ข้อความส่วนหนึ่ง ที่นายสมบัติ เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย
"ถ้าเสียดายเสื้อผ้าที่ลอยน้ำ ผมเสนอให้ว่าให้มีคนจัดทีมรวมกลุ่มเอาไปซักครับ แล้วตากแดดไปบริจาคใหม่ ส่วนตัว ผมคิดว่าเสื้อผ้าที่บริจาคมาต้องซัก"
"ตอนสึนามิก็มีปัญหาเรื่องกองเสื้อผ้าบริจาค ให้มาเยอะมาก จนกองเป็นภูเขา สุดท้ายฝนตกใส่ เป็นที่อยู่ของยุง"
"ตอนผมอยู่ที่สึนามิ กับ ตอนโคลนถล่มที่ อ.ลับแล ผมประกาศชัดเจน อย่าบริจาคเสื้อผ้ามาอีก พอแล้ว ไม่จำเป็นเลย"
"RT @icez: @moui @nuling มีคนบริจาคไปทั้งๆ ที่ไม่ได้ซักด้วยเหรอ T_T เหวอ // ต้องลองไปเป็นอาสาสมัครคัดเสื้อผ้า"
"เสื้อผ้าบริจาคจำนวนมาก เป็นของที่เก็บไว้นานเป็นปี มีกลิ่น เวลาคัดแยกเสื้อผ้าจะมีกลิ่น"
"ไม่รู้ว่ามองเห็นแง่มุมในการคัดแยกเสื้อผ้าหรือเปล่าว่า มีเสื้อผ้าจำนวนหนึ่งอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถบริจาคต่อได้"
"คนเก่ง ๆ ไม่ค่อยมาอาสาหรอกครับ เพราะกลัวงาน มองออกว่า ยาก ที่ทำส่วนใหญ่พวกมาด้วยใจ แม้รู้ว่ายาก ก็ยังจะทำ"
"วัฒนธรรมการบริจาคของบ้านเรา ยังต้องพัฒนา บางทีของใช้ไม่ได้แล้ว ก็ยังบริจาค ทำไมไม่คัดก่อนบริจาค"
"จากน้ำฝน มาเป็นน้ำในแม่น้ำ แล้วเอ่อเป็นน้ำทุ่ง พอเข้าเมืองก็เป็นน้ำเน่า ถึงตอนนี้เต็มไปด้วยน้ำลาย ตกลงสู้อยู่กับน้ำอะไรกันแน่"
"นี่เป็นการต่อสู้ระหว่าง "น้ำใจ กับ น้ำลาย"
"เพิ่งได้ดูข่าว 3 มิติ ห้องน้ำที่ลอยในดอนเมือง เป็นของเทศบาลเมืองพัทยา ที่เอามาติดตั้งให้ผู้ประสบภัยในศูนย์พักพิงใช้ ไม่ใช่ของบริจาค"
ผมเสนอว่า ช่วยกันรณรงค์งดบริจาคให้ รัฐบาลบ้าๆบอๆ นี้เถอะครับ เอาไปบริจาคให้องค์กรอื่นดีกว่า