..เวลาพวกเราไปช่วยเหลือคนอื่นเราไปคิดว่าเขาต่ำต้อย เวลาจะมารับของก็ต้องมาเข้าแถวรับของนึกภาพออกมัยฮะ ไอ้ความรู้สึกแบบนี้มันกด การช่วยเหลือแบบนี่ไม่ได้ทำให้คนนี่สูงขึ้น มันเป็นการกดหัวเขาให้เล็กลง ต่ำลง วิธีการก็คือเราต้องเสมอกันช่วยกัน คุณเป็นผู้ประสบภัยเราก็สามารถสร้างกระบวนการอาสาสมัคร และก็เรียนรู้เพราะนี่เป็นโอกาส ภัยพิบิตืทำลายคนได้นะ คนอาจถึงขนาดฆ่าตัวตายหรือรู้สึกผิดหวังในชีวิต ความล้มเหลวเขาต้องจมจ่ออยู่ตรงนั้นเป็นปีๆ แต่ถ้าเราใช้กระบวนการนี้ในการเปลี่ยนจิตสำนึกใหม่ ผู้ประสบภัยก็จะสามารถเติบโตได้.."
"..ต้องมาเดินเข้าแถวรับของ แล้วคนก็ไม่ต้องทำอะไรนะ ก็ต้องนั่งรอให้คนเพราะว่าจะมีคนมาแจกของ ก็ไม่กล้าไปฟื้นฟูบ้านตนเอง ผมว่าวัฒนธรรมแบบนี้ต้องเลิก คุณจะต้องทำให้คนนั้นยืนขึ้นมาให้ได้ คือผู้ประสบภัยเขาล้มนะ เวลาที่คุณจะฟื้นฟูคนที่จิตตกขนาดนี้คุณต้องทำให้เขายืนขึ้นมาให้ได้ โดยการประคับประคอง ใช้กระบวนการคุย และก็ไม่ต้องทำให้เขาแบบอยู่เฉยๆไม่ต้องทำอะไรไม่ต้องนะ อย่างนี้ไม่ใช่..."
"..ประเด็นคือถ้าคุณคิดว่าคุณไม่ออกและถ้าคิดว่าคุณอยู่ได้นะ คุณก็ต้องคิดวิธีเอาของเอาโชว์ห่วยเข้าไปขายข้างใน ส่วนตัวผมผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับถุงยังชีพนะ ผมคิดว่ามันทำลายความเป็นมนุษย์ สมติผมเป็นผู้ประสบภัยในพื้นที่ ผมต้องการอะไร ผมต้องการถุงยังชีพหรอ ปล่าวผมต้องการซื้อของ ถ้าผมต้องการซื้อน้ำได้ ซื้อบหม่สำเร็จรูป ปลากระป๋อง ผมว่ามันมีศักดิ์ศีกว่าการไปรับถุงยังชีพ.." (นาทีที่ 51.10)
สมบัติ บุญงามอนงค์ ผู้ประสานงาน ศปภ.ภาคประชาชน
1 พ.ย.54
ที่มา : รายการ Wake Up Thailand ประจำวันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน 2554 ตอน น้ำท่วม น้ำลาย น้ำใจ นาทีที่ 47.00 เป็นต้นไป http://shows.voicetv...land/22180.html
ลดทอนความเป็นมนุษย์อะไรของเอ็งวะ ที่เค้าทำกันก็ด้วยจิตอาสา ต้องการช่วยเพื่อมนุษย์ด้วยกันโว้ยยยยย!!! มีบ้างมั้ยสำนึกด้านคุณธรรมจริยธรรมและมนุษยธรรม รึว่าเพราะเหตุนี้รึป่าว ที่ทำให้ศปภ.กักตุนของ ไม่ปล่อยออกมา