Jump to content


Photo
- - - - -

ปวดตับ กับ " หงอก เจียม "


This topic has been archived. This means that you cannot reply to this topic.
27 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 เด็กปากดี

เด็กปากดี

    I am Royalist

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,947 posts

ตอบ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 20:14

Posted Image



https://www.facebook...2&type=1&ref=nf


ไอพวกชาบูๆ ก็นะ ไปดูกันเอาครับ


สจฺ จํ เว อมตา วาจา คำสัตย์แลเป็นวาจาไม่ตาย

#2 เพลิงสีนิล

เพลิงสีนิล

    สมาชิก ชั้น 7 โฟร์ซีซั่น

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,629 posts

ตอบ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 20:16

ทุกวันนี้ นักการเมืองมันก็ใช้สอยกันได้ตามใจอยู่แล้ว

หรือ หงอก เจียม ว่าไม่จริง

[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ     เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]


#3 เพลิงสีนิล

เพลิงสีนิล

    สมาชิก ชั้น 7 โฟร์ซีซั่น

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,629 posts

ตอบ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 20:22

ส่วนถ้านักการเมือง ออกกฎหมายแบบนี้ บ้านเมืองจะลุกเป็นไฟไหน

ไม่ลุกหรอกครับถ้า นักการเมือนคนนั้นเป็นคนดี และ คนทั้งประเทศยอมรับ

ไม่ใช่แค่ สิบห้าล้านเสีย และ ชาบู กันเข้าไป

[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ     เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]


#4 อู๋ ฮานามิ

อู๋ ฮานามิ

    สมาชิกหน้าเก่า

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,018 posts

ตอบ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 20:25

เก่งแต่ในโลกไซเบอร์ แต่เอ๋อแดรกในโลกแห่งความเป็นจริง ก็เป็นแบบนี้แหละ

Edited by อู๋ ฮานามิ, 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 20:26.

ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด

 

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ


#5 Pasitnat

Pasitnat

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 594 posts

ตอบ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 20:42

ฝากเด็กปากดีไปบอกคุมเจียมด้วยว่า

"เสียงส่วนใหญ่เขาเห็นด้วยที่จะให้พระองค์ทรงใช้ตามราชอัธยาศัยไงครับท่าน

ไม่ประชาธิปไตยตรงไหนเนี่ย ถามหน่อย"
ผมเกลียดนักการเมืองเลวๆ นายทุนเลวๆ มาเฟียและคนทำตัวกักขฬะครับ

#6 shinethai

shinethai

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 316 posts

ตอบ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 20:44

ไอ่โรคจิตนี่ทำไมมันยังสอนเด็กๆ อยู่ได้น่ะ
ทำไมปล่อยให้มัน ล้างสมองเด็ก (ผมเน้นเลยว่าเด็ก เพราะเด็กมหาลัยสมัยนี้วุฒิภาวะน้อยมาก พอผ่านไอ้หัวเอเลี่ยนแล้วจะถูกล้างแล้วเติมน้ำชาจนล้นถ้วยทุกคน)

เมื่ออธิการปัจจุบันก็ดีพอสมควร ทำไมไม่มีกระบวนการอะไรขับมันออกเลยหรือ
ไม่ปวดตับอย่างเดียว มันสร้างสภาวะมะเร็งในจิตใจกับลูกศิษย์มันทุกคน

Edited by shinethai, 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 20:46.

ผมไม่ต้อนรับพวกล้มเจ้า ไม่ต้องเสรือกเข้ามาในกระทู้ที่ผมตั้ง

#7 David_GinoLa

David_GinoLa

    สมาชิกระดับไพร่

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,561 posts

ตอบ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 20:47

ใครก็ได้อธิบายคำว่า ภายใต้บังคับให้หน่อยครับ


มาตรา 6*

รายได้จากทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ที่กล่าวใน มาตรา 5 วรรคสองนั้น จะจ่ายได้ก็แต่เฉพาะในประเภทรายจ่ายที่ต้อง จ่ายตามข้อผูกพัน รายจ่ายที่จ่ายเป็นเงินเดือน บำเหน็จ บำนาญ เงินรางวัล เงินค่าใช้สอย เงินการจร เงินลงทุน และรายจ่ายในการพระราชกุศล เหล่านี้เฉพาะที่ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตแล้วเท่านั้น

รายได้ซึ่งได้หักรายจ่ายตามความในวรรคก่อนแล้ว จะจำหน่าย ใช้สอยได้ก็แต่โดยพระมหากษัตริย์ตามพระราชอัธยาศัย ไม่ว่าในกรณีใด ๆ หรือโดยคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เฉพาะในกรณีที่เกี่ยวกับการ พระราชกุศลอันเป็นการสาธารณะหรือในทางศาสนาหรือราชประเพณี บรรดาที่เป็นพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์เท่านั้น

มาตรา 7*

ภายใต้บังคับแห่งมาตรา 6 ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จะโอนหรือจำหน่ายได้ก็แต่เพื่อประโยชน์แก่ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และ โดยได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตหรือเพื่อสาธารณประโยชน์อันได้มี บทกฎหมายให้โอนหรือจำหน่ายได้เท่านั้น

http://www.baanjomyu...law/02/096.html


Edited by David_GinoLa, 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 17:35.

"การเมืองต้องเป็นเรื่องการเสียสละ การเมืองคือภาระของทุกผู้การเมืองเรื่องส่วนรวมร่วมรับรู้ การเมืองต้องต่อสู้เพื่อส่วนรวม"เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

#8 ดราม่า

ดราม่า

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,395 posts

ตอบ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 23:15

สมศักดิ์ เจียมฯ มันจะให้นักการเมืองชั่วๆเข้ามาดูดทรัพย์ สำนักงานทรัพย์สินหรือครับ?

ที่มาของสำนักงานทรัพย์สิน ก็ก่อตั้งมาจากทรัพย์สินส่วนพระองค์ของสถาบันกษัตริย์

ไม่เห็นเกี่ยวกับใครตรงไหน?

นายเลียง ไชยกาล นักการเมืองไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอดีตหัวหน้าพรรคประชาชน เป็นผู้แทนราษฎรประเภทที่ 1 ของจังหวัดอุบลราชธานี เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงลือลั่นจากการเป็นผู้อภิปราย เรื่องการฉวยโอกาสซื้อที่ดินอันเป็นทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ของพรรคคณะราษฎร์ เมื่อปี พ.ศ. 2480 ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นกรณีร้อนทำให้ผู้มีอำนาจหลายคนต้องลาออกรวมไปถึงการยุบสภาของคณะรัฐบาลด้วย ซึ่งเป็นการยุบสภาครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ในส่วนตัวนายเลียงเองก็ถูกจดหมายข่มขู่เอาชีวิต ต่อมาได้เข้าสังกัดกับพรรคก้าวหน้า ที่มี หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นหัวหน้าพรรค


ปัญหาของรัฐบาลเจ้าคุณพหลฯก็ประเดประดังเข้ามาอีกเพราะเรื่อง “ที่ดินทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์” ซึ่งกลายเป็นประเด็นในสภาจนทำให้เจ้าคุณพหลฯเอือมระอาในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเลยทีเดียว เพราะประเด็นนี้ไปเกี่ยวพันกับคนใกล้ชิดของจ้าคุณพหลฯเสียเต็มเปา เพราะการซื้อที่ดินทรัพย์สินฯมาในราคาถูกกว่าปกติ รวมทั้งการประกาศขายแบบเงียบๆรู้กันเฉพาะในกลุ่มผู้มีอำนาจในวงรัฐบา ผู้ก่อการฯ หรือที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่า “เซ็งลี้”

ผลจากการอภิปรายที่ดุเดือดในสภาทำให้ผู้เกี่ยวข้องที่อย่างพระองค์เจ้าอาทิตทิพอาภา “ลาออก” จากตำแหน่งผู้สำเร็จราชการฯ เจ้าคุณพหลฯก็โชว์สปิริตนักประชาธิปไตย “ลาออก”เพื่อให้สภาตรวจสอบ หลังจากนั้นผู้ที่มีรายชื่อว่าซื้อที่ดินทรัพย์สินฯต่างนำที่ดินไปคืน เรื่องราวก็ยุติไป สภาเองก็ได้เลือกให้เจ้าคุณพหลฯกลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง เพราะยังหาผู้ที่เหมาะสมกว่านี้ไม่ได้ เจ้าคุณพหลฯก็กลับมาเป็น “พระเอก” อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ “เพื่อนพระเอก” หลายคนที่มีชื่อเสียเรื่องเซ็งลี้ที่ดินก็ไม่ได้กลับมาเป็นคณะรัฐมนตรีรัฐบาลพหลฯ ๔

http://www.oknation....t.php?id=772138


นักการเมืองมันจ่องที่ดินทรัพย์สินมานานแล้วครับแต่ยังไม่สบโอกาส

แต่มีกระบือวิชาการตัวหนึ่ง ไปเปิดลูกให้เข้าเท้านักการเมืองซะงั้น

Edited by ดราม่า, 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 23:18.

"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ" อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก “ขอพูดอะไรแรงๆ สักครั้งในชีวิตค่ะ พูดแล้วจะร้องไห้...น้ำท่วมไม่กลัว กลัวอย่างเดียว...ผู้นำโง่ เพราะพวกเราจะตายกันหมด”หนูดี

#9 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 23:40

ผมอยากเข้าไปโต้ตอบกับสมศักดิ์ ต้องทำยังงัยครับ
มันไม่มีช่องให้คอมเม้นท์...หรือผมโง่เกินหว่า

#10 PKmaker

PKmaker

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 165 posts

ตอบ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 00:10

ไอ้ลูกหมา บรรพบุรุษ ของพ่อกู อุตส่าห์แลกเลือด เสี่ยงชีวิต กรำศึก นอนกลางดินกินกลางทราย
เพื่อรวมรวบที่ดิน ก่อร่างสร้างบ้านขึ้นมา เพื่อให้ลูกๆได้อยู่อาศัย ส่งลูกๆออกไปหาความรู้ต่างบ้านต่างเมือง
เพื่อจะได้รู้ทันโลก รักษาบ้านและที่ดินเอาไว้ให้ได้ในภายภาคหน้า
แต่มันดันรวมตัวกันมาบอกปู่ว่า จะขอดูแลบ้านและที่ดินเอง แล้วก็ออกกฎของบ้านมา บังคับให้ปู่ต้องตรอมใจ ไปต่างแดน
สมบัติของปู่ พวกมึงเอาไปปู้ยี่ปู้ยำกันแค่ไหนแล้ว พอตกมาถึงพ่อ
*คุณ*จะบอกว่า ถ้าพ่อเอาสมบัติปู่ ที่ส่งต่อให้พ่อไว้ใช้สอยต้องขออนุญาตมึงก่อนเหรอ
*คุณ*เคยแหกตาดูบ้างหรือเปล่าว่า พ่อเอาสมบัติไปใช้ทำอะไรบ้าง
ลูกๆของพ่อกู อยู่ไกลแค่ไหน สุดเขตแดน เหนือ ใต้ ออก ตก ก็ไม่เคยพ้นสายตาของพ่อ
พ่อกูเหนื่อยกาย แค่ไหนไม่รู้ แต่ตั้งแต่กูเกิด ถ้าพ่อกูไม่ป่วยหนักจนต้องเข้าโรงหมอ
กูไม่เคยเห็นพ่อกูหยุดเอาสมบัติไปใช้...เพื่อลูกหลานพี่น้องกู ที่ยังลำบากอยู่ในบ้านและที่ดินของพ่อกูเลย
จนพี่น้องกู ลูกหลานพ่อกู ที่เคยทุกข์ยากลำบาก พอได้ลืมตาอ้าปากได้บ้าง
พ่อกูเหนื่อย เพื่อให้พี่น้องกูสบาย พวกมึงก็เอาความโลภ กิเลสต่างๆ มาหลอกให้พี่น้องกูลำบากอีก
พ่อกูก็ต้องมาเหนื่อยยยยย เพื่อช่วยพี่น้องกูอีกกกกกกก พวกมึงจะแกล้งพ่อกูไปถึงไหน
เหนื่อยกายมาหลายสิบปี ไม่เท่าเหนื่อยใจ กับไม่กี่ปีที่พวกมึงทำกันเนี่ย ไอ้พวกลูกหมา
พ่อ แม่ พวกมึงเคยสำเหนียกในบุญคุณที่เคยคุ้มกะลาหัวโคตรมึงมา และบอกให้มึงรู้บ้างหรือเปล่า ไอ้ลูกหมา เอ๊ยยยยย

#11 เจดีย์

เจดีย์

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 33 posts

ตอบ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 00:35

1 ในสมัยรัชกาลที่ 7 สมบัติของแผ่นดินคือพระคลังหลวง คนละส่วนกับพระคลังข้างที่
2 ประชาชนต่างมีโฉนดเป็นของตนเอง รัฐวิสาหกิจก็มีโฉนดของตนเองเช่นการรถไฟ พระคลังข้างที่ก็มีโฉนดเป็นของตนเอง แยกจากพระคลังหลวง
3 ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์คือพระคลังข้างที่ เงินถุงแดงที่มากู้ชาติในสมัยรัชกาลที่5คือเงินส่วนนี้
4 ในสมัยรัชกาลที่5เงินที่ส่งพระโอรสไปเรียนเมืองนอกคือเงินพระคลังข้างที่ ทุนเล่าเรียนหลวงของประชาชนมาจากพระคลังหลวง
5 หลังปฏิวัติ2475พระคลังข้างที่ยังเป็นสมบัติของพระมหากษัตริย์
6 หลังจากกบฏบวรเดช พวกกบฏได้เงินจากพระคลังข้างที่ โดยความสัมพันธ์ส่วนตัวกับผู้ดูแล
7 คณะราษฎร์ไม่พอใจมากออกกฏหมายมาเพื่อจัดการกับพระคลังข้างที่
7.1พระราชวังทั้งหมดให้ตกเป็นของแผ่นดิน(พระคลังหลวง)
7.2ทรัพย์สินส่วนพระองค์ก่อนครองราชสมบัติถือเป็นทรัพย์ส่วนพระองค์ต้องเสียภาษี
7.3พระคลังข้างที่ให้ตั้งเป็นสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์รัฐมนตรีคลังคือรัฐบาลเป็นผู้ดูแล ทรัพย์สินส่วนนี้ไม่ต้องเสียภาษีแต่ห้ามมิให้ตกทอดเป็นมรดก หลังจากหักค่าใช้จ่ายหรือดำเนินการต่างๆให้ใช้ตามพระราชอัธยาศัย
8 ตลอดรัชสมัยของรัชกาลที่8มีแต่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ถูกใช้ไปตามความประสงค์ของผู้มีอำนาจ เช่นจอมพลป.สั่งให้สำนักงานทรัพย์สินไปซื้อที่ดินและสร้างสวางคนิวาส ที่ดินที่เหลือก็มาให้เช่ากันราคาถูก ทำเหมือนกับที่ของตนเองทั้งๆที่เป็นที่เช่าจนปัจจุบันนี้ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่9 ค่าเช่าที่ดินก็ยังถูกเหมือนเดิม
9 ปัจจุบันสำนักงานทรัพย์สินมีรายได้เทียบกับทรัพย์สินน้อยมากถ้าจำไม่ผิดรายได้4000ล้านบาทเทียบกับทรัพย์สินหลายแสนล้านทรัพย์สินส่วนใหญ่คือที่ดิน เนื่องจากค่าเช่าถูกมาก นอกจากนั้นสำนักงานทรัพย์สินฯยังมีโครงการมากมายเช่นพิพิธภัณฑ์รัตนโกสินทร์ โครงการริมแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์
10จะมีใครมาอ้างได้อย่างไรว่าเป็นสมบัติของแผ่นดิน เป็นของพระมหากษัตริย์ภายใต้กฏหมาย เช่นเดียวกับที่รถไฟ เป็นของการรถไฟ สมศักดิ์ไม่ลองไปล้วงลูกมาดูบ้างจะเป็นประโยชน์กับแผ่นดินแต่คงทำไม่เป็นในหัวมีแต่ล้ม...

Edited by เจดีย์, 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 01:02.


#12 ID007

ID007

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,055 posts

ตอบ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 01:46

มันเก็บกดที่โดนเมียริบเงินเดือน ให้มาใช้แค่วันละ 100 มั๊ง เลยเอาสภาพตัวเอง เป็นมาตราฐานในการวิจารณ์

#13 ดราม่า

ดราม่า

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,395 posts

ตอบ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 09:24

ผมอยากเข้าไปโต้ตอบกับสมศักดิ์ ต้องทำยังงัยครับ
มันไม่มีช่องให้คอมเม้นท์...หรือผมโง่เกินหว่า


เฟสบุ๊คมันตั้งค่าได้หลายแบบ ของ ส.ศิวลักษ์ เขาปล่อยให้โพสได้เสรี

แต่ของสมศักดิ์ เจียมฯมันตั้งค่าไว้ว่าต้องเป็น"เพื่อน"มันก่อนจึงโพสได้

ดังนั้นคุณampตั้งฝืนใจขอเป็นเพื่อนกับสมศักดิ์ เจียมฯก่อนครับ จึงเข้าไปถลกหนังมันได้
"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ" อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก “ขอพูดอะไรแรงๆ สักครั้งในชีวิตค่ะ พูดแล้วจะร้องไห้...น้ำท่วมไม่กลัว กลัวอย่างเดียว...ผู้นำโง่ เพราะพวกเราจะตายกันหมด”หนูดี

#14 ปังตอ

ปังตอ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,229 posts

ตอบ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 09:49

:lol: ........สักวันมันจะกระอักเลือดตาย....((คอยดู))
แหม๊...อยากไปเยี่ยวรดศพมันตอนที่มันตายจริงๆ



อย่าไปถือสามันเลยครับ จิตใจมันตอนนี้ไม่มีความสุขหรอก
เพราะตอนนี้มันก้อไม่ต่างจากขว้างลูกบอลเข้าหากำแพง
มันก้อกระดอนเด้งกลับมาหาตัวมันเองนั่นแหล่ะ...จิตใจมันต่ำกว่าสัตว์เดรัจฉานเยอะแล้ว
..... ^_^

ลูกหลานที่รัก จงจำปฏิปทานี้ไว้ “ถ้ามีความจำเป็นเราต้องเสียสละเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และปวงชนชาวไทย แม้แต่ชีวิตก็ต้องยอม”

 


#15 แมวกระป๋อง

แมวกระป๋อง

    ประชาแมวธรรมดา

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,793 posts

ตอบ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 10:09

1. ไอ้สามคนที่ยกมามือสะอาด???

2. ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นทรัพย์ของทางราชการ ไม่ใช่ส่วนพระองค์ โปรดอย่าทำให้เข้าใจผิด
เพราะผมคือประชาชนของในหลวง

#16 RiDKuN_user

RiDKuN_user

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,167 posts

ตอบ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 10:13

ความจริงทรัพย์สินเหล่านั้นควรเป็นของส่วนพระองค์ด้วยซ้ำ แต่ใครไม่รู้มายึดไปเป็นของรัฐ -_-
" ชีวิตผมไม่เคยกลัวอะไรทั้งนั้น ผมกลัวอย่างเดียว...กลัวจะถูกมองว่า 'ขายชาติ' " - The Last Tycoon

~ ทักษิณตาย เสรีไทยไชโย ~

#17 IAMDA

IAMDA

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,073 posts

ตอบ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 11:08

ตัดสินใจถูกแล้วที่สมัยเรียน ไม่เลือกเรียนเอกประวัติศาสตร์ ไม่งั้นฉันต้องมีควายเป็นครู

#18 หมูสนามจริง

หมูสนามจริง

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 330 posts

ตอบ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 11:22

ถ้าเจตนาดี คงไม่ยกข้อความในกฏหมายมาเพียงสั้น ๆ แล้วปล่อยให้คนคิดไปไกล
คุณหงอกเจียมนี่ ไม่ว่าจะเขียน จะพูด หรือจะทำอะไร ตีความได้ไปทางเดียวเท่านั้น
คือเขาไม่ศรัทธาในระบอบกษัตริย์ ทั้ง ๆที่ตัวเองก็ไม่ค่อยจะทำคุณอะไรให้ประชาชนทั้งชาติ
วิธีสู้กับพวกติงต๊อง
1.เฉย
2.ติงต๊องให้มากกว่า

#19 PKmaker

PKmaker

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 165 posts

ตอบ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 11:23

1. ไอ้สามคนที่ยกมามือสะอาด???

2. ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นทรัพย์ของทางราชการ ไม่ใช่ส่วนพระองค์ โปรดอย่าทำให้เข้าใจผิด


ช่วยหา "หลักฐาน" มายืนยันด้วยครับ
ว่าทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นทรัพย์ของทางราชการ
บอกหน่อยครับ ว่า ราชการเอามาจากไหน ทำอย่างไรถึงมีมาได้ ครับ
อย่ามาใช้จินตนาการแบบไร้ตรรกะที่นี่นะครับ !!!

#20 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 11:52


ผมอยากเข้าไปโต้ตอบกับสมศักดิ์ ต้องทำยังงัยครับ
มันไม่มีช่องให้คอมเม้นท์...หรือผมโง่เกินหว่า


เฟสบุ๊คมันตั้งค่าได้หลายแบบ ของ ส.ศิวลักษ์ เขาปล่อยให้โพสได้เสรี
แต่ของสมศักดิ์ เจียมฯมันตั้งค่าไว้ว่าต้องเป็น"เพื่อน"มันก่อนจึงโพสได้
ดังนั้นคุณampตั้งฝืนใจขอเป็นเพื่อนกับสมศักดิ์ เจียมฯก่อนครับ จึงเข้าไปถลกหนังมันได้


อ๋อ.....ขอบคุณครับ

เข้าใจละ
พอมันไม่พอใจ มันก็ปลดเราจากความเป็นเพื่อน
เหมือนทักษิณทำกับสุเทพ



เป็นประชาธิปไตยมาก

#21 แมวกระป๋อง

แมวกระป๋อง

    ประชาแมวธรรมดา

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,793 posts

ตอบ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 12:07


1. ไอ้สามคนที่ยกมามือสะอาด???

2. ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นทรัพย์ของทางราชการ ไม่ใช่ส่วนพระองค์ โปรดอย่าทำให้เข้าใจผิด


ช่วยหา "หลักฐาน" มายืนยันด้วยครับ
ว่าทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นทรัพย์ของทางราชการ
บอกหน่อยครับ ว่า ราชการเอามาจากไหน ทำอย่างไรถึงมีมาได้ ครับ
อย่ามาใช้จินตนาการแบบไร้ตรรกะที่นี่นะครับ !!!


สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จัดตั้งขึ้นภายใต้พระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ พุทธศักราช 2479 (ฉบับที่1) ทั้งนี้ ได้แบ่งแยก"ทรัพย์สินส่วนพระองค์" "ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์" และ "ทรัพย์สินส่วนสาธารณสมบัติของแผ่นดิน" ออกจากกัน "ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์" ให้อยู่ในความดูแลของกระทรวงการคลัง และได้จัดตั้งสำนักงานขึ้นโดยให้ชื่อว่า "สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์" โดยให้มีฐานะเทียบเท่ากอง สังกัดกรมคลัง (ปัจจุบันคือ กรมธนารักษ์) กระทรวงการคลัง และรับโอนหน้าที่การงานตลอดจนข้าราชการบางส่วนมาจากสำนักงานพระคลังข้างที่ รวมทั้งได้ขอใช้สถานที่ส่วนหนึ่งของสำนักงานพระคลังข้างที่ ในพระบรมมหาราชวัง เป็นที่ทำการสำนักงานด้วย
ต่อมามีการปรับปรุงแก้ไขพระ ราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินฯ อีก 2 ครั้ง เพื่อให้เกิดความเหมาะสม โดยประกาศใช้ พระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ (ฉบับที่ 2) พุทธศักราช 2484 เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2484 และ พระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ (ฉบับที่ 3) พุทธศักราช 2491 เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2491 โดยยกฐานะสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ขึ้นเป็นนิติบุคคล มีหน้าที่ดูแลรักษาและจัดประโยชน์อันเกี่ยวกับทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า "คณะกรรมการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์" ประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานกรรมการโดยตำแหน่ง และกรรมการอื่นอีกไม่น้อยกว่า 4 นาย ซึ่งพระมหากษัตริย์จะได้ทรงแต่งตั้ง และในจำนวนนี้จะได้ทรงแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระ มหากษัตริย์ 1 ท่าน ให้คณะกรรมการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มีอำนาจหน้าที่ดูแลโดยทั่วไป ซึ่งกิจการของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และให้ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มีอำนาจหน้าที่ตามที่ คณะกรรมการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มอบหมาย รวมถึงมีอำนาจลงนามเป็นสำคัญผูกพันสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ดังนั้น ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ของทุกปี จึงถือเป็นวันสถาปนาสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ที่มา : สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 173 ถ.นครราชสีมา ดุสิต กรุงเทพฯ 10300

ถ้าบังเอิญยาวกว่า สามบรรทัด ผมจะสรุปคร่าวๆให้ว่า ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ กับทรัพย์สินส่วนพระองค์ คนละเรื่องกันครับ
เพราะผมคือประชาชนของในหลวง

#22 PKmaker

PKmaker

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 165 posts

ตอบ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 12:28



1. ไอ้สามคนที่ยกมามือสะอาด???

2. ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นทรัพย์ของทางราชการ ไม่ใช่ส่วนพระองค์ โปรดอย่าทำให้เข้าใจผิด


ช่วยหา "หลักฐาน" มายืนยันด้วยครับ
ว่าทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นทรัพย์ของทางราชการ
บอกหน่อยครับ ว่า ราชการเอามาจากไหน ทำอย่างไรถึงมีมาได้ ครับ
อย่ามาใช้จินตนาการแบบไร้ตรรกะที่นี่นะครับ !!!


สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จัดตั้งขึ้นภายใต้พระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ พุทธศักราช 2479 (ฉบับที่1) ทั้งนี้ ได้แบ่งแยก"ทรัพย์สินส่วนพระองค์" "ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์" และ "ทรัพย์สินส่วนสาธารณสมบัติของแผ่นดิน" ออกจากกัน "ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์" ให้อยู่ในความดูแลของกระทรวงการคลัง และได้จัดตั้งสำนักงานขึ้นโดยให้ชื่อว่า "สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์" โดยให้มีฐานะเทียบเท่ากอง สังกัดกรมคลัง (ปัจจุบันคือ กรมธนารักษ์) กระทรวงการคลัง และรับโอนหน้าที่การงานตลอดจนข้าราชการบางส่วนมาจากสำนักงานพระคลังข้างที่ รวมทั้งได้ขอใช้สถานที่ส่วนหนึ่งของสำนักงานพระคลังข้างที่ ในพระบรมมหาราชวัง เป็นที่ทำการสำนักงานด้วย
ต่อมามีการปรับปรุงแก้ไขพระ ราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินฯ อีก 2 ครั้ง เพื่อให้เกิดความเหมาะสม โดยประกาศใช้ พระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ (ฉบับที่ 2) พุทธศักราช 2484 เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2484 และ พระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ (ฉบับที่ 3) พุทธศักราช 2491 เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2491 โดยยกฐานะสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ขึ้นเป็นนิติบุคคล มีหน้าที่ดูแลรักษาและจัดประโยชน์อันเกี่ยวกับทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า "คณะกรรมการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์" ประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานกรรมการโดยตำแหน่ง และกรรมการอื่นอีกไม่น้อยกว่า 4 นาย ซึ่งพระมหากษัตริย์จะได้ทรงแต่งตั้ง และในจำนวนนี้จะได้ทรงแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระ มหากษัตริย์ 1 ท่าน ให้คณะกรรมการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มีอำนาจหน้าที่ดูแลโดยทั่วไป ซึ่งกิจการของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และให้ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มีอำนาจหน้าที่ตามที่ คณะกรรมการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มอบหมาย รวมถึงมีอำนาจลงนามเป็นสำคัญผูกพันสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ดังนั้น ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ของทุกปี จึงถือเป็นวันสถาปนาสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ที่มา : สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 173 ถ.นครราชสีมา ดุสิต กรุงเทพฯ 10300

ถ้าบังเอิญยาวกว่า สามบรรทัด ผมจะสรุปคร่าวๆให้ว่า ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ กับทรัพย์สินส่วนพระองค์ คนละเรื่องกันครับ


ถ้าอย่างนั้น ขอความรู้เพิ่มเติมด้วยครับ
1. ก่อนปี 2479 ทรัพย์สินส่วนนี้ เป็นของใครครับ ใครดูแลครับ
2. กลุ่มคนที่ตราพระราชบัญญัติ ที่ว่า มีส่วนมากน้อยแค่ไหน ในการสร้างหรือหามาซึ่งทรัพย์สินเหล่านี้
3. ถ้าจะแยกให้ถูกต้อง น่าจะแยกเป็น "ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์" กับ "ทรัพย์สินส่วนสาธารณสมบัติของแผ่นดิน"
เพราะถ้าข้าฯพระบาทพูดถึง พระมหากษัตริย์ แล้ว ทรัพย์สินส่วนพระองค์ ไม่ได้หมายถึง ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ หรือครับ
( ขอโทษนะครับ เกินไป 2 บรรทัด )

#23 แมวกระป๋อง

แมวกระป๋อง

    ประชาแมวธรรมดา

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,793 posts

ตอบ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 12:35

ถ้าอย่างนั้น ขอความรู้เพิ่มเติมด้วยครับ
1. ก่อนปี 2479 ทรัพย์สินส่วนนี้ เป็นของใครครับ ใครดูแลครับ
2. กลุ่มคนที่ตราพระราชบัญญัติ ที่ว่า มีส่วนมากน้อยแค่ไหน ในการสร้างหรือหามาซึ่งทรัพย์สินเหล่านี้
3. ถ้าจะแยกให้ถูกต้อง น่าจะแยกเป็น "ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์" กับ "ทรัพย์สินส่วนสาธารณสมบัติของแผ่นดิน"
เพราะถ้าข้าฯพระบาทพูดถึง พระมหากษัตริย์ แล้ว ทรัพย์สินส่วนพระองค์ ไม่ได้หมายถึง ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ หรือครับ
( ขอโทษนะครับ เกินไป 2 บรรทัด )


ขออนุญาตตัดนะครับ เดี๋ยวมันยาวไป ^^
ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ไม่ได้หมายถึงทรัพย์สินส่วนพระองค์ที่จะสามารถนำไปใช้หรือรับผลประโยชน์เป็นการส่วนพระองค์ได้ครับ
ผมเกรงว่าถ้าสับสน จะเข้าทางพวกเสื้อแดงต้องการบิดเบือนให้ประชาชนไขว้เขวนะครับ
เพราะผมคือประชาชนของในหลวง

#24 เจดีย์

เจดีย์

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 33 posts

ตอบ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 13:18


ถ้าอย่างนั้น ขอความรู้เพิ่มเติมด้วยครับ
1. ก่อนปี 2479 ทรัพย์สินส่วนนี้ เป็นของใครครับ ใครดูแลครับ
เรียกว่าพระคลังข้างที่ดูแลทรัพย์สินของพระมหากษัตริย์ ในสมัยรัชกาลที่5มีการออกโฉนดแบ่งแยกชัดเจน ที่เอกชนที่การรถไฟ ที่สวนที่นา คนละส่วนกับพระคลังหลวง ที่ดินพระคลังหลวงปัจจุบันคือที่ราชพัสดุ
2. กลุ่มคนที่ตราพระราชบัญญัติ ที่ว่า มีส่วนมากน้อยแค่ไหน ในการสร้างหรือหามาซึ่งทรัพย์สินเหล่านี้
คณะราษฎร์ผู้ที่ไม่เคยลงเลือกตั้งออกพรบปี2479 แบ่งทรัพย์สินของพระคลังข้างที่เป็น3ส่วน พระราชวังให้โอนไปเป็นของพระคลังหลวง ทรัพย์สินก่อนขึ้นครองราชย์ให้เป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์ต้องเสียภาษี ส่วนที่เหลือให้ตั้งเป็นสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ รัฐมนตรีคลังเป็นประธาน
สมัยรัชกาลที่8 ท่านเป็นยุวกษัตริย์ ผู้สำเร็จราชกาลดูแลจะเอาอย่างไรก็ต้องโอนอ่อนผ่อนตามผู้มีอำนาจอยู่แล้ว
3. ถ้าจะแยกให้ถูกต้อง น่าจะแยกเป็น "ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์" กับ "ทรัพย์สินส่วนสาธารณสมบัติของแผ่นดิน"
เพราะถ้าข้าฯพระบาทพูดถึง พระมหากษัตริย์ แล้ว ทรัพย์สินส่วนพระองค์ ไม่ได้หมายถึง ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ หรือครับ
( ขอโทษนะครับ เกินไป 2 บรรทัด )
การใช้สอยทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์นี้มีกฏหมายระบุไว้ ไม่สามารถเป็นมรดกได้


ขออนุญาตตัดนะครับ เดี๋ยวมันยาวไป ^^
ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ไม่ได้หมายถึงทรัพย์สินส่วนพระองค์ที่จะสามารถนำไปใช้หรือรับผลประโยชน์เป็นการส่วนพระองค์ได้ครับ
ผมเกรงว่าถ้าสับสน จะเข้าทางพวกเสื้อแดงต้องการบิดเบือนให้ประชาชนไขว้เขวนะครับ

ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ก็คือทรัพย์สินส่วนพระองค์ของราชวงค์จักรีไม่ใช่พระคลังหลวง คณะราษฏร์ออกกฏหมายมาควบคุมนี่ก็ละเมิดสิทธิเดิมของท่านมากไปแล้ว

#25 ริวมะคุง

ริวมะคุง

    ห้ามให้อาหารสัตว์

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,577 posts

ตอบ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 13:19

สิ่งเดียวที่ถูกต้องของลัทธิหงอกคือ แกนสมองของมัน :huh:
Posted Image

#26 PKmaker

PKmaker

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 165 posts

ตอบ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 13:38


ถ้าอย่างนั้น ขอความรู้เพิ่มเติมด้วยครับ
1. ก่อนปี 2479 ทรัพย์สินส่วนนี้ เป็นของใครครับ ใครดูแลครับ
2. กลุ่มคนที่ตราพระราชบัญญัติ ที่ว่า มีส่วนมากน้อยแค่ไหน ในการสร้างหรือหามาซึ่งทรัพย์สินเหล่านี้
3. ถ้าจะแยกให้ถูกต้อง น่าจะแยกเป็น "ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์" กับ "ทรัพย์สินส่วนสาธารณสมบัติของแผ่นดิน"
เพราะถ้าข้าฯพระบาทพูดถึง พระมหากษัตริย์ แล้ว ทรัพย์สินส่วนพระองค์ ไม่ได้หมายถึง ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ หรือครับ
( ขอโทษนะครับ เกินไป 2 บรรทัด )


ขออนุญาตตัดนะครับ เดี๋ยวมันยาวไป ^^
ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ไม่ได้หมายถึงทรัพย์สินส่วนพระองค์ที่จะสามารถนำไปใช้หรือรับผลประโยชน์เป็นการส่วนพระองค์ได้ครับ
ผมเกรงว่าถ้าสับสน จะเข้าทางพวกเสื้อแดงต้องการบิดเบือนให้ประชาชนไขว้เขวนะครับ


โทษทีครับ ผมพูดถึงเหตุ แต่คุณแมวกระป๋องพูดถึงผล เลยจูนไม่ตรงกันครับ
1. ราชสมบัติ+ราชบัลลังค์ ตกทอดกันมาแต่สมัยอยุธยา - ธนบุรี มาถึงต้นกรุงรัตนโกสินทร์
2. พระมหากษัตริย์ มีพระราชอำนาจที่จะนำไปใช้สอยได้เต็มที่
3. ส่วนใหญ่จะใช้เพื่อประโยชน์ของไพร่ฟ้า โดยมี คุณธรรมและทศพิศราชธรรม กำกับ (ซึ่งผมว่า ขลังกว่ารัฐธรรมนูญเยอะ)
4. มีกลุ่มคนมียึดอำนาจ และร่างรัฐธรรมนูญ
5. จากนั้น ก็อ้างแต่ว่า ต้องตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้
6. ก็อย่างที่เป็นมา ทุกอย่างดำเนินไปตามครรลอง ภายใต้ รัฐธรรมนูญ
7. โดยยังไม่เคยมี พระมหากษัตริย์พระองค์ใดละเมิดรัฐธรรมนูญ
8. แล้วเหล่าไพร่ฟ้า ที่อ้างว่าเป็นตัวแทนประชาชนเล่า ......
ทำไมคุณไม่มองข้อ 1-3 / คุณอ้างเพียงหลังจาก ข้อ 4 เป็นต้นไป

#27 David_GinoLa

David_GinoLa

    สมาชิกระดับไพร่

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,561 posts

ตอบ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 17:42

แนะนำให้อ่าน

http://akelovekae.bl...12/5-fobes.html
"การเมืองต้องเป็นเรื่องการเสียสละ การเมืองคือภาระของทุกผู้การเมืองเรื่องส่วนรวมร่วมรับรู้ การเมืองต้องต่อสู้เพื่อส่วนรวม"เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

#28 ugly-maew

ugly-maew

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 592 posts

ตอบ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 17:47

1. ไอ้สามคนที่ยกมามือสะอาด???

2. ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นทรัพย์ของทางราชการ ไม่ใช่ส่วนพระองค์ โปรดอย่าทำให้เข้าใจผิด


ไอ้หน้าซ่งตึง
"ขอเกิดเป็นข้าฯใต้ฝ่าพระบาททุกชาติไป"