Jump to content


Photo
- - - - -

ข้อขัดแย้งในสังคมที่มีต่อเรื่องการบริหารจัดการน้ำที่ผิดพลาด


This topic has been archived. This means that you cannot reply to this topic.
2 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 xmas

xmas

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 117 posts

ตอบ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 15:25

หลายๆท่าน คงได้ผ่าน บทความและโหวดโพลนี้มาบ้างแล้ว Poll: ปัญหาน้ำท่วม เกิดจากสาเหตุการบริหารจัดการน้ำที่ผิดพลาด หรือ ภัยธรรมชาติ

หลังจากลองเสพสื่อ 2 ด้าน จะพบว่าปัญหาขัดแย้งของเขื่อนมีประมาณนี้นะครับ
1.รัฐบาลใหม่ไม่ยอมปล่อยน้ำออกจากเขื่อนตั้งแต่เริ่มเป็นรัฐบาล ดันเก็บน้ำไว้จนน้ำเติมความจุแล้วทำให้เขื่อนปล่อยน้ำออกเป็นจำนวนมากเพื่อป้องกันเขื่อนแตก
2.วางยาชัดๆ น้ำท่วมมาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว แถมยังเก็บน้ำไว้ตั้งต้นปีไม่ยอมปล่อยพอรัฐบาลใหม่เข้าทำงานน้ำท่วมอยู่ก่อนแล้วจะปล่อยน้ำออกมาให้ท่วมอีกหรอ
ข้อความทั้ง 2 ข้อนั้นมีทั้งเรื่องจริงและไม่จริงเพียงแต่นำเสนอให้ฝ่ายตัวเองถูกต้องไว้ก่อน
นี้คือภาพกราฟ เรื่องการปล่อยน้ำของเขื่อนภูมิพลที่จัดทำโดย จัดทำโดย :สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) link


Posted Image

ความคิดเห็นของผมต่อกรณีการบริหารจัดการน้ำที่ผิดพลาด
จากภาพนี้ผมได้ขีดลูกศรไว้ 3 เส้น มีสีเหลือง เขียว ฟ้า
เส้นสีเหลือง ได้อธิบายว่าเดือนสิงหาคม รัฐบาลปัจจุบันได้ระบายน้ำออกมากกว่าปกติอยู่แล้ว ทั้งๆที่ ณ เวลานั้น นครสวรรค์และอยุธยาเป็นทะเลแล้ว
เส้นสีเขียว ได้อธิบายว่าทำไมกราฟเส้นสีแดงปี 2011 ถึงได้ปล่อยออกมาน้อยมากๆ ตั้งแต่ พ.ค. เพราะประเทศเราโดนทั้งฝนและพายุถล่มในช่วงนั้นครับ
เส้นสีฟ้า ได้อธิบายว่าทำไมปีนี้ถึงปล่อยน้ำน้อยกว่าปกติ คงจำเหตุการณ์ที่ประเทศเราอากาศหนาวเย็นมาก และยาวนานกว่าปกติชนิดที่ว่า เมษายนอากาศหนาวกว่าปีใหม่ซะอีกกันได้นะครับ เหตุการณ์นี้มีผลอะไรกับเขื่อนปล่อยน้ำ เกี่ยวกันตรงที่เมื่ออากาศเย็นทำให้มีการใช้ไฟฟ้าน้อยลงกว่าปกติมากเขื่อนมีหน้าที่เก็บน้ำไว้ผลิตกระแสไฟฟ้าถ้าไฟฟ้าไม่ใช่เยอะก็เก็บน้ำไว้ปลูกข้าวดีกว่า

สรุปแล้ว เพราะปีนี้ทั้งปีประเทศเรามีภัยธรรมชาติหลายๆอย่างเข้าโจมตี ทำให้นักวิเคราห์สภาพอากาศไม่เคยเจอมาก่อนจึงไม่สามารถเตือนผู้วางแผนปล่อยน้ำได้ว่าน้ำมาเมื่อไร ผู้ว่างแผนปล่อยน้ำเค้าคิดแต่ว่าเก็บน้ำไว้เพราะปลูกในกลางปี แต่กลางปีก็เจอทั้งฝนและพายุ ทำให้น้ำที่อุสาเก็บไว้ตั้งแต่ตนปีไม่ได้ใช่ก็เลยเก็บๆๆๆ
เก็บจนเขื่อนเต็มและก็ปล่อยน้ำฉุกเฉินออกมา แล้วเราก็เจอเหตุการณ์น้ำท่วมมากที่สุด

ในอนาคตจะมีเหตุการณ์แบบนี้ทุกปีเราควรรู้วิธีเอาตัวรอดไว้นะครับ ไม่ต้องสนใจความช่วยเหลือจากรัฐบาลที่เข้าถึงบ้างไม่เข้าถึงบ้างแจกแต่พวกตัวเองบ้างหรือขโมยมาแจกเค้าบ้าง เพราะนอกจากจะไม่ช่วยให้เราชีวิตรอดแล้ว ยังทำให้เครียดตามพวกเค้าไปเปล่าๆ ขอให้ทุกคนโชคดีในปี 2555 นะครับ นี้ผมว่าจะทำโรงรถลอยน้ำแล้วมีชั้น 2 ไว้อยู่ละ อิอิ
บันทึกเหตุการณ์น้ำท่วม ย้อนไป 2545-ปัจจุบัน

#2 kop16

kop16

    U will never walk alone.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,507 posts

ตอบ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 15:31

เรื่องเก่าเล่าใหม่

If you try hard enough, you can be whatever you want to be.


#3 kop16

kop16

    U will never walk alone.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,507 posts

ตอบ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 17:20

อ่านเข้านะไม่ต้องโทษใครแล้ว

มท.1ยอมรับ ศปภ.ไร้ประสบการณ์ ขอโทษทำปชช.เดือดร้อน

"ยงยุทธ วิชัยดิษฐ" ยอมรับรัฐบาล ศปภ.ไร้ประสบการณ์รับมือน้ำท่วม ขอโทษ ปชช. ทำให้เดือดร้อนแสนสาหัส อ้อนขอถือเป็นบทเรียน ไม่ให้ผิดพลาดอีกในอนาคตต อ้ำอึ้งพรรคเพื่อไทยเล็งดึงกระทรวงเกษตรฯ มาคุมเอง หลังกรมชลประทานถูกวิจารณ์เละบริหารจัดการน้ำผิดพลาด

เมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 26 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงเสียงวิจารณ์การจัดระบบแก้ปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล และ ศปภ. ที่มีแต่ความวุ่นวายสับสน ไม่เป็นระบบ โดยเฉพาะระบบการอพยพผู้ประสบภัย ว่า ต้องขอให้เห็นใจ เพราะเราไม่เคยเจอปรากฏเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อน เป็นครั้งแรกจริงๆ ในอดีตตนเคยเป็น ผวจ.มาก็ไม่เคยรุนแรงอย่างนี้ หรือน้ำท่วมหาดใหญ่ที่คนว่ากันว่าสุดโหด น้ำท่วมถึงหลังคาบ้านหรือหน้าอก แต่ก็ท่วมเพียงแค่ 3 วันก็หาย ทำให้ฟื้นฟูง่าย แต่ตอนนี้ต้องแช่ขังถึง 2-3 เดือน

เมื่อถามว่า กรณีชาวบ้านไม่อยากอพยพเพราะห่วงทรัพย์สิน ทำไมกระทรวงมหาดไทยจึงไม่จัดให้มีอาสาสมัคร รปภ.เอาเรือตรวจคนเข้าออกป้องกันโจรผู้ร้ายลักขโมย นายยงยุทธ กล่าวว่า เป็นความคิดที่ดี ตนจะเอาไปพิจารณา แต่บังเอิญคนที่จะทำงานบ้านเขาก็ถูกน้ำท่วมด้วย จึงอาจจะมีปัญหาบ้าง เมื่อถามว่า มีบางฝ่ายมองว่าการแจกอาหารช่วยผู้ประสบภัยอาจไม่ต้องให้ครบสามมื้อ แต่ประชาชนต้องช่วยตัวเอง เพื่อลดปัญหาไม่มีคนส่งอาหารและลดขยะมูลฝอย นายยงยุทธ กล่าวว่า เป็นข้อเสนอที่ดี ถ้าลดจาก 3 มื้อลงมาบ้างก็คงไม่เดือดร้อนมากนัก ส่วนที่นายกฯ มอบหมายให้ระดมเครื่องสูบน้ำจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มาช่วยสูบน้ำนั้นก็ได้มากว่าร้อยเครื่องแล้ว



"ปัญหาในการแก้ไขน้ำท่วมที่เกิดขึ้นขณะนี้ ต้องนำเอามาเป็นบทเรียน และในโอกาสหน้าหากเกิดน้ำท่วมขึ้นอีก ต้องไม่เกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้นอีก หรือถ้าเกิดแล้วต้องแก้ไขได้ดีกว่านี้ คำพูดอาจดูแปลกๆ แต่ก็ออกมาจากใจ"

เมื่อถามว่า ในวันที่ 29-31 ต.ค. ที่น้ำขึ้นสูง ศปภ.จะเตรียมรับมืออย่างไร นายยงยุทธ ถอนหายใจ "เฮ้อ.." ก่อนกล่าวว่า อยากจะกราบเรียนว่ามันทำนายยาก ทั้งทิศทางที่น้ำจะไป และปริมาณน้ำที่จะลงมา กะไว้อีกอย่างน้ำก็มาอีกอย่าง น้ำไม่เหมือนคนอื่น จะไปทางไหนอย่างไรตามแก้ยาก ตนไม่อยากไปวิจารณ์ แต่ถือว่าเป็นประสบการณ์แรกในชีวิตของคน ที่เราไม่เคยเจอมาก่อน ต่างประเทศก็ไม่เป็นถึงขนาดนี้ เป็นครั้งแรกในชีวิตด้วยกันทั้งนั้น ตนอายุ 70 ปีแล้วก็เพิ่งจะเคยเห็นเหมือนกัน ส่วนหนึ่งต้องเห็นอกเห็นใจกัน ครั้งนี้คงต้องขอโทษขอโพยพี่น้องประชาชนที่ทำให้เดือดร้อนอย่างแสนสาหัส ก็จะจำประสบการณ์และบทเรียนนี้ไปแก้ไขว่าอย่าให้มีแบบนี้อีกต่อไป ส่วนปัญหาสิ่งของและเงินบริจาคที่ยังไปไม่ทั่วถึงนั้น ในฐานะได้รับมอบหมายให้เป็นประธานการรับบริจาคและแจกจ่าย ยอมรับว่ามีข้อบกพร่องอยู่จริง ไม่ทราบจะแก้ตัวอย่างไร ได้แต่ขอความเห็นใจอย่างเดียว




รองนายกฯ กล่าวต่อว่า ส่วนการทำงานร่วมระหว่าง ศปภ. กับผู้ว่าฯ กทม. ต้องหันหน้าเข้าคุยกัน เมื่อเช้ามีคนเสนออยากจะเห็นนายกฯ กับผู้ว่าฯ กทม.นั่งคุยกันสองคน ไม่ต้องมีคนอื่น โดยต่างฝ่ายเอาข้อมูลมานั่งคุยกัน เมื่อถามว่า หลายฝ่ายมองว่าปัญหาที่บานปลายครั้งนี้ มาจากรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย นายยงยุทธ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าทุกส่วนก็มีส่วนที่จะต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้ แม้กระทั่งตัวตนเอง แต่สำคัญคือ หากเกิดน้ำท่วมอีกจะต้องไม่เป็นอย่างนี้ ถ้ายังเป็นอีกก็ต้องแสดงความรับผิดชอบกัน ต้องมีการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ โดยใช้คณะกรรมการบูรณาการจัดการแก้ไขปัญหาอุทกภัย ดินโคลนถล่มและภัยแล้ง ก็เหมือนกับเป็นกระทรวงน้ำ แต่ไม่ต้องไปตั้งกระทรวงน้ำ ซึ่งผมได้รับมอบหมายให้ดูแลแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างถาวรจริงๆ และต้องมีระบบเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ

เมื่อถามว่า ถึงเวลาที่พรรคเพื่อไทยต้องดึงกระทรวงเกษตรฯ มาคุมเอง โดยต้องแลกกระทรวงกันหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า คงให้ทำงานไปสักพักหนึ่งก่อนค่อยมาว่ากัน เอาเรื่องนี้ให้จบก่อน ส่วนการปรับย้ายข้าราชการใน มท. หลังจากย้ายผู้ว่าฯ ปทุมธานี ไปแล้ว เมื่อเรื่องน้ำดีขึ้นก็จะพิจารณาเป็นวาระปกติไป สำหรับกรณีผูู้ว่าฯ ​ปทุมธานี เป็นวาระพิเศษ เพราะคนที่ต้องมาดูแลประสานระหว่าง ศปภ.กับกระทรวงและผู้ตรวจราชการกระทรวงจะหายไป 2 ท่าน จึงต้องเอามาเสริมแค่นั้นจริงๆ ไม่ได้มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะ ผวจ. ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหารทุกคนก็เหนื่อยกันหมด ทำงานกันเต็มที่.

http://www.thairath....tent/pol/212072

If you try hard enough, you can be whatever you want to be.