#1
ตอบ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 15:27
เนื่องจากที่บ้าน กลายเป็น "ที่เสี่ยงสูง" จากการเปิดประตูน้ำคลองสามวา...
จนถึงป่านนี้ มีเวลาเตรียมการ จากที่นิคมฯแห่งสุดท้าย
ต้องจมน้ำไปนับแล้ว ร่วมๆเดือน...
ทุกหน่วย ทุกส่วนงาน ทุกๆท่าน ที่ติดตามข่าวสาร
ต่างรู้กันทั่วว่า ราคาของความเสียหายของแต่ละนิคมฯ แต่ละโรงงาน
ที่ต้องจมอยู่ใต้น้ำนั่น มันมากมาย มหาศาลขนาดไหน...
ไหนจะคนงานที่ต้องตกงานกี่หมื่น กี่แสนคน
ไหนจะซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนและธุรกิจต่อเนื่องอีกเป็นร้อยเป็นพันบริษัท
ไหนจะครอบครัวของเหล่าบรรดาลูกจ้าง/ แรงงาน ... ฯลฯ
ทุ่ด...ไม่ได้แค่อยากต่อว่าชาวคลองสามวา ที่กดดัน ต้องการเปิดประตูน้ำ
จนถึงขั้นจะทุบทำลาย ข้าวของราชการ เพื่อต้องการให้น้ำที่ท่วมบ้านตัวเองอยู่
ได้ลดลงไปบ้าง หรือไม่ก็ต้องการสะใจแบบว่า "บ้านตรูท่วม คนอื่นก็อย่าได้อยู่เป็นสุข"...
แต่ผมต้องการสื่อไปถึง นักการเมืองฝีปากดีเจ้าบุญทุ่ม และคุณหนูนายก
ที่ต้องการเพียงรักษาฐานเสียงของตนเอง ด้วยการเอาใจชาวบ้าน ยอมเปิดประตูน้ำสูงถึง 1 เมตรว่า
ถึงวันนี้ ถ้านิคมทั้งสองแห่งที่เหลือ ไม่สามารถรักษาไว้ได้อีก
ท่านทั้งหลาย ก็ไม่สมควรอยู่ในตำแหน่งด้วยเช่นกัน
เพราะมันเป็นการโชว์ความงี่เง่า ไม่กล้าตัดสินใจในการแก้ปัญหาด้วยกฏหมาย
หรือไม่ ท่านก็คงหมดความน่าเชื่อถือ ในสายตาของคนที่เดือดร้อน จากการเปิดประตูน้ำครั้งนี้...
ถ้าไล่เรียงไป ปัญหาที่เกิดขึ้นกับหลายๆที่ จนถึงขณะนี้ ล้วนเกิดจากนักการเมืองทั้งท้องถิ่นและระดับชาติ
ที่เห็นแก่ตัว ห่วงแต่คะแนนเสียงของตน ห่วงทรัพย์สมบัติและพวกพ้องของตน...
ท่านช่วยให้นาข้าวไม่ต้องจมน้ำได้นับสิบ นับร้อยล้าน แต่ความเสียหายที่ตามมา
กับแหล่งธุรกิจ แหล่งอุตสาหกรรมนั่น มูลค่ามันนับหมื่น นับแสนล้านใช่หรือไม่ ?...
แค่ข้อมูลจากประสบการณ์ใกล้ๆนี้ ยังไม่รู้จักเอามาเป็นบทเรียน
แล้วกับงบประมานที่จะไปขอกู้ หรือที่ต่างชาติเขาช่วยเหลือนับ ล้านล้านบาทนั่น
มันจะไม่เละตุ้มเป๊ะกันไปหมดหรือ...
บริหารไม่เป็น ก็ลาออกไปเถอะ น่ะท่านน่ะ เพราะกับชาวบ้านกับม็อบหลักพันยังเอาไม่อยู่ ...
'สุขุมพันธุ์' ห่วงบางชันเสี่ยงท่วม
http://www.komchadlu...เสี่ยงท่วม.html
#2
ตอบ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 15:34
แม่กรูไม่ผิด
#3
ตอบ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 15:38
#4
ตอบ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 16:18
ถ้าด้านล่างท่วมนิคมท่วม ความเสียหายจะขนาดไหน รัฐบาลเองมันต้องลงไปให้ความมั่นใจกับชาวบ้านเค้าว่าจะเยียวยาเค้ายังไงหลังน้ำลด
หากต้องลดการระบายน้ำลงเพื่อปกป้องความเสียหายที่ใหญ่กว่าทางด้านล่าง เป็นผมคงละอายใจถ้าการเปิดประตูทำให้คนข้างล่างต้องเดือดร้อน
อีกมากมาย ถ้าผลของการนี้ทำให้ต้องเสียหายนิคมล่ม ชาวบ้านเดือดร้อนอีกล่ะก็ รัฐบาลควายนี่ต้องรับผิดชอบไปเต็มๆ คนยังเดือดร้อน น้ำก็ยังท่วม
ผุดโปรเจ็ค นิวไทยแลนด์ แทนที่จะแก้ปัญหาปัจจุบันก่อน เวรจริงประเทศไทย คุณชายสุขุมก็ช่วยเอาหนังสือคำสั่งให้เปิดประตูปิดปากหล่อนซะ
#5
ตอบ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 16:21
[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]
ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556
#6
ตอบ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 16:28
รองผู้ว่ากนอ. เผย 50 ซ.ม. น้ำท่วมถึง ถ.นิคมอุตสาหกรรมบางชัน สร้างแนวคันกั้นออก 6 บล็อก ชี้ หากน้ำท่วมกระทบอุตสาหกรรมอาหาร เฟอร์นิเจอร์ ยานยนต์ มูลค่ารวมเกือบ 2 หมื่นล้าน
นายสมคิด แท่นวัฒนกุล รองผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยถึง แผนรับมือน้ำในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางชันว่า ขณะนี้ได้มีการทำแนวกระสอบทรายเป็นแนวคันกั้นน้ำ โดยมีการแบ่งพื้นที่ภายในนิคมฯ ออกเป็น 6 บล๊อค เพื่อป้องกันน้ำเข้าในโรงงานภายในนิคมฯ
โดยที่ปัจจุบันแนวคันกั้นของนิคมฯ สูงกว่าระดับน้ำประมาณ 50 ซ.ม. หากระดับน้ำสูงเกินแนวคันกั้นจะทำให้น้ำท่วมพื้นผิวถนนที่สูง 1.25 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง ภายในนิคมฯได้ และหากปริมาณน้ำเยอะกว่า 50 ซ.ม. อาจจะเข้าสู่ภายในโรงงานในนิคมฯ ได้ ที่มีโรงงานอยู่ 93 โรง แบ่งเป็น 3 อุตสาหกรรมหลัก คือ อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ ชิ้นส่วนยานยนต์และอาหาร มีลูกจ้างกว่า 1.3 หมื่นคน มูลค่าการลงทุน 19,848 ล้านบาท
http://news.sanook.c...้านิคมฯบางชัน1/
ผมว่าถ้าชาวบ้านไพร่แดงแถวคลองสามวา เขาชอบใช้ความรุนแรง
และใช้กฏหมู่ขมขู่เจ้าหน้าที่ ผมว่าน่าจะชวนแรงงานชาวนิคมฯบางชัน
ไม่ต้องถึงหลักหมื่นมั๊งครับ เอาแค่หลักพันก็พอ เหมารถกันไป...
กราบเท้าชาวบ้านคลองสามวากันคนละที
เขาน่าจะยอมปิดประตูน้ำลง... ?
#7
ตอบ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 16:30
ต่อให้กราบเท้าแล้วก็ต้องรอท่าน poo เซ็นคำสั่งก่อนล่ะครับ เพราะคำสั่งเก่าไม่ได้ยกเลิกแล้วไปปิดเท่ากับว่าขัดคำสั่งนะครับรองผู้ว่ากนอ.เผย 50ซม.น้ำเข้านิคมฯบางชัน
รองผู้ว่ากนอ. เผย 50 ซ.ม. น้ำท่วมถึง ถ.นิคมอุตสาหกรรมบางชัน สร้างแนวคันกั้นออก 6 บล็อก ชี้ หากน้ำท่วมกระทบอุตสาหกรรมอาหาร เฟอร์นิเจอร์ ยานยนต์ มูลค่ารวมเกือบ 2 หมื่นล้าน
นายสมคิด แท่นวัฒนกุล รองผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยถึง แผนรับมือน้ำในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางชันว่า ขณะนี้ได้มีการทำแนวกระสอบทรายเป็นแนวคันกั้นน้ำ โดยมีการแบ่งพื้นที่ภายในนิคมฯ ออกเป็น 6 บล๊อค เพื่อป้องกันน้ำเข้าในโรงงานภายในนิคมฯ
โดยที่ปัจจุบันแนวคันกั้นของนิคมฯ สูงกว่าระดับน้ำประมาณ 50 ซ.ม. หากระดับน้ำสูงเกินแนวคันกั้นจะทำให้น้ำท่วมพื้นผิวถนนที่สูง 1.25 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง ภายในนิคมฯได้ และหากปริมาณน้ำเยอะกว่า 50 ซ.ม. อาจจะเข้าสู่ภายในโรงงานในนิคมฯ ได้ ที่มีโรงงานอยู่ 93 โรง แบ่งเป็น 3 อุตสาหกรรมหลัก คือ อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ ชิ้นส่วนยานยนต์และอาหาร มีลูกจ้างกว่า 1.3 หมื่นคน มูลค่าการลงทุน 19,848 ล้านบาท
http://news.sanook.c...้านิคมฯบางชัน1/
ผมว่าถ้าชาวบ้านไพร่แดงแถวคลองสามวา เขาชอบใช้ความรุนแรง
และใช้กฏหมู่ขมขู่เจ้าหน้าที่ ผมว่าน่าจะชวนแรงงานชาวนิคมฯบางชัน
ไม่ต้องถึงหลักหมื่นมั๊งครับ เอาแค่หลักพันก็พอ เหมารถกันไป...
กราบเท้าชาวบ้านคลองสามวากันคนละที
เขาน่าจะยอมปิดประตูน้ำลง... ?
[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]
ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556
#8
ตอบ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 22:56
มันจะพาชาวบ้านย่านมีนบุรี ฐานเสียงของมัน
ไปทำลาย เขื่อนและทำนบ ตามแนวพระราชดำริต่อไปหรือไม่...
ถ้าถึงขั้นนั้น ก็คงต้องแลกกันเต็มที่หน่อย...
#9
ตอบ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 22:59
#10
ตอบ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 09:37
ถือเป็นครั้งแรกที่ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี ได้ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 ที่สั่งให้ "สุขุมพันธุ์ บริพัตร" ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดประตูระบายน้ำคลองสามวาเพื่อระบายน้ำลงสู่คลองแสนแสบเพิ่มรวม 1 เมตร
หลังจากมี "มวลชน" จำนวนหนึ่งกดดันให้เจ้าหน้าที่รัฐเปิดประตูระบายน้ำออกจากพื้นที่เพิ่มสูงขึ้น และเกิดการปะทะกันเล็กน้อยจนกระทั่งมี "ส.ส." พรรคเพื่อไทย "จิรายุ ห่วงทรัพย์" และ "วิชาญ มีนชัยนันท์" เข้ามาเจรจากับชาวบ้านที่ต้องการให้เปิดประตูระบายน้ำเพิ่มรวม 1.5 เมตร แต่สุดท้ายจบลงที่ 1 เมตร
โดย "ส.ส.วิชาญ" เป็นผู้ถือกุญแจไปเปิดประตูระบายน้ำให้อยู่ที่ระดับ 1 เมตร
ช่วงแรก "ผู้ว่าฯ กทม." ปฏิเสธที่จะเปิดประตูระบายน้ำที่ระดับดังกล่าว จนกว่าจะมี "คำสั่ง" เป็นทางการเนื่องจากก่อนหน้านี้มีหนังสือเป็นทางการให้ "ผู้ว่าฯ กทม." ปกป้อง "นิคมอุตสาหกรรมบางชัน" เขตมีนบุรี ไม่ให้ถูกน้ำท่วม
ดังนั้นเมื่อ "วิชาญ" ส.ส.ในพื้นที่ไปตกลงกับชาวบ้านและได้ข้อยุติให้เปิดประตูระบายน้ำเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ตกลงกันไว้ที่ 80 เซนติเมตร มาเป็น 1 เมตร ทาง "ผู้ว่าฯ กทม." จึงต้องการคำสั่งที่เป็นทางการจาก "นายกฯ ยิ่งลักษณ์" เพราะการเปิดประตูระบายน้ำคลองสามวาเพิ่มมีความ "เสี่ยง" ที่น้ำอาจไหลท่วมพื้นที่ "นิคมอุตสาหกรรมบางชัน" ได้
นั่นแสดงให้เห็นว่า "ผู้ว่าฯ กทม." ในฐานะ "ผู้นำองค์กรท้องถิ่น" ไม่เห็นด้วยกับการเปิดประตูระบายน้ำในครั้งนี้ เพราะรู้ดีว่าระบบเครือข่ายการระบายน้ำในพื้นที่กทม.มีความเชื่อมโยงกันคล้ายเครือข่ายใยแมงมุม
"ธีระชน มโนมัยพิบูลย์" รองผู้ว่าฯ กทม. ได้แสดงความกังวลหลังจากเปิดประตูระบายน้ำคลองสามวาระดับ 1 เมตร อาจทำให้นิคมอุตสาหกรรมบางชัน เขตมีนบุรี ได้รับผลกระทบจากการเปิดประตูระบายน้ำสูงขึ้นจากเดิม
"หากน้ำเข้าคลองแสนแสบจากการเปิดประตูคลองสามวา ก็จะเข้าสู่พื้นที่ในคันพระราชดำริ และเข้าระบบคลอง ซึ่งพื้นที่ กทม. สูงต่ำไม่เท่ากัน การปล่อยที่ 1.5 เมตร เข้ามาเท่ากับว่าน้ำจะค่อยๆ เริ่มย้อนศร และมุดเข้ามาในคลองย่อยและผุดตามผิวถนน หากคุมไม่ได้จะลามไปพื้นที่เศรษฐกิจ จุดที่หนักสุดคือ นิคมอุตสาหกรรมบางชันที่จะกระทบรุนแรง หากยังคุมมวลชนไม่ได้ หากไม่ใจเย็น ที่ประกาศว่า 20 เขตจะไม่ท่วม สถานการณ์จะกลับไปเหมือนเดิมคือ 50 เขต จะโดนหมด"
ไม่มีใครรู้เรื่องท้องถิ่นดีเท่าคนท้องถิ่นเอง!
เหมือนกับ "ชาญ พวงเพ็ชร" นายกอบจ.ปทุมธานี เคยให้สัมภาษณ์ตัดพ้อว่า "คนปทุมฯ" ไม่มีโอกาสบริหารจัดการน้ำด้วยตัวเอง และสุดท้าย "น้ำจะท่วมสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีวันลด" และสิ่งที่เกิดขึ้นกับ จ.ปทุมธานี ได้พิสูจน์คำพูดของ "ชาญ" เป็นอย่างดี
หากประตูระบายน้ำที่อื่นในพื้นที่กรุงเทพฯ เกิดปรากฏการณ์เดียวกับประตูระบายน้ำคลองสามวา ไม่ยึดหลักการระบายน้ำตามระบบที่ "สำนักการระบายน้ำ กทม." ได้จัดวางไว้
รับรอง กทม.ทั้ง 50 เขต มีหวังต้องร้องเพลง "พี่เบิร์ด" ที่ว่า "จับมือไว้แล้วท่วมพร้อมกัน" อย่างแน่นอน !
http://www.komchadlu...์คลองสามวา.html
หุๆๆ...ระบบจัดการน้ำ ตามเสียงส่วนใหญ่ ตามใจ สส.และตามใจชาวบ้าน
อำนาจอยู่ในมือแล้ว พี่น้องเอ๊ย ...
9 แสนล้าน กำลังใกล้มือเข้ามาทุกที...
#11
ตอบ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 15:05
น้ำถึงนิคมบางชันแล้ว
02 พฤศจิกายน 2554 เวลา 14:15 น
น้ำเอ่อท่อระบายน้ำในนิคมอุตสาหกรรมแล้ว ด้าน ผู้ประกอบการประชุมเสริมแนวกั้นน้ำ เด็กเพื่อไทยเสนอตั้งคันกั้นถ.หทัยราษฏร์สกัดน้ำ
เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมบางชัน เขตมีนบุรี ได้หารือร่วมกันเตรียมรับมือน้ำเหนือ พร้อมกำชับให้ทุกโรงงานเสริมความแข็งแกร่งหรือเพิ่มความสูงแนวป้องกันน้ำของโรงงานอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะโรงงานที่อยู่ติดคลองแสนแสบและขอความร่วมมือในการช่วยกำจัดวัชพืชที่ขวางทางน้ำโดยเฉพาะในคลองบางชันที่ไหลผ่านกลางนิคมแห่งนี้พร้อมกับขอการสนับสนุนเครื่องผลักดันน้ำจากคลองบางชันลงสู่คลองแสนแสบด้วย
ทั้งนี้ สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร เขตมีนบุรี ส่งหนังสือแจ้งเตือนมาว่าระดับน้ำจะมาสูงถึง 2.50-3 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลางบวกกับการเปิดประตูน้ำคลองสามวา ทำให้ระดับน้ำในคลองแสนแสบเพิ่มขึ้น 2 เซนติเมตร มาเป็น 63-64 เซนติเมตร จากเมื่อวานนี้ อยู่ที่ระดับ 62-63 เซนติเมตรจากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งเป็นผลจากการเปิดประตูน้ำคลองสามวาและการทำลายด้านข้างประตูน้ำคลองสามวา ทำให้ไม่สามารถควบคุมกระแสน้ำที่ไหลเข้ามาได้จนมีผลทำให้ระดับน้ำในคลองแสนแสบเพิ่มขึ้นในที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดน้ำได้เอ่อขึ้นเล็กน้อยทางท่อระบายน้ำในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางชัน ด้านตรงข้ามโรงงานสหยูเนี่ยน บริเวณถนนเสรีไทยแล้ว
http://www.posttoday...งนิคมบางชันแล้ว
เหอๆๆ...สมใจอยากแล้วครับ ท่าน สส.วิชาญ
ปิดหรือเปิดคลองสามวา ค่าเท่ากัน ใกล้เป็นจริงแล้ว...
#12
ตอบ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 15:09
ช่วงนี้ คนเป่านกหวีดเสียงดังกันเยอะ ปีนี้เลยกลายเป็น " ปี แสบ หู "
#13
ตอบ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 18:09
#14
ตอบ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 20:34
สุดท้ายก็ เช้าสั่ง เย็นแก้...
บทพิสูจน์ สส.เสื้อแดง ใหญ่กว่านายก!
'ยิ่งลักษณ์'รับต้องลดเปิดประตูคลองสามวา
http://www.komchadlu...ูคลองสามวา.html
#15
ตอบ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 20:38
เวลา 17.00 น. วันนี้ (2 พ.ย.) ที่ศปภ. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงการแก้ปัญหาบริเวณประตูน้ำคลองสามวา ว่า ได้ซ่อมหูประตูระบายน้ำที่หลุดไปทางฝั่งตะวันตกเสร็จแล้ว ส่วนฝั่งตะวันออกกำลังซ่อม คาดว่าจะแล้วเสร็จในคืนนี้ และขอให้คณะทำงานลงไปดูแต่ละพื้นที่หรี่ประตูระบายน้ำลงอีก จะได้ช่วยลดแรงกดดันน้ำที่จะเข้ามาในพื้นที่ กทม.
เมื่อถามว่าประเมินผลดีผลเสียการเปิดประตูน้ำคลองสามวา 100 ซม.อย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตอนนี้เราจะให้ลดลง ส่วนจะเหลือเท่าไหร่นั้น กำลังให้ทีมงานลงไปเจรจาในพื้นที่ คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะเบื้องต้นทำความเข้าใจกับมวลชนไปบ้างแล้ว เชื่อว่าจะให้ความร่วมมือ ส่วนรอยแตกบริเวณคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตกกว่า 11 จุดนั้น ได้ซ่อมเสร็จแล้ว 3 จุด จะแล้วเสร็จหลังวันที่ 10 พ.ย. ขณะเดียวกันได้เข้าหรี่ประตูระบายน้ำทุกบานลง เพื่อลดแรงกดดันทั้งหมด การทำงานของเราต้องให้ทุกประตูทำงานสัมพันธ์กัน นอกจากนี้ได้ส่งกองกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปเฝ้าระวังคันกั้นน้ำ และประตูระบายน้ำทั้งหมด.
http://www.dailynews...ontentID=173656
#16
ตอบ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 20:40
ของใครก็ไม่รู้นะ แต่เป็น 1 ใน 5 ของผู้ยิ่งใหญ่ในพรรคทุยรักทุย
เนสกาแฟ เนสกาแฟ เนสกาแฟ
#17
ตอบ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 20:40
ไล่ชี้แพะไปเรื่อย ๆ ....ชี้ไปแล้วโดน...ก็รุมไล่ยำ..
#18
ตอบ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 23:14
สั่งให้เปิดประตูระบายน้ำเป็น 100 cm เพื่อให้ควบคุมไม่ได้ แล้วค่อยสั่งให้ปิด เพื่อหาข้อแก้ตัวว่า ก็ปิดให้แล้วไง ผมว่า มันจงใจนะ ต้องการให้ท่วมหมด ดูจากรูปการณ์แล้ว มันทะแมม่ง ทะแมม่ง ว่าอีปูแหลนี่ กำลังเล่นเกมส์อยู่หุๆๆ... คำสั่งโดยไม่ใช้สมอง...
สุดท้ายก็ เช้าสั่ง เย็นแก้...
บทพิสูจน์ สส.เสื้อแดง ใหญ่กว่านายก!
'ยิ่งลักษณ์'รับต้องลดเปิดประตูคลองสามวา
http://www.komchadlu...ูคลองสามวา.html
#19
ตอบ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 23:15
มันบอกว่า มันถอนหุ้นไปแล้วครับแย่จังนะ ในบางชันมีโรงงานเนสเล่ ทำยี่ห้อ เนสกาแฟ เนสที คาร์เนชั่น
ของใครก็ไม่รู้นะ แต่เป็น 1 ใน 5 ของผู้ยิ่งใหญ่ในพรรคทุยรักทุย
เนสกาแฟ เนสกาแฟ เนสกาแฟ
#20
ตอบ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 23:17
พูดก็ตามโพย
ทำก็ตามสั่ง
ปัญญาอ่อน โง่ งี่เง่า ดักดาน
#21
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 13:54
"น้ำที่นิคมบางชัน ไม่ได้มาจากคลองสามวา แต่มาจากในท่อ"
นึกขึ้นมาแล้ว ยิ่งรู้สึกว่า...
เธอไม่ได้โง่ธรรมดาๆเลย แต่ถึงขั้นให้ สส.และขี้ข้า จูงจมูกไปได้ง่ายๆ
เพียงแค่ต่อสายโทรศัพท์ และรับข้อมูลของเทพ ผู้หยั่งรู้ไปหมดทุกเรื่อง ...
http://www.norsorpor...่งลักษณ์ รับเละ
#22
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 14:45
#23
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 15:09
น้ำที่ทะลักเข้าท่วมนิคมอุตสาหกรรมบางชัน เป็นน้ำที่เอ่อจากท่อระบายน้ำ ไม่ใช่น้ำที่ไหลจากคลองสามวา”
คำกล่าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ประเมินสถานการณ์สุ่มเสี่ยงจมน้ำของนิคมอุตสาหกรรมบางชัน เป็นอีกหนึ่งดัชนี้วัดมวลสมองของคนเป็นผู้นำประเทศว่า
ประชาชนจะพึ่งพาให้เธอบริหารบ้านเมืองต่อไปได้หรือไม่?
ยิ่งลักษณ์ ไม่รู้จริงๆ หรือว่า หลังจากยอมให้เปิดประตูน้ำคลองสามวา 1 เมตร ตามแรงกดดันของมวลชนที่ วิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทยอยู่เบื้องหลัง จะมีพื้นที่ไหนได้รับผลกระทบบ้าง
นายกฯ หญิงซื่อจนไม่รู้เลยหรือว่า เส้นทางน้ำไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ในคลอง บนผิวถนนที่เห็นชัดด้วยสายตาเท่านั้น แต่ยังมุดลงใต้ดินโผล่ตามท่อระบายน้ำด้วย!!
นายกฯ ปูพูดถูกว่าน้ำเอ่อจากท่อระบายน้ำเข้านิคมบางชัน แต่ไม่ได้หมายความว่าเมื่อมันออกจากท่อระบายน้ำ ต้นทางของน้ำจึงไม่ได้มาจากคลองสามวา
คิดได้ยังไง เป็นตรรกะที่น่าจะเป็นต้นทางความล้มเหลวในการบริหารสถานการณ์น้ำท่วม จนประเทศชาติใกล้ล้มละลายเต็มทน
ถ้าคนเป็นนายกรัฐมนตรีคิดว่าน้ำในนิคมอุตสาหกรรมไม่ได้มาจากคลองสามวา แต่ออกมาจากท่อระบายน้ำ คำถาม คือ แล้วท่อระบายน้ำมันไปขนน้ำมาจากไหนล่ะ หรือว่ามันมีตาน้ำใต้ท่อ วันดีคืนร้ายก็ผุดน้ำขึ้นมาให้ผู้บริหารนิคมเขาอกสั่นขวัญแขวนเล่นๆ
แน่นอนว่า แม้แต่ รปภ.ของนิคมฯ ก็คงตอบคำถามได้ดีกว่า ศปภ.ว่า ท่อระบายน้ำไม่ได้มีต้นน้ำที่จะให้กำเนิดมวลน้ำใหม่ด้วยตัวเอง เพราะน้ำที่ทะลักเข้านิคมบางชันนั้น ก็มาจากความห่วยแตกของคนเป็นผู้นำส่งน้ำกว้าง 1 เมตร ผ่านคลองสามวาไปเป็นของขวัญที่นิคมบางชันไม่พึงประสงค์นั่นแหละ
รู้ทั้งรู้ว่า ทำเช่นนั้นแล้วจะกระทบภาพใหญ่ในการบริหารจัดการน้ำ แต่ยิ่งลักษณ์ก็ตัดสินใจแบบง่ายๆ เอาใจฐานเสียงตามใจ ส.ส. ปล่อย กทม.ชั้นในและนิคมบางชันไปตายเอาดาบหน้า
แถมยังตีหน้าซื่อ ตั้งกรรมการขึ้นมาบริหารน้ำหลังเปิดประตูอ้าซ่าที่ 1 เมตร อ้างว่าตั้งขึ้นมาเพื่อดูผลกระทบ
เอากับความคิดของเธอสิ!
มีผู้นำประเทศไหนบ้างที่เขาตัดสินใจในเรื่องสำคัญที่อาจกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่ โดยไม่มีข้อมูลเรื่องผลกระทบ คงมีแต่บ้านนี้เมืองนี้ที่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด
ความจริงนายกฯ ยิ่งลักษณ์ รู้อยู่เต็มอกว่า การใช้อำนาจในฐานะนายกรัฐมนตรีของตัวเองจะส่งผลกระทบในวงกว้างเพียงใด จึงร้อนรนตั้งกรรมการมาแก้ไขสถานการณ์ในวันรุ่งขึ้น ได้ข้อสรุปให้ลดบานประตูลงมาที่ 80 เซ็นติเมตร ระยะเดียวกับที่ กทม.เขาตกลงกับชาวบ้านในระยะปลอดภัยที่จะไม่กระทบกับ กทม.ชั้นในมากจนเกินไปนั่นแหละ
คำถาม คือ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ จะรับผิดชอบอย่างไรกับน้ำที่ทะลักล้นเข้าท่วมตลาดมีนบุรี ซาฟารีเวิล์ด และอีกหลายสถานที่เพียงชั่วเวลาข้ามคืน
จากการตัดสินใจอันผิดพลาดโดยแท้ของคนเป็นผู้นำประเทศ
จริงอยู่ประตูระบายน้ำคลองสามวาลดระดับลงแล้ว แต่มวลน้ำที่ไหลบ่าเข้ามาไม่ยอมลดระดับลงด้วย และกำลังแผ่ขยายกินวงกว้างสร้างความเดือดร้อนกับประชาชนมากขึ้น
พิจารณาผ่านเหตุการณ์นี้ วิญญูชนก็คงได้คำตอบแล้วว่า มหาอุทกภัยที่กลายเป็นโศกนาฏกรรมมีผู้เสียชีวิตแล้วเกือบ 450 คน เป็นเพราะภัยธรรมชาติ หรือเกิดจากความไร้ฝีมือของ โคลนนิ่ง ทักษิณ ชินวัตร กันแน่
ยิ่งขุดคุ้ยไปถึงต้นตอของมวลน้ำมหาศาล ก็จะยิ่งเห็นถึงความไร้ประสิทธิภาพในการบริหารประเทศ เนื่องจากคำนึงถึงแต่ผลประโยชน์ทางการเมือง
ข้อกล่าวหาที่ คนเสื้อแดงและรัฐบาลอาศัยชื่อสองเขื่อนใหญ่ของประเทศมากระทบชิ่งถึงสถาบันหลักของชาติว่า เป็นน้ำจากฟ้าส่งมาจมไพร่
เป็นฝีมืออำมาตย์ร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์วางแผนปล่อยน้ำท่วมล้มรัฐบาลเพื่อไทย กลายเป็นบูมเมอแรงย้อนศรกับไปทิ่มแทงประจานความล้มเหลวของรัฐบาลชุดนี้มากขึ้น
จากกราฟที่พรรคประชาธิปัตย์นำมาแสดง สะท้อนชัดว่า ปริมาณน้ำในสองเขื่อนใหญ่ทั้งเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิตต์ ไต่ระดับสูงปรี๊ดในยุคที่ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
สอดรับกับข้อมูลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ที่เพิ่งออกโรงมาอธิบายถึงการระบายน้ำในเขื่อนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า ปริมาณน้ำเริ่มเกินความจุของเขื่อนจนต้องเร่งระบายมวลน้ำมหาศาลเกิดในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน กระทั่งกว่า 50 จังหวัดของประเทศไทยต้องจมอยู่ใต้บาดาล โดยมีอีกหายจังหวัดรอต่อคิวเป็นเหยื่อรายต่อไป
ที่สำคัญคือ มีหลักฐานเป็นใบเสร็จมัดแน่นหนาว่า ครม.ยิ่งลักษณ์ ทั้งชุดต้องรับผิดชอบกับการบริหารจัดการน้ำที่ผิดพลาด เพราะมีคำให้สัมภาษณ์ชัดเจนของ ธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตร พูดถึงการบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์อุทกภัยเมื่อว้นที่ 5 กันยายนที่ผ่านมาว่า
“ได้สั่งการให้กรมชลประทานประสานกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ลดการระบายน้ำเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าที่เขื่อนภูมิพล รวมถึงทำการหน่วงน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาไม่ให้ไหลผ่านเกิน 2,390 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที เพื่อให้ชาวนาในพื้นที่เขตลุ่มเจ้าพระยาเก็บเกี่ยวข้าวได้เสร็จในช่วงนี้ เนื่องจากการคาดการณ์สภาพอากาศที่จะเกิดฝนตกหนักลงมาอีกในระยะนี้ประกอบกับ 1-2 วันที่ผ่านมามีปริมาณฝนตกชุกในพื้นที่ดังกล่าว”
ข้อความข้างต้นมิได้เป็นเพียงความเห็นของ รมว.เกษตรฯ แต่สะท้อนถึงนโยบายภาพรวมของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่ให้ความสำคัญกับการเก็บเกี่ยวข้าว จนยอมให้เขื่อนอยู่ในความเสี่ยงทั้งที่รู้ล่วงหน้าว่า ปริมาณน้ำฝนจะมากและอาจสูงเกินกว่าที่เขื่อนจะรับไหว ซึ่งสุดท้ายก็ต้องระบายออกมาเพื่อไม่ให้เขื่อนแตก แต่รัฐบาลก็มิได้นำพา
แล้วยังกล้าโทษฟ้า กล่าวหาพระแม่ธรณี อย่างไม่มีสำนึก
เสียงกรีดร้องด้วยความทุกข์ทนของคนไทยกว่า 20 ล้านคน และวิญญาณของพี่น้องเพื่อนร่วมชาติที่ต้องสังเวยไปกับน้ำการเมืองครั้งนี้จะตามหลอกหลอน ครม.ทั้งชุดไม่ให้ได้ผุดได้เกิดทางการเมืองอีก
บาปกรรมมีจริง ใครทำคนไทยจมน้ำ อย่าหวังว่าจะสำลักความสุขหลังน้ำลดได้ เพราะกรรมได้ส่งน้ำตามไล่ล่าเพื่อกวาดล้างความชั่วให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินนี้
จนหมดโอกาสวางมาสเตอร์แพลนประเทศ สร้างนิวไทยแลนด์ ที่อยากสวาปามงบประมาณจนไม่เคยคิดนั่งเรือออกเยี่ยมชาวบ้าน
เฮ้อ...ไร้คำบรรยาย
กลับไปขายบ้านเหมือนเดิมเถอะ ท่านนายกหุ่นเชิด...
#24
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 15:14
#25
ตอบ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 13:28
อย่าลืมนับนิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาครเข้าไปในสถิติของปูกลวงด้วยนะครับ ดูท่าจะอาการไม่ดีเหมือนกัน
“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.” - Mahatma Gandhi
สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด