"พรรคประชาธิปัตย์ กับ องค์การนาซ่า มีฝ่ายนึงโกหกครับ" (Oak Panthongtae Shinawatra)
#101
ตอบ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 23:48
#102
ตอบ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 00:22
หากคิดว่า "เรื่องแค่นี้" ไม่จำเป็นต้องเอาเข้าสภา
ก็เดินหน้าอนุมัติให้มันเรียบร้อย ประเทศชาติได้ประโยชน์ไม่ใช่เหรอ
จะมาเกรงกลัวอะไร กับแมลงสาบฝ่ายค้าน จำนวนแค่หยิบมือ
ตอนนี้ก็ยังไม่สายนะ เปิดประชุมสมัยวิสามัญถกกัน ซักวันสองวัน
กล้ามั๊ยล่ะ????
#103
ตอบ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 00:24
แต่ลืมอะไรไปรึป่าว.......
ว่าอเมริกาไม่ได้ลงนามในสนธิสัญญารักษาสิ่งแวดล้อมนะ.....
สรุปได้ว่า....สตอเบอร์รี่ทั้งนาซ่า/เพนตาก้อน/รบ.ปู
#104
ตอบ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 12:02
สื่อรัสเซียก็ชอบจินตนาการด้วยเหรอเนี้ยสื่อรัสเซีย ตีข่าว อเมริกา เล็ง ไทยเป็นฐานทัพถาวร ใช้การสำรวจชั้นบรรยากาศบังหน้า หวังคานอำนาจจีน กลับสู่ยุคสงครามเย็น แฉ มะกัน ใช้อู่ตะเภา เป็นแหล่งเติมน้ำมัน ลำเลียงเสบียง บุคลากรไปยังอัฟกานิสถาน -อิรัค และส่งผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายไปยังฐานทัพกวนตานาโมที่คิวบา โดยเครื่องบินล่องหน สเตลท์ ระบุ จีนกังวลหนักกดดันประเทศในภูมิภาคเอเชียฯไม่ให้ร่วมมือกับสหรัฐ
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 55 เวปไซด์ The Voice Of Russia
http://english.ruvr....06_26/79350701/ซึ่งเป็นสถานีวิทยุของรัฐบาลรัสเซีย ได้เสนอบทความเกี่ยวกับกรณีที่สหรัฐอเมริกามีความต้องการที่จะใช้ประเทศไทยเป็นฐานทัพของอเมริกาเพื่อคานอำนาจจีน มีเนื้อหาดังนี้
หัวข้อ ประเทศไทยมีแนวโน้มว่าจะเป็นอีกหนึ่งประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ที่กองทัพอเมริกันจะใช้เป็นฐานทัพถาวร
ตอนนี้เพนตาก้อนกำลังพิจารณาที่จะกลับสู่ อู่ตะเภา หลังจากที่เคยใช้สถานที่นี้เป็นฐานทัพในช่วงสงครามเวียดนาม โดยในปัจจุบันอู่ตะเภา เป็นสนามบินภาณิชย์ที่ให้บริการเครื่องบินเหมาลำจากรัสเซีย และประเทศแถบตะวันออก เป็นหลัก Leon Panetta รมว.ต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา กล่าวในการประชุมเรื่องความมั่นคงในประเทศสิงคโปร์ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า ทางนาซากำลังพิจารณาใช้สนามบินอู่ตะเภา เพื่อสำรวจชั้นบรรยากาศ ซึ่งในการประชุมดังกล่าว รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯยังกล่าวด้วยว่า สหรัฐฯจะย้ายฐานกำลังทหารเรือประมาณ 60% ไปประจำตามน่านน้ำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อที่จะสร้างความสมดุลกับกองกำลังของประเทศจีน ทั้งนี้แหล่งข่าวในกองทัพไทย แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ว่า ไม่เชื่อว่าสหรัฐจะสำรวจเฉพาะชั้นบรรยากาศเพียงอย่างเดียว และมีความกังวลเกี่ยวกับความรู้สึกของจีนต่อกรณีดังกล่าว
ทั้งนี้ความกังวลในเรื่องนี้น่าจะมีมูล เพราะมีบริษัทของสหรัฐที่ประจำที่อุ่ตะเภาทำหน้าที่ซ่อมบำรุงให้กับเครื่องบินและเรือของสหรัฐอเมริกา ที่ทำหน้าที่ลำเลียงเสบียงและบุคลากรไปยังประเทศอัฟกานิสถานกับอิรัค และมีกระแสข่าวว่าทหารอเมริกันใช้อูตะเภาเป็นแหล่งพักระหว่างเติมน้ำมันเพื่อส่งตัวผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายไปยังฐานทัพกวนตานาโมในคิวบา โดยเครื่องบินล่องหนสเตลท์
ผู้เชี่ยวชาญที่มาจากกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย มีความเห็นว่า ทางวอชิงตันอยากให้ไทยช่วยสังเกตการณ์ทางอากาศเพื่อสำรวจความเคลื่อนไหวทั้งหมดผ่านเส้นทางการเดินเเรือจากประเทศตะวันออกกลาง จนถึงทะเลแปซิฟิค ซึ่งเป็นเส้นทางเรือที่จีนใช้ในการติดต่อการค้ากับประเทศแอฟริกาและเอเชีย
“ตอนนี้สหรัฐกังวลเรื่องศักยภาพทางเศรษจกิจของจีนที่กำลังเติบโตที่อาจไปเพิ่มพูนศักยภาพทางทหารและการเมืองให้ก้าวขึ้นสู่การเป็นมหาอำนาจในระดับโลก จึงเป็นเหตุผลที่ทางสหรัฐมีความจำเป็นที่จะคานอำนาจจีนด้วยการย้อนกลับไปสู่สงครามเย็นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2” นาย Andrei Volodin กล่าว
การดำเนินการทั้งหมดของสหรัฐก็เพื่อขยายฐานอำนาจของตัวเองให้มีบทบาทมากขึ้นในเอเชียแปซิฟิค ทางสหรัฐกำลังพิจารณาที่จะกลับไปมีฐานทัพที่ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ซึ่งผู้เชี่ยวชาญหลายคนมีความเห็นว่า เรื่องเหล่านี้จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในเวลาอันใกล้นี้ ทำให้จีนมีปฏิกริยาตอบโต้และวางยุทธศาสตร์เพื่อรับมือกับยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงใหม่ของอเมริกา โดยต้องแสดงออกให้ประเทศในภูมิภาคนี้ที่ต้องพึ่งพาจีนได้รับทราบความกังวลดังกล่าวเพื่อจะได้ไม่อำนวยความสะดวกให้กับสหรัฐ
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 55 ซีซีทีวีของจีน ได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับมติครม.ไทยไม่อนุมัตให้นาซาใช้อู่ตะเภาเป็นฐานปฏิบัติการสำรวจชั้นบรรยากาศ และตั้งข้อสังเกตว่านักวิทยาศาสตร์ไทยไม่ให้ความสำคัญกับการที่จะมีเครื่องบินที่มีศักยภาพสุงด้านการสอดแนมอย่าง ER - 2 ที่จะถูกนำมาใช้ในปฏิบัติการของนาซา บินเหนือน่านฟ้าไทย พร้อมกับระบุว่าเครื่องบินดังกล่าวสามารถบินหนีระบบการตรวจสอบของเรดาร์ในทวีปเอเชียได้ด้วย
http://english.ruvr....06_26/79350701/
#105
ตอบ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 12:39
จากเพจสายตรงภาคสนาม
สื่อรัสเซียก็ชอบจินตนาการด้วยเหรอเนี้ย
สื่อรัสเซีย ตีข่าว อเมริกา เล็ง ไทยเป็นฐานทัพถาวร ใช้การสำรวจชั้นบรรยากาศบังหน้า หวังคานอำนาจจีน กลับสู่ยุคสงครามเย็น แฉ มะกัน ใช้อู่ตะเภา เป็นแหล่งเติมน้ำมัน ลำเลียงเสบียง บุคลากรไปยังอัฟกานิสถาน -อิรัค และส่งผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายไปยังฐานทัพกวนตานาโมที่คิวบา โดยเครื่องบินล่องหน สเตลท์ ระบุ จีนกังวลหนักกดดันประเทศในภูมิภาคเอเชียฯไม่ให้ร่วมมือกับสหรัฐ
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 55 เวปไซด์ The Voice Of Russia
http://english.ruvr....06_26/79350701/ซึ่งเป็นสถานีวิทยุของรัฐบาลรัสเซีย ได้เสนอบทความเกี่ยวกับกรณีที่สหรัฐอเมริกามีความต้องการที่จะใช้ประเทศไทยเป็นฐานทัพของอเมริกาเพื่อคานอำนาจจีน มีเนื้อหาดังนี้
หัวข้อ ประเทศไทยมีแนวโน้มว่าจะเป็นอีกหนึ่งประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ที่กองทัพอเมริกันจะใช้เป็นฐานทัพถาวร
ตอนนี้เพนตาก้อนกำลังพิจารณาที่จะกลับสู่ อู่ตะเภา หลังจากที่เคยใช้สถานที่นี้เป็นฐานทัพในช่วงสงครามเวียดนาม โดยในปัจจุบันอู่ตะเภา เป็นสนามบินภาณิชย์ที่ให้บริการเครื่องบินเหมาลำจากรัสเซีย และประเทศแถบตะวันออก เป็นหลัก Leon Panetta รมว.ต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา กล่าวในการประชุมเรื่องความมั่นคงในประเทศสิงคโปร์ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า ทางนาซากำลังพิจารณาใช้สนามบินอู่ตะเภา เพื่อสำรวจชั้นบรรยากาศ ซึ่งในการประชุมดังกล่าว รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯยังกล่าวด้วยว่า สหรัฐฯจะย้ายฐานกำลังทหารเรือประมาณ 60% ไปประจำตามน่านน้ำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อที่จะสร้างความสมดุลกับกองกำลังของประเทศจีน ทั้งนี้แหล่งข่าวในกองทัพไทย แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ว่า ไม่เชื่อว่าสหรัฐจะสำรวจเฉพาะชั้นบรรยากาศเพียงอย่างเดียว และมีความกังวลเกี่ยวกับความรู้สึกของจีนต่อกรณีดังกล่าว
ทั้งนี้ความกังวลในเรื่องนี้น่าจะมีมูล เพราะมีบริษัทของสหรัฐที่ประจำที่อุ่ตะเภาทำหน้าที่ซ่อมบำรุงให้กับเครื่องบินและเรือของสหรัฐอเมริกา ที่ทำหน้าที่ลำเลียงเสบียงและบุคลากรไปยังประเทศอัฟกานิสถานกับอิรัค และมีกระแสข่าวว่าทหารอเมริกันใช้อูตะเภาเป็นแหล่งพักระหว่างเติมน้ำมันเพื่อส่งตัวผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายไปยังฐานทัพกวนตานาโมในคิวบา โดยเครื่องบินล่องหนสเตลท์
ผู้เชี่ยวชาญที่มาจากกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย มีความเห็นว่า ทางวอชิงตันอยากให้ไทยช่วยสังเกตการณ์ทางอากาศเพื่อสำรวจความเคลื่อนไหวทั้งหมดผ่านเส้นทางการเดินเเรือจากประเทศตะวันออกกลาง จนถึงทะเลแปซิฟิค ซึ่งเป็นเส้นทางเรือที่จีนใช้ในการติดต่อการค้ากับประเทศแอฟริกาและเอเชีย
“ตอนนี้สหรัฐกังวลเรื่องศักยภาพทางเศรษจกิจของจีนที่กำลังเติบโตที่อาจไปเพิ่มพูนศักยภาพทางทหารและการเมืองให้ก้าวขึ้นสู่การเป็นมหาอำนาจในระดับโลก จึงเป็นเหตุผลที่ทางสหรัฐมีความจำเป็นที่จะคานอำนาจจีนด้วยการย้อนกลับไปสู่สงครามเย็นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2” นาย Andrei Volodin กล่าว
การดำเนินการทั้งหมดของสหรัฐก็เพื่อขยายฐานอำนาจของตัวเองให้มีบทบาทมากขึ้นในเอเชียแปซิฟิค ทางสหรัฐกำลังพิจารณาที่จะกลับไปมีฐานทัพที่ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ซึ่งผู้เชี่ยวชาญหลายคนมีความเห็นว่า เรื่องเหล่านี้จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในเวลาอันใกล้นี้ ทำให้จีนมีปฏิกริยาตอบโต้และวางยุทธศาสตร์เพื่อรับมือกับยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงใหม่ของอเมริกา โดยต้องแสดงออกให้ประเทศในภูมิภาคนี้ที่ต้องพึ่งพาจีนได้รับทราบความกังวลดังกล่าวเพื่อจะได้ไม่อำนวยความสะดวกให้กับสหรัฐ
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 55 ซีซีทีวีของจีน ได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับมติครม.ไทยไม่อนุมัตให้นาซาใช้อู่ตะเภาเป็นฐานปฏิบัติการสำรวจชั้นบรรยากาศ และตั้งข้อสังเกตว่านักวิทยาศาสตร์ไทยไม่ให้ความสำคัญกับการที่จะมีเครื่องบินที่มีศักยภาพสุงด้านการสอดแนมอย่าง ER - 2 ที่จะถูกนำมาใช้ในปฏิบัติการของนาซา บินเหนือน่านฟ้าไทย พร้อมกับระบุว่าเครื่องบินดังกล่าวสามารถบินหนีระบบการตรวจสอบของเรดาร์ในทวีปเอเชียได้ด้วย
http://english.ruvr....06_26/79350701/
ไม่ต้องไปถึงสื่อรัฐเชีย หรอกครับ แค่กรรมมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา ก็จินตนาการน้ำแตกเหมือนกัน
ภึงได้เสนอ มาแบบนี้ นี้ ปาไป 4 วันแล้ว คนกลางมันยังไม่กล้าตอบเลย แม้ทำจีนวิตก ถุย หน่ิวยงานที่ดูแลเรื่องพวกนี้วิตกก่อนจีนอีกแล้วคิดว่าจีนชิวๆ ไม่วิตก มาวิตก เพราะปชป. จีนเขาสะกิดมาหลายครั้งแล้ว ไอ้กลางไข่แม้ว
Edited by ter162525, 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 12:41.
ผู้ใช้ 2 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 2 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน