http://www.youtube.com/watch?v=5dFVhaA3IcI
Syria in full-scale civil war, says UN peacekeeping chief
ยกระดับสถานการณ์ซีเรีย 'สงครามกลางเมือง'
สถานการณ์ความรุนแรงทางการเมืองในซีเรีย ถูกทีมสังเกตการณ์ยูเอ็นยกระดับให้เป็นสงครามกลางเมืองแล้ว หลังมีผู้เสียชีวิตกว่า 13,000 ศพ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ...
ในที่สุดสถานการณ์ความรุนแรงทางการเมืองในประเทศซีเรีย ที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 13,000 ศพ และยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็ถูกยกระดับให้เป็นสงครามกลางเมืองแล้ว โดยเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. นายเฮิร์ฟ ลัดซูส หัวหน้าทีมสังเกตการณ์ของสหประชาชาติในซีเรีย ได้ออกมายอมรับเป็นครั้งแรกว่าใช่ สถานการณ์ในประเทศซีเรียขณะนี้ควรเรียกว่าสงครามกลางเมือง เนื่องจากสถานการณ์ความรุนแรงได้ยกระดับและขยายตัวเป็นวงกว้าง ไม่รวมถึงการสู้รบที่ดุเดือดมากยิ่งขึ้นหลังกองทัพของรัฐบาลนายบาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรีย พยายามเปิดฉากการรุกคืบเพื่อชิงพื้นที่ที่ตกไปอยู่ในเงื้อมมือของกลุ่มต่อต้าน
วันเดียวกัน ทางบริษัทส่งออกอาวุธโรโซโบรอนเอ็กซ์ปอร์ตของรัสเซีย ออกแถลงการณ์ยืนยันถึงกรณีที่นางฮิลลารี คลินตัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ วิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลรัสเซียส่งยุทโธปกรณ์ให้กองทัพรัฐบาลซีเรีย ได้แก่ เฮลิคอปเตอร์จู่โจม เอ็มไอ-24 รวมถึงเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงพล เอ็มไอ-17 โดยทางบริษัทดังกล่าวระบุว่าการส่งสินค้าให้ซีเรียครั้งนี้มิได้ขัดต่อเกณฑ์ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือข้อตกลงระหว่างประเทศใดๆทั้งสิ้น แต่มิได้ระบุเจาะจงว่าสินค้าที่ส่งไปคือเฮลิคอปเตอร์จู่โจมหรือไม่ ขณะที่นักวิเคราะห์ของรัสเซียก็ระบุว่าสิ่งที่ รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯพูดถึงน่าจะเป็นเฮลิคอปเตอร์จู่โจมที่ซื้อขายกันตั้งแต่สมัยสหภาพโซเวียต และทางรัฐบาลซีเรียได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ดังกล่าวมาซ่อมบำรุงที่รัสเซีย ซึ่งทางรัสเซียก็ซ่อมเสร็จแล้วจึงส่งคืนไป
ในเวลาต่อมา นายแอนเดอร์ส ราสมุสเซน เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ออกความเห็นเรื่องความรุนแรงในประเทศซีเรียว่า การจะให้กองกำลังนาโตเข้าไปแทรกแซงทางการทหารเหมือนคราวสงครามกลางเมืองลิเบียนั้นมันไม่ใช่หนทางที่ถูกต้อง ขณะที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศซีเรียออกแถลงการณ์โจมตีรัฐบาลสหรัฐฯที่แสดงความวิตกกังวลก่อนหน้านี้ว่าทหารรัฐบาลอาจสังหารประชาชนเพิ่มอีก โดยรัฐบาลซีเรียมองว่ากรณีนี้เป็นการแทรกแซงการเมืองภายในประเทศซีเรีย และเป็นการสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายอย่างเปิดเผย รวมถึงพยายามช่วยปกปิดความผิดของกลุ่มก่อการร้ายด้วย
สำหรับสถานการณ์ในประเทศซีเรียมีรายงานว่า กองทัพรัฐบาลยิงปืนใหญ่ถล่มพื้นที่ชุมชนทางภาคใต้ของซีเรีย มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ศพ ขณะที่กองกำลังฝ่ายต่อต้านได้ถอนตัวออกจากพื้นที่รอบๆเมืองฮัฟฟา ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะซึ่งๆหน้ากับกองทัพรัฐบาลที่อาจเตรียมส่งกำลังเข้ายึดเมือง.
ไทยรัฐออนไลน์
UN.ชี้ 'ซีเรีย'สงครามกลางเมืองแล้ว มะกัน-หมีขาวกล่าวหากัน'ส่งอาวุธ'
รองเลขาธิการสหประชาชาติฝ่ายภารกิจรักษาสันติภาพ แอร์เว ลัดซุส ระบุ เหตุวุ่นวายในซีเรียเข้าสู่ภาวะสงครามกลางเมืองอย่างเต็มรูปแบบแล้ว
เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - รองเลขาธิการสหประชาชาติฝ่ายภารกิจรักษาสันติภาพ แอร์เว ลัดซุส ระบุ เหตุวุ่นวายในซีเรียเข้าสู่ภาวะสงครามกลางเมืองอย่างเต็มรูปแบบแล้ว ขณะที่สหรัฐฯกล่าวหารัสเซียว่ากำลังส่งเฮลิคอปเตอร์โจมตีให้แก่รัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แต่ทางด้านมอสโกก็ตอบโต้กลับว่า วอชิงตันกำลังติดอาวุธให้พวกกบฎ
ชาติมหาอำนาจต่างเร่งเสาะแสวงหาหนทางที่จะยุติเหตุนองเลือดในซีเรีย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตยังเพิ่มขึ้นทุกวัน แม้จะมีข้อตกลงหยุดยิงที่ควรจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมาแล้วก็ตาม นอกจากนี้ยังมีรายงานของยูเอ็นที่ระบุว่าทหารซีเรียนำเด็กๆ มาใช้เป็นโล่มนุษย์ด้วย
เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามในวันอังคาร(12)ว่า สถานการณ์ซีเรียขณะนี้เข้าขั้นสงครามกลางเมืองหรือไม่ ลัดซุสตอบว่า “ใช่ ผมคิดว่าเช่นนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้คือ รัฐบาลซีเรียสูญเสียดินแดนและเมืองอีกหลายเมืองให้แก่ฝ่ายกบฏ และต้องการที่จะยึดพื้นที่เหล่านั้นคืน”
“ผมคิดว่าระดับความรุนแรงเพิ่มขึ้นมาก มากจนถึงขั้นแสดงให้เห็นลักษณะการต่อสู้ที่เปลี่ยนไป”
รองเลขาธิการสหประชาชาติฝ่ายภารกิจรักษาสันติภาพนับเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของยูเอ็นที่กล้าระบุตรงๆว่า เหตุประท้วงในซีเรียได้ยกระดับกลายเป็นสงครามกลางเมืองแล้ว ขณะที่เลขาธิการใหญ่ บัน คีมูน กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วแต่เพียงว่า สงครามกลางเมือง “ใกล้จะเกิดขึ้น”
จากสถานการณ์ที่ยืดเยื้อมาร่วม 15 เดือน ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จึงยิงคำถามต่อที่ประชุม ณ กรุงวอชิงตันในวันอังคาร ตรงๆ ว่า ภารกิจสังเกตการณ์ของยูเอ็นจะไปรอดหรือไม่ หลังจากผ่านพ้น 90 วัน ในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้
“หากถึงวันนั้นยังไม่มีพัฒนาการไปในทางที่ดีขึ้น คงยากที่จะขยายเวลาปฏิบัติภารกิจออกไป เพราะจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นสำหรับผู้สังเกตการณ์ภาคสนาม” คลินตันกล่าว
คลินตันยังกล่าวหารัสเซียว่ามีส่วนปลุกปั่นให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น โดยส่งเฮลิคอปเตอร์โจมตีเข้าไปให้แก่กองทัพของประธานาธิบดีอัล-อัสซาด
ทางด้าน โรโซโบโรเน็กปอร์ต องค์การส่งออกอาวุธของรัสเซีย ได้ออกคำแถลงตอบโต้ข้อกล่าวหาของคลินตันว่า ตนเองไม่ได้ส่งอาวุธหรือเทคโนโลยีทางทหารที่ขัดแย้งกับข้อกำหนดของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นตลอดจนข้อตกลงระหว่างประเทศอื่นๆ ให้แก่ทางการซีเรีย แต่สำนักข่าว อาร์ไอเอ โนวอสติ รายงานว่า องค์การแห่งนี้ “ไม่ขอแสดงความเห็น” เมื่อถูกจี้ถามเรื่องการส่งเฮลิคอปเตอร์ไปให้ซีเรียในช่วงหลังๆ นี้
อย่างไรก็ตาม เซอร์เกย์ ลัฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ได้แถลงในวันพุธ(13) ว่า หมีขาวกำลังส่ง “ระบบป้องกันเพื่อการต่อสู้อากาศยาน” ให้แก่ดามัสกัส ตามข้อตกลงที่ “ไม่มีการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศใดๆ เลย”
“นั่นตรงกันข้ามกับสิ่งที่สหรัฐฯกำลังทำอยู่กับฝ่ายค้าน โดยที่กำลังจัดหาอาวุธให้แก่พวกฝ่ายค้านซีเรีย ซึ่งก็กำลังใช้อาวุธเหล่านั้นมาต่อต้านรัฐบาลซีเรีย” ลัฟรอฟกล่าวขณะกำลังเยือนกรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน ผู้เป็นพันธมิตรสำคัญของประธานาธิบดีอัล-อัสซาด
สำหรับสถานการณ์ซีเรียเอง เมื่อวันพุธจุดรวมศูนย์ความสนใจอยู่ที่หมู่บ้านอัล-ฮัฟเฟ ซึ่งเป็นที่มั่นของชาวมุสลิมสุหนี่ที่อยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ และฝ่ายตะวันตกแสดงความวิตกว่ากำลังกลายเป็นสถานที่เกิดการสังหารหมู่ครั้งใหม่
กองทัพซีเรียเสรี (เอฟเอสเอ) ที่เป็นฝ่ายกบฎแถลงว่า ได้ถอยออกจากหมู่บ้านแห่งนี้ในทางยุทธวิธี เพื่อรักษาชีวิตของพลเรือน ภายหลังที่หมู่บ้านถูกกองกำลังรัฐบาลระดมโจมตีอย่างหนักมาเป็นเวลา 8 วัน ขณะที่สำนักข่าวซานาของรัฐบาลรายงานว่า ฝ่ายตนสามารถ “กวาดล้างผู้ก่อการร้าย” ออกจากอัล-ฮัฟเฟ ภายหลังผู้ก่อการร้ายเหล่านี้ได้ทำร้ายประชาชนและจุดไฟเผาทรัพย์สินของรัฐบาลและของเอกชนไปจำนวนหนึ่ง
