รายงานสถานการณ์น้ำ 2555
#1
ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 20:50
POPULAR
จะสู้ หรือจะถอย จะท่วมหรือจะแล้ง..อนาคตตอบไม่ได้..ปัจจุบันทำให้ดีที่สุด
มิใช่กระต่ายตื่นตูม...แต่ป้องกันไว้คงไม่เสียหลาย...ยังไง ๆ ก็เข้าหน้าฝนแล้ว
สักนิด..ก็ไม่เป็นไรกระมั่ง...
และหวังว่าปีนี้..คงมิต้องติดเกาะเหมือนปีที่ผ่านมา
ขอประเดิมด้วย สรุป สถานการณ์อุทกภัย 2554
ที่มา : คลังข้อมูลสภาพน้ำ
บันทึกเหตุการณ์มหาอุทกภัยปี 2554
http://www.thaiwater...nt/flood54.html
บันทึกเหตุการณ์อุทกภัย 2554 ในทุก ๆ ประเด็นโดยละเอียดไม่ว่าจะเป็น
- สรุปเหตุกาณณ์
- ปัจจัยส่งผลให้เกิดอุทกภัย
- พืนที่ประสบภัย
- ความเสียหาย
- ข้อเท็จจริงจากอุทกภัย
- ตามงคล, overtherainbow, พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน and 17 others like this
#3
ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 21:10
น้ำหลากทุ่งนี่แหละที่ช่วยไทยรบพม่าในอดีต
- bird, อสูรนิรนาม, SPDZ and 1 other like this
#4
ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 21:17
#5
ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 21:24
เพราะเท่าที่ผมตามข่าวช่วงนั้นมามันก็ไม่ใช่ตัวเลขนี้
(อาจมีการตกแต่งตัวเลขหรืออย่างไร ผมก็ไม่ทราบได้)
จาก Link นะครับ http://www.biothai.net/news/11409
ข้อมูลใหม่ "มหาอุทกภัยปี54 " ปริมาณฝนมากแค่อันดับ 3 ในช่วงรอบครึ่งศตวรรษ
ปริมาณฝนโดยรวมทั้งประเทศในเดือนมีนาคม ปี 54 มีปริมาณมากที่สุดในรอบ 36 ปี (2519-2554)
และหลายพื้นที่มีปริมาณฝนมากที่สุดใน 24 ชั่วโมง สูงกว่าสถิติเดิมและอุณหภูมิต่ำสุดรายวันต่ำกว่าสถิติเดิมที่เคยตรวจวัดได้ของเดือนเดียวกัน
"สภาวการณ์ดังกล่าวถือว่าผิดปกติจากที่เคยเป็น" รายงานระบุ..
ตรงนี้เห็นได้ว่าตอนมาร์คอยู่น่ะเจอฝนหนักสุดครับ แต่ก็ยังประคองสถานการณ์ไว้ได้
ความเดือดร้อนถูกจำกัดวงอยู่
แต่พอมาถึงรัฐบาลนี้ ฝนก็ไม่ทิ้งช่วง มีการกักน้ำไม่ให้ลงมาก่อนเก็บเกี่ยว รัฐบาลไร้เดียงสา
มันก็เลยพากันท่วมเละทั้งประเทศ
รายงานสรุปว่า ภัยพิบัติทางธรรมชาติในปี 2554 ที่เกิดขึ้นนับว่ารุนแรงที่สุดเท่าที่เคยปรากฏ
และเมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศไทย ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนกันยายนปรากฎว่า
ปริมาณฝนรวมทั้งประเทศสูงกว่าค่าปกติประมาณ 32% ซึ่งสูงกว่าทุกปีที่เคยตรวจวัดมา
เทียบกับอันดับ 2 ในปี พ.ศ.2596 สูงกว่าค่าปกติ 27% และอันดับ 3 ในปี พ.ศ.2513 สูงกว่าค่าปกติ 23%
แต่เมื่อพิจารณาเฉพาะช่วงฤดูฝน (พฤษภาคม-กันยายน) ปรากฏว่าปี 2554 ประเทศไทยมีปริมาณฝนมากกว่าค่าปกติ 20% อยู่ในอันดับ 3
ขณะที่ปี 2513 และปี 2499 ปริมาณฝนสูงกว่าค่าปกติ 24% และ 21% เป็นอันดับ 1 และ 2 ตามลำดับ..
จะเห็นว่าต้นปีถึงกันยาสูงขึ้น 32% แต่ถ้านับเฉพาะที่ยิ่งลักษณ์เจอมันแค่ 20% เท่านั้น
แปลว่าตอนอภิสิทธิ์เจอน่ะหนักหนาสุดๆครับน่าจะถึง 40-50% ด้วยซ้ำเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปีมันถึงได้สูงขนาดนั้น
- bird, ทรงธรรม, ผ่านมาผ่านไป and 1 other like this
วิธีการยุติระบอบทักษิณ
ก็แค่เพียงทำให้คนไทยส่วนใหญ่ "ฉลาด"
#6
ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 21:42
ผมเป็นแฟนคลับ แคนไท , ริดกุน , เช neverdie , eAT , Moon , tonythebest [/color][color=#0000FF;], -3- , Limmy , amplepoor , ติ๊บไตบูชาเงิน . เด็กปากดี , โจโฉ นายกตลอดกาล , อารยา, ตะนิ่นตาญี , ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่
พอดีผมลืม password เก่า และ e-mail ที่ใช้สมัครครับก็เลยจำเป็นต้องสมัครใหม่
#7
ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 22:14
คลองรังสิตแห้ง บ้านปลูกริมคลอง มองเห็นโคนเสาแล้ว อิอิ
ดูท่าว่าปีนี้..คลองรังสิตจะปลอดภัยจากอุทกภัยหล่ะค่ะ...
ยังไงก็..รบกวนวัดความสูงของเสาไว้ด้วยน่ะค่ะ ถ้าเผื่อท่วมจะได้ประมาณ
ได้ว่า..สักกี่เมตร..
#9
ตอบ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 22:19
ผมว่าข้อมูลปริมาณน้ำฝนของเว็บ Thaiwater ที่ว่าสูงกว่าปรกติถึง 35% นั้นอาจไม่จริงนะครับ
เพราะเท่าที่ผมตามข่าวช่วงนั้นมามันก็ไม่ใช่ตัวเลขนี้
(อาจมีการตกแต่งตัวเลขหรืออย่างไร ผมก็ไม่ทราบได้)
จาก Link นะครับ http://www.biothai.net/news/11409
ข้อมูลใหม่ "มหาอุทกภัยปี54 " ปริมาณฝนมากแค่อันดับ 3 ในช่วงรอบครึ่งศตวรรษ
ปริมาณฝนโดยรวมทั้งประเทศในเดือนมีนาคม ปี 54 มีปริมาณมากที่สุดในรอบ 36 ปี (2519-2554)
และหลายพื้นที่มีปริมาณฝนมากที่สุดใน 24 ชั่วโมง สูงกว่าสถิติเดิมและอุณหภูมิต่ำสุดรายวันต่ำกว่าสถิติเดิมที่เคยตรวจวัดได้ของเดือนเดียวกัน
"สภาวการณ์ดังกล่าวถือว่าผิดปกติจากที่เคยเป็น" รายงานระบุ..
ตรงนี้เห็นได้ว่าตอนมาร์คอยู่น่ะเจอฝนหนักสุดครับ แต่ก็ยังประคองสถานการณ์ไว้ได้
ความเดือดร้อนถูกจำกัดวงอยู่
แต่พอมาถึงรัฐบาลนี้ ฝนก็ไม่ทิ้งช่วง มีการกักน้ำไม่ให้ลงมาก่อนเก็บเกี่ยว รัฐบาลไร้เดียงสา
มันก็เลยพากันท่วมเละทั้งประเทศ
รายงานสรุปว่า ภัยพิบัติทางธรรมชาติในปี 2554 ที่เกิดขึ้นนับว่ารุนแรงที่สุดเท่าที่เคยปรากฏ
และเมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศไทย ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนกันยายนปรากฎว่า
ปริมาณฝนรวมทั้งประเทศสูงกว่าค่าปกติประมาณ 32% ซึ่งสูงกว่าทุกปีที่เคยตรวจวัดมา
เทียบกับอันดับ 2 ในปี พ.ศ.2596 สูงกว่าค่าปกติ 27% และอันดับ 3 ในปี พ.ศ.2513 สูงกว่าค่าปกติ 23%
แต่เมื่อพิจารณาเฉพาะช่วงฤดูฝน (พฤษภาคม-กันยายน) ปรากฏว่าปี 2554 ประเทศไทยมีปริมาณฝนมากกว่าค่าปกติ 20% อยู่ในอันดับ 3
ขณะที่ปี 2513 และปี 2499 ปริมาณฝนสูงกว่าค่าปกติ 24% และ 21% เป็นอันดับ 1 และ 2 ตามลำดับ..
จะเห็นว่าต้นปีถึงกันยาสูงขึ้น 32% แต่ถ้านับเฉพาะที่ยิ่งลักษณ์เจอมันแค่ 20% เท่านั้น
แปลว่าตอนอภิสิทธิ์เจอน่ะหนักหนาสุดๆครับน่าจะถึง 40-50% ด้วยซ้ำเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปีมันถึงได้สูงขนาดนั้น
จะสูงเกินไป หรือ จะต่ำเกินไป ไม่เป็นปัญหาค่ะ แค่มีข้อมุลไว้ศึกษาก็รู้สึกขอบคุณทีมงานและผู้จัดเก็บ
รวบรวมข้อมูลอย่างสูงแล้วหล่ะค่ะ..ก็คิดซะว่า..เอาไว้เป็นข้อมูลประกอบสำหรับการตัดสินใจของแต่ละ
ท่านในปี 2555 น่ะค่ะ...
ยังไงก็ ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ
- คลำปม likes this
#10
ตอบ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 10:54
ตอนนี้กำหนดพื้นที่ฟลัดเวย์หรือยังอ่ะ
#11
ตอบ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 12:53
- bird likes this
#12
ตอบ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 13:23
แต่ไอ้เวรตะไลที่ไหนไม่ยอมปล่อยมาก่อนที่มันจะล้น
มัวแต่ไปเตะบอลอยู่น่ะสิ
ท้ายเขื่อนป่าสักเขาบอกว่ายอมให้ท่วมตั้งแต่เนิ่นๆต่ำๆดีกว่าท่วมช้าแต่มาสูงทีเดียวมิด
ทำไมไม่ขายข้าว? ข้าวไม่มีขาย คำตอบจาก ศรเพขร ศรสุพรรณ
#13
ตอบ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 13:35
ช่วงนี้ คนเป่านกหวีดเสียงดังกันเยอะ ปีนี้เลยกลายเป็น " ปี แสบ หู "
#14
ตอบ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 13:42
เมื่อวานนี้ ( พฤหัส 17 พ.ค. 2555) เวลา บ่ายอ่อนๆ ถนนศรีนครินทร์ตัดทางรถไฟหัวหมาก
- bird likes this
Making you happy is not my priority! - Michael Yon
#15
ตอบ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 14:24
ตามมาติดๆ
ตอนนี้กำหนดพื้นที่ฟลัดเวย์หรือยังอ่ะ
ที่พิจิตร มีการกำหนดพื้นที่รับน้ำแล้ว ช่วงค่ำจะลงรายละเอียดให้น่ะค่ะ
- overtherainbow likes this
#16
ตอบ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 14:26
จาก page นี้ค่ะ ยอด นครสี่ห้า
เมื่อวานนี้ ( พฤหัส 17 พ.ค. 2555) เวลา บ่ายอ่อนๆ ถนนศรีนครินทร์ตัดทางรถไฟหัวหมาก
แบบนี้ท่าจะมีแวว ปี่นี้น้องน้ำจะมาเยือนน่ะค่ะเนี้ย
ขอบคุณสำหรับข้อมูลน่ะค่ะ
#17
ตอบ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 14:30
#18
ตอบ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 14:31
#19
ตอบ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 14:48
#20
ตอบ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 14:53
คณะกรรมการยุทธศาสตร์ กยน จัดหาพื้นที่ที่จะทำเป็นพื้นที่แก้มลิงปกป้องพื้นที่เศรษฐกิจ
ซึ่งรวมทั้งสิ้นจำนวน 3.7 ล้านไร่ รวมทั้งปรับปรุงให้สามารถเพิ่มผลิตผลด้านเกษตรกรรม
ประมง ฯลฯ งบดำเนินการ 60,000 ล้านบาท
โครงการแก้มลิง จะแบ่งเป็นพื้นที่ทุ่งนาในพื้นที่ลุ่มต่ำสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเหนือจังหวัด
นครสวรรค์ จำนวน 1 ล้านไร่ และพื้นที่ทุ่งนาเจ้าพระยาตอนล่างอีก 2.7 ล้านไร่ ซึ่งเป็นที่
ที่มีศักยภาพ และมีระบบชลประทานควบคุมน้ำไหลเข้าและไหลออกได้ และสามารถระบาย
ออกได้อย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้ปริมาณน้ำในพื้นที่รับน้ำเหล่านี้มีปริมาณน้ำที่สูงเกินไป
ประสิทธิภาพของการทำแก้มลิงจะช่วยให้บริหารจัดการน้ำได้ชัดเจน สามารถชะลอน้ำที่
หลากมาให้ออกไปช้า เพื่อใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพ เช่น ในช่วงที่น้ำหลาก สามารถ
เลี้ยงปลา ทำการประมงแทนการปลูกข้าวได้
นายสมเกียรติ ประจำวงศ์ ผอ.สำนักบริหารโครงการชลประทานขนาดใหญ่ กรมชลประทาน
ในฐานะคณะทำงานจัดหาพื้นที่รับน้ำนอง กล่าวว่า
" ศักยภาพของพื้นที่ดังกล่าวสามารถพักน้ำไว้ได้ 3 เดือนโดยเฉลี่ยความลึกแต่ละพื้นที่ไม่เท่ากัน
ตั้งแต่ระดับ 50 เซนติเมตรถึง 2.50 เมตร หากเกิดพายุ 2 ลูก เข้าประเทศไทย ปริมาณน้ำจะไม่สูง
มากจนทำให้ประชาชนเดือดร้อน เพราะได้เฉลี่ยน้ำอยู่ในทุ่งถึง 19 จังหวัด รับปริมาณน้ำ 5,000
ล้านลูกบาศก์เมตร "
พื้นที่แก้มลิงใน 19 จังหวัดนั้น ประกอบไปด้วย 609 ตำบล คือ
กำแพงเพชร มีพื้นที่รับน้ำ 3 อำเภอ 5 ตำบล
ฉะเชิงเทรา 2 อำเภอ 8 ตำบล
ชัยนาท 4 อำเภอ 25 ตำบล
นครนายก 1 อำเภอ 5 ตำบล
นครปฐม 3 อำเภอ 27 ตำบล
นครสวรรค์ 7 อำเภอ 39 ตำบล
ปทุมธานี 3 อำเภอ 6 ตำบล
พระนครศรีอยุธยา 14 อำเภอ 143 ตำบล
พิจิตร 10 อำเภอ 61 ตำบล
พิษณุโลก 6 อำเภอ 38 ตำบล
ลพบุรี 3 อำเภอ 34 ตำบล
สมุทรปราการ 1 อำเภอ 6 ตำบล
สระบุรี 7 อำเภอ 28 ตำบล
สิงห์บุรี 6 อำเภอ 43 ตำบล
สุโขทัย 5 อำเภอ 7 ตำบล
สุพรรณบุรี 7 อำเภอ 52 ตำบล
อ่างทอง 7 อำเภอ 73 ตำบล
อุตรดิตถ์3 อำเภอ 7 ตำบล
อุทัยธานี 1 อำเภอ 2 ตำบล
นอกจากนี้ กรมชลประทาน ได้สรุปพื้นที่รับน้ำมีการจัดสรร 13 พื้นที่ ซึ่งอยู่ในบริเวณลุ่มน้ำ
เจ้าพระยาตอนบน ประกอบด้วย
1.บึงบอระเพ็ด 500 ตารางกิโลเมตร
2.ชุมแสง-เก้าเลี้ยว – อ.เมืองนครสวรรค์ 200 ตารางกิโลเมตร
3.ตะพานหิน-บางมูลนาค-โพทะเล 400 ตารางกิโลเมตร
4.อ.เมืองพิจิตร-อ.โพธิ์ประทับช้าง 350 ตารางกิโลเมตร
5.อ.บางกระทุ่ม 350 ตารางกิโลเมตร
และบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ประกอบด้วย
1.อ.บางบาล(1) 500 ตารางกิโลเมตร
2.ป่าโมก-ผักไห่ 69 ตารางกิโลเมตร
3.ผักไห่-บางยี่หน 350 ตารางกิโลเมตร
4.บางบาล(2) 160 ตารางกิโลเมตร
5.ดอนพุด-มหาราช 200 ตารางกิโลเมตร
6.ภูเขาทอง-บางปะหัน 160 ตารางกิโลเมตร
7.ไชโย-บ้านแพรก 200 ตารางกิโลเมตร
8.อ่างทองตะวันตก 100 ตารางกิโลเมตร
อย่างไรก็ดี การทำโครงการพื้นที่แก้มลิง จะต้องประกาศเป็นกฎหมายตามอำนาจของนายกรัฐมนตรี
เพื่อที่สามารถใช้อำนาจบังคับให้เกษตรกรพักทำการเกษตรในพื้นที่รับน้ำนองเป็นเวลา 3 เดือน เช่น
ออกเป็นมติ ครม.รองรับห้ามเกษตรกรทำนา และประชุมชี้แจงให้ราษฎร เกษตรกรเกิดความเข้าใจ
และเห็นถึงความจำเป็นต้องใช้พื้นที่ดังกล่าวในการเก็บกักน้ำ ปรับปรุงคันปิดล้อมพื้นที่เกษตรชลประทาน
รวมทั้ง ปรับปรุงประตูน้ำ คลองระบายน้ำ เส้นทางน้ำหลาก สถานีสูบน้ำออก ให้พร้อมใช้งานในการควบคุม
การนำน้ำเข้า และการระบายน้ำ
นอกจากนี้ต้องมีการอนุมัติจ่ายเงินเยียวยา เนื่องจากพื้นที่ดำเนินการคือ พื้นที่เกษตรชลประทาน
ในพื้นที่น้ำท่วมถึง (floodplain) ประกอบด้วย พื้นที่ที่ตั้งอยู่เหนือนครสวรรค์ ประมาณ 1ล้านไร่และ
พื้นที่ที่ตั้งอยู่เหนืออยุธยาประมาณ 1ล้านไร่
- overtherainbow likes this
#21
ตอบ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 14:55
" ประกาศบอยคอต ช่อง 3 ไม่ว่าจะข่าว ละคร หรือการ์ตูนลูก กรูไม่ดู !!! "
#22
ตอบ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 15:04
หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.
#23
ตอบ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 15:29
มีใครทราบความคืบหน้าการสร้่างคันกั้นน่ำป้องกันนิคมอุตสาหกรรมต่างๆมั้ยครับ??
นิคมโรจนะ ค่ะ
http://fpw.itd.co.th/porgress.html
#24
ตอบ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 15:50
#25
ตอบ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 20:31
เห็นกู้มาป้องกันน้ำท่วม ???
นั่นซีคะเห็นกู้มาป้องกันน้ำท่วม ???
#26
ตอบ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 08:59
ร่วมด้วยช่วยกัน..เฝ้าระวังน่ะค่ะ
น้ำท่วมสุโขทัยอ่วม - ประตูน้ำพังเร่งช่วย ปชช. (ไอเอ็นเอ็น)
น้ำเหนือไหลบ่ากัดเซาะดินประตูระบายน้ำคูหาสุวรรณ ทะลักเข้าท่วม 3 ชุมชน ตัวเมืองสุโขทัย เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือด่วนแล้ว
ปริมาณน้ำเหนือรวมกับน้ำฝนที่ตกสะสมต่อเนื่องมาหลายวัน ส่งผลให้ระดับน้ำใน แม่น้ำยม ที่ อ.เมืองสุโขทัย ในวันนี้ (11 มิถุนายน) สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยวัดได้ 7.20 เมตร ที่จุดวัดน้ำหน้าจวนผู้ว่าราชการ จ.สุโขทัย กระแสน้ำที่เชี่ยวได้กัดเซาะดินด้านล่างของประตูระบายน้ำชุมชนคูหาสุวรรณ ทำให้เกิดโพรงน้ำทะลุเข้าทางห้องครัว ร้านอาหารเฟื้องฟ้าเสียหาย และทะลักเข้าท่วมในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ฝั่งตะวันตก ใน 3 ชุมชน คือ ชุมชนวัดคูหาสุวรรณ ชุมชนราชธานี และชุมชนคลองโพธิ์ ร้านค้าและเกสต์เฮ้าส์ในระแวกนั้น ต่างได้รับความเดือดร้อน เร่งเก็บข้าวของหนีน้ำกันอย่างโกลาหล และน้ำจากแม่น้ำยมยังไหลเข้าท่วมสนามกีฬาโรงเรียนวัดคูหาสุวรรณ ส่วนอาคารเรียนนั้น ยังอยู่ในระดับสูง ไม่ส่งผลกระทบ ทางด้านเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ได้เร่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าปิดทางน้ำ โดยใช้ไม่ยูคาต่อเป็นแนว เสริมด้วยกระสอบทรายอัดลงไป ในเบื้องต้นยังไม่สำเร็จในขณะนี้
#27
ตอบ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 09:04
กันไว้ดีกว่าแก้ค่ะ...ไม่เสียหลายหรอกค่ะ
#28
ตอบ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 09:08
#30
ตอบ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 09:11
#31
ตอบ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 09:13
วันนี้สำนักการระบายน้ำทำความสะอาดท่อฯถ.ประชาราษฎร์บำเพ็ญ 2 ฝั่ง หน้าร.ร.จันทร์หุ่น,และเขตห้วยขวาง,
ถ.ลาดพร้าว 64แยก4, แยก 10 เวลา 09.00-15.00 น. คืนนี้เวลา 22.00-แล้วเสร็จ
รถดูดเลนถ.นวมินทร์ ค.บางเตย-ค.ลำพังพวย ขออภัยในความไม่สะดวก
#32
ตอบ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 09:30
น้ำท่วมสุโขทัยขยายวงกว้าง-พิจิตรยังวิกฤติ
วันพุธ ที่ 13 มิ.ย. 2555
สุโขทัย 13 มิ.ย.- เทศบาลเมืองสุโขทัยธานี เร่งซ่อมแซมขอบประตูระบายน้ำที่พังเสียหาย ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดพิจิตรยังวิกฤติ
ระดับน้ำในแม่น้ำยม ที่จังหวัดสุโขทัย ลดลงอย่างช้าๆ ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมตามจุดต่างๆ เริ่มคลี่คลาย ยกเว้นบริเวณบ้านวังโพธิ ตำบลยางซ้าย และบ้านลัดทรายมูล ตำบลตากพระ อำเภอเมือง ที่ถนนและคันดินริมตลิ่งพัง ทำให้น้ำในแม่น้ำยมยังทะลักเข้าท่วมพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และขยายวงกว้าง นาข้าวกว่าหมื่นไร่เสียหาย ขณะเดียวกันเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี เร่งซ่อมแซมคอประตูระบายน้ำชุมชนวัดคูหาสุวรรณ ที่ถูกน้ำกัดเซาะจนพังเสียหายเมื่อ 2 วันก่อน ล่าสุดพบว่าดำเนินการได้แล้วเสร็จ ซึ่งอยู่ระหว่างสูบน้ำจากพื้นที่ท่วมขัง ระบายลงแม่น้ำยม
ส่วนที่จังหวัดพิจิตร น้ำท่วมยังวิกฤติ หลังน้ำในแม่น้ำยมจากภาคเหนือไหลลงมาสมทบกับน้ำป่า ที่หลากตามลำคลองจากจังหวัดกำแพงเพชร และเอ่อทะลักเข้าท่วมพื้นที่ตำบลรังนก อำเภอสามง่าม บางจุดระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ชลประทานจังหวัดพิจิตร ได้ประสานไปยังสำนักชลประทานที่ 3 ให้เพิ่มระดับการผันน้ำจากแม่น้ำยม ให้ไหลลงคลองชลประทาน ที่เชื่อมต่อระหว่างแม่น้ำยมกับแม่น้ำน่าน หวังลดผลกระทบและคลี่คลายสถานการณ์.
ที่มา สำนักข่าวไทย
#33
ตอบ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 10:52
กรมอุตุนิยมวิทยา มีคำเตือนในพื้นที่ภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคใต้ฝั่งตะวันตก
ที่จะมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง
จ.สุโขทัย :-
ระดมกำลังเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานช่วยอพยพชาวบ้าน 2 หมู่บ้านออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยด่วน หลัง
คันดินกั้นน้ำยมพังนับ 100 เมตร ทำน้ำทะลักท่วมลึกสุดกว่า 2 เมตร เผยหลายชุมชนกลางเมืองยังใช้
ชีวิตกลางน้ำต่อ ขณะที่โรงเรียนวัดคูหาสุวรรณต้องปิดการเรียนการสอน 3 วัน
สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.สุโขทัย วันนี้ (12 มิ.ย.) ยังไม่พ้นวิกฤต หลังแนวคันดินกั้นแม่น้ำยม บริเวณ
หมู่ 5 ต.ยางซ้าย อ.เมืองสุโขทัย ถูกกระแสน้ำกัดเซาะพังเป็นทางยาว 100 เมตร ส่งผลให้มวลน้ำทะลัก
เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรหมู่ 5 ต.ยางซ้าย และหมู่ 2 ต.ปากพระ ที่อยู่ติดกัน บางจุดระดับน้ำท่วมลึกกว่า
2 เมตร ชาวบ้าน 120 ครอบครัว หรือกว่า 350 คนกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก
ล่าสุดนายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อำเภอเมืองสุโขทัย
พร้อมด้วยป้องกันจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผสานกำลังร่วมกับตำรวจตระเวนชายแดน ค่าย
รามคำแหง จังหวัดทหารบกพิษณุโลก และเจ้าหน้าที่กู้ภัยข่าวภาพ ให้ช่วยกันเร่งขนย้ายทรัพย์สินมีค่า
พร้อมอพยพชาวบ้านจำนวน 21 ครอบครัวที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงอันตรายกลางกระแสน้ำยม ให้หนีมาพัก
อาศัยอยู่ในเต็นท์ชั่วคราวบริเวณริมถนนสายปากพระ-ยางซ้าย เพื่อความปลอดภัยแล้ว
ขณะที่ชุมชนคลองโพธิ์ และชุมชนคูหาสุวรรณ เขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ราษฎรหลายร้อยชีวิต
ยังคงได้รับความเดือดร้อนต่อเนื่อง และยังต้องเดินลุยน้ำเข้าออกจากบ้านทุกวัน ส่วนโรงเรียน
วัดคูหาสุวรรณนั้นได้มีการสั่งหยุดเรียนชั่วคราวแล้ว 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 12-14 มิถุนายน 55
จ.พิษณุโลก :-
“ปู-ยิ่งลักษณ์” ทัวร์ซ้ำ “บางระกำโมเดล” 13 มิถุนายนนี้ หลังส่ง รมต.ประจำสำนักนายกฯ
ตรวจล่วงหน้า ขณะที่ชาวนาบางระกำ กลับซวยซ้ำซ้อนอีกปี ต้องเกี่ยวข้าวเขียวหนีน้ำท่วม
ขาดทุนยับหมดโอกาส จำนำข้าวเปลือก เหตุน้ำล้นจาก “คลองเกตุ คลองกล่ำ” ที่ชลประทาน
กำลังขุดลอกเอ่อท่วมทั้งเวิ้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพิษณุโลกว่า ตามกำหนดการทัวร์นกขมิ้นปีนี้ (2555) ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์
นายกรัฐมนตรี และคณะ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมจากปลายน้ำ กลางน้ำ และต้นน้ำ เบื้องต้นระหว่าง 11-
14 มิถุนายน 55 นั้น หลังตรวจงาน จ.สิงห์บุรี และพักค้างที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท เช้าวันที่ 13
มิถุนายน 55 จะออกเดินทางจากเขื่อนเจ้าพระยา เดินทางด้วยขบวนรถยนต์ระยะทาง 200 กม. ไป
ติดตามการขุดลอกคูคลองแก้ปัญหาน้ำท่วมถึงคลองเมม และงานขุดลอกบึงขี้แล้ง อ.บางระกำ
จ.พิษณุโลก
จากนั้นจะเดินทางต่อไปยัง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย และเดินทางต่อไปที่เขื่อนภูมิพล จ.ตาก ค้างแรม
และขึ้นเชียงใหม่ต่อไป ขณะที่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำ
สำนักนายกรัฐมนตรี และคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามความก้าวหน้าผลการดำเนินงานป้องกันและ
บรรเทาปัญหา อุทกภัยระยะเร่งด่วน
การขุดลอกบึงขี้แร้ง พื้นที่ ต.บางระกำ อ.บางระกำ 1 ใน 3 บึงหลักที่จะทำการขุดลอกคือ บึงระมาณ
บึงขี้แร้ง และบึงตะเคร็ง รวมพื้นที่ 3,217 ไร่ งบประมาณ 629 ล้านบาท ที่หากดำเนินการแล้วเสร็จจะ
สามารถรองรับน้ำในลุ่มน้ำยม 32 ล้าน ลบ.ม.
นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า ตรวจงานโครงการแก้มลิงทั้ง 3 บึงเพราะลุ่มน้ำยมไม่มีเขื่อน ต้นน้ำยมจะมี
ขนาดกว้างรับน้ำได้ปริมาณมาก แต่ปลายน้ำลงมาที่ จ.สุโขทัย พิษณุโลก และ จ.พิจิตร มีลักษณะเป็น
คอขวดทำให้น้ำหลากท่วมเป็นประจำทุกปี ประกอบกับแหล่งกักเก็บน้ำห้วย หนอง คลอง บึง ก็ตื้นเขิน
รัฐบาลจึงมีนโยบายให้มีการขุดลอกพื้นที่แหล่งน้ำธรรมชาติให้เป็นแก้มลิง
อย่างไรก็ตาม ขณะที่นายกรัฐมนตรีผู้ดำริ “บางระกำโมเดล” แก้ปัญหาน้ำท่วม กำลังจะเดินทางมา
ตรวจความคืบหน้าโครงการนั้น ล่าสุดชาวบางระกำ ก็จำต้องเร่งเกี่ยวข้าวหนีน้ำ ท่วมซ้ำซากกันอีกครั้ง
เพราะน้ำในคลองเกตุซึ่งเป็นหนึ่งในหลายคลองที่ชลประทานกำลังขุดลอก ตามโครงการบางระกำ
โมเดลกำลังล้นตลิ่ง
ทำให้น้ำท่วมนากว่า 2,000 ไร่ เจ้าของนาต้องตัดใจยอมเกี่ยวข้าวเขียวขายในราคาตันละ 4,600 บาท
หวังคืนทุนบ้าง ขณะที่โครงการรับจำนำข้าวเปลือกให้สูงกว่าตันละ 9,000 บาท ก็ไม่แน่ใจว่าจะได้รับเงิน
เมื่อใด
นายธวิทย์ เหลือสิงบุญ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้าน ตะแบกงาม ต.ชุมแสงสงคราม กล่าวว่า ปีนี้น้ำเหนือมาเร็ว
ทำให้น้ำในคลองเกตุ คลองกล่ำ ที่ทางกรมชลประทานกำลังขุดลอกตามแนวทาง “บางระกำโมเดล”
ยังไม่แล้วเสร็จ เหลือเพียง 2 กิโลเมตรเท่านั้น ก็ถูกน้ำไหลเข้าเต็มคลองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และปริมาณ
น้ำก็ได้เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่นาของชาวบ้านนับ 100 ราย เดือดร้อนกันทั่ว จนต้องเร่งเกี่ยวข้าวก่อนกำหนด
ร่วมครึ่งเดือน
“ข้าวที่เกี่ยวกันนี้ยังเขียวอยู่ ขายก็ไม่ได้ราคาอยู่แล้ว แต่ก็ต้องเกี่ยว”
น.ส.เสาวลักษณ์ ทองรอด เกษตรกรหมู่ 9 กล่าวว่า ตนทำนากว่า 70 ไร่ แต่ขณะนี้น้ำจากคลองเกตุ
คลองกล่ำ ล้นตลิ่งท่วมนาหมด ต้องลงทุนจ้างรถแบ็กโฮมาทำคันกั้นน้ำเข้านาให้สูงขึ้นอีก หมดเงินกว่า
10,000 บาท แต่ก็ไม่สามารถกั้นน้ำอยู่ได้ต้องเร่งสูบน้ำออกจากนาแล้วเกี่ยวข้าวที่เขียวอยู่นี้ไปขายให้
โรงสี โดยที่ได้ราคาเพียงตันละ 4,600 บาทเท่านั้น ซึ่งลักษณะนี้ถ้าเข้าร่วมโครงการรับจำนำ หรือขาย
ฝาก ก็จะได้เพียงตันละ 9,000 บาท ตนจึงต้องขายสดดีกว่า เพราะได้เงินเร็ว พอได้ทุนคืนมาบ้าง
แม้ว่าจะขายขาดทุนก็ตาม
จ.กระบี่ :-
น้ำป่าจากเทือกเขาพนมเบญจา ไหลทะลักท่วมพื้นที่ ม.4 ต.ทับปริก อ.เมือง ส่งผลให้สะพานข้ามคลอง
ทางเข้าชุมชนหน้าวัดห้วยโต้ ม.4 ขาด ชาวบ้านในพื้นที่กว่า 30 ครอบครัว ไม่สามารถข้ามไปมาได้
จากกรณีที่เกิดเหตุน้ำป่าจากเทือกเขาพนมเบญจา ไหลทะลักท่วมพื้นที่ ม.4 ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่
ส่งผลให้สะพานข้ามคลองทางเข้าชุมชนหน้าวัดห้วยโต้ ม.4 ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่ ขาด ชาวบ้าน.
ในพื้นที่กว่า 30 ครอบครัว ไม่สามารถข้ามไปมาได้ ต้องใช้เชือกโหนข้ามฝั่งเพื่อออกจากพื้นที่ไปซื้อหา
อาหารและส่งลูกไปโรงเรียน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ที่ผ่านมา ต่อมา ทางองค์การบริหารส่วน
จังหวัดกระบี่ ได้นำเสาไฟฟ้ามาพาดเป็นสะพานข้ามชั่วคราว ให้ชาวบ้านเดินทางข้ามไปมาได้ แต่ไม่
สามารถนำรถข้ามไปมาได้
ล่าสุด ช่วงเช้าวันนี้ (12 มิ.ย.) ชาวบ้านในพื้นที่ชุมชนหน้าวัดห้วยโต้ ได้ช่วยกันนำกระสอบทรายมาวาง
ที่บริเวณรอยต่อแท่งเสาไฟฟ้า กับแท่งแผ่นคอนกรีต และนำไม้มาทำราวสะพานเพื่อให้รถจักรยานยนต์
วิ่งผ่านไปมาได้สะดวก หลังจากทางเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ได้นำเสาไฟฟ้ามาวาง
พาดเรียงกัน 4 ต้น เพื่อเป็นสะพานข้ามชั่วคราวแทนการห้อยโหนเชือกข้ามฟาก
นายวิชัย เพชรรักษ์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 158 ม.4 ต.ทับปริก กล่าวว่า หลังจากที่ทาง อบจ.กระบี่
นำเสาไฟฟ้ามาพาดสะพานชั่วคราวแล้ว แต่รถทุกชนิดไม่สามารถขับข้ามสะพานได้ เนื่องจากพื้นสะพาน
ต่างระดับ จึงได้ชวนเพื่อนบ้านมาช่วยกันนำกระสอบทรายมาวาง และนำไม้มาทำราวสะพานเพื่อป้องกัน
ตกลงไปในคลอง และให้รถข้ามไปมาได้
ด้านนางกชกร ก้านบัว อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 68 ม.4 ต.ทับปริก กล่าวว่า สำหรับต้นเสาไฟฟ้า
ที่ทาง อบจ.กระบี่นำมาวางให้ใช้ข้ามคลองชั่วคราว ไม่มีความปลอดภัย เพราะต้องออกไปส่งลูกและรับลูก
ที่โรงเรียนเช้า-เย็นทุกวัน และต้องขี่รถจักรยานยนต์เข้าออกด้วย เพราะหากให้เดินไปโรงเรียนกับบ้านก็
อยู่ไกลหลายกิโลเมตร และทุกวันนี้ก็เสี่ยงกับการขับรถตกสะพาน จึงอยากให้ช่วยทำให้ดีกว่าเดิม ไม่ใช่
มาทำให้พ้นหน้าที่แล้วก็เงียบหายไป
#35
ตอบ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 11:10
ถึงจะมาเร็วไปเร็ว แต่ถ้ามาเร็วจนตั้งตัวไม่ทันมันก็ทำให้เสียหาย เสียชีวิต
ดูจากระดับที่ท่วม ก็เป็นอัตราเฉลี่ยปกติ แต่มันขึ้นสูงสุดใน ๑ วัน และลงหมดใน ๑ วัน
นับว่าเร็วมาก ที่ลดเร็วเพราะมีเครื่องสูบน้ำ
แต่ถ้าจะสูบจากคลองลงทะเลจะดีกว่าสูบจากชุมชนลงคลอง แล้วไปท่วมชุมชนอื่น
แถวบ้านผม น้ำท่วมซ้ำซาก ตั้งแต่มีการทำเหมือง จนเหมืองหมดไปแล้ว
ปัญหาทรายไหลมาถมแม่น้ำจนตื้น เป็นสาเหตุหลักก็ยังไม่หมด
- bird likes this
#36
ตอบ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 13:58
#39
ตอบ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 14:32
เหมือนกับ อาจารย์เสรี เริ่มรายงานสถานะการณ์น้ำทางTPBSแล้วเช่นกัน ปีนี้มีท่วมทางใต้ด้วยพร้อมกันเลยหนักไหมเนี่ย
ปักหมุดอีกสักที
Edited by korkang, 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 14:35.
#40
ตอบ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 15:30
http://www.tmd.go.th...ow.php?wID=3080
ประกาศเตือนภัย
"ฝนตกหนักและคลื่นลมแรง "
ฉบับที่ 8 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2555
มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้บริเวณ
ประเทศไทยมีฝนกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออก
เฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน
บริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี และตราด ระวังอันตรายจาก
ฝนตกหนักในระยะนี้
สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ชาวเรือ
เพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 18-21 มิถุนายน
2555 ไว้ด้วย
อนึ่ง พายุโซนร้อน “ตาลิม” เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (18 มิ.ย. 55) มีศูนย์กลางห่างประมาณ
150 กิโลเมตร ทางตะวันออกของเกาะไหหลำ ประเทศจีน หรือที่ ละติจูด 19.0 องศาเหนือ ลองจิจูด
112.4 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้มี
ทิศทางการเคลื่อนที่ไปทางตะวันออกเฉียงเหนืออย่างช้าๆ และไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย
ประกาศเตือนภัย
"ฝนตกหนักและคลื่นลมแรง "
ฉบับที่ 7 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2555
มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย
ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ
ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนใน
พื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน
บริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ตราด
ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉลับพลัน น้ำป่าไหลหลากได้
ในระยะ 2-3 วันนี้
สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่
18-21 มิถุนายน 2555 ไว้ด้วย
อนึ่ง เมื่อเวลา 0400 น. วันนี้ (18 มิ.ย. 55) พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ได้ทวีกำลัง
แรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ตาลิม” แล้ว โดยมีศูนย์กลางห่างประมาณ 100 กิโลเมตร ทางตะวันออก
ของเกาะไหหลำ ประเทศจีน หรือที่ ละติจูด 19.1 องศาเหนือ ลองจิจูด 111.8 องศาตะวันออก มี
ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้มีทิศทางการเคลื่อนที่ไป
ทางตะวันออกเฉียงเหนืออย่างช้าๆ และไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย
ประกาศ ณ วันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2555
ออกประกาศ เวลา 06.30 น.
สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
#41
ตอบ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 15:37
อยุธยา เริ่มยกของขึ้นที่สูง เตรียมตัวกันแล้ว
- Gop, Lucas Leiva Benitez Rodger, HiddenMan and 1 other like this
#42
ตอบ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 15:38
#43
ตอบ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 15:50
รบกวน Mod ปักหมุดให้คุณเบิร์ดด้วยครับ
อยุธยา เริ่มยกของขึ้นที่สูง เตรียมตัวกันแล้ว
ยังไม่ต้องก็ได้ค่ะ..เพราะยังทิ้งระยะห่างอยู่..ยังไงถ้ามีอะไรที่เร่งด่วนจะมารายงานให้ทราบค่ะ
#44
ตอบ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 18:15
แต่ถ้ามันท่วมหนัก ก็คงเพราะแนวทางการป้องกันน้ำท่วมแล้วล่ะ 555+
แต่คาดว่าคงไม่หน้ก แล้วเด๊่ยวก็จะมีบางคนบอกว่าเห็นไหม รัฐบาลทำดี น้ำไม่ท่วมเหมือนปีแล้ว
อันนี้เป็นการคาดเดาของเด็กน้อยนะครับ ^^
กฎหมายมันก็แค่สิงที่สร้างมาอย่างมีเป้าหมาย แต่หาก เอาแต่บอกว่ากฎหมายเป็นแบบนี้ แบบนั้น โดยไม่สนใจว่าเป้าหมายจริงๆ นันคืออะไร ก็คงไม่ใช่
#46
ตอบ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 23:41
ดูข่าวแล้ว ถ้าฝนตกหนักแถวภาคใต้ หรือ ภาคตะวันออก ต่อให้น้ำท่วมก็คงไม่นาน เพราะใกล้ทะเล ที่น่าเป็นห่วงคืออย่ามีฝนตกหนักมากๆแถวภาคเหนือหรือภาคกลาง มันจะสะสมและรวมกันที่ปลายทางคือกรุงเทพฯ หวังว่าจะไม่เป็นเช่นนั้นนะ
หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.
#47
ตอบ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 00:04
ปล.ตอนนี้น้ำยังน้อยๆๆอยู้ทั้งเเม่น้ำท่าจีนเเละคลองที่ท่วมทุกปี ที่มาจากฝั่งปทุมเเละนนทบุรีเเละอยุธยา
#48
ตอบ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 10:26
ชาวพิษณุโลกเร่งดีดบ้านหนีน้ำท่วม
น้ำในแม่น้ำยมที่ยังคงเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และได้ไหลเริ่มทะลักเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรบางส่วน ของ หมู่ 9 ตำบลชุมแสงสงคราม อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างหวาดกลัวว่าจะเกิดน้ำท่วมใหญ่เหมือนเมื่อปีที่ผ่านมา จึงเร่งขนย้ายสิ่งของอพยพขึ้นไปอยู่บนที่สูง ในขณะที่มีชาวบ้านในอำเภอบางระกำจำนวนกว่า 32 ครอบครัวได้วางแผนในการรับมือสถานการณ์น้ำท่วมไว้ล่วงหน้า โดยการจ้างช่างมาทำการต่อเติมดีดบ้านให้สูงขึ้น บางหลังก็อาศัยการถมที่ให้สูงขึ้น
ทั้งนี้ก็เริ่มมีชาวบ้านบางส่วนที่มีเรือ ต่างนำเรือที่ตัวเองมีนำออกมาตรวจสอบรอยรั่ว เพื่อเตรียมพร้อมใช้หากเกิดสถานการณ์น้ำท่วมสูง
ด้านนางพะเยาว์ ทองขาว อายุ 48 ปี ชาวบ้านคลองปลากราย ตำบลบางระกำ อำเภอบางระกำ กล่าวว่าเมื่อปีที่ผ่านมาบ้านของตนเองถูกน้ำท่วมสูงจนเกือบมิดหลังคา สร้างความเดือดร้อนอย่างหนัก มาในปีนี้ตนจึงเก็บรวบรวมเงินจำนวนหนึ่งนำไปจ้างช่างทำการซ่อมแซมบ้านหลังใหม่ซึ่งได้ทำการยกพื้นสูงถึงสี่เมตร
#49
ตอบ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 10:31
อาคารร.ร.บ้านรังนกพังถล่มหลังดีดหนีน้ำท่วม (ไอเอ็นเอ็น)
เกิดเหตุอาคารเรียน โรงเรียนบ้านรังนก จ.พิจิตร พังถล่ม ขณะผู้รับเหมาทำการดีดอาคารหนีน้ำท่วม โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ขณะต้องสั่งปิดโรงเรียนอย่างไม่มีกำหนด
วันนี้ (18 มิถุนายน) นายธีระพงศ์ เพ็ชรพงศ์ นายก อบต.รังนก อ.สามง่าม จ.พิจิตร เปิดเผยว่า นอกจากพื้นที่ตั้งของหมู่บ้านที่อยู่ริมแม่น้ำยมกำลังถูกน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้นั้น ล่าสุด โรงเรียนบ้านรังนก (ประชาพิทักษ์) ซึ่งตั้งอยู่หมู่ 4 ต.รังนก เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล จนถึงชั้น ป.6 มีเด็กนักเรียน 120 คน ซึ่งทางสำนักงานการประถมศึกษาพิจิตร ได้รับงบประมาณให้ทำการดีดอาคาร ซึ่งเป็นอาคารไม้ 5 ห้องเรียน ให้สูงขึ้นเพื่อหนีน้ำท่วม และกำลังอยู่ระหว่างที่ผู้รับเหมากำลังดำเนินการแต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น อาคารได้พังถล่มลงมาทั้งหลัง พังพินาศ โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต แต่ทำให้เด็ก ๆ ไร้อาคารเรียน และต้องสั่งปิดโรงเรียนอย่างไม่มีกำหนดอยู่ในขณะนี้
#50
ตอบ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 10:35
ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน