ดูท่าว่าประเทศไทยกับสมญานามที่ได้รับการยกย่องไปทั่วโลกว่า สยามเมืองยิ้ม คงต้องเปลี่ยนชื่อเรียกขานใหม่เสียแล้วในปีนี้
โดย...ทีมข่าวต่างประเทศ
ดูท่าว่าประเทศไทยกับสมญานามที่ได้รับการยกย่องไปทั่วโลกว่า สยามเมืองยิ้ม คงต้องเปลี่ยนชื่อเรียกขานใหม่เสียแล้วในปีนี้ เพราะนอกจากจะยิ้มไม่ออกแล้ว ยังต้องเครียดจนความดันพุ่งกันเลยทีเดียว กับเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ในรอบครึ่งศตวรรษที่สร้างความเสียหายเป็นบริเวณ กว้าง เข้าครอบครองพื้นที่บริเวณตอน กลางของประเทศไทยให้เจิ่งนองเอ่อล้นไปด้วยน้ำ
ที่สำคัญไปกว่านั้น ความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น บรรดานักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทย ตลอดจนคู่ค้าและลูกค้าของไทยก็ล้วนได้รับอานิสงส์จากมวลน้ำก้อนใหญ่ในครั้ง นี้ด้วยเช่นกัน
ทั้งทางตรง สำหรับผู้ประกอบการเจ้าของโรงงานที่ต้องเผชิญหน้ากับน้ำที่เข้าท่วมโรงงานจน ต้องปิดกิจการเป็นการชั่วคราว และทางอ้อม สำหรับโรงงานหรือคู่ค้าที่ต้องพึ่งพาสินค้าจากไทยเพื่อใช้ต่อยอดผลิตสินค้า และบริการ
มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของโลก ได้เปิดเผยรายงานประจำสัปดาห์ คาดการณ์และประเมินความเสียหายจากเหตุอุทกภัยร้ายแรงของไทยในครั้งนี้ โดยระบุว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ของไทย มีสิทธิหดตัวในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2554 นี้ ซึ่งจะส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจตลอดทั้งปีของประเทศไทยลดลง 2.8% จากการเติบโตทางเศรษฐกิจของปี 2553 ซึ่งอยู่ที่ 7.8%
มูดี้ส์ ยังมิวายเตือนไทยว่าความเสียหายจากเหตุน้ำท่วมที่มีมูลค่าสูงถึง 6,500 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 2 แสนล้านบาท) ซึ่งมีค่าเทียบเท่า 2% ของจีดีพีที่มูดี้ส์เคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้ และมีโอกาสสูงที่มูลค่าความเสียหายจะทะยานเพิ่มขึ้นไปอีกมากกว่านี้
เรียกได้ว่าตราบใดที่น้ำยังคงไหลคืบคลานเพื่อหาทางออกสู่ทะเล ตราบนั้นภาคธุรกิจต่างๆ ของประเทศ ทั้งด้านโรงงานอุตสาหกรรม ท่องเที่ยว เกษตรกรรม และภาคอื่นๆ ก็มีสิทธิที่จะเกิดอาการเดี้ยงอย่างเท่าเทียมกัน
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด และเพิ่งจะเกิดได้ไม่นานก็คือกรณีของสนามบินดอนเมือง ซึ่งจัดตั้งเป็นศูนย์ประสานงานเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม แต่ก็ไม่อาจต้านทานกระแสน้ำหลาก จนต้องกลายเป็นศูนย์ประสบภัยน้ำท่วมเสียเอง
ทั้งนี้ มูดี้ส์มองว่าน้ำที่ท่วมสนามบินดอนเมืองจนต้องหยุดให้บริการ ส่งผลต่อระบบเครือข่ายการคมนาคมขนส่งของประเทศไทยต้องหยุดชะงัก กระเทือนต่อภาคธุรกิจอื่นๆ อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และยังกระทบไปถึงเครือข่ายการขนส่งไปยังพื้นที่ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำ ท่วมด้วยซ้ำ
ไม่เพียงแต่มูดี้ส์เท่านั้นที่ปรับประเมินความเสียหายจากเหตุน้ำท่วมใน ไทยเสียใหม่ บรรดานักเศรษฐศาสตร์จากหลายค่ายต่างปรับประเมินตัวเลขกันใหม่ทั้งสิ้น
บาร์คเลย์ แคปิตอล ที่ประเมินว่าไทยจะเสียหายหนักมากถึง 3 แสนล้านบาท และปรับลดจีดีพีไทยปี 2554 เหลือ 2.9% เครดิตสวิส ปรับจีดีพีไทยเหลือ 2.7% และไอเอ็นจีที่ยังคงตัวเลขไว้อยู่ที่ 3.9% แต่ก็ได้ส่งสัญญาณออกมาแล้วว่าบริษัทอาจปรับลดการคาดการณ์อีกครั้ง โดยมีแนวโน้มจะเหลือ 2.5%
เอออน เบนฟิลด์ บริษัทด้านธุรกิจประกันภัย ระบุว่า จากการสำรวจเพื่อรวบรวมความเสียหายทั้งหมดที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำท่วมในไทย พบโรงงานอุตสาหกรรมมากกว่า 1.48 หมื่นแห่ง ได้รับผลกระทบเรียบร้อยแล้ว โดยมีการประเมินเบื้องต้นว่าน่าจะส่งผลให้บรรดาธุรกิจเหล่านี้สูญรายได้หลาย พันล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ บริษัทด้านอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์พีซี รถยนต์ และอาหารและเครื่องดื่ม คือธุรกิจที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมมากที่สุด
รองลงมาคือ การท่องเที่ยว ที่ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินตัวเลขความเสียหายใดๆ ได้ ตามมาด้วยระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ทั้งไฟฟ้า น้ำประปา และถนนหนทาง ซึ่งเอออนเบนฟิลด์ ระบุว่า ขณะนี้ทางหลวง 535 สายของไทยจมน้ำเรียบร้อยแล้ว และคิดเป็นมูลค่าความเสียหายสูงถึง 163 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่มีถนนอีก 67 สาย ถูกทำลายยับเยิน
ความเสียหายลำดับต่อมาที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ ภาคเกษตรกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลผลิตข้าว ที่ส่งผลต่อตัวราคาอาหารทั่วโลก ซึ่งบรรดาผู้ค้าข้าวในตลาดโลกคาดการณ์ว่าปริมาณการส่งออกข้าวของไทยในเดือน พ.ย.นี้ จะหายไปถึง 5 แสนตัน ขณะที่ราคาข้าวของไทยในตลาดโลกในเดือน ธ.ค. มีโอกาสปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นถึง 21% เนื่องจากน้ำท่วมหนักทำให้ผลผลิตข้าวลดลง
แม้ความเสียหายที่เกิดขึ้นจะมีทีท่าว่ายังไม่จบสิ้น แต่สิ่งสำคัญที่น่าจับตามองต่อจากนี้ก็คือ ช่วงเวลาที่ไทยจะฟื้นฟูประเทศจากเหตุน้ำท่วมที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเวลาที่นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่ง รวมถึงรัฐบาลของไทยเองคาดการณ์ว่าน่าจะทำให้เศรษฐกิจไทยมีความเคลื่อนไหวใน ทิศทางที่ดี เพราะคนต้องจับจ่ายซื้อของเพื่อซ่อมแซมบ้าน
เรียกได้ว่าในวิกฤตย่อมมีโอกาส มีช่องทางให้ไทยก้าวต่อไปข้างหน้าได้
แต่อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญอีกส่วนหนึ่งก็ได้ออกมาเตือนแล้วว่า ช่วงเวลาแสนหวานที่ว่านี้อาจจะไม่ได้เติบโตอย่างสวยหรูแบบที่นักลงทุนและคน ไทยบางคนฝันเอาไว้ เพราะการฟื้นฟูจะไปได้ดีได้ก็ต่อเมื่อผู้บริหารประเทศซึ่งมีอำนาจอยู่ในมือ จะมีโครงการที่มีประสิทธิภาพพอ และรวดเร็วพอที่จะซ่อมแซมสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานทั้งหมดที่ได้รับความเสีย หายให้กลับคืนมา รวมถึงแผนการกระตุ้นให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นเพื่อให้มีการจับจ่ายใช้สอย
ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น ล้วนเป็นประเด็นที่กูรูทั้งหลายเริ่มใส่เครื่องหมายคำถามใหญ่ๆ ไว้ หลังจากที่ได้เห็นฝีมือการจัดการรับมือหายนภัยในครั้งนี้ของรัฐบาล
คล้ายกับเป็นสัญญาณบอกเหตุล่วงหน้าว่า อย่าเพิ่งคิดคาดหวังอะไรในทางที่ดีจนเกินไป และถ้าหากว่าการกระทำในปัจจุบันมีส่วนสำคัญในการกำหนดชะตากรรมในอนาคต
ปัจจุบันของรัฐบาลไทยก็เป็นลางร้ายครั้งใหม่ที่นักลงทุนทั่วโลกเริ่มมองเห็นได้รางๆ
http://bit.ly/vDRMgF
โลกประเมินน้ำท่วมไทย พัง2แสนล้านยังน้อยไป
#1
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 13:34
#2
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 13:41
แต่เรื่องการบริหารแบบมืออาชีพน่ะ ใครเชื่อก็บ้าแล้ว
ตัวใครตัวมันก็แล้วกัน
#3
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 13:55
#4
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 13:57
ขนาดเจอทั้งม็อบทั้งน้ำท่วมยังทำได้ขนาดนี้ คุณกรณ์ทำหน้าที่ของเค้าได้เก่งจริงๆ
#5
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 14:09
ช่วยทักษินกลับบ้าน มาทันแต่งงานลูกสาวให้ได้
ภาระกิจรอง
รักษาฐานเสียง แม้นิคมจะจม ก็อย่าให้ เขตที่มี สส ตัวเองลำบากเกินไป
ภาระกิจล่าสุด
ดันเจ้หน่อยเป็นผู้ว่า ทำทุกๆด้าน แม้จะต้องจมนิคม ลาดกระบังก็ต้องทำ
แต่ต้องรักษาฐานเสียง แล้วเอาไว้โบ้ยผู้ว่าผิดให้ได้ เพื่อลดเครดิต
ภาระกิจลับ
เตรียมการกู้ แล้วกินหัวคิว เอาไปเพื่อเดินเกมม้อบอีก
ส่วนอื่นๆ ยังไม่ได้รับรายงานว่า มีภาระกิจที่ต้องดูแลเศรษฐกิจ
เพราะยิ่งจนยิ่งตกงานยิ่งดี เวลาจ้างมาชุมนุม จะได้มีเยอะๆ
จบการรายงาน
mr baby สำนักข่าวนั้งเทียนเดามั่ว รายงานจาก ตำบล หญ้าแพรก อำเภอ พฤจิกาคม จังหวัด ดอนเมืองเอาอยู่
#6
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 14:15
พฤจิกาคม มาจากไหนครับพี่ภาระกิจหลัก
ช่วยทักษินกลับบ้าน มาทันแต่งงานลูกสาวให้ได้
ภาระกิจรอง
รักษาฐานเสียง แม้นิคมจะจม ก็อย่าให้ เขตที่มี สส ตัวเองลำบากเกินไป
ภาระกิจล่าสุด
ดันเจ้หน่อยเป็นผู้ว่า ทำทุกๆด้าน แม้จะต้องจมนิคม ลาดกระบังก็ต้องทำ
แต่ต้องรักษาฐานเสียง แล้วเอาไว้โบ้ยผู้ว่าผิดให้ได้ เพื่อลดเครดิต
ภาระกิจลับ
เตรียมการกู้ แล้วกินหัวคิว เอาไปเพื่อเดินเกมม้อบอีก
ส่วนอื่นๆ ยังไม่ได้รับรายงานว่า มีภาระกิจที่ต้องดูแลเศรษฐกิจ
เพราะยิ่งจนยิ่งตกงานยิ่งดี เวลาจ้างมาชุมนุม จะได้มีเยอะๆ
จบการรายงาน
mr baby สำนักข่าวนั้งเทียนเดามั่ว รายงานจาก ตำบล หญ้าแพรก อำเภอ พฤจิกาคม จังหวัด ดอนเมืองเอาอยู่
#7
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 14:32
#8
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 14:33
#9
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 14:48
พฤจิกาคม มาจากไหนครับพี่
มาจากที่ท่านนายกปู บอกสถานการณ์จะดีขึ้นต้นเดือน พฤศจิกา คม
ใช่เปล่า ไม่แน่ใจนะ