55 ความเห็นในกระทู้นี้

[ปุถุชน]

สส.ถาวร เสนเนียมพูดในรายการ'อาสาประชาชน' มี'สมัย การช่าง'ของสถานี Blue Skyว่า รศ.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯบอกว่านายกฯอภิสิทธิ์ไม่เคยลงพื้นที่ภาคใต้เลย.....

สส.ถาวร อยากบอกให้รศ.สิริพรรณว่านายกฯอภิสิทธิ์ในขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น จะลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ 1-2 ต่อเดือน และมอบหมายให้ผม(สส.ถาวร)อยู่ในพื้นที่สัปดาห์ละหลายวัน.....

ถ้า รศ.สิริพรรณตรวจสอบว่านายกฯอภิสิทธิ์ลงพื้นที่ภาคใต้เป็นความจริง หวังว่ารศ.สิริพรรณจะขอโทษนายกฯอภิสิทธิ์บ้าง....!


พระเจ้าเท่านั้นจะรู้ว่ารองศาสตราจารย์หญิงคนนั้นเมื่อรับรู้ความจริงถูกต้องจะยอมขอโทษนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะหรือไม่.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า




มติชน
วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 35 ฉบับที่ 12469 มติชนรายวัน

ยิ่งลักษณ์ทัวร์ปัตตานี ปรับแผน-แก้ปัญหาใต้


น.ส.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี
รองศาสตราจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง
คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

การ ลงพื้นที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นการใช้ภาพความเป็นผู้หญิงลงไป ต่างจากรัฐบาลก่อนที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ขณะเป็นนายกฯไม่เคยลงพื้นที่เลย อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวมองการที่นายกฯลงไปมอบนโยบายที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สะท้อนแนวคิดนโยบายการประสานระหว่างกองทัพกับนายกฯมากกว่า เป็นการบอกว่ากองทัพกับรัฐบาลกำลังร่วมมือกันหลายๆ เรื่อง ทำให้เกิดการเมืองภาพใหญ่ที่จะนำไปสู่ความปรองดองมากขึ้น....
http://www.matichon....lday=2012-04-30

นำมาไว้ที่นี่เผื่อ'บัตรเติมเงิน'บางนามแฝงจะแก้ขวยเขินด้วยการเรียกร้อง หลักฐานอ้างอิงที่มาของข่าว.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ปล. ถ้า'มติชน'ลงคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง กรุณาอย่าโทษ'ปุถุชน'นะเพราะชมรายการแล้ว ไปค้นหาหลักฐานไว้ล่วงหน้าป้องกัน'บัตรเติมเงิน' ฉวยโอกาสได้'บัตรเติมเงิน'สองคคห......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

Edited by ปุถุชน, 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 19:34.

[Bookmarks]

เป็น รศ ได้ไง ข่าวไม่เคยอ่าน หรือไม่ก็ชอบโกหกจนติดเป็นนิสัย เสียชื่อสถาบันที่มันสอนจริงๆ โง่แล้วเป็นอาจารย์ นักศึกษาเรียนกับมันนี่โง่กันหมดแน่ๆ

[sigree]

ผมจำได้ว่าแกลงไป ไปเจอนายกมาเลย์ที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

[ดูโอลิมปิก5ปีดีจุงเบย]

เป็นถึงครูบาอาจารย์ เสือกตอแหล แถมตอแหลในเรื่องโง่ๆด้วย

[เช never die]

ผมยังจำวันนอร์ ไปยืนกุมไข่ตะโปกรอต้อนรับท่านนายกฯอภสิทธิ์ที่ปัตตานีได้

[Bookmarks]

เห็นคนเป็นอาจารย์แล้วโง่ขนาดนี้ ไม่แปลกใจที่ทำไมคนไทยโง่ลง เพราะขนาดโง่ๆ แบบนี้ สถาบันการศึกษายังรับเข้าไปทำงาน ตอนรับไม่ได้ทดสอบสติปัญญาของคนที่จะเข้ามาเป็นอาจารย์เลยหรือ นี่ยังกล้าประจานความโง่ของตัวมันเองออกสื่อได้ ไล่มันออกไปเถอะ
สงสารเด็กนักศึกษาที่ต้องเรียนกับมัน

[ปุถุชน]

ผมจำได้ว่าแกลงไป ไปเจอนายกมาเลย์ที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

นายกฯอภิสิทธิ์เคยพบนายกฯมาเลย์(คนละคนประธานาธิบดี)
และเดินด้วยกันตรวจชายแดนเพื่อความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้.....!

[Strangerman]

ความรู้ไม่ได้ช่วยอะไรได้จริงๆ ครับ

ต่อมสามัญสำนึกพวกนี้ไม่ทำงานซะมากกว่า ^^

แต่ชอบอวดอ้างว่าตัวเองจบสูง การศึกษาดี ประสบความสำเร็จ ล่วงรู้ไปซะทุกอย่าง บลาๆๆ

ผมได้แต่รู้สึกสงสารในใจ เพราะพูดไปพวกเขาเหล่านั้นก็ไม่ยอมรับฟัง เพียงเพราะ (กุเก่ง กุแน่ กุฉลาดที่สุดในสามโลกแล้ว)

[THE THIRD WAY]

คนเป็นถึงรศ.
ภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์
ไม่น่าอยู่ใต้น้ำขนาดนี้ สักวันหนึ่งคงเป็นเหยื่อเต่าปลา

มองถึงสถาบันที่สังกัด
มองถึงน้กศึกษาที่เล่าเรียนอยู่

อะไรทำให้เป็นไปขนาดนั้น
คล้ายๆดร.บางคนที่พูดว่า
ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แต่ทำในสิ่งที่กฎหมายห้าม
แต่รายนี้หนักกว่านะ

[ปุถุชน]

คนเป็นถึงรศ.
ภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์
ไม่น่าอยู่ใต้น้ำขนาดนี้ สักวันหนึ่งคงเป็นเหยื่อเต่าปลา

มองถึงสถาบันที่สังกัด
มองถึงน้กศึกษาที่เล่าเรียนอยู่

อะไรทำให้เป็นไปขนาดนั้น
คล้ายๆดร.บางคนที่พูดว่า
ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แต่ทำในสิ่งที่กฎหมายห้าม
แต่รายนี้หนักกว่านะ

อดีตตำรวจคนนั้นเป็นนักการเมืองรอบจัด
ไม่เคยเชื่อสิ่งที่่ตนพูดหรือให้ข่าวหรอก....

แต่รองศาสตาจารย์นี้น่าจะเชื่อสิ่งที่ตนพูด.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[soco]

เป็นแค่อาจารย์ ก็คงทำให้ลูกศิษย์ โง่เขลาเบาปัญญา อยู่ในแต่กะลาครอบ


อนิจจาการศึกษาของชาติ

[THE THIRD WAY]

คนเป็นถึงรศ.
ภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์
ไม่น่าอยู่ใต้น้ำขนาดนี้ สักวันหนึ่งคงเป็นเหยื่อเต่าปลา

มองถึงสถาบันที่สังกัด
มองถึงน้กศึกษาที่เล่าเรียนอยู่

อะไรทำให้เป็นไปขนาดนั้น
คล้ายๆดร.บางคนที่พูดว่า
ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แต่ทำในสิ่งที่กฎหมายห้าม
แต่รายนี้หนักกว่านะ

อดีตตำรวจคนนั้นเป็นนักการเมืองรอบจัด
ไม่เคยเชื่อสิ่งที่่ตนพูดหรือให้ข่าวหรอก....

แต่รองศาสตาจารย์นี้น่าจะเชื่อสิ่งที่ตนพูด.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ท่านครับ
ยิ่งหนักเข้าไปหลายเท่าทวี

[เชียร์คนดี]

นายก มาร์ค ลงไปเปิดถนนสาย 418 ลงพื้นที่แม่ลาน ที่เลิก พรก.
รศ.ก็โง่ได้ด้วยอคติ..มีเยอะแยะไป ไม่เดียวดาย ในบ้านเราวันนี้

Edited by เชียร์คนดี, 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 20:30.

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

น.ส.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี
รองศาสตราจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง
คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เป็นถึงอาจารย์ ไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริง(fact checking) ก่อน "กล่าวหา" ใคร

อคติคงบังตา ความบ้าคลั่งคงบังใจ

แบบนี้เป็นครูสอนเด็กได้อย่างไร

ครูมั่วขนาดนี้ นักเรียนที่เป็นผลิตผลของครูคนนี้จะมั่วแค่ไหน

[หนูอ้อย]

นายก มาร์ค ลงไปเปิดถนนสาย 418 ลงพื้นที่แม่ลาน ที่เลิก พรก.
รศ.ก็โง่ได้ด้วยอคติ..มีเยอะแยะไป ไม่เดียวดาย ในบ้านเราวันนี้

ภาพนายอภิสิทธิ์ลงพื้นที่ภาคใต้-เปิดถนนสาย4066

thaimuslim.com




6 ม.ค.2553 นายกฯ อภิสิทธิ์ ลงพื้นที่ ทั้ง 3 จังหวัดเยี่ยมประชาชน ดูโครงการ "ไทย" เข้มแข็ง โปรแกรมเด็ด คือการส่งมอบถนนสาย 418 ยะลา - หนองจิก ปัตตานี นั่นคือสะพานข้ามแยกก่อนเข้าเมืองยะลา ใกล้กับจุดจัดงาน ถนนสายนี้เป็นสายที่สวยที่สุด ไม่มีทางแยก มีแต่วงเวียนสร้างโดยทหารช่าง

ชื่นชมที่ท่านนายกฯ ลงพื้นที่ 2 ครั้งในรอบเดือนเดียว

[irq5]

ก็ ก็



เค้าบอกอาจารย์มา

ใครๆก็รู้

[คนสับปะหลี้]

แบบนี้ยังมีหน้ามาเป็นรศ. อีกเหรอ นี่เหรอมาตรฐานการศึกษาไทย แสดงว่าหลักสูตรการศึกษาของไทยที่มันเพี้ยนๆ คงมาจากพวกรศ. แบบนี้นี่เอง ประเทศไทยถึงไม่ไปข้างหน้าสักที

[JUR1ST]

ง่ายดีแฮะ เอาความเป็นอาจารย์มาสร้างความน่าเชื่อถือให้กับคำพูดของตน ทั้งที่ไม่ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนพูด

หลังจากนี้จะทำอย่างไร จะรับผิดชอบกับคำพูดของตนเองหรือไม่ แต่ผมคิดว่าคนที่พูดอย่างนี้คงไม่ยอมรับผิดชอบหรอก อยู่ระนาบเดียวกันกับไอ้ตู่น่ะแหละ

Edited by JUR1ST, 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 21:31.

[55555]

555

เค้าซ้อมเตรียมตัวจะเข้าพรรคเผาไทย

สงสัยจะผ่าน QC

ใช้ได้ ใช้ได้....ต้องกล้าโกหกหน้าด้าน ๆ แบบนี้แหละ ...มีโอกาสรุ่ง

[หนูอ้อย]

6 ม.ค.2553 นายกฯ อภิสิทธิ์ ลงพื้นที่ ทั้ง 3 จังหวัดเยี่ยมประชาชน ดูโครงการ "ไทยเข้มแข็ง"
โปรแกรมเด็ด คือการส่งมอบถนนสาย 418 ยะลา - หนองจิก ปัตตานี นั่นคือสะพานข้ามแยกก่อนเข้าเมืองยะลา
ใกล้กับจุดจัดงาน ถนนสายนี้เป็นสายที่สวยที่สุด ไม่มีทางแยก มีแต่วงเวียนสร้างโดยทหารช่าง

มูลเหตุที่ถนนสายนี้สร้างแล้วเสร็จ ทั้งๆที่แต่เดิมผู้รับเหมาทิ้งงานมานานเนื่องจากความไม่สงบในพื้นที่
แม่บ้านของนายกอภิสิทธิ์คือเทพเทือกได้มอบหมายให้ทหารช่างลุยต่อและลงไปตรวจงานในเดือน พค.2552
เร่งรัดงานจนแล้วเสร็จมอบเป็นของขวัญปีใหม่แก่ชาวยะลาในต้นปีพ.ศ.2553 ดังกล่าว


http://south.isranew...=4637&Itemid=47
ย้อนหลังไปในวันที่ 28 พค. 2552 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจุดแรกไปที่อาคารเอนกประสงค์ ชายหาดทะเลบ้านทอน ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เพื่อพบเพื่อปะและรับฟังปัญหาจากประชาชนซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงชายฝั่ง จากตัวแทนชาวประมงในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส 5 ชุมชน และชาวประมง 6 หมู่บ้านใน ต.โคกเคียน

โอกาสนี้ นายสุเทพ ปราศรัยกับประชาชนว่า มาเป็นตัวแทนนายกรัฐมนตรีเพื่อรับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่เพื่อนำไปสู่การแก้ไข แต่ปัญหาภาคใต้ต้องสะดุดล่าช้าเนื่องจากในห้วงที่ผ่านมามีม็อบเสื้อแดงมารบกวนการทำงานของรัฐบาล ทำให้การทุ่มเทเวลาเพื่อแก้ปัญหาภาคใต้ล่าช้าไปด้วย

ต่อมา นายสุเทพ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปที่หน่วยเฉพาะกิจทหารช่าง บ้านทุ่งยามู หมู่ 4 ต. ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา เพื่อติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 418 ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างบ้านคลองขุด จ.ปัตตานี ถึงบ้านท่าสาป จ.ยะลา ซึ่งทหารช่างได้เข้าดำเนินการก่อสร้างแทนผู้รับเหมาที่หนีงานจากปัญหาความไม่สงบ ผลการตรวจเยี่ยมพบว่าการก่อสร้างสามารถเร่งรัดแล้วเสร็จไปถึงร้อยละ 80 คาดว่าไม่เกินปลายปีนี้จะเรียบร้อย และเมื่อถนนเปิดจะส่งผลดีด้านการขนส่งสินค้าเกษตรของประชาชนอย่างมาก

ช่วงเย็นวันเดียวกัน นายสุเทพ พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่หมู่บ้านแม่ตีนะ หมู่ 2 ต.ป่าไร่ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี เพื่อเยี่ยมชมโครงการฟื้นฟูนาร้าง โครงการอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้า และให้กำลังใจตำรวจ ทหารที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ จากนั้นเวลา 20.00 น. นายสุเทพยังออกตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และอาสาสมัครรักษาหมู่บ้าน (อรบ.) ที่จุดตรวจร่วมทหาร ตำรวจ ชรบ./อรบ.ในพื้นที่ อ.เมืองปัตตานี รวม 4 จุด คือจุดตรวจร่วมปัตตานีคอนกรีต, จุดตรวจร่วมกรือเซะ, จุดตรวจร่วมไทยสุวรรณ และจุดตรวจร่วมศูนย์วิทยุศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เสร็จแล้วได้พักค้างคืนที่ จ.ปัตตานี ก่อนเดินทางไปยัง จ.ยะลา ในวันที่ 29 พ.ค. 2552 ต่อไป ..

[ปุถุชน]

ก็ ก็



เค้าบอกอาจารย์มา

ใครๆก็รู้

'บัตรเติมเงิน' เข่น มีดสั้น อะตอม ปุ๊กลุ๊ก
พิมพ์ตาม'ใบบอก'จาก'ไพร่เสื้อแดงตัวพ่อ'....!

แต่อาจารย์ เธอรับข้อเท็จจริงจากใครหว่า........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[pream]

เป็น รศ ได้ไง ข่าวไม่เคยอ่าน หรือไม่ก็ชอบโกหกจนติดเป็นนิสัย เสียชื่อสถาบันที่มันสอนจริงๆ โง่แล้วเป็นอาจารย์ นักศึกษาเรียนกับมันนี่โง่กันหมดแน่ๆ

สงสัย รศ. คงเอาไก่แลกมากระมัง

[samepong]

ถามสรยุทธ์ครับ สรยุทธ์ลงไปทำข่าวน้ำท่วมนอกสถานที่วันเดียวกับที่ มาร์คลงพื้นที่

[ปุถุชน]

แย่จัง.....
มีคนเห็น
มีคนรับรู้
มีคนเป็นพยาน
นายกฯอภิสิทธิ์ลงพื้นที่ภาคใต้.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[Bookmarks]

แย่จัง.....
มีคนเห็น
มีคนรับรู้
มีคนเป็นพยาน
นายกฯอภิสิทธิ์ลงพื้นที่ภาคใต้.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

นี่ถ้าพนักงานสอนหนังสือตนนี้ มาอ่านในนี้ล่ะก็ สงสัยต้องเอาปี๊บคลุมหัว อับอายขายขี้หน้าเหมือนนางสาวปูเลย ลุงปุ
ยังสงสัยว่า นักข่าวมติชน มันไม่รู้ หรือว่ามันไม่บอกอะไรพนักงานสอนหนังสือตนนี้เลยหรือ เลยปล่อยให้มันโชว์โง่ออกมา
กลายเป็นโง่สองเด้งเลย ทั้งสื่อ ทั้งพนักงานสอนหนังสือ

[เดอะอำมาตย์]

ก็หยั่งงี้เเหละถึงได้เป็น นางสาว แทนที่จะเป็น นาง อุ้ยเเรงไปไหม

[ดูโอลิมปิก5ปีดีจุงเบย]

ก็หยั่งงี้เเหละถึงได้เป็น นางสาว แทนที่จะเป็น นาง อุ้ยเเรงไปไหม

ตอนนี้ได้คำนำหน้าอีกอย่างแล้ว เป็น "อี" เผลอบางรายเรียกเป็น "อี......" แล้วละมั้ง

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

ก็หยั่งงี้เเหละถึงได้เป็น นางสาว แทนที่จะเป็น นาง อุ้ยเเรงไปไหม

คนเป็นนาง หรือนางสาวแต่มีผ.สระอัวแล้วก็เลวเป็นนะครับ
อย่างนางปูปี๊บ นางนลินี ทวีสิน นางสุดารัตน์

คนเป็นนางสาว น่ารักมากก็มี อย่างนางสาวรัชดา นางสาวมัลลิกา นางสาวตั๊น

ไม่เกี่ยวหรอกครับ

[สงสารสาวจันทร์]

ผมพูดตามตรงนะครับ

นายก ไม่จำเป็นต้องลุยป่าพรุ ต้องลุยป่าเบญจพรรณ ป่าหนามเลย

แค่คุณทำให้ประเทศผมมาอยู่ในครรลองครองธรรม ผมก็รักคุณแล้ว..

ณ.วันนี้ ผมกำลังงง ว่านายกต้องโชว์หล่อ โชว์เท่ห์ โชว์สวย(ด่าฝ่ายตรงข้าม)โดยเขาไม่ต้องใช้สมองเลย....รึ

[MuuSang]

ถ้าไม่มีใครออกมาทักท้วง
นางคงได้ดิบได้ดี เปลี่ยนจาก รศ. เป็น ศ. อย่างเดียว แน่นอน

[Solid Snake]

อืม อยู่คณะรัฐศาสตร์ซะด้วย แล้วมิทราบนราธิวาสอยู่พื้นที่ภาคไหนนะนั่น

[phoebus]

อ๋ออออ อีันีี่เอง

นึกว่าใครที่ไหน


เจ้าประจำแหล่ะ อีดวกนี่

[ชายน้ำ]

คณบดีพิจารณาเถอะว่าจะจ้างให้สิริพรรณสอนเยาวชนไทยให้เสื่อมเสียชื่อสิงห์ดำต่อไปหรือไม่

สิริพรรณย่อมต้องอยู่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

คือถ้าไม่โง่ก็ชั่ว

ไม่ว่ากลุ่มไหนในสองกลุ่มจะปล่อยให้สอนนิสิตต่อไปไม่ได้

[ถั่งเช่า ตรา ควายธนูแดง]

ท่านได้ รศ. มาได้อย่างไร รศ. ต้องรู้จักค้นคว้า ถึงนำเสนอผลงานได้
หรือว่าท่านทำไม่เป็น

[tu249cm]

อาจานนางนี้เกรงผู้คนจะไม่รู้ว่าตัวเป็นอาจานไพร่แดงมั้ง

[DZM]

ถ้าคนที่เป็นอาจารย์โง่เง่าได้ขนาดนี้ผมชักไม่แน่ใจคุณภาพของ "บัณฑิด" ที่จบจากสถาบันนี้เลย...

[mairukumoa]

อาจารย์ท่านนี้ผลิตลูกศิษย์คุณภาพเดียวกับท่านออกมากี่คนแล้วนี้

[ปุถุชน]

อืม อยู่คณะรัฐศาสตร์ซะด้วย แล้วมิทราบนราธิวาสอยู่พื้นที่ภาคไหนนะนั่น

ผมจำได้ว่าแกลงไป ไปเจอนายกมาเลย์ที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

นายกฯอภิสิทธิ์เคยพบนายกฯมาเลย์(คนละคนประธานาธิบดี)
และเดินด้วยกันตรวจชายแดนเพื่อความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้.....!

หนึ่งภาพแทนคำพูดมากกว่า'สามบรรทัด'ว่า
นายกฯมาเลย์และนายกฯไทยเดินร่วมกันอย่างสร้างสรรและมิตรภาพในพื้นที่นราธิวาส.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[ปุถุชน]

ท่านได้ รศ. มาได้อย่างไร รศ. ต้องรู้จักค้นคว้า ถึงนำเสนอผลงานได้
หรือว่าท่านทำไม่เป็น

น.ส.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี
รองศาสตราจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง
คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


อาจารย์ในคณะรัฐศาสตร์ต้องติดตามข่าวสารการบริหาร การปกครอง การเมือง
และวิเคราะห์วิพากษ์วิจารณ์ในทางสร้างสรร
เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ลูกศิษย์และสังคมไทย..........

[อิสระในกรอบ]

แย่จัง.....
มีคนเห็น
มีคนรับรู้
มีคนเป็นพยาน
นายกฯอภิสิทธิ์ลงพื้นที่ภาคใต้.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

นี่ถ้าพนักงานสอนหนังสือตนนี้ มาอ่านในนี้ล่ะก็ สงสัยต้องเอาปี๊บคลุมหัว อับอายขายขี้หน้าเหมือนนางสาวปูเลย ลุงปุ
ยังสงสัยว่า นักข่าวมติชน มันไม่รู้ หรือว่ามันไม่บอกอะไรพนักงานสอนหนังสือตนนี้เลยหรือ เลยปล่อยให้มันโชว์โง่ออกมา
กลายเป็นโง่สองเด้งเลย ทั้งสื่อ ทั้งพนักงานสอนหนังสือ

นักข่าวใจ***มครับ เห็นขนจมูกโผล่ไม่ยอมบอกแถมถ่ายโคลสอัพซะใกล้ งานนี้นักข่าวลอยตัวครับไม่ยอมดูแลตัวเองก่อนออกสื่อ

[อิไซกูนิ]

อืม อยู่คณะรัฐศาสตร์ซะด้วย แล้วมิทราบนราธิวาสอยู่พื้นที่ภาคไหนนะนั่น

ผมจำได้ว่าแกลงไป ไปเจอนายกมาเลย์ที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

นายกฯอภิสิทธิ์เคยพบนายกฯมาเลย์(คนละคนประธานาธิบดี)
และเดินด้วยกันตรวจชายแดนเพื่อความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้.....!

หนึ่งภาพแทนคำพูดมากกว่า'สามบรรทัด'ว่า
นายกฯมาเลย์และนายกฯไทยเดินร่วมกันอย่างสร้างสรรและมิตรภาพในพื้นที่นราธิวาส.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ชัดเจน

[ต้นหอม]

อ.ท่านนี้แถ-ลงได้เก่งมากๆค่ะ

[busaba]

ชาว 3 จังหวัดภาคใต้ ใครๆ ก็รู้ แต่ อาจารย์เป็นถึง รศ. นั่งเทียนให้ข่าวยังไงก็ไม่รู้

[ปุถุชน]

นิ้วก้อยน้อยใจ: หน้าไหว้ หลังหลอก โดย สิริพรรณ นกสวน สวัสดี

กรุงเทพธุรกิจ 13 ตุลาคม 2552

ธรรมเนียม ไทยนั้น เราทักทายกันด้วยคำว่าสวัสดี ประกอบกับกิริยายกมือไหว้ แต่หลายครั้งก็อดรู้สึกไม่ได้ว่า เรายกมือไหว้ใครบางคนได้ไม่สนิทใจนัก เพราะคนบางคน ไม่ “น่าไหว้” และคนจำนวนหนึ่งที่ยกมือไหว้เรา โดยเฉพาะนักการเมืองฤดูหาเสียง จะหลอกเราลับหลังหรือไม่
ที่หยิบเรื่องนี้มาชวนคุย สืบเนื่องจากข่าวหนังสือเวียนสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรที่ให้ข้าราชการรัฐสภาทำความเคารพ “ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร” ประกอบกับวันก่อน บังเอิญได้สนทนากับอาจารย์ชาวสวิตเซอร์แลนด์เรื่องพฤติกรรมนักการเมือง วันนี้ เลยอยากนำมาเล่าต่อและชวนผู้อ่านคิดในเชิงเปรียบเทียบ
สิ่ง ที่คนสวิตเซอร์แลนด์ภูมิใจที่สุดในการเมืองประเทศเขา ไม่ใช่ระบบการเมืองที่มีเอกลักษณ์และมีเสถียรภาพจนขึ้นชื่อ แต่คือ ความประพฤติของนักการเมือง ธรรมเนียมปฏิบัติระหว่างนักการเมืองและประชาชนสวิตเซอร์แลนด์มีว่า ทันทีที่ได้รับตำแหน่งการเมือง ประชาชนจะเปลี่ยนจากการเรียกชื่ออย่างเป็นทางการแบบฝรั่ง มาเป็นแบบไม่เป็นทางการ (อ่านไม่ผิดค่ะ เปลี่ยนมาเรียกแบบไม่เป็นทางการ) โดยเรียกชื่อต้น (Du—ดู) นักการเมืองผู้นั้นแทนชื่อสกุล (Sie—ซี) เช่น นักธุรกิจที่เคยถูกเรียกว่าคุณแอเลน เบอร์เซ็ท จะพร้อมสลัดคราบเป็นคุณแอเลน เฉยๆ ในทันที
ทั้ง นี้ด้วยเหตุผลง่ายๆว่า บัดนี้คุณเข้ามาทำงานให้ประชาชน กินเงินเดือนซึ่งมาจากภาษีประชาชน ดังนั้น นักการเมืองจึงควรทำตัวเป็นกันเอง กลมกลืนและเป็นส่วนเดียวกับสังคม
ประชาชน ชาวสวิสทั่วไปจะเห็นตัวเป็นๆ และกระทบไหล่นักการเมืองที่นิยมใช้บริการรถไฟแทนรถยนต์ส่วนตัว ในการเดินทางอยู่เสมอ นักการเมืองสวิตเซอร์แลนด์ ไปไหนมาไหนโดยไม่มีบอดี้การ์ด ไม่มีรถตำรวจนำ ไม่นานมานี้ นักการเมืองคนหนึ่งขอใช้บริการรถตำรวจนำทาง เพราะต้องไปกล่าวสุนทรพจน์ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ ตำรวจตอบว่า ไม่สามารถจัดให้ได้ เพราะภารกิจดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ถือเป็นภารกิจรัฐ (state business) ที่นิยามว่าต้องเกี่ยวพันกับการต้อนรับและคุ้มกันนักการทูต และนักการเมืองต่างประเทศเท่านั้น แถมยังเตือนอีกว่า ขับรถไปเองอย่าซิ่งเกินความเร็วกำหนด เพราะตำรวจจับไม่เว้น

ช่างตรงข้ามกับนักการเมืองไทยอย่างสิ้นเชิง นักการเมืองไทยนั้น ตอนไม่มีตำแหน่งก็เป็นคุณอยู่ดีๆ (บางทีเป็น “ไอ้...” ด้วยซ้ำไป) แต่พอเลือกตั้งได้เท่านั้น กลายเป็น “ท่าน” หรือ “ฯพณฯท่าน” ไปหน้าตาเฉย

ส.ส. และ ส.ว. ไทยนอกจากจะนั่งเครื่องบินฟรีไม่จำกัดเที่ยวบินแล้ว ยังชอบ “เบ่ง” ใส่ประชาชนโดยการขออัพเกรดที่นั่ง หรือต้องนั่งแถวหน้าให้รู้ว่านี่ฉันเป็นผู้ทรงเกียรติในสภา นักการเมืองที่ได้ขยับขึ้นไปเป็นรัฐมนตรี ต้องมีรถประจำตำแหน่ง รถหลายคันป้องกันกระสุน (เพราะรู้ตัวว่าเป็นนักการเมืองขวัญใจประชาชน) มีรถตำรวจนำหน้า ไม่ต้องติดไฟแดง เพราะตำรวจหัวขบวนประสานให้ไฟเขียวผ่านตลอด จึงไม่เคยรับรู้สภาพจราจรที่แท้จริงอันติดขัด พอรถจอดปุ๊บ มีเจ้าหน้าที่วิ่งมาเปิดประตู ถือของให้ หากนั่งอยู่จะยื่นเอกสารให้ต้องคลานเข่าเข้าไปหา เหมือนกำลังดูภาพละครย้อนยุค เจ้าขุนมูลนาย กับบ่าวไพร่ อย่างไรอย่างนั้น
และดูเหมือนคนไทยจะยอมรับความเป็น “อภิสิทธิ์ชน” ของนักการเมืองเช่นนี้ แต่โดยดี

.........................................................................................................................

http://www.tdw.polsc...%B8%94%E0%B8%B5

โครงการศูนย์ติดตามประชาธิปไตยไทย(Thailand Democracy Watch) คณะรัฐศาสตร์ได้รับจัดสรรงบประมาณเงินทุนพัฒนาวิชาการ 100 ปี จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อดำเนินโครงการวิจัยเป็นระยะเวลา 5 ปี ในกรอบวงเงิน 42,600,000 บาทคณะ รัฐศาสตร์ใคร่ขอขอบคุณมหาวิทยาลัย ที่ได้ให้การสนับสนุนการพัฒนาวิชาการของคณะและตระหนักดีว่าจะต้องใช้จ่าย เงินทุนฯที่ได้รับให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนา วิชาการด้านรัฐศาสตร์ในระยะยาว





เธอเขียนบทความนี้เมื่อ 13 เดือนตุลาคม 2552
วันนี้ข้อเท็จจริงยังทันสมัย ไม่ผิดจากวันที่เขียนบทความ
แต่คนที่กล่าวถึง หมายถึงนั้นได้กลับข้างเท่านั้น.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

Edited by ปุถุชน, 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 00:02.

[อิไซกูนิ]

รศ.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี

อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย



คนนี้ป่าว





http://www.polsci.ch....th/siripan.htm

[RiDKuN_user]

ไม่เคยลงพื้นที่เลย แปลว่า แทบไม่ได้ลงเลย คือลงพื้นที่น้อยมาก
ไม่ยอมลงทุกเดือน ผ่านไปหลายเดือนถึงจะลงที เข้าใจหรือยัง
เบื่อพวกแมงสาปชอบจับผิดหยุมหยิม แล้วก็หน้าแตกทุกที หึหึ

[ปุถุชน]

สส.ถาวร อยากบอกให้รศ.สิริพรรณว่านายกฯอภิสิทธิ์ในขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น จะลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ 1-2 ต่อเดือน และมอบหมายให้ผม(สส.ถาวร)อยู่ในพื้นที่สัปดาห์ละหลายวัน.....

ไม่เคยลงพื้นที่เลย แปลว่า แทบไม่ได้ลงเลย คือลงพื้นที่น้อยมาก
ไม่ยอมลงทุกเดือน ผ่านไปหลายเดือนถึงจะลงที เข้าใจหรือยัง
เบื่อพวกแมงสาปชอบจับผิดหยุมหยิม แล้วก็หน้าแตกทุกที หึหึ

รองศาสตราจารย์พูดหรืออดีตรมช.มหาดไทยพูด.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[storm]

แล้วจะเอาหน้าไปไว้ไหน

[Alone]

มัวแต่สุมหัวกับพวกกระสันอยากแก้ 112 อยู่มั้งครับ
เลยไม่เคยโผล่หัวออกมาจากกะลารับรู้ข่าวสารจากโลกภายนอกซะบ้าง

http://www.thaipost.net/node/51817

รุมขย้ำนิติราษฎร์ กลุ่ม118ซัดอัตตาไม่ฟังคน พท.ซ้ำรับจ๊อบจุดไฟปฏิวัติ

• ข่าวหน้า 1

30 January 2555 - 00:00


กลุ่มเคลื่อนไหว 112 วงแตก ปีก 118 ลงชื่อหนุนหวด "นิติราษฎร์" ปรับท่าทีใหม่ ชี้เสนอหลายโมเดลจนกลายเป็นจุดอ่อน แนะให้รับฟังความคิดแนวร่วมด้วย "รัฐศาสตร์จุฬาฯ" ยันไม่เอาด้วยแม้ร่วมลงชื่อแก้มาตรา 112 นายกสภาธรรมศาสตร์ไฟเขียว "วรเจตน์" เคลื่อนไหวต่อได้ "เพื่อไทย" แยกเงาออกห่าง เตือนไม่มีแผ่นดินอยู่ อัดรับจ๊อบมาจุดไฟปฏิวัติ
รองศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐบุตร นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอดีตประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มนิติราษฎร์ที่เริ่มมีกระแสต่อต้านจากหลายฝ่าย ทั้งกลุ่มศิษย์เก่าคณะต่างๆ เช่น กลุ่มนิติ มธ.01 และกลุ่มบุคคลภายนอก ที่เรียกร้องไม่ให้กลุ่มนิติราษฎร์ทำการสอนในคณะนิติศาสตร์ หลังออกมาเคลื่อนไหวเรื่องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และเสนอให้ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ที่มีต่อคณาจารย์นิติราษฎร์ คงต้องให้อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นผู้ตอบคำถามสื่อมวลชนจะเหมาะสมกว่าในฐานะฝ่ายบริหาร แต่การเคลื่อนไหวอะไรต่างๆ หากเขาทำโดยไม่เกินเลยเกินขอบเขตมากเกินไป ก็เป็นสิทธิที่จะทำได้ แต่ก็ยังไม่เคยมีการหารืออะไรกันในที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คงให้อธิการบดีตอบเรื่องนี้จะดีกว่า ส่วนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่อยากตอบเช่นกัน
น.ส.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และหนึ่งในผู้ร่วมลงชื่อ 118 รายชื่อที่เสนอให้แก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ต้องยอมรับสังคมบางส่วนยังเข้าใจผิดคิดว่าพวกที่ลงชื่อ 118 รายชื่อเอาด้วยกับโมเดลการแก้ไขรัฐธรรมนูญของนิติราษฎร์ ที่เสนอต่อสังคมทั้งเรื่องการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ให้พระมหากษัตริย์ต้องสาบานตนก่อนเข้ารับตำแหน่ง การปฏิรูปศาล จนถึงการห้ามไม่ให้พระมหากษัตริย์มีพระราชดำรัส ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย ในฐานะที่ร่วมลงชื่อด้วยกับการแก้ไข 112 และได้พูดคุยกับหลายคน เช่น นักวิชาการ ต่างก็บอกว่าไม่เห็นด้วยกับโมเดลการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่นิติราษฎร์เสนอ รวมถึงช่วงจังหวะเวลาที่นิติราษฎร์เสนอ ซึ่งทำหลายเรื่องมากเกินไป ทำให้สังคมสับสนว่านิติราษฎร์และ ครก.112 ต้องการอะไรกันแน่
ครก.112 สอน "นิติราษฎร์"
"ต้องพูดกันตรงๆ ว่านิติราษฎร์เองเขาก็ต้องฟังคนอื่นด้วย ไม่ใช่ไม่ฟังเลย ที่สำคัญต้องจัดลำดับความสำคัญด้วย หากถามว่าเรื่องแก้รัฐธรรมนูญกับเรื่อง 112 อะไรสำคัญกว่ากัน ก็บอกว่าเรื่องแก้รัฐธรรมนูญสำคัญกว่าเรื่องแก้ 112 มาก แต่ตอนนี้นิติราษฎร์เสนอชุดความคิดมากเกินไป ทำให้ไม่รู้ว่าจะเอาอย่างไรกันแน่ บางส่วนเช่นสื่อก็คิดไปว่าพวก 118 รายชื่อเอาด้วยกับเรื่องให้พระมหากษัตริย์สาบานตน ซึ่งไม่ใช่เลย หลายเรื่องที่เขาเสนอแก้รัฐธรรมนูญก็เป็นโมเดลที่เขาคิดเอง ซึ่งแนวทางก็ไม่ตรงกัน เช่นเรื่องให้มีสภาเดี่ยว ที่เราลงชื่อแก้ 112 หลักการเลยคือต้องการพื้นที่ให้มีการคุยกันในเรื่อง 112 ได้อย่างไม่ต้องหวาดกลัว แต่เมื่อจะลงรายละเอียดในส่วนการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ก็ต้องมาคุยกันด้วยว่าจะแก้แบบไหนที่จะเป็นข้อเสนอของ ครก.112 ฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายก่อน" อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ผู้นี้ระบุ
น.ส.สิริพรรณยังกล่าวถึงกรณีที่นายเสกสรรค์ ประเสริฐกุล อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ที่ถอนตัวจากการเคลื่อนไหวกับกลุ่ม ครก.112 ว่า ส่วนตัวยังไม่ถอนตัว และคิดว่าการถอนตัวและแถลงการณ์ดังกล่าวของอาจารย์เสกสรรค์ คงไม่ทำให้การเคลื่อนไหวของ ครก.112 เสียขบวน แต่คนที่จะเสียจะเป็นอาจารย์เสกสรรค์มากกว่า ที่พูดไม่ชัดว่าตกลงที่ไปร่วมลงชื่อเพราะถูกขอร้องหรือว่าเห็นด้วยกับการแก้ไข 112
"ยืนยันว่าจะไม่โดดร่มหนีตอนนี้ ครก.112 ต่างคนก็มีความคิดของตัวเองกันอยู่ อย่างรัฐธรรมนูญเราก็เห็นตรงกันว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนต้องแก้ไข สมควรแก้เยอะ แต่ไม่เคยคุยกันถึงขั้นเรื่องปฏิรูปสถาบันแบบที่นิติราษฎร์เสนอ แต่ในส่วนของเรื่อง 112 ก็เห็นว่าสังคมยังไม่ได้ศึกษาสิ่งที่ ครก.หรือนิติราษฎร์เสนอมากพอ คือมองไปที่ตัวบุคคลเป็นหลักมากเกินไป ถ้าได้ดูเนื้อหาแล้วมาพูดคุยกันอาจมีประโยชน์มากกว่านี้ ขณะเดียวกันนิติราษฎร์เองก็เสนอหลายเรื่องมากเกินไปในเวลาพร้อมๆกัน ทั้งเรื่อง 112 เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ แล้วไปถึงขั้นปฏิรูปสถาบัน เลยกลายเป็นจุดอ่อนของเขาเองที่เราก็ต้องพูดกันตรงๆ เพราะคนก็ไม่เข้าใจว่าอะไรคือเรื่องสำคัญเร่งด่วนจะแก้ 112 หรือแก้รัฐธรรมนูญ" อาจารย์รัฐศาสตร์ จุฬาฯ ระบุ
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ย้ำอีกครั้งถึงท่าทีของพรรคเพื่อไทยต่อการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่า หมวดพระมหากษัตริย์ในรัฐธรรมนูญ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 พรรคจะไม่แตะต้อง พูดไปก็ไม่เชื่อ จะพูดอยู่เรื่อยๆ พูดจนกว่าจะไม่ถาม และไม่เบื่อที่จะชี้แจง และจะไม่ไปชี้แจงอะไรกับกลุ่มนิติราษฎร์ เพราะนิติราษฎร์ไม่เกี่ยวอะไรกับพรรคเพื่อไทย จะให้เกี่ยวอย่างไร พูดกี่ครั้งกี่หนก็ไม่เกี่ยว จะพูดอย่างนี้ ทั้งวันทั้งคืน ทั้งปีทั้งชาติว่าไม่เกี่ยว และไม่จำเป็นต้องไปหารือนอกรอบหรือในรอบทำไมกับพวกนิติราษฎร์
เพื่อไทยเล่นแรง
นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเรื่องนี้เช่นกัน โดยบอกว่า นิติราษฎร์ท่าดีทีเหลว ทำไปทำมากลับมุ่งเพียงการแก้ไขเนื้อหาที่เกี่ยวกับสถาบัน สร้างความแตกแยกให้เพิ่มขึ้นในบ้านเมือง ทั้งๆ ที่กำลังดำเนินไปในทิศทางที่ดี ข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์นั้นสร้างผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนอย่างมาก ไม่มีเหตุไม่มีผลที่รับฟังได้ ความจริงมีเรื่องอื่น มาตราอื่นๆ ที่สมควรแก้มากมาย แต่น่าแปลกว่าคณาจารย์กลุ่มนี้กลับไม่เอาสมองไปคิด แต่ขอยืนยันย้ำว่าคณะนิติราษฎร์ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย หรือแม้แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งเราก็ได้ประกาศจุดยืนไปแล้วว่าจะไม่แตะต้องเรื่องดังกล่าว
"น่าสงสัยถึงเจตนาในการเสนอแก้ไขกฎหมายของคณะนิติราษฎร์ ว่าไปรับจ๊อบ รับงานอะไรที่มีวาระแอบแฝงมาหรือไม่ พวกคุณเป็นนักวิชาการเอียงซ้ายหรือเอียงขวากันแน่ บ้านเมืองกำลังเข้าร่องเข้ารอย พวกคุณกำลังปลุกทหารมาปฏิวัติหรือเปล่า ขอให้พี่น้องประชาชนที่เทิดทูนสถาบัน ลูกศิษย์ลูกหาออกมาต่อต้านกันเยอะๆ เชื่อว่าถ้าคณะนิติราษฎร์ยังไม่หยุด จะเจอคลื่นมหาชนแน่ ขอร้องว่าอย่าสร้างเงื่อนไขการเมืองให้ถึงทางตัน เปิดโอกาสให้ฝ่ายล้มล้างรัฐบาลออกมาอีกรอบ "ขอเตือนคณะนิติราษฎร์ให้ระวังไม่มีแผ่นดินจะอยู่ ตอนบ้านเมืองเกิดวิกฤติพวกคุณไม่เคยออกมา หายหัวหมด วันนี้ออกมาเหมือนอยู่เมืองไทยไม่สงบสุขหรืออย่างไร" นายประชากล่าว
ขณะที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวเช่นกันว่า เรื่อง 112 ได้ติดตามการเคลื่อนไหวที่มีการระบุว่าสมาชิกเพื่อไทยต้องการแก้มาตรา 112 ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้มีกระบวนการในการเคลื่อนไหว มีเป็นเครือข่าย ประกอบด้วยนักการเมือง นักการวิชาการ เครือข่ายสื่อมวลชน และทหารนอกแถวบางคน มีการหารือกันที่เซฟเฮา ส์ย่านพุทธมณฑล มีการปลุกระดมตามโรงงานย่านปริมณฑล แต่ขณะนี้ได้ขยายไปถึงเครือข่ายเกษตรกรทั่วประเทศ และไปถึงพื้นที่ภาคใต้แล้ว รัฐบาลทำงาน 5 เดือนปราบเว็บหมิ่นกว่า 60,000 ยูอาร์แอล ส่วนรัฐบาลนายอภิสิทธิ์บริหารงาน 2 ปีกว่า ปราบไป 70,000 ยูอาร์แอล
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มอบหมายนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ จะดำเนินการฟ้องตนหลังจากเปิดเผยคำสัมภาษณ์ในหนังสือ “คอนเวอร์เซชั่น วิธ ทักษิณ” ที่มีลักษณะละเมิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ว่า ข้อมูลที่นำมาเปิดเผยโดยนำมาจากการแปลจากสำนักข่าวทีนิวส์ และขอยืนยันว่าเป็นการแปลความหมายจากภาษาอังกฤษมาเป็นไทยได้ถูกต้อง ไม่มีการบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย พ.ต.ท.ทักษิณแต่อย่างใด หากจะดำเนินการฟ้องอยากให้พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเป็นโจทก์ฟ้องตัวเองได้เลย เพื่อให้สมศักดิ์ศรีของการเป็นอดีตนายกฯ
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวอีกว่า เรื่องท่าทีของพรรคเพื่อไทยต่อมาตรา 112 ประชาธิปัตย์ไม่เคยใส่ร้ายพรรคเพื่อไทย แต่เป็นเรื่องที่ทุกคนทราบดีว่าพรรคเพื่อไทยมีแนวคิดเรื่องนี้อย่างไร จากกรณีการให้สัมภาษณ์หรือการพูดในงานสัมมนาต่างกรรมต่างวาระของคนในพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะการให้สัมภาษณ์ของนายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ โฆษก นปช. ที่เคยให้สัมภาษณ์ว่าไม่เห็นด้วยกับมาตรา 112 และต้องการแก้ไข แต่ตอนนี้มาคัดค้านการแก้ไขมาตรา 112 เพื่อต้องการชิ่งหนีกลุ่มนิติราษฎร์หลังจากที่มีกระแสต่อต้านที่ทิ้งเรือเอาตัวรอดไม่สมกับความเป็นลูกผู้ชาย พร้อมกันนี้นายชวนนท์ได้เปิดคลิปการยืนยันการให้สัมภาษณ์ของนายวรวุฒิด้วย
ด้านสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เสนอผลวิจัยเชิงสำรวจ "เรื่องใหญ่โตของประเทศที่ทุกคนต้องช่วยกัน" กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทั่วไปใน 17 จังหวัดของประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 2,572 ครัวเรือน ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 15–28 มกราคม 2555
พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 93.4 รู้สึกเป็นห่วงมากถึงมากที่สุดต่อการรณรงค์ปลุกระดมของกลุ่มคนที่จ้องทำลายสถาบันหลักของชาติ และกว่าร้อยละ 80.6 ยังคงเป็นห่วงมากถึงมากที่สุดต่อความขัดแย้งแตกแยกรุนแรงของคนในชาติ ในขณะที่กว่า 2 ใน 3 หรือร้อยละ 71.8 รู้สึกว่าประเทศไทยมีแต่เรื่องวุ่นวายไม่จบสิ้น ประเทศเพื่อนบ้านกำลังพัฒนาไปได้ด้วยดี

"ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งคือ ผลสำรวจพบว่ามีทัศนคติอันตรายยอมรับได้ ถ้ารัฐบาลทุจริตคอรัปชั่น แต่ทำให้ตนเองได้ผลประโยชน์ด้วย โดยมีกลุ่มข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 64.0 ที่มีทัศนคติอันตรายเช่นนั้นและกลุ่มคนรุ่นใหม่หรือนักเรียนนักศึกษามีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 56.2 ที่มีทัศนคติอันตรายเช่นกัน โดยในการศึกษาครั้งนี้ยังพบด้วยว่ากลุ่มตัวอย่างร้อยละ 68.9 คิดว่าการทุจริตคอรัปชั่นเป็นเรื่องปกติธรรมดาในการทำธุรกิจ" ผลสำรวจระบุ.

[อิไซกูนิ]

มัวแต่สุมหัวกับพวกกระสันอยากแก้ 112 อยู่มั้งครับ
เลยไม่เคยโผล่หัวออกมาจากกะลารับรู้ข่าวสารจากโลกภายนอกซะบ้าง

http://www.thaipost.net/node/51817

รุมขย้ำนิติราษฎร์ กลุ่ม118ซัดอัตตาไม่ฟังคน พท.ซ้ำรับจ๊อบจุดไฟปฏิวัติ

• ข่าวหน้า 1

30 January 2555 - 00:00


กลุ่มเคลื่อนไหว 112 วงแตก ปีก 118 ลงชื่อหนุนหวด "นิติราษฎร์" ปรับท่าทีใหม่ ชี้เสนอหลายโมเดลจนกลายเป็นจุดอ่อน แนะให้รับฟังความคิดแนวร่วมด้วย "รัฐศาสตร์จุฬาฯ" ยันไม่เอาด้วยแม้ร่วมลงชื่อแก้มาตรา 112 นายกสภาธรรมศาสตร์ไฟเขียว "วรเจตน์" เคลื่อนไหวต่อได้ "เพื่อไทย" แยกเงาออกห่าง เตือนไม่มีแผ่นดินอยู่ อัดรับจ๊อบมาจุดไฟปฏิวัติ
รองศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐบุตร นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอดีตประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มนิติราษฎร์ที่เริ่มมีกระแสต่อต้านจากหลายฝ่าย ทั้งกลุ่มศิษย์เก่าคณะต่างๆ เช่น กลุ่มนิติ มธ.01 และกลุ่มบุคคลภายนอก ที่เรียกร้องไม่ให้กลุ่มนิติราษฎร์ทำการสอนในคณะนิติศาสตร์ หลังออกมาเคลื่อนไหวเรื่องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และเสนอให้ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ที่มีต่อคณาจารย์นิติราษฎร์ คงต้องให้อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นผู้ตอบคำถามสื่อมวลชนจะเหมาะสมกว่าในฐานะฝ่ายบริหาร แต่การเคลื่อนไหวอะไรต่างๆ หากเขาทำโดยไม่เกินเลยเกินขอบเขตมากเกินไป ก็เป็นสิทธิที่จะทำได้ แต่ก็ยังไม่เคยมีการหารืออะไรกันในที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คงให้อธิการบดีตอบเรื่องนี้จะดีกว่า ส่วนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่อยากตอบเช่นกัน
น.ส.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และหนึ่งในผู้ร่วมลงชื่อ 118 รายชื่อที่เสนอให้แก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ต้องยอมรับสังคมบางส่วนยังเข้าใจผิดคิดว่าพวกที่ลงชื่อ 118 รายชื่อเอาด้วยกับโมเดลการแก้ไขรัฐธรรมนูญของนิติราษฎร์ ที่เสนอต่อสังคมทั้งเรื่องการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ให้พระมหากษัตริย์ต้องสาบานตนก่อนเข้ารับตำแหน่ง การปฏิรูปศาล จนถึงการห้ามไม่ให้พระมหากษัตริย์มีพระราชดำรัส ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย ในฐานะที่ร่วมลงชื่อด้วยกับการแก้ไข 112 และได้พูดคุยกับหลายคน เช่น นักวิชาการ ต่างก็บอกว่าไม่เห็นด้วยกับโมเดลการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่นิติราษฎร์เสนอ รวมถึงช่วงจังหวะเวลาที่นิติราษฎร์เสนอ ซึ่งทำหลายเรื่องมากเกินไป ทำให้สังคมสับสนว่านิติราษฎร์และ ครก.112 ต้องการอะไรกันแน่
ครก.112 สอน "นิติราษฎร์"
"ต้องพูดกันตรงๆ ว่านิติราษฎร์เองเขาก็ต้องฟังคนอื่นด้วย ไม่ใช่ไม่ฟังเลย ที่สำคัญต้องจัดลำดับความสำคัญด้วย หากถามว่าเรื่องแก้รัฐธรรมนูญกับเรื่อง 112 อะไรสำคัญกว่ากัน ก็บอกว่าเรื่องแก้รัฐธรรมนูญสำคัญกว่าเรื่องแก้ 112 มาก แต่ตอนนี้นิติราษฎร์เสนอชุดความคิดมากเกินไป ทำให้ไม่รู้ว่าจะเอาอย่างไรกันแน่ บางส่วนเช่นสื่อก็คิดไปว่าพวก 118 รายชื่อเอาด้วยกับเรื่องให้พระมหากษัตริย์สาบานตน ซึ่งไม่ใช่เลย หลายเรื่องที่เขาเสนอแก้รัฐธรรมนูญก็เป็นโมเดลที่เขาคิดเอง ซึ่งแนวทางก็ไม่ตรงกัน เช่นเรื่องให้มีสภาเดี่ยว ที่เราลงชื่อแก้ 112 หลักการเลยคือต้องการพื้นที่ให้มีการคุยกันในเรื่อง 112 ได้อย่างไม่ต้องหวาดกลัว แต่เมื่อจะลงรายละเอียดในส่วนการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ก็ต้องมาคุยกันด้วยว่าจะแก้แบบไหนที่จะเป็นข้อเสนอของ ครก.112 ฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายก่อน" อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ผู้นี้ระบุ
น.ส.สิริพรรณยังกล่าวถึงกรณีที่นายเสกสรรค์ ประเสริฐกุล อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ที่ถอนตัวจากการเคลื่อนไหวกับกลุ่ม ครก.112 ว่า ส่วนตัวยังไม่ถอนตัว และคิดว่าการถอนตัวและแถลงการณ์ดังกล่าวของอาจารย์เสกสรรค์ คงไม่ทำให้การเคลื่อนไหวของ ครก.112 เสียขบวน แต่คนที่จะเสียจะเป็นอาจารย์เสกสรรค์มากกว่า ที่พูดไม่ชัดว่าตกลงที่ไปร่วมลงชื่อเพราะถูกขอร้องหรือว่าเห็นด้วยกับการแก้ไข 112
"ยืนยันว่าจะไม่โดดร่มหนีตอนนี้ ครก.112 ต่างคนก็มีความคิดของตัวเองกันอยู่ อย่างรัฐธรรมนูญเราก็เห็นตรงกันว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนต้องแก้ไข สมควรแก้เยอะ แต่ไม่เคยคุยกันถึงขั้นเรื่องปฏิรูปสถาบันแบบที่นิติราษฎร์เสนอ แต่ในส่วนของเรื่อง 112 ก็เห็นว่าสังคมยังไม่ได้ศึกษาสิ่งที่ ครก.หรือนิติราษฎร์เสนอมากพอ คือมองไปที่ตัวบุคคลเป็นหลักมากเกินไป ถ้าได้ดูเนื้อหาแล้วมาพูดคุยกันอาจมีประโยชน์มากกว่านี้ ขณะเดียวกันนิติราษฎร์เองก็เสนอหลายเรื่องมากเกินไปในเวลาพร้อมๆกัน ทั้งเรื่อง 112 เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ แล้วไปถึงขั้นปฏิรูปสถาบัน เลยกลายเป็นจุดอ่อนของเขาเองที่เราก็ต้องพูดกันตรงๆ เพราะคนก็ไม่เข้าใจว่าอะไรคือเรื่องสำคัญเร่งด่วนจะแก้ 112 หรือแก้รัฐธรรมนูญ" อาจารย์รัฐศาสตร์ จุฬาฯ ระบุ
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ย้ำอีกครั้งถึงท่าทีของพรรคเพื่อไทยต่อการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่า หมวดพระมหากษัตริย์ในรัฐธรรมนูญ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 พรรคจะไม่แตะต้อง พูดไปก็ไม่เชื่อ จะพูดอยู่เรื่อยๆ พูดจนกว่าจะไม่ถาม และไม่เบื่อที่จะชี้แจง และจะไม่ไปชี้แจงอะไรกับกลุ่มนิติราษฎร์ เพราะนิติราษฎร์ไม่เกี่ยวอะไรกับพรรคเพื่อไทย จะให้เกี่ยวอย่างไร พูดกี่ครั้งกี่หนก็ไม่เกี่ยว จะพูดอย่างนี้ ทั้งวันทั้งคืน ทั้งปีทั้งชาติว่าไม่เกี่ยว และไม่จำเป็นต้องไปหารือนอกรอบหรือในรอบทำไมกับพวกนิติราษฎร์
เพื่อไทยเล่นแรง
นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเรื่องนี้เช่นกัน โดยบอกว่า นิติราษฎร์ท่าดีทีเหลว ทำไปทำมากลับมุ่งเพียงการแก้ไขเนื้อหาที่เกี่ยวกับสถาบัน สร้างความแตกแยกให้เพิ่มขึ้นในบ้านเมือง ทั้งๆ ที่กำลังดำเนินไปในทิศทางที่ดี ข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์นั้นสร้างผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนอย่างมาก ไม่มีเหตุไม่มีผลที่รับฟังได้ ความจริงมีเรื่องอื่น มาตราอื่นๆ ที่สมควรแก้มากมาย แต่น่าแปลกว่าคณาจารย์กลุ่มนี้กลับไม่เอาสมองไปคิด แต่ขอยืนยันย้ำว่าคณะนิติราษฎร์ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย หรือแม้แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งเราก็ได้ประกาศจุดยืนไปแล้วว่าจะไม่แตะต้องเรื่องดังกล่าว
"น่าสงสัยถึงเจตนาในการเสนอแก้ไขกฎหมายของคณะนิติราษฎร์ ว่าไปรับจ๊อบ รับงานอะไรที่มีวาระแอบแฝงมาหรือไม่ พวกคุณเป็นนักวิชาการเอียงซ้ายหรือเอียงขวากันแน่ บ้านเมืองกำลังเข้าร่องเข้ารอย พวกคุณกำลังปลุกทหารมาปฏิวัติหรือเปล่า ขอให้พี่น้องประชาชนที่เทิดทูนสถาบัน ลูกศิษย์ลูกหาออกมาต่อต้านกันเยอะๆ เชื่อว่าถ้าคณะนิติราษฎร์ยังไม่หยุด จะเจอคลื่นมหาชนแน่ ขอร้องว่าอย่าสร้างเงื่อนไขการเมืองให้ถึงทางตัน เปิดโอกาสให้ฝ่ายล้มล้างรัฐบาลออกมาอีกรอบ "ขอเตือนคณะนิติราษฎร์ให้ระวังไม่มีแผ่นดินจะอยู่ ตอนบ้านเมืองเกิดวิกฤติพวกคุณไม่เคยออกมา หายหัวหมด วันนี้ออกมาเหมือนอยู่เมืองไทยไม่สงบสุขหรืออย่างไร" นายประชากล่าว
ขณะที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวเช่นกันว่า เรื่อง 112 ได้ติดตามการเคลื่อนไหวที่มีการระบุว่าสมาชิกเพื่อไทยต้องการแก้มาตรา 112 ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้มีกระบวนการในการเคลื่อนไหว มีเป็นเครือข่าย ประกอบด้วยนักการเมือง นักการวิชาการ เครือข่ายสื่อมวลชน และทหารนอกแถวบางคน มีการหารือกันที่เซฟเฮา ส์ย่านพุทธมณฑล มีการปลุกระดมตามโรงงานย่านปริมณฑล แต่ขณะนี้ได้ขยายไปถึงเครือข่ายเกษตรกรทั่วประเทศ และไปถึงพื้นที่ภาคใต้แล้ว รัฐบาลทำงาน 5 เดือนปราบเว็บหมิ่นกว่า 60,000 ยูอาร์แอล ส่วนรัฐบาลนายอภิสิทธิ์บริหารงาน 2 ปีกว่า ปราบไป 70,000 ยูอาร์แอล
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มอบหมายนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ จะดำเนินการฟ้องตนหลังจากเปิดเผยคำสัมภาษณ์ในหนังสือ “คอนเวอร์เซชั่น วิธ ทักษิณ” ที่มีลักษณะละเมิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ว่า ข้อมูลที่นำมาเปิดเผยโดยนำมาจากการแปลจากสำนักข่าวทีนิวส์ และขอยืนยันว่าเป็นการแปลความหมายจากภาษาอังกฤษมาเป็นไทยได้ถูกต้อง ไม่มีการบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย พ.ต.ท.ทักษิณแต่อย่างใด หากจะดำเนินการฟ้องอยากให้พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเป็นโจทก์ฟ้องตัวเองได้เลย เพื่อให้สมศักดิ์ศรีของการเป็นอดีตนายกฯ
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวอีกว่า เรื่องท่าทีของพรรคเพื่อไทยต่อมาตรา 112 ประชาธิปัตย์ไม่เคยใส่ร้ายพรรคเพื่อไทย แต่เป็นเรื่องที่ทุกคนทราบดีว่าพรรคเพื่อไทยมีแนวคิดเรื่องนี้อย่างไร จากกรณีการให้สัมภาษณ์หรือการพูดในงานสัมมนาต่างกรรมต่างวาระของคนในพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะการให้สัมภาษณ์ของนายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ โฆษก นปช. ที่เคยให้สัมภาษณ์ว่าไม่เห็นด้วยกับมาตรา 112 และต้องการแก้ไข แต่ตอนนี้มาคัดค้านการแก้ไขมาตรา 112 เพื่อต้องการชิ่งหนีกลุ่มนิติราษฎร์หลังจากที่มีกระแสต่อต้านที่ทิ้งเรือเอาตัวรอดไม่สมกับความเป็นลูกผู้ชาย พร้อมกันนี้นายชวนนท์ได้เปิดคลิปการยืนยันการให้สัมภาษณ์ของนายวรวุฒิด้วย
ด้านสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เสนอผลวิจัยเชิงสำรวจ "เรื่องใหญ่โตของประเทศที่ทุกคนต้องช่วยกัน" กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทั่วไปใน 17 จังหวัดของประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 2,572 ครัวเรือน ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 15–28 มกราคม 2555
พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 93.4 รู้สึกเป็นห่วงมากถึงมากที่สุดต่อการรณรงค์ปลุกระดมของกลุ่มคนที่จ้องทำลายสถาบันหลักของชาติ และกว่าร้อยละ 80.6 ยังคงเป็นห่วงมากถึงมากที่สุดต่อความขัดแย้งแตกแยกรุนแรงของคนในชาติ ในขณะที่กว่า 2 ใน 3 หรือร้อยละ 71.8 รู้สึกว่าประเทศไทยมีแต่เรื่องวุ่นวายไม่จบสิ้น ประเทศเพื่อนบ้านกำลังพัฒนาไปได้ด้วยดี

"ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งคือ ผลสำรวจพบว่ามีทัศนคติอันตรายยอมรับได้ ถ้ารัฐบาลทุจริตคอรัปชั่น แต่ทำให้ตนเองได้ผลประโยชน์ด้วย โดยมีกลุ่มข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 64.0 ที่มีทัศนคติอันตรายเช่นนั้นและกลุ่มคนรุ่นใหม่หรือนักเรียนนักศึกษามีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 56.2 ที่มีทัศนคติอันตรายเช่นกัน โดยในการศึกษาครั้งนี้ยังพบด้วยว่ากลุ่มตัวอย่างร้อยละ 68.9 คิดว่าการทุจริตคอรัปชั่นเป็นเรื่องปกติธรรมดาในการทำธุรกิจ" ผลสำรวจระบุ.

กบในกะลายังมีจริง