติไทย ออกมาพูดทำไม ถ้าจะมีการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ จะเป็นการริเริ่มของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถเอง ที่พระองค์ท่านจะปฏิรูปด้วยตัวพระองค์ท่านเอง ทำไมเราถึงไปประมาทและดูถูกภูมิปัญญาของพระองค์ท่าน ทำไมพระองค์ท่านจะไม่รู้ว่าโลกมันเปลี่ยนไปแล้ว สถาบันกษัตริย์ก็ต้องเปลี่ยนบทบาทไปเช่นกัน วันนี้พระองค์ท่าน 80 กว่าแล้ว ไม่สามารถที่จะออกไปดูแลประชาชนเหมือนนสมัยก่อนที่พระองค์ท่านทำได้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ 61แล้ว พระเทพฯก็จะ 60 อยู่แล้ว ทั้งหมดนี้ตนเชื่อเขาคิดกันอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าไม่สามารถประกาศให้คนรู้
http://www.manager.c...D=9560000035309