#1
Posted 5 November 2011 - 00:45
ส่วนน้ำที่อยู่ทางเหนือนั้น ก็ไม่ผ่านลงมาเสียที ดูเหมือนค้างอยู่แถวรังสิตมานานนับเดือนแล้ว อยากเชิญชวนทุกท่านช่วยกันวิเคราะห์
ว่า มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ซึ่งเรืองนี้ต้องใช้ข้อมูลประกอบการพิจารณามาก ผมเห็นว่าถ้าเราช่วยกัน เราน่าจะมองเห็นภาพของสถานการณ์
น้ำได้ชัดเจนขึ้นครับ
หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.
#2
Posted 5 November 2011 - 00:47
#3
Posted 5 November 2011 - 00:49
#4
Posted 5 November 2011 - 00:51
#5
Posted 5 November 2011 - 00:53
#6
Posted 5 November 2011 - 00:55
#7
Posted 5 November 2011 - 00:58
ฟังอาจารย์ปราโมทย์ไม้กลัด ท่านก็บอกว่าน้ำจะไปทางฟลัดเวย์ที่ในหลวงดำริไว้ แต่ทำไมวัน
นี้ น้ำถึงได้ท่วมทางฝั่งตะวันตกก่อน ส่วนทางเหนือ ก็เหมือนค้างเติ่งอยู่อย่างนั้น ผมสงสัยมาก
ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.
#8
Posted 5 November 2011 - 00:59
มินบุรี บึงกุ่ม เจอสุดารัตน์ / วิชาญ
#9
Posted 5 November 2011 - 01:00
#10
Posted 5 November 2011 - 01:01
ทางเหนือเจอบรรหาร แล้วมันจะไปไหนล่ะทีนี้
ฝั่งธน เขต ปชป. 100 % ก็รับไป เครื่องสูบน้ำเสียไม่ไปแก้ ฯลฯ
#11
Posted 5 November 2011 - 01:03
หลายคนอาจคิดไม่ถึงว่าทำไมน้ำไหลมาจากเหนือแล้วถึงมาท่วมฝั่งกรุงเทพตะวัน ออก คลองสามวา ลาดกระบัง หนองจอก มีนบุรี? มันเป็นเพราะเหตุนี้ครับ ภาพนี้ตัดมาจากผังเมืองกรุงเทพมหานครปี 2549 ที่ใช้กันอยู่ถึงปัจจุบัน จากภาพบอกถึงแนวคันกั้นน้ำ (สีชมพู) และผังสีต่างๆ เราจะเห็นว่ามีสีอยู่เยอะแยะในผังเมือง ซึ่งจุดนี้สีที่สำคัญๆ 4-5 สีที่จะชี้ให้ดูในที่นี้คือ
แนวคันกั้นน้ำในผังเมืองจริงๆจะเป็นเส้นขีดตั้งๆ ที่กั้นพื้นที่เขตอยู่อาศัยกับพื้นที่ชนบทอนุรักษ์และเกษตรกรรมหรือพื้นที่ ชนบทและเกษตรกรรม (ขาวลายเขียวและสีเขียว) ซึ่งเป็นจุดที่ปล่อยให้น้ำไหล อันได้แก่เขตคลองสามวา มีนบุรี หนองจอกและลาดกระบัง ที่รัฐบาลประกาศออกมากันปาวๆว่าให้ระวังๆนะ ก็ด้วยเหตุนี้แหละครับ ทีนี้เรามาดูชื่อถนนที่อยู่ในพื้นที่สีขาวทะแยงเขียวฝั่งตะวันออกกัน ว่าได้แก่ถนนอะไรบ้าง
- สีเหลือง/ สีส้ม บ่งบอกถึงเขตที่อยู่อาศัย
- สีแดง บ่งบอกถึงพื้นที่พาณิชยกรรม
- สีขาวทะแยงเขียว บ่งบอกถึงพื้นที่ชนบทอนุรักษ์และเกษตรกรรม
- สีเขียว บ่งบอกถึงพื้นที่ชนบทและเกษตรกรรม
http://thinkofliving...ังเมืองน้ำท่วม/
- ถนนนิมิตรใหม่ช่วงกลาง-ปลาย
- ถนนคลองสิบ
- ถนนประชาร่วมใจ
- ถนนราษฎร์อุทิศ
- ถนนสุวินทวงศ์
- ถนนเจ้าคุณทหาร
- ถนนลาดกระบัง
- Motorway
หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.
#12
Posted 5 November 2011 - 01:12
http://www.oknation....1/10/23/entry-5
วันอาทิตย์ ที่ 23 ตุลาคม 2554
พบเหตุที่น้ำไม่ไปทางฝั่งตะวันออกเพราะกรมชลประทานไม่เปิดประตูระบายน้ำจริงหรือไม่? ผู้ว่ากทม.แจงแล้ว
Posted by Canไทเมือง , ผู้อ่าน : 1893 , 19:55:53 น.
หมวด : การเมือง
เมื่อวานในบล็อคบก.ชาลี พาไปดูประตูระบายน้ำฝั่งตะวันออกที่สมุทรปราการ น้ำแห้งขอด ไม่อะไรให้ระบาย
วันนี้ ผู้ว่าฯ กทม. แถลงข่าว...น่าสนใจ
ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์กล่าวอีกว่า ส่วนคลองประปาน้ำเริ่มลดลง แต่การประปานครหลวง (กปน.) ยังไม่สามารถควบคุมน้ำได้เต็มร้อย ยังมีน้ำเข้ามาเรื่อยๆ และตราบใดที่น้ำในคลองประปายังสูง ยังเป็นข้อจำกัดในการช่วยเหลือประชาชนในเขตหลักสี่และดอนเมือง จึงเป็นห่วงปัญหาที่หลักหกและคลองประปา อาจส่งผลถึงคลองเปรมประชากร ซึ่งขณะนี้น้ำในคลองเปรมฯ มีระดับน้ำสูงขึ้นมากถึง 1.40 เมตร ถ้าสูงมากเกินไปจะมีผลต่อการป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯ จึงต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม กทม.ยืนยันว่าได้ให้ ความร่วมมือกับ ศปภ. ในการเปิดประตูน้ำมาโดยตลอด ส่วนที่ยังมีข้อกังวลว่าที่ประตูระบายน้ำไม่เปิดนั้น ที่จริงแล้วไม่ใช่ประตูที่อยู่ในความรับผิดชอบของ กทม. แต่เป็นประตูของกรมชลประทาน เช่น ที่คลองประเวศ กทม.เปิดแล้ว แต่กรมชลประทานยังไม่เปิด ดังนั้นเพื่อให้สอดคล้องกับคำสั่งและนโยบายของรัฐบาล จึงขอให้รัฐบาลสั่งการให้กรมชลประทานเปิดประตูระบายน้ำเพื่อระบายน้ำพื้นที่ ตะวันออกสู่อ่าวไทยต่อไป และจะขอให้ ศปภ.เดินเครื่องสูบน้ำลงอ่าวไทยอย่างเต็มกำลัง เช่นที่สถานีสูบน้ำดำหรุ ซึ่งมีเครื่องสูบน้ำ 6 เครื่อง แต่เปิดเพียง 2 เครื่อง ที่ผ่านมา กทม.ร่วมมือกับรัฐบาลมาโดยตลอด จึงขอให้รัฐบาลร่วมมือกันเองด้วย
ทั้ง นี้ เพื่อความไม่ประมาท กทม.ได้ดำเนินการสำรวจจุดอ่อนในการป้องกันน้ำท่วมของ กทม. ส่วนหนึ่งในความรับผิดชอบของ กทม. และอีกส่วนเป็นความรับผิดชอบของกรมทางหลวง คือที่ถนนร่มเกล้า ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วม เพราะถนนสร้างมานานและสูงเพียง 1.7 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง ทำให้ความสามารถในการเป็นคันกั้นน้ำอาจจะน้อยลง กทม.จึงได้ร่วมมือกับกรมทางหลวงเข้าปรับปรุงแก้ไขจุดอ่อนตลอดแนว ประมาณ 35 กม. เพิ่มสูงเป็น 3 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง เพราะเป็นคันกั้นน้ำทางด้านตะวันออกที่ปกป้องพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ รวมทั้งนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง ซึ่งเกี่ยวข้องกับการจ้างงานและรายได้ของประชาชน
ข่าวมติชน
0000
เท่า ที่มองดูการทำงานของรัฐบาลและกทม. ค่อนข้างสับสน ทางหนึ่งรัฐบาลบอกว่าป้องกันกทม.เต็มที่ อีกทางหนึ่งพยายามจะสร้างกระแสข่าว "กรุงเทพแห้งต่างจังหวัดจมน้ำ"
คลองแสนแสบแห้ง แต่รอบนอกจมน้ำท่วมปาก
ประเด็นคลองแสนแสบ กทม.มีหน้าที่อธิบายเรื่องยุทธศาสตร์การระบายน้ำของกรุงเทพชั้นใน
ให้รายละเอียด ให้ความจริงแก่ประชาชนว่า มีระบบแผนบริหารจัดการระบายน้ำของกทม.ชั้นในอย่างไร
การระบายน้ำไปทางตะวันออกมีปัญหาเรื่องพื้นที่สูงต้ำอย่างไร มีอัไรเป็นกำแพงกั้นน้ำระลอกนี้
ทำไมน้ำไปไหลไปทางตะวันออก แต่มุ่งมาทางตะวันตกเฉียงเหนืของกทม.
หากยังปล่อยให้สื่อเสี้ยม ออกข่าวทิ่มแทงกันอยู่อย่างนี้ เห็นทีจะต้องมีประชาชนตีกันเข้าซักวัน
กทม.ต้องเร่งอธิบายแผนการระบายน้ำและจัดทำแผนตามพรบ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 2550 โดยเร็ว
แคน ไทเมือง
000000
ปชป.จี้ปู ผ่าตัด ศปภ.บิดเบือนข้อมูล เตือนลิ่วล้ออย่าตัดขาผู้ว่าฯกทม.
http://www.thairath....tent/pol/211355
รองโฆษกปชป.ซัด "ปู" ปากว่าตาขยิบ ร้องทุกฝ่ายร่วมมือแก้น้ำท่วม แต่กลับเล่นการเมือง ปล่อยลิ่วล้อขัดแข้งขัดขาผู้ว่าฯ กทม.เพื่อดิสเครดิต จี้ต้องแสดงภ...
ปชป.ซัด รัฐแก้น้ำท่วมบกพร่อง "คนนนท์"เจอไฟดูด 8 ศพ
รอง โฆษกปชป.แนะญาติ 8 ศพไฟดูดนนทบุรีฟ้องรัฐบกพร่องไม่ตัดไฟ ชี้ศปภ.มีกั๊กของช่วยเหลือทำให้ไม่ทั่วถึง ใช้งบแก้น้ำท่วมไม่คุ้มค่าและต้องรอลายเซ็นส.ส.ขาใหญ่สั่งเพียงคนเดียว...
23 ตุลาคม 2554, 14:15 น.
สุขุมพันธุ์ ตรวจสถานีสูบน้ำตำหรุ จ.สมุทรปราการ เพื่อสูบน้ำลงทะเล ชี้ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง พร้อมระบายน้ำเต็มที่
ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะผู้บริหาร เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานีสูบน้ำตำหรุ ในโครงการสูบน้ำและบำรุงรักษาคลองด่าน สำนักงานชลประทานที่ 11 เพื่อตรวจดูสถานการณ์น้ำ โดยมีการรับฟังการรายงานสถานการณ์จากเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง โดยระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีอะไรที่น่าวิตกกังวล เนื่องจากปริมาณน้ำนั้นยังอยู่ในสภาวะที่สามารถควบคุมได้
อย่างไรก็ ตาม สถานีสูบน้ำตำหรุ จะรับน้ำจากฝั่งกรุงเทพมหานคร ฝั่งตะวันออก โดยจะผ่านประตูระบายน้ำชลประทานที่ 11 และจะออกสู่ทะเลอ่าวไทย ฝั่ง จ.สมุทรปราการ
ไอเอนเอน
หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.
#13
Posted 5 November 2011 - 01:13
ที่ผมแปลกใจมากคือ หลายคนบอกว่า ทางน้ำโดยธรรมชาตินั้น มันจะไปทางฝั่งตะวันออกเอง
ฟังอาจารย์ปราโมทย์ไม้กลัด ท่านก็บอกว่าน้ำจะไปทางฟลัดเวย์ที่ในหลวงดำริไว้ แต่ทำไมวัน
นี้ น้ำถึงได้ท่วมทางฝั่งตะวันตกก่อน ส่วนทางเหนือ ก็เหมือนค้างเติ่งอยู่อย่างนั้น ผมสงสัยมาก
ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ครั้งนี้มันไม่ปรกติครับ มันมีปัญหามาตั้งแต่ประตูน้ำมโนรมย์ บางโฉมศรี น้ำจึงทะลักและหลากไปทางตะวันตกมากกว่า แต่หากจะปล่อยให้น้ำมันวิ่งตรงลงไปแม่น้ำท่าจีน มวลน้ำมันมากเกินที่น้ำท่าจะรับได้ แม่น้ำท่าจีนจะกลายเป็น flood lane คือร่องระบายน้ำหลากขนาดใหญ่ อาจจะทำให้ 2 ฝากฝั่งพังทะลายไปตามน้ำหมด หมายความว่า สิ่งปลูกสร้างบ้านเรือนริมฝั่งแม่น้ำท่าจีน อาจจะร่นเข้าไปจากตลิ่งถึง 50 หรือ 100 เมตร ราพณาสูร ไปกับสายน้ำหลาก
จึงเกิดการอั้นไว้จนเอ่อ และรวมน้ำไว้กลางลำแม่น้ำเจ้าพระยา เราจึงเห็นว่าน้ำมันไม่กระจาย จริงแล้วบางส่วนตามระดับปรกติมันก็ไปทิศตะวันออกอยู่ครับ แต่ดูมันน้อยกว่าตรงกลางและทิศตะวันออก
#14
Posted 5 November 2011 - 01:17
แต่ปีนี้มันกลัวกันมาก เลยปิดกั้นประตูน้ำ
เริ่มมาตั้งแต่ประตูพระอินทราชามาเลย
ทีนี้ก็กั้นสนั่นหวั่นไหว น้ำลงมาช้า ประตูระบายน้ำกรมชลปิด
จะมาทะเลาะเรื่องคลองแสนแสบในจังหวะที่แม่น้ำเจ้าพระยาหนุนสูง
แทนที่จะรีบระบายไปออกทางตะวันออกโดยเร็ว ป่านนี้ยังไม่ทำ
ป่านนี้ทางออกทะเลยังรอเก้อ
ดันมางมโข่งกับคลองแสนแสบทีเค้าเตรียมรองรับน้ำฝนที่ตกอยู่ทุกวันในกลางกรุง
มันพยายามทำให้เป็นการเมืองเรื่อง อยุธยารับน้ำแทนกทม.นั่นแล
ถ้ามันสั่งให้เปิดประตูของกรมชลมาตามคลองตามปกติ ก็ไม่มีปัญหา เพราะน้ำใหม่มามันก็ดันน้ำเก่าอยู่ดี ถึงที่สุดน้ำเก่าก็ได้ออกทะเล
แต่นี่มันหวังเอาน้ำโจมตีกรุงเทพ โจมตีแนวปราการพระราชดำริ
#15
Posted 5 November 2011 - 01:18
เพราะนี่เป็นเรื่องความเป็นความตายของประเทศ การที่ไม่ยอมผันน้ำไปเพราะกลัว สส. หรือ ประชาชน
ในพื้นที่ไม่พอใจนั้น ผมว่ามันง่ายไปนะครับ พวกนั้นมีอำนาจต่อรองขนาดนั้นเลยหรือ?? อย่าลืมว่าเรื่อง
นี้ถ้าจัดการไม่ดี พังกันหมดเลยนะครับ รัฐบาลก็จะไม่รอดเอาด้วย ถือว่าประเด็นการเมืองนั้นรับฟังเอา
ไว้ประกอบการพิจารณาแล้วกันนะครับ แต่ผมมองเรื่องนโยบายการจัดการมากกว่า ว่าตกลงพวกเค้ามี
แผนยังไงกันแน่ ??
หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.
#16
Posted 5 November 2011 - 01:19
เพราะกรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวง เป็นหัวใจของประเทศ
ร่างกาย ถ้าหัวใจพัง ก็อยู่ไม่ได้ สมใจพวกอยากได้ New Thailand
ไทยใหม่ จะได้เกิดสมใจพวกที่ชอบอ้างเป็นเสียงส่วนมาก
กระสันอยากได้เสียจนกล้าทำให้แผ่นดินเกิดพินาศย่อยยับได้
#17
Posted 5 November 2011 - 01:20
ผมรู้สึกว่าคำอธิบายหลายอย่างล้วนมีข้อสงสัยทั้งสิ้น อย่างเช่นเรื่องการเมือง ผมว่ามันอ่อนไปนะครับ
เพราะนี่เป็นเรื่องความเป็นความตายของประเทศ การที่ไม่ยอมผันน้ำไปเพราะกลัว สส. หรือ ประชาชน
ในพื้นที่ไม่พอใจนั้น ผมว่ามันง่ายไปนะครับ พวกนั้นมีอำนาจต่อรองขนาดนั้นเลยหรือ?? อย่าลืมว่าเรื่อง
นี้ถ้าจัดการไม่ดี พังกันหมดเลยนะครับ รัฐบาลก็จะไม่รอดเอาด้วย ถือว่าประเด็นการเมืองนั้นรับฟังเอา
ไว้ประกอบการพิจารณาแล้วกันนะครับ แต่ผมมองเรื่องนโยบายการจัดการมากกว่า ว่าตกลงพวกเค้ามี
แผนยังไงกันแน่ ??
ไม่เคยคิดว่าเขามีแผนระยะยาว นอกจากโปะหน้ากันรายวัน ดู ศปภ. ย้ายที่ทำการเป็นตัวอย่าง
#18
Posted 5 November 2011 - 01:26
บรรหารแก้ตัวไม่ออกหรอก ทีวีไทยบินไปถ่ายภาพทางอากาศ อยุธยา สิงห์ อ่างทองท่วม ชาวนาสุพรรณทำนารอบสองเฉยเลย
#19
Posted 5 November 2011 - 01:27
จะเอาข้อหาอะไรไปไล่
หรือจะเผาเมืองไล่แบบควายแดง
#20
Posted 5 November 2011 - 01:29
#21
Posted 5 November 2011 - 01:30
แสดงความคิดเห็นได้เต็มที่เลยครับ แต่อยากให้มีข้อมูลประกอบด้วย
อย่างเช่น ถ้าเห็นว่าเป็นเรื่องการเมือง ก็แปะข่าว สส.คนไหน ทำโน่น
ทำนี่ไว้ด้วย เพื่อที่เราจะได้ใช้เป็นฐานข้อมูล แชรฺ์กับคนอื่นได้ด้วย
มันจะได้น่าเชื่อถือด้วยครับ อีกอย่าง บางทีผมจะทำตัวเป็นฝ่ายค้าน
ความคิดเห็นของหลายๆคน ผมกะจะลองเถียงดูเล่นๆ ถ้าออกข้างๆคูๆ
เมื่อไหร่ แสดงว่าความเห็นของท่านนั้นน่าจะเข้าท่านะ
หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.
#22
Posted 5 November 2011 - 01:31
#23
Posted 5 November 2011 - 01:35
#24
Posted 5 November 2011 - 01:36
ไปดูว่ากว่าผังเมืองรวมของกทม.จะผ่านออกมาได้ ต้องต่อสู้ยังไง
#25
Posted 5 November 2011 - 01:50
ถ้าจะศึกษาเรื่องนี้ต้องไปไล่มาตั้งแต่ไอ้ทักษิณจะทำเมืองใหม่สุวรรณภูมิ ปี 47-48
ไปดูว่ากว่าผังเมืองรวมของกทม.จะผ่านออกมาได้ ต้องต่อสู้ยังไง
อันนี้สมัยนั้นผมอยู่ในฝ่ายลงทุน ยอมรับว่าบริษัทยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน ที่มารุมกินบ้านเอื้ออาทร เตรียมทุ่มทุนไปที่เมืองใหม่สุวรรณภูมิ บางคนบางบริษัทก็ไปกว้านซื้อที่ดินไว้หมดแล้ว ตั้งแต่ถนนลาดกระบัง-ม.หัวเฉียวไปถึงบางเสาธง ม.abac มันเอาจริง นอกเหนือจากนั้นก็มีอีกโครงการหนึ่งคือสร้างเมืองทันสมัยที่บึงมักกะสัน อันนี้ก็นับแสนล้านบาท แถมยังจะตีกลับมากิน metropolis หรือโครงการเมืองรุ้งเดิม ก็ที่ดินรัชดาห์นั่นเอง อันโด่งดังนั่นเอง
#26
Posted 5 November 2011 - 02:23
ปัญหาใหญ่ในช่วงวิกฤตินี้ก็คือ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่สื่อต่างประเทศเรียกเธอว่า “นักการเมืองฝึกหัด” ใช้อำนาจในการบริหารจัดการไม่เป็น
อดีตนายกฯ บรรหาร ศิลปอาชา ให้สัมภาษณ์ นสพ.ประชาชาติธุรกิจ ว่า นายกฯมีอำนาจเต็มเลย ผมเคยเป็นนายกฯมา ผมรู้ดีว่าสั่งการได้ทุกเรื่อง ทั้งทหารและพลเรือน แต่บังเอิญท่านได้รับข้อมูลหลายทางก็สับสน ถ้าเป็นผมฟังทีเดียวก็จบเลย
แม้จะมีอำนาจสั่งการได้ทุกเรื่อง แต่ คำสั่งนายกฯยิ่งลักษณ์กลับไม่ค่อยมีใครปฏิบัติตาม ไม่ว่า ในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย หรือ กทม. แม้แต่การเจรจากับประชาชนในพื้นที่ เพื่อเจาะถนนเปิดคลอง 9-10 ระบายนํ้าจากคลองรังสิต แต่คล้อยหลังไม่กี่ชั่วโมง นสพ.โพสต์ทูเดย์ ส่งนักข่าวไปดู พบชาวบ้านรวมตัวกันขับไล่เจ้าหน้าที่กรมชลประทาน ไปอีกวันไม่พบเจ้าหน้าที่กรมชลประทานแล้ว
ส่งผลให้เส้นทางระบายนํ้าไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ เหมือนอย่างที่ หน้าเศรษฐกิจไทยรัฐ วิเคราะห์ไปเมื่อวาน รัฐบาลยิ่งลักษณ์ อยู่ในสถานะ Fail State หรือ รัฐที่ล้มเหลว เพราะรัฐบาลไม่สามารถบริหารจัดการประเทศได้
ความจริงประเทศไทยวันนี้ตกอยู่ในสภาพยิ่งกว่าวิกฤติ เป็นช่วงเวลาที่ นายกฯยิ่งลักษณ์ จะต้อง “ประกาศภาวะฉุกเฉิน” ใน “พื้นที่ภัยพิบัติ” ตั้งแต่สองเดือนที่แล้ว เพื่อ ใช้อำนาจเด็ดขาด ในการบริหารจัดการน้ำ ข้าราชการที่ไม่ฟังคำสั่ง ประชาชนที่ขัดขวาง สั่งลงโทษได้ทันที ไม่ใช่ปล่อยตามยถากรรมอย่างนี้ ใครใคร่พังคันกั้นน้ำก็พัง ใช้ปืนและอิทธิพลขู่ไม่ให้เปิดปิดประตูระบายน้ำ จนท่วมเสียหายกันทั้งเมือง
ลำพัง นายกฯยิ่งลักษณ์ เชื่อกันว่าคงไม่มีปัญหาเรื่อง ประกาศภาวะฉุกเฉิน แต่ เงาอำนาจเหนือนายกฯ ต่างหากที่ไม่ยอม กลัวทหารจะปฏิวัติจนขึ้นสมอง บวกกับ ความแสบของฝ่ายค้าน ที่ออกมา พูดดักหน้าเรียกร้องให้นายกฯยิ่งลักษณ์ประกาศภาวะฉุกเฉิน เลยทำให้ไม่มีการประกาศในที่สุด
ที่น่าเศร้าใจอีกเรื่อง ก็การเล่นการเมืองของ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กับ รัฐบาลเพื่อไทย จนน้ำท่วมขอบกรุงชั้นในเขตบางเขนแล้ว ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่า กทม. กับ คุณชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน ยังเถียงกันเรื่องเส้นทางระบายน้ำไม่จบ ทั้งที่อยู่ในช่วงวิกฤติที่ช้าไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว
คุณธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม. ให้สัมภาษณ์วันวาน แนวทางระบายน้ำตามพระราชดำริ เปิดประตูระบายน้ำด้าน คลองระพีพัฒน์ ระบายลง คลองรังสิต 6—13 ไปลง คลองหกวาล่าง ต่อด้วย คลองแสนแสบ เชื่อม คลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต คลองประเวศ ไปลง แม่น้ำบางปะกง ลงสู่ทะเล เป็นแนวทางระบายน้ำที่ดีที่สุด แต่จนแล้วจนรอด นายกฯยิ่งลักษณ์ ก็ยังไม่กล้าใช้อำนาจสั่ง หรือจะรอให้น้ำท่วมกรุงเทพฯชั้นในเสียก่อนก็ไม่รู้
เรื่องที่กรมชลฯอ้างว่าน้ำด้านนั้นสูงกว่า ผมก็เห็นด้วยกับคุณธีระชัยว่า เมื่อสูงกว่าก็เอาเครื่องสูบน้ำสูบออกไปได้ มันยากตรงไหน
ทำไม นายกฯยิ่งลักษณ์ ไม่กล้าใช้อำนาจ บทสรุปของ คุณธีระชัย น่าจะเป็นคำตอบ “เบื้องหลังที่ระบายน้ำตรงนี้ไม่ได้ เป็นความเห็นแก่ตัวของคนบางคน ลองไปถามสิว่า ทำไมพื้นที่บางน้ำเปรี้ยว หรือ หนองจอก ชื่อก็บอกแล้วว่า เป็นพื้นที่รับน้ำ ทำไมถึงแห้งสนิทเช่นนี้ เพราะใคร ทำไมต้องไปกั้นทางน้ำตรงนี้ บางพื้นที่ถูกออกแบบเป็นทางน้ำผ่าน หรือฟลัดเวย์ น้ำก็ยังผ่านไม่ได้ เป็นสมัยโบราณ คนที่ทำอย่างนี้ถูกตัดหัวเจ็ดชั่วโคตรไปแล้ว” เขาคือใคร? คุณธีระชัย น่าจะเฉลยไปเลย เพราะคนกรุงเทพฯที่กำลังจมน้ำก็อยากรู้.
“ลม เปลี่ยนทิศ”
ไทยรัฐออนไลน์
โดย ลม เปลี่ยนทิศ
1 พฤศจิกายน 2554, 05:00 น.
00000
ใครทำบาปทำกรรมให้ประเทศนี้จะต้องชดใช้...
ทีวีไทยนำเสนอชาวนาสุพรรณใต้ประตูระบายน้ำปลูกข้าวรอบใหม่
ออกไปทางบางปะกง ตระกูลใหญ่นักการเมืองดังที่สอบตกขวางคลอง
จะลงที่กรีนเบล์ท หรือ ฟลัดเวย์ เจอ "เจ๊ดา บึงกุ่ม" ขึ้นฮ. ดูน้ำ
ใต้ฝุ่นบอกว่าตัดหัวเจ็ดชั่วโคตร คงน้อยเกินไป ถ้าเรื่องนี้เป็นจริงต้องตัดหัวล้างตระกูล
แคน ไทเมือง
000000000
ย้อนรอยสมัยทักษิณ ชันวัตรเป็นนายกฯ ใครขวางขุดคลองระบายน้ำที่กรีนเบล์ท..."มหานครสุวรรณภูมิ"
กทม.ฟื้นแผนขุดคลองผันน้ำ โดยจะลดพื้นที่รองรับน้ำฝั่งตะวันออกของกทม.ลง
ทุนการเมือง เด็กไทยรักไทยฉีกแนวฟลัดเวย์สำเร็จ กทม.แพ้ทางยกธงขาว พร้อมเร่งร่างทีโออาร์จ้างคอนเซ้าท์ศึกษาความเป็นไปได้ขุดคลองผันน้ำแทน "ฟลัดเวย์" 1 ปี เริ่มตั้งแต่คลองพระองค์เจ้าไชยยานุชิตความกว้างแคบสุด 100 เมตร กว้างสุด 1,000 เมตร หวังบีบพื้นที่ฟลัดเวย์ให้แคบลง สามารถปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดินได้ แบไต๋หมดเปลือกหวังลดปัญหาความขัดแย้งเรื่องร้องเรียนของนักการเมืองขอทึ้งเขียวลาย
ส่วนมหานครสุวรณภูมิเขตลาดกระบังหลดโผถูกดึงเป็นเขตปกครองพิเศษ
จากกรณีที่มีนักการเมืองพรรคไทยรักไทยพยายามวิ่งล็อบบี้รัฐบาล"ทักษิณ" 2/1ให้กทม.แก้ไขร่างผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (กทม.)โดยปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดิน บริเวณพื้นที่สีขาวทะแยงเขียว หรือแนวฟลัดเวย์โซนตะวันออกของกทม.ที่ผังเมืองกำหนดให้เป็นพื้นที่รับน้ำจาก ทางตอนเหนือของกทม.ลงอ่าวไทยแก้ปัญหาน้ำท่วมตามแนวพระราชดำรินั้น...
แหล่งข่าวจากศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจว่า...
ขณะนี้มีแผนว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา(ทีโออาร์) เพื่อ ศึกษาความเป็นไปได้ในการขุดคลองระบายน้ำบริเวณแนวฟลัดเวย์หรือ พื้นที่สีขาวทะแยงเขียว(อนุรักษ์ชนบทและเกษตรกรรม) ในพื้นที่โซนตะวันออกของกทม.ตามที่ผังเมืองกำหนด โดยได้ครอบคลุมพื้นที่ 3 เขตได้แก่ เขตมีนบุรี คลองสามวา และลาดกระบัง กว่า 100,000 ไร่
ทั้งนี้เนื่องจากต้องการกำหนดแนวคลองผันน้ำที่ชัดเจนลงไป ซึ่งจะสามารถบีบพื้นที่ขาวทะแยงเขียว หรือพื้นที่แนวฟลัดเวย์ที่ใช้เป็นพื้นที่รับน้ำทั้งหมดให้แคบลง และสามารถนำพื้นที่ที่เหลือไปปรับการใช้ประโยชน์ที่ดิน ให้สามารถพัฒนาในเชิงพาณิชย์ได้มากขึ้นอาทิปรับเป็นพื้นที่สีเขียว (ที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม) และพื้นที่สีเหลือง หรือที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย โดยไม่ต้องใช้เป็นพื้นที่รับน้ำทั้งหมด
ซึ่งการศึกษาขุดคลองผันน้ำบริเวณดังกล่าวจะเป็นการช่วยลดปัญหาเรื่องการขัดแย้งระหว่างเจ้าของที่ดินและกรณีที่นายวิชาญ มีนชัยนันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์กทม.พรรคไทยรักไทยเขตมีนบุรีและคลองสามวา ได้พยายามวิ่งล็อบบี้ขอปรับสีผังเมืองกทม.ฉบับใหม่ จนกระทั่งมีการเลื่อนประกาศใช้ออกไป
อย่างไรก็ดีกทม.ยืนยันว่าจะไม่มีการปรับสีผังในร่างผังเมืองรวมกทม.ในช่วงนี ้แต่จะประกาศใช้ไปก่อน เพื่อรอผลการศึกษาก่อนว่า มีผลดีผลเสียอย่างไร สามารถขุดเจาะได้บริเวณไหน หากขุดคลองแล้วสามารถรองรับปริมาณน้ำที่ไหลบ่ามาจากทางตอนเหนือของกทม.ได้จริงหรือไม่และไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อการเกิดน้ำท่วมตามมา ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน โดยจะใช้เวลาศึกษา 1 ปี พร้อมกับการทำผังพัฒนาพื้นที่เฉพาะบริเวณดังกล่าวควบคู่ไปด้วย
ทั้งนี้หากผลการศึกษาออกมาว่าสามารถดำเนินการได้และกำหนดแนวคลองที่ชัดเจน ซึ่งพื้นที่น่าจะเป็นบริเวณคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต เขตมีนบุรีซึ่งจะมีการขุดลอกคลองเดิมให้กว้างขึ้นด้วย ซึ่งมีความกว้างตั้งแต่ 100 เมตรไปจนถึง 1,000 เมตร ส่วนความยาวที่จะลงไปเชื่อมกับอ่าวไทยบริเวณจังหวัดสมุทรปราการ จะต้องพิจารณาว่าจะผ่านบริเวณไหน ซึ่งแน่นอนว่าจะมีเจ้าของที่ดิน ถูกเวนคืนเพื่อใช้ทำเป็นแนวคลอง แต่จะมากน้อยเท่าไหร่นั้นขึ้นอยู่กับผลการศึกษาที่ออกมา ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้น กทม.จึงจะนำผังเมืองรวมกทม.ที่ได้ประกาศไปแล้วมาปรับการใช้ประโยชน์ที่ดินต่อไป
"มีกลุ่มนักการเมืองและภาคเอกชนที่มีที่ดินตุนอยู่ในเขตพื้นที่อนุรักษ์ชนบท และเกษตรกรรม
(พื้นที่สีขาวทะแยงเขียว) ซึ่งกำหนดให้เป็นแนวฟลัดเวย์หรือพื้นที่รับน้ำโซนตะวันออกเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม ตามพระราชดำริในหลวงให้สามารถพัฒนานาเป็นที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์ได้ โดยมี “นายวิชาญ มีนชัยนันท์ “ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานครเขตมีนบุรี พรรคไทยรักไทยเป็นแกนนำในการเรียกร้องให้รัฐบาลและกทม.รื้อร่างผังเมืองรวมกทม.ฉบับใหม่ โดยได้ให้ความเห็นว่า
สำนักนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลส่วนใหญ่มีความเห็นสอดคล้องกันว่าควรจะปรับการใช ้ประโยชน์ที่ดินบริเวณพื้นที่เขียวทะแยงขาวหรือพื้นที่รับน้ำดังกล่าวให้เกิดความเหมาะสมสามารถใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น เพื่อรองรับสนามบินสุวรรณภูมิและเมืองใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต"
แหล่งข่าวกล่าวต่อไป ว่าสาระสำคัญของร่างผังเมืองรวมกทม.กำหนดให้พื้นที่ขาวทะแยงเขียวบริเวณโซนต ะวันออกของกทม. สามารถพัฒนาเชิงพาณิชย์เพื่อการจัดสรรที่ดินขนาดพื้นที่ขนาดตั้งแต่ 1,000 ตารางวา หรือ 2.5 ไร่ ขึ้นไป
สำหรับความคืบหน้าร่างผังเมืองรวมกทม. ขณะนี้เรื่องรอเข้าคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อพิจารณาข้อ 38 ว่า กทม.มีอำนาจตรวจสอบการใช้ประโยชน์ที่ดินรองได้หรือไม่ ซึ่งคาดว่ากฤษฎีกาจะพิจารณาเร็วๆนี้ และคาดว่าจะสามารถประกาศใช้ผังเมืองรวมกทม.ฉบับใหม่ได้ในปี2548นี้
ส่วนกรณีที่รัฐบาลมีนโยบายที่จะพัฒนาเมืองโดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิ โดยใช้ที่ดินโดยรอบถึง 200,000 ไร่ กินพื้นที่เขตกทม.เขตลาดกระบัง และจังหวัดสุทรปราการพร้อมทั้งกำหนดให้เป็นเขตปกครองพิเศษ นั้น ขณะนี้กระทรวงมหาดไทยได้ยกเลิกการนำพื้นที่กทม. เขตลาดกระบังเข้าไปรวมกับโครงการดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้เนื่องจากต้องแก้ไขกฎหมายหลายฉบับโดยเฉพาะ กฎหมายยกเลิก องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) องค์การบริหารส่วนจังหวัด เพื่อใช้วิธีการปกครองแบบใหม่ ทำให้ต้องยกเลิกไปดังกล่าว
00000
เชิญคิดต่อ...เพราะกทม.จะขุดคลองไม่ลึก กว้างตั้งแต่ 100-1,000 เมตร ตามแนวพระราชดำริ
รัฐบาลไหนเป็นไอ้เข้ขวางคลอง...ต้องจับมันมาตัดหัวเจ็ดชั่วโคตร
#27
Posted 5 November 2011 - 02:31
เนชั่นทันข่าว 31 ตค. 2554 07:53 น.
แฉบิ๊กศปภ.- สามนิคม ตกลงร่วมกันหวั่นระบายน้ำทำอุตสาหกรรมพัง 3นิคมท่วม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีคำสั่งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ฉบับที่ 37/2554 เรื่องยกเลิกคำสั่ง หลังจากที่มีคำสั่ง ศปภ. 12/2554 ลงวันที่ 15 ต.ค. 2554 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการผันน้ำลงทะเลและคำสั่งศปภ. ฉบับที่ 16/2554 ลงวันที่ 17 ต.ค. 2554 เรื่องเปลี่ยนแปลงและเพิ่มเติมคณะกรรมการลงทะเลนั้น เนื่องจากนายกฯ ได้มีคำสั่งที่ 20/2554 ลงวันที่ 21 ต.ค. 2554 สั่งการให้กรมชลประทานระบายน้ำจากคลองรพีพัฒน์ แยกตะวันตกออกสู่ทะเลอ่าวไทย และคำสั่งที่ 18/2554 ลงวันที่ 20 ต.ค. 2554 แต่งตั้งคณะทำงานบริหารจัดการระบายน้ำในพื้นที่เกิดสาธารภัยร้ายแรง อาศัยอำนาจตามคำสั่งของสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 193/2554 ลงวันที่ 8 ต.ค. 2554 เรื่องการตั้งศูนย์ศปภ.
และคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 17/2554 ลงวันที่ 20 ต.ค. 2554 เรื่องกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ที่เกิดสาธารภัยร้ายแรง ตามมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 2550 ข้อ 3 จึงมีคำสั่งให้ยกเลิกคำสั่งศปภ. ฉบับที่ 12/2554 ลงวันที่ 15 ต.ค. 2554 เรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการผันน้ำลงทะเลและคำสั่งศปภ. ที่ 16/2554 ลงวันที่ 17 ต.ค. 2554 เรื่องเปลี่ยนแปลงและเพิ่มเติมคณะกรรมการผันน้ำลงทะเล ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. 2554 โดยคำสั่งยกเลิกดังกล่าว ลงนามโดย พล.อ.ต.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการยุติธรรม ฐานะผู้อำนวยการศปภ.
ทั้งนี้รายงานข่าวจากศปภ.แจ้งว่า เหตุผลที่มีคำสั่งยกเลิกคณะกรรมการผันน้ำลงทะเล ที่มีนายอุเทน ชาติภิญโญ เป็นประธานคณะกรรมการผันน้ำลงทะเลนั้น เนื่องจากทางศปภ.เกรงว่าคณะกรรมการชุดนี้จะทำงานซับซ้อนกับคณะทำงานบริหารจัดการระบายน้ำในพื้นที่เกิดสาธารณภัยร้ายแรง ที่มีนายวีระ วงศ์แสงนาค เป็นประธานคณะทำงานบริหารจัดการระบายน้ำในพื้นที่เกิดสาธารภัยร้ายแรง
รายงานข่าวยังเปิดเผยอีกว่า การยกเลิกคำสั่งดังกล่าวเป็นเพราะทางผู้ใหญ่ระดับสูงของศปภ.มีการตกลงกับตัวแทนนิคมอุตสาหกรรมทั้ง 3 นิคม คือ บางชัน นิคมอุตสาหกรรมสุวินทวงศ์ และนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ซึ่งทางตัวแทนของ 3 นิคมเห็นควรว่าหากยังมีคณะกรรมการผันน้ำลงทะเลที่มีพื้นที่รับผิดชอบระบายน้ำจากคลองรพีพัฒน์ แยกตะวันออก สู่ทะเลอ่าวไทย ซึ่งการผันน้ำดังกล่าวจะผ่านที่ตั้งของ 3 นิคมอุตสาหกรรมด้วย
ดังนั้นอาจส่งผลให้น้ำทะลักเข้าท่วมทั้ง 3 นิคมได้ จึงต้องมีการยกเลิกคณะกรรมการผันน้ำชุดนี้ลงทันที ดังนั้นทางศปภ.จึงมีคำสั่งยกเลิกคณะกรรมการชุดนี้
#28
Posted 5 November 2011 - 07:50
ศปภ.เด้ง”อุเทน”ยกเลิกกรรมการผันน้ำ
เนชั่นทันข่าว 31 ตค. 2554 07:53 น.
แฉบิ๊กศปภ.- สามนิคม ตกลงร่วมกันหวั่นระบายน้ำทำอุตสาหกรรมพัง 3นิคมท่วม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีคำสั่งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ฉบับที่ 37/2554 เรื่องยกเลิกคำสั่ง หลังจากที่มีคำสั่ง ศปภ. 12/2554 ลงวันที่ 15 ต.ค. 2554 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการผันน้ำลงทะเลและคำสั่งศปภ. ฉบับที่ 16/2554 ลงวันที่ 17 ต.ค. 2554 เรื่องเปลี่ยนแปลงและเพิ่มเติมคณะกรรมการลงทะเลนั้น เนื่องจากนายกฯ ได้มีคำสั่งที่ 20/2554 ลงวันที่ 21 ต.ค. 2554 สั่งการให้กรมชลประทานระบายน้ำจากคลองรพีพัฒน์ แยกตะวันตกออกสู่ทะเลอ่าวไทย และคำสั่งที่ 18/2554 ลงวันที่ 20 ต.ค. 2554 แต่งตั้งคณะทำงานบริหารจัดการระบายน้ำในพื้นที่เกิดสาธารภัยร้ายแรง อาศัยอำนาจตามคำสั่งของสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 193/2554 ลงวันที่ 8 ต.ค. 2554 เรื่องการตั้งศูนย์ศปภ.
และคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 17/2554 ลงวันที่ 20 ต.ค. 2554 เรื่องกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ที่เกิดสาธารภัยร้ายแรง ตามมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 2550 ข้อ 3 จึงมีคำสั่งให้ยกเลิกคำสั่งศปภ. ฉบับที่ 12/2554 ลงวันที่ 15 ต.ค. 2554 เรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการผันน้ำลงทะเลและคำสั่งศปภ. ที่ 16/2554 ลงวันที่ 17 ต.ค. 2554 เรื่องเปลี่ยนแปลงและเพิ่มเติมคณะกรรมการผันน้ำลงทะเล ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. 2554 โดยคำสั่งยกเลิกดังกล่าว ลงนามโดย พล.อ.ต.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการยุติธรรม ฐานะผู้อำนวยการศปภ.
ทั้งนี้รายงานข่าวจากศปภ.แจ้งว่า เหตุผลที่มีคำสั่งยกเลิกคณะกรรมการผันน้ำลงทะเล ที่มีนายอุเทน ชาติภิญโญ เป็นประธานคณะกรรมการผันน้ำลงทะเลนั้น เนื่องจากทางศปภ.เกรงว่าคณะกรรมการชุดนี้จะทำงานซับซ้อนกับคณะทำงานบริหารจัดการระบายน้ำในพื้นที่เกิดสาธารณภัยร้ายแรง ที่มีนายวีระ วงศ์แสงนาค เป็นประธานคณะทำงานบริหารจัดการระบายน้ำในพื้นที่เกิดสาธารภัยร้ายแรง
รายงานข่าวยังเปิดเผยอีกว่า การยกเลิกคำสั่งดังกล่าวเป็นเพราะทางผู้ใหญ่ระดับสูงของศปภ.มีการตกลงกับตัวแทนนิคมอุตสาหกรรมทั้ง 3 นิคม คือ บางชัน นิคมอุตสาหกรรมสุวินทวงศ์ และนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ซึ่งทางตัวแทนของ 3 นิคมเห็นควรว่าหากยังมีคณะกรรมการผันน้ำลงทะเลที่มีพื้นที่รับผิดชอบระบายน้ำจากคลองรพีพัฒน์ แยกตะวันออก สู่ทะเลอ่าวไทย ซึ่งการผันน้ำดังกล่าวจะผ่านที่ตั้งของ 3 นิคมอุตสาหกรรมด้วย
ดังนั้นอาจส่งผลให้น้ำทะลักเข้าท่วมทั้ง 3 นิคมได้ จึงต้องมีการยกเลิกคณะกรรมการผันน้ำชุดนี้ลงทันที ดังนั้นทางศปภ.จึงมีคำสั่งยกเลิกคณะกรรมการชุดนี้
ผมนึกว่านายกฯปูถอด"อุเทน"เพราะออกทีวีทีไรก็ด่ารัฐบาลชุดก่อน
ด่านายกฯอภิสิทธิ์ทุกที
แต่ไม่ด่ารัฐมนตรีเกษตรฯรัฐบาลชุดก่อนซึ่งรับผิดชอบกรมชลประทานเหมือนกัน........ฮา
เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...
#29
Posted 5 November 2011 - 08:23
1. ความชันของคลอง1 ไล่สูงขึ้นไปถึงคลอง8 9 และปลายๆ เพราะฉนั้นถ้าจะให้น้ำไหลโดยธรรมชาติ ต้องมีการควบคุมน้ำไหลเข้า ให้คลองด้านปลายเต็ม แล้วระบายลงคลอง 13 ต่อไป
ดังนั้นแรกๆจึงมีนักวิชาการเร่งให้เบี่ยงเบนน้ำเหนือ ที่ยังมาไม่ถึงรังสิต ให้หันหัวเข้าทางคลองรังสิตปลายๆเลย ..
2. แต่ด้วยความจงใจ หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ มีการทะลายพนังดิน ที่นายเก่งและพลพรรคนั่นแหละครับ ที่เป็นจุดเริ่มของหายนะ เนื่องจากเป็นที่ต่ำกว่า น้ำจึงหลากเข้ากรุงเทพฯ และน้ำที่หนุนมาจากตอนเหนือ เลยโถมเข้าทางด้าน
ตะวันตก และ กรุงเทพฯ
ผมไม่แม่นและแน่ใจเรื่องนี้นะครับ ท่านที่มีความรู้ลองช่วยอธิบายเพิ่มเติมด้วยละกัน
#30
Posted 5 November 2011 - 08:33
เป็นความจงใจทำลายกรุงเทพฯ
เพราะกรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวง เป็นหัวใจของประเทศ
ร่างกาย ถ้าหัวใจพัง ก็อยู่ไม่ได้ สมใจพวกอยากได้ New Thailand
ไทยใหม่ จะได้เกิดสมใจพวกที่ชอบอ้างเป็นเสียงส่วนมาก
กระสันอยากได้เสียจนกล้าทำให้แผ่นดินเกิดพินาศย่อยยับได้
แล้วในที่สุดก็จะโยงหาเหตุเปลี่ยนเมืองหลวง
ตามโครงการ New Thailand
ความเท็จแม้นเร้นได้ในปัจจุบัน แต่ก็เหมือนซ่อนสุริยันไว้หลังเมฆ
อย่านึกถึงแต่ความผิดพลาด จงระลึกถึงต้นเหตุของความผิดพลาด
#31
Posted 5 November 2011 - 08:47
#32
Posted 5 November 2011 - 08:56
ด้วยเหตุผลทั้งสองข้อทำให้เมื่อน้ำมาจะสูบทิ้งได้ทัน
แต่.... มันเสี่ยงมากสำหรับรัฐบาล เพราะถ้าเกิดผิดพลาด แปลว่าจบ ทุกอย่างสิ้นสุด
#33
Posted 5 November 2011 - 09:04
.. 2. แต่ด้วยความจงใจ หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ มีการทะลายพนังดิน ที่นายเก่งและพลพรรคนั่นแหละครับ ที่เป็นจุดเริ่มของหายนะ เนื่องจากเป็นที่ต่ำกว่า น้ำจึงหลากเข้ากรุงเทพฯ และน้ำที่หนุนมาจากตอนเหนือ เลยโถมเข้าทางด้าน ตะวันตก และ กรุงเทพฯ ผมไม่แม่นและแน่ใจเรื่องนี้นะครับ ท่านที่มีความรู้ลองช่วยอธิบายเพิ่มเติมด้วยละกัน
นี่เป็นอีกอันหนึ่งที่ผมไม่เข้าใจ มีใครพอทราบมั้ยครับ ว่าทำไมน้ำมันถึงเข้ามาที่คลองประปาได้??
ผมฟังข่าว ก็เห็นแนวคันกั้นน้ำพระราชดำริห์ เห็นว่ามันกันกรุงเทพฯไว้ทุกด้าน คือริมฝั่งแม่น้ำ
เจ้าพระยา ทางเหนือ และแนวถนนฝั่งตะวันออก ผมงงเป็นไก่ตาแตกเลย วันที่ได้ยินข่าวน้ำเข้า
คลองประปา ดูเหมือนสื่อไม่ค่อยพูดถึงคลองประปามาก่อน พอเกิดเหตุถึงได้เป็นข่าว
ใครก็ได้ช่วยอธิบายหน่อยครับว่าตกลงน้ำที่เข้าคลองประปา ทะลักเข้าดอนเมืองจนถึงแยกลาด
พร้าวตอนนี้ เป็นมวลน้ำก้อนเดียวกันใช่มั้ย และมันผ่านแนวคันกั้นน้ำพระราชดำริห์ทางตอนเหนือ
มาได้อย่างไร
หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.
#34
Posted 5 November 2011 - 09:07
ทางตะวันออกที่ความลาดชันน้อย น้ำไหลช้าเป็นเรื่องดี มีเครื่องสูบน้ำเยอะและมีพลังสูบมาก ด้วยเหตุผลทั้งสองข้อทำให้เมื่อน้ำมาจะสูบทิ้งได้ทัน แต่.... มันเสี่ยงมากสำหรับรัฐบาล เพราะถ้าเกิดผิดพลาด แปลว่าจบ ทุกอย่างสิ้นสุด
อธิบายเพิ่มหน่อยได้มั้ยครับ ว่ามันเสี่ยงอย่างไร? ทั้งที่บริเวณนั้นเป็นพื้นที่รับน้ำอยู่แล้ว
หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.
#35
Posted 5 November 2011 - 09:13
แต่ปัญหาคือ ตอนแรกที่น้ำมา ไม่เปิด ปตร.แถวนั้น ตั้งแต่ที่แรก เมื่อน้ำเลยเข้ามา ถึงประทุม น้ำก็เทไปทางตะวันตกแทน(กรมชลพยายามใช้เครื่องสูบดึงน้ำมาตามคลองรังสิตองค์รักษ์ แต่มันดึงน้ำ ขึ้นที่สูงมันยาก และปริมาณน้ำมันมหาศาล) ....
ลอง พิมพ์ อ.วังน้อยในกูลเกิ้ล ดูครับ แล้วกดดู - ดาวเทียม ดึงซูม ออกมาที่20 กม. ท่านจะเห็นพื้นที่ต่ำ เป็นทางน้ำ อ้อมกทม...
.. เห็นได้ชัด ประชาธิปไตย เสียงส่วนใหญ่ ไม่ได้ทำให้ได้มา ซึ่งผู้นำที่เก่ง และ ฉลาด ..
ที่นำความอยู่ดี กินดี มาให้ประชาชนได้ แล้วคุณยังจะอ้างประชาธิปไตยเสียงส่วนใหญ่ทำไม
#36
Posted 5 November 2011 - 09:42
เมื่อวาน ฟังอ.ปราโมทย์ สัมภาษณ์ ทางช่องTPBS แกว่า ถ้าจะผันน้ำมาทาง ตะวันตก ต้องเริ่มที่ อ.วังน้อย จว.พระนครศรีอยุธยา ให้มาลงที่ ทุ่งรังสิตเหนือ ...
แต่ปัญหาคือ ตอนแรกที่น้ำมา ไม่เปิด ปตร.แถวนั้น ตั้งแต่ที่แรก เมื่อน้ำเลยเข้ามา ถึงประทุม น้ำก็เทไปทางตะวันตกแทน(กรมชลพยายามใช้เครื่องสูบดึงน้ำมาตามคลองรังสิตองค์รักษ์ แต่มันดึงน้ำ ขึ้นที่สูงมันยาก และปริมาณน้ำมันมหาศาล) ....
ลอง พิมพ์ อ.วังน้อยในกูลเกิ้ล ดูครับ แล้วกดดู - ดาวเทียม ดึงซูม ออกมาที่20 กม. ท่านจะเห็นพื้นที่ต่ำ เป็นทางน้ำ อ้อมกทม...
และนี่ที่ผมเข้าใจว่า ที่รมต.ธีร พูดว่าสะใจแล้วใช่ไม๊ .. คือข้อความนี้
ไม่เปิด ปตร.แถวนั้น ตั้งแต่ที่แรก เมื่อน้ำเลยเข้ามา ถึงประทุม น้ำก็เทไปทางตะวันตกแทน(กรมชลพยายามใช้เครื่องสูบดึงน้ำมาตามคลองรังสิตองค์รักษ์ แต่มันดึงน้ำ ขึ้นที่สูงมันยาก และปริมาณน้ำมันมหาศาล) ....
ให้สังเกตุนะครับ การที่พังพนังที่รังสิต ประตูน้ำคลองสามวา รวมถึงการไม่เปิด ปตร.
ทั้งหมดอยู่นอกเขตอำนาจของผู้ว่า กทม.ทั้งสิ้น .. ซึ่งทำให้ กทม.เหมือนโดนล้อมด้วยน้ำ โดยทำอะไรไม่ได้ ..
จะกั้นไม่ให้น้ำเข้า หรือเบี่ยงเบนน้ำ ก็ทำไม่ได้เต็มที่ เพราะไม่เปิด ปตร.ไปทางรังสิตเหนือ แต่พอกั้นพนังให้สูงขึ้นอีกด้านของรังสิต เพื่อให้น้ำทางรังสิต-องครักษ์สูงขึ้น เพื่อจะง่ายต่อการสูบน้ำ พวกมันก็พังคันกั้นน้ำอีกทางที่ต่ำกว่า น้ำก็เลยทะลักเข้าทางดอนเมือง ...
ส่วนทางทิศตะวันตก เครื่องมือเครื่องไม้ซึ่งน้อยกว่าอยู่แล้ว และเมื่อพยายามระบายออกไป ก็ต้องรอให้หน่วยงานรัฐฯคือกรมชลฯ เร่งระบายน้ำออกทะเลให้เร็วที่สุด แต่ก็อย่างที่เห็นพวกนี้พึ่งมาเริ่มทำจริงจังวันสองวันนี้เอง .. ฝั่งธนฯถึงกระอักอยู่ขณะนี้ เพราะโดนโอบด้วยมวลน้ำทุกด้าน .. และทุกด้านก็พร้อมเข้าตีตลอด ..
ผมดูแล้วเหมือน มีความจงใจให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองจมน้ำ ...!!!!
#37
Posted 5 November 2011 - 10:00
ลองดูคลิปของอาจารย์ลาดกระบังท่านนี้ดูครับ ผมไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกหรือเปล่า เหมือนว่ามันจะหายนะแล้วล่ะครับ
เค้าพูดประมาณว่า ต่อให้ลงทางตะวันออกมันจะทะลักเข้าคลองต่างๆ เข้าสู่ตัวเมืองชั้นใน ในที่สุด สถานการณ์ตอนนี้
เหมือนมันผิดแผนน่ะครับ น้ำไปทางตะวันออกน้อยกว่าที่ต้องการ เลยล้นเข้ามาตามพื้นที่ที่เราไม่ต้องการ
หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.
#38
Posted 5 November 2011 - 10:06
คลองรังสิตช่วงด้านบน จะติดต่อ กับพื้นที่จว.พระนครศรีอยุธยา ...
มีถนนพหลโยธิน ขวางทางน้ำอยู่ ..แนวถนนเฉียงขึ้นไปทางซ้าย ..
จากภาพที่2 ดูที่ตอนเหนือของจว.ปทุมธานี กับนครนายก ครับ ...
แปลกไหม เขตอ.หนองเสือ น้ำน้อยจัง ...
.. เห็นได้ชัด ประชาธิปไตย เสียงส่วนใหญ่ ไม่ได้ทำให้ได้มา ซึ่งผู้นำที่เก่ง และ ฉลาด ..
ที่นำความอยู่ดี กินดี มาให้ประชาชนได้ แล้วคุณยังจะอ้างประชาธิปไตยเสียงส่วนใหญ่ทำไม
#39
Posted 5 November 2011 - 10:23
พอลงมาแล้วจะต้องออกไปทางฝั่งตะวันออกที่ข่าวว่าประตูต่างๆ ไม่ยอมเปิด ก็ไปไม่ได้อีก
ใครว่าเขาบริหารจัดการน้ำไม่เป็นไม่ใช่แล้วแหละ เขาบริหารจัดการเป็นอย่างชาญฉลาด
โดยมีจุดประสงค์ตลบน้ำตั้งแต่แรก เพื่อให้น้ำเข้ากรุงเทพฯ เป็นการจำเพาะเลยนะเนี่ย
ระหว่างน้ำไหลลงมาเรื่อยๆ ใครแนะนะให้ทำอะไรต่อมิอะไร เลยทำมันมั่วๆ ไปเสียทุกอย่าง
เพื่อให้มันไม่เกิดผลในการหยุดน้ำได้จริง และท้ายที่สุดก็สมใจ น้ำจะได้ท่วมใหญ่กรุงเทพฯ จริงๆ
ประเทศไทยพังพินาศ ตระกูลพวกมันก็ไม่ได้เดือดร้อน บินไปนอน กิน อยู่ แดกสบายเมืองนอก
ทิ้งความย่อยยับไว้ให้แผ่นดินนี้ สมใจพี่ชายมัน ที่อยากเห็นประเทศบ้านเกิดล่มสลาย
เพียงเพราะคนส่วนใหญ่ของประเทศจริงๆ เขาไม่ยอมรับให้คนชั่วอย่างมันเป็นผู้บริหารประเทศ
#40
Posted 5 November 2011 - 10:31
#41
Posted 5 November 2011 - 10:41
จากรูป นะครับ ...
คลองรังสิตช่วงด้านบน จะติดต่อ กับพื้นที่จว.พระนครศรีอยุธยา ...
มีถนนพหลโยธิน ขวางทางน้ำอยู่ ..แนวถนนเฉียงขึ้นไปทางซ้าย ..
จากภาพที่2 ดูที่ตอนเหนือของจว.ปทุมธานี กับนครนายก ครับ ...
แปลกไหม เขตอ.หนองเสือ น้ำน้อยจัง ...
เห็นภาพทั้งสองมานานแล้ว แต่พึ่งมา ซตพ. เอาตอนนี้แหละ โง่เหมือนนางยกฯมานาน ...
อืม น้ำตอนแรกแทนที่จะออกตะวันตกไปทางสุพรรณฯ ก็ไม่ไป เลยไหลลงมาเรื่อยๆ
พอลงมาแล้วจะต้องออกไปทางฝั่งตะวันออกที่ข่าวว่าประตูต่างๆ ไม่ยอมเปิด ก็ไปไม่ได้อีก
ใครว่าเขาบริหารจัดการน้ำไม่เป็นไม่ใช่แล้วแหละ เขาบริหารจัดการเป็นอย่างชาญฉลาด
โดยมีจุดประสงค์ตลบน้ำตั้งแต่แรก เพื่อให้น้ำเข้ากรุงเทพฯ เป็นการจำเพาะเลยนะเนี่ย
ระหว่างน้ำไหลลงมาเรื่อยๆ ใครแนะนะให้ทำอะไรต่อมิอะไร เลยทำมันมั่วๆ ไปเสียทุกอย่าง
เพื่อให้มันไม่เกิดผลในการหยุดน้ำได้จริง และท้ายที่สุดก็สมใจ น้ำจะได้ท่วมใหญ่กรุงเทพฯ จริงๆ
ประเทศไทยพังพินาศ ตระกูลพวกมันก็ไม่ได้เดือดร้อน บินไปนอน กิน อยู่ แดกสบายเมืองนอก
ทิ้งความย่อยยับไว้ให้แผ่นดินนี้ สมใจพี่ชายมัน ที่อยากเห็นประเทศบ้านเกิดล่มสลาย
เพียงเพราะคนส่วนใหญ่ของประเทศจริงๆ เขาไม่ยอมรับให้คนชั่วอย่างมันเป็นผู้บริหารประเทศ
ใจไม่อยากกล่าวหา แต่คนเก่งๆและชำนาญในกรมชลฯ มีอยู่เยอะ น่าจะมองออกตั้งแต่ต้น ...
ที่ไม่ทำน่าจะมีการสั่งการวางแผนจริง และระดับ รมต.เดี่ยวๆผมก็ไม่เชื่อว่าจะกล้าทำ น่าจะเป็นระดับนโยบายเลย ...
#42
Posted 5 November 2011 - 10:42
มันเตรียมการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่มันไม่คิดว่าผลมันจะบานปลายไปถึงขนาดนี้
#43
Posted 5 November 2011 - 10:52
ผมเห็นมวลน้ำแล้วมีข้อสันนิษฐานใหม่ คือน้ำท่วมฝั่งตะวันออกและ
ตะวันตกครั้งนี้ ไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะที่ผมเห็นจากมวลน้ำนั้น มันแผ่
กว้างกินพื้นที่ทั้งสองฝั่ง และไม่ได้อยู่ในแม่น้ำลำคลอง เราไม่น่าจะ
บริหารจัดการน้ำส่วนนี้ได้นะครับ
หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.
#44
Posted 5 November 2011 - 10:58
ที่รองผูว่า กทม.พูดไว้ ไม่ผิด เลยครับ ....
1.กันน้ำไม่ให้เข้าทุ่งสุพรรณ ทุ่งสุพรรณน้ำเลยแค่ปริ่มๆ แต่ อยุธยารับไปเต็มๆ ......
2.ไม่เอาน้ำเข้าทุ่งรังสิต แต่นวนคร ก็รับน้ำแทน .... ลงมา กทม. ทุกอย่าง ก็สายไปเสียแล้ว ....
.. เห็นได้ชัด ประชาธิปไตย เสียงส่วนใหญ่ ไม่ได้ทำให้ได้มา ซึ่งผู้นำที่เก่ง และ ฉลาด ..
ที่นำความอยู่ดี กินดี มาให้ประชาชนได้ แล้วคุณยังจะอ้างประชาธิปไตยเสียงส่วนใหญ่ทำไม
#45
Posted 5 November 2011 - 11:26
แต่ผมลองเช็คระดับความสูงแล้วครับ ถ้าแถวอยุธยาลงมาไม่ต่างกันมาก ดังนั้น
ถ้าน้ำล้นเจ้าพระยาทั้งสองฝั่ง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่น้ำจะไหลจากเหนือลงใต้
ทั้งสองฝั่งแม่น้ำพร้อมๆกัน ฝั่งตะวันตกดูแล้วการป้องกันสู้ฝั่งตะวันออกไม่ได้เลย
เละอย่างที่เห็น ส่วนฝั่งตะวันออกนั้น ค่อนข้างมีระบบกว่า คือเข้ามาที่คลองระพี
พัฒน์ก่อน แล้วเข้ารังสิต ลงมาที่หกวาสายล่าง ตอนนี้น้ำมาเอ่อแถวคลองหกวา
สายล่างนานแล้วครับ ที่ผมงงคือทำไมน้ำตรงนี้มันไม่ไหลไปทางตะวันออกเสียที
ตอนนี้ก็มีหลายคำอธิบาย ที่หลายคนพูดถึงตอนนี้คือการเปิดประตูน้ำคลอง แปด
เก้า และสิบ แต่ผมก็งง เมื่อวานดูทีวี เหมือนแถวนั้นยังแห้งอยู่เลยครับ แนวคลอง
ยังเห็นอยู่ชัดเลย ตกลงแล้วน้ำส่วนใหญ่ตอนนี้ อยู่ที่ไหนกันแน่ ทั้งที่แนวการไหล
มันน่าจะไปทางตะวันออก น้ำมหาศาลขนาดนี้ ลำพังประตูน้ำสามารถกั้นได้ด้วย
หรือ โอย งง
หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.
#46
Posted 5 November 2011 - 11:52
ตอนนี้บ้านผมแยกไม่ออกละ
อันไหนถนน อันไหนคลอง
ข้าจักล้มล้าง ระบอบทักษิณ ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย
#47
Posted 5 November 2011 - 13:04
ตอนนี้ก็มีหลายคำอธิบาย ที่หลายคนพูดถึงตอนนี้คือการเปิดประตูน้ำคลอง แปด
เก้า และสิบ แต่ผมก็งง เมื่อวานดูทีวี เหมือนแถวนั้นยังแห้งอยู่เลยครับ แนวคลอง
ยังเห็นอยู่ชัดเลย ตกลงแล้วน้ำส่วนใหญ่ตอนนี้ อยู่ที่ไหนกันแน่ ทั้งที่แนวการไหล
มันน่าจะไปทางตะวันออก น้ำมหาศาลขนาดนี้ ลำพังประตูน้ำสามารถกั้นได้ด้วย
หรือ โอย งง
ที่ผมเข้าใจนะครับ ถ้าผิดขออภัยนะครับ และช่วยแก้ให้ถูกด้วยนะครับ ..
คือตามหลักการแล้ว เค้าต้องการใช้คลอง13 เป็นเครื่องมือในการผันน้ำ เข้าทางทิศตะวันออก แต่ด้วยมีระดับสูงกว่าคลอง12 - คลอง1 จึงต้องมีการบริหารจัดการโดย เบี่ยงเบนดึงน้ำ ตั้งแต่อยุธยาผ่านทางคลองรพีพัฒน์ตรงเข้าคลอง13 ผ่านประตูน้ำอะไรผมจำไม่ได้ ที่กรมชลฯไม่ยอมเปิด ...
ซึ่งเมื่อผ่านลงมาแล้ว ก็ใช้กลไกประตูน้ำ แนวพนังพระราชดำริ พนังกระสอบทรายที่ทำไว้ที่คลองรังสิต ยันไว้จากคลอง5 ถึง คลอง13 เพื่อให้ระดับพอเพียงที่จะไหลลงคลอง13 และตามเครือข่ายคลองย่อยๆ โดยธรรมชาติรวมถึงสูบน้ำช่วยด้วย .. เพื่อส่งลงสู่แม่น้ำบางปะกง และบางส่วนลงสมุทรปราการ
ถ้าดูรูปที่คุณเด็กนักเรียนตลอดชีพนำมาลงประกอบ คลอง13 จะอยู่ด้านขวาที่วิ่งยาวจากสระบุรีนั่นแหละครับ
ทางตะวันตก ถ้าผันน้ำตั้งแต่ต้น ผ่านทางสุพรรณบุรีแบ่งรับน้ำบ้าง แล้วผันลงแม่น้ำท่าจีนแต่เนิ่นๆ อยุธยา ปทุมธานี กรุงเทพฯ ก็ไม่น่าจะสาหัสมากแบบนี้ .. และฝั่งธนฯ ก็จะไม่โดนข้าศึก(น้ำ) โอบล้อมคอยตีเมืองเหมือนขณะนี้ ...
จริงๆถ้าทำตั้งแต่ต้น ผมยังคิดว่า นิคมต่างๆจะไม่ล่มถึง 7 นิคม และกรุงเทพฯอาจจะท่วมด้วยน้ำเอ่อล้นเท่านั้น แต่ไม่ใช่พื้นที่ภัยพิบัติ ทางฝั่งกรุงเทพฯตะวันตก ก็ไม่น่าจะเดือดร้อนขนาดนี้ .. ผมเคยบอกว่าการบริหารจัดการน้ำผิดแต่ไม่มาก แต่การจัดการน้ำท่วมนี่สิ ผิดพลาดมหันต์ ...
ปล.. เมื่อวานมีประโยคหนึ่งหลุดมาจากวงสนทนา ...
"ท่านผู้ว่ากทม.จัดการระบายน้ำกรุงเทพฯ เก่งนักใช่ไม๊ ถ้างั้นช่วยบริหารจัดการให้ด้วยนะ"
#48
Posted 5 November 2011 - 13:31
http://www.komchadlu...8%A2.54%29.html
ลองดูคลิปของอาจารย์ลาดกระบังท่านนี้ดูครับ ผมไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกหรือเปล่า เหมือนว่ามันจะหายนะแล้วล่ะครับ
เค้าพูดประมาณว่า ต่อให้ลงทางตะวันออกมันจะทะลักเข้าคลองต่างๆ เข้าสู่ตัวเมืองชั้นใน ในที่สุด สถานการณ์ตอนนี้
เหมือนมันผิดแผนน่ะครับ น้ำไปทางตะวันออกน้อยกว่าที่ต้องการ เลยล้นเข้ามาตามพื้นที่ที่เราไม่ต้องการ
คมสันแห่งห้วยน้ำริน มั่ว ไม่ได้เรื่องหรอก nation ดันขึ้นสูงเกินไป วันก่อนบอกว่าสูบดันน้ำออกจากลาดกระบังโดยคลองประเวศไปพระโขนงลงเจ้าพระยาง่ายกว่าใกล้กว่าสูบออกบางประกง แกพูดเหมือนเด็กยืนเยี่ยวอยู่ลาดกระบัง หันไปด้านซ้ายเยี่ยวไปทางพระโขนงมันใกล้กว่า หากหันขวาเยี่ยวไปลงบางประกงมันไกลกว่านานากว่า โอยยย คมสันเอ๊ย ทำไมต้องสูบน้ำอัดน้ำจากลาดกระบัง ทำไมไม่ไปตั้งเครื่องสูบที่ปากคลองพระโขนง และอีกเครื่องไปตั้งสูบที่ปลายทางลงบางประกง มันจะใกล้ไกลกว่ากันที่ไหน ตั้งที่ไหนก็สูบที่นั่นแหละ ใครจะบ้าสูบจากลาดกระบังมาบางประกง ตอนนี้เข้าใจแล้วมั้ง เข้าใจว่าตัวเองยืนเยี่ยวใส่กางเกงที่ลาดกระบัง
ในขณะที่ตัวเองเห็นว่าต้องสูบน้ำออกจากลาดกระบังและสุวรรณภูมิ ดันทะลึ่งไปสนับสนันการปล่อยน้ำจากคลอง 13 ลงลำปลาทิว นั่นก็เป็นการปล่อยน้ำให้วิ่งเข้าลาดกระบังโดยตรง ถึงหลังตลาดลาดกระบังตรงเพ๊ะ แล้วมันก็จะโอบล้อมสุวรรณภูมิ แล้วจะสูบออกทางไหน แทนที่จะเบี่ยงทางน้ำออกจากหนองจอก ไปตามคลองแสนแสบไปบางน้ำเปรี้ยว และเริ่มแยกลงอีกสายหนึ่งไปออกสนามกอล์ฟสันติสุข ออกคลองหลวงแพ่ง และดันต่อไปอีกออกคลองเปร็ง
พอน้ำเริ่มเข้าถึงชานกรุงเทพฯ ก็ออกมาทักว่า นั่นไงน้ำมันไหลเข้าท่อ น้ำมันเข้ากรุงเทพจากท่อ ตกตื่นจนตาแหก ใครก็รู้ ถึงไม่รู้ทุกคนแต่วิศวกรก็ต้องรู้ แต่คมสันแห่งห้วยน้ำรินพึ่งมารู้ จะบ้าตาย หัดเข้ามาอ่านกระทู้ของ halfmoon แห่งห้วยเสรีไทยหน่อยสิครับ อย่าเที่ยวไปยืนเยี่ยวใส่กางเกงแล้วบอกชาวบ้านว่า น้ำมันไหลรินออกจากท่อแนวดิ่ง
#49
Posted 5 November 2011 - 14:32
เพราะว่าจุดจบรัฐบาลนี้อยู่ที่ทางตะวันออกก็เลยผันน้ำไปทางตะวันตกหมด สรุปคือมีการเมืองมาเกี่ยวอเมริกายังรู้เลย
หมายถึงนิคมใช่ไหมจ้ะ
ปล.กระทู้นี้ดีมากๆ
คนเราคิดต่างได้ แต่อย่าคิดชั่ว
ไม่ว่าจะมุมนี้หรือมุมไหน ถ้ามันเป็นเรื่องงี่เง่าไม่ขอเสียเวลามองว่ะ
#50
Posted 5 November 2011 - 14:43
เมื่อวาน ฟังอ.ปราโมทย์ สัมภาษณ์ ทางช่องTPBS แกว่า ถ้าจะผันน้ำมาทาง ตะวันออก(*แก้ไขครับเมื่อครู่เขียนผิด) ต้องเริ่มที่ อ.วังน้อย จว.พระนครศรีอยุธยา ให้มาลงที่ ทุ่งรังสิตเหนือ ...
แต่ปัญหาคือ ตอนแรกที่น้ำมา ไม่เปิด ปตร.แถวนั้น ตั้งแต่ที่แรก เมื่อน้ำเลยเข้ามา ถึงประทุม น้ำก็เทไปทางตะวันตกแทน(กรมชลพยายามใช้เครื่องสูบดึงน้ำมาตามคลองรังสิตองค์รักษ์ แต่มันดึงน้ำ ขึ้นที่สูงมันยาก และปริมาณน้ำมันมหาศาล) ....
ลอง พิมพ์ อ.วังน้อยในกูลเกิ้ล ดูครับ แล้วกดดู - ดาวเทียม ดึงซูม ออกมาที่20 กม. ท่านจะเห็นพื้นที่ต่ำ เป็นทางน้ำ อ้อมกทม...
อยากบอกว่าตัวเอง ก็คิดเหมือน อ. ปราโมทย์
เพราะสถานะการณ์น้ำปัจจุบันที่เห็นเป็นน้ำหลากใน บริเวณกว้าง ที่ สื่อต่างๆ แม้แต่ไอ้ย้วย พยายามสร้างวาทะกรรม เรื่อง น้ำไล่ทุ่ง
จริงๆ แล้วมันมีแค่บางส่วนที่เป็นน้ำไล่ทุ่ง แต่ส่วนใหญ่คือน้ำที่ถูกปล่อยจากเขื่อนต่างๆ ที่ได้เก็บสะสมไว้
ตลอดระยะการเดินทางของน้ำ ตั้งแต่ ต้นเจ้าพระยามา การผันน้ำ ในช่วงต่างๆ ไม่ได้สอดคล้องกับปริมาณน้ำ และไร้ประสิทธิภาพ
จึงทำให้ ปริมาณน้ำเกินกว่า ปริมาณความจุ ของแม่น้ำ และคลองต่างๆ จึงเกิดการ ล้นคันกั้น และไหลไปรวมกับ น้ำบนบก
จึงทำให้น้ำหลากมาในบริเวณกว้าง
ถ้า รบ. พยายามแก้ไขข้อผิดพลาดที่ผ่านมา ....
ช่วงที่ น้ำหลากดังกล่าว ได้เข้าท่วมนิคมต่างๆ มาเรื่อยๆ รบ. ควรที่จะเร่งระบายน้ำ ตามแนว คลองระพีพัฒน์ คลองรังสิต และคลองย่อยต่างๆ เพื่อรอรับน้ำก้อนใหม่ และเร่งระบายออก หลังแนวคันกั้นตามพระราชดำริ น้ำจะได้ไหลไปลง หนองงูเห่า และระบายตามสถานีสูบน้ำ ที่มีอยู่มากมาย ที่ปลายคลอง ออกอ่าวไทย
http://hydrology.rid...t_chaophaya.jpg
จากภาพจะเห็นแนวโครงการคลองด่าน ที่เป็น แกล้มลิงโดยธรรมชาติ ที่โดยปกติ ก็เป็นทางไหลของน้ำ ทุกปี ไม่ว่าจะน้ำมาก น้ำน้อย ไม่เคยมีปัญหา
http://www.gistda.or...t 14.23.54.png]
จากภาพนี้จะเห็น ระดับความสูงต่ำของ พื้นดิน
"ถ้า" .... รบ. เริ่มต้นที่จะฝันน้ำ เข้ามาทางฝั่งตะวันออกตั้งแต่ น้ำมาถึงวังน้อย อย่างที่ อ.ปราโมทย์ แนะนำ คือเริ่ม
ผันน้ำเข้าคลองระพีพัฒน์ >> คลองสาขาต่างๆ >> ออกมาทาง คลองหกวาสายล่าง >> คลองสิบสาม >> ออกมาทางคลองพระองค์เจ้าฯ >> คลองด่าน
น้ำก็จะสามารถนำเข้าแก้มลิง และส่งไล่ไปตามคลองต่างๆ เร่งระบาย ออกทาง สถานีสูบน้ำต่างๆ ใต้ สนามบินสุวรรณภูมิไปได้
แต่ถึงยังไง น้ำก็คงท่วม แต่คงไม่หนักหนา กินบริเวณกว้าง และยาวนานขนาดนี้
และถ้าจะมีการแย้งเรื่อง ประชาชน แถว คลองสามวา คลองแปด คลองเก้า คลองสิบ ก็จะยังคงเดือดร้อน
ก็คงมีบ้าง แต่อย่าลืมว่า ที่เดือดร้อน เพราะ น้ำมันขังอยู่เช่นนั้น เป็นเวลายาวนาน เกิดการเน่าเหม็น
ลองคิดมุมกลับกัน ถ้าน้ำมีการไหลตลอด และไม่มีการแช่ขัง ให้เน่าเหม็น และประชาชนจะผจญกับน้ำท่วม ในระยะเวลาที่สั้นกว่า ....ก็ถือว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด
ปล. ข้อมุลพวกนี้ คือความเข้าใจส่วนตัว ไม่ได้อิงหลักวิชาการอะไร เพราะไม่ใช่นักวิชาการ ถ้าผิดพลาดก็ขออภัย