*แก้ไขหัวกระทู้ ...
สส.เพื่อไทยเปิดประตูน้ำคลอง สามวา นายกเห็นด้วย แสดงว่านิคนบางชัน เตรียมจมเป็นแห่งต่อไป
ชาวคลองสามวาสลายบางส่วนหลังพอใจนายกฯเปิดประตู
ภายหลังที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้เปิดประตูระบายน้ำคลองสาววาได้สูง 1 เมตร ทำให้ประชาชนบางส่วนที่ได้มาชุมนุมกดดันก่อนหน้านี้เดินทางกลับบ้านแต่ยังมีบางส่วนเฝ้าติดตามสถานการณ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ประชาชนได้ช่วยกันเจาะคันดินเพื่อเร่งระบายน้ำให้ไหลเร็วขึ้นทั้งนี้ นายวิชาญ มีนชัยนันท์ และ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ 2 ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมาเจรจากับประชาชนแล้ว ซึ่งประสบผลสำเร็จในระดับหนึ่ง ขณะนี้ประชาชนอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างพอใจกับการเปิดประตูระบายน้ำสูง 1 เมตร
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ให้การรักษาความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด
http://www.innnews.c...-318031_06.html
วันที่31ต.ค. นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้มีหนังสือคำสั่งมาถึงกทม. ให้ทำการเปิดประตูระบายน้ำที่คลองสามวา จำนวน 1 เมตร แล้ว ส่วนผลกระทบต่อนิคมอุตสาหกรรมบางชัน เขตมีนบุรี นั้น นายกฯ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปหารือถึง มาตรการป้องกันที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป
อย่างไรก็ตาม คนใกล้ชิด น.ส.ยิ่งลักษณ์มาชี้แจงภายหลังว่า การเปิดประตูระบายน้ำ 80 เซนติเมตร เป็นข้อตกลงเช้ามืดวันที่ 31 ตุลาคม แต่หลังจากมาทำความเข้าใจกันอีกครั้ง รัฐบาลก็ตกลงกับ กทม.และตัวแทนชาวบ้าน ว่าจะเปิดประตูระบายน้ำที่ 100 เซนติเมตร โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เซ็นคำสั่งยินยอมให้เปิดประตูระบายน้ำคลองสามวาที่ความสูงดังกล่าวแล้ว
http://www.matichon....atid=&subcatid=
ผู้ว่าฯ กทม.วอน ศปภ.ทบทวนเปิดประตูระบายน้ำคลองสามวา เพื่อรักษาพื้นที่เศรษฐกิจและ กทม.ฝั่งตะวันออก เตรียมประกาศให้แขวงบางชัน เขตคลองสามวา เป็นพื้นที่เฝ้าระวัง
หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ระบุ มติ ศปภ.ที่ให้เปิดประตูระบายน้ำคลองสามวากว้าง 1 เมตร จะทำให้แขวงบางชันกลายเป็นพื้นที่เสี่ยง จึงต้องประกาศให้เป็นเขตเฝ้าระวัง เพราะมีนิคมอุตสาหกรรมบางชันตั้งอยู่ ทั้งนี้หากเปิดประตูระบายน้ำเพิ่มขึ้นระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งได้รับแจ้งอย่างไม่เป็นทางการว่า ศปภ.ไม่สามารถเปิดประตูระบายน้ำคลอง 8 และคลอง 10 จังหวัดปทุมธานีได้
ซึ่งจะส่งผลกระทบให้น้ำเข้าคลองแสนแสบและคลองลำประทิวมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบกับพื้นที่ฝั่งตะวันออกทั้งหมด ขณะที่ฝั่งตะวันตกน้ำจากจังหวัดนครปฐม มีปริมาณเพิ่มขึ้นและขยายวงกว้าง ซึ่งมีข้อจำกัดในการระบายน้ำ เช่น มีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำให้เกิดการบริหารจัดการ
ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องใน ศปภ.ใจแข็งต่อข้อเรียกร้องของประชาชนฝั่งตะวันออก ซึ่งยืนยันตนในฐานะนักการเมืองก็รักประชาชนเหมือนกับนักการเมืองคนอื่น แต่ต้องใจแข็งกับประชาชนจำนวนน้อย เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ เพราะสถานการณ์น้ำในฝั่งตะวันออกสามารถบริหารจัดการได้
http://www.krobkruak...1%E0%B8%99.html