เหตุที่ประชาธิปไตย"สีแดง" ไม่เบ่งบานในใจของคนทั้งประเทศ
#1
Posted 14 July 2012 - 23:01
บทความพิเศษ นงนุช สิงหเดชะ มติชนสุดสัปดาห์ 13 กรกฎาคม 2555
http://www.matichon....=MatichonOnline
อย่างที่เราๆ ท่านๆ สังเกตเห็นนั่นล่ะว่า นับแต่ก่อตั้งประเทศไทยมานี้ ยังไม่เคยเห็นการเมืองทำให้คนในชาติแตกแยกกันในระดับลึกมากเท่ายุคนี้ ภาษาเทคโนโลยีร่วมสมัยเขาเรียกว่าแตกแยกกันละเอียดร้าวลึกระดับ "นาโน" ตั้งแต่ระดับชาติไปจนถึงองค์กร บริษัท ครอบครัว พี่น้อง สามีภรรยา ไม่เว้นแม้แต่ในวงการกวี ศิลปิน
ล่าสุดนี้เกิดวิวาทะของคนกวี สุรชัย จันทิมาธร หรือ หงา คาราวาน ศิลปินแห่งชาติ และศิลปินเพลงเพื่อชีวิตชื่อดัง (ที่ได้ชื่อว่าเป็นซ้ายเก่า) และ วิสา คัญทัพ (อดีตซ้ายฝ่ายเสื้อแดง) ทั้งนี้ หงา คาราวาน เขียนกลอนเนื่องในโอกาสวันสุนทรภู่ว่า
"ขอเรียนศาลแห่งสีที่เคารพ สีต้องใช้ไม่ครบกระบวนสี/มีกลุ่มคนผูกขาดในชาตินี้ ยึดสีแดงไปย่ำยีเป็นของตน/ทำให้สีแดงแย่มีแต่ยุ่ง จะแต่งปรุงงานศิลป์ก็สับสน/ ศิลปินเดือดร้อนเกินจะทน เพราะสีแดงถูกปล้นขโมยไป/เอาสีแดงคืนมาให้ข้าเถิด ก่อนจะเกิดสงครามห้ามไม่ได้/ทุกวันนี้พวกข้าไม่กล้าใช้ เพราะว่าใจไม่มีให้สีแดง..."
ทำให้ วิสา คัญทัพ เขียนตอบโต้ ในทำนองว่า หงา คาราวาน (และยังพาดพิงเลยไปถึง เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์) มองไม่เห็นประชาชน มองไม่เห็นว่าสีแดงคือเลือดของประชาชน จึงไม่มีใจให้สีแดง
นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล จากธรรมศาสตร์ ก็ร่วมแจมด้วย โดยโพสต์ข้อความตั้งข้อสงสัยว่าทำไมอดีตฝ่ายซ้ายจึงหันมาเชียร์เจ้า "ทำไม อดีตฝ่ายซ้าย อย่างพี่จี๊ด (จิระนันท์ พิตรปรีชา) พี่ "คมทวน" (คันธนู) และอีกหลายต่อหลายคน จึงหันมา เชียร์เจ้า เป็นปริศนา ที่ผมเองก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน"
นี่คือส่วนหนึ่งจากข้อความของนายสมศักดิ์
เราจะสังเกตเห็นความเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงและนักวิชาการ-กวีที่สนับสนุนฝ่ายสีแดง นั่นก็คือพวกเขามัก "สรุปเหมา" ว่า ใครก็ตามที่ไม่เห็นด้วยกับคนเสื้อแดง เป็นพวกเชียร์เจ้า พวกนิยมอำมาตย์ พวกไม่เชื่อในประชาชน ไม่เชื่อในเสรีภาพและประชาธิปไตย
นี่เป็นข้อสรุปที่ผิด และหากยังไม่พยายามเข้าใจสาเหตุที่แท้จริง พวกเขาก็จะยังคงคร่ำครวญและฟาดงวงฟาดงากับคนที่ไม่เห็นด้วยต่อไป และเชื่อแน่ได้ว่ายากนักที่พวกเขาจะสามารถโน้มน้าวให้คนอีกจำนวนมากอย่างน้อยก็ครึ่งประเทศ หันมาสนับสนุนหรือเห็นพ้องกับประชาธิปไตยในแบบของพวกเขา ที่หลายคนเรียกว่า "ประชาธิปไตยสีแดง"
สังเกตกันอีกหรือไม่ว่า คนที่ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยแบบคนเสื้อแดง จำนวนมากล้วนเป็นผู้มีสติปัญญา มีการศึกษาสูง หลายคนเป็นนักต่อสู้กับเผด็จการ หลายคนทำงานให้กับชาวบ้าน ชาวรากหญ้า หรือในรายที่เป็นกวี ก็เป็นกวีชื่อดัง เป็นศิลปินแห่งชาติ
ถามว่าคนเหล่านี้ไม่รู้จักประชาธิปไตย ไม่รักเสรีภาพและประชาธิปไตยหรือ
คนระดับ จิระนันท์ พิตรปรีชา ภรรยาขอ งเสกสรรค์ ประเสริฐกุล ฝ่ายซ้ายเก่า เรียนจบจากอเมริกานี่ ไม่รักเสรีภาพและไม่รู้จักประชาธิปไตยเท่ากับชาวไร่ชาวนาในภาคเหนือและอีสานหรือ
หงา คาราวาน เป็นศิลปิน กวี อันเป็นอาชีพที่ได้ชื่อว่าที่รักและหวงแหนเสรีภาพมากที่สุดนี่ ไม่รักเสรีภาพ ไม่รักประชาธิปไตยกระนั้นหรือ
หรือหากดูจากผลการเลือกตั้งครั้งที่แล้วจะเห็นว่า "คนชั้นกลาง" ไม่เลือกพรรคเพื่อไทย เห็นได้ชัดจากพื้นที่กรุงเทพฯ หรือในกรณีต่างจังหวัด จะเห็นว่าในเขตอำเภอเมือง พรรคเพื่อไทยไม่ได้รับความนิยม
กรุงเทพฯ และในเขตเมือง อนุมานได้ว่าเป็นถิ่นที่อยู่ของผู้มีการศึกษาสูง ฐานะทางเศรษฐกิจสูง เป็นผู้อยู่ด่านหน้าของประเทศในการเชื่อมต่อกับโลกภายนอก เป็นผู้อยู่ด่านหน้าของความทันสมัย มีจำนวนผู้เรียนจบจากประเทศตะวันตกโดยเฉลี่ยสูงกว่าพื้นที่อื่น คำถามมีอยู่ว่า แล้วคนเหล่านี้ไม่รู้จักและไม่รักประชาธิปไตยอย่างนั้นหรือ
คนชั้นกลางหรือคนกรุงเทพฯ หรือแม้แต่คนในเขตเมืองใหญ่ ได้ชื่อว่าเป็นผู้รักและหวงแหนสิทธิเสรีภาพของตนมากที่สุด ถ้ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับเสรีภาพของพวกเขา พวกเขาจะเป็นกลุ่มแรกที่ออกมาส่งเสียงโวยวายโดยไม่สนใจว่าคนที่ปกครองเขาอยู่นั้นเป็นอำมาตย์หรือนายทุน
แต่ทำไมตลอดมานับแต่หลังปี 2534 จนถึงก่อนยุคของทักษิณ พวกเขาไม่เคยรู้สึกว่าขาดแคลนเสรีภาพและประชาธิปไตย ดังนั้น อย่างน้อยก็แสดงว่าบ้านเมืองภายใต้ "อำมาตย์" (ตามจินตนาการของฝ่ายทักษิณ) มีเสรีภาพและประชาธิปไตยมากพอสมควร ขณะที่พวกเขาทนไม่ได้ในยุคทักษิณ (อย่าอ้างเหตุผลผิดๆ อีกล่ะว่าคนชั้นกลางได้รับประโยชน์จากอำมาตย์)
ในด้านเศรษฐกิจหรือความเจริญทางวัตถุ ที่จะใช้เป็นตัวชี้วัดว่า "อำมาตย์" ถ่วงความเจริญและประชาธิปไตยของประเทศจริงหรือไม่นั้น
ก็อย่าลืมว่า นับตั้งแต่ราว พ.ศ.2530 เป็นต้นมา เศรษฐกิจของประเทศไทยเติบโตร้อนแรง ขยายตัวต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 10 เปอร์เซ็นต์ เป็นหนึ่งในดาวเด่นของภูมิภาคเอเชีย ตลาดหุ้นของไทยขึ้นไปสูงสุดที่ 1,700 จุด เมื่อปี 2537 (นายชวน หลีกภัย เป็นนายกฯ) จนบัดนี้ยังไม่มีรัฐบาลไหนลบสถิติได้ แม้แต่ยุคทักษิณ
ขณะที่รัฐบาลที่ก่อวิกฤตเศรษฐกิจครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยเมื่อเดือนกรกฎาคม 2540 คือรัฐบาลที่มี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี และมีรองนายกรัฐมนตรีชื่อ ทักษิณ ชินวัตร หลังจากมีการลอยตัวค่าเงินบาท
และมีการเล่าลือกันให้แซดว่านักการเมืองในรัฐบาลบางคนในขณะนั้น รู้ข้อมูลวงในล่วงหน้าว่าจะมีการลดค่าเงินบาท จึงฉวยโอกาสฟันกำไรค่าเงินอื้ออยู่รายเดียว
ขณะที่บริษัทอื่นขาดทุนค่าเงินจนเลือดไหลแทบล้มประดาตาย
กลับมาที่ประเด็นของประชาธิปไตย แท้จริงแล้วส่วนใหญ่คนที่ไม่เห็นด้วยกับฝ่ายเสื้อแดง ไม่ได้เกี่ยวกับว่าพวกเขาเชียร์เจ้าหรือฝักใฝ่อำมาตย์ แต่พวกเขาพิจารณาเนื้อแท้ว่า สิ่งที่ปรากฏอยู่นั้นเป็นประชาธิปไตยจริงหรือไม่ หรือเป็นแค่เปลือก ซึ่งพวกเขาเห็นว่าประชาธิปไตยยุคทักษิณเป็นแค่เปลือก
หรือหากจะมีอำมาตย์อยู่จริง คนชั้นกลางหรือคนที่ไม่เลือกพรรคของคุณทักษิณ เขาก็เห็นว่าเอาเข้าจริงบ้านเมืองยุคอำมาตย์ยังมีคุณธรรมมากกว่า สงบสุขมากกว่า เพราะอย่างน้อยอำมาตย์ก็ไม่มีการปลุกระดมสร้างภาพลวงตาคนให้เกลียดชังแตกแยกกันทางชนชั้น
ผิดกับยุคนี้ที่ฝ่ายที่อ้างว่ารักประชาธิปไตย แต่ชอบปลุกระดมบ่มเพาะให้คนเกลียดชังกันทางชนชั้นจนแทบจะฆ่ากันวันนี้วันพรุ่งก็ยังได้
อีกทั้งพฤติกรรมที่ทำตัวก้าวร้าวข่มขู่คุกคาม ข่มเหงคนอื่นที่เห็นต่าง ใช้กฎม็อบเหนือกฎหมาย แต่ยังดันคิดว่าตัวเองเป็นนักประชาธิปไตยนั้น ยิ่งทำให้คนจำนวนมากเบื่อหน่ายเอือมระอาถึงขั้นโกรธ และข้องใจว่าจริงๆแล้วฝ่ายสีแดงเข้าใจประชาธิปไตยครบถ้วนและถ่องแท้หรือไม่
บรรพบุรุษของไทยได้สร้างสิ่งที่ดีไว้ นั่นคือทำให้คนไทยทุกเชื้อชาติเผ่าพันธุ์อยู่ร่วมกันได้ ไม่ขัดแย้งเกลียดชังกันทางชนชั้น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์หรือศาสนา แต่อีกไม่นานจากนี้ไปเราคงเหมือนประเทศด้อยพัฒนาอีกหลายประเทศเช่นรวันดาที่ต้องฆ่ากันเพราะขัดแย้งกันเรื่องชนชั้น เชื้อชาติเพราะประชาธิปไตยแต่เปลือกนี่ล่ะ
นี่คือเหตุผลหลักที่คนอีกจำนวนมาก ไม่อาจจะยอมรับและเห็นด้วยกับประชาธิปไตย "สีแดง" ถ้าคนเสื้อแดงยังหาเหตุผลที่แท้จริงไม่เจอว่าทำไมคนอีกมากไม่ยอมรับ ก็ยากนักที่ประชาธิปไตยสีแดงจะเบ่งบานในใจคนทั้งประเทศ
เป็นเห็บเกาะไข่ระบบรัฐประหาร
#2
Posted 14 July 2012 - 23:09
#3
Posted 14 July 2012 - 23:14
ประชาธิปไตย ไม่ได้หมายความว่า ฝ่ายไหนมีศพ และมีศพมากที่สุด ฝ่ายนั้นชนะ
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
#4
Posted 14 July 2012 - 23:51
โดนครับ
#5
Posted 15 July 2012 - 00:08
หรือหากจะมีอำมาตย์อยู่จริง คนชั้นกลางหรือคนที่ไม่เลือกพรรคของคุณทักษิณ เขาก็เห็นว่าเอาเข้าจริงบ้านเมืองยุคอำมาตย์ยังมีคุณธรรมมากกว่า สงบสุขมากกว่า เพราะอย่างน้อยอำมาตย์ก็ไม่มีการปลุกระดมสร้างภาพลวงตาคนให้เกลียดชังแตกแยก กันทางชนชั้น
ผิดกับยุคนี้ที่ฝ่ายที่อ้างว่ารักประชาธิปไตย แต่ชอบปลุกระดมบ่มเพาะให้คนเกลียดชังกันทางชนชั้นจนแทบจะฆ่ากันวันนี้วันพรุ่งก็ยังได้
โดนครับ
#6
Posted 15 July 2012 - 00:31
#7
Posted 15 July 2012 - 00:33
เพราะคนไทยที่ไม่ใช่เสื้อแดง เป็นคนดี แยกแยะชั่ว - เลว ได้เป็นอย่างดี
ดังนั้น ประชาธิปไตย"สีแดง" ไม่เบ่งบานในใจของคนเหล่านั้น
#8
Posted 15 July 2012 - 01:11
#9
Posted 15 July 2012 - 01:29
ฝั่งสีแดง ก็ คือพวกอกตัญญู
ไม่รู้จักเลี้ยงดูบิดรมารดา
ดังเฉกเช่นพวกไพร่ที่มาอยู่ กทม.ทิ้งพ่อแม่ให้เลี้ยงลูกตัวเองที่เสพสมจนอิ่มในกามา
จนคลอดแต่ไม่รู้จักอิ่มในรสกาสาจึงเสาะหาเสพกามา
เมื่อใอ้แม้วมันมีนโยบาย30บาทพวกบาปทั้งหลายจึงดีใจเพราะต่อไปไม่ต้องส่งค่าหมอไปให้บิดรมารดาพวกมันอีกแล้ว
#10
Posted 15 July 2012 - 01:40
#11
Posted 15 July 2012 - 01:57
#12
Posted 15 July 2012 - 04:52
#13
Posted 15 July 2012 - 05:18
นี่จาก มติชน จริงหรือ
ต้องมีบทความแอนตี้ทักษิณแจมออกมามั่ง เดวจะเหลือคาแผงมากกว่านี้
เอาไว้หลอกขายทีเผลอให้พวกแฟนเก่าที่นานๆจะซื้ออ่านสะที
หมายเหตุ FOM ในอดีตรู้จัก นงนุช สิงหเดชะ ผู้เขียนบทความนี้เป็นอย่างดี
AMAZING coup d'etat , THAILAND ONLY ..
#14
Posted 15 July 2012 - 05:21
ยังกับเป็นสิ่งแปลกปลอมที่เหมือนสารกันชื้้นในถุงขนมเลย
#15
Posted 15 July 2012 - 09:04
เหตุที่ประชาธิปไตย"สีแดง" ไม่เบ่งบานในใจของคนทั้งประเทศ
บทความพิเศษ นงนุช สิงหเดชะ มติชนสุดสัปดาห์ 13 กรกฎาคม 2555
http://www.matichon....=MatichonOnline
อย่างที่เราๆ ท่านๆ สังเกตเห็นนั่นล่ะว่า นับแต่ก่อตั้งประเทศไทยมานี้ ยังไม่เคยเห็นการเมืองทำให้คนในชาติแตกแยกกันในระดับลึกมากเท่ายุคนี้ ภาษาเทคโนโลยีร่วมสมัยเขาเรียกว่าแตกแยกกันละเอียดร้าวลึกระดับ "นาโน" ตั้งแต่ระดับชาติไปจนถึงองค์กร บริษัท ครอบครัว พี่น้อง สามีภรรยา ไม่เว้นแม้แต่ในวงการกวี ศิลปิน
ล่าสุดนี้เกิดวิวาทะของคนกวี สุรชัย จันทิมาธร หรือ หงา คาราวาน ศิลปินแห่งชาติ และศิลปินเพลงเพื่อชีวิตชื่อดัง (ที่ได้ชื่อว่าเป็นซ้ายเก่า) และ วิสา คัญทัพ (อดีตซ้ายฝ่ายเสื้อแดง) ทั้งนี้ หงา คาราวาน เขียนกลอนเนื่องในโอกาสวันสุนทรภู่ว่า
"ขอเรียนศาลแห่งสีที่เคารพ สีต้องใช้ไม่ครบกระบวนสี/มีกลุ่มคนผูกขาดในชาตินี้ ยึดสีแดงไปย่ำยีเป็นของตน/ทำให้สีแดงแย่มีแต่ยุ่ง จะแต่งปรุงงานศิลป์ก็สับสน/ ศิลปินเดือดร้อนเกินจะทน เพราะสีแดงถูกปล้นขโมยไป/เอาสีแดงคืนมาให้ข้าเถิด ก่อนจะเกิดสงครามห้ามไม่ได้/ทุกวันนี้พวกข้าไม่กล้าใช้ เพราะว่าใจไม่มีให้สีแดง..."
ทำให้ วิสา คัญทัพ เขียนตอบโต้ ในทำนองว่า หงา คาราวาน (และยังพาดพิงเลยไปถึง เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์) มองไม่เห็นประชาชน มองไม่เห็นว่าสีแดงคือเลือดของประชาชน จึงไม่มีใจให้สีแดง
นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล จากธรรมศาสตร์ ก็ร่วมแจมด้วย โดยโพสต์ข้อความตั้งข้อสงสัยว่าทำไมอดีตฝ่ายซ้ายจึงหันมาเชียร์เจ้า "ทำไม อดีตฝ่ายซ้าย อย่างพี่จี๊ด (จิระนันท์ พิตรปรีชา) พี่ "คมทวน" (คันธนู) และอีกหลายต่อหลายคน จึงหันมา เชียร์เจ้า เป็นปริศนา ที่ผมเองก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน"
นี่คือส่วนหนึ่งจากข้อความของนายสมศักดิ์
เราจะสังเกตเห็นความเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงและนักวิชาการ-กวีที่สนับสนุนฝ่ายสีแดง นั่นก็คือพวกเขามัก "สรุปเหมา" ว่า ใครก็ตามที่ไม่เห็นด้วยกับคนเสื้อแดง เป็นพวกเชียร์เจ้า พวกนิยมอำมาตย์ พวกไม่เชื่อในประชาชน ไม่เชื่อในเสรีภาพและประชาธิปไตย
นี่เป็นข้อสรุปที่ผิด และหากยังไม่พยายามเข้าใจสาเหตุที่แท้จริง พวกเขาก็จะยังคงคร่ำครวญและฟาดงวงฟาดงากับคนที่ไม่เห็นด้วยต่อไป และเชื่อแน่ได้ว่ายากนักที่พวกเขาจะสามารถโน้มน้าวให้คนอีกจำนวนมากอย่างน้อยก็ครึ่งประเทศ หันมาสนับสนุนหรือเห็นพ้องกับประชาธิปไตยในแบบของพวกเขา ที่หลายคนเรียกว่า "ประชาธิปไตยสีแดง"
สังเกตกันอีกหรือไม่ว่า คนที่ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยแบบคนเสื้อแดง จำนวนมากล้วนเป็นผู้มีสติปัญญา มีการศึกษาสูง หลายคนเป็นนักต่อสู้กับเผด็จการ หลายคนทำงานให้กับชาวบ้าน ชาวรากหญ้า หรือในรายที่เป็นกวี ก็เป็นกวีชื่อดัง เป็นศิลปินแห่งชาติ
ถามว่าคนเหล่านี้ไม่รู้จักประชาธิปไตย ไม่รักเสรีภาพและประชาธิปไตยหรือ
คนระดับ จิระนันท์ พิตรปรีชา ภรรยาขอ งเสกสรรค์ ประเสริฐกุล ฝ่ายซ้ายเก่า เรียนจบจากอเมริกานี่ ไม่รักเสรีภาพและไม่รู้จักประชาธิปไตยเท่ากับชาวไร่ชาวนาในภาคเหนือและอีสานหรือ
หงา คาราวาน เป็นศิลปิน กวี อันเป็นอาชีพที่ได้ชื่อว่าที่รักและหวงแหนเสรีภาพมากที่สุดนี่ ไม่รักเสรีภาพ ไม่รักประชาธิปไตยกระนั้นหรือ
หรือหากดูจากผลการเลือกตั้งครั้งที่แล้วจะเห็นว่า "คนชั้นกลาง" ไม่เลือกพรรคเพื่อไทย เห็นได้ชัดจากพื้นที่กรุงเทพฯ หรือในกรณีต่างจังหวัด จะเห็นว่าในเขตอำเภอเมือง พรรคเพื่อไทยไม่ได้รับความนิยม
กรุงเทพฯ และในเขตเมือง อนุมานได้ว่าเป็นถิ่นที่อยู่ของผู้มีการศึกษาสูง ฐานะทางเศรษฐกิจสูง เป็นผู้อยู่ด่านหน้าของประเทศในการเชื่อมต่อกับโลกภายนอก เป็นผู้อยู่ด่านหน้าของความทันสมัย มีจำนวนผู้เรียนจบจากประเทศตะวันตกโดยเฉลี่ยสูงกว่าพื้นที่อื่น คำถามมีอยู่ว่า แล้วคนเหล่านี้ไม่รู้จักและไม่รักประชาธิปไตยอย่างนั้นหรือ
คนชั้นกลางหรือคนกรุงเทพฯ หรือแม้แต่คนในเขตเมืองใหญ่ ได้ชื่อว่าเป็นผู้รักและหวงแหนสิทธิเสรีภาพของตนมากที่สุด ถ้ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับเสรีภาพของพวกเขา พวกเขาจะเป็นกลุ่มแรกที่ออกมาส่งเสียงโวยวายโดยไม่สนใจว่าคนที่ปกครองเขาอยู่นั้นเป็นอำมาตย์หรือนายทุน
แต่ทำไมตลอดมานับแต่หลังปี 2534 จนถึงก่อนยุคของทักษิณ พวกเขาไม่เคยรู้สึกว่าขาดแคลนเสรีภาพและประชาธิปไตย ดังนั้น อย่างน้อยก็แสดงว่าบ้านเมืองภายใต้ "อำมาตย์" (ตามจินตนาการของฝ่ายทักษิณ) มีเสรีภาพและประชาธิปไตยมากพอสมควร ขณะที่พวกเขาทนไม่ได้ในยุคทักษิณ (อย่าอ้างเหตุผลผิดๆ อีกล่ะว่าคนชั้นกลางได้รับประโยชน์จากอำมาตย์)
ในด้านเศรษฐกิจหรือความเจริญทางวัตถุ ที่จะใช้เป็นตัวชี้วัดว่า "อำมาตย์" ถ่วงความเจริญและประชาธิปไตยของประเทศจริงหรือไม่นั้น
ก็อย่าลืมว่า นับตั้งแต่ราว พ.ศ.2530 เป็นต้นมา เศรษฐกิจของประเทศไทยเติบโตร้อนแรง ขยายตัวต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 10 เปอร์เซ็นต์ เป็นหนึ่งในดาวเด่นของภูมิภาคเอเชีย ตลาดหุ้นของไทยขึ้นไปสูงสุดที่ 1,700 จุด เมื่อปี 2537 (นายชวน หลีกภัย เป็นนายกฯ) จนบัดนี้ยังไม่มีรัฐบาลไหนลบสถิติได้ แม้แต่ยุคทักษิณ
ขณะที่รัฐบาลที่ก่อวิกฤตเศรษฐกิจครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยเมื่อเดือนกรกฎาคม 2540 คือรัฐบาลที่มี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี และมีรองนายกรัฐมนตรีชื่อ ทักษิณ ชินวัตร หลังจากมีการลอยตัวค่าเงินบาท
และมีการเล่าลือกันให้แซดว่านักการเมืองในรัฐบาลบางคนในขณะนั้น รู้ข้อมูลวงในล่วงหน้าว่าจะมีการลดค่าเงินบาท จึงฉวยโอกาสฟันกำไรค่าเงินอื้ออยู่รายเดียว
ขณะที่บริษัทอื่นขาดทุนค่าเงินจนเลือดไหลแทบล้มประดาตาย
กลับมาที่ประเด็นของประชาธิปไตย แท้จริงแล้วส่วนใหญ่คนที่ไม่เห็นด้วยกับฝ่ายเสื้อแดง ไม่ได้เกี่ยวกับว่าพวกเขาเชียร์เจ้าหรือฝักใฝ่อำมาตย์ แต่พวกเขาพิจารณาเนื้อแท้ว่า สิ่งที่ปรากฏอยู่นั้นเป็นประชาธิปไตยจริงหรือไม่ หรือเป็นแค่เปลือก ซึ่งพวกเขาเห็นว่าประชาธิปไตยยุคทักษิณเป็นแค่เปลือก
หรือหากจะมีอำมาตย์อยู่จริง คนชั้นกลางหรือคนที่ไม่เลือกพรรคของคุณทักษิณ เขาก็เห็นว่าเอาเข้าจริงบ้านเมืองยุคอำมาตย์ยังมีคุณธรรมมากกว่า สงบสุขมากกว่า เพราะอย่างน้อยอำมาตย์ก็ไม่มีการปลุกระดมสร้างภาพลวงตาคนให้เกลียดชังแตกแยกกันทางชนชั้น
ผิดกับยุคนี้ที่ฝ่ายที่อ้างว่ารักประชาธิปไตย แต่ชอบปลุกระดมบ่มเพาะให้คนเกลียดชังกันทางชนชั้นจนแทบจะฆ่ากันวันนี้วันพรุ่งก็ยังได้
อีกทั้งพฤติกรรมที่ทำตัวก้าวร้าวข่มขู่คุกคาม ข่มเหงคนอื่นที่เห็นต่าง ใช้กฎม็อบเหนือกฎหมาย แต่ยังดันคิดว่าตัวเองเป็นนักประชาธิปไตยนั้น ยิ่งทำให้คนจำนวนมากเบื่อหน่ายเอือมระอาถึงขั้นโกรธ และข้องใจว่าจริงๆแล้วฝ่ายสีแดงเข้าใจประชาธิปไตยครบถ้วนและถ่องแท้หรือไม่
บรรพบุรุษของไทยได้สร้างสิ่งที่ดีไว้ นั่นคือทำให้คนไทยทุกเชื้อชาติเผ่าพันธุ์อยู่ร่วมกันได้ ไม่ขัดแย้งเกลียดชังกันทางชนชั้น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์หรือศาสนา แต่อีกไม่นานจากนี้ไปเราคงเหมือนประเทศด้อยพัฒนาอีกหลายประเทศเช่นรวันดาที่ต้องฆ่ากันเพราะขัดแย้งกันเรื่องชนชั้น เชื้อชาติเพราะประชาธิปไตยแต่เปลือกนี่ล่ะ
นี่คือเหตุผลหลักที่คนอีกจำนวนมาก ไม่อาจจะยอมรับและเห็นด้วยกับประชาธิปไตย "สีแดง" ถ้าคนเสื้อแดงยังหาเหตุผลที่แท้จริงไม่เจอว่าทำไมคนอีกมากไม่ยอมรับ ก็ยากนักที่ประชาธิปไตยสีแดงจะเบ่งบานในใจคนทั้งประเทศ
เจตนาไม่ดี อ้างประชาธิปไตยเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง
เอาสิ่งดีมารับรองสิ่งชั่วมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว มันจึงไม่make sense
ฟังไม่ขึ้น หลอกคนได้ไม่ทั้งหมดค่ะ
คนที่มีการศึกษาส่วนใหญ่(ไม่ทั้งหมด)ใช้สมองไว้คิด วิเคราะห์ข้อมูล แยกแยะข้อเท็จจริง จดจำได้ว่าใครมีบุญคุณกับชาติบ้านเมืองมาตลอด จึงกตัญญูรู้คุณและแยกแยะผิดชอบชั่วดีได้ ไม่หลงเปลือก ไม่หน้ามืดตาบอดไปกับสัญญาลมๆแล้งๆที่ทำไม่ได้จริง ไม่หลงใหลได้ปลื้มไปกับนโยบายที่ให้เศษเนื้อรากหญ้าแต่สร้างความรวยให้ตัวเองแและพวก
แล้วไม่ต้องมาใช้มุกกระจกนะคะ อย่ามาถามว่าแล้วรัฐบาลอื่นไม่โกงหรือ ทักษิณโกงคนเดียวหรือ
เบื่อตรรกกะเพี้ยน ขี้เกียจเถียงกับฝาบ้าน
#16
Posted 15 July 2012 - 09:14
~ ทักษิณตาย เสรีไทยไชโย ~
#17
Posted 15 July 2012 - 09:18
#18
Posted 15 July 2012 - 09:20
ดิ้นและร้อนตัวกันสุดๆครับ
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P12374792/P12374792.html
เป็นเห็บเกาะไข่ระบบรัฐประหาร
#19
Posted 15 July 2012 - 09:23
เป็นเห็บเกาะไข่ระบบรัฐประหาร
#20
Posted 15 July 2012 - 09:23
จะเบ่งบานได้ยังไง เพราะวีรกรรมของกลุ่มสีแดงอ้างประชาธิปไตยหลายสายหลายกลุ่มเลวร้ายเกิน.......
ประชาธิปไตย ไม่ได้หมายความว่า ฝ่ายไหนมีศพ และมีศพมากที่สุด ฝ่ายนั้นชนะ
อูยยย เจ็บปวดสุดๆ
เป็นเห็บเกาะไข่ระบบรัฐประหาร
#21
Posted 15 July 2012 - 09:40
Now! Restart Thailand
#22
Posted 15 July 2012 - 09:54
"ทำไม อดีตฝ่ายซ้าย อย่างพี่จี๊ด (จิระนันท์ พิตรปรีชา) พี่ "คมทวน" (คันธนู) และอีกหลายต่อหลายคน จึงหันมา เชียร์เจ้า เป็นปริศนา ที่ผมเองก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน"
หงอกศักดิ์สมองควาย เคยเห็นมรึงตั้งคำถามแบบนี้มาหลายรอบแล้ว ถามจริงมรึงแกล้งโง่หรือโง่จริงๆวะ?
Edited by Huligan, 15 July 2012 - 15:52.
#23
Posted 15 July 2012 - 09:58
ประเภทว่าพวกมันทำได้ แต่ถ้าพวกคนอื่น(ที่เป็นฝ่ายตรงข้าม)ทำบ้างล่ะด่าฉิบหายวายป่วง...
ซึ่งเหล่าควายแดงและพรรคเผาไทยมีคุณสมบัติเช่นนั้นอยู่ชัดเจนที่สุด
#24
Posted 15 July 2012 - 10:00
อ่านแต่ละคอมเมนต์ในพันทิพแล้ว บัวใต้ตมจริง ๆ
ใช่ครับ
เป็นเห็บเกาะไข่ระบบรัฐประหาร
#25
Posted 15 July 2012 - 10:00
สำหรับผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะ Conservative เลย แต่ผมเกลียดพวกสองมาตรฐานเป็นที่สุด
ประเภทว่าพวกมันทำได้ แต่ถ้าพวกคนอื่น(ที่เป็นฝ่ายตรงข้าม)ทำบ้างล่ะด่าฉิบหายวายป่วง...
ซึ่งเหล่าควายแดงและพรรคเผาไทยมีคุณสมบัติเช่นนั้นอยู่ชัดเจนที่สุด
ก็บอกแล้วนี่คือประชาธิปไตยยยยยย อิอิ
เป็นเห็บเกาะไข่ระบบรัฐประหาร
#26
Posted 15 July 2012 - 10:13
#27
Posted 15 July 2012 - 10:16
#28
Posted 15 July 2012 - 10:46
เสื้อแดงดิ้นกันยังกับผีโดนข้าวสารเสก ประชาธิปไตยแบบไล่ตื้บคนเห็นต่างคงมีแต่สีแดงนี่แหละ
พวกนี้วันๆ เอาแต่แก้ต่างแบบไม่มีหลักฐานและเหตุผล จมปลักควายแต่ในนั้นจริงๆ
เป็นเห็บเกาะไข่ระบบรัฐประหาร
#29
Posted 15 July 2012 - 11:00
ตามมาดูที่ราดดำนากันครับ
ดิ้นและร้อนตัวกันสุดๆครับ
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P12374792/P12374792.html
#30
Posted 15 July 2012 - 11:04
#31
Posted 15 July 2012 - 11:09
ตามมาดูที่ราดดำนากันครับ
ดิ้นและร้อนตัวกันสุดๆครับ
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P12374792/P12374792.html
เฉลย ควายครับ
เป็นเห็บเกาะไข่ระบบรัฐประหาร
#32
Posted 15 July 2012 - 11:10
ณ ชุมชนคีรีวง ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช
ในวันอาทิตย์ ที่ 12 และวันจันทร์ ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2555
http://www.facebook....sippapacha.fund
* กำหนดการสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม
** ถ่ายทอดสดทาง www.nakhonmodel.com และ www.khainui.com
เป็นเห็บเกาะไข่ระบบรัฐประหาร
#33
Posted 15 July 2012 - 11:21
ตามมาดูที่ราดดำนากันครับ
ดิ้นและร้อนตัวกันสุดๆครับ
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P12374792/P12374792.html
ควายน้อยใจคน เพราะคนบอกว่าควายโง่
ถึงโง่แต่พวกเยอะนะเว้ย
~ ทักษิณตาย เสรีไทยไชโย ~
#34
Posted 15 July 2012 - 11:24
#35
Posted 15 July 2012 - 11:35
เป็นเห็บเกาะไข่ระบบรัฐประหาร
#36
Posted 15 July 2012 - 12:37
#37
Posted 15 July 2012 - 12:48
เพราะเบื่อพวกดัดจริตอย่าง สมศักดิ์เจี์ยม นิติราษฎร์ เพจศาสดา คำ ผกา และเหล่าสาวกครับ
เป็นเห็บเกาะไข่ระบบรัฐประหาร