ความเชื่อมั่นไทยจ่อ เหว ต่างชาติอัด รัฐไร้น้ำยาแก้
ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส คือหนึ่งในบริษัทหลายพันแห่งมีโรงงานจมน้ำ และออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลไทยรับประกันให้มั่นใจว่า จะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต ซึ่งนับเป็นท่าทีต่อเนื่องของบรรดาบริษัทข้ามชาติ ที่เรียกร้องให้รัฐบาลไทยเร่งจัดการกับปัญหาน้ำท่วมใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 50 ปีโดยเร็ว
เพียงแต่ครั้งนี้นักลงทุนต่างชาติเริ่มพุ่งเป้าเป็นพิเศษไปที่ทิศทางใน อนาคต กับ “ความน่าเชื่อถือของประเทศไทย” ที่เห็นได้ชัดเจนว่าเริ่มจะสั่นคลอนลงไปตามแรงกระเพื่อมของน้ำ ที่เข้ากระทบท่วมนิคมอุตสาหกรรมทั้ง 7 แห่งในประเทศ
“ความน่าเชื่อถือของประเทศไทยขึ้นอยู่กับตรงจุดนี้ จำเป็นต้องมีการจัดทำแผนทบทวนเรื่องการป้องกันนิคมอุตสาหกรรมจากภาวะน้ำท่วม อย่างสมบูรณ์ และแผนการที่ว่านี้ก็จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลด้วย” ริชาร์ด ฮาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของฮานา กล่าวกับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก
แน่นอนว่า Credibility หรือความน่าเชื่อถือของประเทศไทย หรืออาจสื่อความหมายได้อีกว่า “ความน่าเชื่อถือต่อศักยภาพในการแก้ปัญหาของรัฐบาลไทย” นั้น คือประเด็นที่นักลงทุนต่างชาติกำลังจับตามากที่สุดในขณะนี้ ซึ่งอาจกระทบต่อการพิจารณาหรือทบทวนแผนการลงทุนระยะยาวในประเทศไทย
หากรัฐบาลไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ว่า ภาวะน้ำท่วมใหญ่กลืนนิคมอุตสาหกรรมทั้ง 7 แห่งนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก ก็อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญต่อทิศทางการลงทุนของต่างชาติในไทย นับตั้งแต่เกิดนิคมอุตสาหกรรมขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อ 40 ปีก่อน ซึ่งเปลี่ยนโฉมหน้าประเทศไทยในฐานะประเทศเกษตรกรรมให้เริ่มกลายเป็นฐานการ ผลิตที่สำคัญของต่างชาติ
ดังเช่นที่ พงษ์ศักดิ์ อัสสกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า รัฐบาลอาจต้องใช้งบประมาณสูงถึง 500 ล้านบาท ในการเข้าฟื้นฟูบริษัทเหล่านี้ รวมถึงก่อสร้างโครงสร้างต่างๆ เพื่อเบี่ยงเส้นทางน้ำ
ทว่า เงินจำนวนนี้ก็ยังไม่น่าวิตกเท่ากับความเชื่อมั่นของต่างชาติต่อประเทศไทยในระยะยาว
“นักลงทุนทุกรายต่างก็สอบถามเข้ามาตลอดว่า จะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำรอยขึ้นอีกในปีหน้าหรือ ปีถัดไป ซึ่งเราจำเป็นต้องรับประกัน ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับพวกเขา” พงษ์ศักดิ์ กล่าวกับบลูมเบิร์ก
แม้จนถึงขณะนี้จะยังไม่มีบริษัทใดส่งสัญญาณแรงๆ ว่าจะทบทวนแผนการลงทุนในไทย แต่ตัวอย่างที่เกิดขึ้นแล้วกับบริษัทญี่ปุ่นหลายแห่งที่มีฐานการผลิตในไทย ก็อาจทำให้ใครร้อนๆ หนาวๆ ได้เหมือนกัน
ฮอนด้า มอเตอร์ คือตัวอย่างหนึ่งที่ชัดเจนที่สุด กับตัวเลขผลประกอบการครึ่งปีงบประมาณแรก ที่มีผลกำไรสุทธิลดลงถึง 77.4% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
แน่นอนว่า ผลกำไรที่ดิ่งลงจากรายได้สุทธิที่ลดลงเหลือเพียง 9.22 แสนล้านเยน (ราว 3.51 หมื่นล้านบาท) ไม่ได้เป็นปัญหาจากน้ำท่วมในประเทศไทย ทั้งหมดนี้เป็นผลกระทบหลักๆ มาจากแผ่นดินไหวพ่วงสึนามิเมื่อเดือน มี.ค. ในหลายพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น รวมถึงปัจจัยค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นอย่างหนัก
แต่ภาวะน้ำท่วมในไทยก็เป็นตัวดับฝันของฮอนด้า และอีกหลายบริษัทที่หวังจะฟื้นกำลังการผลิตอย่างเต็มที่ช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อชดเชยความเสียหายจากแผ่นดินไหว
เมื่อต้นปีฮอนด้า มอเตอร์ ต้องเลื่อนการเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลังออกไปก่อน ระหว่างการแถลงผลประกอบการครึ่งปีแรกเมื่อวันที่ 31 ต.ค. เพราะยังต้องประเมินความเสียหายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะฮอนด้านั้น เป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์เพียงรายเดียวที่โรงงานผลิตรถยนต์ต้องจมน้ำเสียหาย ซึ่งล่าสุดหนังสือพิมพ์ธุรกิจรายวันในญี่ปุ่น นิกเกอิ ระบุว่า ฮอนด้าอาจต้องปิดโรงงานที่น้ำท่วมนานถึง 6 เดือน
ขณะที่บริษัท ทีดีเค (TDK) ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่จากญี่ปุ่น ก็ได้ประกาศลดจำนวนพนักงานลงทั่วโลก 1.1 หมื่นอัตรา หรือราว 12% จากพนักงานทั้งหมด 8.5 หมื่นอัตรา เมื่อวันที่ 31 ต.ค. มีผลภายใน 2 ปีนี้ โดยเป็นมาตรการลดรายจ่ายเพิ่มผลกำไรให้บริษัท
แม้จะไม่ได้ระบุในเหตุผลของการเลย์ออฟรอบนี้ แต่ทีดีเคก็มีโรงงานในประเทศไทยถึง 4 แห่ง ซึ่งทั้งหมดต้องระงับการผลิตลงชั่วคราวจากปัญหาน้ำท่วม จนส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตอย่างหนัก
ทางด้านหนังสือพิมพ์วอลสตรีต เจอร์นัล ได้รายงานอ้างบรรดานักวิเคราะห์ทางการเมืองว่า การฟื้นฟูอุตสาหกรรมเหล่านี้ ไม่ว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไรก็ตาม คือภารกิจสำคัญที่เป็นบททดสอบนายกรัฐมนตรีชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และอาจรวมถึงรัฐบาลทั้งชุดหลังจากที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้ไม่กี่เดือน
ปัจจุบันโรงงานเกี่ยวกับยานยนต์และชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์หลายแห่งในเขตนิคม อุตสาหกรรมทางตอนเหนือของกรุงเทพฯ ต้องประสบกับภาวะน้ำท่วมและได้รับความเสียหายอย่างหนัก ซึ่งบริษัทผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ในไทยที่ต้องระงับการผลิตเพราะน้ำท่วมนั้น มีสัดส่วนมากถึง 1 ใน 4 ของโลก
ขณะที่ภาคยานยนต์นั้น บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 1 อย่างโตโยต้า มอเตอร์ ได้รับผลกระทบรวนเป็นลูกโซ่ไปทั่วโลกทั้งในญี่ปุ่นและสหรัฐ เช่นเดียวกับฮอนด้า มอเตอร์ ที่อาจจะไม่สามารถฟื้นการผลิตเต็มรูปแบบในโรงงานที่ถูกน้ำท่วมนานถึง 6 เดือน
“การให้คะแนนในการแก้ปัญหาของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ อาจจะออกมาดีมาก หรือแย่มาก แต่จะไม่มีการตัดเกรดแบบให้ผ่านกลางๆ แน่ และหัวใจสำคัญของบททดสอบนี้ก็อยู่ที่ว่า ยิ่งลักษณ์จะจัดการกับกระบวนการฟื้นฟูครั้งนี้อย่างไร” ไมเคิล มอนเตซาโน นักวิเคราะห์จากสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาในสิงคโปร์ กล่าวกับวอลสตรีต เจอร์นัล
เพราะนอกจากน้ำท่วมครั้งนี้จะกระทบต่อโรงงานกว่า 1 หมื่นแห่ง ที่ต้องหยุดการผลิตลงโดยไม่มีกำหนดแล้ว ก็ยังกระทบต่อตำแหน่งงานถึงราว 6.6 แสนอัตรา ที่เป็นหัวใจสำคัญของพี่น้องชาวไทยทั้งชนชั้นกลางและคนหาเช้ากินค่ำด้วย
ขณะที่ คริส เบเกอร์ นักเขียนและนักวิจารณ์ทางการเมืองในไทย มองว่า ยังเป็นเรื่องยากมากที่จะบอกได้ว่าลูกเต๋าจะออกมาอย่างไรสำหรับนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ในผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้
“คิดว่าผลลัพธ์ที่จะออกมา ยังคงอยู่ในมือของยิ่งลักษณ์และรัฐบาล ซึ่งที่สุดแล้วอาจจะออกมาตรงข้ามกับที่นักวิจารณ์พูดไว้ก็ได้” เบเกอร์ กล่าว ซึ่งชี้ชัดว่า ณ วันนี้ รัฐบาลนายกฯยิ่งลักษณ์ ยังมีโอกาสที่จะโชว์ศักยภาพแก้ปัญหา และแสดงให้เห็นความสามารถในการฟื้นฟูประเทศหลังน้ำลด
ทว่า หากโอกาสผ่านพ้นไปโดยไม่สามารถแสดงให้เห็นความน่าเชื่อถือ หรือเครดิตใดๆ ที่ประเทศไทยควรจะมีในฐานะฮับการผลิตสำคัญแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้....
ไม่นักลงทุนต่างชาติก็รัฐบาลไทย ที่อาจจะไปพร้อมกับน้ำ
http://bit.ly/tsXuMM
![Photo](http://static.serithai.net/webboard/uploads/profile/photo-thumb-3518.jpg?_r=0)
ความเชื่อมั่นไทยจ่อเหว ต่างชาติอัดรัฐไร้น้ำยาแก้ปัญหาน้ำท่วม
#1
Posted 1 November 2011 - 19:51
#2
Posted 1 November 2011 - 20:07
ขนาดคนในประเทศยังหวั่นๆ เลย นักลงทุนต่างชาติคงสะบัดร้อนสะบัดหนาวไปตามๆ กัน
#3
Posted 1 November 2011 - 20:08
#4
Posted 1 November 2011 - 20:11
#5
Posted 1 November 2011 - 22:08
They know how incapable Yingluck is but they can't say that directly.
That's why they keep asking about the future plans for crisis prevention.
They know that the walking botox does not have anything to show them right now.
Red shirts perhaps were not born idiots, but are acting idiotically and will die idiots. What a poor creature!
Red shirts in the cyber world are merely contract posters. These dumb fucks are worthless pieces of shit.
Stupidity and incompetence of the walking botox will run have run Thailand to the ground.
The magnitude of this disaster would have decreased exponentially if proper water management had been applied in time like since the inception of the Bang-Ra-Kum model.
#6
Posted 1 November 2011 - 22:12
#7
Posted 2 November 2011 - 09:45
#8
Posted 2 November 2011 - 09:53
และจะเป็นรัฐบาลต่อไปอย่างน้อยอีก 8 ปี พวกต่างชาติอำมาตย์นายทุนไม่ต้องมาแส่
ถ้าไม่พอใจก็ถอนการลงทุนไปซะ เพราะเราไม่ต้องการเงินของพวกนายทุนที่ไม่เคารพเสียงส่วนใหญ่
![:angry:](http://webboard.serithai.net/public/style_emoticons/default/angry.png)
~ ทักษิณตาย เสรีไทยไชโย ~
#9
Posted 2 November 2011 - 10:09
เทวดาแม้ว บอกพวกเราแล้วว่า
หลังน้ำลดจะมีรัฐไทยใหม่ เราไม่สนพวกอำมาตย์หรอก
"เสียงข้างมากเพียงหนึ่งวัน ใช้อ้างความชอบธรรม 4 ปี"
#10
Posted 2 November 2011 - 10:17
the walking botoxThese international investors know what is going on here.
They know how incapable Yingluck is but they can't say that directly.
That's why they keep asking about the future plans for crisis prevention.
They know that the walking botox does not have anything to show them right now.
5555
#11
Posted 2 November 2011 - 10:25
ของเค้าเสียหายเป็นล้าน แทนที่จะออกมาให้ความมันในว่าจะช่วยเหลือ กลับบอกให้ไปเคลมประกันเอง ............
#12
Posted 2 November 2011 - 14:00
เจอทั้งหนี้เน่ายุโรป + น้ำท่วมและอี Poo โง่
มีแต่พังกับพังครับ
#13
Posted 2 November 2011 - 14:11
ถ้าไม่พอใจก็ออกไปซ่ะ ถ้าไม่อยากออกไป ก็ หุบปากซ่ะ เพราะเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง
#14
Posted 2 November 2011 - 14:42
![:ph34r:](http://webboard.serithai.net/public/style_emoticons/default/ph34r.png)
“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.” - Mahatma Gandhi
สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด
#15
Posted 2 November 2011 - 18:10
จับตาดูการประชุมเอเปคที่จะถึงนี้ครับ
รัฐบาลจะไปแถในที่ประชุมยังไง และจะโยนขี้ให้ใครอีก
ผมว่าถ้าไปโยนขี้ให้คนอื่นกลางที่ประชุมเอเปค ยิ่งจะทำให้ตกแบบไม่มีโผล่ ไม่ได้ผุดได้เกิด เลยนะครับ
ความรับผิดชอบมันสำคัญนะ มันส่งผลต่อไปยังความเชื่อมั่น ต่างชาติลงทุนที่กับความเชื่อมั่นและน่าเชื่อถือ
ถ้า รัฐบาลนี้ ยืดอกรับ มันจะพอดึงขึ้นมาได้บ้าง
หวังแต่ว่ามันจะทำ..
ถ้าอยากได้ความเท่าเทียม
ก็ปีนป่ายขึ้นไปให้อยู่เทียบเท่ากับคนอื่นเค้า
อย่าได้กระชากฉุดให้คนอื่นเขาลงมาตกต่ำเท่ากับตน
#16
Posted 2 November 2011 - 19:12
ปูจะกล้าโผล่หน้าไปหรือเปล่า กลวงซะขนาดนั้น
จับตาดูการประชุมเอเปคที่จะถึงนี้ครับรัฐบาลจะไปแถในที่ประชุมยังไง และจะโยนขี้ให้ใครอีก
ผมว่าถ้าไปโยนขี้ให้คนอื่นกลางที่ประชุมเอเปค ยิ่งจะทำให้ตกแบบไม่มีโผล่ ไม่ได้ผุดได้เกิด เลยนะครับ
ความรับผิดชอบมันสำคัญนะ มันส่งผลต่อไปยังความเชื่อมั่น ต่างชาติลงทุนที่กับความเชื่อมั่นและน่าเชื่อถือ
ถ้า รัฐบาลนี้ ยืดอกรับ มันจะพอดึงขึ้นมาได้บ้าง
หวังแต่ว่ามันจะทำ..
#18
Posted 3 November 2011 - 13:21
ปูไม่ว่างค่ะ เลยให้ รมต.ต่างประเทศไปแทนปูจะกล้าโผล่หน้าไปหรือเปล่า กลวงซะขนาดนั้น
จับตาดูการประชุมเอเปคที่จะถึงนี้ครับรัฐบาลจะไปแถในที่ประชุมยังไง และจะโยนขี้ให้ใครอีก
ผมว่าถ้าไปโยนขี้ให้คนอื่นกลางที่ประชุมเอเปค ยิ่งจะทำให้ตกแบบไม่มีโผล่ ไม่ได้ผุดได้เกิด เลยนะครับ
ความรับผิดชอบมันสำคัญนะ มันส่งผลต่อไปยังความเชื่อมั่น ต่างชาติลงทุนที่กับความเชื่อมั่นและน่าเชื่อถือ
ถ้า รัฐบาลนี้ ยืดอกรับ มันจะพอดึงขึ้นมาได้บ้าง
หวังแต่ว่ามันจะทำ..
พร้อมกับ ล่ามอีก 10 คน (10 ชาติ)
#19
Posted 3 November 2011 - 13:25
ปูไม่ว่างค่ะ เลยให้ รมต.ต่างประเทศไปแทน
ปูจะกล้าโผล่หน้าไปหรือเปล่า กลวงซะขนาดนั้น
จับตาดูการประชุมเอเปคที่จะถึงนี้ครับรัฐบาลจะไปแถในที่ประชุมยังไง และจะโยนขี้ให้ใครอีก
ผมว่าถ้าไปโยนขี้ให้คนอื่นกลางที่ประชุมเอเปค ยิ่งจะทำให้ตกแบบไม่มีโผล่ ไม่ได้ผุดได้เกิด เลยนะครับ
ความรับผิดชอบมันสำคัญนะ มันส่งผลต่อไปยังความเชื่อมั่น ต่างชาติลงทุนที่กับความเชื่อมั่นและน่าเชื่อถือ
ถ้า รัฐบาลนี้ ยืดอกรับ มันจะพอดึงขึ้นมาได้บ้าง
หวังแต่ว่ามันจะทำ..
พร้อมกับ ล่ามอีก 10 คน (10 ชาติ)
10 คนคงไม่พอมั้งครับ เพราะปัจจุบัน เอเปคมีสมาชิกทั้งสิ้น 21 เขตเศรษฐกิจ (19 ประเทศ 2 เขตเศรษฐกิจ)
http://th.wikipedia....จเอเชีย-แปซิฟิก
#20
Posted 3 November 2011 - 13:52
งั้นคงต้องเช่าเหมาลำแล้วล่ะ รมต. 1 คน ที่เหลือล่าม เหอๆ
ปูไม่ว่างค่ะ เลยให้ รมต.ต่างประเทศไปแทน
ปูจะกล้าโผล่หน้าไปหรือเปล่า กลวงซะขนาดนั้น
จับตาดูการประชุมเอเปคที่จะถึงนี้ครับรัฐบาลจะไปแถในที่ประชุมยังไง และจะโยนขี้ให้ใครอีก
ผมว่าถ้าไปโยนขี้ให้คนอื่นกลางที่ประชุมเอเปค ยิ่งจะทำให้ตกแบบไม่มีโผล่ ไม่ได้ผุดได้เกิด เลยนะครับ
ความรับผิดชอบมันสำคัญนะ มันส่งผลต่อไปยังความเชื่อมั่น ต่างชาติลงทุนที่กับความเชื่อมั่นและน่าเชื่อถือ
ถ้า รัฐบาลนี้ ยืดอกรับ มันจะพอดึงขึ้นมาได้บ้าง
หวังแต่ว่ามันจะทำ..
พร้อมกับ ล่ามอีก 10 คน (10 ชาติ)
10 คนคงไม่พอมั้งครับ เพราะปัจจุบัน เอเปคมีสมาชิกทั้งสิ้น 21 เขตเศรษฐกิจ (19 ประเทศ 2 เขตเศรษฐกิจ)
http://th.wikipedia....%B8%B4%E0%B8%81
เจริญล่ะ ประเทศตู
#21
Posted 3 November 2011 - 13:58
#22
Posted 3 November 2011 - 14:07
ช่วงนี้ใครเล่นหุ้น แนะนำให้ลดพอร์ดและถือเงินสดดีกว่าครับ
เจอทั้งหนี้เน่ายุโรป + น้ำท่วมและอี Poo โง่
มีแต่พังกับพังครับ
ช่วงนี้หาซื้อที่ดินราคาถูกเก็บไว้ดีไหมครับ
#23
Posted 3 November 2011 - 14:38
#24
Posted 3 November 2011 - 15:12
#25
Posted 4 November 2011 - 12:13
ช่วงนี้ใครเล่นหุ้น แนะนำให้ลดพอร์ดและถือเงินสดดีกว่าครับ
เจอทั้งหนี้เน่ายุโรป + น้ำท่วมและอี Poo โง่
มีแต่พังกับพังครับ
ช่วงนี้หาซื้อที่ดินราคาถูกเก็บไว้ดีไหมครับ
ที่ดินน่าจะลำบากครับ โดยเฉพาะพื้นที่ๆน้ำท่วม เพราะราคาจะตกจนน่าใจหาย ถึงจะซื้อตอนราคาต่ำ แต่โอกาสปล่อย ผมยังมองว่ายากและต้อง Hold ไว้นานพอดู ถึงจะปล่อยออกครับ
ถ้าจะลงทุนจริงๆ แนะนำอพาตเมน หรือ พวกห้องเช่าตามแนวรถไฟฟ้าที่ยังไม่ท่วมและมีที่จอดรถสูง น่าจะปล่อยได้ง่ายกว่าครับ
#26
Posted 4 November 2011 - 13:28
เสร็จแล้วก็เผ่นดากแนบนอนกินนั่งกินสบายยันโครตเหลน
![Posted Image](http://image.free.in.th/z/ir/986675261.jpg)