Jump to content


Photo
- - - - -

Elite Card พี่ขรี้ทิ้ง น้องสาวราดขรี้ให้


This topic has been archived. This means that you cannot reply to this topic.
7 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 เด็กปากดี

เด็กปากดี

    I am Royalist

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,947 posts

ตอบ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 17:09

Posted Image



วันนี้คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นจำนวน 20 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาการขาดสภาพคล่องด้านการเงินของบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด (Thailand Privilege Card) ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายน 2555 โดยให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเร่งทำแผนระยะเร่งด่วนและระยะปานกลางในการแก้ปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน ของบริษัทฯ รวมทั้งการจัดทำแผนธุรกิจในเชิงลึกด้านการเงิน การตลาด และการบริหารจัดการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

ไอเจ้าบริษัทบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ไม่ได้รับสมาชิกเพิ่มเติมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2552 จนถึงปัจจุบัน โดยบริษัทฯ มีสมาชิกทั้งสิ้น 2,566 ราย ซึ่งแยกตามสัญชาติ 10 อันดับแรก ได้แก่ เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน อังกฤษ สหรัฐอเมริกา บังกลาเทศ สิงคโปร์ รัสเซีย ฮ่องกง และจีน ผลประกอบการของบริษัท ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2553 ดังนี้

1) บริษัทฯ มีรายได้รวม 17.571 ล้านบาท มีค่าใช้จ่ายรวม13.210 ล้านบาท ประกอบด้วยต้นทุนการใช้บริการสมาชิก 3.525 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 8.838 ล้านบาท ค่าเสื่อมราคา 0.847 ล้านบาท ทำให้ผลประกอบการกำไรสุทธิ 1.361 ล้านบาท

2) บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 273.540 ล้านบาท มีหนี้สินรวม 1,151.527 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น (877.987) ล้านบาท ทำให้ผลประกอบการขาดทุนสะสม 1,377.987 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทฯ มีเงินสดและเงินฝากสถาบันการเงิน 210.926 ล้านบาท



Elite Card มันคืออะไรมาย้อนรอยกันครับ


ในบรรดาผู้นำของไทยที่เคยมีมา ไม่มีใครที่ขยันสร้างปัญหาให้สังคมไทยเทียบเท่ากับคนที่ชื่อว่าทักษิณ ชินวัตร ท่านมีพรสวรรค์พิเศษในการคิดและทำเรื่องที่คนอื่นเขาไม่ทำกัน และมีความสามารถพิเศษในการตีปี๊บให้คนอื่นแซ่ซ้องสรรเสริญตัวเองว่า โครงการที่ท่านคิดและทำนั้นวิเศษเลิศเลอไม่มีใครทำได้เสมอเหมือน โครงการขายบัตรอีลิทการ์ด (Elite Card) เพื่อให้คนต่างชาติซื้อติดตัวมาแสดงฐานะเป็นอภิสิทธิ์ชนในสังคมไทยก็เป็นอีกโครงการหนึ่ง ซึ่งคนคิดเลวทำเลวทำขึ้นให้บ้านเมืองสกปรก แล้ว ให้คนไทยที่รักความสะอาดติดตามล้างเช็ด

1.1 อีลิทการ์ดคืออะไร

ภายหลังที่รัฐบาลทักษิณ ชินวัตรขึ้นมาบริหารประเทศได้สองปีเศษ คือเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม2003 ได้จัดสรรงบประมาณ 1,000 ล้านบาท สำหรับจัดตั้งบริษัทไทยแลนด์พริวิเลจการ์ด จำกัด(Thailand Privilege Card Co.Ltd. เรียกชื่อย่อว่า “TPC”) โดยให้บริษัทนี้เป็นบริษัทลูกขององค์การการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ดำเนินธุรกิจขายบัตรที่เรียกว่า Thailand Elite Card (เรียกเป็นภาษาไทยว่า “อีลิทการ์ด” หรือ “บัตรอีลิท”) ให้คนต่างชาติที่ไม่มีถิ่นพำนักถาวรในประเทศไทย บัตรละ1,000,000 บาท หรือ 25,000 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับเอกชน และ 2,000,000 บาท หรือ 50,000 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับบรรษัทหรือนิติบุคคล

บัตรส่วนบุคคลมีอายุตลอดชีวิตและโอนให้ผู้รับช่วงได้หนึ่งครั้ง ส่วนบัตรบรรษัทมีอายุใช้การได้ 30 ปี (ต่อมาเมื่อธุรกิจไม่ค่อยราบรื่น บริษัทได้เปลี่ยนราคาและอายุบัตรใหม่หลายครั้ง จนปัจจุบันแม้แต่ผู้บริหารบริษัทขายบัตรเองก็ตอบคำถามเหล่านี้ไม่ได้)

ในสองปีแรก รัฐบาลทักษิณได้ระดมทรัพยากรส่งเสริมโครงการนี้อย่างเอิกเกริกระดับโลก คำโฆษณาของรัฐบาลเช่นเดียวกับของบริษัท TPC ประกาศว่า โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและเป็นสโมสรแห่งแรกของโลกที่รับสมาชิกที่เป็นมิตรของประเทศไทย (The world’s first countrymembership club for friends of Thailand)

ผู้ก่อตั้งโครงการประกาศว่า ภายใน 5 ปี บริษัท TPC จะหาสมาชิกได้ 1 ล้านราย ไทยจะได้เงินเข้าประเทศ 1 ล้านล้านบาท และตั้งเป้าไว้ว่าภายใน 1 ปีแรก คือปี 2004 จะหาสมาชิกได้ 100,000 ราย

สมาชิกอีลิทการ์ด ไม่ให้สิทธิแก่คนไทย และคนต่างชาติที่มีถิ่นที่อยู่ถาวรในไทย แต่หวังที่จะได้สมาชิกกลุ่มใหญ่จากการขายบัตรให้นักท่องเที่ยวชั้นสูง เศรษฐีเจ้าสำราญ นักธุรกิจระดับสูง และนักลงทุนข้ามชาติ

1.2 สวรรค์ในไทย

จากคำโฆษณาของรัฐบาลและบริษัท TPC ผ่านสื่อมวลชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเว็บไซต์ของบริษัท(www.Thailandelite.com ) คนทั่วไปที่รับทราบคงจะรู้สึกว่า บัตรวิเศษนี้มีคุณค่ามากกว่าเงินจะซื้อได้(ตามคำโฆษณาหาสมาชิกในเว็บของบริษัท) เพราะว่าสมาชิกนอกจากจะได้รับเกียรติว่าเป็น “friends of Thailand” (มิตรของประเทศไทย) แล้ว ยังได้สิทธิพิเศษและอภิสิทธิ์เป็นอันมาก กล่าวโดยย่อมีดังนี้

1.2.1 สมาชิกผู้ถือบัตรอีลิทและคู่สมรสจะได้สิทธิพิเศษหรืออภิสิทธิ์ในเรื่องการเข้า-ออกประเทศ มีวีซ่าเข้า-ออกประเทศชนิด multiple entry visa ซึ่งเข้าออกประเทศไทย ตลอดหลายครั้งได้ภายใน 5 ปี การผ่านด่านตรวจหนังสือเดินทางที่สนามบินมีช่องผ่านด่วน (fast tract) รับบริการเป็นพิเศษที่หน้าเคาน์เตอร์จะมีข้อความเป็นภาษาอังกฤษตัวใหญ่ว่า“Thailand/Elite” ทั้งขาเข้าและขาออกจะมีพนักงานสาวสวยแต่งชุดไทยให้บริการต้อนรับหรือส่งแขกด้วยอัธยาศัยไมตรีและมารยาทที่ดีของกุลสตรีไทย จะใช้ห้อง VIP หรือไม่ก็ตามสบาย

ระหว่างสนามบินกับที่พัก (บ้านหรือโรงแรม) จะมี limousine คันสวยหรูรับส่ง บริการต่างๆ จะดีกว่า VIP ธรรมดา ถ้าจะเดินทางไปเมืองใหญ่ๆ ในไทยเช่น เชียงใหม่ หรือภูเก็ต จะได้รับบริการที่สนามบินทำนองเดียวกับที่กรุงเทพฯ ขึ้นเครื่องบินของการบินไทยได้รับส่วนลดราคาตั๋ว 20%

1.2.2 ถ้าสมาชิกบัตรอีลิทจะอยู่ในประเทศไทยเพื่อแสวงหาความสำราญ พวกเขามีสิทธิพิเศษในการใช้สนามกอล์ฟ สปา และสโมสรชั้นยอดสุดที่เป็นภาคีกับบริษัท TPC โดยให้ใช้บริการได้ฟรีประเภทละ 24 ครั้ง

1.2.3 ถ้าจะทำธุรกิจ บริษัทสัญญาว่าจะบริการความสะดวกในการติดต่อเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขออนุญาตการทำงาน ใบขับขี่ และตรวจสุขภาพ สมาชิกได้สิทธิตรวจสุขภาพประจำตัวฟรีปีละครั้งที่โรงพยาบาลชั้นยอดเยี่ยมของประเทศ ได้สิทธิในการรักษาโรคโดยได้รับส่วนลดพิเศษ นอกจากนั้นบริษัท TPC จะประกันอุบัติเหตุให้สมาชิกในวงเงิน 2,000,000 บาท

1.2.4 อภิสิทธิ์อย่างหนึ่งที่โครงการนี้เสนอให้สมาชิกโดยมีปัญหาตั้งแต่ต้นคือ เรื่องการถือครองหรือการมีกรรมสิทธิ์ที่ดินในไทย ซึ่งมีเนื้อที่ถึง 10 ไร่ เผอิญเรื่องนี้คนต่างชาติจำนวนมากให้ความสนใจเป็นพิเศษ ในเอกสารโฆษณาขายบัตรของบริษัทอาจจะไม่ระบุชัดว่า จะได้สิทธิครอบครองหรือได้กรรมสิทธิ์ (เช่นใช้คำว่า “The company has a policy to give to the member certain privilegesequivalent or close to the rights acquire and use a land …”)

แต่ตัวแทนโฆษณาขายบัตรมักจะใช้ข้อนี้แนะเชิงหลอกให้ลูกค้าซื้อบัตร เมื่อถึงเวลาปฏิบัติ คำมั่นสัญญาที่ทำกันไว้เป็นลายลักษณ์อักษร หรือด้วยวาจาอย่างดิ้นได้นั้น จะทำได้จริงก็ต่อเมื่อแก้กฎหมายและกฎกระทรวงบางมาตราและบางข้อเสียก่อน

คนต่างชาติที่ซื้อบัตรอีลิทส่วนหนึ่งเชื่อตามคำคุยของ “คนรักทักษิณ” แต่ไม่นานพวกเขาก็รู้ว่า ถูกหลอกผู้ที่อยากได้ที่ดินจริงๆ ต้องเลี่ยงกฎหมายไปใช้บริการของบริษัทลูกที่มีสัญชาติไทยให้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินแทน

1.3 สวรรค์อยู่ในอกนรกอยู่ในใจ

โครงการนี้เกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เป็นความคิดของทักษิณหรือคนสนิทของทักษิณภายใต้ระบอบทักษิณที่พยายามโฆษณาให้คนไทยเห็นว่า ทักษิณเป็นวีรบุรุษ เป็นคนเก่งเหนือมนุษย์ธรรมดาสามารถหาเงินให้ประเทศ 1 ล้านล้านบาท ภายในเวลาเพียง 5 ปี สามารถดึงดูดมหาเศรษฐีใหญ่ๆ ในโลกมาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นเป็นมูลค่ามากมายอย่างไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขได้

นอกจากนั้น เมื่อมหาเศรษฐีเหล่านั้นมาใช้บริการต่างๆ ที่เสนอให้สมาชิกเป็นสิทธิพิเศษหรืออภิสิทธิ์แล้ว ก็จะทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยว โรงแรม สนามกอล์ฟ สปา โรงพยาบาลของไทย ฯลฯ พากันเจริญรุ่งเรือง และคนไทยในระดับรากหญ้าก็จะมีงานทำ มีความสุขทั่วหน้ากันเพียงแต่วาดวิมานในอากาศให้คนไทยที่รู้ไม่เท่าทันทักษิณได้เห็นก็สามารถทำให้คะแนนนิยมของทักษิณเพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้น

แต่ความจริงโครงการนี้ส่อให้เห็นถึงความไม่บริสุทธิ์มาแต่ต้น กล่าวโดยย่อคือ

ประการแรก ผู้ริเริ่มโครงการนี้ คิดหาทางรวยทางลัด ถึงแม้บริษัท TPC ยังตั้งตัวไม่ติด พวกเขาก็คิดจัดตั้งบริษัทลูกขึ้นมาหากินกับโครงการนี้กันแล้ว นั่นคือ จัดตั้งบริษัท Thailand Elite Assets และThailand Elite Property ขึ้นมา เพื่อเตรียมตัวทำธุรกิจเกี่ยวกับการถือครองที่ดิน และอสังหาริมทรัพย์แทนสมาชิกอีลิทการ์ด

ประการที่สอง การตั้งตัวแทนจำหน่ายบัตรอีลิทในต่างประเทศนั้น (ซึ่งมีประมาณ 18 บริษัทเมื่อปลายปี 2006 เช่น Aktiv, King Power, Grand Elite, ET Card, Elite Plus, Patco, Uni Quness - - - ดูในผู้จัดการรายสัปดาห์ 19 มกราคม 2552)

ปรากฏว่าหลายบริษัทที่เจ้าของเป็นเครือญาติหรือสหายสนิทของทักษิณ ตัวแทนจำหน่ายบัตรอีลิทเหล่านั้น มีรายได้จากการขายบัตรรายละ 300,000 บาท นั่นเป็นเครื่องล่อใจที่มีน้ำหนักมากพอที่พวกเขาจะหาวิธีฉ้อฉลหรือหลอกลวงให้คนซื้อบัตร โดยการพูดจาหว่านล้อมหรือขยายความเกินความจริงเกี่ยวกับคุณค่าของบัตร ตลอดจนขายบัตรให้ผู้มีอิทธิพล หรืคนที่มีธุรกิจสีเทาในประเทศไทย

ประการที่สาม โครงการนี้มีแผนงานสร้างเครือข่ายบริการสมาชิกต่างชาติทั่วประเทศ ทั้งในอาณาบริเวณกรุงเทพฯ และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ในต่างจังหวัด เช่น ภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ โรงแรมสนามกอล์ฟ สปา โรงพยาบาล ฯลฯ เป็นเครือข่ายที่บริษัท TPC จะต้องเอามาเป็นพันธมิตรหรือภาคีในการทำธุรกิจบริการ การคิดค่าบริการ การจ่ายเป็นค่าบริการล่วงหน้า การทำสัญญาให้ใครได้ประโยชน์เป็นพิเศษต่างๆ นาๆ เหล่านี้ มีหรือที่นักธุรกิจพันธุ์ทักษิณจะตาไม่โตหรือมองไม่เห็นผลประโยชน์ส่วนตัว สิ่งที่พวกเขาเห็นคือเม็ดเงิน สิ่งที่พวกเขาชี้ให้คนอื่นดูคือวิมานบนสวรรค์ สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ ผู้ก่อตั้งโครงการนี้ย่อมรู้อยู่แก่ใจ

1.4 คิดได้อย่างไร

โครงการนี้และโครงการอื่นๆ จำนวนมากที่คิดและทำขึ้นในระบอบทักษิณนั้น คนพันธุ์ทักษิณจำนวนมากคิดว่าไม่มีใครเก่งเท่าทักษิณที่คิดได้-ทำได้ แต่คนคิดดี-ทำดีจำนวนมากกลับคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ควรคิดและไม่ควรทำ

1.4.1 สมมติว่าโครงการนี้ทักษิณคิดจะทำรายได้เข้าประเทศจริงๆ ไม่ได้คิดแสวงหาผลประโยชน์ให้แก่ญาติมิตร และไม่ได้คิดหาคะแนนนิยมจากการโฆษณาว่าทักษิณ ผู้ชาญฉลาดจะสามารถหาเงินเข้ารัฐได้ถึง 1 ล้านล้านบาทโดยใช้เวลาเพียง 5 ปีก็ตาม การมองผลประโยชน์ของชาติในวงแคบ โดยเอาเงินเป็นตัวตั้งนั้น เป็นการทำร้ายประเทศชาติและทำลายความผาสุกของประชาชนในระยะยาว เพราะโครงการนี้สัญญาต่อผู้ซื้อบัตรว่าประเทศไทยจะให้ผลประโยชน์ที่เป็นสิทธิพิเศษหรืออภิสิทธิ์แก่ผู้ซื้อบัตรเป็นเวลานาน สิทธิบางอย่างนั้นเป็นสมบัติที่ติดมากับอำนาจอธิปไตยของรัฐ ซึ่งจะซื้อขายมิได้

ถ้าเรามีผู้นำที่ใช้อำนาจเผด็จการ เห็นเงินตาโต ทำอะไรเอาเงินเป็นตัวตั้งเป็นหลักไม่นานสมบัติของชาติก็จะถูกขายหมด รวมทั้งดินแดนและอำนาจอธิปไตยของรัฐด้วย รัฐาธิปัตย์มีพันธะที่จะต้องธำรงรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของรัฐ และความเป็นธรรมในทางสังคม

ด้วยเหตุนี้รัฐบาลอื่นๆ เขาจึงไม่ยอมทำอย่างทักษิณ พวกเขาฉลาดที่ไม่ยอมทำ ไม่ใช่โง่ที่ไม่ทำ การใช้ถ้อยคำอวดอ้างอย่างภูมิใจในคำโฆษณาขายบัตรว่า รัฐบาลทักษิณเป็นรัฐบาลแรกของโลกที่ได้เปิดตัวโครงการนี้ขึ้นมา เท่ากับไม่สำนึกผิด มองเห็นกงจักรเป็นดอกบัว ไม่มีชาติไหนในโลกที่บ้องตื้นถึงขนาดไปสร้าง fast tract ที่ด่านตรวจคนเข้า-ออกที่สนามบินให้คนถือบัตรอีลิท ไม่ว่าบัตรนั้นจะซื้อมาหรือได้มาด้วยเงินเท่าไรก็ตาม

ด่านเช่นนั้น ตามหลักสากลเขามีไว้ให้บุคคลที่มีฐานะและภารกิจพิเศษ ไม่ใช่ซื้อได้ด้วยเงิน คนอาจจะมีฐานะทางการเงินต่างกัน แต่รัฐที่รักความเป็นธรรมจะไม่ยอมให้ใครเอาเงินมาเป็นปัจจัยในการแบ่งชนชั้นทางสังคม

1.4.2 โครงการนี้มีปัญหาว่าจัดตั้งขึ้นโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ การจัดตั้งโครงการพิเศษหรือบริษัทเอกชนโดยใช้งบประมาณของ ททท. (ซึ่งเป็นเงินของประชาชน) ก็ดี และการทำธุรกิจซึ่งมีรายรับรายจ่ายเป็นเงินจำนวนมากถึง 1 ล้านล้านบาทก็ดี จะต้องมีกฎหมายรองรับ การได้เงินมาตามโครงการนี้มีผลผูกพันถึงพันธะหรือหน้าที่ของรัฐที่จะต้องมีบริการหรือรายจ่ายเป็นค่าตอบแทนต่อเนื่องเป็นเวลานานนั้น

รัฐบาลอาศัยอำนาจอะไร การขายบัตรอีลิทให้คนต่างชาติ ข้อตกลงหรือสัญญาเหล่านั้นได้ผ่านการตรวจสอบของสำนักงานอัยการสูงสุดหรือเปล่า อย่างน้อยตามประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย การจัดตั้งโครงการหรือบริษัทเอกชนโดยใช้งบประมาณแผ่นดินนั้น จะต้องผ่านขั้นตอนตามที่กฎหมายกำหนด โครงการพิเศษที่มีลักษณะวิปลาสเช่นนี้ ในประเทศที่มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ต้องยึดหลักการที่ว่ามีกฎหมายบัญญัติให้อำนาจไว้ จึงทำได้ ไม่ใช่ทำได้เพราะไม่มีกฎหมายห้ามไว้

1.4.3 โครงการนี้มีตรรกะในระบบความคิดที่ประหลาด คิดได้อย่างไรว่าเศรษฐีระดับโลกหรือบรรษัทข้ามชาติ จะสนใจซื้อบัตรอีลิทราคา 1 ล้านบาทเป็นทางผ่านมาลงทุนในไทย คำประกาศต่อสาธารณชนคนไทยที่ว่าโครงการนี้จะสามารถดึงดูดนายทุนมาลงทุนในไทยมากขึ้น คงจะเป็นการสร้างภาพอำพรางมากกว่า คือต้องการหลอกคนไทย โดยอาศัยความโง่ของคนไทยที่ปักใจคิดว่า ทุนต่างชาติล้วนแต่เป็นของดี ใครดึงดูดมาได้จะต้องรับเครดิต

ความจริงทุนต่างชาติที่ไม่ดีก็มีมาก เข้าใจว่าความจริงในใจของผู้คิดโครงการ คงจะรู้ดีว่านักลงทุนมืออาชีพ (ไม่ใช่มิจฉาชีพ) และเศรษฐีระดับโลกคงไม่เห็นแก่อภิสิทธิ์ต่างๆ ที่เสนอตอบแทนให้กับสมาชิกอีลิทการ์ด ถ้าพวกเขามีนิสัยเช่นนั้น ก็คงจะไม่มีโอกาสเป็นเศรษฐีหรือนักลงทุนระดับข้ามชาติมาแต่ต้น ตรงกันข้าม พวกเขาอาจจะตั้งข้อสงสัยว่าคนไทย กำลังใช้กลเม็ดแอบแฝงอะไรมาขายบัตรประหลาดล่อพวกเขาให้มาลงทุนในไทยด้วยอุบายพิเศษ

1.4.4 ผู้นำไทยที่มีทัศนวิสัยไกล ต้องเทิดทูนวัฒนธรรมไทยที่สั่งสมมาเป็นเวลานาน ว่าคนไทยเป็นเจ้าภาพที่ดี เป็นมิตรต่อคนต่างชาติ เป็นบริกรต้อนรับแขกในเครื่องบินของบริษัทการบินไทยและที่โรงแรมระดับ 5 ดาว คุณสมบัติอย่างนี้เป็นสมบัติอันล้ำค่าซึ่งคนไทยเป็นเจ้าของร่วมกัน ทุกคนมีพันธะที่จะต้องทะนุถนอมให้อยู่กับสังคมไทยเป็นเวลานานๆ ไม่ใช่เอามาเป็นจุดขายแลกกับเงิน โดยอ้างว่าเพื่อประโยชน์ของบริกรไทย (สวรรค์ในอก)

แต่อีกส่วนหนึ่งซึ่งมักจะเป็นผลประโยชน์ก้อนใหญ่กว่าเพื่อหารายได้ให้แก่ตนและพวกพ้อง (นรกในใจ)ในสังคมไทยที่ยังมีความเลื่อมล้ำทางสังคมมาก ผู้นำควรนำภาษีของรัฐไปใช้ในการแก้ปัญหาความอดอยากของคนยากจน ส่งเสริมฐานะของผู้ด้อยโอกาสให้ดีขึ้น เยียวยาคนพิการ นั่นเป็นภารกิจที่ควรสนใจทำ แต่สิ่งที่ไม่ควรคิดทำอย่างยิ่งคือ หาทางส่งเสริมฐานะของคนไทยที่ร่ำรวยอยู่แล้ว

เลวยิ่งไปกว่านั้นคือ เอาเวลาและความคิดไปหาทางให้คนต่างชาติมาเสวยสุขและความสำราญในไทย โดยให้สิทธิพิเศษและอภิสิทธิ์ต่างๆ สร้างโลกแปลกปลอมขึ้นในสังคมไทย ทำให้สังคมไทยมีปัญหาต้องแก้ มากขึ้น


http://www.matichon....grpid=&catid=02
สจฺ จํ เว อมตา วาจา คำสัตย์แลเป็นวาจาไม่ตาย

#2 David_GinoLa

David_GinoLa

    สมาชิกระดับไพร่

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,561 posts

ตอบ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 17:19

น้องสาวทิ้งขรี้ก้อนใหม่ให้ (บัตรเครดิตพลังงาน,บัตรเครดิตชาวนา ฯลฯ)
"การเมืองต้องเป็นเรื่องการเสียสละ การเมืองคือภาระของทุกผู้การเมืองเรื่องส่วนรวมร่วมรับรู้ การเมืองต้องต่อสู้เพื่อส่วนรวม"เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

#3 greeenday

greeenday

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 579 posts

ตอบ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 17:30

ผมตาม Link ของคุณเด็กปากดีไปและได้ดูวันที่ที่ผู้เขียนได้ลงเอาไว้คือ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เวลา 11:29:53 น. น่าเสียดายนักที่ตอนนี้คงไม่มีบทความดีๆแบบนี้อีกแล้ว

ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดี และคนไม่ดี ไม่มีใครที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุขเรียบร้อยจึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้

พระบรมราโชวาท 11 ธันวาคม 2512


#4 Limmy

Limmy

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,397 posts

ตอบ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 17:47

บัตรอำมาตย์ชัด ๆ

#5 Toys

Toys

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 641 posts

ตอบ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 21:00

ไอ้ tayayang ไปไหนฟะ มีพี่ท่านเอาข้อมูลมาห้พิจารณาแล้ว

มาอ่านแล้วแถหน่อย หรือเอ็งเลิกเล่นไปแล้วฟะ

แล้วมาอธิบายด้วยว่า ยาเสพติด + ทักษิณ + สะพานมัฆวานน่ะมันอะไรหลุดมาแล้วก็มาสานให้จบด้วย

ไม่งั้นข้าจะตีความว่า ไอ้แม้วมันเอายาผสมน้ำแจกพวกเสื้อแดงที่สะพานมัฆวานนะเว้ย

#6 Bourne

Bourne

    สายลับ ๆ ล่อ ๆ หัดเกรียน

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,471 posts

ตอบ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 21:08

ไอ่แม้วเนี่ยะ ถ้ามันออกเป็นโฉนดขายชาติได้ มันทำไปแล้ว บังเอิญมันทำไม่ได้ มันก็ต้องออกเป็น อีเดียตการ์ดนี่แหละ
ภาระกิจหลักของผมบนบอร์ดเสรีไทย คือ ด่าควายครับ เรื่องคิดต่างผมรับได้ แต่เรื่องคิดชั่วผมรับไม่ไหวครัช

#7 Animal Farm

Animal Farm

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,132 posts

ตอบ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 21:09

แถมอีกหนึ่ง โครงการล้างขี้รับจำนำลำไยเน่า ที่ทักษิณขี้ทิ้งไว้

"ชวนนท์" ระบุมีใบสั่งให้ "ยิ่งลักษณ์" เร่งอนุมัติงบฯกว่า 4 พันล้าน โปะ ธ.กรุงไทย ล้างหนี้ลำไย กลบทุจริตรัฐบาล"ทักษิณ"

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ครม.มีมติอนุมัตให้นำงบประมาณ 4,631 ล้านบาท ไปชำระให้กับธนาคารกรุงไทย จากกรณีที่ อตก.กู้เงินจากธนาคารกรุงไทยมาดำเนินโครงการรับจำนำลำไย จนนำไปสู่การทุจริตเมื่อปี 2547 ซึ่งตนเชื่อว่าเป็นใบสั่งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รีบดำเนินการ เพื่อกลบปัญหาการทุจริตที่เกิดขึ้นในยุคที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี

นายชวนนท์ กล่าวว่า โครงการรับจำนำลำใยในปี 2547 อตก.ได้ดำเนินการรับซื้อลำไยสดจากเกษตรกร 312,373 ตัน มูลค่า 3,434 ล้านบาท นำไปแปรรูปเป็นลำไยอบแห้งได้ 9.5 หมื่นตัน ซึ่งบริษัท ปอเฮงอินเตอร์เทรด ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการกลับส่งมอบลำไยอบแห้งได้เพียง 44,613 ตัน ทั้งนี้เป็นเพราะเกิดปัญหาสต๊อคลมไม่มีลำไยอยู่จริง และปัญหาเรื่องการเสื่อมสภาพไม่สามารถนำมาแปรรูปได้จนต้องนำมาทำลาย มีผู้ร่วมขบวนการทุจริตที่อยู่ระหว่างการถูกดำเนินคดีถึง 2,200 ราย ประกอบด้วยผุ้สวมสิทธิ์ 1,300 ราย เกษตรกรที่แจ้งขึ้นทะเบียนเท็จ 8-900 ราย พนักงาน อ.ต.ก.ประจำหน่วยรับซื้อ 30 ราย ที่รวมหัวกันทุจริตคอรัปชั่น ทั้งนี้หากนำลำไยประมาณ 47,000 ตันที่สูญหายไปไม่สามารถนำมาทำลำไยอบแห้งจนเกิดความสูญเสียต่องบประมาณของ รัฐมาวางบริเวณท้องสนามหลวงจะได้กองลำไยที่สูงกว่าวัดพระแก้ว

นายชวนนท์ กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเครื่องสะท้อนปัญหาทุจริตที่เกิดขึ้นในยุค พ.ต.ท.ทักษิณ แต่รัฐบาลน้องสาวมาล้างผิดให้พี่ชาย เพราะกลัวว่าเรื่องนี้จะอื้อฉาวจนทำให้ประชาชนรู้ธาตุแท้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ
http://www.democrat....8&SECTION_ID=29
Thugsin ชื่อภาษาอังกฤษแบบเท่ๆของทักษิณ Thug = อันธพาล ผู้ก่อการร้าย Sin = บาปกรรม สิ่งเลวร้าย

#8 Classic

Classic

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 364 posts

ตอบ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 23:46

มันเอาเรื่องถือครองที่ดินมาล่อ. คนจะมาลงทุนในไทยทั้งทีเค้าดูกันแค่นี้หรือ. สั่วมากๆ