เผด็จการ คืนชีพ !!
#1
ตอบ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 21:11
ในขณะ ที่คนส่วนใหญ่ กำลังสับสนอลหม่านกับปัญหาน้ำท่วม จนแทบจะไม่มีข่าวอื่นปรากฎในสื่อ คณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้(๑๘) ก็มีมติเห็นชอบ ร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ.๒๕๕๐ ของกระทรวงวัฒนธรรมโดยเนื้อหาสาระต้องนับว่า เลวร้ายไม่แตกต่างจากกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสื่อในยุคเผด็จการ
โดยเฉพาะ พ.ร.บ.การพิมพ์ พ.ศ.๒๔๘๕ ที่ยกเลิกไปด้วยผลของการตราใช้บังคับ พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ.๒๕๕๐ ร่างกฎหมายฉบับนี้ ได้ถ่ายโอนอำนาจเจ้าพนักงานการพิมพ์ ตาม พ.ร.บ.การพิมพ์ มาเป็นอำนาจของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) โดยให้อำนาจ ผบ.ตร. มีอำนาจครอบจักรวาล ซึ่งล้วนเป็นการแทรกแซงและลิดรอนสิทธิ เสรีภาพสื่อทั้งสิ้น น่าสังเกตุว่าการเสนอกฎหมายนี้ ผู้ประกอบวิชาชีพไม่ได้มีส่วนรู้เห็นก่อนหน้านี้เลย
สาระ สำคัญของร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ ที่ให้อำนาจ ผบ.ตร.และน่าจะเป็นประเด็นขัดแย้งสำคัญ คือการให้อำนาจออกคำสั่ง ห้ามพิมพ์ เผยแพร่ ส่งเข้าหรือนำเข้าเพื่อเผยแพร่ในราชอาณาจักร ซึ่งสิ่งพิมพ์หรือหนังสือพิมพ์ ที่กระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี เรื่องอื่นๆนั้น มีกฎหมายเดิมบัญญัติไว้ชัดแจ้งแล้ว แต่การตีความว่า อย่างไรถึงจะถือว่าเป็นความมั่นคง ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี เป็นเรื่องที่ตีความได้กว้างมาก
ประเด็นเหล่านี้ เคยเป็นประเด็นที่รัฐยุคเผด็จการใช้เป็นเครื่องมือปิดหนังสือพิมพ์ที่เป็น ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล โดยอ้างความมั่นคงแห่งรัฐ ทั้งที่หลายกรณีเป็นความมั่นคงของรัฐบาลเอง
ความ เลวร้ายอีกข้อหนึ่งของร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ การกำหนดโทษทางอาญาแก่ผู้ฝ่าฝืนคำสั่งของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรณีสั่งห้ามพิมพ์ เผยแพร่ สิ่งพิมพ์ที่กระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และความมั่นคงของชาติ โดยกำหนดโทษ จำคุกไม่เกิน ๓ ปี ปรับไม่เกิน ๑ แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจากนี้ไป จะเป็นผู้ที่มีบทบาทและอิทธิพลต่อผู้ประกอบวิชาชีพสิ่งพิมพ์อย่างยิ่ง ยิ่งเสียกว่า “เจ้าพนักงานการพิมพ์” ตามกฎหมายเดิม
ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจะแต่งตั้งให้อธิบดีกรมตำรวจ ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล เป็นเจ้าพนักงานการพิมพ์ในกรุงเทพ และผู้ว่าราชการจังหวัดในต่างจังหวัด ส่วนอัตราโทษ จะสูงกว่ากฎหมายอาญาว่าด้วยการหมิ่นประมาท ซึ่งกำหนดโทษจำคุกไม่เกิน ๒ ปี
จะ เรียกว่าเป็นการโยนหินถามทาง เจตนาจะข่มขู่ให้สื่อหวาดกลัว หรือเป็นปฎิบัติการลิ้นต่อลิ้น ฟันต่อฟัน หลังจากนายวิม รุ่งวัฒนะจินดา โฆษกน้ำท่วม ถูกสื่อฟ้องฐานหมิ่นประมาท หรือไม่ก็ตาม แต่ร่างแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ เป็นภาพสะท้อนแนวคิดเผด็จการอย่างชัดแจ้ง อีกทั้งขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ที่ห้ามมิให้มีการสั่งปิดกิจการหนังสือพิมพ์ เพื่อลิดรอนเสรีภาพ การห้ามหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนอื่น เสนอข่าวสารหรือแสดงความคิดเห็นทั้งหมดหรือบางส่วน ห้ามไม่ให้นำข่าวหรือบทความไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจก่อนนำไปโฆษณาในหนังสือ พิมพ์
นี่เป็นประเด็นสำคัญที่รัฐบาลนี้พยายามเข้ามามีอิทธิพลครอบงำสื่อ หลังจากสร้างความหวาดระแวงในหมู่สื่อมวลชนให้เกิดขึ้นมาแล้ว
http://www.oknation....1/10/19/entry-1
#2
ตอบ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 21:14
#3
ตอบ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 21:15
#4
ตอบ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 21:24
และกำลังรอดูว่ามันจะว่ายังไงกับเรื่องนี้
#5
ตอบ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 21:29
แทรกแซงทุกโครงการ "เสียอย่างเดียวงานตัวเองไม่ค่อยจะทำ"
ออกกฎหมายมาขัดกับรัฐธรรมนูญระวังจะโดนไม่ใช่น้อยนะจ๊ะ
เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<
#6
ตอบ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 21:36
ถ้าขืนออกมาจริงคงต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัดต่อเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญหรือเปล่า
#7
ตอบ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 21:39
เราตระกูลชินจัง ขอยก ฐานะ เสื้อแดง จาก ไพร่ เป็น ควายแดง ณ.บัดนี้
ถึงแม้ พ่อแม่ เองจะให้ฐานะความเป็น คน มาแต่กำเนิดก็ตาม
#8
ตอบ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 23:04