นักเลงท้องถิ่นกร่างบุกร้านอาหารฯ "แถวนี้เป็นถิ่นกู ใครให้มาเปิดร้าน" ไล่ฟันลูกค้าฯเจอสวน 9 มม.6 นัด สาหัส!! [ข่าวขำๆนำมาเล่า]
#1
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 05:15
(((ป๊าด!!! หยอดน้ำข้าวต้มกันไป
เล็ก เจ้าเก่า
Pracha Tanadee ท่าทางคงเข็ดไปอีกนาน เจอซะหมดโม่เลย
Jutapon รักในหลวง เดี๋ยวนี้ต้องตาต่อตา ฟันต่อฟันซะแล้วกร่างกันซะมากมาย
Uma Tangjai ไม่ตายก็บุญแล้ว
Thanis Chairat รักในหลวง ข่าวเร้าใจมาก สะใจด้วย
เล็ก เจ้าเก่า เจอของจริง...
Chalatkorn Thongdaeng เหนือฟ้ายังมีฟ้า
Alin Pk แค่หยอดข้าวต้มเองเหรอ
Samusya Wattana เก่งจังเลยค่ะสู้ๆๆๆๆ
Nong Piyanuch 555555 ขำอ่ะ 5555
ครูผ่อง วัดเบญจ์ ลูกค้าตกใจคล้ายกะคนสั่งเผาเมือง แต่สาวนี้ไม่คุยเขื่อง โป้งๆ...เอาอยู่.555
- พระฤๅษี likes this
#2
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 05:19
POPULAR
และไอ้กุ๊ยนี่สมควรได้เงินเยียวยา 7.75 ล้าน
- metaleka, David_GinoLa, พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน and 12 others like this
วิธีการยุติระบอบทักษิณ
ก็แค่เพียงทำให้คนไทยส่วนใหญ่ "ฉลาด"
#3
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 05:36
#4
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 06:57
น.ส.กิ่ง แก้ว ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุในร้านอาหารมีลูกค้านั่งอยู่ 4 โต๊ะ มีพนักงานเสิร์ฟอยู่ 6 คน อยู่ๆ มีผู้ชาย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 100 สีแดง ทะเบียน ภธว-476 สิงห์บุรี มาจอดหน้าร้าน จากนั้นคนซ้อนท้ายเดินถือมีดดาบเข้ามาในร้าน แล้วตะโกนว่า"แถวนี้เป็นถิ่นของ... ใครให้...มาเปิดร้านอาหาร" แล้วพูดต่ออีกว่า
"...รู้ว่า...มีปืนแต่...ไม่กลัวเพราะ...หนังเหนียวยิงไม่เข้า..."
จากนั้นก็ใช้มีดดาบไล่ฟันลูกค้าและพนักงานเสิร์ฟ ทุกคนต่างวิ่งหนีไปคนละทิศคนละทาง และเข้าไปจะฟันน.ส.กิ่งแก้ว น.ส.กิ่งแก้วจึงใช้อาวุธปืนพกยิงชายคนดังกล่าว คือนายรัชชานนท์ จนล้มคว่ำ หลังจากนั้นมีพลเมืองดีช่วยนำตัวคนเจ็บส่ง ร.พ.บางระจัน หลังการสอบสวน พ.ต.ท.พยอม ตาลแก้ว จึงควบคุมตัวน.ส.กิ่งแก้ว ไว้ดำเนินคดีต่อไป
อันธพาลชัดๆ
Edited by คนกรุงธน, 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 07:00.
"น้อมส่งเสด็จสู่พระนิพพาน"
#5
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 07:02
สาวเจ้าของร้านอาหารใจเด็ด ควงปืนไล่ยิงนักเลงป่วนดาบไล่ฟันลูกค้า-พนง.
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 14 มิ.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า พ.ต.ท.พยอม ตาลแก้ว พงส.(สบ.2) สารวัตร สภ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันที่ร้านอาหารชาวนา สี่แยกไฟแดงหน้าวัดพระปรางค์ หมู่ 7 ต.เชิงกลัด อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยสิงห์บุรี พบร้านอาหารดังกล่าวอยู่ติดริมถนนสายบางระจัน–ตลาดชันสูตร ส่วนคนเจ็บมีผู้นำส่งร.พ.บางระจัน ก่อนหน้านี้แล้ว แต่อาการสาหัสจึงได้ส่งต่อไปยังร.พ.อินทร์บุรี ภายในร้านพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 9 ปลอกมีกองเลือดหยดเป็นทางภายในร้าน ที่หน้าร้านพบกองเลือดขนาดใหญ่ พร้อมมีดดาบเปื้อนเลือดยาว 2 ฟุต ตกอยู่ 1 เล่ม จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนคนเจ็บทราบชื่อ นายรัชชานนท์ เดชบำรุง อายุ 39 ปี อยู่หมู่ 6 ต.พักทัน อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี ถูกยิงที่หัวไหล่ซ้าย 1 นัด โคนขาด้านขวา 1 นัด ลำตัว 4 ตัว รวม 6 นัด ส่วนมือปืนยืนถือปืนรอมอบตัวอยู่ที่ร้านอาหารทราบชื่อ น.ส.กิ่งแก้ว บัวสระ อายุ 32 ปี อยู่หมู่ 5 ต.สระแจง อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี เป็นเจ้าของร้าน ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนขนาด 9 ม.ม. ยี่ห้อซิกซาวเออร์ ขึ้นทะเบียนไว้ถูกต้องตามกฎหมาย จึงยึดมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองวิทยาการตรวจพิสูจน์เขม่าดินปืน
สอบสวนน.ส.กิ่งแก้ว ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุในร้านอาหารมีลูกค้านั่งอยู่ 4 โต๊ะ มีพนักงานเสิร์ฟอยู่ 6 คน อยู่ๆ มีผู้ชาย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 100 สีแดง ทะเบียน ภธว-476 สิงห์บุรี มาจอดหน้าร้าน จากนั้นคนซ้อนท้ายเดินถือมีดดาบเข้ามาในร้าน แล้วตะโกนว่า"แถวนี้เป็นถิ่นของ... ใครให้...มาเปิดร้านอาหาร" แล้วพูดต่ออีกว่า "...รู้ว่า...มีปืนแต่...ไม่กลัวเพราะ...หนังเหนียวยิงไม่เข้า" จากนั้นก็ใช้มีดดาบไล่ฟันลูกค้าและพนักงานเสิร์ฟ ทุกคนต่างวิ่งหนีไปคนละทิศคนละทาง และเข้าไปจะฟันน.ส.กิ่งแก้ว น.ส.กิ่งแก้วจึงใช้อาวุธปืนพกยิงชายคนดังกล่าว คือนายรัชชานนท์ จนล้มคว่ำ หลังจากนั้นมีพลเมืองดีช่วยนำตัวคนเจ็บส่ง ร.พ.บางระจัน หลังการสอบสวน พ.ต.ท.พยอม ตาลแก้ว จึงควบคุมตัวน.ส.กิ่งแก้ว ไว้ดำเนินคดีต่อไป
#6
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 07:05
..
#7
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 07:07
ผมว่านี่มันเป็นการป้องกันตัวสมเหตุสมผลชัดๆ ผมว่าไม่ควรโดนฟ้องร้องนะ
ส่วนพวกอัธพาลมันโง่หรือเปล่านั่น คิดว่าตัวเองหนังเหนียวยิงไม่เข้า?
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Hello, I'm a Kyubey /人◕ ‿‿ ◕人\
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Please Make a contract with me and become a Magical girl! /人◕ ‿‿ <人\
ข้าพเจ้าขอสนับสนุนท่านผู้นำที่น่ารักที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ!!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!!
#8
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 07:23
อยู่ๆก็เอาร่างไปรับกระสุน เอาปากไปรับเท้า...ทำให้ชาวบ้านเค้าเดือดร้อนทั้งๆที่เค้าก็อยู่ของเค้าดีๆ
มันจะทำให้เราคิดก่อนพูดได้ดีขึ้น เมื่อเชื่อว่าคำพูดที่ออกไปเหล่านั้นคือคำที่เราจะได้ยินเองในอนาคต
และถ้าเราจะทำดีได้มากขึ้น เมื่อเชื่อว่าเราจะได้เจอสิ่งดีๆในอนาคต
แม้ว่าวันนี้เราจะยังไม่เห็นว่ามันดีอย่างไรแต่อย่างน้อยทำให้เราผ่านวันนี้ไปได้อย่างราบรื่น
#9
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 07:32
#11
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 07:41
นางสาวกิ่งแก้วถูกควบคุมตัวดำเนินคดี?
ผมว่านี่มันเป็นการป้องกันตัวสมเหตุสมผลชัดๆ ผมว่าไม่ควรโดนฟ้องร้องนะ
ส่วนพวกอัธพาลมันโง่หรือเปล่านั่น คิดว่าตัวเองหนังเหนียวยิงไม่เข้า?
ก็อยู่ที่ตำรวจกับอัยการอีกนั่นแหละ
ต่อไปเสียงข้างมากฆ่าคนตายก็ไม่ผิด ตามสบายเลย ยุบได้ทุกศาล ต่อไปให้มีศาลประชาชนไปเลย ถ้าจำเลยฆ่าคนตายก็เอาเสียงข้างมากโหวตกันว่า คนนี้ไม่ต้องรับโทษเพราะเป็นพวกเสียงข้างมากสุดแล้วแต่..วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์
#12
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 07:43
http://www.khaosod.c...9PQ==&subcatid=
น.ส.กิ่ง แก้ว ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุในร้านอาหารมีลูกค้านั่งอยู่ 4 โต๊ะ มีพนักงานเสิร์ฟอยู่ 6 คน อยู่ๆ มีผู้ชาย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 100 สีแดง ทะเบียน ภธว-476 สิงห์บุรี มาจอดหน้าร้าน จากนั้นคนซ้อนท้ายเดินถือมีดดาบเข้ามาในร้าน แล้วตะโกนว่า"แถวนี้เป็นถิ่นของ... ใครให้...มาเปิดร้านอาหาร" แล้วพูดต่ออีกว่า
"...รู้ว่า...มีปืนแต่...ไม่กลัวเพราะ...หนังเหนียวยิงไม่เข้า..."
จากนั้นก็ใช้มีดดาบไล่ฟันลูกค้าและพนักงานเสิร์ฟ ทุกคนต่างวิ่งหนีไปคนละทิศคนละทาง และเข้าไปจะฟันน.ส.กิ่งแก้ว น.ส.กิ่งแก้วจึงใช้อาวุธปืนพกยิงชายคนดังกล่าว คือนายรัชชานนท์ จนล้มคว่ำ หลังจากนั้นมีพลเมืองดีช่วยนำตัวคนเจ็บส่ง ร.พ.บางระจัน หลังการสอบสวน พ.ต.ท.พยอม ตาลแก้ว จึงควบคุมตัวน.ส.กิ่งแก้ว ไว้ดำเนินคดีต่อไป
อันธพาลชัดๆ
คนร้ายใช้มีดดาบยาวสองฟุตไล่ฟันลูกค้าและพนักงานเสริฟของร้าน...
เจ้าของร้านเป็นผู้หญิง ป้องกันตัวเอง....
ตำรวจต้อง'ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี'ฤา...?
คนร้ายน่าจะเป็นลูกน้องของผู้มีอิทธิพลในยุคนี้.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
Edited by ปุถุชน, 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 07:46.
- Wentworth likes this
เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...
#13
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 07:49
= =
หล่อกว่าผมก็มีแต่ ณเดช คูกิมิยะ เท่านั้นล่ะครับ[color=#ff0000;]รณรงค์งดตอบโต้ พูดคุย กับคนหน้าด้านไร้ยางอาย...[/color]
#14
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 07:50
#15
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 07:53
ปล.แล้วคนที่ไปฟันเค้า ตำรวจว่าไงครับ?
Edited by David_GinoLa, 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 07:53.
#16
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 08:06
#17
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 08:10
#18
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 08:17
POPULAR
มีปืนแล้วยิงคนตาย แบบไม่มีความผิดเลย ก็คือยิงเพื่อป้องกันสิทธิของตนเอง
หรือผู้อื่น ให้พ้นจากภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย
และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำไปพอสมควรแก่เหตุ การกระทำนั้น
เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นไม่มีความผิด ตามความในประมวล
กฎหมายอาญามาตรา ๖๘
จึงขออนุญาตท่านลงข้อความทางกฎหมาย
เพื่ออธิบายรายละเอียดของการป้องกันตัวให้สมาชิกได้ทราบเป็นความรู้ครับ
เพราะเป็นสิ่งสำคัญกับคนมีปืน ที่จะต้องรู้ และนำเอาไปใช้ปฏิบัติให้ถูกต้อง
หลักเกณฑ์ของการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย ( มี ๔ ข้อ ) คือ
๑ . มีภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย
เช่น มีคนมาปล้น มาจะฆ่า จะทำร้าย เป็นต้น
ระวัง หากเขามีสิทธิทำร้ายเราได้ เช่นพ่อมีสิทธิว่ากล่าว / ตีลูก เมื่อเราทำผิดบิดามารดา
ลงโทษเรา /ตีเรา ไม่ถือเป็นภยันตรายตามข้อ ๑ นี้ เราตอบโต้แล้วอ้างป้องกันไม่ได้
มีฎีกา ที่ ๔๒๙/๒๕๐๕ ว่าพระตีลูกศิษย์ ลูกศิษย์ตอบโต้ ฆ่าพระ ไม่เป็นป้องกัน
กรณีเห็นเมียกำลังนอนกอดกับชายชู้ ถือเป็นภยันตรายที่มาละเมิดตามข้อ ๑ แล้ว
แต่ก็แยกว่า ถ้าภริยาจดทะเบียนสมรสกับเรา เราฆ่าชู้ เป็นป้องกัน ( ฏีกาที่๓๗๘/๒๔๗๙ )
แต่ถ้าไม่ได้จดทะเบียน ไม่เป็นป้องกัน แต่อ้างบันดาลโทสะตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๗๒ เพื่อให้ศาลลงโทษน้อยลงได้ ( ฎีกาที่ ๒๔๙/๒๕๑๕ )
แม้จะมีภยันตรายตามข้อ ๑ แล้วก็ตาม แต่ผู้ที่จะอ้างป้องกันได้
จะต้องไม่มีส่วนผิดในการก่อให้เกิดภยันตรายดังกล่าวขึ้นด้วย คือ
- ไม่เป็นผู้ที่ก่อภัยขึ้นในตอนแรก
เช่น ฎีกาที่ ๒๕๑๔/ ๒๕๑๙ จำเลยชกต่อยก่อน แล้ววิ่งหนี เขาไล่ตามต่อเนื่อง
ไม่ขาดตอน จำเลยยิงเขาตาย อ้างป้องกันไม่ได้
- ไม่เป็นผู้ที่สมัครใจเข้าวิวาทกัน
เช่นฎีกาที่ ๒๓๒๒/๒๕๒๒ จำเลยโต้เถียงกับคนตาย แล้วก็ท้าทายกัน
สมัครใจเข้าชกต่อยต่อสู้กัน แม้คนตายจะยิงก่อน แล้วจำเลยยิงสวน
ก็อ้างป้องกันไม่ได้
- ไม่เป็นผู้ที่ยินยอมให้ผู้อื่นกระทำต่อตนโดยสมัครใจ
เช่น ให้เขาลองของคุณไสย์ คงกระพัน แล้วจะไปโกรธตอบโต้ภายหลัง
อ้างป้องกันไม่ได้
- ไม่เป็นผู้ที่ไปยั่วให้คนอื่นเขาโกรธก่อน
เช่นไปร้องด่าพ่อแม่ ด่าหยาบคายกับเขาก่อน พอเขาโกรธมาทำร้ายเรา
เราก็ตอบโต้ เราอ้างป้องกันไม่ได้
๒. เป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง
เช่น เขากำลังจะยิงเรา เราจึงต้องยิงสวน
ฎีกาที่ ๒๒๘๕ / ๒๕๒๘ จำเลยกับคนตายคุยตกลงกันเรื่องแบ่งวัว จำเลยชวน
ให้ไปคุยตกลงกันที่บ้านกำนัน คนตายไม่ยอมไป กลับชักปืนออกมาจากเอว
จำเลยย่อมเข้าใจว่าจะยิงตน จึงยิงสวน ๑ นัด เป็นป้องกัน
ฎีกาที่ ๑๗๓๒ /๒๕๐๙ คนตายชักมีดพกจากเอวมาถือไว้ แล้วเดินเข้ามาหาจำเลย
ระยะกระชั้นชิด จำเลยยิงสวน ๑ ที คนตายยังเดินต่อเข้ามาอีก จึงยิงสวน อีก ๑ ที
ล้มลงตาย เป็นป้องกันสมควรแก่เหตุ
ฎีกาที่ ๑๗๔๑/ ๒๕๐๙ คนตายจับมือถือแขนคู่หมั้นจำเลย พอจำเลยมาเห็น
คนตายก้มหยิบมีดพร้าที่วางใกล้ๆ ยาว ๑๒ นิ้ว ด้ามยาวอีก ๑๒ นิ้ว
แสดงว่าคนตายจะทำร้ายทันทีเมื่อหยิบมีดได้ จำเลยใช้มีดฟันตนตายไป ๑ ที
ป้องกันพอแก่เหตุ
ฎีกาที่๑๖๙ / ๒๕๐๔ คนตายเมาสุราร้องท้าทายจำเลยให้มาต่อสู้กัน
จำเลยไม่สู้ คนตายถือมีดดาบปลายแหลมลุยน้ำข้ามคลอง จะเข้าไปฟันจำเลย
ถึงในบ้าน จำเลยไม่หนีเพราะบ้านตัวเอง และใช้ปืนยิงสวนไป ๑ นัด
ขณะที่คนตายอยู่ห่าง ๖ ศอกถึง ๒ วา เป็นป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
-ฎีกานี้วางหลักว่า ผู้รับภัยไม่จำเป็นต้องหลบหนีภยันตราย ก็อ้างป้องกันได้
๓. ผู้กระทำจำต้องกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนเองหรือผู้อื่น ให้พ้นภยันตรายนั้น
ข้อนี้ตามที่อธิบายข้างต้นไปแล้ว
๔. ต้องเป็นการกระทำป้องกันสิทธิที่ไม่เกินขอบเขต
ไม่งั้นจะเป็นการป้องกันที่เกินสมควรกว่าเหตุ หรือเกินกว่ากรณีแห่งการ
จำต้องกระทำเพื่อป้องกัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๖๙ ไป
ซึ่งจะทำให้ยังมีความผิดอยู่
แบบไหนไม่เกินกว่าเหตุ ยากมากครับ ต้องแล้วแต่พฤติการณ์แห่งคดีที่เกิดขึ้น
ฎีกาที่ ๘๒๒ / ๒๕๑๐ คนตายเป็นฝ่ายก่อเหตุก่อน จะเข้ามาชกต่อยทำร้ายจำเลย
จำเลยจึงเอาปืนยิงลงพื้นดินไป ๑ นัด เพื่อขู่ให้คนตายกลัว แต่คนตายไม่หยุด
กลับเข้ามากอดปล้ำใช้แขนรัดคอแล้วแย่งปืนจำเลย จำเลยจึงยิงขณะชุลมุนนั้น
ไป ๑ นัด ตาย เป็นป้องกันที่พอสมควรแก่เหตุ ไม่มีความผิด
ฎีกาที่ ๙๔๓ /๒๕๐๘ คนร้ายจูงกระบือออกจากใต้ถุนบ้านแล้ว มีปืนลูกซองมาด้วย
จำเลยร้องถามแล้ว คนร้ายหันปืนมาทางจำเลย จำเลยยิงสวนทันที
ศาลฎีกาบอกว่า คนร้ายหันปืนมาแล้ว อาจยิงได้ และถ้าจำเลยไม่ยิง คนร้ายก็อาจเอา
กระบือไปได้ เป็นป้องกันที่พอสมควรแก่เหตุ
ฎีกาที่ ๑๒๕๖ /๒๕๓๐ คนตายบุกรุกเข้าไปฉุดลูกสาวในบ้านจำเลย
เมื่อมารดาเด็กเข้าห้ามถูกคนร้ายตบหน้า แล้วจะฉุดพาลูกสาวออกบ้าน
จำเลยยิงไปทันที ๔ นัด เป็นป้องกันที่พอสมควรแก่เหตุ
ฎีกาที่ ๖๐๖ / ๒๕๑๐ คนตายเข้ามาชกจำเลย จำเลยล้มลง คนตายเงื้อมีด
จะเข้าไปแทง จำเลยยิงสวน เป็นป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
เทียบกับ
ฎีกาที่ ๒๗๑๗/ ๒๕๒๘ คนตายยืนถือมีดอยู่ห่าง ๒ วา ยังไม่อยู่ในลักษณะพร้อมที่
จะฟันทำร้ายจำเลย การที่จำเลยด่วนยิงคนตายไปก่อน
เป็นป้องกันจริง แต่เกินสมควรแก่เหตุ
ฎีกาที่ ๔๕๔๔ / ๒๕๓๑ คนตายบุรุกเข้าไปในบ้านจำเลยยามวิกาล
เมื่อจำเลยได้ยินเสียงผิดปกติ คว้าปืนลงมาดู คนตายยิงทันที
จำเลยยิงสวน เป็นป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
ฎีกาที่ ๑๘๒ / ๒๕๓๒ ก.ถือไม้ไปที่บ้านจำเลย ร้องท้าทายให้จำเลยมาสู้กัน
ก.เดินเข้าหาจำเลย จำเลยตกใจกลัวว่า ก. จะเข้ามาเอาไม้ตีทำร้าย จึงวิ่งไปเอาปืน
แล้วเล็งยิงไปที่ขา ก. รวม ๓ นัด เมื่อรู้ว่ากระสุนถูกที่ขา ก. จำนวน ๑ นัด
จำเลยก็ไม่ยิงซ้ำ เป็นป้องกันที่พอสมควรแก่เหตุ
คราวนี้มาดูกรณีที่ถือว่าเกินสมควรกว่าเหตุ
ฎีกาที่ ๒๙๘๓ / ๒๕๓๑ คนตายขับมอเตอร์ไซด์กลับบ้าน พบจำเลยระหว่างทาง
จำเลยพูดทวงหนี้คนตาย คนตายโกรธเคืองต่อว่าจำเลย พร้อมเดินเข้าไปหาจำเลย
ด้วยมือเปล่าเพื่อจะทำร้าย ระยะห่างประมาณ ๑ วา จำเลยใช้ปืนยิง ๑ นัด
เป็นป้องกันตัวจากการจะถูกทำร้าย แต่เกินกว่าเหตุเพราะคนตายมือเปล่า
ฎีกาที่ ๖๔ / ๒๕๑๕ ก.และ ข.มือเปล่าไม่มีอาวุธ เข้ารุมชกต่อยจำเลย
จำเลยใช้ปืนยิง ในระยะติดพันกันนั้นรวม ๓-๔-๕ นัด จน ก. ตาย
เป็นป้องกันจริง แต่เกินกว่าเหตุ
ฎีกาที่ ๔๐๕ / ๒๔๙๐ จำเลยเฝ้าไร่พืชผัก คนตายเข้าไปในไร่ เวลากลางวันเพื่อ
จะลักพืชผัก จำเลยจึงใช้ปืนยิงคนตาย เป็นป้องกันจริง แต่เกินกว่าเหตุ
ฎีกาที่ ๑๓๔๓ / ๒๔๙๕ ยิงคนร้ายขณะกำลังวิ่งหนีและพาเอาห่อของที่ลักไปด้วย
โดยคนร้ายไม่ได้ทำอะไรแก่ตนเลย เป็นป้องกัน แต่เกินสมควรแก่เหตุมาก
ฎีกาที่ ๒๙๔ /๒๕๐๐ ยิงคนร้ายที่จูงกระบือในเวลากลางคืน ตรงนั้นมืดมาก
โดยคนร้ายไม่ได้แสดงกริยาต่อสู้ เป็นป้องกันที่เกินสมควรกว่าเหตุ
ฎีกาที่ ๒๗๑๗ / ๒๕๒๘ คนตายเข้ามาลักลอบตัดข้าวโพดในไร่จำเลย
ในตอนกลางคืน โดยคนร้ายเอามีดมาด้วย แต่ขณะที่จำเลยมาเห็น คนตายยืนถือมีด
ห่างประมาณ ๒ วา ยังไม่อยู่ในลักษณะพร้อมที่จะฟันทำร้าย จำเลยด่วนยิง
จึงเป็นการป้องกันที่เกินกว่าเหตุ
ฎีกาที่ ๑๘๙๕ / ๒๕๒๖ คนตายเมาสุรา เดินถือปืนตรงเข้าไปหาบิดาจำเลย
พูดทำนองจะฆ่าบิดา จำเลยจึงสกัดกั้นยิงคนตายไปก่อน ๑ นัด แล้วกระโดด
เข้าแย่งปืนคนตายมาได้ แต่กลับเอาปืนคนตายนั้นมายิงคนตายซ้ำอีก ๓ นัด
จึงเกินกว่าเหตุ
ฎีกาที่ ๖๒๐ / ๒๕๓๒ คนตายถือมีดทำครัวบุกรุกเข้าไปในห้องจำเลยจะทำร้าย
แต่การที่จำเลยใช้ปืนยิงคนตายถึง ๕ นัด เป็นการเกินกว่าเหตุ
ครับเป็นเกร็ดความรู้ทางกฎหมายเล็กๆน้อยๆ ที่นำมาฝากกันครับ ...
ที่มา : http://www.gunsandgames.com
- ต้นหอม, นักเรียนตลอดชีพ, analog and 9 others like this
"น้อมส่งเสด็จสู่พระนิพพาน"
#19
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 08:22
พฤติกรรมเหมือนแดงแถวนี้เลย
จะไปเปิดปราศรัยซึ่งเป็นสิทธิ
แม่มันบอกว่าเป็นถิ่นมัน เดี๋ยวจะจัดม๊อบมาชน
#20
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 08:23
แล้วค่อยต่อสู้คดีผมว่ามีเหตุอันควรในการใช้อาวุธนะครับ พยานก็มีเต็ม สำคัญคือปืนกระบอกนั้นน่ะ มีใบอนุญาตหรือเปล่า ถ้ามี ก็น่าจะหลุด
ส่วนไอ้คนที่ไปไล่ฟันเขา ก็น่าจะโดนด้วยนะครับ ผมว่าเ้จ้าทุกข์น่าจะแจ้งข้อหาพยายามฆ่า ไปเลย จะได้อ้างได้ต่อว่ายิงเพื่อป้องกันตัวเองและบุคคลอื่น
ส่วนไอ้คนโดนยิงนี่ กรณีนี้ผมก็สงสัยเหมือนกันว่าต้องไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้มันไหมครับ ท่่านใดทราบบ้าง? หรือไม่ต้่องจ่ายให้มันไปรักษาตัวเอง
เพราะถ้าเป็นผมผมคงตอบแ่น่นอนว่า ตายซะ กรูไม่จ่าย สาาดด
- Baboonga likes this
ถ้าอยากได้ความเท่าเทียม
ก็ปีนป่ายขึ้นไปให้อยู่เทียบเท่ากับคนอื่นเค้า
อย่าได้กระชากฉุดให้คนอื่นเขาลงมาตกต่ำเท่ากับตน
#21
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 08:23
คือเป็นผู้หญิง ตกใจแล้วกลัวมาก คนเจ็บบอกว่าหนังเหนียว กลัวว่ายิงไม่เข้าจริงๆจะเกิดอันตรายกับตัวเอง ก็เลยต้องยิงซะเกือบหมดแม๊ก
"น้อมส่งเสด็จสู่พระนิพพาน"
#22
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 08:24
http://www.pattanaki...25904&Ntype=136
มีปืนแล้วยิงคนตาย แบบไม่มีความผิดเลย ก็คือยิงเพื่อป้องกันสิทธิของตนเอง
หรือผู้อื่น ให้พ้นจากภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย
และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำไปพอสมควรแก่เหตุ การกระทำนั้น
เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นไม่มีความผิด ตามความในประมวล
กฎหมายอาญามาตรา ๖๘
จึงขออนุญาตท่านลงข้อความทางกฎหมาย
เพื่ออธิบายรายละเอียดของการป้องกันตัวให้สมาชิกได้ทราบเป็นความรู้ครับ
เพราะเป็นสิ่งสำคัญกับคนมีปืน ที่จะต้องรู้ และนำเอาไปใช้ปฏิบัติให้ถูกต้อง
หลักเกณฑ์ของการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย ( มี ๔ ข้อ ) คือ
๑ . มีภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย
เช่น มีคนมาปล้น มาจะฆ่า จะทำร้าย เป็นต้น
ระวัง หากเขามีสิทธิทำร้ายเราได้ เช่นพ่อมีสิทธิว่ากล่าว / ตีลูก เมื่อเราทำผิดบิดามารดา
ลงโทษเรา /ตีเรา ไม่ถือเป็นภยันตรายตามข้อ ๑ นี้ เราตอบโต้แล้วอ้างป้องกันไม่ได้
มีฎีกา ที่ ๔๒๙/๒๕๐๕ ว่าพระตีลูกศิษย์ ลูกศิษย์ตอบโต้ ฆ่าพระ ไม่เป็นป้องกัน
กรณีเห็นเมียกำลังนอนกอดกับชายชู้ ถือเป็นภยันตรายที่มาละเมิดตามข้อ ๑ แล้ว
แต่ก็แยกว่า ถ้าภริยาจดทะเบียนสมรสกับเรา เราฆ่าชู้ เป็นป้องกัน ( ฏีกาที่๓๗๘/๒๔๗๙ )
แต่ถ้าไม่ได้จดทะเบียน ไม่เป็นป้องกัน แต่อ้างบันดาลโทสะตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๗๒ เพื่อให้ศาลลงโทษน้อยลงได้ ( ฎีกาที่ ๒๔๙/๒๕๑๕ )
แม้จะมีภยันตรายตามข้อ ๑ แล้วก็ตาม แต่ผู้ที่จะอ้างป้องกันได้
จะต้องไม่มีส่วนผิดในการก่อให้เกิดภยันตรายดังกล่าวขึ้นด้วย คือ
- ไม่เป็นผู้ที่ก่อภัยขึ้นในตอนแรก
เช่น ฎีกาที่ ๒๕๑๔/ ๒๕๑๙ จำเลยชกต่อยก่อน แล้ววิ่งหนี เขาไล่ตามต่อเนื่อง
ไม่ขาดตอน จำเลยยิงเขาตาย อ้างป้องกันไม่ได้
- ไม่เป็นผู้ที่สมัครใจเข้าวิวาทกัน
เช่นฎีกาที่ ๒๓๒๒/๒๕๒๒ จำเลยโต้เถียงกับคนตาย แล้วก็ท้าทายกัน
สมัครใจเข้าชกต่อยต่อสู้กัน แม้คนตายจะยิงก่อน แล้วจำเลยยิงสวน
ก็อ้างป้องกันไม่ได้
- ไม่เป็นผู้ที่ยินยอมให้ผู้อื่นกระทำต่อตนโดยสมัครใจ
เช่น ให้เขาลองของคุณไสย์ คงกระพัน แล้วจะไปโกรธตอบโต้ภายหลัง
อ้างป้องกันไม่ได้
- ไม่เป็นผู้ที่ไปยั่วให้คนอื่นเขาโกรธก่อน
เช่นไปร้องด่าพ่อแม่ ด่าหยาบคายกับเขาก่อน พอเขาโกรธมาทำร้ายเรา
เราก็ตอบโต้ เราอ้างป้องกันไม่ได้
๒. เป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง
เช่น เขากำลังจะยิงเรา เราจึงต้องยิงสวน
ฎีกาที่ ๒๒๘๕ / ๒๕๒๘ จำเลยกับคนตายคุยตกลงกันเรื่องแบ่งวัว จำเลยชวน
ให้ไปคุยตกลงกันที่บ้านกำนัน คนตายไม่ยอมไป กลับชักปืนออกมาจากเอว
จำเลยย่อมเข้าใจว่าจะยิงตน จึงยิงสวน ๑ นัด เป็นป้องกัน
ฎีกาที่ ๑๗๓๒ /๒๕๐๙ คนตายชักมีดพกจากเอวมาถือไว้ แล้วเดินเข้ามาหาจำเลย
ระยะกระชั้นชิด จำเลยยิงสวน ๑ ที คนตายยังเดินต่อเข้ามาอีก จึงยิงสวน อีก ๑ ที
ล้มลงตาย เป็นป้องกันสมควรแก่เหตุ
ฎีกาที่ ๑๗๔๑/ ๒๕๐๙ คนตายจับมือถือแขนคู่หมั้นจำเลย พอจำเลยมาเห็น
คนตายก้มหยิบมีดพร้าที่วางใกล้ๆ ยาว ๑๒ นิ้ว ด้ามยาวอีก ๑๒ นิ้ว
แสดงว่าคนตายจะทำร้ายทันทีเมื่อหยิบมีดได้ จำเลยใช้มีดฟันตนตายไป ๑ ที
ป้องกันพอแก่เหตุ
ฎีกาที่๑๖๙ / ๒๕๐๔ คนตายเมาสุราร้องท้าทายจำเลยให้มาต่อสู้กัน
จำเลยไม่สู้ คนตายถือมีดดาบปลายแหลมลุยน้ำข้ามคลอง จะเข้าไปฟันจำเลย
ถึงในบ้าน จำเลยไม่หนีเพราะบ้านตัวเอง และใช้ปืนยิงสวนไป ๑ นัด
ขณะที่คนตายอยู่ห่าง ๖ ศอกถึง ๒ วา เป็นป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
-ฎีกานี้วางหลักว่า ผู้รับภัยไม่จำเป็นต้องหลบหนีภยันตราย ก็อ้างป้องกันได้
๓. ผู้กระทำจำต้องกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนเองหรือผู้อื่น ให้พ้นภยันตรายนั้น
ข้อนี้ตามที่อธิบายข้างต้นไปแล้ว
๔. ต้องเป็นการกระทำป้องกันสิทธิที่ไม่เกินขอบเขต
ไม่งั้นจะเป็นการป้องกันที่เกินสมควรกว่าเหตุ หรือเกินกว่ากรณีแห่งการ
จำต้องกระทำเพื่อป้องกัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๖๙ ไป
ซึ่งจะทำให้ยังมีความผิดอยู่
แบบไหนไม่เกินกว่าเหตุ ยากมากครับ ต้องแล้วแต่พฤติการณ์แห่งคดีที่เกิดขึ้น
ฎีกาที่ ๘๒๒ / ๒๕๑๐ คนตายเป็นฝ่ายก่อเหตุก่อน จะเข้ามาชกต่อยทำร้ายจำเลย
จำเลยจึงเอาปืนยิงลงพื้นดินไป ๑ นัด เพื่อขู่ให้คนตายกลัว แต่คนตายไม่หยุด
กลับเข้ามากอดปล้ำใช้แขนรัดคอแล้วแย่งปืนจำเลย จำเลยจึงยิงขณะชุลมุนนั้น
ไป ๑ นัด ตาย เป็นป้องกันที่พอสมควรแก่เหตุ ไม่มีความผิด
ฎีกาที่ ๙๔๓ /๒๕๐๘ คนร้ายจูงกระบือออกจากใต้ถุนบ้านแล้ว มีปืนลูกซองมาด้วย
จำเลยร้องถามแล้ว คนร้ายหันปืนมาทางจำเลย จำเลยยิงสวนทันที
ศาลฎีกาบอกว่า คนร้ายหันปืนมาแล้ว อาจยิงได้ และถ้าจำเลยไม่ยิง คนร้ายก็อาจเอา
กระบือไปได้ เป็นป้องกันที่พอสมควรแก่เหตุ
ฎีกาที่ ๑๒๕๖ /๒๕๓๐ คนตายบุกรุกเข้าไปฉุดลูกสาวในบ้านจำเลย
เมื่อมารดาเด็กเข้าห้ามถูกคนร้ายตบหน้า แล้วจะฉุดพาลูกสาวออกบ้าน
จำเลยยิงไปทันที ๔ นัด เป็นป้องกันที่พอสมควรแก่เหตุ
ฎีกาที่ ๖๐๖ / ๒๕๑๐ คนตายเข้ามาชกจำเลย จำเลยล้มลง คนตายเงื้อมีด
จะเข้าไปแทง จำเลยยิงสวน เป็นป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
เทียบกับ
ฎีกาที่ ๒๗๑๗/ ๒๕๒๘ คนตายยืนถือมีดอยู่ห่าง ๒ วา ยังไม่อยู่ในลักษณะพร้อมที่
จะฟันทำร้ายจำเลย การที่จำเลยด่วนยิงคนตายไปก่อน
เป็นป้องกันจริง แต่เกินสมควรแก่เหตุ
ฎีกาที่ ๔๕๔๔ / ๒๕๓๑ คนตายบุรุกเข้าไปในบ้านจำเลยยามวิกาล
เมื่อจำเลยได้ยินเสียงผิดปกติ คว้าปืนลงมาดู คนตายยิงทันที
จำเลยยิงสวน เป็นป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
ฎีกาที่ ๑๘๒ / ๒๕๓๒ ก.ถือไม้ไปที่บ้านจำเลย ร้องท้าทายให้จำเลยมาสู้กัน
ก.เดินเข้าหาจำเลย จำเลยตกใจกลัวว่า ก. จะเข้ามาเอาไม้ตีทำร้าย จึงวิ่งไปเอาปืน
แล้วเล็งยิงไปที่ขา ก. รวม ๓ นัด เมื่อรู้ว่ากระสุนถูกที่ขา ก. จำนวน ๑ นัด
จำเลยก็ไม่ยิงซ้ำ เป็นป้องกันที่พอสมควรแก่เหตุ
คราวนี้มาดูกรณีที่ถือว่าเกินสมควรกว่าเหตุ
ฎีกาที่ ๒๙๘๓ / ๒๕๓๑ คนตายขับมอเตอร์ไซด์กลับบ้าน พบจำเลยระหว่างทาง
จำเลยพูดทวงหนี้คนตาย คนตายโกรธเคืองต่อว่าจำเลย พร้อมเดินเข้าไปหาจำเลย
ด้วยมือเปล่าเพื่อจะทำร้าย ระยะห่างประมาณ ๑ วา จำเลยใช้ปืนยิง ๑ นัด
เป็นป้องกันตัวจากการจะถูกทำร้าย แต่เกินกว่าเหตุเพราะคนตายมือเปล่า
ฎีกาที่ ๖๔ / ๒๕๑๕ ก.และ ข.มือเปล่าไม่มีอาวุธ เข้ารุมชกต่อยจำเลย
จำเลยใช้ปืนยิง ในระยะติดพันกันนั้นรวม ๓-๔-๕ นัด จน ก. ตาย
เป็นป้องกันจริง แต่เกินกว่าเหตุ
ฎีกาที่ ๔๐๕ / ๒๔๙๐ จำเลยเฝ้าไร่พืชผัก คนตายเข้าไปในไร่ เวลากลางวันเพื่อ
จะลักพืชผัก จำเลยจึงใช้ปืนยิงคนตาย เป็นป้องกันจริง แต่เกินกว่าเหตุ
ฎีกาที่ ๑๓๔๓ / ๒๔๙๕ ยิงคนร้ายขณะกำลังวิ่งหนีและพาเอาห่อของที่ลักไปด้วย
โดยคนร้ายไม่ได้ทำอะไรแก่ตนเลย เป็นป้องกัน แต่เกินสมควรแก่เหตุมาก
ฎีกาที่ ๒๙๔ /๒๕๐๐ ยิงคนร้ายที่จูงกระบือในเวลากลางคืน ตรงนั้นมืดมาก
โดยคนร้ายไม่ได้แสดงกริยาต่อสู้ เป็นป้องกันที่เกินสมควรกว่าเหตุ
ฎีกาที่ ๒๗๑๗ / ๒๕๒๘ คนตายเข้ามาลักลอบตัดข้าวโพดในไร่จำเลย
ในตอนกลางคืน โดยคนร้ายเอามีดมาด้วย แต่ขณะที่จำเลยมาเห็น คนตายยืนถือมีด
ห่างประมาณ ๒ วา ยังไม่อยู่ในลักษณะพร้อมที่จะฟันทำร้าย จำเลยด่วนยิง
จึงเป็นการป้องกันที่เกินกว่าเหตุ
ฎีกาที่ ๑๘๙๕ / ๒๕๒๖ คนตายเมาสุรา เดินถือปืนตรงเข้าไปหาบิดาจำเลย
พูดทำนองจะฆ่าบิดา จำเลยจึงสกัดกั้นยิงคนตายไปก่อน ๑ นัด แล้วกระโดด
เข้าแย่งปืนคนตายมาได้ แต่กลับเอาปืนคนตายนั้นมายิงคนตายซ้ำอีก ๓ นัด
จึงเกินกว่าเหตุ
ฎีกาที่ ๖๒๐ / ๒๕๓๒ คนตายถือมีดทำครัวบุกรุกเข้าไปในห้องจำเลยจะทำร้าย
แต่การที่จำเลยใช้ปืนยิงคนตายถึง ๕ นัด เป็นการเกินกว่าเหตุ
ครับเป็นเกร็ดความรู้ทางกฎหมายเล็กๆน้อยๆ ที่นำมาฝากกันครับ ...
ที่มา : http://www.gunsandgames.com
ขอบคุณมากค่ะ ^^
รักนะ ประเทศไทย ^________^
#25
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 09:00
#26
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 09:03
- b... and นักเรียนตลอดชีพ like this
#27
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 09:12
พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 9 ปลอก
ยิงที่หัวไหล่ซ้าย 1 นัด โคนขาด้านขวา 1 นัด ลำตัว 4 ตัว รวม 6 นัด
ถือว่ายิงแม่นดีนะ เข้าจุดตรงเป้า 90%
เกินกว่าเหตุไปหน่อยป่าวตั้ง9นัด แต่คงต้องดูบริบทอื่น อาจประเภทตกใจกลัวยิงสุ่มๆไปเผอิญมันโดน เลยซวยไป
#29
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 09:45
ตามข่าว...เจตนา ถืออาวุธมีดเข้ามาไล่ทำร้าย ลูกค้าในร้านและเดินเข้ามาหาเจ้าของร้าน
...จงใจเข้าสู่การวิวาท...
Edited by คนกรุงธน, 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 10:05.
"น้อมส่งเสด็จสู่พระนิพพาน"
#30
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 09:49
คุณผู้หญิงนี้ก็คล้ายกัน ถ้าไม่ยิงมัน โจรเกิดมีแรงชักปืนยิงสวนก็จบครับ
แต่ดีแล้วที่มันไม่ตายขอให้มันพิการไปเลย ไปพวกโจรห้าร้อยแบบนี้
คนดีจริงไม่โกงที่วัด ไม่ยุแยงให้คนแตกแยก ไม่หลอกคนอื่นให้มารับเคราะห์ตายแทน
#31
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 09:54
ปัญหาคือ 4 เม็ดที่ลำตัวนะ ผมว่า ต้องหาทนายดีๆ หน่อย ถ้าเจอ 2 เม็ดยังพอเชื่อได้ แต่นี้ 4 เม็ด ที่ลำตัว มันเลยจะออกเกินกว่าเหตุได้ คงต้องหาทนายเก่งๆหน่อย
ไม่เกินกว่าเหตุนะครับ จากรูปการณ์เห็นได้ชัดว่าเป็นการป้องกันตัว ถ้ายิงในขณะที่ผู้ร้ายยืนอยู่จนล้มลงไปนี่ไม่เกินกว่าเหตุ
ซึ่งอาจอธิบายได้ว่าด้วยความตกใจจึงลั่นกระสุนใส่ไม่ยั้ง และกระสุนวิ่งเข้าร่างกายหลายจุด ไม่ใช้รวมศูนย์แบบยิงประณีต
แต่ถ้าผู้ร้ายล้มลงไปแล้วเข้าไปยิงซ้ำ นี่อาจจะเกินกว่าเหตุครับ
#32
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 10:03
ยิงไป 9 เม็ด โดน 6 เม็ดเนี่ย อาจอ้างว่าตกใจได้กระมังครับ แต่ต้องหาทนายดี ๆ ไม่แนะนำทนายเสื้อแดงหรือเสื้อเหลือง
ปัญหาคือ 4 เม็ดที่ลำตัวนะ ผมว่า ต้องหาทนายดีๆ หน่อย ถ้าเจอ 2 เม็ดยังพอเชื่อได้ แต่นี้ 4 เม็ด ที่ลำตัว มันเลยจะออกเกินกว่าเหตุได้ คงต้องหาทนายเก่งๆหน่อย
ไม่เกินกว่าเหตุนะครับ จากรูปการณ์เห็นได้ชัดว่าเป็นการป้องกันตัว ถ้ายิงในขณะที่ผู้ร้ายยืนอยู่จนล้มลงไปนี่ไม่เกินกว่าเหตุ
ซึ่งอาจอธิบายได้ว่าด้วยความตกใจจึงลั่นกระสุนใส่ไม่ยั้ง และกระสุนวิ่งเข้าร่างกายหลายจุด ไม่ใช้รวมศูนย์แบบยิงประณีต
แต่ถ้าผู้ร้ายล้มลงไปแล้วเข้าไปยิงซ้ำ นี่อาจจะเกินกว่าเหตุครับ
[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]
ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556
#33
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 10:11
อาจจะอ้างว่ามันบอกว่าหนังเหนียวเลยยิงเผื่อๆ ไปกลัวยิงไม่เข้าก็ได้
- นักเรียนตลอดชีพ, NightMare and kokkai like this
~ ทักษิณตาย เสรีไทยไชโย ~
#34
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 10:18
----------------------------------------------------------------
โดยความเห็นส่วนตัวสำหรับกรณีนี้ ถ้ายิงนัดเดียวแล้วมันตาย น่าจะสู้คดีง่ายกว่ายิงไปหกนัด(หรือเก้านัด)แล้วมันเจ็บอีกนะครับ
- tonk likes this
#35
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 10:24
กระสุน 9mm ถ้าไม่โดนจุดสำคัญ ยากที่จะหยุดคู่ต่อสู้ได้ใน 1-2 นัด
โอกาสหน้าถ้าสมาชิกท่านใดต้องการขออนุญาตครอบครองอาวุธปืน
เป็นไปได้ให้พยายามขอที่มันวางใจได้มากกว่านี้เถอะครับ
#36
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 10:27
9mm ต้องฝึกยิงดับเบิ้ลแท็บครับ นัดหนึ่งที่หัว นัดหนึ่งที่หัวใจ รับรองเอาอยู่นอกเรื่องนิดนึงครับ
กระสุน 9mm ถ้าไม่โดนจุดสำคัญ ยากที่จะหยุดคู่ต่อสู้ได้ใน 1-2 นัด
โอกาสหน้าถ้าสมาชิกท่านใดต้องการขออนุญาตครอบครองอาวุธปืน
เป็นไปได้ให้พยายามขอที่มันวางใจได้มากกว่านี้เถอะครับ
[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]
ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556
#37
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 10:30
คดีนี้ คาดการณ์ว่าน่าจะ รอลงอาญาเป็นอย่างสูง
1 ป้องกันตัว
2 ยอมรับสารภาพ
3 ถ้าทำผิดครั้งแรก ยิ่งง่ายเลย
คณะลูกขุน ต้องมองถึงความเป็นธรรม และปกป้องคนทำมาหากินแบบสุจริต ถ้ากฏหมายไม่คุ้มครองคนดี แล้วใครมันจะทำดีครับ
#38
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 10:31
ถ้ายิงสั่งได้ซะขนาดนั้น ไม่ต้อง 9mm หรอกครับ .22LR ก็เอาอยู่ครับพี่น้อง9mm ต้องฝึกยิงดับเบิ้ลแท็บครับ นัดหนึ่งที่หัว นัดหนึ่งที่หัวใจ รับรองเอาอยู่
นอกเรื่องนิดนึงครับ
กระสุน 9mm ถ้าไม่โดนจุดสำคัญ ยากที่จะหยุดคู่ต่อสู้ได้ใน 1-2 นัด
โอกาสหน้าถ้าสมาชิกท่านใดต้องการขออนุญาตครอบครองอาวุธปืน
เป็นไปได้ให้พยายามขอที่มันวางใจได้มากกว่านี้เถอะครับ
#39
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 10:44
เชื่อแล้วว่าเหนียวจริงๆ โดนไป6นัด ยังไม่ตายอีก
คิดว่าเพราะยิงเยอะไปหน่อย อาจมองได้ว่าจงใจเอาถึงตาย
ถ้ายิงแค่นัดสองนัด ก็มองได้ว่าป้องกันตัว
ก็ต้องไปสู้คดีกัน
ความเป็นกลางมันคือหลุมหลบภัยของคนขี้ขลาด - ชัย ราชวัตร
#40
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 10:56
เรื่องการจ่ายชดใช้ทางแพ่ง ก็ต้องพิสูจน์ว่าเกิดความเสียหายจากการโดนละเมิดส่วนไอ้คนโดนยิงนี่ กรณีนี้ผมก็สงสัยเหมือนกันว่าต้องไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้มันไหมครับ ท่่านใดทราบบ้าง? หรือไม่ต้่องจ่ายให้มันไปรักษาตัวเอง
เพราะถ้าเป็นผมผมคงตอบแ่น่นอนว่า ตายซะ กรูไม่จ่าย สาาดด
โดยลักษณะนี้ ผู้บาดเจ็บเจตนาเข้าไปข่มขู่ทำร้าย เลยโดนป้องกันตัว ไม่น่าจะถือว่าถูกละเมิดนะครับ
- DarkSwan likes this
#42
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 11:24
9mm ต้องฝึกยิงดับเบิ้ลแท็บครับ นัดหนึ่งที่หัว นัดหนึ่งที่หัวใจ รับรองเอาอยู่
นอกเรื่องนิดนึงครับ
กระสุน 9mm ถ้าไม่โดนจุดสำคัญ ยากที่จะหยุดคู่ต่อสู้ได้ใน 1-2 นัด
โอกาสหน้าถ้าสมาชิกท่านใดต้องการขออนุญาตครอบครองอาวุธปืน
เป็นไปได้ให้พยายามขอที่มันวางใจได้มากกว่านี้เถอะครับ
ผมว่าต้องพิจารณาชนิดของหัวกระสุนด้วย ถ้าเธอจัดหัว Hollow มาแล้วยังไม่ร่วงอีก ต้องพิจารณาแล้วหล่ะครับ เพราะหัว Hollow ของ 9x19 mm ก็เบียดๆกับ กับ .45 ACP ในเกือบทุกด้าน
เราจะสนใจแต่ขนาด ใหญ่ ยาว อย่างเดียวไม่ได้นะ ต้องสนใจคุณภาพด้วย (ลูกปืนนะ อย่าคิดลึกก)
Edited by ควันหลง, 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 11:25.
- นักเรียนตลอดชีพ likes this
#43
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 11:35
ระบบอาญาไทยเป็นระบบกล่าวหา ตั้งข้อหา ประกัน สู้ในศาล
หวยจะออก
มาตรา 67 ผู้ใดกระทำความผิดด้วยความจำเป็น
(1) เพราะอยู่ในที่บังคับ หรือภายใต้อำนาจซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยง หรือขัดขืนได้ หรือ
(2) เพราะเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นพ้นจากภยันตรายที่ใกล้จะถึงและ ไม่สามารถหลีกเลี่ยงให้พ้นโดยวิธีอื่นใดได้ เมื่อภยันตรายนั้นตนมิได้ก่อให้ เกิดขึ้นเพราะความผิดของตน
ถ้าการกระทำนั้นไม่เป็นการเกินสมควรแก่เหตุแล้ว ผู้นั้นไม่ต้อง รับโทษ
มาตรา 68 ผู้ใดจำต้องกระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือ ของผู้อื่นให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้าย อันละเมิดต่อกฎหมาย และ เป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำพอสมควรแก่เหตุ การกระทำนั้นเป็น การป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นไม่มีความผิด
มาตรา 69 ในกรณีที่บัญญัติไว้ในมาตรา 67 และมาตรา 68 นั้น ถ้าผู้กระทำได้กระทำไปเกินสมควรแก่เหตุ หรือเกินกว่ากรณีแห่งความจำเป็น หรือเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่ กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้ แต่ถ้าการกระทำนั้นเกิดขึ้น จากความตื่นเต้น ความตกใจ หรือความกลัว ศาลจะไม่ลงโทษผู้กระทำก็ได้
#44
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 11:47
#45
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 11:50
- นักเรียนตลอดชีพ likes this
#46
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 11:55
ถ้าวางตำแหน่งดีๆ กองครับ
Stopping power กับ killing power มักไม่ไปด้วยกัน
9 มม กับ .357 killing power สูง แต่ stopping power ต่ำ
11มม หรือ .45 มันก็ตัวเดียวกัน stopping สูง killing ต่ำ
#47
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 12:30
6 นัดยิงคนๆ เดียวมีโอกาศสูงว่าทำเกินกว่าเหตุ
แต่ถ้านัดเดียวจอดคนร้ายตายห่ายังสู้คดีง่ายกว่า คิดว่านะ
ผมก็คิดว่างั้นครับ เพราะจริงๆ จุดที่สำคัญผมมองที่ 4 นัดที่ลำตัว ครับ 3 ลูกที่พลาด บอกว่า ยิงเพื่อขู่ ก็ได้ครับแบบ ปัง ปัง ปัง
แล้วคนร้ายไม่หยุด ก็เลยชัด ที่ไหล่ กับต้น ขา ไม่หยุดอีก ซัดอีก 4 เม็ดที่ท้อง ผมว่าโดนที่ท้องแค่เม็ดที่ 2 ก็ไม่ไหวแล้ว
- i-am-thai likes this
#48
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 12:35
#49
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 13:14
เจ้าของร้าน น่าจะไม่มีความผิด เพราะเข้าข่ายป้องกันครับ
แต่อีกฝ่ายอาจจะสู้ได้ครับว่า ทำเกินกว่าเหตุ ยิง เข้า ๖ นัด นี่กะเอาตายอยู่แล้วครับ
ต้องดูสำนวนของตำรวจ ล่ะครับคราวนี้ ว่าจะออกทางไหน
(กรณีอย่างนี้ ถ้ายิง นัด เดียว แล้วตายเลย เรื่องจบง่ายๆครับ )
#50
ตอบ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 13:41
ครูฝึก รด เคยบอกไว้
ถ้าจะจริงแหะ
- Kyubey likes this
The most valuable things in life are not measured in monetary terms.
The really important things are not houses and lands, stocks and bonds, automobiles and real estate,
but friendships, trust, confidence, empathy, mercy, love and faith.
ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน