Jump to content


Photo
- - - - -

ว๊า...ตัวเองยังเจ๊งเลย แล้วจะไปช่วยชาติ ยังไงไหว?


  • Please log in to reply
42 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 Suraphan07

Suraphan07

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,016 posts

ตอบ 28 เมษายน พ.ศ. 2555 - 14:00

เห็นข่าวบอกว่า เลื่อนแล้ว เลื่อนอีก แถมร้านค้ายังไม่ค่อยมีใครอยากร่วมด้วย

ผมว่าอย่างงี้ น่าจะให้ร้านค้าที่เป็นไพร่แดงแท้ๆเข้าร่วมน่ะ
เพราะพวกเขาส่วนใหญ่ ได้รับการจูงจมูกกันง่ายอยู่แล้ว
แถมจัดรูปนายใหญ่ชูสองนิ้วติดที่หน้าร้าน และถ้าเปลี่ยนชื่อเป็นทำนอง
"เอาใจนาย" ด้วย ผมว่า น่าจะมีไพร่แดงเข้าร่วมกันตรึม ....

ไม่เหมือนโชห่วยพวกกลางๆ/แมงวาป/สลิ่ม หรืออำมาตย์ที่มักเรื่องมาก... :lol:

พาณิชย์เซ็ง "ร้านถูกใจ" แป้กซะแล้ว
เลื่อนแล้วเลื่อนอีกเหตุงบล่าช้า แถมโชห่วยยังเมินสังฆกรรม!

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ถึงความคืบหน้าโครงการโชห่วยช่วยชาติ หรือร้านถูกใจที่ได้รับอนุมัติงบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดำเนินการ 1,340 ล้านบาท ว่า กระทรวงพาณิชย์ยังไม่สามารถเปิดตัวร้านถูกใจได้ตามกำหนด แม้จะเลื่อนเปิดร้านถูกใจทั่วประเทศมาแล้วถึง 3 ครั้ง จากที่กำหนดจะเปิดร้านนำร่องเปิดในกรุงเทพฯ และปริมณฑลตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย.55 แต่ได้เลื่อนมาเป็นวันที่ 25 เม.ย. และล่าสุดวานนี้ (27 เม.ย.) ก็ยังไม่สามารถเปิดได้อีก มีเพียงการเปิดตัวร้านถูกใจนำร่องแห่งเดียวที่กระทรวงพาณิชย์เท่านั้น

สำหรับสาเหตุที่ไม่สามารถดำเนินการได้ตามกำหนด เพราะงบประมาณที่กระทรวงได้รับการอนุมัติจำนวน 1,340 ล้านบาทยังไม่ตกมาถึงมือ เนื่องจากติดขั้นตอนการเบิกจ่ายจากสำนักงบประมาณ ส่งผลให้ไม่สามารถทำแผนประชาสัมพันธ์ได้ตามเป้าหมาย รวมถึงยังอยู่ระหว่างรอบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ทดลองระบบการสั่งซื้อสินค้า นอกจากนี้ จำนวนร้านค้าที่สมัครเข้าร่วมโครงการยังไม่มากพอ โดยตั้งแต่เปิดรับสมัครเมื่อต้นเดือน เม.ย.ถึงปัจจุบัน มีร้านค้าสมัครเข้าร่วมโครงการในพื้นที่กรุงเทพฯ เพียง 500 รายเท่านั้น จากเป้าหมาย 2,000 ราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามร้านค้าโชห่วยในเขตกรุงเทพฯ พบว่า ส่วนใหญ่ไม่สนใจเข้าร่วมโครงการ เพราะกลัวว่ายุ่งยากและไม่เข้าใจกับระบบการค้าของโครงการ อีกทั้งยังกังวลหากเข้าโครงการแล้วจะขายของได้กำไรเหมือนเดิมหรือไม่ เพราะถูกควบคุมราคาขายจากรัฐอย่างเคร่งครัด ทั้งที่ต้นทุนสินค้าขยับขึ้นไปมากแล้ว ที่สำคัญหากโครงการนี้สิ้นสุดแล้วจะกระทบต่อระบบการสั่งซื้อสินค้าในปัจจุบัน ที่มีการรับสินค้าจากยี่ปั๊ว ซาปั๊ว และได้รับเครดิตล่วงหน้า และกลัวว่าจะไม่ได้รับเครดิตเหมือนเดิมอีก แม้ในรายที่สนใจเข้าร่วมโครงการก็ยังสับสน เพราะเข้าใจว่าจะได้รับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลเป็นตัวเงิน แต่ในความเป็นจริงแล้ว รัฐไม่ได้แจกเป็นตัวเงิน เพียงแต่สนับสนุนเป็นชั้นวางสินค้า และระบบการสั่งซื้อสินค้าเท่านั้น.
http://www.thairath....tent/eco/256232

ยิ่งเพิ่มสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายอะไร ที่เกี่ยวกับ "ปรองดอง" เข้าไป
เชื่อได้ว่าร้านไหนร้านนั้น ต้องห่างไกลจากการถูก "ช่างแม่มัน" แน่นอน... :D



แต่จะเจอกับ "ช่างพ่อมึง" ของนายใหญ่ทีหลังหรือเปล่า อันนี้ไม่แน่ใจ... -_-

Edited by Suraphan07, 28 เมษายน พ.ศ. 2555 - 14:04.


#2 Solid Snake

Solid Snake

    แดงกำมะลอ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,892 posts

ตอบ 28 เมษายน พ.ศ. 2555 - 14:17

เจอร้านเจ็ดกับดอกบัวไม่เจ๊งทนไหวรึ

#3 ทัชชี่

ทัชชี่

    ดีใจจัง ค้นแล้วเจอเลย

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,784 posts

ตอบ 28 เมษายน พ.ศ. 2555 - 18:44

เจอร้านเจ็ดกับดอกบัวไม่เจ๊งทนไหวรึ


ตอนนี้ร้าน 7 กับ ดอกบัวด่วนพิเศษ และ mini ซีใหญ่ ก็เริ่มเจ๊ง หลายร้าน แล้วครับ

Edited by ทัชชี่, 28 เมษายน พ.ศ. 2555 - 18:44.

ประชาธิปไตยแบบแดง: 1. ไม่ใช่แดง เป็นประชาธิปไตยไม่ได้ 2. เสียงส่วนใหญ่ คือเสียงถูกต้อง 3. กฎพวกพ้องต้องเหนือกฎหมาย 4. เบื้องสูงมีไว้เหยียบย่ำ 5. ใครทำก็ผิด แต่แดงต้องไม่ผิด 6. คิดร้ายต่อทักษิณย่อมชั่ว 7. มั่วบิดเบือนหลอกพวกเดียวกัน 8. ปั้นน้ำเป็นตัวแล้วแถ


#4 aunaun

aunaun

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 282 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 04:54

ที่บ้านผมก็ทำกิจการโชห่วยเหมือนกัน
อันนี้ขอด่ารวดเดียวเลย เพราะรัฐบาลประชาธิปัตย์ก็ใช้วิธีคิดแบบเดียวกัน คือมาแก้ที่ปลายเหตุ
อย่างกรณีธงฟ้านั่นก็มาซ้ำเติมผู้ประกอบการหนักขึ้นไปอีก
แทนที่จะไปจัดการกับต้นน้ำ นั่นคือกฏหมายค้าปลีก
ที่จะเป็นตัวควบคุมการขยายสาขาของห้างต่างๆ ไม่ให้รุกคืบเข้าไปในเขตชุมชน
ในแวดวงนี้เขารู้กันหมดแหละครับว่าตอนนายกอภิสิทธิ์ไปอังกฤษ มีตัวแทนของเทสโก้ขอเข้าพบส่วนตัวเลย
ซึ่งต่อให้นายกเป็นคนอื่น ผมว่ามันก็มาขอพบแบบเดียวกันนี่แหละ
ที่สำคัญรัฐมนตรีพานิชย์ พรทิวา สังกัดเนวิน มีที่ปรึกษาเป็นผู้บริหารเทสโก้โลตัสอีกต่างหาก
แล้วกฏหมายมันจะเกิดได้ไง ยิ่งกฏหมายฉบับนี้ยือเยื้อเท่าไหร่ ประเทศนี้ยิ่งหายนะเท่านั้น
ดูที่อังกฤษเป็นตัวอย่างว่าเทสโก้มีอำนาจในการกำหนดราคาสินค้าไปจนถึงนโยบายรัฐมากมายขนาดไหน
แถมยังมีอำนาจไปกดดันเกษตรกรและผู้ผลิตในประเทศได้ด้วย

#5 aunaun

aunaun

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 282 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 05:00

ส่วนกรณีโครงการโชห่วยช่วยชาติ ซึ่งรัฐบาลที่แล้วก็ทำเหมือนๆกัน
ผมว่าเขาไม่เข้าใจจิตวิทยาของผู้ประกอบการประเภทนี้นะ
คือคนที่เขาตัดสินใจจะมาเปิดร้านของตัวเองนี่ ก็เพราะเขาอยากเป็นอิสระ
ไม่ต้องซื้อของจากที่ที่เดียวมาขาย ที่ไหนถูกก็ไปซื้อที่นั่น ไม่ต้องเซ็นต์สัญญา
ไม่ต้องขายตามราคาที่ถูกกำหนด ไม่ต้องติดป้ายราวกับไปซื้อแฟรนชายน์เขามาอีกที
ถ้าจะแก้ปัญหาแบบนี้ ผมว่าแก้ยังไงก็ไม่สำเร็จ เสียเงินภาษีเปล่าๆ

#6 Solid Snake

Solid Snake

    แดงกำมะลอ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,892 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 05:19


เจอร้านเจ็ดกับดอกบัวไม่เจ๊งทนไหวรึ


ตอนนี้ร้าน 7 กับ ดอกบัวด่วนพิเศษ และ mini ซีใหญ่ ก็เริ่มเจ๊ง หลายร้าน แล้วครับ

เจ๊งหลายร้านแต่ก็ผุดหลายร้าน

#7 คนกินข้าว

คนกินข้าว

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,422 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 06:09

สหกรณ์ร้านค้าฯ ก็ได้รับการติดต่อให้เข้าร่วมโครงการ "ห่วยช่วยชาติ(หน้า)" เหมือนกัน
ตอบรับไปนานแล้ว ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลย

"การเมือง เป็นเรื่องผลประโยชน์ส่วนตน ผลประโยชน์ประชาชน เป็นข้ออ้าง"

#8 metaleka

metaleka

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,655 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 06:50



เจอร้านเจ็ดกับดอกบัวไม่เจ๊งทนไหวรึ


ตอนนี้ร้าน 7 กับ ดอกบัวด่วนพิเศษ และ mini ซีใหญ่ ก็เริ่มเจ๊ง หลายร้าน แล้วครับ

เจ๊งหลายร้านแต่ก็ผุดหลายร้าน

ร้าน 7 ทุนหนา

#9 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 06:55

ก็ทำไมไม่เอาเอ็นเทรอะเปรอะนัวเสื้อแดงมาขายในโครงการล่ะ
เสื้อแดงก็มีร้านส้มตำ ร้านกาแฟ ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านหนังสือ ร้านขายแว่น ฯลฯ อะเรอยู่เยอะไม่ใช่เรอะ
ช่วยๆกันหน่อยซี้...ไม่ให้คนกันเองหน้าแหกขนาดนี้

2000 ร้านเอง บอกเสื้อแดงแป๊บเดียวคนก็เต็มแล้ว
gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#10 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 08:45

พาณิชย์เซ็ง "ร้านถูกใจ" แป้กซะแล้ว
เลื่อนแล้วเลื่อนอีกเหตุงบล่าช้า แถมโชห่วยยังเมินสังฆกรรม!



ส่วนกรณีโครงการโชห่วยช่วยชาติ ซึ่งรัฐบาลที่แล้วก็ทำเหมือนๆกัน
ผมว่าเขาไม่เข้าใจจิตวิทยาของผู้ประกอบการประเภทนี้นะ
คือคนที่เขาตัดสินใจจะมาเปิดร้านของตัวเองนี่ ก็เพราะเขาอยากเป็นอิสระ
ไม่ต้องซื้อของจากที่ที่เดียวมาขาย ที่ไหนถูกก็ไปซื้อที่นั่น ไม่ต้องเซ็นต์สัญญา
ไม่ต้องขายตามราคาที่ถูกกำหนด ไม่ต้องติดป้ายราวกับไปซื้อแฟรนชายน์เขามาอีกที

ถ้าจะแก้ปัญหาแบบนี้ ผมว่าแก้ยังไงก็ไม่สำเร็จ เสียเงินภาษีเปล่าๆ




'ร้านถูกใจ'เป็นโครงการ'ผักชีโรยหน้า'สร้างข่าวให้ไพร่เสื้อแดงหูเบาเชื่อว่า'เราทำได้ค๊า'
ให้สือฯเลือกข้างแพร่ข่าวเท่านั้นเอง.....ฮา

ยี้ปั๊วขายส่งให้ร้านค้าซาปั๊ว ร้านโชวห่วย ร้านชำเล็กๆ ในรัศมีใกล้เคียง
ด้วยรายการสินค้าจำนวนหนึ่งเพื่อลดต้นค่าขนส่งและบริการรวดเร็ว....

ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์มีร้อยหัวสองพันหน้าก็ทำไม่ได้
จะจัดส่งสินค้าให้'ร้านถูกใจ'ทั้งประเทศได้ไง
บทเรียน'บริษัทค้าปลีกเข้มแข็งยุคทักษิณ-เนวิน'ลืมไปแล้ว........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#11 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 08:54

สหกรณ์ร้านค้าฯ ก็ได้รับการติดต่อให้เข้าร่วมโครงการ "ห่วยช่วยชาติ(หน้า)" เหมือนกัน
ตอบรับไปนานแล้ว ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลย




วิธีที่ง่ายที่สุด เหมาะสม และรวดเร็ว....
คือสนับสนุนร้านยี่ปั๊วที่มีศักยภาพหรือกระจายหลายราย
ด้วยสินค้าราคา'ร้านถูกใจ'ในแต่ละจังหวัด....
แล้วให้ยี่ปั๊วส่งสินค้า'ร้านถูกใจ'ให้ร้านค้าในจังหวัด ในอำเภอ ในตำบล.....

ยี่ปั๊วและซาปั๊วจะเป็นแหล่งกระจายสินค้าและแหล่งให้ความรู้เกี่ยวกับการค้าปลีกแก่'ร้านถูกใจ'ต่อไป...


ร้านชำ ร้านโชวห่วย ร้านค้าปลีกขนาดเล็กในประเทศที่เจริญแล้ว
และจัดการ'การค้าปลีก'อย่างถูกต้อง ไม่ได้สูญหายไปไหน....
ยังเป็น'อาชีพหนึ่ง'ของประชาชนในประเทศนั้น...ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#12 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 09:04

ไม่มี'บัตรเติมเงิน'เผาบ้านเผาเมืองคนใด มีความรู้เกี่ยวกับการค้าปลีกเลยหรือ....?
ไม่โฆษณาชวนเชื่อให้รัฐบาล'เอาอยู่นะค๊า'ของนายกฯ ว.5 4ss เลย......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


การโฆษณาชวนเชื่อ หลอกลวงประชาชนผ่านสื่อฯ เช่น ฟรีทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์เป็น One Way.....!

การคุยโม้ คุยโต ปลิ้นปล้อนโกหกในเวบเสรีไทยดอทเนทเป็น Two Way....

รายได้จาก'บัตรเติมเงิน'คงไม่คุ้มค่ากับ'ค่าครองชีพสูง(แพงทั้งแผ่นดิน)แต่มาตรฐานครองชีพด่ำ'
ไม่อยากทำหน้าที่'บัตรเติมเงิน'.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#13 ของแท้ตราแมวขี่ควายแดง

ของแท้ตราแมวขี่ควายแดง

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 562 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 09:23

ร้าน ขนมจีบ ซาลาเปา ไหมค่าาาา แถวบ้าน มีเพิ่มอีก 2 ร้านนะครับ น่าจะมีเพิ่มขึ้นอีก
ขอให้สันติสุข จงหวลคืนมาสู่ผื่น แผ่นดินไทย

#14 David_GinoLa

David_GinoLa

    สมาชิกระดับไพร่

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,561 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 10:09

ก็ทำไมไม่เอาเอ็นเทรอะเปรอะนัวเสื้อแดงมาขายในโครงการล่ะ
เสื้อแดงก็มีร้านส้มตำ ร้านกาแฟ ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านหนังสือ ร้านขายแว่น ฯลฯ อะเรอยู่เยอะไม่ใช่เรอะ
ช่วยๆกันหน่อยซี้...ไม่ให้คนกันเองหน้าแหกขนาดนี้

2000 ร้านเอง บอกเสื้อแดงแป๊บเดียวคนก็เต็มแล้ว


เรื่องเสียตังค์ แดงไม่ยุ่งครับ :D
"การเมืองต้องเป็นเรื่องการเสียสละ การเมืองคือภาระของทุกผู้การเมืองเรื่องส่วนรวมร่วมรับรู้ การเมืองต้องต่อสู้เพื่อส่วนรวม"เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

#15 PHOENiiX

PHOENiiX

    ปู 4ssโกงชาวนา

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,226 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 10:10

ไม่ล้มเหลวซิแปลก

#16 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 10:26

พาณิชย์เซ็ง "ร้านถูกใจ" แป้กซะแล้ว
เลื่อนแล้วเลื่อนอีกเหตุงบล่าช้า แถมโชห่วยยังเมินสังฆกรรม!




ส่วนกรณีโครงการโชห่วยช่วยชาติ ซึ่งรัฐบาลที่แล้วก็ทำเหมือนๆกัน
ผมว่าเขาไม่เข้าใจจิตวิทยาของผู้ประกอบการประเภทนี้นะ
คือคนที่เขาตัดสินใจจะมาเปิดร้านของตัวเองนี่ ก็เพราะเขาอยากเป็นอิสระ
ไม่ต้องซื้อของจากที่ที่เดียวมาขาย ที่ไหนถูกก็ไปซื้อที่นั่น ไม่ต้องเซ็นต์สัญญา
ไม่ต้องขายตามราคาที่ถูกกำหนด ไม่ต้องติดป้ายราวกับไปซื้อแฟรนชายน์เขามาอีกที

ถ้าจะแก้ปัญหาแบบนี้ ผมว่าแก้ยังไงก็ไม่สำเร็จ เสียเงินภาษีเปล่าๆ




'ร้านถูกใจ'เป็นโครงการ'ผักชีโรยหน้า'สร้างข่าวให้ไพร่เสื้อแดงหูเบาเชื่อว่า'เราทำได้ค๊า'
ให้สือฯเลือกข้างแพร่ข่าวเท่านั้นเอง.....ฮา

ยี้ปั๊วขายส่งให้ร้านค้าซาปั๊ว ร้านโชวห่วย ร้านชำเล็กๆ ในรัศมีใกล้เคียง
ด้วยรายการสินค้าจำนวนหนึ่งเพื่อลดต้นค่าขนส่งและบริการรวดเร็ว....

ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์มีร้อยหัวสองพันหน้าก็ทำไม่ได้
จะจัดส่งสินค้าให้'ร้านถูกใจ'ทั้งประเทศได้ไง
บทเรียน'บริษัทค้าปลีกเข้มแข็งยุคทักษิณ-เนวิน'ลืมไปแล้ว........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ผมเห็นประท้วงไม่ให้สร้างบริษัทค้าปลีกมันมีมาก่อนยุคอภิสิทธิ์ซะอีก แต่บอกว่า มามีตอนอภิิสิทธิ์ คนไทยลืมง่ายเจงๆ ครับ ลุงปุ :lol:

#17 นายตัวเกร็ง

นายตัวเกร็ง

    Monkey Godfather Lv.3

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,901 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 10:36

ไม่อยู่ในประเด็นนะ แต่อยากบอกว่าผมชอบร้านโชว์ห่วยมากกว่ามินิมาร์ท
นั่นเป็นเพราะความใกล้ชิดกันระหว่างเจ้าของร้านและชุมชนเลยพึ่งพาอาศัยกันได้
เข้ามินิมาร์ทคุณต้องถือเงินไปให้ครบจำนวน แต่ถ้าโชว์ห่วยที่คุณใกล้ชิดสนิทสนมและเชื่อถือกัน
คุณเอาไปก่อนแล้วจ่าทีหลังได้แม้แต่จะลืมเอากระเป๋าเงินไปด้วยก็ตาม แถมบางร้านมีที่นั่งให้กับลูกค้า
นั่งเสวนาพาที ดื่มน้ำดื่มท่ากัน นี่เป็นเสน่ห์ของโชว์ห่วยที่มินิมาร์ทไม่มีทางเข้ามาแทนที่ได้
แต่ด้วยวัฒนธรรมแดกด่วนเลยทำให้คนละเลยข้อดีของโชว์ห่วยไป หันไปบูชามินิมาร์ท...น่าเศร้า

เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<


#18 Majestic

Majestic

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,509 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 10:43

เงื่อนไขร้านถูกใจ ร้านโชว์ห่วยปกติเค้ารับกันไม่ได้หรอก

#19 DarkSwan

DarkSwan

    Reporter Activated

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,689 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 10:50

ไม่อยู่ในประเด็นนะ แต่อยากบอกว่าผมชอบร้านโชว์ห่วยมากกว่ามินิมาร์ท
นั่นเป็นเพราะความใกล้ชิดกันระหว่างเจ้าของร้านและชุมชนเลยพึ่งพาอาศัยกันได้
เข้ามินิมาร์ทคุณต้องถือเงินไปให้ครบจำนวน แต่ถ้าโชว์ห่วยที่คุณใกล้ชิดสนิทสนมและเชื่อถือกัน
คุณเอาไปก่อนแล้วจ่าทีหลังได้แม้แต่จะลืมเอากระเป๋าเงินไปด้วยก็ตาม แถมบางร้านมีที่นั่งให้กับลูกค้า
นั่งเสวนาพาที ดื่มน้ำดื่มท่ากัน นี่เป็นเสน่ห์ของโชว์ห่วยที่มินิมาร์ทไม่มีทางเข้ามาแทนที่ได้
แต่ด้วยวัฒนธรรมแดกด่วนเลยทำให้คนละเลยข้อดีของโชว์ห่วยไป หันไปบูชามินิมาร์ท...น่าเศร้า


อันที่จริงก็ใช่นะครับ แต่ผมว่าข้อเสียร้ายแรงที่สุดของโชว์ห่วยก็คือ
ปล่อยให้ชั้นวางของ และสินค้าฝุ่นจับ ดูแล้วเ่ก่าไม่น่าซื้อ จริงๆ ตอนเฝ้าร้านก็น่าจะปัดๆ ถูๆ ให้มันดูสะอาดไว้หน่อย
เวลาไปซื้อนมกระป๋องที หยิบมา เอานิ้วลูบดู ทำท่าเหมือน แม่ยายแก่ในละครไทยน้ำเน่า โอ้ว ฝุ่นมันเพียบเลยจอร์จ
ทำให้ไม่น่าซื้อครับ คนเลยหันไปซื้อพวก ร้านเจ็ด มินิมาร์ท เพราะดูแล้วสะอาดกว่า

Edited by ดาร์ค สวอน, 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 10:50.

ถ้าอยากได้ความเท่าเทียม

ก็ปีนป่ายขึ้นไปให้อยู่เทียบเท่ากับคนอื่นเค้า

อย่าได้กระชากฉุดให้คนอื่นเขาลงมาตกต่ำเท่ากับตน


#20 อู๋ ฮานามิ

อู๋ ฮานามิ

    สมาชิกหน้าเก่า

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,018 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:20


ไม่อยู่ในประเด็นนะ แต่อยากบอกว่าผมชอบร้านโชว์ห่วยมากกว่ามินิมาร์ท
นั่นเป็นเพราะความใกล้ชิดกันระหว่างเจ้าของร้านและชุมชนเลยพึ่งพาอาศัยกันได้
เข้ามินิมาร์ทคุณต้องถือเงินไปให้ครบจำนวน แต่ถ้าโชว์ห่วยที่คุณใกล้ชิดสนิทสนมและเชื่อถือกัน
คุณเอาไปก่อนแล้วจ่าทีหลังได้แม้แต่จะลืมเอากระเป๋าเงินไปด้วยก็ตาม แถมบางร้านมีที่นั่งให้กับลูกค้า
นั่งเสวนาพาที ดื่มน้ำดื่มท่ากัน นี่เป็นเสน่ห์ของโชว์ห่วยที่มินิมาร์ทไม่มีทางเข้ามาแทนที่ได้
แต่ด้วยวัฒนธรรมแดกด่วนเลยทำให้คนละเลยข้อดีของโชว์ห่วยไป หันไปบูชามินิมาร์ท...น่าเศร้า


อันที่จริงก็ใช่นะครับ แต่ผมว่าข้อเสียร้ายแรงที่สุดของโชว์ห่วยก็คือ
ปล่อยให้ชั้นวางของ และสินค้าฝุ่นจับ ดูแล้วเ่ก่าไม่น่าซื้อ จริงๆ ตอนเฝ้าร้านก็น่าจะปัดๆ ถูๆ ให้มันดูสะอาดไว้หน่อย
เวลาไปซื้อนมกระป๋องที หยิบมา เอานิ้วลูบดู ทำท่าเหมือน แม่ยายแก่ในละครไทยน้ำเน่า โอ้ว ฝุ่นมันเพียบเลยจอร์จ
ทำให้ไม่น่าซื้อครับ คนเลยหันไปซื้อพวก ร้านเจ็ด มินิมาร์ท เพราะดูแล้วสะอาดกว่า


แล้วก็มีข้อเสียอีกอย่างหนึ่งก็คือ แม่ค้าบางคน(ย้ำว่า บางคน) เหวี่ยงใส่ลูกค้า เพราะเพื่อนผมเล่าให้ฟังว่า ซื้อไอติมแล้วขอถุงใส่ แม่ค้าถามว่า แกะกินเลยไม่ได้หรือไง ทำไมต้องใส่ถุง เอาไปทำไม ผมเข้าใจว่าอากาศร้อนด้วยแหละ เลยโมโหซะขนาดนั้น เพื่อนบอกว่า ไปร้าน 7 ดีกว่า

ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด

 

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ


#21 promotion

promotion

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,761 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:35

ผมคิดว่านโยบายแบบนี้มันไม่น่าจะได้ผล ตั้งแต่โครงการ ART ตอนรัฐบาลทักษิณแล้วครับ
ไม่คิดว่ารัฐบาลนี้จะเอามาปัีดฝุ่นใช้อีก ทั้งๆที่โครงการเดิมก็เจ๊ง แถมยังขาดทุนอีกตะหาก

มันเหมือนแฟรนไชส์หลวมๆอ่้ะครับ จะประสบความสำเร็จได้งัย ?
ธุรกิจนี้การแข่งขันสูงมากครับ ใครไม่เอาจริง ก็คงไปไม่รอด
ตัวอย่างก็มีให้เห็นมากมาย โดยเฉพาะ 108 shop ถึงแม้จะเป็นในเครื่อ
ยักษ์ใหญ่อย่างสหพัฒน์ ก็ไม่ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จมากนัก

ส่วนปัญหาเรื่องโชห่วยไปไม่รอดนั้น ผมเองอยากใ้่ห้มองในแง่ของผู้บริโภคบ้างครับ
การขยายตัวของธุึรกิจในกลุ่มโมเดิร์นเทรดแบบนี้ ผมเองคิดว่าก็มีข้อดีต่อผู้บริโภคครับ
คือสามารถซื้อสินค้าและบริการได้ในราคาที่น่าพอใจ สะดวก และมีคุณภาพที่เป็นมาตรฐาน
โดยมีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ
ต้องยอมรับนะครับว่า โชห่วย คงทำแบบนี้ไม่ได้
ในอดีต เพื่อนๆก็คงเคยพบกับร้านโชห่วยที่ ขายของเก่าเก็บ ราคาตามใจคนขาย
มาไม่มากก็น้อยนะครับ ผมว่า มีร้านโมเดิร์นเทรดแบบนี้ มันก็ดีต่อผู้บริโภคมากขึ้นล่ะครับ
ถึงแม้ว่าบางร้านจะไม่ได้เป็นของคนไทยก็ตาม

โชห่วยอยากอยู่ได้ต้องพัฒนาตนเองครับ ทำไมเขาขายได้ ทำไมเราขายไม่ได้
หาจุดแข็ง ของตัวเองให้เจอ
รัฐบาลอยากส่งเสริมโชห่วยต้องส่งเสริมตรงจุดนี้ครับ
ไม่ใช่มาสร้างแฟรนไชส์หลวมๆ
แหล่งความรู้ แหล่งทุน เป็นสิ่งที่ต้องส่งเสริมครับ
ถึงจะสามารถแข่งขันได้

#22 cabala

cabala

    ประชาธิปไตย นี้ ถ้ากล่

  • Members
  • PipPipPip
  • 893 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:47

แก้ไขปัญหาอะไรว่ะ วุ่ยวาย ฉิบ แค่ลดผลกำไรของ ปตท ลงแค่นี้ง่ายๆๆไม่ต้องยุ่งยาก

#23 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 14:56

ที่บ้านผมก็ทำกิจการโชห่วยเหมือนกัน
อันนี้ขอด่ารวดเดียวเลย เพราะรัฐบาลประชาธิปัตย์ก็ใช้วิธีคิดแบบเดียวกัน คือมาแก้ที่ปลายเหตุ
อย่างกรณีธงฟ้านั่นก็มาซ้ำเติมผู้ประกอบการหนักขึ้นไปอีก
แทนที่จะไปจัดการกับต้นน้ำ นั่นคือกฏหมายค้าปลีก
ที่จะเป็นตัวควบคุมการขยายสาขาของห้างต่างๆ ไม่ให้รุกคืบเข้าไปในเขตชุมชน
ในแวดวงนี้เขารู้กันหมดแหละครับว่าตอนนายกอภิสิทธิ์ไปอังกฤษ มีตัวแทนของเทสโก้ขอเข้าพบส่วนตัวเลย
ซึ่งต่อให้นายกเป็นคนอื่น ผมว่ามันก็มาขอพบแบบเดียวกันนี่แหละ
ที่สำคัญรัฐมนตรีพานิชย์ พรทิวา สังกัดเนวิน มีที่ปรึกษาเป็นผู้บริหารเทสโก้โลตัสอีกต่างหาก
แล้วกฏหมายมันจะเกิดได้ไง ยิ่งกฏหมายฉบับนี้ยือเยื้อเท่าไหร่ ประเทศนี้ยิ่งหายนะเท่านั้น
ดูที่อังกฤษเป็นตัวอย่างว่าเทสโก้มีอำนาจในการกำหนดราคาสินค้าไปจนถึงนโยบายรัฐมากมายขนาดไหน
แถมยังมีอำนาจไปกดดันเกษตรกรและผู้ผลิตในประเทศได้ด้วย


อันที่จริง ค้าปลีกข้ามชาติ มีมาตั้งแต่รัฐบาลก่อนโน้นนนนน...แล้ว
กม. ที่ใช้ควบคุมมันไม่บังเกิดเสียที ร้านโชว์ห่วยจึงต้องเสียเปรียบอยู่ตลอด

ส่วนกรณีอภิสิทธิ์ไปอังกฤษ และมีตัวแทนของเทสโก้เข้าพบ
น้องเราที่อยู่อังกฤษบอกว่า หลังจากนั้นไม่นาน สินค้าเกษตรของไทยจำนวนมาก เข้าไปขายในเทสโก้ มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ปกติน้องเราต้องซื้อของที่เทสโก้เพราะเป็นซุปเปอร์ที่ใกล้มหาลัยที่สุด เค้าบอกเราว่าขนาดข้าวสาร ผลไม้ เดิมจากจีนเพียบ กลายเป็นของไทยเต็มไปหมด

#24 irq5

irq5

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,222 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 15:09


ที่บ้านผมก็ทำกิจการโชห่วยเหมือนกัน
อันนี้ขอด่ารวดเดียวเลย เพราะรัฐบาลประชาธิปัตย์ก็ใช้วิธีคิดแบบเดียวกัน คือมาแก้ที่ปลายเหตุ
อย่างกรณีธงฟ้านั่นก็มาซ้ำเติมผู้ประกอบการหนักขึ้นไปอีก
แทนที่จะไปจัดการกับต้นน้ำ นั่นคือกฏหมายค้าปลีก
ที่จะเป็นตัวควบคุมการขยายสาขาของห้างต่างๆ ไม่ให้รุกคืบเข้าไปในเขตชุมชน
ในแวดวงนี้เขารู้กันหมดแหละครับว่าตอนนายกอภิสิทธิ์ไปอังกฤษ มีตัวแทนของเทสโก้ขอเข้าพบส่วนตัวเลย
ซึ่งต่อให้นายกเป็นคนอื่น ผมว่ามันก็มาขอพบแบบเดียวกันนี่แหละ
ที่สำคัญรัฐมนตรีพานิชย์ พรทิวา สังกัดเนวิน มีที่ปรึกษาเป็นผู้บริหารเทสโก้โลตัสอีกต่างหาก
แล้วกฏหมายมันจะเกิดได้ไง ยิ่งกฏหมายฉบับนี้ยือเยื้อเท่าไหร่ ประเทศนี้ยิ่งหายนะเท่านั้น
ดูที่อังกฤษเป็นตัวอย่างว่าเทสโก้มีอำนาจในการกำหนดราคาสินค้าไปจนถึงนโยบายรัฐมากมายขนาดไหน
แถมยังมีอำนาจไปกดดันเกษตรกรและผู้ผลิตในประเทศได้ด้วย


อันที่จริง ค้าปลีกข้ามชาติ มีมาตั้งแต่รัฐบาลก่อนโน้นนนนน...แล้ว
กม. ที่ใช้ควบคุมมันไม่บังเกิดเสียที ร้านโชว์ห่วยจึงต้องเสียเปรียบอยู่ตลอด

ส่วนกรณีอภิสิทธิ์ไปอังกฤษ และมีตัวแทนของเทสโก้เข้าพบ
น้องเราที่อยู่อังกฤษบอกว่า หลังจากนั้นไม่นาน สินค้าเกษตรของไทยจำนวนมาก เข้าไปขายในเทสโก้ มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ปกติน้องเราต้องซื้อของที่เทสโก้เพราะเป็นซุปเปอร์ที่ใกล้มหาลัยที่สุด เค้าบอกเราว่าขนาดข้าวสาร ผลไม้ เดิมจากจีนเพียบ กลายเป็นของไทยเต็มไปหมด

ขออ้างอิง นโยบายในหลวงนะครับ
สหกรณ์ จากคนทำมาหากินที่มีความสามัคคีย่อมชนะภัยข้ามชาติได้ครับ
ความสามัคคีตอนนี้ที่ควรทำคือ ร่วมกัน ซื้อราคาส่ง ร่วมกันแชร์ความรู้

แชร์ทรัพยากร 7-11 lotus ยิ่งเพิ่มสาขาเค้าก็ได้ราคาส่งถูกลงอีกเพราะซื้อเพิ่มอีก


อย่ามัวแต่ สามัคคี กันก่อม๊อบ สามัคคีกันกู้เงินอยู่เลยครับ

#25 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 15:17

^
^
^
ในหลวงของเรา ทรงเป็นอัจฉริยะจริงๆ

ขอตบท้ายด้วยกลอนของพี่คนดี
ถึงจะเก่าแต่ก็เปรียบเทียบได้เห็นภาพ


นักการเมืองยื่นปลา................พระราชายื่นเบ็ด
นักการเมืองแจกแท็บเบล็ต......กษัตริย์แนะเคล็ดวิชา
นักการเมืองห่วงอำนาจ...........มหาราชห่วงประชา
นักการเมืองสร้างสัญญา.........องค์เจ้าฟ้าสร้างสรรธรรม
นักการเมืองหาเรื่องกิน .........องค์ภูมินทร์หาเรื่องทำ
นักการเมืองยุให้รำฯ..............ในหลวงย้ำให้ทำดี
นักการเมืองมักแบ่งขั้ว............องค์เหนือหัวไม่แบ่งสี
นักการเมืองทำสี่ปี................ องค์ภูมีทำทุกวัน
นักการเมืองชอบแบ่งเสียง...... พ่อพอเพียงชอบแบ่งปัน
นักการเมืองคิดสั้น.................องค์ราชันย์คิดยาว

ทรงพระเจริญ
พี่คนดี
9 ก.ค.2554

#26 juemmy

juemmy

    คนสวยประจำบอร์ด

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,307 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 15:30



ไม่อยู่ในประเด็นนะ แต่อยากบอกว่าผมชอบร้านโชว์ห่วยมากกว่ามินิมาร์ท
นั่นเป็นเพราะความใกล้ชิดกันระหว่างเจ้าของร้านและชุมชนเลยพึ่งพาอาศัยกันได้
เข้ามินิมาร์ทคุณต้องถือเงินไปให้ครบจำนวน แต่ถ้าโชว์ห่วยที่คุณใกล้ชิดสนิทสนมและเชื่อถือกัน
คุณเอาไปก่อนแล้วจ่าทีหลังได้แม้แต่จะลืมเอากระเป๋าเงินไปด้วยก็ตาม แถมบางร้านมีที่นั่งให้กับลูกค้า
นั่งเสวนาพาที ดื่มน้ำดื่มท่ากัน นี่เป็นเสน่ห์ของโชว์ห่วยที่มินิมาร์ทไม่มีทางเข้ามาแทนที่ได้
แต่ด้วยวัฒนธรรมแดกด่วนเลยทำให้คนละเลยข้อดีของโชว์ห่วยไป หันไปบูชามินิมาร์ท...น่าเศร้า


อันที่จริงก็ใช่นะครับ แต่ผมว่าข้อเสียร้ายแรงที่สุดของโชว์ห่วยก็คือ
ปล่อยให้ชั้นวางของ และสินค้าฝุ่นจับ ดูแล้วเ่ก่าไม่น่าซื้อ จริงๆ ตอนเฝ้าร้านก็น่าจะปัดๆ ถูๆ ให้มันดูสะอาดไว้หน่อย
เวลาไปซื้อนมกระป๋องที หยิบมา เอานิ้วลูบดู ทำท่าเหมือน แม่ยายแก่ในละครไทยน้ำเน่า โอ้ว ฝุ่นมันเพียบเลยจอร์จ
ทำให้ไม่น่าซื้อครับ คนเลยหันไปซื้อพวก ร้านเจ็ด มินิมาร์ท เพราะดูแล้วสะอาดกว่า


แล้วก็มีข้อเสียอีกอย่างหนึ่งก็คือ แม่ค้าบางคน(ย้ำว่า บางคน) เหวี่ยงใส่ลูกค้า เพราะเพื่อนผมเล่าให้ฟังว่า ซื้อไอติมแล้วขอถุงใส่ แม่ค้าถามว่า แกะกินเลยไม่ได้หรือไง ทำไมต้องใส่ถุง เอาไปทำไม ผมเข้าใจว่าอากาศร้อนด้วยแหละ เลยโมโหซะขนาดนั้น เพื่อนบอกว่า ไปร้าน 7 ดีกว่า

ถ้าซื้อแค่แท่งเดียวก็ไม่ควรขอถุงใส่นะคะ
ลดการใช้ถุงพลาสติก ช่วยลดโลกร้อนค่ะ
ตัวเราเวลาซื้อของตามตลาดนัด ตลาดสด
ถ้าไม่ไ้ด้ถือถุงผ้าไป
ก็จะบอกคนขายว่า ไม่ต้องใส่ถุงค่ะ ใส่รวมกับถุงนี้ได้เลย
ช่วยกันลดโลกร้อนคนละไม้ คนละมือนะคะ :wub:

"กูจะสู้แม้รู้ว่าพวกกูน้อย สู้ไม่ถอยแม้รู้ว่าจะดับสลาย แผ่นดินนี้พ่อกูอยู่ปู่กูตาย กูสุดอายถ้าเสียทีไพรีครอง"


#27 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 16:32


พาณิชย์เซ็ง "ร้านถูกใจ" แป้กซะแล้ว
เลื่อนแล้วเลื่อนอีกเหตุงบล่าช้า แถมโชห่วยยังเมินสังฆกรรม!




ส่วนกรณีโครงการโชห่วยช่วยชาติ ซึ่งรัฐบาลที่แล้วก็ทำเหมือนๆกัน
ผมว่าเขาไม่เข้าใจจิตวิทยาของผู้ประกอบการประเภทนี้นะ
คือคนที่เขาตัดสินใจจะมาเปิดร้านของตัวเองนี่ ก็เพราะเขาอยากเป็นอิสระ
ไม่ต้องซื้อของจากที่ที่เดียวมาขาย ที่ไหนถูกก็ไปซื้อที่นั่น ไม่ต้องเซ็นต์สัญญา
ไม่ต้องขายตามราคาที่ถูกกำหนด ไม่ต้องติดป้ายราวกับไปซื้อแฟรนชายน์เขามาอีกที

ถ้าจะแก้ปัญหาแบบนี้ ผมว่าแก้ยังไงก็ไม่สำเร็จ เสียเงินภาษีเปล่าๆ




'ร้านถูกใจ'เป็นโครงการ'ผักชีโรยหน้า'สร้างข่าวให้ไพร่เสื้อแดงหูเบาเชื่อว่า'เราทำได้ค๊า'
ให้สือฯเลือกข้างแพร่ข่าวเท่านั้นเอง.....ฮา

ยี้ปั๊วขายส่งให้ร้านค้าซาปั๊ว ร้านโชวห่วย ร้านชำเล็กๆ ในรัศมีใกล้เคียง
ด้วยรายการสินค้าจำนวนหนึ่งเพื่อลดต้นค่าขนส่งและบริการรวดเร็ว....

ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์มีร้อยหัวสองพันหน้าก็ทำไม่ได้
จะจัดส่งสินค้าให้'ร้านถูกใจ'ทั้งประเทศได้ไง
บทเรียน'บริษัทค้าปลีกเข้มแข็งยุคทักษิณ-เนวิน'ลืมไปแล้ว........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ผมเห็นประท้วงไม่ให้สร้างบริษัทค้าปลีกมันมีมาก่อนยุคอภิสิทธิ์ซะอีก แต่บอกว่า มามีตอนอภิิสิทธิ์ คนไทยลืมง่ายเจงๆ ครับ ลุงปุ :lol:




ก่อนหมดสมัยรัฐบาล'ชวน หลีกภัย'ได้ร่างกฏหมายค้าปลีก....
เมื่อเปลี่่ยนเป็นรัฐบาลทักษิณ ได้ยกเลิก'ร่างฯ'นั้น
แล้วร่างใหม่หลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จสักครั้งหนึ่ง......

เนวินในฐานะรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ได้จัดตั้งบริษ้ทค้าปลีกเข้มแข็ง
ประกาศเปิดงานรับสภาชิกที่ศูนย์สิริกิตต์ มีนายกฯทักษิณเป็นประธานพิธี.....!

บริษัทค้าปลีกเข้มแข็งยกเลิกหลังจากก่อตั้งเพียง 2 ปี
สูญเสียเงินงบประมาณมากกว่า 500 ล้านบาท....!

ข้อเท็จจริงโครงสร้าง'ค้าปลีกเข้มแข็ง'นั้น
มีประโยชน์ต่อร้านโช่วห่วย ร้านชำ ร้านมินิมาร์ท
แต่โครงการถูกบิดเบือน เบี่ยงเบนจนล้มเหลว...ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#28 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 16:44




ม่อยู่ในประเด็นนะ แต่อยากบอกว่าผมชอบร้านโชว์ห่วยมากกว่ามินิมาร์ท
นั่นเป็นเพราะความใกล้ชิดกันระหว่างเจ้าของร้านและชุมชนเลยพึ่งพาอาศัยกันได้
เข้ามินิมาร์ทคุณต้องถือเงินไปให้ครบจำนวน แต่ถ้าโชว์ห่วยที่คุณใกล้ชิดสนิทสนมและเชื่อถือกัน
คุณเอาไปก่อนแล้วจ่าทีหลังได้แม้แต่จะลืมเอากระเป๋าเงินไปด้วยก็ตาม แถมบางร้านมีที่นั่งให้กับลูกค้า
นั่งเสวนาพาที ดื่มน้ำดื่มท่ากัน นี่เป็นเสน่ห์ของโชว์ห่วยที่มินิมาร์ทไม่มีทางเข้ามาแทนที่ได้

แต่ด้วยวัฒนธรรมแดกด่วนเลยทำให้คนละเลยข้อดีของโชว์ห่วยไป หันไปบูชามินิมาร์ท...น่าเศร้า


อันที่จริงก็ใช่นะครับ แต่ผมว่าข้อเสียร้ายแรงที่สุดของโชว์ห่วยก็คือ
ปล่อยให้ชั้นวางของ และสินค้าฝุ่นจับ ดูแล้วเ่ก่าไม่น่าซื้อ จริงๆ ตอนเฝ้าร้านก็น่าจะปัดๆ ถูๆ ให้มันดูสะอาดไว้หน่อย
เวลาไปซื้อนมกระป๋องที หยิบมา เอานิ้วลูบดู ทำท่าเหมือน แม่ยายแก่ในละครไทยน้ำเน่า โอ้ว ฝุ่นมันเพียบเลยจอร์จ
ทำให้ไม่น่าซื้อครับ คนเลยหันไปซื้อพวก ร้านเจ็ด มินิมาร์ท เพราะดูแล้วสะอาดกว่า


แล้วก็มีข้อเสียอีกอย่างหนึ่งก็คือ แม่ค้าบางคน(ย้ำว่า บางคน) เหวี่ยงใส่ลูกค้า เพราะเพื่อนผมเล่าให้ฟังว่า ซื้อไอติมแล้วขอถุงใส่ แม่ค้าถามว่า แกะกินเลยไม่ได้หรือไง ทำไมต้องใส่ถุง เอาไปทำไม ผมเข้าใจว่าอากาศร้อนด้วยแหละ เลยโมโหซะขนาดนั้น เพื่อนบอกว่า ไปร้าน 7 ดีกว่า


ถ้าซื้อแค่แท่งเดียวก็ไม่ควรขอถุงใส่นะคะ
ลดการใช้ถุงพลาสติก ช่วยลดโลกร้อนค่ะ
ตัวเราเวลาซื้อของตามตลาดนัด ตลาดสด
ถ้าไม่ไ้ด้ถือถุงผ้าไป
ก็จะบอกคนขายว่า ไม่ต้องใส่ถุงค่ะ ใส่รวมกับถุงนี้ได้เลย
ช่วยกันลดโลกร้อนคนละไม้ คนละมือนะค
:wub:





ถ้าปรับปรุงเปลี่ยนแปลงร้าน'โชวห่วยดั่งเดิม
เป็น'นิวโชวห่วย'หรือ'มินิมาร์ท'ด้วยการจัดการถูกต้องจะสามารถเป็นอาชีพคงอยู่....


เห็นด้วยกับ 'juemmy'.....
แต่ผุ้ซื้อส่วนใหญคงไม่ยอมรับในขณะนี้
ขายแพงกว่าซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ ดีสเคาน์สโตร์แล้ว
ยังไม่ใส่ถุงให้อีก.........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮา

เวลานี้ผมพยายามใช้ตะกร้า ถุงใส่ผ้า หรือถือแทนขอใส่ถุงพลาสติกด้วยความสมัครใจเอง.....ฮา

Edited by ปุถุชน, 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 16:46.

เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#29 Zelretch

Zelretch

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 387 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 17:22

โชห่วยอยากอยู่ได้ต้องพัฒนาตนเองครับ ทำไมเขาขายได้ ทำไมเราขายไม่ได้
หาจุดแข็ง ของตัวเองให้เจอ
รัฐบาลอยากส่งเสริมโชห่วยต้องส่งเสริมตรงจุดนี้ครับ
ไม่ใช่มาสร้างแฟรนไชส์หลวมๆ
แหล่งความรู้ แหล่งทุน เป็นสิ่งที่ต้องส่งเสริมครับ
ถึงจะสามารถแข่งขันได้

เห็นด้วยครับ

ส่วนตัวเห็นว่าปัญหาร้านโชว์ห่วยของไทย ไม่ต่างอะไรกับปัญหาของเกษตรกรเราเท่าไหร่นัก นั่นคือขาดความสามารถในการปรับตัว ให้เข้ากับสภาวะเศรษฐกิจที่มีการแข่งขัน :)

อย่างร้านโชว์ห่วยที่สุดท้ายไปไม่รอด เนื่องเพราะเมื่อเจอการแข่งขัน(จากกลุ่มร้านมินิมาร์ท)กลับไม่มีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงอะไรเลย... ทำเหมือนเดิมเปี๊ยบ... ดังนั้นอย่างมากที่สุดคือได้กลุ่มลูกค้าเก่าที่คุ้นเลยเท่านั้นเอง ซึ่งก็ต้องยอมรับอีกด้วยว่า... ไม่ใช่ทั้งหมดที่ตั้งใจซื้อ... แต่จำนวนไม่น้อยคิดว่า "ช่วยๆ กัน" ด้วยซ้ำ :mellow:

เกษตรกรบ้านเราก็เหมือนกัน... เดิมผมเข้าใจว่าเดินทาง "เศรษฐกิจพอเพียง" มาในยุคต้น คือทำการเกษตรเพื่อบริโภคในครัวเรือนเป็นหลัก เหลือก็เอาไปแลกเอาไปขาย ขณะที่ปัจจุบันกลับทำการเกษตรเพื่อ "ขาย"... ดังนั้นหากคิดจะทำการเกษตรเพื่อ "ขาย" ต้องคิดแบบ "พ่อค้า" ไม่ใช่คิดแบบ "เกษตรกร" ครับ... ต้องคิดในทำนองการลงทุน มีต้นทุน มีกำไร ฯลฯ แต่นี่ดันทำเหมือนเดิมที่เน้นบริโภคในครัวเรือน... ก็ขาดทุนสะสม หนี้สินก็เลยพอกพูน -_-

#30 อู๋ ฮานามิ

อู๋ ฮานามิ

    สมาชิกหน้าเก่า

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,018 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 18:02




ไม่อยู่ในประเด็นนะ แต่อยากบอกว่าผมชอบร้านโชว์ห่วยมากกว่ามินิมาร์ท
นั่นเป็นเพราะความใกล้ชิดกันระหว่างเจ้าของร้านและชุมชนเลยพึ่งพาอาศัยกันได้
เข้ามินิมาร์ทคุณต้องถือเงินไปให้ครบจำนวน แต่ถ้าโชว์ห่วยที่คุณใกล้ชิดสนิทสนมและเชื่อถือกัน
คุณเอาไปก่อนแล้วจ่าทีหลังได้แม้แต่จะลืมเอากระเป๋าเงินไปด้วยก็ตาม แถมบางร้านมีที่นั่งให้กับลูกค้า
นั่งเสวนาพาที ดื่มน้ำดื่มท่ากัน นี่เป็นเสน่ห์ของโชว์ห่วยที่มินิมาร์ทไม่มีทางเข้ามาแทนที่ได้
แต่ด้วยวัฒนธรรมแดกด่วนเลยทำให้คนละเลยข้อดีของโชว์ห่วยไป หันไปบูชามินิมาร์ท...น่าเศร้า


อันที่จริงก็ใช่นะครับ แต่ผมว่าข้อเสียร้ายแรงที่สุดของโชว์ห่วยก็คือ
ปล่อยให้ชั้นวางของ และสินค้าฝุ่นจับ ดูแล้วเ่ก่าไม่น่าซื้อ จริงๆ ตอนเฝ้าร้านก็น่าจะปัดๆ ถูๆ ให้มันดูสะอาดไว้หน่อย
เวลาไปซื้อนมกระป๋องที หยิบมา เอานิ้วลูบดู ทำท่าเหมือน แม่ยายแก่ในละครไทยน้ำเน่า โอ้ว ฝุ่นมันเพียบเลยจอร์จ
ทำให้ไม่น่าซื้อครับ คนเลยหันไปซื้อพวก ร้านเจ็ด มินิมาร์ท เพราะดูแล้วสะอาดกว่า


แล้วก็มีข้อเสียอีกอย่างหนึ่งก็คือ แม่ค้าบางคน(ย้ำว่า บางคน) เหวี่ยงใส่ลูกค้า เพราะเพื่อนผมเล่าให้ฟังว่า ซื้อไอติมแล้วขอถุงใส่ แม่ค้าถามว่า แกะกินเลยไม่ได้หรือไง ทำไมต้องใส่ถุง เอาไปทำไม ผมเข้าใจว่าอากาศร้อนด้วยแหละ เลยโมโหซะขนาดนั้น เพื่อนบอกว่า ไปร้าน 7 ดีกว่า

ถ้าซื้อแค่แท่งเดียวก็ไม่ควรขอถุงใส่นะคะ
ลดการใช้ถุงพลาสติก ช่วยลดโลกร้อนค่ะ
ตัวเราเวลาซื้อของตามตลาดนัด ตลาดสด
ถ้าไม่ไ้ด้ถือถุงผ้าไป
ก็จะบอกคนขายว่า ไม่ต้องใส่ถุงค่ะ ใส่รวมกับถุงนี้ได้เลย
ช่วยกันลดโลกร้อนคนละไม้ คนละมือนะคะ :wub:


เพื่อนผมซื้อ 2 ไม้ครับ

ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด

 

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ


#31 susu

susu

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,066 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 19:34

ที่บ้านผมก็ทำกิจการโชห่วยเหมือนกัน
อันนี้ขอด่ารวดเดียวเลย เพราะรัฐบาลประชาธิปัตย์ก็ใช้วิธีคิดแบบเดียวกัน คือมาแก้ที่ปลายเหตุ
อย่างกรณีธงฟ้านั่นก็มาซ้ำเติมผู้ประกอบการหนักขึ้นไปอีก
แทนที่จะไปจัดการกับต้นน้ำ นั่นคือกฏหมายค้าปลีก
ที่จะเป็นตัวควบคุมการขยายสาขาของห้างต่างๆ ไม่ให้รุกคืบเข้าไปในเขตชุมชน
ในแวดวงนี้เขารู้กันหมดแหละครับว่าตอนนายกอภิสิทธิ์ไปอังกฤษ มีตัวแทนของเทสโก้ขอเข้าพบส่วนตัวเลย
ซึ่งต่อให้นายกเป็นคนอื่น ผมว่ามันก็มาขอพบแบบเดียวกันนี่แหละ
ที่สำคัญรัฐมนตรีพานิชย์ พรทิวา สังกัดเนวิน มีที่ปรึกษาเป็นผู้บริหารเทสโก้โลตัสอีกต่างหาก
แล้วกฏหมายมันจะเกิดได้ไง ยิ่งกฏหมายฉบับนี้ยือเยื้อเท่าไหร่ ประเทศนี้ยิ่งหายนะเท่านั้น
ดูที่อังกฤษเป็นตัวอย่างว่าเทสโก้มีอำนาจในการกำหนดราคาสินค้าไปจนถึงนโยบายรัฐมากมายขนาดไหน
แถมยังมีอำนาจไปกดดันเกษตรกรและผู้ผลิตในประเทศได้ด้วย


โชห่วยบ้านผม ไปซื้อของจากโลตัส-บิกซี-แมคโคร มาขาย ก็อยู่ได้ แต่อาจไม่รวย เซเว่นนี้ก็โชห่วยไม่ใช่หรือ ? นั่นไม่สำคัญ ประเด็นคือ ราคาเขาถูก ปัญหาที่พูดถึงคือ โลตัส-โลตัส-บิกซี-แมคโครบีบคอให้ผู้บริโภคซื้อหรือ หรือการไม่ปรับตัวของโชห่วยแบไทยๆๆ การแข่งขันที่ผลประโยชน์ตกกับผู้บริโภคไม่ดีกว่าหรือ เกษตรกรที่ถูกกด ผมว่าไปถามซีพีดีกว่า

#32 aunaun

aunaun

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 282 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 20:57

ผมว่าหลายๆคนน่าจะเข้าใจผิดนะครับ
1. วิธีการแก้ปัญหานี้ ไม่ใช่ว่าให้ไล่ห้างค้าปลีกออกไป แล้วบังคับให้ผู้บริโภคซื้อของจากร้านโชห่วยสกปรกๆแทน
วิธีคิดของกฏหมายค้าปลีกที่ทั่วโลกเขาใช้กัน คือจัดโซนนิ่ง ให้ห้างค้าปลีกออกไปอยู่ห่างจากชุมชน
โดยมีกำหนดขนาดและระยะทางเอาไว้ เพื่อปกป้องการค้าในท้องถิ่น
ขณะเดียวกันถ้าผู้บริโภคต้องการจับจ่ายในห้างเหล่านั้น ก็ต้องเดินทางออกไปไกลอีกหน่อย
นี่เป็นพื้นฐานวิธีคิดที่ใช้กันทั่วโลก แต่ในเมืองไทยร่างกฏหมายนี้มาสิบกว่าปีแล้ว ยังออกไม่ได้

2. หลักวิธีคิดข้างบนนั้น จริงๆแล้วก็คือการสร้างพื้นที่และระยะเวลาให้ธุรกิจไทยได้พัฒนาตัวเอง
ไม่ใช่ปล่อยให้คนข้างนอกที่มีทุนทรัพย์มากกว่ามหาสาลเข้ามาทำลายพัฒนาการในสังคมเราเอง
กรณีนี้เปรียบเทียบให้เห็นภาพกับการทำนา ถ้าเราเปิดให้ต่างชาติมาลงทุนทำนาได้เสรี ชาวนาไทยจะเหลือเหรอ
และผมเชื่อว่าร้านโชห่วยที่พัฒนาไปเป็นมินิมาร์ทนั้นมีเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆ
ถ้าคุณเห็นว่าร้านไหนไม่ดีก็ไม่ต้องไปอุดหนุน ไปอุดหนุนร้านที่เขาทำดีแทน เพื่อจะได้บังคับให้เขาพัฒนาตัวเองไปด้วย

3. การที่โชห่วยไทยไปซื้อของจากห้างมาขาย นั่นคือการปรับตัวของโชห่วยที่ได้รับผลกระทบ
จากการขายของต่ำกว่าทุนของห้างค้าปลีก ซึ่งราคาที่ห้างขายนั้นต่ำกว่าที่ผู้ผลิตเอามาส่งให้ร้านค้าอีก รู้ไหมครับว่าทำไม
3.1 ห้างค้าปลีกใช้ระบบการเก็บค่าวางโชว์สินค้าทุกชนิดที่เข้าไปขาย
3.2 ที่เขาสามารถทำอย่างนั้นได้ เพราะเขาประสบความสำเร็จในการขยายสาขาเข้าไปในชุมชนทั่วประเทศเรียบร้อยแล้ว
โดยที่กฏหมายไทยทำอะไรไม่ได้ ผลก็คือปัจจุบันเขามีอำนาจต่อรองต่อผู้ผลิตสินค้ามหาศาล
ผู้ผลิตสินค้าตอนนี้ต้องตั้งราคาส่งให้ห้างเหล่านี้ต่ำกว่าท้องตลาด แล้วยังต้องเสียค่าวางสินค้า
ผลก็คือห้างเอาสินค้ามาขายได้ต่ำกว่าทุน ส่วนผู้ผลิตสินค้าต้องหันมาเอากำไรจากร้านค้าเล็กๆแทน
นี่ยิ่งทำให้ผลต่างทางราคามากขึ้นไปอีก

ที่สำคัญ ไม่ใช่แค่ร้านค้าที่ได้รับผลกระทบ แต่ตลาดสดก็ตายไปแล้วหลายพื้นที่
การมองว่ามันเป็นประโยชน์กับผู้บริโภค ก็คือการมองที่ปลายเหตุ
และนั่นก็คือวิธีคิดของรัฐบาลทุกรัฐบาลที่ผ่านมา ทำให้เราไม่สามารถรักษาธุรกิจของเราเองได้

ผมเพิ่งได้อ่านข่าวว่า ผู้บริหารของเทสโก้โลตัสคนใหม่บอกว่าตลาดนี้ยังเติบโตได้อีก
เพราะโมเดิร์นเทรดมีสัดส่วนแค่ 40% อีก 60% เป็นร้านค้าแบบดั้งเดิม
40% ที่เขาหมายถึงน่ะ มีเจ้าของแค่ประมาณสิบเจ้า และเกินครึ่งเป็นต่างชาติ
แต่อีก 60% น่ะมีเจ้าของเป็นล้านครอบครัว ที่เป็นคนไทย

Edited by aunaun, 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 20:59.


#33 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 21:14

ผมว่าหลายๆคนน่าจะเข้าใจผิดนะครับ
1. วิธีการแก้ปัญหานี้ ไม่ใช่ว่าให้ไล่ห้างค้าปลีกออกไป แล้วบังคับให้ผู้บริโภคซื้อของจากร้านโชห่วยสกปรกๆแทน
วิธีคิดของกฏหมายค้าปลีกที่ทั่วโลกเขาใช้กัน คือจัดโซนนิ่ง ให้ห้างค้าปลีกออกไปอยู่ห่างจากชุมชน
โดยมีกำหนดขนาดและระยะทางเอาไว้ เพื่อปกป้องการค้าในท้องถิ่น
ขณะเดียวกันถ้าผู้บริโภคต้องการจับจ่ายในห้างเหล่านั้น ก็ต้องเดินทางออกไปไกลอีกหน่อย
นี่เป็นพื้นฐานวิธีคิดที่ใช้กันทั่วโลก แต่ในเมืองไทยร่างกฏหมายนี้มาสิบกว่าปีแล้ว ยังออกไม่ได้

2. หลักวิธีคิดข้างบนนั้น จริงๆแล้วก็คือการสร้างพื้นที่และระยะเวลาให้ธุรกิจไทยได้พัฒนาตัวเอง
ไม่ใช่ปล่อยให้คนข้างนอกที่มีทุนทรัพย์มากกว่ามหาสาลเข้ามาทำลายพัฒนาการในสังคมเราเอง
กรณีนี้เปรียบเทียบให้เห็นภาพกับการทำนา ถ้าเราเปิดให้ต่างชาติมาลงทุนทำนาได้เสรี ชาวนาไทยจะเหลือเหรอ
และผมเชื่อว่าร้านโชห่วยที่พัฒนาไปเป็นมินิมาร์ทนั้นมีเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆ
ถ้าคุณเห็นว่าร้านไหนไม่ดีก็ไม่ต้องไปอุดหนุน ไปอุดหนุนร้านที่เขาทำดีแทน เพื่อจะได้บังคับให้เขาพัฒนาตัวเองไปด้วย

3. การที่โชห่วยไทยไปซื้อของจากห้างมาขาย นั่นคือการปรับตัวของโชห่วยที่ได้รับผลกระทบ
จากการขายของต่ำกว่าทุนของห้างค้าปลีก ซึ่งราคาที่ห้างขายนั้นต่ำกว่าที่ผู้ผลิตเอามาส่งให้ร้านค้าอีก รู้ไหมครับว่าทำไม
3.1 ห้างค้าปลีกใช้ระบบการเก็บค่าวางโชว์สินค้าทุกชนิดที่เข้าไปขาย
3.2 ที่เขาสามารถทำอย่างนั้นได้ เพราะเขาประสบความสำเร็จในการขยายสาขาเข้าไปในชุมชนทั่วประเทศเรียบร้อยแล้ว
โดยที่กฏหมายไทยทำอะไรไม่ได้ ผลก็คือปัจจุบันเขามีอำนาจต่อรองต่อผู้ผลิตสินค้ามหาศาล
ผู้ผลิตสินค้าตอนนี้ต้องตั้งราคาส่งให้ห้างเหล่านี้ต่ำกว่าท้องตลาด แล้วยังต้องเสียค่าวางสินค้า
ผลก็คือห้างเอาสินค้ามาขายได้ต่ำกว่าทุน ส่วนผู้ผลิตสินค้าต้องหันมาเอากำไรจากร้านค้าเล็กๆแทน
นี่ยิ่งทำให้ผลต่างทางราคามากขึ้นไปอีก

ที่สำคัญ ไม่ใช่แค่ร้านค้าที่ได้รับผลกระทบ แต่ตลาดสดก็ตายไปแล้วหลายพื้นที่
การมองว่ามันเป็นประโยชน์กับผู้บริโภค ก็คือการมองที่ปลายเหตุ
และนั่นก็คือวิธีคิดของรัฐบาลทุกรัฐบาลที่ผ่านมา ทำให้เราไม่สามารถรักษาธุรกิจของเราเองได้

ผมเพิ่งได้อ่านข่าวว่า ผู้บริหารของเทสโก้โลตัสคนใหม่บอกว่าตลาดนี้ยังเติบโตได้อีก
เพราะโมเดิร์นเทรดมีสัดส่วนแค่ 40% อีก 60% เป็นร้านค้าแบบดั้งเดิม
40% ที่เขาหมายถึงน่ะ มีเจ้าของแค่ประมาณสิบเจ้า และเกินครึ่งเป็นต่างชาติ
แต่อีก 60% น่ะมีเจ้าของเป็นล้านครอบครัว ที่เป็นคนไทย




คนไทย ผู้บริโภคไทยน่าจะมีความเข้าใจสถานะค้าปลีกไทยและการช่วยเหลือทุนไทยเล็กๆ น้อยๆ.....!

เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#34 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 21:49

แม่ผมทำโชว์ห่วยที่บุรีรัมย์ ลูกค้าเข้าตลอด เพราะซื้อเชื่อได้
มีเด็กๆมาซื้อขนมแบบแยกขายเป็นชิ้นๆได้ (เช่น แม่จะซื้อเวเฟอร์แพ็คใหญ่มาแล้วแยกขายเป็นชิ้นเดียว เด็กๆจะซื้อกินวันละชิ้นได้ทุกวัน)
แม่ขายเหล้าด้วย ไม่ขายไม่ได้เพราะชาวบ้านแถวนั้นซื้อเหล้ากินเยอะที่สุด
ก็ซศื้อมาเป็นขวดแต่แยกขายเป็นเป๊กได้ หรือแบ่งใส่ถุงได้

เมื่อไม่กี่วันมานี้แม่บอกว่าสงสัยต้องเลิกทำโชว์ห่วยเพราะมีคนในหมู่บ้านได้แฟนฝรั่ง ฝรั่งลงทุนเปิดร้านมินิมาร์ทให้
ผมก็บอกแม่ว่าอย่าเพิ่งท้อ เพราะความสัมพันธ์ของคนในท้องที่กับร้านโชว์ห่วยไม่เหมือนกัน
มินิมาร์ทซื้อเชื่อไม่ได้นะ ยืนคุยกับคนขายก็ไม่ได้ด้วย
แต่แม่ก็บ่นออดแอดว่าเดี๋ยวนี้ของแพงเยอะมากกก ขายได้กำไรไม่คุ้ม

ไอ้ผมก็หุบปาก ไม่อยากซ้ำเติมแม่ครับข้อนี้ ทั้งที่คนปากยิบๆว่าเป็นไงล่ะ-ผมบอกตั้งกะแรกแล้วแม่ก็ไม่เชื่อ ไปเชื่อไอ้แม้ว!
gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#35 tonythebest

tonythebest

    สมาชิกขั้นสูง 178 เซนติเมตร

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,595 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 22:45

ผมว่า ปัญหาที่สำคัญของโชว์ห่วงกะสะดวกซื้ออย่างนึง ก็คือราคาต้นทุนสินค้า
สินค้าหลายขนิด ที่สะดวกซื้อสามารถทำราคาได้ถูกกว่าเพราะต้นทุนต่ำกว่า
ข้อนี้แก้ยากแก้เย็นครับ
หากโชว์ห่วย รวมตัวกันตั้งเป็นสมาคม รวมกลุ่มอะไรกัน เพื่อสร้างอำนาจต่อรองราคาทุน
จะทำได้มั๊ยครับ

ปัญหาในเวลานี้ ที่ยากเกินแก้ไปแล้ว คือการปล่อยให้สะดวกซื้อรุกคืบเข้าไปทุกพื้นที่
บริเวณไหนคนเยอะๆ แม่มเปิดซะ 3-4 เจ้า
แถวบ้านผม เป็นซอยที่มีตลาด มีช่วงถนนอยุ่ไม่เกิน 4-500 เมตร
มี 7 ซะ 2 ร้าน ดอกบัว 1 ร้าน ...เฟรชมาร์ท ที่ขายของสด 1 ร้าน ร้านครอบครัวอีก 1 ร้าน
แล้วโชว์ห่วยจะไปซุกตัวอยู่ตรงไหน

โดยเฉพาะร้าน 7 ซึ่งเปิดขนาบดอกบัว ฝั่งถนนเดียวกัน ห่างกันประมาณไม่เกิน 200 เมตร

ความครบครันก็เป้นส่วนสำคัญ
ร้าน 7 เดี๋ยวนี้ มีครบทุกอย่าง หนังสือ อาหาร ขนม ของใช้ ถุงยาง เหลือแต่ของสด พวกหมูสด ไก่สด
ซึ่งถ้าเป็นแถวบ้านผม ก้เดินไปร้านดอกบัวไกล้ๆ ได้ นึกหิวตอนตี 3 อยากต้มมาม่าใส่หมู ก็มีให้

แต่หากจะจำกัดบริเวณ ผมไม่คิดว่าจะสามารถทำได้แล้วมังครับ
เรื่องนี้ ได้ยินเค้าพูดกันมานาน แต่เห็นมันก็ยังเปิดทั่วไปหมด

ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ

 

 

 

เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน

จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน


#36 alucardx

alucardx

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 323 posts

ตอบ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 - 22:56

ผมงงครับ เป้าหมาย 2,000 ร้านค้า แต่ใช้งบ 1,340 ล้านบาท ???
เฉลี่ยร้านละ 670,000 ???

งบนี้รองร้บการสนับสนุนกี่ปีครับเนี่ย

#37 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 30 เมษายน พ.ศ. 2555 - 03:40

แม่ผมโทรมาบอกแล้วครับ ว่าลูกบ้านในหมู่บ้านแม่บอกว่าอย่าปิดร้านเลย
ต่อให้มีมินิมาร์ท "ความรู้สึกมันก็ไม่เหมือนกัน"
ลูกค้าร้านแม่ผม เบื่อๆเหงาๆมาคุยเรื่องหวยกับแม่ได้
ทำนายฝันได้อีกต่างหาก
ซื้อเชื่อได้
เด็กๆมาวิ่งเล่นหน้าร้านได้
เหมือนเป็นชุมชนหรือศูนย์นัดพบอย่างหนึ่งของเขา

ขอเพียงของที่มาขายไม่เก่า แพ็คสะอาด แยกขายได้ ผมว่าโชว์ห่วยอยู่ได้นะครับ

แต่ความสะดวกซื้อทุกอย่างก็มีผล เหมือนที่ท่านโทนี่เขียนไว้

ซึ่งถ้าเป็นแถวบ้านผม ก้เดินไปร้านดอกบัวไกล้ๆ ได้ นึกหิวตอนตี 3 อยากต้มมาม่าใส่หมู ก็มีให้

ผมเห็นด้วยเลยเรื่องให้ทำอาหารเนี่ย น่าจะเตรียมน้ำร้อนให้ลวกมาม่ากินได้เหมือน 7/11
gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#38 Baboonga

Baboonga

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 579 posts

ตอบ 30 เมษายน พ.ศ. 2555 - 04:47

ถ้าพูดเรื่องโชว์ห่วยผมว่าตัวปัญหาน่าจะเป็น 7 หรือค้าปลีกขนาดเล็ก มากกว่าห้างค้าปลีกขนาดใหญ่

ปัญหาคือ
1. ต้นทุนที่ 7 รับมาถูกกว่าโชว์ห่วยเป็นไหนๆ
2. รูปแบบร้าน หรือการสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า

สองเรื่องนี้เป็นปัจจัยหลักที่มีผลต่อการคงอยู่ของโชว์ห่วย
1. แม้ว่าร้านคุณจะขายดีแค่ไหน กำไรแค่พอกินไปวันๆ ไม่พอพัฒนาร้านครับ บ้านผมทำร้านโชว์ห่วยรู้เลยว่า กำไรจริงๆ ได้แค่ 10% เท่านั้น หากเทียบกับ 7 แล้ว สินค้าบางอย่าง 7 นี่กำไรเท่าตัวครับ (น้ำขวดพลาสติกที่ขาย 20 บาทหนะ ต้นทุนของ 7 ได้มาไม่ถึง 10 บาท แต่ถ้าตามร้านโชว์ห่วยต้นทุนจะปาเข้าไป 13-14 บาท)

2. เรื่องแบบร้านนี่เป็นผลสืบเนื่องจริงๆ มาจากข้อแรก ด้วยเหตุที่กำไรน้อย ผลคือ ไม่มีแรงไปสู้กำลังกับ 7 ได้ ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างการเปิดไฟ... หรือเครื่องทำความเย็น รายรับที่น้อย กำไรก็น้อย คงไม่สามารถเอากำไรนั้นไปเจียดให้พึงพอใจลูกค้าได้อย่าง 7 ที่เค้ามี เครื่องทำน้ำร้อนตลอดเวลา เปิดเครื่องทำความเย็นตลอดเวลา หรือเปิดไฟสว่างจ้าได้ตลอดเวลา



ผมว่าไม่ใช่คนทำธุรกิจไม่อยากปรับตัวหรอก แต่ในเมื่อรายรับที่น้อย เพราะปัญหาข้างต้น ผมว่าเป็นใครก็อยู่ยากนะ

#39 Suraphan07

Suraphan07

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,016 posts

ตอบ 30 เมษายน พ.ศ. 2555 - 08:43

การบริหารจัดการ ที่มีผู้มีส่วนได้เสีย เกี่ยวข้องจำนวนมาก
จะมาใช้แค่การประกาศเป็นนโยบาย แล้วก็สั่งให้ทำ
โดยโยนงบประมาณให้ไปเฉยๆ ผมว่ายังไงก็ "เจ๊ง"...
ไม่มีใคร อยากเอาขาไปแหย่คุก โดยที่...
"เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง กระดูกแขวนขอ" ...

การวางแผนจัดการที่มีเป้าหมายทั้งผลสำเร็จและกำหนดเวลา
เป็นการแสดงถึงกึ๊นของผู้นำอย่างหนึ่ง...?
อ่านดูย่อหน้านี้ ก็รู้แล้วว่า รัฐบาลปูแดง มีกึ๊นแค่ไหน...

"สำหรับสาเหตุที่ไม่สามารถดำเนินการได้ตามกำหนด เพราะงบประมาณที่กระทรวงได้รับการอนุมัติจำนวน 1,340 ล้านบาทยังไม่ตกมาถึงมือ เนื่องจากติดขั้นตอนการเบิกจ่ายจากสำนักงบประมาณ ส่งผลให้ไม่สามารถทำแผนประชาสัมพันธ์ได้ตามเป้าหมาย รวมถึงยังอยู่ระหว่างรอบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ทดลองระบบการสั่งซื้อสินค้า นอกจากนี้ จำนวนร้านค้าที่สมัครเข้าร่วมโครงการยังไม่มากพอ โดยตั้งแต่เปิดรับสมัครเมื่อต้นเดือน เม.ย.ถึงปัจจุบัน มีร้านค้าสมัครเข้าร่วมโครงการในพื้นที่กรุงเทพฯ เพียง 500 รายเท่านั้น จากเป้าหมาย 2,000 ราย"

#40 promotion

promotion

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,761 posts

ตอบ 30 เมษายน พ.ศ. 2555 - 13:34

ถ้าพูดเรื่องโชว์ห่วยผมว่าตัวปัญหาน่าจะเป็น 7 หรือค้าปลีกขนาดเล็ก มากกว่าห้างค้าปลีกขนาดใหญ่

ปัญหาคือ
1. ต้นทุนที่ 7 รับมาถูกกว่าโชว์ห่วยเป็นไหนๆ
2. รูปแบบร้าน หรือการสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า

สองเรื่องนี้เป็นปัจจัยหลักที่มีผลต่อการคงอยู่ของโชว์ห่วย
1. แม้ว่าร้านคุณจะขายดีแค่ไหน กำไรแค่พอกินไปวันๆ ไม่พอพัฒนาร้านครับ บ้านผมทำร้านโชว์ห่วยรู้เลยว่า กำไรจริงๆ ได้แค่ 10% เท่านั้น หากเทียบกับ 7 แล้ว สินค้าบางอย่าง 7 นี่กำไรเท่าตัวครับ (น้ำขวดพลาสติกที่ขาย 20 บาทหนะ ต้นทุนของ 7 ได้มาไม่ถึง 10 บาท แต่ถ้าตามร้านโชว์ห่วยต้นทุนจะปาเข้าไป 13-14 บาท)

2. เรื่องแบบร้านนี่เป็นผลสืบเนื่องจริงๆ มาจากข้อแรก ด้วยเหตุที่กำไรน้อย ผลคือ ไม่มีแรงไปสู้กำลังกับ 7 ได้ ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างการเปิดไฟ... หรือเครื่องทำความเย็น รายรับที่น้อย กำไรก็น้อย คงไม่สามารถเอากำไรนั้นไปเจียดให้พึงพอใจลูกค้าได้อย่าง 7 ที่เค้ามี เครื่องทำน้ำร้อนตลอดเวลา เปิดเครื่องทำความเย็นตลอดเวลา หรือเปิดไฟสว่างจ้าได้ตลอดเวลา



ผมว่าไม่ใช่คนทำธุรกิจไม่อยากปรับตัวหรอก แต่ในเมื่อรายรับที่น้อย เพราะปัญหาข้างต้น ผมว่าเป็นใครก็อยู่ยากนะ


การแข่งขันมันไม่ใช่ต้องไปชนตรงๆแบบเดียวครับ เราต้องหาจุดแข็งของเราให้เจอ
ทำให้ร้านของเรามีความแตกต่าง จากร้านโมเดิร์นเทรด เช่น อย่างง่ายๆ ก็ อัธยาศัยไมตรี
ความคุ้นเคยของคนในชุมชน ตลอดไปจนถึงสินค้า เราก็ควรจะแตกต่างบ้าง ขายอะไรที่เขาไม่มีบ้าง
สินค้าที่ Niche เราไม่จำเป็นต้องไปแข่งขันเรื่องราคา ถ้าเราสู้เค้าไม่ได้ครับ
ก็อย่างปัจจุบันโชห่วยหลายๆร้าย ก็ยังอยู่ได้ แม้จะมีโมเดิร์นเทรดรายรอบ
น่าจะมีการเผยแพร่ความรู้กันเป็นเครือข่าย
แลกเปลี่ยนความรู้ความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาธุรกิจกันได้ครับ
ผมว่า ความรู้ และความคิดเนี่ยแหล่ะ ที่จะเป็นสิ่งที่ทำให้ธุรกิจนี้พัฒนาได้
ซึ่งรัฐบาลต้องสนับสนุนครับ นอกจากเรื่องเงินทุนที่ต้องสนับสนุนอยู่แล้ว

#41 Baboonga

Baboonga

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 579 posts

ตอบ 30 เมษายน พ.ศ. 2555 - 13:55


ถ้าพูดเรื่องโชว์ห่วยผมว่าตัวปัญหาน่าจะเป็น 7 หรือค้าปลีกขนาดเล็ก มากกว่าห้างค้าปลีกขนาดใหญ่

ปัญหาคือ
1. ต้นทุนที่ 7 รับมาถูกกว่าโชว์ห่วยเป็นไหนๆ
2. รูปแบบร้าน หรือการสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า

สองเรื่องนี้เป็นปัจจัยหลักที่มีผลต่อการคงอยู่ของโชว์ห่วย
1. แม้ว่าร้านคุณจะขายดีแค่ไหน กำไรแค่พอกินไปวันๆ ไม่พอพัฒนาร้านครับ บ้านผมทำร้านโชว์ห่วยรู้เลยว่า กำไรจริงๆ ได้แค่ 10% เท่านั้น หากเทียบกับ 7 แล้ว สินค้าบางอย่าง 7 นี่กำไรเท่าตัวครับ (น้ำขวดพลาสติกที่ขาย 20 บาทหนะ ต้นทุนของ 7 ได้มาไม่ถึง 10 บาท แต่ถ้าตามร้านโชว์ห่วยต้นทุนจะปาเข้าไป 13-14 บาท)

2. เรื่องแบบร้านนี่เป็นผลสืบเนื่องจริงๆ มาจากข้อแรก ด้วยเหตุที่กำไรน้อย ผลคือ ไม่มีแรงไปสู้กำลังกับ 7 ได้ ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างการเปิดไฟ... หรือเครื่องทำความเย็น รายรับที่น้อย กำไรก็น้อย คงไม่สามารถเอากำไรนั้นไปเจียดให้พึงพอใจลูกค้าได้อย่าง 7 ที่เค้ามี เครื่องทำน้ำร้อนตลอดเวลา เปิดเครื่องทำความเย็นตลอดเวลา หรือเปิดไฟสว่างจ้าได้ตลอดเวลา



ผมว่าไม่ใช่คนทำธุรกิจไม่อยากปรับตัวหรอก แต่ในเมื่อรายรับที่น้อย เพราะปัญหาข้างต้น ผมว่าเป็นใครก็อยู่ยากนะ


การแข่งขันมันไม่ใช่ต้องไปชนตรงๆแบบเดียวครับ เราต้องหาจุดแข็งของเราให้เจอ
ทำให้ร้านของเรามีความแตกต่าง จากร้านโมเดิร์นเทรด เช่น อย่างง่ายๆ ก็ อัธยาศัยไมตรี
ความคุ้นเคยของคนในชุมชน ตลอดไปจนถึงสินค้า เราก็ควรจะแตกต่างบ้าง ขายอะไรที่เขาไม่มีบ้าง
สินค้าที่ Niche เราไม่จำเป็นต้องไปแข่งขันเรื่องราคา ถ้าเราสู้เค้าไม่ได้ครับ
ก็อย่างปัจจุบันโชห่วยหลายๆร้าย ก็ยังอยู่ได้ แม้จะมีโมเดิร์นเทรดรายรอบ
น่าจะมีการเผยแพร่ความรู้กันเป็นเครือข่าย
แลกเปลี่ยนความรู้ความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาธุรกิจกันได้ครับ
ผมว่า ความรู้ และความคิดเนี่ยแหล่ะ ที่จะเป็นสิ่งที่ทำให้ธุรกิจนี้พัฒนาได้
ซึ่งรัฐบาลต้องสนับสนุนครับ นอกจากเรื่องเงินทุนที่ต้องสนับสนุนอยู่แล้ว


ใช่ครับ การแข่งขันไม่จำเป็นจะต้องพุ่งชนตรงๆ แต่ในเมื่อร้านเป็นระดับชุมชน แน่นอนหากเรามัดใจคนในชุมชนไว้ได้เราก็อยู่ได้

แต่แค่ "อยู่ได้" นั่นคือ เงินทุนแค่จะเลี้ยงตัวยังยากนะครับ พูดไปอาจจะมองไม่เห็นภาพ ลองคิดดูจากที่ผมบอกกำไรแค่ 10% จะให้ได้ค่าแรง 300 บาทนี่ต้องขายให้ได้วันละ 3000 บาทเป็นอย่างต่ำ ไหนจะค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าโทรศัพท์... ผมว่าการขายได้วันละ 3000 บาทไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับระดับชุมชนเล็กๆ นะครับ

แม้จะเป็นชุมชนใหญ่ แต่หากมีเจ้า 7 เข้ามาแข่ง ผมว่าอย่างไรเสียโชว์ห่วยก็ยังจะเป็นรอง 7 อยู่ดี

#42 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 30 เมษายน พ.ศ. 2555 - 14:45

ร้านโชห่วยที่เปลี่ยนเป็นร้านสะดวกซื้อแต่เจ้าของยังเป็นคนเดิมนี่เรียกว่าเจ๊งด้วยไหม หรือว่าเรียกปรับตัว

[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#43 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 30 เมษายน พ.ศ. 2555 - 19:43

ร้านโชห่วยที่เปลี่ยนเป็นร้านสะดวกซื้อแต่เจ้าของยังเป็นคนเดิมนี่เรียกว่าเจ๊งด้วยไหม หรือว่าเรียกปรับตัว


เขาเรียกว่าอัพเลเวลขึ้นมาเป็นอำมาตย์ครับ :P
gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 





ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน