3 ความเห็นในกระทู้นี้

[คนละหมัด เดอะซีรี่ย์]

ผมอยากจะยกตัวอย่างเปรียบเทียบ เคส"พรบ.ปรองดอง ล้างผิด"ของทักษิณ กับการ"ขายใบชำระบาป"ของสมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 10 ในยุโรปยุคกลาง(ค.ศ. 1515) ให้ฟัง
----------------------------------------------------------------------------
การพยายาม ร่าง "พรบ.ปรองดอง ล้างผิด"ของ ทักษิณและ กลุ่มทาสแม้ว... ไม่ต่างกับ การพยายาม"ขายใบชำระบาป" ของสมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 10 ในเยอรมัน สมัย ค.ศ. 1515
ในยุคนั้น นักบวชจะมีอิทธิพลอย่างมากในการปกครอง เพราะเป็นผู้กำหนดกฏหมาย ศีลธรรม และพิพากษาอย่างเบ็ตเสร็จ

ค.ศ. 1515 สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 10 อยากจะสร้างโบสถ์ให้งดงามสมตำแหน่งของตัวเอง จึงได้ตั้งบัญญัติกฏหมายจารีตใหม่ว่า ถึงแม้จะทำความผิดเป็นอุกฉกรรจ์มหันตโทษเพียงไร ก็สามารถล้างบาปได้โดยซื้อใบยกโทษบาป และนั้นคือ สาเหตุที่ทำให้ระบบยุติธรรมในเยอรมันยุคนั้นไม่มีความน่าเชื่อถือ เพียงเพราะว่า ใครๆก็สามารถ "ล้างความผิดของตัวเองได้" เพียงแค่มีเงินในกระเป๋านั้นเอง

และนั้นก็เป็นสาเหตุทำให้ประชาชนชาวคริสจำนวนมากนำโดย "มาร์ติน ลูเทอร์ " ออกมาต่อต้านพวก นักบวชคริสที่สนับสนุนให้ขาย"ใบชำระบาป"จนเกิดการพยายาม ปฏิรูปคริสจักรทั่วยุโรปในสมัยนั้น จึงนำไปสู่การเกิดศาสนาคริสดนิกาย "protestant" ซึ่งมาจากคำว่า "protest" ที่แปลว่าประท้วง ซึ่งพระคัมภีร์ไบเบิลคือ อำนาจสูงสุดในการกำหนดหลักความศรัทธาและศีลธรรม ของชาว protestant นั้นเอง
------------------------------------------------------------------

ฟังดูอย่างนี้แล้ว กรณี "พรบ.ปรองดอง"ของแม้ว ที่มีรายระเอียด เจาะจง "ล้างผิด" ให้นักการเมืองชั่วและคนเผาเมืองที่มีผลประโยชน์เอิ้อแม้วนั้นก็ สมควรถูกจะโดนประชาชน"ปฏิรูป"ไปเสีย จริงใหม

คนละหมัด เดอะซีรี่ย์

[คนละหมัด เดอะซีรี่ย์]

ไม่ว่าในยุคใหน สมัยใหน การพยายามเปลี่ยนแปลงกฏหมายศีลธรรมที่เป็นข้อตกลงร่วมกันเพียงเพื่อประโยชน์ส่วนตน นั้นจะนำมาซึ่งปัญหาเสมอ ครับ

ตัวอย่างที่นำเอามาเปรียบเทียบก้เป็นเพียง ส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ยุโรปซึ่งมีความระเอียดอ่อนเปราะบางกระทบต่อความเชื่อ และเป็นชนวนความขัดแย้งเสมอครับ

[คนกลับใจ]

[Ballbk]

ขมิบนาน ... เมื่อยตูดเหรอ