53 replies to this topic

[wat]

อาจารย์คณะสังคม วิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บันทึกถ้อยคำของเขาที่กล่าวต่อนักศึกษาใหม่วานนี้ (20 มิย. 55) ด้วยเนื้อหาที่คนซึ่งไม่ใช่นักศึกษาก็น่าจะอ่านด้วย ประชาไทจึงขออนุญาตนำมาเผยแพร่ต่อ

ขอต้อนรับนักศึกษาใหม่ การเปิดภาคเรียนที่ธรรมศาสตร์ปี 2555 และแสดงความยินดีกับผู้สำเร็จการศึกษา (ไม่ว่าจะอยากรับปริญญาหรือไม่ก็ตาม) ด้วยบางประโยคที่ผมบรรยายให้นักศึกษาปริญญาตรี ปี 1 ณ โครงการหนึ่งฟังที่ท่าพระจันทร์วันนี้ "ผมต่อต้านการใส่ชุดนักศึกษา ทำไมจะต้องเอาโลโก้มหาวิทยาลัยมาแปะติดบนเสื้อผ้า โลโก้พวกนี้ติดไว้ตามตึก ตามรั้วมหาวิทยาลัยก็พอแล้ว ส่วนความแตกต่างระหว่างโลโก้ธรรมศาสตร์กับแบรนด์ธรรมศาสตร์อยู่ตรงไหน พวกคุณต้องค้นหา...
"มหาวิทยาลัยในโลกนี้ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นโรงเรียนฝึกวิชาชีพ แม้ในเริ่มต้นมหาวิทยาลัยไทยจะเป็นเยี่ยงนั้น และด้วยความที่มันเกิดมาเพื่อเป็นโรงเรียนฝึกอาชีพนั่นแหละ มันถึงยังบังคับให้นักศึกษาใส่ชุดนักศึกษามาจนทุกวันนี้... "พวกคุณไม่ต้องมาเรียนมหาวิทยาลัยเพียงเพื่อจะไปเสิร์ฟอาหารบนเครื่องบิน หากใครหน้าตาดีหน่อย พอเรียนจบก็อาจจะได้รับจ้างไปนั่งนับเงินหน้าเคาท์เตอร์ธนาคาร แต่อาชีพพวกนั้นไม่ต้องจบมหาวิทยาลัยก็ได้... "หากพวกคุณมาเรียนมหาวิทยาลัย แล้วยังคิดอยู่ว่า พุทธศาสนาสอนทุกอย่างไว้หมดแล้ว ก็จงลาออกไปบวชซะ เพราะมหาวิทยาลัยเกิดขึ้นมาเพื่อเป็นปฏิปักษ์กับศาสนา เพื่อปลดปล่อยคนจากศาสนา...
"นักศึกษาโครงการนี้ต้องมี inclusive sensibility คือเซนซิทีฟกับความแตกต่างอย่างเปิดกว้าง ยอมรับ ไม่ใช่เซนซิทีฟแบบดูถูก เหยียดหยาม น่าอายที่ นศ. บางคนนั่งหัวเราะเยาะอาจารย์ต่างชาติที่พยายามพูดภาษาไทย และหัวเราะเยาะกับเสียงภาษาต่างชาติที่พวกเขาฟังแล้วแปลกหู (ในระหว่างที่อาจารย์เหล่านั้นเพียรพยายามแนะนำภาษาตนเองด้วยภาษาไทย)... "ระหว่างที่ผมอยู่อเมริกา 5-6 ปี อยู่เวียดนามร่วม 3 ปี ไม่เคยมีใครหัวเราะเยาะสำเนียงเพี้ยนๆ แปร่งหูของผม ประเทศไทยครอบงำพวกคุณกระทั่งไม่เพียงใจแคบแต่ยังเยาะเย้ยความแตกต่างอย่าง สนุกสนานได้ถึงเพียงนี้ แต่ประเทศต่างๆ ในโลกนี้เขาสอนให้ยอมรับความแปลกแปร่งโดยไม่ต้องสงสัย... "อยู่ธรรมศาสตร์ คุณเถียงกับอธิการบดีอย่างมีเหตุมีผลได้ ไม่เหมือนแบบที่เพื่อนอาจารย์มหาวิทยาลัยใหญ่แห่งหนึ่งเล่าให้ผมฟังว่า เขาตกใจเมื่อเข้าไปในห้องทำงานอธิการฯ แล้วพบว่า มีจอมอร์นิเตอร์กำลังดูแม้กระทั่งห้องเรียนในมหาวิทยาลัย ไม่รู้มหาวิทยาลัยนั้นจ้างอธิการฯ มาเป็นยาม หรือจ้างยามมาเป็นอธิการฯ... "จงเรียนรู้เพื่อการศึกษา (education) ไม่ใช่เรียนตามใบบอกทาง (instruction) การศึกษาไม่ใช่คู่มือเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ต้องเรียนให้คิดเป็น... "แล้วเพลาๆ positive thought (การคิดบวก) ไว้บ้าง เรียนมหาวิทยาลัยต้องมี critical mind (คิดวิพากษ์)..."ขอให้พวกคุณได้เป็น "มนุษย์สมัยใหม่" โดยภาคภูมิ"

ที่มา: http://prachatai.com...l/2012/06/41160

[wat]

คนเป็นอาจารย์ยังแยกแยะการสั่งสอนความดี ความชั่วตามแบบแผนแต่ละศาสนาไม่ถูก ตัวเองยังไม่รู้บาปบุญคุณโทษ, ชั่วดี...

น่าเวทนาแทนลูกศิษย์จริงๆ... อนาคตชาติ น่าอนาถใจ...สมกับที่เรียก มหา' ลัย (ความฉิบหายครั้งมโหฬาร) ศูนย์รวมล้มล้างแม่มทุกสถาบัน...

[ม่านน้ำ]

อืมมม เข้าขั้นแล้ว พุทธทำนายข้อ ๑๓

พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงฝันว่าศิลาแท่งทึบขนาดเรือน ลอยน้ำได้เหมือนเรือ

ทรงทำนายว่า ถ้อยคำของคนที่ควรได้รับการเชื่อถือ ซึ่งหนักแน่น มีน้ำหนักเปรียบประดุจแท่งศิลา
กลับไม่ได้รับความเชื่อถือ หรือกลายเป็นถ้อยคำที่ไม่มีน้ำหนักเหมือนเรือที่ลอยได้
ข้อนี้ตรงกันข้ามกับข้อที่แล้ว คือ คนหันไปเชื่อคำพูดคนที่ไม่ควรเชื่อ
เหมือนสิ่งที่ควรลอยกลับจม สิ่งที่ควรจมกลับลอย

[XSPC]

คิดได้แต่ยังเด็ก ยอดเยี่ยมๆ

[จีรนุช]

ตกลงธรรมศาตร์เขาเลือกคนที่จะมาคุยกับน้องไหม่ยังไง ให้เ สรีภาพ กับคนพูดเหลือเกิน

นึกภาพออกเลยว่าถ้าให้สมศักดิ์เจียมมาคุยกับเด็กไหม่จะออกมาเเนวไหน

[HiddenMan]

สอนแต่จะให้คิดนอกกรอบ แต่ไม่สอนให้นักศึกษาเป็นคนดี คิดดี ทำดี แล้วผมบอกได้เลยว่า...

ชุดนักศึกษาหญิง ถือว่าเป็นยูนิฟอร์มที่น่าดูที่สุดเลยนะ

[paj044]

ธรรมศาสตร์ไม่เข้มงวดเรื่องแต่งแบบฟอร์มไม่ใช่หรือ
วันเรียนปกติ ผู้หญิงนุ่งกางเกงไปยังได้เลย ยกเว้นแค่ตอนสอบ
หรือว่าเปลี่ยนระเบียบใหม่แล้ว

การรู้จักคิดนอกกรอบเป็นสิ่งดี รวมถึงเรื่องเคารพคนที่เห็นต่าง
แต่จะให้ดี ก็ต้องบวกกาละเทศะเข้าไปด้วย
อิสระในความคิด แต่แสดงออกให้ถูกกาละเทศะ
อย่างที่อาจารย์ นักศึกษาของธรรมศาสตร์ บางคนทำ
ไม่ได้สะท้อนว่าเคารพผู้อื่นเลย แต่เป็นการแสดงถึงความจองหองอวดดี
คิดว่าตัวเองดีกว่า เหนือกว่าผู้อื่นต่างหาก

[MIRO]

ยุกติ มุกดาวิจิตร
แกนนำ ครก.112

เพราะมหาวิทยาลัยเกิดขึ้นมาเพื่อเป็นปฏิปักษ์กับศาสนา เพื่อปลดปล่อยคนจากศาสนา...
...."ขอให้พวกคุณได้เป็น "มนุษย์สมัยใหม่" โดยภาคภูมิ"

ธรรมศาสตร์ สอนให้เป็นมนุษย์สมัยใหม่ โดยการเป็นปฎิปักษ์กับศาสนา ปลดปล่อยผู้คนจากศาสนา
ไม่มีกรอบ ไม่มีความดี ไม่มีความชั่ว มนุษย์สมัยใหม่ ..ในแบบ ยุกติ ??

ช่วงนี้
สิ่งมีชีวิตจำพวกไร้ศาสนา ไร้ความดี ไร้ความชั่ว บาป บุญ คุณ โทษในใจ
มันเพิ่มดีกรีความขยันจริงๆ

Edited by MIRO, 21 June 2012 - 16:25.

[MOD X]

ดีเนอะ เรามีมหาวิทยาลัยที่จะสอนให้คนกลับไปเป็นมนุษย์ยุคหินเหมือนเดิม

[อู๋ ฮานามิ]

ยุกติ มุกดาวิจิตร
แกนนำ ครก.112

เพราะมหาวิทยาลัยเกิดขึ้นมาเพื่อเป็นปฏิปักษ์กับศาสนา เพื่อปลดปล่อยคนจากศาสนา...
...."ขอให้พวกคุณได้เป็น "มนุษย์สมัยใหม่" โดยภาคภูมิ"

ธรรมศาสตร์ สอนให้เป็นมนุษย์สมัยใหม่ โดยการเป็นปฎิปักษ์กับศาสนา ปลดปล่อยผู้คนจากศาสนา
ไม่มีกรอบ ไม่มีความดี ไม่มีความชั่ว มนุษย์สมัยใหม่ ..ในแบบ ยุกติ ??

ช่วงนี้
สิ่งมีชีวิตจำพวกไร้ศาสนา ไร้ความดี ไร้ความชั่วในใจ
มันเพิ่มดีกรีความขยันจริงๆ

ถ้าปฏิเสธศาสนา แนะนำให้เปลี่ยนตรามหาวิทยาลัยแล้วกัน เพราะมีรูปธรรมจักร

Edited by อู๋ ฮานามิ, 21 June 2012 - 15:57.

[phoosana]

มนุษย์สมัยใหม่ต้องปลดปล่อยผู้คนออกจากศาสนา
งั้นช่วยเอาตราธรรมจักร ออกจากเครื่องหมายมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วยครับ

Edited by phoosana, 21 June 2012 - 21:23.

[อู๋ ฮานามิ]

ลืมบอกไปว่า แนวคิดการปฏิเสธศาสนา เป็นของพวกคอมมิวนิสต์

Edited by อู๋ ฮานามิ, 21 June 2012 - 15:59.

[ter162525]

สมเพชพวกมัน มีลูก บอกลูกมีหลานบอก หลานระวัง ไปเจอพวกเ-ี้ยนี้ เพราะมันเปลี่ยน คนเป็นสัตว์นรกได้ ถ้าอยากเป็นสัตว์นรกก็เอาเลย

[kingkong059]

555555 ทำไมทำมะสาด ไม่ห้ามชุดนักศึกษาไปเลย ใครอยากใส่ไรใส่ไปเลย เอาแบบประชาทิบไตยกันเต็มที่ โชกันให้เต็มที่เลย กล้าเปล่าละ อย่าดีแต่เหาอยู่เลย อายใจแทนมหาลัยนี้จริงๆๆ พวกปากว่าตาขยิบ วันก่อนก็ขอชื่อรุ่นพี่รุ่นน้องตอนสอบนายอำเภอ เอาเวลาไปสอนเด็กให้เป็นคนดีก่อนดีไหม

Edited by kingkong059, 21 June 2012 - 16:10.

[ปังตอ]

รู้สึกชมรมพุทธใน มธ. ก้อดูจะแข็งแกร่งอยู่น่ะ.....จากที่เคยได้คุยกับน้องๆๆที่ทำชมรม

และที่เห็นทุกเดือนก้อคือ..ตักบาตร ฟังธรรม นั่งสมาธิ ((เคยไปร่วมบ่อย))

แล้วน้องๆแต่ล่ะคนก้อมีความเข้าใจในธรรมอย่างที่ผมยังต้องทึ่ง....

แล้วแบบนี้...จะให้เป็นปฏิปักษ์กับศาสนาเหรอครับ...

อยากบอกว่า ..ความคิดคุณ "ชั่ว" ได้ถ้วยจริงๆ

[นอนมา]

อิสระนี่มีก็ดีนะ เพราะผมเชื่อว่าทุกๆคนก็อยากจะมีมัน แต่มันจะรู้สึกดีก็แค่ช่วงแรกเท่านั้น

เพราะเมื่อคุ้นเคย หรือ มีอิสระมากเกินไป มันจะแคว้ง แล้วก็หาหลักยึดอะไรไม่ได้เลย

ยกตัวอย่าง เวลากินเหล้า แก้วแรกๆก็สนุกดี แต่ถ้ามันมากไปล่ะ

อาจารย์พวกนี้ผมว่ามันเมาวิชาการ คิดว่าสิ่งที่กูพูดถูกหมด

Edited by นอนมา, 21 June 2012 - 16:19.

[Siren]

การเป็นมนุษย์สมัยใหม่ มันน่าภาคภูมิใจตรงไหน -
และอะไรเป็นตัวชี้ว่า รากเหง้า บรรพบุรุษของเรา ไร้คุณค่า ไม่น่าภาคภูมิ

การเป็นคนรุ่นใหม่ จำเป็นด้วยหรือต้องปฏิเสธทุกอย่างที่มีอยู่ - ใครจะรับประกันได้ว่า ของที่สร้างขึ้นใหม่จะไม่เลวร้ายกว่าของที่มีอยู่เดิม

[คลำปม]

เป็นถึงอาจารย์คณะสังคมแต่ใช้ถ้อยคำได้ไม่เข้าท่าเลย

"มหาวิทยาลัยในโลกนี้ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นโรงเรียนฝึกวิชาชีพ..
ขอแก้เป็น "มหาวิทยาลัยในโลกนี้ใช่เพียงโรงเรียนฝึกวิชาชีพ..

เหตุผล : ถ้าจะบอกว่ามหาวิทยาลัยไม่ได้เป็นโรงเรียนฝึกวิชาชีพจะแยกคณะไปทำไม?
ทำไม่ต้องมี แพทย์ บัญชี นิติ วิศว ทำไมต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพด้วยล่ะ?

เริ่มเกริ่นก็ผิดแล้ว เมื่ออนุมานเอาเองอย่างผิดๆที่เหลือก็เละ

แม้ในเริ่มต้นมหาวิทยาลัยไทยจะเป็นเยี่ยงนั้น - ที่ไหนก็เป็น

และด้วยความที่มันเกิดมาเพื่อเป็นโรงเรียนฝึกอาชีพนั่นแหละ มันถึงยังบังคับให้นักศึกษาใส่ชุดนักศึกษามาจนทุกวันนี้...

- คนละเรื่องแล้วเรื่องฝึกอาชีพนั่นเรื่องนึง เรื่องชุดนักศึกษามันอีกเรื่องนึง
การใส่ชุดไม่ได้แปลว่าเป็นการฝึกอาชีพ
ทำไมผู้พิพากษาต้องใส่ชุดนั่งบัลลังก์ล่ะ ทำไมนักบินต้องใส่ฟอร์ม
ทำตำรวจต้องใส่เครื่องแบบ?

แปลว่าคนเหล่านี้กำลังฝึกอาชีพอยู่กระนั้นหรือ?

ถ้าอาจารย์ต่อต้านการใส่เครื่องแบบ วันรับปริญญาจะให้นักศึกษาไปเช่าหรือตัดครุยให้เสียเงินเสียทองทำไม
ก็ใส่กันแค่วันเดียว มีประโยชน์อะไรตอบหน่อยซิ

"พวกคุณไม่ต้องมาเรียนมหาวิทยาลัยเพียงเพื่อจะไปเสิร์ฟอาหารบนเครื่องบิน

นึกว่าคมตายล่ะ ทื่อมะลื่อไม่เป็นแก่นสาร
ที่เขาไปเสิร์ฟอาหารบนเครื่องน่ะก็เพราะเขาทำเพื่อเงิน เพื่อค่าเปอร์เดียมกัน
คนอยากเป็นแอร์หรือเพอร์เซอร์โดยที่จบปริญญาตรีด้วยมันไม่ผิดกฎหมายเสียหน่อย

อาชีพพวกนี้มีอายุงาน การมีความรู้ติดตัวไว้เป็นสิ่งสำคัญนะ

หากใครหน้าตาดีหน่อย พอเรียนจบก็อาจจะได้รับจ้างไปนั่งนับเงินหน้าเคาท์เตอร์ธนาคาร

โห.. จบธรรมศาสตร์ หน้าตาดีด้วยทำได้แค่ไปนั่งหน้าเคาท์เตอร์เหรอ? กรรม!

แต่อาชีพพวกนั้นไม่ต้องจบมหาวิทยาลัยก็ได้...

ใช่ แต่ถ้าไม่จบมหาวิทยาลัยได้เงินเดือนน้อยกว่า
เหตุผลหลักที่คนส่วนใหญ่เรียนไง ถูกต้องหรือไม่ ไม่มีใครใส่ใจสักกี่คน
เพราะความเป็นจริงมันเป็นเช่นนั้น

จบจุฬาไปทำงานแบงค์ได้มากกว่าจบจากที่อื่น 2,000 บาท
ไม่มีธนาคารไหนบอก แต่ความจริงมันเป็นงั้น

"หากพวกคุณมาเรียนมหาวิทยาลัย แล้วยังคิดอยู่ว่า พุทธศาสนาสอนทุกอย่างไว้หมดแล้ว ก็จงลาออกไปบวชซะ

อาจารย์รู้จักแยกแยะปัญญาของทางโลกและทางธรรมบ้างนะ

เพราะมหาวิทยาลัยเกิดขึ้นมาเพื่อเป็นปฏิปักษ์กับศาสนา เพื่อปลดปล่อยคนจากศาสนา...

แปลว่าคนเป็นครูบาอาจารย์ที่มีความรู้ต้องไม่มีศาสนาใช่ไหมไอ้คนไม่มีศาสนา 55

ไอ้หมอนี่เพี๊ยนได้ใจจริงๆ

สงสารคนที่ไปเรียนกับหมอนี่ชะมัด

Edited by คลำปม, 21 June 2012 - 16:26.

[nunoi]

สรุปตอนนี้เราจะกลับไปสู่ยุคหินใช่หรือเปล่า

มีอิสระเสรีเต็มที่ ทำอะไรก็ได้ ตามใจเลย

ไม่ต้องมีการนับถืออะไรทั้งสิน

ศาสนงศาสนาไม่ต้องมี

ผมว่าแบบนี้ก็ดีนะ จะได้เหมือนสังคมของสิ่งมีชีวิตอื่นๆ

ใครแข็งแรงก็อยู่รอดไป

ใครอ่อนแอก็ตายไป

คิดแล้วก็เพลินดี ฮาฮา

[ter162525]

ไร้ศาสนานะแล้วจะต่างอะไรกับ หมา ล่ะ หมามันอยากจะซ่ำกันตรงไหน มันก็เอาเลยอิสระ จะขี้เยี่ยวตรงไหน ก็เอาเลย
ดีจริงๆเลย สอนให้เป็นคนดีๆไม่สอนสอนให้เป็นหมาซ่ะงั้น

[ดราม่า]

"มหาวิทยาลัยในโลกนี้ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นโรงเรียนฝึกวิชาชีพ แม้ในเริ่มต้นมหาวิทยาลัยไทยจะเป็นเยี่ยงนั้น และด้วยความที่มันเกิดมาเพื่อเป็นโรงเรียนฝึกอาชีพนั่นแหละ มันถึงยังบังคับให้นักศึกษาใส่ชุดนักศึกษามาจนทุกวันนี้... "พวกคุณไม่ต้องมาเรียนมหาวิทยาลัยเพียงเพื่อจะไปเสิร์ฟอาหารบนเครื่องบิน หากใครหน้าตาดีหน่อย พอเรียนจบก็อาจจะได้รับจ้างไปนั่งนับเงินหน้าเคาท์เตอร์ธนาคาร แต่อาชีพพวกนั้นไม่ต้องจบมหาวิทยาลัยก็ได้... "

(มีคนเล่นประเด็นที่ผมคาใจแล้ว ขอเล่นประเด็นนี้แล้วกัน...แต่คำพูดทุกคำของมันเหมาะไปเป็น ตัว***แถวๆชายแดนเขมรมากกว่า)

แล้วอาจมคนนี้มันต่างกับ ส.ส. ประสาท(สส.สุรินทร์) ตรงไหน ส.ส.ประสาท มันดูถูกเด็กราม

ไอ้อาจมตัวนี้มันดูถูกแอร์โฮสเตส กับ พนักงานแบงค์?

Edited by ดราม่า, 21 June 2012 - 16:49.

[David_GinoLa]

"เพราะมหาวิทยาลัยเกิดขึ้นมาเพื่อเป็นปฏิปักษ์กับศาสนา เพื่อปลดปล่อยคนจากศาสนา"

เหรอครับ?? ผมนึกว่ามหาวิทยาลัยเกิดขึ้นมาเพื่อเป็นสถานที่ให้ความรู้แก่ผู้คนในระดับที่สูงขึ้นเสียอีก

"มหาวิทยาลัยในโลกนี้ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นโรงเรียนฝึกวิชาชีพ

แล้วคณะแพทยศาสตร์ เภสัชศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ ฯลฯ ในมหาวิทยาลัยต่างๆในโลกนี้คือ????

"แล้วเพลาๆ positive thought (การคิดบวก) ไว้บ้าง เรียนมหาวิทยาลัยต้องมี critical mind (คิดวิพากษ์)

เป็นซะอย่างนี้ ผมรู้สาเหตุที่อาจารย์และนศ.บางคนใน มธ. วันๆไม่เป็นอันทำอะไร จ้องแต่จะด่าคนนู้น ด่าคนนี้อย่างเดียวแล้วล่ะครับ

Edited by David_GinoLa, 21 June 2012 - 17:00.

[Siren]

ในฐานะศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ เราเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในยุคนี้จริง ๆ และเสียใจแทนน้อง ๆ ที่จะต้องถูกปลูกถ่่ายความคิดวิบัติ ๆ เหล่านี้

ก่อนจะปฏิเสธศาสนา ถามจริง ๆ ว่า อาจารย์เคยศึกษาศาสนามาลึกซื้งแค่ไหน คนที่คิดจะสอนศิษย์เยี่ยงนี้ หากมีความลุ่มลึกทั้งในแนวคิด และการปฏิบัติจริงแล้ว จะไม่ว่าเลย แต่หากไม่เคยเฉียดกรายเข้าไปศึกษา คิดเอาเองแบบตื้นเขิน นับว่าไม่น่าให้อภัยสำหรับคนเป็นอาจารย์

เราไม่ชอบพูดอะไรโดยไม่มีหลักฐานอ้างอิง หรือใช้ความรู้สึกตัวเองตัดสิน - ลองเอาแนวคิดอัจฉริยะของโลกอย่างไอน์ไสตน์ไปตรองดู


“The religion of the future will be a cosmic religion. It should transcend a personal God and avoid dogmas and theology. Covering both the natural and the spiritual, it should be based on a religious sense arising from the experience of all things, natural and spiritual, as a meaningful unity. Buddhism answers this description. If there is any religion that would cope with modern scientific needs, it would be Buddhism.”

(May 19th, 1939, Albert Einstein’s speech on “Science and Religion” in Princeton, New Jersey, U.S.A.)”

“ศาสนาในอนาคต จะต้องเป็นศาสนาสากล ศาสนานั้นควรอยู่เหนือพระเจ้าที่มีตัวตน และควรจะเว้นคำสอนแบบสิทธันต์ (คือเป็นแบบสำเร็จรูปที่ให้เชื่อตามเพียงอย่างเดียว) และแบบเทววิทยา(คือพึ่งเทวดาเป็นหลักใหญ่) ศาสนานั้น เมื่อครอบคลุมทั้งธรรมชาติและจิตใจ จึงควรมีรากฐานอยู่บนสามัญสำนึกทางศาสนา ที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ต่อสิ่งทั้งปวง คือ ทั้งธรรมชาติและจิตใจอย่างเป็นหน่วยรวมที่มีความหมาย พระพุทธศาสนาตอบข้อกำหนดนี้ได้....ถ้าจะมีศาสนาใดที่รับมือได้กับความต้องการทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ปัจจุ บัน ศาสนานั้นก็ควรเป็นพระพุทธศาสนา”

[Siren]

Steve Jobs :


To quote Jobs’ chosen biographer (Isaacson, 2011):

Jobs’ engagement with Eastern spirituality, and especially Zen Buddhism, was not just some passing fancy or youthful dabbling. He embraced it with his typical intensity, and it became deeply ingrained in his personality. “Steve is very much Zen,” said Kottke [a friend of Jobs]. “It was a deep influence. You see it in his whole approach of stark, minimalist aesthetics, intense focus.” Jobs also became deeply influenced by the emphasis that Buddhism places on intuition (35).
The mind of Buddha in Soto Zen is a space of non-duality, which was epitomized in how Jobs treated the humanities and engineering. Now we turn to four themes in Buddhism that enabled Jobs’ success......

http://www.buddhisma...en-neudorf.html

[PettyCash]

ก็คุยว่าเสรีภาพทุกตางรางนิ้ว มรึงจะไปต่อต้านการใส่ชุดติดโลโก้ทำมัย
ก็ประกาศไปเลย ใครอยากใส่อะไรก็ใส่ อยากติดอะไรก็ติด จะไปบังคับต่อต้านก็ไม่ประชาธิปไตยดิ

ไปมุดหัวอยู่ไหนมาไม่เคยดูสารคดีหรือ เป็นแอร์เขาต้องฝึกหนักนะกว่าจะเป็นได้
พนักงานแบงค์ก็เหมือนกัน เด๋วนี้ไม่ใช่นั่งแต่เคาร์เตอร์อย่างเดียว ต้องขาย
ประกัน ขายหุ้น ขายกองทุน ฯลฯ ต้องศึกษาหาข้อมูล อบรมเยอะแยะ
ไม่ได้ง่ายเหมือนเป็นอาจมนั่งแดรกภาษี นึกจะพ่นอะไรก็พ่นไปเรื่อยเปื่อย
ใส่สมองลูกหลานชาวบ้านเขาไปทั่ว

[JUR1ST]

อ่านแล้วเห็นด้วยกับความเซนซิถีบกับความเห็นต่างอย่างเปิดกว้างของมันเหมือนกัน

คือผมเห็นต่างว่าไม่ควรเรียกคนอย่างมันว่าอาจารย์ แต่ควรเรียกว่าพนักงานรับจ้างสอนก็พอ

[David_GinoLa]

ไปมุดหัวอยู่ไหนมาไม่เคยดูสารคดีหรือ เป็นแอร์เขาต้องฝึกหนักนะกว่าจะเป็นได้

ไม่ได้ง่ายเหมือนเป็นอาจมนั่งแดรกภาษี นึกจะพ่นอะไรก็พ่นไปเรื่อยเปื่อย
ใส่สมองลูกหลานชาวบ้านเขาไปทั่ว

อันนี้เรื่องจริงเลยครับ ครูสอนภาษาอังกฤษของผมท่านนึงเล่าให้ฟังว่า ครูเคยไปสมัครเป็นแอร์ แต่ไม่ได้เป็นเพราะว่ายน้ำไม่เป็น

[สิงห์สนามซ้อม]

พวกนี้กลัวตายไปจะตกนรก เพราะคาดว่ายังไงก็ไม่ได้ขึ้นแน่สวรรค์
ปฎิเสธศาสนาไปเลยดีกว่า จะได้ไม่มี ดี มีชั่ว ไม่มีนรก หรือสวรรค์

[หนูอ้อย]

ที่อาจารย์ยุกติอบรม และประชาไทเอามาเผยแพร่
อ่านทั้งหมดและดูประวัติอาจารย์ประกอบแล้ว
ไม่ได้แนะให้นักศึกษามี critical mind อย่างป่าวประกาศ
หากแต่ให้มี criminal mind มากกว่า
เพราะสนับสนุนให้ไร้ระเบียบ สุดโต่ง ก้าวร้าวต่อส่วนรวม
ใครเชื่อและเดินรอยตาม อาชีพอาชญากรรมสังคม รออยู่ข้างหน้า
เออหนอคนเรา ...เป็นสุนัขหางด้วนตัวเดียวยังไม่พอ ...

[Bookmarks]

ยกเลิกกระทรวงวัฒนธรรมไปเลยสิว่ะ

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

ยุกติ มุกดาวิจิตร มีอาชีพเป็น "ครู"
ครู ต้องไม่สั่งสอนแค่ความรู้ในวิชา แต่ต้องสอนให้ศิษย์เป็นผู้มีสติ มีปัญญา มีคุณธรรมในจิตใจด้วย

ยุกติสอบตกทุกด้านของความเป็นครู
คุณกำลังสร้างเด็กที่ว่างเปล่า ไร้ที่ยึดเหนี่ยว ไร้ศรัทธา ไร้จริยธรรม ไร้แก่นชีวิต และไร้จิตวิญญาณ
แต่กลับคิดต่อต้านทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเสาหลักยึดเหนี่ยวทางจิตใจ

คุณกำลังสร้างคนบ้านะนั่น

คนบ้าแบบคุณเลย

[overtherainbow]

ยุกติ มุกดาวิจิตร มีอาชีพเป็น "ครู"
ครู ต้องไม่สั่งสอนแค่ความรู้ในวิชา แต่ต้องสอนให้ศิษย์เป็นผู้มีสติ มีปัญญา มีคุณธรรมในจิตใจด้วย

ยุกติสอบตกทุกด้านของความเป็นครู
คุณกำลังสร้างเด็กที่ว่างเปล่า ไร้ที่ยึดเหนี่ยว ไร้ศรัทธา ไร้จริยธรรม ไร้แก่นชีวิต และไร้จิตวิญญาณ
แต่กลับคิดต่อต้านทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเสาหลักยึดเหนี่ยวทางจิตใจ

คุณกำลังสร้างคนบ้านะนั่น

คนบ้าแบบคุณเลย

ก็พอว่างปล่าวได้ที่
จะได้จัดระเบียบข้อมูลที่อยากป้อน ได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน มั้งคะ

[monin]

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ตายแล้ว
ที่เห็นอยู่คือพวกเปรตหลงตัวเอง

[koong]

โชคดี จริงๆ ที่ตูไม่เคยเจอคนสอนหนังสือ แบบนี้ เรียกครู เรียกอาจารย์ มันไม่เหมาะกับคนแบบนี้จริงๆ

[Pasitnat]

ใครมีของเต็มๆบ้างครับ อยากอ่าน อยากรู้ว่าใครพูด เบื้องหลังเป็นยังไง

เหมือนแกจะได้แนวคิดเมืองนอกบวกกับวิทยานิพนธ์ที่แกทำมา

ก็เข้าใจว่านักสังคมศาสตร์บางคนก็เป็นแบบนี้จริง ก็อยู่ที่ผู้ฟังแล้วล่ะว่าจะคิดจะทำอะไรแบบไหน

ขอจบด้วยว่า ข้อมูลมีเท่านี้ ก็บอกได้ว่าแกเป็นคนใจแคบ และไม่ยอมรับความต่างที่ต่างไปจากความเชื่อของแกแน่นอน แกพูดเรื่อง inclusive sensitivity แต่ดูจากที่แกพูดแล้ว แกไม่มีเลยนี่ครับ

[ริวมะคุง]

ศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี พวกที่ต้านก็เป็นพวกคน,,,,

[David_GinoLa]

ศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี พวกที่ต้านก็เป็นพวกคน,,,,

คนดีไม่จำเป็นต้องมีศาสนาก็ได้หากในใจมีคุณธรรมจริยธรรม แต่กรณีนี้และอีกหลายๆตัวอย่าง มันไม่ใช่อ่ะครับ

[เบื่อดราม่าอันหาสาระมิได้]

นึกภาพอยู่ว่าถ้าตัวเองยังเป็นนักศึกษาแล้วไปเจออาจารย์ที่พยายามยัดเยียดชุดความคิดที่ไม่ตรงกับคุณค่าของเรานี่ คงทำใจลำบากมากจริงๆ คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก

[วะเฮ้ย]

มาตรฐานการเรียนของไทยมันต่ำเพราะมีอาจารย์แบบนี้ไง สมัยนี้ใครๆต้องจบโทเพราะอยากจะอัพเงินเดือน ทั้งๆที่องค์ความรู้มันไม่ได้มาตรฐานระดับปโทเลย ต่างประเทศเขาจบตรีกันก็ทำงานดีๆได้ น้อยคนนักที่จะจบโท นอกจากคนที่อยากหาความรู้เพิ่มเติมในสาขานั้นให้ลึกลงไปอีก

การที่อาจารย์อยากยกระดับความรู้ของนักศึกษาเป็นเรื่องดี แต่การที่มาพูดในลักษณะที่ดูถูกอาชีพอื่นๆ และมาด่าศาสนาอีกนี่มันไม่ได้สร้างสรรให้เกิดการเรียนรู้เลย มีแต่ความอวดดีของอาจารย์ และยังส่งต่อความอวดดีให้ลูกศิษย์

เป็นอาจารย์ต้องหัดเป็นน้ำที่ไม่เต็มแก้ว คอยเปิดรับความรู้ใหม่เสมอๆ สอนแบบเป็นกลางให้ข้อมูลให้ครบทุกด้านและให้ลูกศิษย์ไป judge เองว่าเขาจะเชื่อหรือสรุปอย่างไร ไม่ใช่มาบอกว่าอะไรผิดอะไรถูก

อยากจะสอนให้นักศึกษารู้จักคิด บลาๆๆ แต่ดันทำตัวเองขัดกับสิ่งที่อยากให้นศ.เป็น

สะเหร่อ

[dahlia v2]

ยุกติ มุกดาวิจิตร มีอาชีพเป็น "ครู"
ครู ต้องไม่สั่งสอนแค่ความรู้ในวิชา แต่ต้องสอนให้ศิษย์เป็นผู้มีสติ มีปัญญา มีคุณธรรมในจิตใจด้วย

ยุกติสอบตกทุกด้านของความเป็นครู
คุณกำลังสร้างเด็กที่ว่างเปล่า ไร้ที่ยึดเหนี่ยว ไร้ศรัทธา ไร้จริยธรรม ไร้แก่นชีวิต และไร้จิตวิญญาณ
แต่กลับคิดต่อต้านทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเสาหลักยึดเหนี่ยวทางจิตใจ

คุณกำลังสร้างคนบ้านะนั่น

คนบ้าแบบคุณเลย

ก็พอว่างปล่าวได้ที่
จะได้จัดระเบียบข้อมูลที่อยากป้อน ได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน มั้งคะ

ให้ทาย ก็คงป้อนข้อมูลล้มเจ้า ตามถนัดสไตล์พวกแก่ๆ กะโหลกกะลา แถวธรรมศาสตร์นั่นแหละ
ถึงว่าผมมีอาจารย์ผมเคยจบทั้งจุฬาและธรรมศาสตร์ ถึงบอกผมว่า

จุฬา ธรรมศาสตร์ เหลือแต่ชื่อไว้ขายแล้ว เด็กไม่ได้เก่งเหมือนก่อนแล้ว
อยากเป้นลูกคุณหนู อยากจบสบายไปเรียน จุฬา กับ ธรรมศาสตร์

เพราะ มีแต่ อาจมแก่ๆ สอนแต่อวืชชาให้ลูกศิษย์ นี่เอง

Edited by dahlia v2, 21 June 2012 - 21:08.

[แตงดุ๊ด]

นางก็แค่พยายามเผยแผ่ลัทธิความเชื่อเพื่อให้ตัวเองได้เป็นศาสดาองค์ใหม่คะ

[Bourne]

อ่านแล้วก็งั้น ๆ รู้สึกแต่ความว่างเปล่า

[blue]

อยู่อเมริกา 5-6 ปี อยู่ เวียตนาม 3 ปี เห็นความแตกต่างแค่เขาไม่หัวเราะเยาะ
เวลาพูดภาษาเขาเพี้ยนเท่านั้น ทำไมเห็นอะไรน้อยจัง หรือเป็นเพราะแบบนี้ทำให้
เกิดเมืองไทย สอนคณะสังคมศาสตร์ แต่ไม่รู้จักสันดานคนไทยที่เป็นรากเหง้า
ของตนเอง เมืองไทยถูกเรียกว่าเป็น สยามเมืองยิ้ม ก็เพราะหัวเราะไม่รู้จักกาลเทศะ
นี่แหละ ขนาดเดินไปตกท่อข้างถนน พอโผล่ขึ้นมาได้ยังยิ้มฟันแหงเลย

เสียดายที่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้เห็นหัวเราะไม่มีกาลเทศะบ่อยนัก อาจเป็นเพราะอาจารย์
คนนี้หรือเปล่าไม่รู้ ที่ทำให้คนรุ่นหลัง ๆ ไม่ดำรงเอกลักษณ์ยิ้มสยาม ไว้ แต่ก็ยังภูมิใจ
ที่นายก ปู ยังรักษาเอกลักษณ์นี้อยู่ ที่ขำกลิ้งตอนผู้ว่าอ่านรายงาน

[Et tu Brute?]

คณะสังคม แต่คิดถึงแต่ตัวเอง
ของผมเรียนวิชาชีพ อาจารย์ไม่ได้สอนแค่ให้ออกมาหากิน
แต่ต้องคิดด้วยว่า เอ็งทำอะไรให้สังคมบ้าง

เห็นอาจารย์เฮี่ยๆ แบบนี้แล้วหดหู่ใจจริงๆ

[Baboonga]

คนเข้ามหาวิทยาลัยเค้ามาหาความรู้ไม่ใช่เหรอ เค้าจะไปเป้นปฏิปักษ์กับศาสนาทำไม ความรู้ทางโลกก็ส่วนทางโลก ทางธรรมก็ส่วนทางธรรม หากยังแยกแยะไม่ออกว่าอันไหนทางโลก ทางธรรม อย่างนี้ถือว่าเป็นขยะที่ผลิตได้ออกมาจากสังคมป่ะเนี่ย...

เป็นพวกไร้ศาสนา ยังจะไปสอนให้คนอื่นเป็นปฏิปักษ์กับศาสนา
เป็นขยะสังคม แล้วจะให้คนอื่นเป็นขยะแบบตัวเอง...

เพี้ยนๆ ดีนะสมัยนี้ อยากดังต้องทำอะไรเพี้ยนๆ แบบนี้สินะ

[เมารัก]

ธรรมศาสตร์ เสรีภาพเกินไปแล้ว

[อาวุโสโอเค]

สรุปแล้ววันนี้อาจารย์มันสอนให้ทิ้งสังคมแล้วหรือ

ผมจำได้สโลแกนธรรมศาสตร์ได้ว่า ฉันรักธรรมศาสตร์ เพราะธรรมศาสตร์สอนให้ฉันรักประชาชน

[GuoJia]

น่าไปสอนที่ หมาลัย อธรรมศาสตร์

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

โดนๆๆๆๆ

ไม่ได้สะท้อนว่าเคารพผู้อื่นเลย แต่เป็นการแสดงถึงความจองหองอวดดี
คิดว่าตัวเองดีกว่า เหนือกว่าผู้อื่นต่างหาก

นี่ก็โดนนนนนนนนอีก

มีแต่ความอวดดีของอาจารย์ และยังส่งต่อความอวดดีให้ลูกศิษย์

เป็นอาจารย์ต้องหัดเป็นน้ำที่ไม่เต็มแก้ว คอยเปิดรับความรู้ใหม่เสมอๆ

[ID007]

ไอ้อาจารย์พวกนี้ ผีบ้าเข้าสิง ได้ร่ำเรียนเป็น ด๊อกกะเค้าหน่อย มันก็คิดว่ามันเป็นหนึ่งในสามโลก
ช่างกล้ามาวิจารณ์ศาสนาพุทธ โดยที่ไม่เคยบวชเรียน อ่านพระสูตร

ถ้ามึนได้อ่าน ทำความเข้าใจ คำสอนพุทธเจ้าซักนิด

ไอ้ลูกเขียดอาศัยในรอยตีนควาย เอ๊ย จะได้รู้ จะได้ลดทิฐิ ลดอัตตา ความยึดมั่นถือมั่นว่าตัวเองเก่งกล้าลง

อัลเบริต์ ไอน์สไตน์ อัจฉริยะของโลก เค้ายังสนใจในพุทธศษนาเลย ทั้งที่เป็นคนต่างชาติต่างภาษา และไกล

ต่างจาก ไอ้พวกจานใส่ฉี่ ขี้ออกมาแล้วหยิบมากิน อยู่ใกล้ๆของดีแท้ๆ ไม่เรียนรู้ก็น่าสมเพชแล้ว ยังสถุนมาสอนลูกศิษย์ให้หลงผิดตามไปอีก

ถ้ากรูอยู่ตรงที่มึนพูด กรูคงด่า ถลกหนังหัว ไอ้ยุกติคนที่พูดสอนตรงนั้นซะเลย สนองความต้องการของมัน