ดีเอสไอรับสอบปมร้องเณรคำ เร่งประสานข้อมูลปปง.พรุ่งนี้ พร้อมเด้งรับสอบมหาวิทยาลัยสันติภาพโลกเป็นคดีพิเศษ เข้าข่ายผิดพ.ร.บ.คอมฯ ฐานลงโฆษณาชวนเชื่อทางอินเตอร์เน็ต เตรียมเรียกสอบผู้บริหารมหาวิทยาลัย ชี้ชัดไม่ใช่มหาวิทยาลัย อึ้งจดแจ้งสถานที่ประกอบกิจการโรงเรียนอนุบาล
วันนี้ ( 3 ก.ค.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ดีเอสไอได้มอบหมายให้พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว ผบ.สำนักคดีความมั่นคง ดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีที่มีการร้องเรียนให้ตรวจสอบกรณีที่เกี่ยว ข้องกับหลวงปู่เณรคำเพื่อคลี่ปลายข้อสงสัยโดยเร็ว ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (4 ก.ค.) ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนไปประสานขอข้อมูลการตรวจสอบเส้นทางการเงินจาก สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)เพื่อดำเนินคดีอาญาอย่างถึงที่ สุด ขณะที่ปปง.มีอำนาจการสอบสวนความผิดเฉพาะการฟอกเงิน
นายธาริต ยังเปิดเผยกรณีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยสันติภาพโลกและมอบปริญญาบัตร โดยไม่ได้รับอนุญาตว่า ดีเอสไอได้รับหนังสือร้องเรียนจากนายเสกสรร ประเสริฐ ผู้อำนวยการหนังสือพิมพ์เบาะแส กับพวกกรณีดังกล่าวว่านายสวัสดิ์ บันเทิงสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยสันติภาพโลกกับพวก ได้จัดตั้งมหาวิทยาลัยโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีพฤติกรรม หลอกลวงประชาชน พระสงฆ์ เพื่อให้ได้มาซึ่งประโยชน์ในการเข้ารับปริญญาและตำแหน่งทางวิชาการ และมีการนำข้อมูลอันเป็นเท็จ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ว่าดีเอสไอพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นการกระทำที่เข้า ข่ายความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์จริงจึงได้รับสอบสวนเป็นคดีพิเศษ
เบื้องต้นพบข้อเท็จจริงเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหลายประเด็นเช่น 1. มหาวิทยาลัยสันติภาพโลก ไม่ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งเป็นมหาวิทยาลัยตามมาตรา 10 แห่งพ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน จึงมีความผิดตามมาตรา 104 2.มหาวิทยาลัยสันติภาพโลก ได้ดำเนินการจดทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด สันติภาพโลก การใช้คำว่ามหาวิทยาลัย ประกอบซึ่งในดวงตรา ป้ายชื่อ จดหมาย เอกสาร หรือสิ่งอื่น ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการเพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าเป็นสถาบันอุดม ศึกษาเอกชน จึงเป็นความผิดตามมาตรา 22 ประกอบ มาตรา 109 และได้ดำเนินการจัดเชิญบุคคลที่มีการทำประโยชน์ ให้สังคมให้ได้รับปริญญาบัตรบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ และดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ โดยเสียค่าใช้จ่ายขั้นต่ำรายละ 15,000-350,000 บาท แล้วจะนำข้อมูลดังกล่าวไปลงโฆษณา ในคอมพิวเตอร์ เว็บไซต์ เพื่อโฆษณาให้ประชาชนหลงเชื่อ
นายธาริต กล่าวต่อว่า กรณีดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการเชิญชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจว่ามหาวิทยาลัย สันติภาพโลก มีศักดิ์และสิทธิ์เทียบเท่ากับมหาวิทยาลัยอื่นทุกประการ เป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน เป็นการหลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อและเข้าใจได้ว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่ร่วมมือ กับต่างประเทศมอบปริญญากิตติมศักดิ์จริง เป็นความผิดตามมาตรา 14 ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน มาตรา 341 และมาตรา 343 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ทั้งนี้ จากการสืบสวนเพิ่มเติมในส่วนสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา (สกอ.) พบว่ามหาวิทยาลัยสันติภาพโลกไม่ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งสถาบันอุดมศึกษา และยังใช้คำว่ามหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ดังนั้น มหาวิทยาลัยสันติภาพโลก จึงไม่สามารถให้ปริญญาบัตรหรือปริญญากิตติมศักดิ์ได้ เนื่องจากไม่มีการจัดการเรียนการสอนและไม่ได้รับอนุญาตให้จัดตั้ง
นายธาริต กล่าวต่อว่า หลังรับเป็นคดีพิเศษตนสั่งการให้ตั้งคณะพนักงานสอบสวนทำการสอบสวนในประเด็น ต่าง ๆ เช่น การฟอกเงิน การก่อตั้งมูลนิธิโดยมิชอบ การแอบอ้างมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ ประกอบกับได้มีหนังสือสอบถามประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ไปยังหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อทราบข้อเท็จจริง รวมทั้งจะได้พิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทุกคน เช่น นายสวัสดิ์ บันเทิงสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยสันติภาพโลกกับพวก โดยทราบว่าในวันที่ 21 ก.ค.นี้มหาวิทยาลัยสันติภาพโลกมีกำหนดมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิติมศักดิ์ให้ กับแกนนำและปราชญ์ชาวบ้าน รวมถึงผู้บริหารท้องถิ่นประมาณ 100 คน ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ วิทยาเขตนนทบุรี ดังนั้นดีเอสไอจะเรียกนายบันเทิงมาให้ปากคำ
สำหรับม.สันติภาพโลก ระบุเคยมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ให้กับผู้มีชื่อเสียง อาทิ นายสมบัติ เมทะนี นายสุขุม วงศ์ประสิทธิ์ ลูกศิษย์หลวงปู่เณรคำ พระเหนือชัย โฆษิโต นายขวัญชัย สาราคำ หรือขวัญชัย ไพรพนา นายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ เรือเอกสมรักษ์ คำสิงห์ จากการตรวจสอบของดีเอสไอพบว่า สถานที่ก่อตั้งม.สันติภาพโลก อยู่เลขที่ 19 ซอยเทพฤทธิ์ ถนนสันติภาพ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยจดแจ้งเป็นโรงเรียนอนุบาล และโรงเรียนเตรียมประถมศึกษา
http://www.dailynews...th/crime/216509