Jump to content


Photo
- - - - -

ถลกหนัง HERE


  • Please log in to reply
81 replies to this topic

#1 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 9 July 2012 - 14:31

ส ศิวลักษณ์บอกว่าทักษิณเป็นเอี้ย ผมเห็นด้วย และคิดว่าส. เองก็เป็น

แกเปิด fb ปลดปล่อยอ่าเอี้ยอะไรออกมามากมาย
ผมเข้าไปโต้ตอบ แต่ระบบของชักโครกเบิร์กไม่ถูกใจเอาเสียเลย
ผมเลยขอเอามาปล่อยที่นี่ ให้เพื่อนๆ ออกความเห็น

ไล่ไปทีละเรื่องนะครับ

#2 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 9 July 2012 - 14:31

http://www.facebook....sulak.sivaraksa
ส.ศิวรักษ์ ถึง คณะมิสซังกรุงเทพ

ผมก็ดีใจนะ ที่มีคนเห็นด้วยเยอะ ที่ผมเสนอที่ทรัพย์สินส่วนพระมห[/font]ากษัตริย์นั้น ควรนำมาทำเป็นวันนา เพราะเมืองกรุงเทพนี่ มีตึกรามบ้านช่องเต็มไปหมดแล้ว แล้วมีสูงเท่าไหร่ ก็จะทำให้กรุงเทพทรุดไปเท่านั้น ดีไม่ดี น้ำจะท่วมกรุงเทพ ภายใน 20ปีข้างหน้าด้วยซ้ำไป เพราะฉะนั้นควรจะเลิกสร้างอาคารสูงๆได้แล้ว แล้วที่ที่ว่างๆนั้นควรจะทำเป็นวันนา ให้ต้นไม้ขึ้น ให้เป็นปอดของราชธานีแห่งนี้


นอกจากทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์แล้ว ผมอยากจะบอกให้ทราบว่า ที่ถนนสีลม แต่ก่อนถนนสีลมเกือบจะเรียกว่าเป็นเมืองสุดแดนของกรุงเทพเลย เลยทำที่ฝังศพเอาไว้ ส่วนหนึ่งเป็นของพวกจีนที่เรียกว่าจีนบ๋าบ๋า ยาย๋า ซึ่งคนพวกนี้เป็นคนมลายูผสมกันมาจากปีนัง อีกส่วนหนึ่งเป็นของจีนฮกเกี้ยน ถือพุทธ แต่ส่วนใหญ่เป็นของโรมันคาทอลิค แล้วเขาก็ย้ายหลุมฝังศพไปที่อื่นหมดแล้ว ได้ข่าวว่าเขาจะสร้างเป็นโรงพยาบาล ผมก็อยากจะขอร้อง อย่างที่ขอร้อง สำนักงานทรัพย์สินฯ ขอร้องไปยังพระอัครสังฆราช ประมุขมิซซังกรุงเทพฯ ว่าอย่าไปสร้างโรงพยาบาลเลย เพราะที่ฝ่ายคาทอลิคได้มา ไม่่ว่าจะทีในกรุงเทพ ที่ต่างจังหวัดนั้น มันมีกฏหมายพิเศษนะครับ ตั้งแต่ร.5 เพราะเราแพ้ฝรั่งเศส


แม้พวกอเมริกันมิชชันนารีั่ก็ซื้อที่ไม่ได้ แล้วถ้าเผื่อเป็นคนต่างชาติ ซื้อที่ต้องใส่ชื่อคนไทย แต่มิซซังฝรั่งเศส ซื้อที่ได้ เพราะเราทำสัญญาแพ้ฝรั่งไว้ อีกนัยหนึ่ง มิสซังกรุงเทพฯ มิสซังคาทอลิคได้ที่อะไรต่างๆมานี้ เพราะอำนาจการเมืองของฝรั่งเศสให้ ตอนนี้มิซซังกรุงเทพฯ บาทหลวงก็ดี สังฆราชก็ดี อัครสังฆราชก็ดี เป็นคนไทยทั้งนั้น ควรจะเลิกเอาอภิสิทธิ์จากจักรวรรดิฝรั่งเศสได้แล้ว แล้วควรจะอุทิศที่เหล่านั้นทำเป็นวันนา เพื่อถวายพระราชกุศลพระเจ้าอยู่หัว พระนางเจ้าฯพระชนม์ 80 เดือนสิงหาคมนี้ มกุฏราชกุมารพระชนม์ 60 สิ้นเดือนนี้


โิ้อ้โห ถ้ามิสซํงทำเช่นนี้ ไม่เฉพาะคาทอลิค โปรแตสเตนท์เท่านั้นที่จะอนุโมทนา พวกพุทธ พวกอะไร อนุโมทนาหมดเลย ศาสนาแม้จะต่างกัน แต่เราเป็นคนร่วมกัน เป็นคนไทยด้วยกัน จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี องค์รัชทายาท ด้วยกัน ถ้าทำเช่นนี้ ทุกคนจะแซ่ซร้องสรรเสริญ ยกย่องคณะมิซซังกรุงเทพ อย่างใหญ่หลวง เพราะว่า พวกบาทหลวง เวลานี้ แม้กระทั่งภราดา โรงเรียนอัสสัมชัญ เวลานี้ก็มักจะไปเห่อเงิน เห่อสิ่งก่อสร้างกัน ไม่แตกต่างไปจากพระภิกษุสงฆ์ส่วนใหญ่


ถ้าเผื่อว่ามิซซังกรุงเทพฯทำอันนี้ ก็จะแก้ไขได้เลยว่า ฝ่ายคาทอลิคไม่ได้เลวร้ายไปทั้งหมด มีดีๆมีควรยกย่องสรรเสริญได้ ฝากไว้ให้พิจารณา ถ้่าใครมาดู facebook อันนี้ เป็นคาทอลิค เข้าถึงพระคาดินัลก็ดี เข้าถึงอัครสังฆราชก็ดี ช่วยแนะนำให้ท่านคิดด้วย คนไทยเขาถือนะสอนหนังสือสังฆราช ทางฝ่ายคาทอลิคคงไม่ถือ สอนหนังสืออัครสังฆราช ก็คงไม่เสียหายอะไร



ปล
ผมจัดวรรคตอนให้อ่านง่ายขึ้น มีขีดเส้นใต้ประโยคปล่อยไก่ให้ดูด้วย

ปล2
แก้ตัวหนังสือให้อ่านง่ายขึ้นอีกครั้ง

Edited by amplepoor, 9 July 2012 - 14:44.


#3 baboon

baboon

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,801 posts

Posted 9 July 2012 - 14:36

ตัวเล็กจัง ปวดตา :blink:

#4 Emolution

Emolution

    โคตรพ่อโคตรแม่ควายแดง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,029 posts

Posted 9 July 2012 - 14:37

มึน!!!!!!!!!!!!!!!!! อิอิ

#5 baboon

baboon

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,801 posts

Posted 9 July 2012 - 14:38

คือไม่ให้ทำโรงพยาบาลแต่ให้เป็นสวนสาธารณะเหรอ :huh:

#6 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 9 July 2012 - 14:39

*
POPULAR

ต่อไปนี้คือข้อความที่ผมโต้แย้ง

เรียนตามตรงว่าท่านสุลักษณ์นี่ ยิ่งแก่ยิ่งโง่ อวดทะนงในความรอบรู้ แต่ดันรู้ผิดๆ
เท่านั้นยังไม่พอ ยังเอาความรู้ผิดๆ มาบอกต่อ ทำให้สังคมที่ควรอุดมปัญญา กลายเป็นอับจนปัญญาไปเสียนี่

1 เรื่องสีลมที่ท่านบอกว่า "เป็นเมืองสุดแดนของกรุงเทพเลย เลยทำที่ฝังศพเอาไว้" ทำให้รู้ว่าท่านนี่โง่ประวัติศาสตร์เกินจะเยียวยา
ท่านไม่รู้ประวัติศาสตร์ผังเมืองก็น่าจะเงียบ ท่านไม่รู้มานุษยวิทยาชุมชนก็น่าจะเล่าแค่โคตรตระกูลของท่าน อย่าสะเออะสู่รู้เรื่องที่เกินปัญญา
สีลมมิใช่เมืองสุดแดนอะไรเลย แล้วการเป็นสุดแดนก็ไม่ได้กำหนดมาเพราะว่าเพราะมีป่าช้า
ตอนนั้นสีลมเป็นเหมือนเมืองบริวารย่อยๆ ของพระนครด้วยซ้ำ หมายความว่าเป็นศูนย์กลางในตัวเอง เหมือนบางกอกใหญ่ หรือสามเสน...พวกนี้เป็นเมืองย่อยในเมืองหลวง

ที่เป็นอย่างนั้นเพราะผังเมืองของเราใช้ชุมชนเป็นหัวใจ ไม่ได้ใช้ภูมิประเทศ วิธีคิดอย่างนี้ พวกเห่อฝรั่งอย่างท่านคงไม่เข้าใจเพราะไม่ตรงกับตำราฝรั่ง อันนี้ก็ต้องโทษว่าท่านรู้น้อยเอง

เราเองเป็นผู้กำหนดให้ชาติตะวันตกต้องตั้งรกรากอยู่ใต้แม่น้ำ หรือใต้ป้อมป้อมป้องปัจจามิตร/ปิดปัจจานึกลงไป นี่คือตามสนธิสัญญาบาวริ่งที่บอกว่าห้ามกำปั่นขึ้นมาเกินสองป้อมนี้

หลังจากนั้น บริเวณนี้ก็คับคั่งด้วยผู้คนลามมาตั้งแต่ปากคลองผดุงกรุงเกษม กระจายไปทั้งทางตะวันออกและทางใต้ จนรัชกาลที่ 4 ต้องตัดถนนไปหา คือถนนเจริญกรุง

โถเสียทีที่เป็นคนตรอกสันติภาพ แต่ความรู้เกี่ยวกับถิ่นนี่ บ้าบอมืดมัวเสียจริงๆ

เมื่อมีคนอยู่กันมาก ก็ต้องมีคนตาย เขาก็ต้องตั้งป่าช้า ป่าช้าก็ต้องอยู่ไกล้ตัว ไปดูชุมชนเข้ารีตที่อยุธยาก็จะเห็นว่าเป็นรูปแบบที่เดินตามมาไม่ได้ผิดประหลาดอะไร

แต่ท่านส. คงจะนึกว่า ธรรมเนียมเรา เมืองมีประตูผี เป็นทางให้เอาศพออกไปทิ้งนอกเมือง ป่าช้าก็เลยต้องเป็นที่ห่างไกลกระมัง น่าขัน
นี่แหละผมจึงบอกว่าไม่รู้เรื่องมานุษยวิทยาเอาเสียเลย ดังนั้น มีป่าช้านานาชาติตรงนี้ ไม่ได้แปลว่าเป็นเมืองสุดแดน แต่แปลว่า เป็นชุมชนนานาชาติขนาดใหญ่ มีกิจกรรมทางวัฒนธรรมอันพลุกพล่าน ถ้าจะใช้คำว่าสุดแดนกรุงเทพในยุคปลายรัชกาลที่ 4 จนตลอดรัชกาลที่ 5 ต้องชี้ไปที่บางคอแหลม ถนนตก สำเหร่ ต่อไปบางปะกอกโน่น

ที่โต้แย้งมานี้ ไม่ได้หวังให้ท่านส. เข้าใจนะ เพราะท่านเป็นชาล้นแก้วมาแต่เด็ก แต่อยากให้ผู้อ่านคนอื่นๆ เห็นว่า คนที่ถูกยกย่องอะไรกันนี้น่ะ ที่จริงไม่ได้ดีกว่าเราเลย เพียงแต่เขามีความหน้าด้านที่จะเผยแพร่สิ่งผิดๆ ออกมาตลอดเวลา เปรียบเหมือนคนท้องร่วงที่รักษาไม่หาย ขี้เรี่ยราดไม่เคยเกรงใจใคร

#7 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 9 July 2012 - 14:40

*
POPULAR

2 เรื่องเอาที่ดินทำวนา(ส. คงจะใช้คำนี้นะ วนา แปลว่าสวน วันนาข้าพเจ้าแปลไม่ออก) ผมว่าที่ฝ่ายคริสต์จะทำโรงพยาบาลนั้น เหมาะสมกว่าทำสวนมากมายนัก
แถวนั้นไกล้แม่น้ำ ถือว่าเป็นพื้นที่สีเขียวที่ดีพอสมควร แล้วโดยมาตรฐานคริสต์เตียน เขารักษาสิ่งแวดล้อมดีกว่าวัดพุทธในเขตเมืองเสียอีก
เชื่อว่าโรงพบาบาลที่สร้าง จะเขียวพอสำหรับเมืองตามอัตภาพ ท่านควรจะเรียกร้องให้รื้อวัดพุทธคอนกรีตทำเป็นสวนจะดีกว่า จริงใหม

3 เรื่องทวงสิทธิตั้งแต่สมัยล่าอาณานิคม อันนี้ผมว่าท่านเลอะแล้วละ เรื่องผ่านมาจนปราศจากผลกระทบต่อปัจจุบัน ท่านยังจะเสี้ยมให้เกิดความร้าวฉาน นี่มันสันดานบ่างแท้ๆ
อีกอย่าง ท่านเองก็คุ้นเคยกับฝ่ายคริสเตียนดี น่าจะรู้ว่า นอกจากพวกที่หากินกับผรั่งแบบโคตรเง่าของท่าน ที่ขูดรีดสยาม คริสต์ทั่วไปนั้นไม่ได้เลวเหมือนท่าน
ไม่ได้อวดชุบตัวว่ามาจากนอกแล้วมาดูถูกคนไร้โอกาส คริสต์ที่สีลม บางรัก ยานนาวาไปถึงบางคอแหลม กลมกลืนสนิทสนมกับไทยและชาติอื่นๆ
ไม่เคยเกิดเหตุกระทบกระทั่งกันเลย ทั้งๆ ที่แถบนั้นมีกันอยู่เป็นสิบเชื้อชาติ ไม่เหมือนเจ๊กที่เป็นโคตรเง่าของท่าน ที่ก่อความไม่สงบเป็นนิจ
ไม่พอใจอะไรก็ระดมอั้งยี่ ไม่พอใจก็เลี๊ยะพะ ดูเหมือนท่านเองจะสืบสันดานถ่อยๆ เหล่านี้มาได้หมดจดทีเดียว

#8 baboon

baboon

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,801 posts

Posted 9 July 2012 - 14:46

เค้าชอบแนวนี้ รอฟังอย่างต่อเนื่อง

#9 โจโฉ นายกตลอดกาล

โจโฉ นายกตลอดกาล

    น้องใหม่

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,795 posts

Posted 9 July 2012 - 14:52

ขอบคุณคุณแอม ที่ขยายความให้ผมได่พอเข้าใจต่อ

งง กับคำว่า วันนา อยู่ตั้งนาน ส่วนตัวผมว่าที่ดินในมือสำนักทรัพย์สินก็บริหารจัดการดีอยู่แล้ว

แถมอยู่บนพื้นฐานของการอนุรักษ์สถาปัตย์อีกต่างหาก

การเช่าที่ยิ่งใครเคยเช่าที่จากสำนักทรัพย์สินตั้งแต่รุ่นดั้งเดิมจะรู้ว่าถูกมากๆในปัจจุบัน

ถ้าผมจำความไม่ผิดมีแม้กระทั่งบ้านที่เช่าสำนักทรัพย์สินเดือนละ 400 บาทด้วยซ้ำ

เหตุที่ราคานี้เพราะเป็นสัญญาเช่าผูกพันมาหลายสิบปี ผิดถูกขอท่านผู้รู้ช่วยแนะนำด้วย

ผมจำความได้ตามนี้จริงๆ
เชื่อเถอะ อีกไม่ช้า นายเวร จะเสียฉายา "ร้อยล๊อกอิน" ไปในไม่กีอึดใจนี้

#10 ริวมะคุง

ริวมะคุง

    ห้ามให้อาหารสัตว์

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,577 posts

Posted 9 July 2012 - 14:54

ชอบตรง พัวมาก นี่แหละจะจนไปใหนท่าน :lol:
Posted Image

#11 taze

taze

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 732 posts

Posted 9 July 2012 - 15:27

ติดตามๆ ผมไม่ได้ติดตามคนผู้นี้ แต่จำได้ว่าพ่อผมชอบอ่านหนังสือของเค้า แล้ว ผมกับพ่อก็งัดเรื่องหลายๆเรื่องมาวิวาทะตามประสาพ่อลูกพอหอมปากหอมคอ

"Power tends to corrupt, and absolute power corrupts absolutely."


#12 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 9 July 2012 - 16:35

ถาม: ใครฆ่า ร.8, ผู้นั้นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่, เราจะทราบความจริงหรือว่าความจริงจะถูกเปิดเผยเมื่อไหร่...

ส.ศิวรักษ์: ความจริงถูกเปิดเผยแล้ว แต่คนที่มืดบอดอยู่ก็มองไม่เห็น ถ้าคุณเปิดตาให้กว้าง เพราะสมัยนี้มันมีอินเทอร์เน็ต มันมีอะไรต่ออะไรที่ออกมาเยอะเยาะเลย ถึงแม้คุณจะห้ามไม่ให้เข้ามาในประเทศนี้ มันหาได้นอกประเทศ เหมือนเมืองจีนนะครับ เมืองจีนใหญ่กว่าเราเยอะเลย เผด็จการปกครองเมืองจีนยิ่งกว่าเราอีก แต่ตอนนี้สัจจะในเมืองจีนเข้ามาเยอะเลย

เพราะฉะนั้นที่ผมพูดว่า คนที่ได้รับรางวัลโนเบลสันติภาพ เมื่อปีก่อน เขายังถูกจำคุกอยู่ 10ปี แต่เขาเขียนหนังสือออกมาเลย ชื่อ No Hatred:No Enemies เขาไม่เกลียดใคร ไม่เห็นเป็นศัตรู หนังสือเขามีพลังอำนาจมาก แม้ไม่ให้พิมพ์ในเมืองจีน คนจีนส่วนมากก็อ่านแล้ว ผมยังได้อ่านภาษาอังกฤษเลย เช่นเดียวกันครับ อองซานซูจี ก็ถูกจับไปนานเท่าไหร่ ไม่ให้คนพม่าได้รู้ความจริง ตอนนี้ความจริงก็ปรากฏ

เพราะฉะนั้นเรื่องกรณีสวรรคต ตอนนี้มันปรากฏทั่วโลกแล้ว แล้วก็ปรากฏในเมืองไทย แต่ไม่สามารถปรากฏในสื่อที่เปิดเผยได้ เพราะสื่อเมืองไทยมันแหย มันปอด มันกลัว แล้วก็ไปผูกอยู่กับม.112 คนก็เลยกลัว ไอ้มาตรานี้จนเกินเหตุไป แต่ถ้าเผื่อคุณอยากจะรู้ความจริงมันมีแล้ว มันปรากฏแล้ว และ คนที่ฆ่าในหลวงองค์ที่แล้ว ก็ยังมีชีวิตอยู่ แสวงหาได้ไม่ยากหรอก

#13 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 9 July 2012 - 16:42

*
POPULAR

คำโต้ตอบของผม

ที่จริงเรื่องนี้เราวิเคราะห์กันที่เว็บเสรีไทย สรุปได้ว่า ใช้หลักอาชญวิทยา101 ก็บอกได้ว่าใครฆ่า

ประการแรกใครเสียประโยชน์จากเหตุการณ์คนนั้นไม่ได้ฆ่า คนเสียประโยชน์คือจ้าวและนายปรีดี ส่วนคนได้ประโยชน์คือนายแปลก ง่ายๆแค่นี้เอง

ทีนี้นายปรีดีน่ะมือไม่ถึง รีบไปประกาศว่าเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งมหาชนเขารับไม่ได้
เอาละ ถ้าน้องฆ่าพี่จริง ทำไมปชป. ถึงมาโพทนาแย้งปรีดีล่ะ ทำไมไม่ตามน้ำเพื่อปกป้องคนผิด
นี่ก็แสดงว่าปชป. ไม่มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้ แต่โวยเพราะโกรธรัฐบาล หรือร่วมมือกับนายแปลก

ทีนี้น้องฆ่าพี่ทำไม ส. ตอบได้ใหม เล่นกันแล้วปืนลั่นหรือ แล้วพวกมหาดเล็กเงียบทำไม
แล้วหลายวันนั้นพี่ชายป่วยจนไม่มีแรงกินยา ใครจะเอาปืนมาเล่นไหว

เอ้า เอาใหม่ น้องฆ่าพี่เพื่อหวังสมบัติ อันนี้ก็ต้องทำให้แนบเนียนกว่านั้นสิ คือต้องทำให้เป็นอุบัติเหตุ ที่ไม่ใช่ปืน หกล้ม จมน้ำ รถตกเหว...สารพัดจะทำ และไม่ต้องทำในเมืองไทยก็ได้

ผมเห็นว่าเรื่องนี้ คนที่อวดรู้ไม่เคยเอาหลักวิชามาใช้เลย ส. นี่ก็อวดเก่ง พูดลอยๆ ว่าใครๆ ก็รู้

งั้นผมพูดมั่ง เป็นคนในตระกูลเซียวเกสมนี่แหละ แอบขึ้นไปบนขื่อ ได้โอกาสก็ลงมายิง เหตุผลก็คือตระกูลนี้มันบ้า มีเชื้ออาชญากรมาตั้งแต่อยู่เมืองจีน หนีมาสบามก็เพราะหนีคดี....เป็นงัย ผมก็อุปโลกตัวเองเป็นนักรู้ได้

อีกประการ ถ้าน้องฆ่าพี่หวังเป็นใหญ่ นายปรีดีก็สมรู้ร่วมคิด เพราะเป็นคนสถาปนาในวันนั้นเอง

ผมคิดว่าฝ่ายนายแปลกน่าสงสัยที่สุด
วันประหาร เผ่าไปคุยกับเฉลียวทำไม สองคนสนิทกันมาก ทำไมจะรับงานจากนายแปลกไม่ได้ เหตุการณ์นี้ ฝ่ายนายแปลกได้ประโยชน์ที่สุด เพราะอ้างเป็นเหตุยึดอำนาจ ฝ่ายปรีดีกับเจ้าขาดทุนที่สุด แทนที่จะจับมือกันได้เพราะนายปรีดีไปประจบเสียมากมาย ก็เสียศูนย์

ทำให้นายแปลกกุมอำนาจได้ใหม่ ทั้งๆที่กำลังจะกลายเป็นอาทิตย์ตกดินเพราะไปเข้ากับญี่ปุ่น....
ไม่เข้าใจว่าเรื่องแค่นี่นักปราชญ์วัยแปดสิบคิดไม่ออก ต้องให้เด็กสิบแปดอย่างกระผมสั่งสอนให้หายเขลา

นายแปลกขึ้นมาคราวนี้ เล่นงานฝ่ายเจ้าเสียแทบหมดสภาพ
นายปรีดีพยายามก่อกบฎสองหน ก็ล้มเหลว นี่คือผลกระทบจากการสูญอำนาจเพราะกรณีสวรรคต

ส. ควรจะรู้ว่า นายแปลกนั้นเกลียดเจ้าขนาดใหน คราวกบฎบวรเดชนั่น เตรียมฆ่าล้างโคตรเสียด้วยซ้ำ แต่อำนาจไม่พอทำได้แค่ขังลืม

ทีนี้พอรอดจากการเป็นอาชญากรสงครามก็ต้องทวงอำนาจคืน เพราะปล่อยนานไปเจ้ากับปรีดีผนึกกันแน่นแฟ้นตัวเองจะไม่มีที่ยืน กรณีสวรรคตจึงเป็นกระสุนนัดเดียวฆ่านกสองตัว ที่เล่ามานี้ ใครๆก็รู้กันทั้งนั้น

ผมน่ะเป็นแฟนส. มาตั้งแต่สมัยแกก่อร่างสร้างตัว รุ่นหนังสือสนุกโน่นทีเดียว อ่านตั้งแต่จำความได้
เจอการตอบเรื่องร.8 แล้วเสียดายความนับถือ ใหนว่านับถือโสคราเตสงัย ทำไมเล่นเหตุผลวิบัติเอาดื้อๆ ว่าใครๆ ก็รู้กันทั้งนั้น

ฝีมือระดับปรมาจารย์ส. ถ้าจะลอกคราบเรื่องนี้ สามารถทำได้โดย 112 แตะต้องไม่ได้อยู่แล้ว
อ้อ ท่านเคยบอกว่ากรมไชยนาทพูดกับหมอ แล้วหมอพูดกับหมา แล้วหมามาบอกแมวสุลัก เอ่อ...
ท่านไม่อายแต่ผมอายนะ เพราะท่านดันพิมพ์เป็นภาษาไทย ทำให้ความบัดซบนี้ติดอยู่ในภาษาไทยของผม
ที่บอกว่า อย่าเอาปืนมาเล่นน่ะ

คงจำได้ ท่านมาเล่าอย่างนี้ท่านไม่อายโสคราติสเลยหรือ
เรื่องเสื่อมเสียขนาดนี้ มีหรือระดับกรมพระยาจะตรัสกับคนนอก
เรื่องพล่อยๆ พวกนี้มีแต่พวกเจ๊กตระกูลเซียวเท่านั้นแหละ ที่กล้าเอามาปล่อย




ปล
ผมจะเรียบเรียงเนื้อหาใหม่ ให้เป็นวิชาการ น้องเบิร์ดจะได้เอาไปแปะเฟสของเธอได้

#14 โจโฉ นายกตลอดกาล

โจโฉ นายกตลอดกาล

    น้องใหม่

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,795 posts

Posted 9 July 2012 - 17:21

คุณแอม มาถึงประเด็นสวรรคตก็ดีแล้วครับ มันบิดเบือนม้าช้านานเกิน

หาว่าปรีดีเป็นเหยื่อบ้าง แถมเทียบเคียงนักโทษชายหนีคุกเป็นเหยื่อรายล่าสุดอีก

แถมบิดประเด็นทางประวัติศาสตร์ใส่สีตีไข่กันหน้าตาเฉย จนลากยาวมาถึง

เรื่องปัจจุบันภายในอีก มั่วจนกู่ไม่กลับจริงๆ แถมสร้างความเชื่อดังกล่าว

สะพัดแล้วในหมู่ไพร่ ถึงขนาดแต่งเพลงร้องรำล้อเลียน แล้วมาคุยว่า

พวกตัวเอง "ตาสว่างทั้งแผ่นดิน" เชื่อเถอะไอ้แก๊งค์ตาสว่างที่นอนในคุกตอนนี้

โอดครวญขออภัยโทษ พอมันพ้นคุกก็ต้องเขียนบทความสร้างความวิบัติในบ้านนี้เมืองนี้อีก

รัฐบาลก็ห่วยแตก แกล้งหลับตาข้างหนึ่งส่งเสริมไอ้คนพวกนี้ อย่าบอกนะว่าไม่จริง

เช่น ไอ้ส.ส. สุนัข ที่อยู่พรรคเดียวกันเป็นต้น
เชื่อเถอะ อีกไม่ช้า นายเวร จะเสียฉายา "ร้อยล๊อกอิน" ไปในไม่กีอึดใจนี้

#15 David_GinoLa

David_GinoLa

    สมาชิกระดับไพร่

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,561 posts

Posted 9 July 2012 - 17:22

ล่าสุดครับ

Posted Image

http://www.facebook....99337575&type=1
"การเมืองต้องเป็นเรื่องการเสียสละ การเมืองคือภาระของทุกผู้การเมืองเรื่องส่วนรวมร่วมรับรู้ การเมืองต้องต่อสู้เพื่อส่วนรวม"เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

#16 โจโฉ นายกตลอดกาล

โจโฉ นายกตลอดกาล

    น้องใหม่

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,795 posts

Posted 9 July 2012 - 17:30

ขอให้ สุลักษณ์ กลับไปเขียนนิยายอยู่กับบ้านดีกว่า

นับวันชักเลอะเทอะแล้วจริงๆ จับต้นชนปลายมั่วไปหมด คนไม่รู้ก็หลงเชื่อมันเข้าไป

เวรกรรมแผ่นดินไทยจริงๆ
เชื่อเถอะ อีกไม่ช้า นายเวร จะเสียฉายา "ร้อยล๊อกอิน" ไปในไม่กีอึดใจนี้

#17 kokkai

kokkai

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,237 posts

Posted 9 July 2012 - 17:38

บอกตามตรงไม่เคยอ่านและสนใจส.ศิวรักษ์

เพราะไม่เคยนึกเชื่อใจหรือศรัทธา

คล้ายๆความรู้สึกที่มีต่อมหาจำลอง และสนธิลิ้ม

ที่อ่านกระทู้นี้เพราะชื่อเจ้าของกระทู้ และก็ไม่ผิดหวัง

ขอบคุณที่เอามาบอกกล่าว

#18 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 9 July 2012 - 18:16

*
POPULAR

ส.ศิวรักษ์: ความจริงถูกเปิดเผยแล้ว แต่คนที่มืดบอดอยู่ก็มองไม่เห็น ถ้าคุณเปิดตาให้กว้าง เพราะสมัยนี้มันมีอินเทอร์เน็ต มันมีอะไรต่ออะไรที่ออกมาเยอะเยาะเลย ถึงแม้คุณจะห้ามไม่ให้เข้ามาในประเทศนี้ มันหาได้นอกประเทศ

เพราะฉะนั้นเรื่องกรณีสวรรคต ตอนนี้มันปรากฏทั่วโลกแล้ว แล้วก็ปรากฏในเมืองไทย แต่ไม่สามารถปรากฏในสื่อที่เปิดเผยได้ เพราะสื่อเมืองไทยมันแหย มันปอด มันกลัว แล้วก็ไปผูกอยู่กับม.112 คนก็เลยกลัว ไอ้มาตรานี้จนเกินเหตุไป แต่ถ้าเผื่อคุณอยากจะรู้ความจริงมันมีแล้ว มันปรากฏแล้ว และ คนที่ฆ่าในหลวงองค์ที่แล้ว ก็ยังมีชีวิตอยู่ แสวงหาได้ไม่ยากหรอก


นี่คือ สั น ด า น เ หี้ ย สุลักษณ์ สิ่งที่มันตอบมีแค่นี้เท่านั้น ที่เหลือเป็นขยะคำพูดที่ไม่เกี่ยวกับประเด็น มันเคยด่าคนอื่นว่า "ยกศัพท์อวดตู๊กแก" (เป็นคำของร. 4) หมายความว่า เอาคำหรูๆ มาใส่ๆ ให้มันดูดี...ตัวมันเอง ก็ทำเหมือนที่เคยด่าคนอื่น

และถ้า สรุปใจความกันจริงๆ ก็อยู่ที่คำนี้ เท่านั้น
คนที่ฆ่าในหลวงองค์ที่แล้ว ก็ยังมีชีวิตอยู่

เอาละ เอ็งกล้าบอกอย่างนี้ ผมจะลองเดาดู
คนๆ นั้น น่าจะอายุมากกว่าสุลักหน่อย ตีว่าตอนนี้อายุ 80 ละกัน
สุลักต้องรู้จัก จึงกล้าระบุตัวได้

แต่เรื่องนี้ ได้มีการสืบสวนกันละเอียดไปแล้ว ไม่พบว่ามีใครผิดนอกจากสามคนที่ถูกประหาร
ดังนั้น สุลักจึงทราบดีกว่ารัฐบาล ทราบดีกว่าปรีดีเสียอีก เพราะปรีดีไม่เคยยืนยันความเห็นชัดเจนอย่างนี้

ดังนั้น ผมจึงต้องอนุมานเอาว่า สุลักรู้เรื่องนี้โดยทางลับ
ไม่ใช่จากเอกสารที่อ้างว่าอยู่เมืองนอก เพราะถ้าอยู่เมืองนอกแล้วสุลักยังรู้ แปลว่ามีคนอื่นรู้ด้วย
และถ้าเขารู้ เขาไม่มีเหตุจะต้องกลัวโทษภัย ยิ่งฝรั่ง มาตรฐานความปลอดภัยดีมาก
ขนาดซัลมัน รัชดี ที่เขียนลบหลู่พระศาสดา The Satanic Verses (1988) แล้วโดนตั้งค่าหัว ทุกวันนี้ยังอยู่ดี

หมายความว่าเอกสารที่สุลักอ้างว่าอยู่เมืองนอก ที่จริงไม่ได้บอกว่าใครทำ
ถ้าบอกได้ รับประกันว่าจะมีฝรั่งแย่งกันเอาหน้า เขียนหนังสือเอาชื่อกันโกลาหล
ไม่ตกมาถึงสุลักให้เอามาทำปากพล่อยดอก

ทางสันนิษฐานจึงตกว่า เอกสารหรือหลักญานเรื่องนี้ ต้องอยู่กับสุลัก
จึงทำให้มั่นใจ กล้าบอกว่าคนฆ่ายังไม่ตาย

ผมจึงขอฟันธงว่า คนฆ่าน่ะ เป็นญาติผู้ใหญ่ที่ยังไม่ตายของไอ้ เ หี้ ย นี่เอง
อาจจะเป็นพี่ป้าน้าอาสักคน ที่อายุมากพอจะฆ่าคน


เอ วันนั้น มันก็อายุ 13-14
ฆ่าคนได้เหมือนกันนี่หว่า....

Edited by amplepoor, 9 July 2012 - 18:23.


#19 Chet

Chet

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 305 posts

Posted 9 July 2012 - 18:34

คำโต้ตอบของผม

ที่จริงเรื่องนี้เราวิเคราะห์กันที่เว็บเสรีไทย สรุปได้ว่า ใช้หลักอาชญวิทยา101 ก็บอกได้ว่าใครฆ่า

ประการแรกใครเสียประโยชน์จากเหตุการณ์คนนั้นไม่ได้ฆ่า คนเสียประโยชน์คือจ้าวและนายปรีดี ส่วนคนได้ประโยชน์คือนายแปลก ง่ายๆแค่นี้เอง

ทีนี้นายปรีดีน่ะมือไม่ถึง รีบไปประกาศว่าเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งมหาชนเขารับไม่ได้
เอาละ ถ้าน้องฆ่าพี่จริง ทำไมปชป. ถึงมาโพทนาแย้งปรีดีล่ะ ทำไมไม่ตามน้ำเพื่อปกป้องคนผิด
นี่ก็แสดงว่าปชป. ไม่มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้ แต่โวยเพราะโกรธรัฐบาล หรือร่วมมือกับนายแปลก

ทีนี้น้องฆ่าพี่ทำไม ส. ตอบได้ใหม เล่นกันแล้วปืนลั่นหรือ แล้วพวกมหาดเล็กเงียบทำไม
แล้วหลายวันนั้นพี่ชายป่วยจนไม่มีแรงกินยา ใครจะเอาปืนมาเล่นไหว

เอ้า เอาใหม่ น้องฆ่าพี่เพื่อหวังสมบัติ อันนี้ก็ต้องทำให้แนบเนียนกว่านั้นสิ คือต้องทำให้เป็นอุบัติเหตุ ที่ไม่ใช่ปืน หกล้ม จมน้ำ รถตกเหว...สารพัดจะทำ และไม่ต้องทำในเมืองไทยก็ได้

ผมเห็นว่าเรื่องนี้ คนที่อวดรู้ไม่เคยเอาหลักวิชามาใช้เลย ส. นี่ก็อวดเก่ง พูดลอยๆ ว่าใครๆ ก็รู้

งั้นผมพูดมั่ง เป็นคนในตระกูลเซียวเกสมนี่แหละ แอบขึ้นไปบนขื่อ ได้โอกาสก็ลงมายิง เหตุผลก็คือตระกูลนี้มันบ้า มีเชื้ออาชญากรมาตั้งแต่อยู่เมืองจีน หนีมาสบามก็เพราะหนีคดี....เป็นงัย ผมก็อุปโลกตัวเองเป็นนักรู้ได้

อีกประการ ถ้าน้องฆ่าพี่หวังเป็นใหญ่ นายปรีดีก็สมรู้ร่วมคิด เพราะเป็นคนสถาปนาในวันนั้นเอง

ผมคิดว่าฝ่ายนายแปลกน่าสงสัยที่สุด
วันประหาร เผ่าไปคุยกับเฉลียวทำไม สองคนสนิทกันมาก ทำไมจะรับงานจากนายแปลกไม่ได้ เหตุการณ์นี้ ฝ่ายนายแปลกได้ประโยชน์ที่สุด เพราะอ้างเป็นเหตุยึดอำนาจ ฝ่ายปรีดีกับเจ้าขาดทุนที่สุด แทนที่จะจับมือกันได้เพราะนายปรีดีไปประจบเสียมากมาย ก็เสียศูนย์

ทำให้นายแปลกกุมอำนาจได้ใหม่ ทั้งๆที่กำลังจะกลายเป็นอาทิตย์ตกดินเพราะไปเข้ากับญี่ปุ่น....
ไม่เข้าใจว่าเรื่องแค่นี่นักปราชญ์วัยแปดสิบคิดไม่ออก ต้องให้เด็กสิบแปดอย่างกระผมสั่งสอนให้หายเขลา

นายแปลกขึ้นมาคราวนี้ เล่นงานฝ่ายเจ้าเสียแทบหมดสภาพ
นายปรีดีพยายามก่อกบฎสองหน ก็ล้มเหลว นี่คือผลกระทบจากการสูญอำนาจเพราะกรณีสวรรคต

ส. ควรจะรู้ว่า นายแปลกนั้นเกลียดเจ้าขนาดใหน คราวกบฎบวรเดชนั่น เตรียมฆ่าล้างโคตรเสียด้วยซ้ำ แต่อำนาจไม่พอทำได้แค่ขังลืม

ทีนี้พอรอดจากการเป็นอาชญากรสงครามก็ต้องทวงอำนาจคืน เพราะปล่อยนานไปเจ้ากับปรีดีผนึกกันแน่นแฟ้นตัวเองจะไม่มีที่ยืน กรณีสวรรคตจึงเป็นกระสุนนัดเดียวฆ่านกสองตัว ที่เล่ามานี้ ใครๆก็รู้กันทั้งนั้น

ผมน่ะเป็นแฟนส. มาตั้งแต่สมัยแกก่อร่างสร้างตัว รุ่นหนังสือสนุกโน่นทีเดียว อ่านตั้งแต่จำความได้
เจอการตอบเรื่องร.8 แล้วเสียดายความนับถือ ใหนว่านับถือโสคราเตสงัย ทำไมเล่นเหตุผลวิบัติเอาดื้อๆ ว่าใครๆ ก็รู้กันทั้งนั้น

ฝีมือระดับปรมาจารย์ส. ถ้าจะลอกคราบเรื่องนี้ สามารถทำได้โดย 112 แตะต้องไม่ได้อยู่แล้ว
อ้อ ท่านเคยบอกว่ากรมไชยนาทพูดกับหมอ แล้วหมอพูดกับหมา แล้วหมามาบอกแมวสุลัก เอ่อ...
ท่านไม่อายแต่ผมอายนะ เพราะท่านดันพิมพ์เป็นภาษาไทย ทำให้ความบัดซบนี้ติดอยู่ในภาษาไทยของผม
ที่บอกว่า อย่าเอาปืนมาเล่นน่ะ

คงจำได้ ท่านมาเล่าอย่างนี้ท่านไม่อายโสคราติสเลยหรือ
เรื่องเสื่อมเสียขนาดนี้ มีหรือระดับกรมพระยาจะตรัสกับคนนอก
เรื่องพล่อยๆ พวกนี้มีแต่พวกเจ๊กตระกูลเซียวเท่านั้นแหละ ที่กล้าเอามาปล่อย




ปล
ผมจะเรียบเรียงเนื้อหาใหม่ ให้เป็นวิชาการ น้องเบิร์ดจะได้เอาไปแปะเฟสของเธอได้



ค่อนข้างหงุดหงิดเวลาที่เห็นใคร Distort ประวัติศาสตร์

เรื่องสีลม....งงครับ......ชานเมืองเหรอ.......เเล้วไปรษณีกลาง.....ซวยสวนพลู........สวนลุมละครับ.....เเก่เเล้วมั่ว

ส่วนเรื่อง ร.8 เริ่มมานานเเล้วจําได้ว่าตั้งเเต่ผมเป็นเด็ก กลุ่มซ้ายครับที่ปูดเเละกลุ่มคนไทยที่โง่ดักดาน ชอบฟังขี้ปากเเล้วเข้าใจผิดว่าข้ารู้ในสิ่งที่คนอื่นไม่รู้

เมื่อเดือนก่อนก็เห็น Thai Enew ลงบทสัมภาษณ์ BBC เเต่ตั้งหัวเรื่องเกียวกับกรณีสวรรคต

มีไอ้กากเดนสวะกี่ตัวที่ภาษาอังกฤษออก เจตนาคือทําให้เข้าใจผิด จินตนาการเอง คิดเอง สรุปเอง เเละเเชร์จินตนาการ ใส่สีกันเม้าท์กันมั่ว เพราะมันไม่เข้าใจมันเลยไม่เข้าใจพระปรีชาสามารถเเละความห่วงใยของพระองค์มี่มีต่อพสกนิกร เเละประเทศ

การศึกษากรณีสวรรคตต้องศึกษาการขึ้นครองราช ความขัดเเย้งระหว่าง จอมพล ป กับ ปรีดี ( ความเลวของไอ้พวกชั่วคณะราษฏร์ )สงครามโลก สายลับญิ่ปุ่น การเสด็จสําเพ็ง เเละผลการพิจารณาคดีเเบบสั่งได้ของผู้กุมอํานาจ

ไม่ยากครับเเต่ต้องใช้ต่อมปัญญา น่าเสียครับคนไทยหลานคนพิการต่อมปัญญา

#20 aunaun

aunaun

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 282 posts

Posted 9 July 2012 - 20:44

สุลักษณ์เคยเขียนหนังสือ ประมาณสิบกว่าปีก่อน ปรามคนที่บอกว่าฆาตกรเป็นน้องชาย
แกเขียนไว้ชัดว่าไม่ใช่ในหลวงองค์ปัจจุบัน แต่ไม่แน่ใจว่าตอนนี้แกเปลี่ยนความคิดหรือยัง

ปรีดีบอกว่ารู้แต่พูดไม่ได้
เผ่าบอกว่ารู้จากเฉลียวที่อยู่ในคุก

แต่ที่แน่ๆคนที่ถูกประหารไป ไม่ใช่คนทำ
ประเด็นที่สมศักดิ์มักจะเอามาเล่นคือ จำเลยคดีสวรรคตได้ทำหนังสือขออภัยโทษต่อรัชกาลที่ 9
แต่ก็ไม่ได้รับอภัยโทษ จนนำไปสู่การประหารชีวิต

#21 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 9 July 2012 - 20:48

ค่อนข้างหงุดหงิดเวลาที่เห็นใคร Distort ประวัติศาสตร์
เรื่องสีลม....งงครับ......ชานเมืองเหรอ.......เเล้วไปรษณีกลาง.....ซวยสวนพลู........สวนลุมละครับ.....เเก่เเล้วมั่ว


เรื่องสีลมนี่ชี้เลยว่าแกมั่ว ด้นทุรังดำน้ำพูดให้คนเชื่อ โดยที่ตัวแกเองไม่มีความรู้ในเรื่องนั้นเลย
แล้วเรื่องอื่นๆ ที่แกพูด เราจะเชื่อได้หรือ...เช่นกรณีสวรรคตเป็นต้น

ผมพอจะมีความรู้ ในเรื่องนี้ จะลงรายละเอียดสักหน่อยเพื่อชี้ว่าแกเลอะเทอะอย่างไร

ตอนที่รัชกาลที่ 1 สร้างกรุง ท่านให้ขุดคลองเป็นคูเมืองสองชั้น ชั้นแรกอยู่ตรงปากคลองตลาด ชั้นสองอยู่ตรงคลองโอ่งอ่าง
พอถึงรัชกาลที่ 4 ท่านให้ขุดเพิ่มอีกเส้น คือคลองผดุงกรุงเกษม ทำให้พื้นที่กรุงเทพในวงคูเมืองมีเพิ่มขึ้นอีกราวๆ สองเท่า
แต่ตามรูปแบบเมืองในสมัยนั้น ในเขตคูเมืองกับนอกเขตคูเมือง ไม่ได้แตกต่างกันขนาดฝ่ายหนึ่งเป็นชายแดนอีกฝ่ายเป็นศูนย์การค้า
เพราะในสมัยนั้น ความเป็นชุมชนขึ้นอยู่กับอาชีพและเชื้อชาติ ทำให้เกิดเป็นศูนย์ย่อยๆ กระจายไปตามความอุดมสมบูรณ์

ทีนี้ นายสุลัก ไปเอาควมเคยชินของสมัยตัวเองมาใช้ เคยชินว่าบ้านนอกต้องทุรกันดาน ต้องขาดแคลน นี่ก็เอาข้อเท็จจริงสมัยแกเด็กๆ ไปจับ
สมัยแกเด็กๆ น่ะ เขาวัดความเจริญด้วยไฟฟ้า น้ำปะปา โทรศัพท์ และถนน ซึ่งในยุคเริ่มต้นของชุมชนสีลม สิ่งเหล่านี้ไม่มี ความแตกต่างด้านเทคโนโลยี่ก็ไม่มี

มันก็เลยไม่มีสภาพที่ว่าแถวนั้นไฟดับบ่อยเพราะเป็นปลายสาย น้ำประปาไม่ไหลเพราะห่างกลางเมือง

ที่จริงแล้ว มันตรงกันข้ามด้วยซ้ำ ในยุครัชกาลที่ 4 ความเจริญ ไม่ได้อยู่ในเขตคูเมือง
เพราะโรงพิมพ์หมอสมิทอยู่บางคอแหลม โรงเรียนที่ดีที่สุดก็อยู่สำเหร่ และอยากได้สินค้าใหม่ๆ แปลกๆ ก็ไปที่ถนนตก เพราะเรือกำปั่นจอดที่นั่น

#22 juemmy

juemmy

    คนสวยประจำบอร์ด

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,307 posts

Posted 9 July 2012 - 20:54

มายืนยันความเห็นของคุณพี่แอมค่ะ
เราเป็นโปรเตสแต๊นท์
คุณทวดทั้งหญิงและชาย
เรียกแบบจีนคือ อาเหล่ากง อาเหล่าม่า่
ก็ฝังอยู่ที่สุสานฝรั่งตรงสีลมเหมือนกัน
เพราะว่าทั้ง2ท่านมีบ้านพักอยู่ที่ถ.เจริญกรุงตอนบน
และไปนมัสการพระเจ้าที่คริสต์จักรสะพานเหลืองตรงสามย่าน
ซึ่งสุสานฝรั่งสีลมอยู่ในละแวกทั้งบ้านและคริสต์จักร
ปัจจุบันย้ายร่างของทั้ง2ท่านไปฝังที่สุสานนครปฐมแล้ว
ตรงตามที่คุณพี่แอมบอกทุกประการค่ะ :)

"กูจะสู้แม้รู้ว่าพวกกูน้อย สู้ไม่ถอยแม้รู้ว่าจะดับสลาย แผ่นดินนี้พ่อกูอยู่ปู่กูตาย กูสุดอายถ้าเสียทีไพรีครอง"


#23 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 9 July 2012 - 22:08

มาดูสันดานทรามของนายสุลักษณ์อีกเรื่อง คือเรื่องทวงที่ดินสุสานคืน

แกบอกว่า ฝ่ายคาทอลิคได้มาเพราะฝรั่งเศสบังคับให้เราขาย...โหย เรื่องตั้งแต่ร.ศ.112 ร้อยกว่าปีมาแล้ว แกยังเอามาเสี้ยม แกบอกว่า เป็นเพราะอำนาจพิเศษ บาทหลวงฝรั่งเศสจึงซื้อที่ได้ เพราะฉะนั้น ให้ยกทำเป็นสวนซะงั้น
แล้วที่แกได้เรียนอัสสัมอันเป็นของภราดาฝรั่งเศส แกมิต้องถุยวิชาความรู้ที่ได้รับกลับคืนเขาหรือ
ต้นตระกูลแกเป็นจีนที่อพยพเข้ามา และได้อภิสิทธิ์ทางสังคมเพราะราชสำนักเอ็นดู มิต้องคืนความรวยทั้งหมดละหรือ

คริสเตียนในเมืองไทยก็เป็นคนไทยเท่าๆ กับมุสลิมหรือพุทธ ไม่ได้เป็นเพราะเมื่อร้อยกว่าปีก่อนมีคนเอาปืนมาบังคับให้สยามรับไว้ซะหน่อย หนอยแน่ พออยากได้ทรัพย์สินเขา ก็ยกประวัติศาสตร์มาอ้าง ทำอย่างนี้ต่างอะไรกับฝรั่งเศสที่นายสำลักเพิ่งด่าว่า เอาเรือปืนมาสร้างสิทธิพิเศษให้คนของตน ไอ้ที่เลวบัดซบเลยก็คือ เป็นที่ดินของทางศาสนาอีกด้วย ไม่ใช่ที่ของสถานฑูตสักหน่อย

ผมว่าหายากนะครับ คนแก่ที่หลงผิดขนาดนี้ แล้วดันมีคนไปยกย่อง
ความคิดเห็นที่คายออกมานี่ เหลือจะรับประทาน ช่างหน้าด้านเสียนี่กระไร

อยากได้ที่ดินเขา ยังไปด่าเขาซะอีก...ต้องเรียก *** ศิวลึงค์จริงๆ

Edited by amplepoor, 9 July 2012 - 22:12.


#24 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 9 July 2012 - 22:14

ซ้ำครับ ระบบรวน กดไปแต่ผมไม่ทราบ

Edited by amplepoor, 9 July 2012 - 22:44.


#25 เบื่อดราม่าอันหาสาระมิได้

เบื่อดราม่าอันหาสาระมิได้

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 435 posts

Posted 9 July 2012 - 22:16

มาขอความรู้เพิ่มเติมเรื่อง สนง. ทรัพย์ฯ ค่ะ จะได้ไปต่อกรกับมวลเสื้อแดง โดยเฉพาะประเด็น สนง. ทรัพย์ฯ ไม่เสียภาษี ... ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ

คิดว่าจะเลิกตอบกระทู้ล่อเป้าและไร้สาระของบางคนแล้วค่ะ จะได้ตกๆไป


#26 SPDZ

SPDZ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,672 posts

Posted 9 July 2012 - 22:19

สะใจ ไอ้แก่นี่สมควรโดนถอนหงอก
มนุษย์เงินเดือนจนๆที่ไม่พอใจรัฐบาลเสื้อแดงที่แสนชั่วจะทำอะไรได้มากกว่าวาดการ์ตูนระบายความคับแค้นใจhttp://webboard.seri...ยเว็บบอร์ดการ์/ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ดการ์ตูน

#27 Toys

Toys

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 641 posts

Posted 9 July 2012 - 22:53

เพราะเหตุใดท่าน ส.ศิวลึงค์ เอ๊ย ส.ศิวรักษ์ ถึงเปลี่ยนไป?

โดนผ่าตัดเปลี่ยนสมองหรือ

#28 โจโฉ นายกตลอดกาล

โจโฉ นายกตลอดกาล

    น้องใหม่

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,795 posts

Posted 9 July 2012 - 22:57

ถ้าใครบอกว่าสำนักทรัพย์สินไม่เสียภาษีผมเถียงขาดใจเลย

แม้กระทั่งสถาบันเบื้องสูงเช่นกัน ท่านก็เสียภาษี

ไอ้พวกนี้รู้ไม่จริงเที่ยวไปบิดเบือน หาว่ารวยที่สุดในโลกบ้างแหละ

มีอำนาจมากที่สุดในประเทศบ้างแหละ ยังมีอีกหลายเรื่องที่ผมพูดไม่ได้

แต่มีคำถามเดียว "พวกมันเกิดมาทำไมในแผ่นดินของพระองค์ท่านครับ"
เชื่อเถอะ อีกไม่ช้า นายเวร จะเสียฉายา "ร้อยล๊อกอิน" ไปในไม่กีอึดใจนี้

#29 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 9 July 2012 - 23:10

มาขอความรู้เพิ่มเติมเรื่อง สนง. ทรัพย์ฯ ค่ะ จะได้ไปต่อกรกับมวลเสื้อแดง โดยเฉพาะประเด็น สนง. ทรัพย์ฯ ไม่เสียภาษี ... ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ

ต้องยกประเด็นมาครับ จึงจะแก้คดีได้
แต่จะสู้ ก็ต้องลากกฏหมายมาข้างตัวครับ
พระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ พุทธศักราช ๒๔๗๙
มีการแก้ไขเพิ่มเติม ๒ ครั้ง ในพ.ศ.๒๔๘๔ และ พ.ศ.๒๔๙๑

ที่สำนักงานก็มีถามตอบเรื่องนี้เหมือนกัน
http://www.crownproperty.or.th/faq.php

สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นองค์กรนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นมาตาม พระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ พุทธศักราช 2479 ,2481 และ 2491 ซึ่งมีหน้าที่ดูแลทรัพย์สินเพื่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ส่วน สำนักทรัพย์สินส่วนพระองค์ เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลทรัพย์สินส่วนพระองค์ ซึ่งก็คือ ทรัพย์สินที่เป็นของพระมหากษัตริย์อยู่แล้วก่อนเสด็จขึ้นครองราชสมบัติ หรือทรัพย์สินที่รัฐทูลเกล้าฯถวาย หรือทรัพย์สินที่ทรงได้มาไม่ว่าในทางใดและเวลาใด นอกจากที่ทรงได้มาในฐานะที่ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้ รวมดอกผลที่เกิดจากบรรดาทรัพย์สินดังกล่าวนั้นด้วย

ดังนั้น ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จึงถือเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน ซึ่งได้แบ่งแยกออกจากทรัพย์สินส่วนพระองค์อย่างชัดเจน และตามกฎหมายก็ระบุไว้ชัดเจนว่า ถึงแม้ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์จะได้รับการยกเว้นการเสียภาษี เช่นเดียวกับทรัพย์สมบัติของสาธารณะ แต่ทรัพย์สินส่วนพระองค์ก็ต้องชำระภาษีเช่นเดียวกัน

ประเด็นสำคัญที่คาใจพวกนี้ก็คือ คณะกรรมการบริหารสำนักงาน มีรัฐมนตรีคลังเป็นประธานโดยตำแหน่ง

พวกก็หาว่าเงินเข้าพระเจ้าอยู่หัวหมด...บล่าๆๆๆๆ โดยไม่ยอมรับความจริงว่า
ฝ่ายการเมืองก็ร่วมรับรู้การดำเนินงานมาโดยตลอด

อันนี้คือแกล้งโง่เพื่อหาเรื่องด่าอย่างเดียว

Edited by amplepoor, 9 July 2012 - 23:12.


#30 ดราม่า

ดราม่า

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,395 posts

Posted 9 July 2012 - 23:11

มาขอความรู้เพิ่มเติมเรื่อง สนง. ทรัพย์ฯ ค่ะ จะได้ไปต่อกรกับมวลเสื้อแดง โดยเฉพาะประเด็น สนง. ทรัพย์ฯ ไม่เสียภาษี ... ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ


แนะนำให้อ่านกระทู้นี้ของคุณจีระศักดิ์ครับ ที่บ้านพี่เมืองน้อง(แต่มันไม่นับญาติกับเรา)

http://forum.seritha...hp?topic=5405.0


ส่วนอันนี้คุณV_Meeตอบ ตอบที่มาที่ไปของ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ได้ดีมากๆครับ ถ้าศึกษาแล้วจะรู้เลยว่า คณะราษฎรยึดทรัพย์ท่านมาอย่างไม่ชอบธรรมจริงๆ

http://topicstock.pa...5/K7396495.html

Edited by ดราม่า, 9 July 2012 - 23:16.

"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ" อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก “ขอพูดอะไรแรงๆ สักครั้งในชีวิตค่ะ พูดแล้วจะร้องไห้...น้ำท่วมไม่กลัว กลัวอย่างเดียว...ผู้นำโง่ เพราะพวกเราจะตายกันหมด”หนูดี

#31 เบื่อดราม่าอันหาสาระมิได้

เบื่อดราม่าอันหาสาระมิได้

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 435 posts

Posted 9 July 2012 - 23:13

ประเด็นพันพัวที่พยายามกล่าวหากันเช่น สนง.ฯ ไม่ต้องเสียภาษี ไม่มีการตรวจสอบ ไม่ต้องเปิดเผยงบดุล ฯลฯ ค่ะ

คิดว่าจะเลิกตอบกระทู้ล่อเป้าและไร้สาระของบางคนแล้วค่ะ จะได้ตกๆไป


#32 เบื่อดราม่าอันหาสาระมิได้

เบื่อดราม่าอันหาสาระมิได้

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 435 posts

Posted 9 July 2012 - 23:15

ขอบคุณข้อมูลจากคุณแอม และคุณดราม่าค่ะ

ลิ้งค์ที่แนะนำได้บุ๊คมาร์คไว้แล้ว และจะอ่านโดยละเอียดต่อไปค่ะ

คิดว่าจะเลิกตอบกระทู้ล่อเป้าและไร้สาระของบางคนแล้วค่ะ จะได้ตกๆไป


#33 zeedzaad

zeedzaad

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,963 posts

Posted 9 July 2012 - 23:22

ตามไปอ่านคุณแอมมาแล้ว เรื่องสีลมนี่ ฮาจริงๆ

ถ้าย้อนกลับไปก็ต้องถามว่าหัวถนนสีลมนะมันอยู่ไหน

นายศิวลึงค์แกโตมาตอนใช้ถนนเป็นหลักแล้วเลยเอาความเคยชินของตัวมาตัดสิน

ถ้าให้ไล่กันจริงๆ ศูนย์กลางสมัยนั้นมันอยู่ริมฝั่ง ยิ่งริมยิ่งไม่ตกขอบพระนครไปอีกหรือตามข้อมั่วของแก
“A fool's brain digests philosophy into folly, science into superstition, and art into pedantry. Hence University education. ”George Bernard Shaw

#34 ดราม่า

ดราม่า

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,395 posts

Posted 9 July 2012 - 23:22

คุณampอยากฟังประเด็น ส.ศิวรักษ์ มีเมียเด็ก :D
"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ" อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก “ขอพูดอะไรแรงๆ สักครั้งในชีวิตค่ะ พูดแล้วจะร้องไห้...น้ำท่วมไม่กลัว กลัวอย่างเดียว...ผู้นำโง่ เพราะพวกเราจะตายกันหมด”หนูดี

#35 > mj <

> mj <

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 441 posts

Posted 9 July 2012 - 23:34

คุณแอมช่วยกลับไปถลกหนังไอ้หงอกด้วยครับ รออ่านอยู่ครับ :D
http://webboard.seri...ม-ลูกจีนเนรคุณ/

#36 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 9 July 2012 - 23:43

คุณแอมช่วยกลับไปถลกหนังไอ้หงอกด้วยครับ รออ่านอยู่ครับ :D
http://webboard.seri...ม-ลูกจีนเนรคุณ/


ครือว่า ผมไปตั้งกระทู้ดักไว้ ให้พวกเราที่รับการตีความของไอ้เนรคุณคนนี้ไม่ได้ เอาถ้อยคำเจ้าปัญหามาลงไว่น่ะครับ
ผมจะได้เริ่มแล่มันได้ถูกแผล แต่ถ้าให้ผมไปอ่านของมันเพื่อค้นหาสิ่งที่อยากชำแหละ ผมอาจจะอ้วกตายเสียก่อน

เอาเป็นว่า เจอข้อความใหน น่าสงสัย ส่งไปทู้โน้นเลย เด๋วน้องจัดห้ายยย

#37 David_GinoLa

David_GinoLa

    สมาชิกระดับไพร่

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,561 posts

Posted 10 July 2012 - 00:05

ถ้าใครบอกว่าสำนักทรัพย์สินไม่เสียภาษีผมเถียงขาดใจเลย

แม้กระทั่งสถาบันเบื้องสูงเช่นกัน ท่านก็เสียภาษี

ไอ้พวกนี้รู้ไม่จริงเที่ยวไปบิดเบือน หาว่ารวยที่สุดในโลกบ้างแหละ

มีอำนาจมากที่สุดในประเทศบ้างแหละ ยังมีอีกหลายเรื่องที่ผมพูดไม่ได้

แต่มีคำถามเดียว "พวกมันเกิดมาทำไมในแผ่นดินของพระองค์ท่านครับ"


มีทั้งส่วนที่เสียและไม่เสียครับ ตามกฎหมาย

http://www.kodmhai.c...4/h13/m1-9.html

เพื่อความเข้าใจที่มากขึ้น

http://akelovekae.bl.../blog-post.html

Edited by David_GinoLa, 10 July 2012 - 00:06.

"การเมืองต้องเป็นเรื่องการเสียสละ การเมืองคือภาระของทุกผู้การเมืองเรื่องส่วนรวมร่วมรับรู้ การเมืองต้องต่อสู้เพื่อส่วนรวม"เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

#38 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 10 July 2012 - 00:09

คุณampอยากฟังประเด็น ส.ศิวรักษ์ มีเมียเด็ก :D


ไม่มีอะไรดอก เห็นแกหลงเมีย

ตอนได้กัน 2508 ก็พิมพ์ จดหมายรักจากอเมริกา

Posted Image

อยู่กันครบ 20 ปี ก็พิมพ์เล่มนี้อีก จะเห่ออะไรกันนักหนา ทำตัวเหมือนเจ้าเลยนะเนี่ย...

Posted Image

#39 juemmy

juemmy

    คนสวยประจำบอร์ด

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,307 posts

Posted 10 July 2012 - 12:09

ขอนอกเรื่่องนิดนึงค่ะ..
คนไทยส่วนมากมักจะเข้าใจว่า..
คนที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิคเป็นคริสตัง
คนที่นับถือศาสนาคริสต์นิายโปรเตเสแต๊นท์เป็นคริสเตียน
ซึ่งสาเหตุที่มีการเรียกผิดเพี้ยนน่าจะเกิดจากบาทหลวงที่เข้ามาสอนศาสนา
ออกเสียงแปร่งเนื่องจากไม่ใช่คนอังกฤษ
คริสเตียนแปลว่า ผู้ทีติดตามในพระคริสต์
ไม่ว่าจะนับถือศาสนาคริสต์นิกายไหน
ก็เป็นคริสเตียนทั้งสิ้น
เห็นคุณพี่แอมเรียกคริสเตียนได้อย่างถูกต้อง
ก็ชื่นใจค่ะ :wub:

Edited by juemmy, 10 July 2012 - 12:09.

"กูจะสู้แม้รู้ว่าพวกกูน้อย สู้ไม่ถอยแม้รู้ว่าจะดับสลาย แผ่นดินนี้พ่อกูอยู่ปู่กูตาย กูสุดอายถ้าเสียทีไพรีครอง"


#40 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 10 July 2012 - 12:44

ผมไม่เคยเรียกคริสเตียน ว่า คิดสตางต์เลย....กล้าสาบาน ฮา
------------
อีกเรื่องที่ไม่ชอบของชักโครกเบิร์กก็คือ เนื้อหามันไหลไปเหมือนกระดาษชำระ
ผมชอบระบบของที่นี่ ข้อความล่าสุด จะดึงเรื่องขึ้นมาหน้าแรก

สุลักมันเคยอวดภูมิไว้ในคำถามเรื่องเกี่ยวกับสมเด็จวังบางขุนพรหม ดังนี้

ทีนี้เรื่องทูลกระหม่อมบริพัตรฯ เสด็จไปลี้ภัยไปที่ชวานั้น เป็นข้อตกลงครับ ชัดเจนเลย เพราะเขา คณะราษฎร จับเจ้านายไปขังไว้ วันที่ 24มิถุนา เจ้านายชั้นผู้ใหญ่มี 3 องค์

1)ทูลกระหม่อมบริพัตรฯ กรมพระนครสวรรค์วรพินิจ

2)สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์

3)สมเด็จกรมดำรงราชานุภาพ


พอในหลวงเสด็จกลับแล้ว ในหลวงขอให้ปล่อยตัว เขาปล่อยเพียง2องค์ เจ้าฟ้าบริพัตรฯเขาไม่ปล่อย เพราะ ไม่ไว้ใจ เพราะท่านเคยคุมทหารทั้งหมด และเวลานั้นคุมมหาดไทยด้วย ตำรวจก็อยู่ในอำนาจท่าน เขาก็ไม่ไว้ใจ


เพราะฉะนั้นนายกรัฐมนตรีเวลานั้น พระยามโนปกรณ์นิติธาดา ก็ปรึกษากับน้องเมียทูลกระหม่อม

บริพัตร ซึ่งเป็นหมอประจำองค์ในหลวงรัชกาลที่7 หม่อมเจ้าถาวร พระยามโนฯบอกว่า ไอ้พวกคณะราษฎรมันหิว นี้คำพระยามโนฯนะ พระยามโนฯนี่เป็นนายกรัฐมนตรีก็จริง แต่แกแทงลับหลังพวกคณะราษฎรตลอดเวลา ไอ้พวกก่อการฯมันหิว มันอยากได้อะไรก็ยกสมบัติให้มันซะบ้าง มันจะได้ปล่อยตัว


ทูลกระหม่อมก็บอกว่า ก็ไม่มีสมบัติอะไร เงินทองก็ต้องเอาไปใช้ต่างประเทศ ก็มีแต่บ้าน ถ้าอยากได้บ้านก็เอาไปสิ ก็เป็นอันตกลง ประทานบ้าน ประทานวังให้ และก็เสด็จไป อันนี้เป็นการพูดกันซึ่งมีเอกสารหลักฐานชัดเจนเลย ก็เสด็จไป


แล้วเรื่องนี้ผมเคยทำเรื่อง เลยว่า ควรจะคืนถวายวังคืนท่าน แล้วจอมพลป. พิบูลสงคราม เองเมื่อรู้สึกบาปรู้สึกผิด เลยเชิญพระศพท่านกลับมา พอสิ้นพระชนม์ที่ชวา ที่เมืองบันดุง เมื่อถวายพระเพลิงร.8 ที่สนามหลวงแล้ว ก็ขอเชิญเสด็จพระศพทูลกระหม่อมบริพัตรฯมาเพื่อถวายพระเพลิง ที่สนามหลวงต่อจากในหลวงร.8 เพื่อจะรู้สึกยอมรับผิด แล้วจอมพลป.ก็รู้สึกเหมือนอยากจะคืนวังบางขุนพรหมให้พระทายาท เลยสั่งมาที่คุณประยูร ภมรมนตรี คุณประยูร ไม่ยอมคืน คุณประยูรเป็นคนเติบโตมาในวังบางขุนพรหมเลย เป็นมหาดเล็กเลย คุณประยูรบอก ท่านรวยแล้วไปคืนให้ท่านทำไม ก็ค้างมา


ทีหลังคุณป๋วย มาเป็นผู้ว่าการธนาคารประเทศไทย ผมเรียนคุณป๋วยว่า ไม่ต้องคืนวังก็ได้ถ้าท่านรวยจริงอย่างว่า ก็ตั้งเป็นมูลนิธิถวายท่าน ให้รางวัลนักศึกษาเพื่อเป็นพระเกียรติ คุณป๋วยก็บอกว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย ทำไม่ได้ เพราะธนาคารแห่งประเทศไทย ซื้อมาจากกระทรวงการคลัง เช่ามาไม่มีทาง แต่คุณป๋วยก็พยายามถวายพระเกียรติท่านทุกอย่าง ต้องเข้าใจอันนี้


Edited by amplepoor, 10 July 2012 - 12:56.


#41 คลำปม

คลำปม

    สลิ่มเต็มขั้นจ้า

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,657 posts

Posted 10 July 2012 - 13:04

ผมเพิ่งเห็นกระทู้นี้ได้ยังไงครับเนี่ย

ชอบมากครับ คุณ amplepoor ก็เป็นพหูสูตมากๆ

แต่ผมก็ยังไม่ได้เกลียดอะไรคุณสุลักษณ์อยู่เหมือนเดิมนะครับ

แค่รู้สึกว่าแกก็เลอะเทอะของแกอย่างงี้มานานแล้วนี่หว่า 55

(แก้ไขแล้วครับคุณ amp :) )

Edited by คลำปม, 10 July 2012 - 13:28.

วิธีการยุติระบอบทักษิณ

ก็แค่เพียงทำให้คนไทยส่วนใหญ่ "ฉลาด"


#42 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 10 July 2012 - 13:07

สิ่งน่ารังเกียจของเฮียสุลักษณ์ในเรื่องนี้ ก็เหมือนที่แกทำมาตลอดแหละ คือผูกขาดความจริง

แกเล่าเหมือนกับว่า เรื่องที่เกิดน่ะ แกรู้ดีที่สุดเพราะเกิดกับตัวเอง
คิดดู ไปบอกป๋วยว่า ไม่ต้องคืนวังให้ทายาทท่านก็ได้ ถ้าท่านรวยจริง
ถ้อยคำนี้บ่งบอกว่า มันเองก้ไม่รู้ว่าท่านรวยหรือเปล่า แต่มันแนะป๋วยเสียแล้ว

คงจำได้นะ มันบอกเมื่อตะกี้ให้คาธอลิคคืนที่ดินที่ได้มาจากการบังคับซื้อสมัยล่าอาณานิคม
แต่มันหุบปาก ในกรณียึดทรัพย์ของนายปรีดี.....24 มิถุนามาถึงกบฎบวรเดชนี่ ปรีดีใหญ่สุดนะครับ
แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับรวยไม่รวย หรือหลักของมารดามันคือ รวยแล้วต้องถูกปล้น
นี่มันปรัชญาเสื้อแดงนี่หว่า

ที่สำคัญ เรื่องที่มันเล่าน่ะ เป็นการเล่าจากคนหนึ่งมาสู่อีกคนหนึ่ง แล้วมาถึงมัน
จริงเท็จ ใครจะบอกได้

อิอิ แต่อินเตอร์เนตบอกได้ เหมือนที่มันคุยว่า ความจริงอยู่ในเนต
ผมก็จะเอาความจริงในเนตมาตบปากไอ้แก่ปากสุนักใจเฮียคนนี้...ดังนี้


วันหนึ่ง พระยามโนปกรณ์นิติธาดา ประธานกรรมการราษฎร (ขณะนั้นยังไม่มีคำว่า (นายกรัฐมนตรี') และนายทหารสองนายมาเฝ้า หม่อมราชวงศ์พันธุ์ทิพย์อยู่ ณ ที่นั้น จึงได้ยินถ้อยคำที่พระยามโนปกรณ์กราบทูลและสมเด็จฯเจ้าฟ้าฯ รับสั่งตอบทุกถ้อยคำ
กราบทูล - ข้าพระพุทธเจ้าเห็นว่า อยากให้ใต้ฝ่าพระบาท เสด็จไปประทับต่างประเทศ
รับสั่ง - ฉันพร้อมที่จะไปเสมอ แต่ถ้าฉันไป ฉันก็ต้องขอเอาครอบครัวไปด้วย
กราบทูล - แต่ก่อนที่จะเสด็จไป ข้าพระพุทธเจ้าขอประทานให้ทรงทำอะไรสักอย่างเพื่อแสดงว่า ไม่ทรงกริ้วกราดพวกที่เปลี่ยนแปลงการปกครองครั้งนี้
ถึงตรงนี้ ทรงอึ้งไปชั่วขณะ แล้วจึงรับสั่งเป็นภาษาอังกฤษ
รับสั่ง - Is this ransom?(หมายความว่า 'เป็นค่าไถ่ตัวรึ')
กราบทูล - มิได้พ่ะย่ะค่ะ แต่ว่าเด็กพวกนี้หัวรุนแรง ถ้ารั้งบังเหียนไว้ไม่อยู่ บังเหียนก็จะขาด
รับสั่ง - แต่ฉันไม่มีเงิน ไม่ได้ร่ำรวยอย่างที่เขาลือกัน และถ้าฉันจำเป็นต้องไปอยู่ต่างประเทศ ฉันก็จำเป็นต้องใช้เงิน ถ้าเห็นว่าฉันยังไม่ได้ทำอะไรพอสำหรับบ้านเมืองก็เอาบ้านฉันไปซี
กราบทูล - ข้าพระพุทธเจ้าขอไปปรึกษากันดูก่อน แล้วจะมากราบทูลภายหลัง

ต่อมาในภายหลัง ปรากฏเอกสารพิมพ์ดีดตัวเล็ก บนกระดาษตราประจำพระองค์ และลายพระหัตถ์ลงพระนาม ประทานบ้านให้แก่รัฐบาล
รัฐบาลให้เสด็จกลับวังวันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๔๗๕ เอกสารที่เป็นกระดาษแผ่นเดียวนั้น ลงวันที่ ๔ กรกฎาคม วันที่รัฐบาลกำหนดให้ เสด็จไปขึ้นรถไฟ เสด็จออกนอกประเทศ
ซึ่งมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า ประการแรกในวังบางขุนพรหมไม่เคยมีเครื่องพิมพ์ดีดอักษรตัวเล็ก ที่วังใช้เครื่องพิมพ์ดีดพรีเมียร์อักษรตัวโตอยู่เครื่องเดียวมาแต่ไหนแต่ไร
ดังนั้น จึงมีผู้สันนิษฐานว่า คณะราษฎร์ได้จัดพิมพ์หนังสือฉบับนั้นมาถวายให้ลงพระนาม ก่อนเสด็จออกจากพระราชอาณาจักรในวันที่ ๔ กรกฎาคมนั้น ด้วยถือเอาพระวาจาเชิงประชดที่ว่า พระองค์ท่านไม่มีเงิน ถ้าเห็นว่ายังไม่ได้ทำอะไรพอสำหรับบ้านเมือง ทรงมีแต่บ้านก็เอาบ้านฉันไปซี

'บ้าน' ของพระองค์นั้น เป็นที่ดินที่สมเด็จพระบรมชนกนาถ ทรงซื้อที่ดินชาวบ้าน ๑๖ ราย เป็นเงิน ๓๓๐ ชั่ง ๑๔ บาท ๔๐ อัฐ (พ.ศ.๒๔๔๒) โดยใช้เงินพระคลังข้างที่ซึ่งเป็นเงินส่วนพระองค์ ของพระเจ้าแผ่นดิน ไม่ใช่เงินสำหรับใช้ในราชการแผ่นดิน ราคาที่ซื้อนั้นก็เป็นราคาที่ราษฎรซื้อขายกันในเวลานั้น (วังที่พระราชทานแก่พระราชโอรสทุกพระองค์ก็เป็นเช่นเดียวกันนี้ คือทรงซื้อที่พระราชทานให้ แต่ละวังจึงเป็นกรรมสิทธิทรัพย์สินส่วนพระองค์ของเจ้าของวัง)
วังบางขุนพรหม จึงตกเป็นของรัฐบาลตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๗๕

จนกระทั่งเวลาผ่านพ้นมา ๑๖ ปี ถึง พ.ศ.๒๔๙๑ เมื่อ จอมพล ป.พิบูลสงครามได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่งหลังสงคราม ถึงตรงนี้ผู้เล่าสันนิษฐานเอาเองว่า บางทีอาจเป็นเพราะเมื่อคณะปฏิวัติเป็นรัฐบาลนั้นได้รับประทานวังบางขุนพรหมมาอย่างมิได้เป็นธรรมต่อองค์เจ้าของวังเท่าใดนัก จอมพล ป.พิบูลสงคราม ในฐานะเป็นนายกรัฐมนตรี จึงดำริจะให้รัฐบาลคืนวังบางขุนพรหม เวลานั้น สมเด็จฯเจ้าฟ้าฯกรมพระนครสวรรค์ สิ้นพระชนม์แล้ว จอมพล ป.พิบูลสงคราม จึงมีหนังสือทูลพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุมภฏพงศ์บริพัตร พระโอรสพระองค์ใหญ่
ความตอนหนึ่งว่า
"เมื่อข้าพระพุทธเจ้าเป็นนายกรัฐมนตรีคราวก่อน ได้เคยคิดไว้และได้ดำเนินการไปบ้างแล้วก็มี เรื่องใคร่จะขอให้ทางรัฐบาลจัดการคืนวังบางขุนพรหมให้แก่ท่านทายาทรับไป เพื่อจะได้ใช้เป็นที่ประทับ ประชาชนจะได้เห็นว่าทางพระราชวงศ์ กับทางรัฐบาลมีความสนิทสนมกันดีอยู่ จะได้ไม่เป็นรอยร้าวที่จะพาให้ประเทศชาติต้องแตกแยกกัน อันจะนำมาซึ่งความล่มจมของชาติในอนาคต"

ขณะ จอมพล ป. พิบูลสงครามเป็นนายกฯ ครั้งนี้ก็ได้มีการพิจารณา เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งจะต้องออกเป็นพระราชบัญญัติ ต้องค้นหาเรื่องเดิมที่ยังค้นไม่ได้ จอมพล ป.เป็นนายกฯ อยู่จนถึง พ.ศ.๒๕๐๐ ต้องออกจากตำแหน่ง ถึง พ.ศ.๒๕๐๒ ขณะ จอมพล ถนอม กิติขจร เป็นนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี จึงได้ลงมติเป็นเด็ดขาดว่า ไม่อาจคืนให้ได้ ซึ่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้มีหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีข้อความสำคัญว่า

"คณะรัฐมนตรีได้ประชุมปรึกษา เมื่อวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๐๒ เห็นว่าเรื่องที่ดินและวังบางขุนพรหมนี้ จอมพล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ได้ทรงพระราชทานและได้โอนกรรมสิทธิ์ให้แก่รัฐบาลแล้ว คณะรัฐมนตรีจึงไม่อาจที่จะถวายคืนให้แก่ทายาทของพระองค์ท่านได้"
http://variety.thaiz...งขุนพรหม/54603/

Edited by amplepoor, 10 July 2012 - 13:17.


#43 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 10 July 2012 - 13:12

ผมเพิ่งเห็นกระทู้นี้ได้ยังไงครับเนี่ย
ชอบมากครับ คุณ amplepoor ก็เป็นพหูสูติมากๆ
แต่ผมก็ยังไม่ได้เกลียดอะไรคุณสุลักษณ์อยู่เหมือนเดิมนะครับ
แค่รู้สึกว่าแกก็เลอะเทอะของแกอย่างงี้มานานแล้วนี่หว่า 55


มาช้าก็ถือว่ามาครับ
มาช่วยกันเสนอความจริง ถ้าผมผิดอย่าเกรงใจ เอาธนูปักเข่าได้เลย
อ้อ พหูสูติ แปลว่าเกิดหลายหลากนะคร๊าบบบ....ฮา

สุลักษณ์นี่ ไอด้อลผมทีเดียว เลยขอเล่นหนักหน่อย
ที่จริงงานที่แกทำก็น่ายกย่อง จนมาเสียคนเมื่อแก่นี่แหละ
ดูเหมือนตั้งแต่ขึ้นเวทีพันธมิตรเมื่อ 2549...พูดด่าทักษิณแบบเลอะเทอะ
ไม่มีข้อมูลลึกเลย...เห็นจะเป็นเพราะทักษิณไม่ใช้บริการอาณานิคมปัญญาชนของแก


ไปใช้ของหมอประเวศกับนิธิเอี่ยวเมียลูกศิษย์แทน

Edited by amplepoor, 10 July 2012 - 13:15.


#44 baboon

baboon

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,801 posts

Posted 10 July 2012 - 13:20

เคยอ่านหนังสือของนายหนหวยเนื่องยึดวังบางขุนพรหม นายหนหวยให้ข้อสังเกตว่า จดหมายที่ถูกพิมพ์และลงชื่อไว้นั้นประหลาดมากเพราะวังบางขุนพรหมไม่มีพิมพ์ดีดฟร้อนนั้น แถมตอนลี้ภัยอย่างรีบร้อนไม่น่าจะมีเวลามาพิมพ์หนังสือยกวังให้ นอกจากนั้นพวกคณะราดยังมีมือปลอมสายเซ็นอีกสองคน จึงพอสรุปความได้ว่า ไอ้พวกนี้หิวจริงๆ

#45 baboon

baboon

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,801 posts

Posted 10 July 2012 - 13:27

คุณแอมครับ ที่มันบอกว่ากระพระยาดำรงฝากบ้านเมืองไว้กับปรีดีและยอมรับนับถือปรีดีอย่างมากนี่มีหลักฐานอะไรมั้ยครับ หรือมันเอาไอด้อลมันจับชนกันเอง

#46 ไอโอดีนแมน

ไอโอดีนแมน

    มันเป็นศาสตร์ของความฮา!

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,014 posts

Posted 10 July 2012 - 13:57

สั้นๆ "โค-ตรเพ้อเจ้อ!!!"

:angry: :angry: :angry:
"If you tell the truth, you don’t have to remember anything."

#47 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 10 July 2012 - 15:35

คุณแอมครับ ที่มันบอกว่ากรมพระยาดำรงฝากบ้านเมืองไว้กับปรีดีและยอมรับนับถือปรีดีอย่างมากนี่มีหลักฐานอะไรมั้ยครับ หรือมันเอาไอด้อลมันจับชนกันเอง


ผมไม่มั่นใจเรื่องนี้เท่าไหร่ สุลักบอกว่าลูกสาวท่านเล่า
แต่ลูกสาวท่านก็เคยบอกว่า สุลักรู้เรื่องเสด็จพ่อดีกว่าลูกเสด็จพ่อรุ่นเล็กๆ เสียอีก
อันนี้ทำให้ผมไม่ค่อยเชื่อถือลูกสาวท่านสักเท่าไรครับ แล้วมาออกจากปากจอมโกหกอย่างสุลักอีก

จึงไม่เชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์

#48 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 10 July 2012 - 16:07

ทีนี้มาจับโกหกสุลักษณ์ชนิดถลกหนังแต่หัวจรดบาทาเลย คือเรื่องที่มันอ้างว่าไปคุยกับป๋วย ดังนี้

คุณป๋วย มาเป็นผู้ว่าการธนาคารประเทศไทย ผมเรียนคุณป๋วยว่า ไม่ต้องคืนวังก็ได้ถ้าท่านรวยจริงอย่างว่า ก็ตั้งเป็นมูลนิธิถวายท่าน ให้รางวัลนักศึกษาเพื่อเป็นพระเกียรติ คุณป๋วยก็บอกว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย ทำไม่ได้ เพราะธนาคารแห่งประเทศไทย ซื้อมาจากกระทรวงการคลัง เช่ามาไม่มีทาง แต่คุณป๋วยก็พยายามถวายพระเกียรติท่านทุกอย่าง ต้องเข้าใจอันนี้
http://www.facebook....150898885312798

เรามีไทม์ไลน์ให้ตรวจสอบพอดี คือ หนังสือคณะรัฐมนตรีแจ้งกระทรวงการคลัง อ้างถึงมติครม. วันที่ 3 พฤศจิกายน 2502 ว่า
"คณะรัฐมนตรีได้ประชุมปรึกษา เมื่อวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๐๒ เห็นว่าเรื่องที่ดินและวังบางขุนพรหมนี้ จอมพล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ได้ทรงพระราชทานและได้โอนกรรมสิทธิ์ให้แก่รัฐบาลแล้ว คณะรัฐมนตรีจึงไม่อาจที่จะถวายคืนให้แก่ทายาทของพระองค์ท่านได้"
http://variety.thaiz...งขุนพรหม/54603/

เอาละ มาบวกเลขกันหน่อย
ตามมติครม. เป็นอันสรุปได้ละ ว่าจอมพลถนอม ไม่คืนวังให้ทายาทแน่นอน นี่ปักหมุดก่อนเลยว่า อยู่ในเดือนพฤศจิกายน 2502
ก็แปลว่า ทางทายาท คงจะทวงถามมาผ่านทางกระทรวงคลังเพราะจอมพลป. เอง ไปรับปากไว้ตั้งแต่ สิบปีก่อนว่าจะคืน
แล้วป๋วยมาเกี่ยวอะไร ตอบว่าป๋วยไม่เกี่ยวหรอก แต่สุลักมันเอาคำพูดยัดปากป๋วย

สถานะของป๋วยนั้น คือข้าราชการคนหนึ่ง ต่อให้เป็นผู้ว่าธนาคารชาติ ก็ยังอยู่ใต้กระทรวงคลัง
มิหนำซ้ำ วังบางขุนพรหม เจ้าของคือกระทรวงคลัง ไม่ใช่ธนาคาร จึงเห็นว่ามติครม. ตอบไปยังกระทรวง ไม่ได้ตอบไปยังธนาคาร
อันนี้เป็นสายงานในวงราชการ ซึ่งสุลักเอามามั่ว อวดตัวเหมือนกับเป็นตัวสำคัญในเหตุการณ์นั้น....ที่จริงแล้ว เปล่าเลย
ในวันที่มีมคิครม. ไอ้เหียกเจ๊กหน้าลิงคนนี้อยู่อังกฤษครับ มันบอกเอง
๒๕ สิงหาคม ๒๕๐๑ เดินทางจากประเทศอังกฤษกลับสู่ประเทศไทย
๓๑ มกราคม ๒๕๐๒ เดินทางไปประเทศอังกฤษอีกครั้งเพื่อทำงานกับบีบีซีของอังกฤษ
* เมื่อบีบีซียุบการกระจายเสียงภาคภาษาไทย ได้ไปสอนภาษาไทยที่ SOAS มหาวิทยาลัยลอนดอน
๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๐๔ ได้เป็นเนติบัณฑิตแห่ง The Middle Temple
ได้เรียบเรียงเรื่องเสด็จอังกฤษ เป็นบทกลอนแจกตอนกลับจากอังกฤษ พ.ศ. ๒๕๐๕
http://www.sulak-siv...=1&limitstart=1

สรุปว่า มันออกจากเมืองไทยไปตั้งแต่กลางปี 2501 จากนั้น อีกร่วมปี ป๋วยจึงเป็นผู้ว่า
เป็นผู้ว่าได้ 5 เดือน ครม. จึงมีมติออกมาว่าไม่คืนวัง ตรงนี้น่าจะบอกได้ว่าเป็นเรื่องที่ทำกันก่อนป๋วยเป็นผู้ว่าด้วยซ้ำ
แต่ที่สำคัญคือ ตั้งแต่ 2501-2505 สุลักอยู่นอกประเทศ มันจะหายตัวมาบอกป๋วยเรื่องวังได้อย่างไร

มันมาเจอป๋วยอีกที เรื่องคืนวังก็ผ่านไปสามปีกว่าแล้ว เบ็ดเสร็จเด็ดขาดไปแล้ว

สมมติว่ามันพูดกับป๋วยจริง ก็คงเป็นการเพ้อเจ้อ เหมือนที่มันอ้างว่าพ่อไอ้แซม (นายประยูร ภมรมนตรี) ไม่ยอมคืน บอกจอมพลป. ว่า เจ้าฟ้าท่านรวยแล้ว แล้วมันเอามาบอกป๋วยว่า ถ้าท่านรวยก็ไม่ต้องคืน เพื่อให้คนอ่านเข้าใจว่ามันไกล้ชิดเหตุการ ทั้งๆ ที่ เป็นเรื่องบรรจง ต อ แ ห ล ขึ้นมาอวดตัวเองทั้งนั้น

นายป๋วย อึ๊งภากรณ์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ 11 มิ.ย. 2502 - 15 ส.ค. 2514
http://www.bot.or.th...OfGovernor.aspx

เห็นความเลว ร ะ ยั ม ของไอ้แก่จอมกะล่อนคนนี้หรือยังครับ

#49 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 10 July 2012 - 19:10

มาดูความเฮียข้อต่อไปครับ เรื่องกองกำลังร. 5


ถาม: เรียนถามอาจายร์ครับ อยากทราบว่า ร.5 มีกองกำลังไว้ปราบปรามประชาชนจริงไหมครับ
ส.ศิวรักษ์: จริงสิครับ อันนี้คุณไม่้ต้องเชื่อผม เพราะ ร.5 เสด็จอินเดีย ก่อนพระชนม์ครบ 20 และได้อิทธิพลจากคนอังกฤษที่อินเดียเลยว่า ถ้าเผื่อจะมีชาติ จะปกครองบ้านเมืองต้องมีกองทัพที่เกรียงไกร ไม่ใช่ไปรบกับอริราชศัตรู เพราะศัตรูของไทยเวลานี้ ข้างหนึ่งอังกฤษมันยึดพม่าไปแล้ว ยึดมลายูไปแล้ว อีกด้านฝรั่งเศส มันยึดเขมรไปแล้ว แล้วกองทัพไทยจะไปรบกับใครครับ ก็มีไว้สำหรับปราบปรามศัตรูเท่านั้นเอง นี่ท่านไปเรียนมาจากอังกฤษ ที่มันบอกมันปกครองอินเดียได้ หนึ่ง)ต้องให้การศึกษาล้างสมองคน ให้นับถือพระเจ้าแผ่นดิน ยิ่งกว่านับถือพ่อแม่ ให้เรียนภาษาภาคกลาง ยิ่งกว่าภาษาของตัวเอง สอง)ต้องวางแผนการปกครอง ศูนย์กลางอยู่ที่กรุงเทพฯ รวบอำนาจไว้ที่กรุงเทพฯทั้งหมด แต่ก่อนไม่เป็นครับ เรามีพระเจ้าเชียงใหม่ พระเจ้าน่าน พระเจ้าแพร่ ที่ปัตตานีเขาก็มีเจ้าผู้ครองนครปัตตานี แล้วแต่ก่อนนี้ ไทรบุรี กลันตัน ก็เป็นของเรา เขาก็มีเจ้านครทั้งนั้น ร.5ไปยึดเอามาหมดเลย แล้วถ้าเผื่อยึดอย่างนี้ พวกนั้นเขาขัดแข็ง ก็เอากองทัพไปปราบ ดังนั้นกองทัพไทยมีไว้ปราบปรามคนไทยตั้งแต่ร.5 เริ่มปราบกบฏผีบุญที่อุบลฯ กบฏเมืองแพร่ กบฏปัตตานี นี้3เมืองนี้สมัยร.5 แล้วปราบเรื่อยมาสมัยรัชกาลที่6 ก็ปราบพวก ร.ศ.130 รัชกาลที่7 ก็กบฏบวรเดชปราบพวกคณะราษฎร แต่แพ้ สมัยรัชกาลที่9 ก็ปราบมาเรื่อยเลย ตั้งแต่2490 , 2516 , 2519 พฤษภาทมิฬ แล้วที่ราชประสงค์ กองทัพปราบประชาชนแทบทั้งนั้น กองทัพทำอย่างอื่นไม่เป็นเลยครับ เพราะถ้าไม่ปราบประชาชนมันก็เล่นกอลฟ์กัน เที่ยวผู้หญิงกัน ตีกะหรี่กัน ซื้อรถยนต์แพงๆขับแข่งกัน นี้คนก็หลงมัน เหมือนที่หลงคึกฤทธิ์ ปราโมช หลวงวิจิตรฯ โอ้ กองทัพมาช่วยเรื่องน้ำท่วมหน่อย ก็ตื่นเต้นกันใหญ่ น้ำท่วมไม่ใช่หน้าที่กองทัพเลย แต่ไม่มีอะไรทำ ออกมาช่วยก็ดีเหมือนกัน ดีกว่าอยู่เปล่าๆ

#50 ตามงคล

ตามงคล

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,980 posts

Posted 10 July 2012 - 19:16

ส.ศิวรักษ์ แก่ แล้ว เพี้ยน <_<




0 user(s) are reading this topic

0 members, 0 guests, 0 anonymous users