ข่าวที่คนไทยปิติยินดีถ้วนหน้า คือข่าว ในหลวงจะเสด็จ พระราชดำเนินทางชลมารค โดยเรือพระที่นั่งอังสนา จากโรงพยาบาลศิริราช ไปทรงเปิดเขื่อนและโครงการ 5 แห่ง ใน 7 ก.ค. 55 เวลา 18.30 น. โครงการชลประทาน อันเนื่องพระราชดำริ 5 โครงการ ได้แก่ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก ประตูระบายน้ำ อุทกวิภาชประสิทธิ จ.นครศรีธรรมราช ประตูระบายน้ำธรณิศนฤมิต จ.นครพนม และอุโมงค์ผันน้ำ ลำพะยังภูมิพัฒน์ จ.กาฬสินธุ์ และจะเปิดให้ประชาชน เข้าชมพระบารมี บริเวณสองฝั่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา ไปจนถึงเกาะเกร็ด จ.นนทบุรี
โครงการทั้ง 5 จะเป็นส่วนสำคัญ ในการจัดการน้ำ อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพ ในการแก้ไขปัญหา น้ำท่วมน้ำแล้ง ได้เป็นอย่างดี โดยเป็นส่วนหนึ่ง ในกว่า 2,000 โครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริ เพื่อแก้ไข้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง ให้ประชาชน
การเสด็จฯ นี้จะมีการถ่ายทอดสด ตลอดเส้นทาง เสด็จพระราชดำเนิน กระทั่งเสด็จฯกลับในเวลา 20.00 น.
เรือพระที่นั่ง "อังสนา" กรมอู่ทหารเรือ ร่วมกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ต่อถวาย เมื่อปี 2545 ทดลองใช้น้ำมัน แบบไบโอดีเซล บี 100 โดยใช้ปาล์มน้ำมัน เป็นวัตถุดิบ ตามแนวพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อลดมลพิษและควันดำ ปกป้องสิ่งแวดล้อม เพื่อใช้รับรองพระราชอาคันตุกะ ประมุขของประเทศต่างๆ แขกระดับสูงของรัฐบาล ขนาดตัวเรือยาว 49 เมตร กว้าง 10 เมตร รองรับผู้โดยสารประมาณ 250 คน ใช้เครื่องยนต์เรือจากประเทศเยอรมนี มีขนาด 591 แรงม้า 2 เครื่องยนต์ มีเครื่องไฟฟ้า 237 แรงม้า 2 เครื่อง ความเร็วสูงสุด 12 น็อต ภายในตกแต่ง อย่างหรูหรา พร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวย ความสะดวก รวมทั้งระบบความปลอดภัยสูงสุด
Siriwanna Jill
สุภา วงค์เมือง ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน