Jump to content


Photo
- - - - -

รายการ สรยุทธ์วันนี้ ใครดูบ้าง


This topic has been archived. This means that you cannot reply to this topic.
20 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 sigree

sigree

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,883 posts

ตอบ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 18:59

ผมได้ดูแวบๆ เท่าที่ดูเหมือนสัมภาษณ์อธิบดี กรมชลฯ

แกพูดราวกับว่า ที่ผ่านมา ศปภ ใช่บริการนักวิชาการที่มีแต่ทฤษฎี ไม่เข้าใจการปฎิบัติและทำให้บริหารที่ผ่านมา ผิด

กรณีที่แกยกคือ ประตู พลเทพ แกบอก รมต เกษตร และแก พูดในที่ประชุม ครม ว่า

สะใจกันแล้วใช่ไหม?

เพราะ ครม เชื่อว่าเปิด ประตู พลเทพแล้วน้ำจะลด แล้วไปเพิ่มที่สุพรรณ

แต่ความจริงนั้นทำให้บางบัวทองท่วม


รายละเอียดเยอะครับ ใครดูบ้าง มีคลิปยิ่งดี

ขอบคุณครับ

#2 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 19:22

ประตูพลเทพเปิดตอนนี้ที่บางบัวทองก็ไม่ลดเพราะน้ำไม่ได้ไหลจากนนทบุรีไปชัยนาท

[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#3 redfrog53

redfrog53

    เกิดที่รัสเซีย มาโตที่ สรท.

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 25,221 posts

ตอบ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 19:26

อธิบดี กรมชลฯ นั้นแหละต้ิองพิจารณาก่อนเพื่อน เพราะรู้ว่าผิดแต่ทำไมปล่อย
หรือ ต้อนนี้ทำไรอยู่ ขลประทาน ก้อการกินกับน้ำไม่ใช่ อย่าบอกนะว่า รู้จักแต่น้ำในอ่างของเฮียชู

Posted Image

#4 bird

bird

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,191 posts

ตอบ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 19:28

http://www.krobkruak...r=2011&month=11

ได้มาแค่นี้ค่ะ...

#5 Mr.baby

Mr.baby

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 51 posts

ตอบ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 19:33

ท่านชมใหญ่เลย ว่า บ้านเมืองเรามีแต่พวกอวดรู้ที่ดูแต่ทฤษดี แต่ทำจริงไม่ได้
และ ถ้าไม่มีพวกมือบอน จะดีมาก เพราะจะได้ ระบายน้ำให้ตามแผนที่วางไว้ได้
baby

#6 นักเรียนตลอดชีพ

นักเรียนตลอดชีพ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,024 posts

ตอบ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 20:18

ว่าจะชวนคุยเรื่องนี้เหมือนกัน ......
ก่อนเริ่มคุย ไอ้ยุทธ์ ตอกลิ่มอีกแล้ว ...

มันบอก ฝั่ง ตะวันออก น้ำเข้าไปนิดหน่อย บ่นกันแล้ว ชาวบ้านเขาท่วมกันมิดหัวมาเป็นเดือน ...



เรื่อง อ.กรมชลแก้ตัวเหมือนกัน ... ส่งSMS เข้าไป (รู้อยู่แล้ว ว่าไม่ได้ขึ้นหรอก) กรมชลพูดจริงแค่ครึ่งเดียว จำเหตุการณ์ ที่ปตร.พลเทพได้ ที่นวนครก็จำได้ ...

ความจริง คือ ปตร.พลเทพ เปิดตอนน้ำผ่านอยุธยาลงมาแล้วด้วย ... ซึ่งคนท้ายน้ำม.ท่าจีน ยังบอก น้ำปีนี้ ไม่ได้มาในแม่น้ำ มันมาตามทุ่ง ส่วนที่ทำป้องกัน และระบายน้ำช่วยได้น้อยมาก ...

.. เห็นได้ชัด ประชาธิปไตย เสียงส่วนใหญ่ ไม่ได้ทำให้ได้มา ซึ่งผู้นำที่เก่ง และ ฉลาด ..

ที่นำความอยู่ดี กินดี มาให้ประชาชนได้ แล้วคุณยังจะอ้างประชาธิปไตยเสียงส่วนใหญ่ทำไม


#7 หมอต้นไม้

หมอต้นไม้

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 155 posts

ตอบ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 20:49

เท่าที่ดูเป็นการแก้ตัวของอ.กรมชล เรืองประตูพลเทพ แต่ฟังเหตุผลของแกแล้ว ก็แหม่งๆ ไม่สมเหตุสมผล
สรุป ไม่เชือที่แกพูดและพยายามแก้ต่างให้ตัวเอง รมต.ธีระ และไอ้..ตี้ยบรรหาร :wacko:

#8 นักเรียนตลอดชีพ

นักเรียนตลอดชีพ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,024 posts

ตอบ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 21:39

ผมพอสรุปให้ฟังได้ครับ ...

เรื่องมีอยู่ว่า ปูสั่ง ให้อ.กรมชลฯ ดูแลการระบายน้ำทางตต.ของกทม. ...

อธิบดี เปิดหัวว่า นี่ล่ะ ผมบอกแล้ว ว่าอย่าระบายน้ำมาทาง ตะวันตก แล้วก็อ้างถึง เพราะเปิด ปตร.พลเทพ ทำให้น้ำำลงมาทาง ตต. ของกทม.(ซึ่งในความเป็นจริง หากเปิดน้ำที่ปตร.พลเทพตั้งแต่แรก(เดือนก่อน) น้ำส่วนหนึ่ง จะอยู่ในลำน้ำ(ลุ่มน้ำท่าจีน) ไม่ใช่น้ำหลากอย่างในปัจจุบัน ฉะนั้นที่อธิบดีแก้ตัวเรื่อง ปตร.พลเทพ จึงไม่เกี่ยวกับ น้ำที่ท่วมกทม.ฝั่ง ตะวันตก เลย) ...


อธิบายเพิ่มเติม ความเป็นจริงที่แย้งกับ คำแก้ตัวอธิบดี คือ น้ำที่หลาก และท่วมกทม.ทั้งหมด มาจากน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ผ่านมาทางอยุธยาซึ่งไม่ใช่เจตนาผันน้ำมาทางตะวันตกอย่างที่อธิบดีแก้ตัว แต่เป็นมวลของน้ำเทตัวลงไปทางนั้นตามธรรมชาติเอง.....

ซึ่งที่จริงแล้ว เพราะ แผนแม่แบบเดิม เราต้องระบายน้ำลงทางตะวันออก ของกทม.(ผู้ว่าอยากให้เปิดปตร.ก่อนถึงคลอง13ลงมา) แต่ด้วยเหตุบางอย่าง กรมชลฯเองนี่ล่ะ ที่พยายาม ดันน้ำไปทางตะวันออกจริง แต่ ดันขึ้นไปให้เหนือคลอง13(ต่ำกว่านั้นกรมชลไม่เปิดปตร.9-13)เพื่อกั้นพท.บางพื้นที่ไว้....... แต่ทิศนั้น พื้นที่มันสูงกว่าพื้นที่ปทุมมาก น้ำที่หลากมาจึงดันไปทางคลอง13ไม่ขึ้น พนังคลองรังสิตดันน้ำไม่ไหว พนังคลองรังสิต และเมืองเอกแตก น้ำจึงทะลักเข้ามาทาง เมืองเอก และรังสิต เข้าสู่กทม. เมื่อน้ำเริ่มไหลเข้ากทม.ตอนกลาง น้ำด้านที่อยู่รังสิตต่ำกว่าทางคลอง13 มวลน้ำจึงเทไปทาง ทิศตะวันตกแทน ...


ปล......ใครนึกภาพไม่ออก ลองนึกถึงเขื่อนที่กั้นน้ำไว้ ระดับน้ำเสมอกันตลอดแนวเขื่อน หากด้านใดด้านหนึ่่งแตก(ซ้ายหรือขวา) น้ำจะเริ่มไหลออกมาจากรูที่แตก น้ำตรงหน้ารูแตกจะต่ำกว่าน้ำด้านอื่นๆ (ธรรมชาติของน้ำไหลจากสูงลงต่ำ) มวลน้ำด้านอื่นจึงถูกดึงลงมาด้วย ...

.. เห็นได้ชัด ประชาธิปไตย เสียงส่วนใหญ่ ไม่ได้ทำให้ได้มา ซึ่งผู้นำที่เก่ง และ ฉลาด ..

ที่นำความอยู่ดี กินดี มาให้ประชาชนได้ แล้วคุณยังจะอ้างประชาธิปไตยเสียงส่วนใหญ่ทำไม


#9 Zelretch

Zelretch

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 387 posts

ตอบ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 22:42

ผมพอสรุปให้ฟังได้ครับ ...

เรื่องมีอยู่ว่า ปูสั่ง ให้อ.กรมชลฯ ดูแลการระบายน้ำทางตต.ของกทม. ...

อธิบดี เปิดหัวว่า นี่ล่ะ ผมบอกแล้ว ว่าอย่าระบายน้ำมาทาง ตะวันตก แล้วก็อ้างถึง เพราะเปิด ปตร.พลเทพ ทำให้น้ำำลงมาทาง ตต. ของกทม.(ซึ่งในความเป็นจริง หากเปิดน้ำที่ปตร.พลเทพตั้งแต่แรก(เดือนก่อน) น้ำส่วนหนึ่ง จะอยู่ในลำน้ำ(ลุ่มน้ำท่าจีน) ไม่ใช่น้ำหลากอย่างในปัจจุบัน ฉะนั้นที่อธิบดีแก้ตัวเรื่อง ปตร.พลเทพ จึงไม่เกี่ยวกับ น้ำที่ท่วมกทม.ฝั่ง ตะวันตก เลย) ...


อธิบายเพิ่มเติม ความเป็นจริงที่แย้งกับ คำแก้ตัวอธิบดี คือ น้ำที่หลาก และท่วมกทม.ทั้งหมด มาจากน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ผ่านมาทางอยุธยาซึ่งไม่ใช่เจตนาผันน้ำมาทางตะวันตกอย่างที่อธิบดีแก้ตัว แต่เป็นมวลของน้ำเทตัวลงไปทางนั้นตามธรรมชาติเอง.....

ซึ่งที่จริงแล้ว เพราะ แผนแม่แบบเดิม เราต้องระบายน้ำลงทางตะวันออก ของกทม.(ผู้ว่าอยากให้เปิดปตร.ก่อนถึงคลอง13ลงมา) แต่ด้วยเหตุบางอย่าง กรมชลฯเองนี่ล่ะ ที่พยายาม ดันน้ำไปทางตะวันออกจริง แต่ ดันขึ้นไปให้เหนือคลอง13(ต่ำกว่านั้นกรมชลไม่เปิดปตร.9-13)เพื่อกั้นพท.บางพื้นที่ไว้....... แต่ทิศนั้น พื้นที่มันสูงกว่าพื้นที่ปทุมมาก น้ำที่หลากมาจึงดันไปทางคลอง13ไม่ขึ้น พนังคลองรังสิตดันน้ำไม่ไหว พนังคลองรังสิต และเมืองเอกแตก น้ำจึงทะลักเข้ามาทาง เมืองเอก และรังสิต เข้าสู่กทม. เมื่อน้ำเริ่มไหลเข้ากทม.ตอนกลาง น้ำด้านที่อยู่รังสิตต่ำกว่าทางคลอง13 มวลน้ำจึงเทไปทาง ทิศตะวันตกแทน ...


ปล......ใครนึกภาพไม่ออก ลองนึกถึงเขื่อนที่กั้นน้ำไว้ ระดับน้ำเสมอกันตลอดแนวเขื่อน หากด้านใดด้านหนึ่่งแตก(ซ้ายหรือขวา) น้ำจะเริ่มไหลออกมาจากรูที่แตก น้ำตรงหน้ารูแตกจะต่ำกว่าน้ำด้านอื่นๆ (ธรรมชาติของน้ำไหลจากสูงลงต่ำ) มวลน้ำด้านอื่นจึงถูกดึงลงมาด้วย ...


พอดีผมไม่ใช่คนกรุงเทพฯ น่ะครับ อ่านข่าว อ่านบทความ/บทวิเคราะห์แล้วยังไม่ค่อยเคลียร์เท่าไหร่ เพราะไม่ทราบสภาพทางภูมิศาสตร์ของกรุงเทพฯ เลยพยายาม search หาผังเมืองกรุงเทพฯ มาดูประกอบ แล้วไปพบเว็บนี้เข้า

แผนที่แสดงความสูง ทางน้ำไหล คันกั้นน้ำ และความสูงคันกั้นน้ำรอบกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จากกรมแผนที่ทหาร

คิดว่าภาพในเว็บน่าจะมีประโยชน์ไม่น้อย (โดยเฉพาะที่จัดทำโดยกรมแผนที่ทหาร, แผนที่ฉบับ 4 ในลิงค์) หากนำมาใช้ประกอบการอธิบายน่ะครับ

ตอนนี้เบื้องต้นผมเข้าใจว่าคันกั้นน้ำรอบกรุงเทพฯ มีเพื่อ(พยายาม)ไม่ได้น้ำที่หลากมากลายเป็น "น้ำทุ่ง" เพราะควบคุมยาก จึงกั้นเอาไว้ก่อน แล้วพยายามบีบให้ระบายลงทางเส้นทางเดินน้ำ (แม่น้ำ, คูคลองต่างๆ) ซึ่งหากน้ำไหลเข้าสู่ระบบระบายน้ำได้แล้ว ก็อาศัยปตร. + ปั๊มน้ำตามจุดต่างๆ ในการ "ควบคุม" การไหลของน้ำให้เป็นไปตามต้องการ โดยมีเป้าหมายเร่งให้ระบายลงทะเล(อ่าวไทย)

ส่วนที่น้ำเกิน(ยังไม่ไหลสู่ระบบ) ก็จะเจิ่งนองในส่วนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ... ซึ่งเท่ากับบริเวณเหล่านั้นจะทำหน้าที่เหมือนเป็นที่พักน้ำชั่วคราวไปก่อน (ผมไม่แน่ใจว่านี่คือ "แก้มลิง" ที่พูดถึงกันหรือเปล่าน่ะครับ) แน่นอนว่าตรงนั้นจะ "ท่วมหนัก" หากมองตาม "แผน" ที่เคยวางไว้บริเวณเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นทุ่ง เป็นนา ดังนั้นความเสียหายจึงมีแนวทางเยียวยาที่ค่อนข้าง "สะดวก" หน่อย แต่เหมือนว่าปัจจุบันมีการเปลี่ยนเป็นชุมชนที่อยู่อาศัย จึงทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้น (และการเยียวยาลำบากมากขึ้นด้วย)

ทีนี้มองสภาพการณ์กรุงเทพฯ ในปัจจุบัน ผมเข้าใจว่าแนวทางรับมือเป็นรูปแบบเดิมคือ... พยายามบีบให้น้ำลงสู่ระบบระบายน้ำ ส่วนเกินก็หาทางกั้น สร้างพื้นที่พักน้ำชั่วคราวขึ้น (เพื่อความคุมความเสียหาย) แต่ทีนี้ปรากฏว่าแผนนี้ใช้ไม่ได้ เพราะมีคนคอยพังคันกั้นน้ำ ทำให้แทนที่น้ำจะลงสู่ระบบระบาย(ควบคุมได้) กลายเป็นไหลนองไปทั่ว ไม่สามารถควบคุมได้, ขณะเดียวกันคือการควบคุมปตร. + ปั๊มน้ำไม่สอดคล้อง/ไม่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้สถานการณ์มีแต่ทรุดกับทรุด :mellow:

#10 beta

beta

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 460 posts

ตอบ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 22:46

อธิบดีกรมชล พูดเหมือนว่าตัวเองไม่ได้กักน้ำที่เขื่อน หรือว่าเค้าไม่มีหน้าที่กักน้ำ ปล่อยน้ำ? ใครรู้มั่งครับ

#11 นักเรียนตลอดชีพ

นักเรียนตลอดชีพ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,024 posts

ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 09:14

พอดีผมไม่ใช่คนกรุงเทพฯ น่ะครับ อ่านข่าว อ่านบทความ/บทวิเคราะห์แล้วยังไม่ค่อยเคลียร์เท่าไหร่ เพราะไม่ทราบสภาพทางภูมิศาสตร์ของกรุงเทพฯ เลยพยายาม search หาผังเมืองกรุงเทพฯ มาดูประกอบ แล้วไปพบเว็บนี้เข้า

แผนที่แสดงความสูง ทางน้ำไหล คันกั้นน้ำ และความสูงคันกั้นน้ำรอบกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จากกรมแผนที่ทหาร

คิดว่าภาพในเว็บน่าจะมีประโยชน์ไม่น้อย (โดยเฉพาะที่จัดทำโดยกรมแผนที่ทหาร, แผนที่ฉบับ 4 ในลิงค์) หากนำมาใช้ประกอบการอธิบายน่ะครับ

ตอนนี้เบื้องต้นผมเข้าใจว่าคันกั้นน้ำรอบกรุงเทพฯ มีเพื่อ(พยายาม)ไม่ได้น้ำที่หลากมากลายเป็น "น้ำทุ่ง" เพราะควบคุมยาก จึงกั้นเอาไว้ก่อน แล้วพยายามบีบให้ระบายลงทางเส้นทางเดินน้ำ (แม่น้ำ, คูคลองต่างๆ) ซึ่งหากน้ำไหลเข้าสู่ระบบระบายน้ำได้แล้ว ก็อาศัยปตร. + ปั๊มน้ำตามจุดต่างๆ ในการ "ควบคุม" การไหลของน้ำให้เป็นไปตามต้องการ โดยมีเป้าหมายเร่งให้ระบายลงทะเล(อ่าวไทย)

ส่วนที่น้ำเกิน(ยังไม่ไหลสู่ระบบ) ก็จะเจิ่งนองในส่วนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ... ซึ่งเท่ากับบริเวณเหล่านั้นจะทำหน้าที่เหมือนเป็นที่พักน้ำชั่วคราวไปก่อน (ผมไม่แน่ใจว่านี่คือ "แก้มลิง" ที่พูดถึงกันหรือเปล่าน่ะครับ) แน่นอนว่าตรงนั้นจะ "ท่วมหนัก" หากมองตาม "แผน" ที่เคยวางไว้บริเวณเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นทุ่ง เป็นนา ดังนั้นความเสียหายจึงมีแนวทางเยียวยาที่ค่อนข้าง "สะดวก" หน่อย แต่เหมือนว่าปัจจุบันมีการเปลี่ยนเป็นชุมชนที่อยู่อาศัย จึงทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้น (และการเยียวยาลำบากมากขึ้นด้วย)

ทีนี้มองสภาพการณ์กรุงเทพฯ ในปัจจุบัน ผมเข้าใจว่าแนวทางรับมือเป็นรูปแบบเดิมคือ... พยายามบีบให้น้ำลงสู่ระบบระบายน้ำ ส่วนเกินก็หาทางกั้น สร้างพื้นที่พักน้ำชั่วคราวขึ้น (เพื่อความคุมความเสียหาย) แต่ทีนี้ปรากฏว่าแผนนี้ใช้ไม่ได้ เพราะมีคนคอยพังคันกั้นน้ำ ทำให้แทนที่น้ำจะลงสู่ระบบระบาย(ควบคุมได้) กลายเป็นไหลนองไปทั่ว ไม่สามารถควบคุมได้, ขณะเดียวกันคือการควบคุมปตร. + ปั๊มน้ำไม่สอดคล้อง/ไม่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้สถานการณ์มีแต่ทรุดกับทรุด :mellow:


ใช่ครับ ผมก็คิดเช่นนั้น ...

ตอนนี้ นายกเลยให้ กทม.ดูแลด้านตะวันออก ของกทม. ส่วนกรมชลฯดูแล ฝั่งตะวันตก(ฝั่งธนฯ) ....

บอกตรงๆเลย ทางตะวันตก กรมชลระบายน้ำไม่เป็นไปตามแผนแน่ ... เพราะปริมาณน้ำมาก(จากน้ำที่เอียงลงมาทางนี้ด้วย) + ระบบคูคลอง และการระบายน้ำฝั่งตะวันตกของลุ่มน้ำเจ้าพระยา +ลุ่มน้ำท่าจีน ไม่มีระบบระบายน้ำ ที่ดีพอ .....

ทางตะวันออกน้ำไม่มาก(เมื่อเทียบกับฝั่งตะวันตก) และผู้ว่า มีความรู้แผนที่ชัดเจน เครื่องมือก็ครบ ...

.. เห็นได้ชัด ประชาธิปไตย เสียงส่วนใหญ่ ไม่ได้ทำให้ได้มา ซึ่งผู้นำที่เก่ง และ ฉลาด ..

ที่นำความอยู่ดี กินดี มาให้ประชาชนได้ แล้วคุณยังจะอ้างประชาธิปไตยเสียงส่วนใหญ่ทำไม


#12 ลืมล็อกอินเก่า

ลืมล็อกอินเก่า

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 293 posts

ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 09:20

นอกเรื่องนิด...วันนี้ตอนเช้าใครดูมั่ง ไอ้ย้วยบอกประมาณว่า ความจริงผมรู้ว่าน้ำต้องท่วมกทม. หนักแน่ ตั้งแต่ตอนทำข่าวอยู่ที่อยุธยา

แล้วทำไมเอ็งปากเสีย พูดว่าอยุธยารับน้ำแทนกทม.

#13 phoebus

phoebus

    คณะรักษาความสงบแห่งชาติ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,636 posts

ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 09:22

ใครฟัง 92.25 อยู่ช่วงนี้จะมีเสียงประชัย เลี่ยวฯให้สัมภาษณ์แบบเปิดใจ


ซัดไอ้กรมชลฯนี้เต็ม ๆ มีอยู่ทุกต้นชั่วโมง


B) B)


ข้าจักล้มล้าง ระบอบทักษิณ ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย 


#14 phoebus

phoebus

    คณะรักษาความสงบแห่งชาติ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,636 posts

ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 09:25

นอกเรื่องนิด...วันนี้ตอนเช้าใครดูมั่ง ไอ้ย้วยบอกประมาณว่า ความจริงผมรู้ว่าน้ำต้องท่วมกทม. หนักแน่ ตั้งแต่ตอนทำข่าวอยู่ที่อยุธยา

แล้วทำไมเอ็งปากเสีย พูดว่าอยุธยารับน้ำแทนกทม.




ขี้ข้าแมงดา

ก็ต้องรับสัน_ดานแมงดามาใช้ด้วยกันล่ะครับ

B) B)

ข้าจักล้มล้าง ระบอบทักษิณ ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย 


#15 AnGeL.K.

AnGeL.K.

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 32 posts

ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 09:54

:D :D :D ...เห็น" คุณสร "พูดแล้ว
ผมไม่อยากว่า...เดียวหาว่ามือไม่พาย แต่เอาเท้าราน้ำ
ได้แต่ส่งกำลังใจ กับทัรพย์เล็กน้อยช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยครับ
เพราะอีกวัน 2 วันน่าจะเป็นผู้ประสบภัยซะเองครับ...สู้ ๆๆๆ ครับทุกคน

#16 korkang

korkang

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,879 posts

ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 11:02

ใครฟัง 92.25 อยู่ช่วงนี้จะมีเสียงประชัย เลี่ยวฯให้สัมภาษณ์แบบเปิดใจ


ซัดไอ้กรมชลฯนี้เต็ม ๆ มีอยู่ทุกต้นชั่วโมง


B) B)


ฟังครับ แต่บ่อยจัง :rolleyes:

#17 Bua Loi Kai Wan

Bua Loi Kai Wan

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 27 posts

ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 11:05

ส่งกำลังใจให้คนนำ้าท่วมทุกคน สู้สู้ รัดบานแย่มากแต่ที่แย่กว่าคือคนเลือกรัดบานชุดนี้

#18 zeedzaad

zeedzaad

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,963 posts

ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 14:01

มีแสบกว่านี้อีก คนเค้าจะไปบริจาคของให้ที่ห้องส่ง มันบอกว่าถ้าออกทีวีต้องมีค่าใช้จ่าย

เลวจริงๆ มันมองว่านี่คือการโฆษณาในรายการ ถุยเอ้ย
“A fool's brain digests philosophy into folly, science into superstition, and art into pedantry. Hence University education. ”George Bernard Shaw

#19 ชาตินี้ไม่เอาตระกูลชินวัตร

ชาตินี้ไม่เอาตระกูลชินวัตร

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,098 posts

ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 14:06

ประตูพลเทพเปิดตอนนี้ที่บางบัวทองก็ไม่ลดเพราะน้ำไม่ได้ไหลจากนนทบุรีไปชัยนาท

เห็นด้วยอย่างยิ่ง

#20 Apichai

Apichai

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,093 posts

ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 14:15


ใครฟัง 92.25 อยู่ช่วงนี้จะมีเสียงประชัย เลี่ยวฯให้สัมภาษณ์แบบเปิดใจ


ซัดไอ้กรมชลฯนี้เต็ม ๆ มีอยู่ทุกต้นชั่วโมง


B) B)


ฟังครับ แต่บ่อยจัง :rolleyes:


ลุงเแคน เล่นประเด็นนี้ กฟผ ตอบ 10 คำถาม อยู่ใน OKnation ครับ

http://www.oknation.net/blog/canthai/2011/11/02/entry-3


แต่เรื่่อง ปัจจุบัน เขื่อนจะต้องหยุดปล่อยน้ำได้แล้ว ของประชัย
ผมว่า ประชัย มั่ว
ข้อมูลของ กฟผ น่าเชื่อถือกว่า


9. ถาม ทำไมไม่หยุดปล่อยน้ำ ทั้งๆ ที่ไม่มีรายงานฝนตกเหนือเขื่อน

ตอบ พื้นที่รับน้ำของเขื่อนขนาดใหญ่ มีบริเวณกว้าง แม้จะไม่มีรายงานฝนตก แต่ก็อาจมีฝนตกในบางพื้นที่ รวมทั้งจะมีปริมาณน้ำหลากค้างทุ่งหรือพื้นที่ป่าเขาที่ทะยอยไหลเข้าเขื่อนตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม หากข้อมูลน้ำไหลเข้าเขื่อนลดลง จะมีการประเมินสถานการณ์ เพื่อลดการระบายน้ำทันที

นอกจากนี้ เพื่อช่วยให้เขื่อนยังสามารถช่วยบรรเทาสถานการณ์ความรุนแรงบางส่วนได้ ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2554 เป็นต้นมา มีระดับเก็บกักเกินกว่าร้อยละ 99 ที่ระดับเก็บกักดังกล่าวนี้ เขื่อนภูมิพลจะสามารถรับน้ำได้ไม่เกินวันละ 120 ล้านลูกบาศก์เมตร

การปล่อยน้ำบางส่วน ยังช่วยให้มีพื้นที่รับน้ำได้ดีกว่าการเก็บไว้จนเต็ม 100 เปอร์เซนต์ เช่น ในระหว่างวันที่ 3 - 5 ตุลาคม 2554 มีน้ำไหลเข้าวันละ 213 ถึง 289 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งหากเขื่อนเก็บกักน้ำไว้จนเต็มความจุ 100 เปอร์เซนต์ ก็จะต้องปล่อยน้ำที่เข้ามาในแต่ละวันออกทั้งหมด ซึ่งจะทำให้มีอัตราการไหลของน้ำรุนแรงและไม่สามารถควบคุมได้


#21 ทรงธรรม

ทรงธรรม

    ต่อให้ต้องเรียนจนแก่ ก็จะเรียนต่อไป คนเราพัฒนาได้ทุกคน

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,157 posts

ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 16:05

วันนั้นผมได้ฟังประชัยพูดเหมือนกัน ผมก็ไม่ค่อยเชื่อประชัยเท่าไร เขาบอกเขื่อนรับน้ำได้ 300 % ถ้ารับ 200 % ยังสบาย ผมฟังแล้วตกใจ คุณประชัยเขาเป็นวิศวกรก็จริง แต่เท่าที่ผมมีประสบการณ์กับวิศวกรของบริษัทนี่ เขาเคยแนะนำ ว่าให้ประหยัดวัตถุดิบ เขาพูดถึงจุดต่ำสุดที่พอรับได้ แล้วถ้ากรณีเขื่อนที่สร้างเกิดใช้จุดต่ำสุดนี่ขึ้นมา สัก 110% ก็น่ากลัวแล้ว ลองคิดดูนะครับ ช่วงตุลาคมปล่อยน้ำมา 100 กว่าล้าน ลบ.ม.ก็ว่าหนักหนาแล้ว ถ้าเกิดเขื่อนแตก น้ำเป็น 10,000 ล้าน ลบ.ม. ลงมานี่ผมไม่อยากจะคิด
แถมคุณประชัยยังพูดเห็นด้วยกับการถมทะเลอีก บอกควรทำนานแล้ว เท่าที่ผมอ่านมานะครับ ถมทะเลไม่ช่วยอะไรในสถานการณ์น้ำเหนือเลย จะทำให้น้ำระบายลงทะเลช้าลงอีกมากกว่า

ขอให้พวกเรา ชาวหลากสี และพันธมิตร จงมีชีวิตรอด จากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ฝีมือปูนา ไปตลอดรอดฝั่งด้วยครับ

 

PEMDAS ย่อมาจาก ลำดับการคำนวณ Parentheses , Exponentials , Multiply , Divide , Add , Subtract

 

FWGHSO ย่อมาจาก ลำดับการประเมินผลของ query  FROM, WHERE, GROUP BY, HAVING, SELECT, ORDER BY