ใครอยากสั่งสอน หงอกเจียม รีบเข้ามาครับ
#51
ตอบ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 21:21
ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่เอาลิ๊งมาให้กระหน่ำ บอกตรงๆ สะใจมากกกก
เถียงกับความจริง เถียงให้ตายก็ไม่มีทางชนะ
#52
ตอบ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 21:24
#53
ตอบ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 21:35
#54
ตอบ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 21:36
เจตนารมณ์ส่วนตัว
- ไม่ใช้ถ้อยคำที่คำหยาบคาย
- ไม่ต่อล้อต่อเถียงอย่างไม่มีเหตุผล
#55
ตอบ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 22:01
ก็ต้องทำเป็นกิจวัตร ทำบ่อยๆจนผู้คนให้การยอมรับ และนั่นแค่ส่วนหนึ่ง
พฤติกรรม นิสัยส่วนตัวในด้านอื่น คนเขาก็ต้องมองว่าเป็นยังไง
คนที่เป็นคนดีในสายตาของคนหลายสิบล้านคนทั่วประเทศได้
ย่อมต้องทำในสิ่งดีๆที่ผู้คนในประเทศให้การยอมรับมายาวนาน
การที่จะรู้ว่าใครดี หรือไม่ดี ผมคิดว่าไม่ต้องถึงขนาดต้องมีหลักฐานละเอียดชัดเจน ว่าทำอะไรไว้ตรงไหน ยังไง
แต่เราสามารถใช้สติปัญญา คิด พิจารณาด้วยเหตุผล จากองค์ประกอบต่างๆได้
เมื่อก่อนสมัยก่อนรัฐประหาร 19 กย. คนส่วนหนึ่งก็มองว่าทักษิณไม่ดี
ทั้งที่ตอนนั้นก็ไม่ได้มีหลักฐานอะไรที่เป็นข้อสรุป
และสุดท้ายก็เห็นๆกันว่าทักษิณสารเลวขนาดไหน
ที่สำคัญ คนที่มองว่าทักษิณไม่ดีตอนนั้น ก็คนที่รักในหลวงทั้งนั้น
และที่น่าตลกขบขันอย่างมากก็คือ พวกที่อคติในหลวง ก็คือพวกที่มองว่าทักษิณดี
#56
ตอบ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 22:05
ด่าไปก็เท่านั้น ฝังรากลึกไปแล้ว
คนแบบนี้ ต้องปล่อยไปตามกรรม
#57
ตอบ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 22:27
#58
ตอบ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 22:35
ไอ้หงอกนี่ ผมคิดว่ามันน่าจะผิดปกติเกี่ยวกับผู้ปกครองนะครับ
10 อันดับสิ่งที่พ่อแม่ชอบทำให้ลูกเสียใจโดยไม่รู้ตัว
สถาบันครอบครัว (ควรเรียนรู้)
10 อันดับสิ่งที่พ่อแม่ชอบทำให้ลูกเสียใจโดยไม่รู้ตัว ???
ปัจจุบัน ปัญหาสังคมเกิดขึ้นมากมายในประเทศไทย หลายฝ่ายหลายภาคส่วนรณรงค์ช่วยกันแก้ไข แต่คุณเชื่อหรือไม่ว่าจากการสำรวจ สถาบันที่ควรมีส่วนเกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาสังคมมากที่สุด กับนิ่งเฉยมาก นั่นก็คือสถาบันครอบครัว สถาบันที่เป็นรากฐานของสถาบันระดับอื่นๆ ปัจจุบันจะพบว่านอกจากสถาบันครอบครัวจะไม่ได้ช่วยลดและแบ่งเบาปัญหาสังคม แล้ว สถาบันครอบครัวยังเป็นสถาบันหลักที่ก่อให้เกิดปัญหาสังคมได้ดีเป็นอย่างยิ่ง (ไม่ได้กล่าวว่าก่อมากที่สุดนะ) จากการสำรวจพบว่าในครอบครัวส่วนใหญ่จะมีการมีงกันอย่างต่ำ 3 - 4 ครั้งต่ออาทิตย์ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่มากเลยทีเดียว และปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากการมีงของผู้ใหญ่ในครอบครัวกับเด็ก และร้อยละ 80 เป็นเรื่องการใช้ชีวิตของเด็ก
เรามาดูกันดีกว่าว่า 10 สิ่งที่ทำร้ายจิตใจเด็กได้มากที่สุดคืออะไร
อันดับ 10 ... เมื่อเด็กทำความดีผู้ใหญ่กับเมินเฉย หรือมีความรู้สึกยินดีเพียงชั่วขณะ
ผู้ใหญ่ หลายท่านมักคิดเสมอว่ามันเป็นเรื่องน่ายินดีที่ลูกของคุณประสบความสำเร็จ อะไรสักอย่าง คุณแสดงความยินดีเก็บเด็กเพียงเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นคุณก็แทบจะลืมมันออกไปจากสมองโดยทันที สิ่งที่ทำให้คุณจะนึกถึงเรื่องของเด็กขึ้นมาได้ก็ต่อเมื่อคุณอยากโอ้อวดสิ่ง นั้นกับบุคคลอื่น ซึ่งการกระทำเช่นนี้จะทำให้เด็กมีความรู้สึกที่ไม่ภาคภูมิใจกับสิ่งที่ได้มา
อันดับ 09 ... สิทธิของเด็กในสถาบันครอบครัว การแสดงความคิดเห็นของเด็ก
ผู้ใหญ่หลายท่านในประเทศไทยมักจะจำกัดสิทธิของเด็กโดยสิ้นเชิง (รวมไปถึงหลายๆ สถาบัน) พ่อ แม่ ครู สามารถไม่พอใจกับสิ่งที่เด็กประพฤติไม่ดีได้ แต่เด็กร้อยละ 90 ไม่สามารถแสดงอาการไม่พอใจออกมาได้เมื่อผู้ใหญ่ประพฤติผิด เพราะอะไร... เมื่อเด็กแสดงอาการออกมาเด็กจะถูกว่า ถูกดุ ว่าทำตัวไม่เหมาะสม ทำไมผู้ใหญ่ถึงดุเมื่อเด็กแสดงอาการอย่างนั้นเนื่องจากในใจลึกๆ ผู้ใหญ่ก็ไม่ชอบให้ใครมาติเตียนแสดงอาการไม่พอใจใส่ แล้วเด็กละ...??? เด็กก็รู้สึกแบบนั้นเช่นกันแต่เด็กห้ามทำ ข้อสังเกตเมื่อเด็กเบื่อหน่ายที่จะแสดงความคิดเห็น คือเด็กจะพูดน้อยลง เมื่อคุณถามสิ่งที่ต้องเลือก เด็กจะตอบกลับมาว่า "แล้วแต่"
อันดับ 08 ... การรื้อฟื้นเรื่องเก่าๆ ขึ้นมาพูด หรือนำมาว่ากล่าวซ้ำ
ผู้ใหญ่ ส่วนมากเวลาเด็กทำผิดแล้วจะว่ากล่าวนั้น น้อยคนมากที่จะดุเฉพาะเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น หรือเรื่องที่ทำผิด เมื่อเริ่มว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจบไป ผู้ใหญ่ก็จะใส่อารมณ์มากขึ้นราวกับได้ระบายอารมณ์ ผู้ใหญ่ส่วนมากจะรื้อฟื้นเรื่องเก่าๆ ที่เด็กทำผิดมาว่าซ้ำ ซ้ำเติม และพูดได้เลยว่าผู้ใหญ่ร้อยละ 50 ที่แสดงอาการแบบนี้จะหยุดก็ต่อเมื่อเด็กเกิดอาการเสียใจ ถ้าเด็กยังแสดงอาการเฉยๆ หรือต่อต้านไม่มีทางหยุดง่ายๆ แน่นอน ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้เด็กเกิดความรู้สึกเจ็บใจ โกรธ แต่ไม่สำนึกอย่างแน่นอน
อันดับ 07 ... การเป็นที่ปรึกษาที่ไม่ดี เปิดเผยความลับของเด็กแก่คนอื่น
ทุก วันนี้ในสังคมไทยเด็กจะเลือกปรึกษาปัญหากับเพื่อนก่อนเป็นอันดับแรก อันดับสองคือพี่น้อง อันดับสามคือบุคคลในอินเตอร์เน็ต ส่วนอันดับสี่ถึงจะเป็น พ่อ แม่ ทำไมผู้ใหญ่ในสถาบันครอบครัวถึงกลายเป็นอันดับสี่ไปได้ทั้งๆ ที่ควรจะเป็นอันดับหนึ่ง หรือสองนั่นก็เพราะคำว่า แก้ปัญหาไม่เป็น ไม่ได้ช่วยอะไร และ สามี-ภรรยา ไม่มีความลับต่อกัน - - - แก้ปัญหาให้ลูกไม่เป็น คือก็ไม่รู้จะช่วยยังไง - - - ไม่ได้ช่วยอะไร คือ การที่บอกวิธีในการแก้ปัญหามาแต่เมื่อทำไปแล้วไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลง - - - สามี-ภรรยา ไม่มีความลับต่อกัน อันนี้คือสาเหตุหลักความลับคือสิ่งที่เด็กไม่อยากให้คนจำนวนมากรู้ ถ้าเด็กเลือที่จะบอกแม่ ร้อยละ 80 ของครอบครัวชาวไทย พ่อต้องรู้ด้วยแต่เป็นการรู้จากการที่แม่เป็นคนไปบอกอะไรทำนองนี้ การทำแบบนี้จะทำให้เด็กเกิดความรู้สึกไม่ไหววางใจ ไม่เชื้อใจพ่อและแม่
อันดับ 06 ... อารมณ์เสียใส่เด็ก เหวี่ยงใส่เด็ก หาเรื่องว่าเด็ก
ผู้ใหญ่ มักจะไม่รู้ตัวเมื่ออารมณ์เสียแล้วชอบหาเรื่องว่าคนอื่น โดยเป๋าหมายส่วนใหญ่จะเป็นเด็กเนื่องจากมีการตอบโต้ที่น้อย จากเรื่องเล็กที่เป็นข้อผิดพลาดนิดหน่อยจะกล่าวเป็นความผิดร้ายแรงได้ทันที อย่างเช่น ลืมล้างจาน โดนว่าพอว่าเสร็จก็จะวกไปเข้าอันดับ 08 รื้อฟื้นเรื่องเก่ามาว่าต่อ การกระทำแบบนี้จะทำให้เด็กรู้สึกว่า พ่อแม่ไม่มีเหตุผล จึงไม่จำเป็นที่จะต้องเชื้อถือ
อันดับ 05 ... ด่าเด็ก พูดจารุนแรง
ผู้ใหญ่ มักเถียงว่าสิ่งที่พวกเขากระทำคือการดุ ว่ากล่าวตักเตือน ไม่ใช่การด่า แต่ลองมาทำความเข้าใจกันสะใหม่ การว่ากล่าวตักเตือนคือ ก็อธิบายผลเสีย และอธิบายแนวทางแก้ไขให้ การดุ คือ การอธิบายถึงผลเสียอย่างเดียว แต่การด่า คือ การใช้ถ่อยคำหยาบคาย "" "กู" ใช้วาจาส่อเสียดประชดประชัน "คิดว่าตัวเองเป็นเทวดารึไง" ทำนองนี้ พิจรณาตัวเองแล้วกันว่าเข้าค่ายหรือไม่ เพราะการทำอย่างนี้จะทำให้เด็กฝังใจ เด็กจะไม่มีความสำนึกผิด หรือจะไม่ทำอีกแล้วนะ แต่เด็กจะคิดว่าในครั้งต่อไปจะต้องทำโดยห้ามโดนจับได้
อันดับ 04 ... การทำร้ายความมั่นใจของเด็ก
ผู้ใหญ่หลายคนมักทำลายความมั่นใจของเด็กโดยไม่รู้ตัว พูดถึงข้อด้อยของเด็กในที่สาธารณะหรือต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก การไม่เตรียมพร้อมของผู้ใหญ่ก็อาจจะทำให้เด็กเสียความมั่นใจได้ เช่น พาเด็กไปยังสถานที่เรียนพิเศษ แห่งหนึ่งแล้วก็ปล่อยเด็กไว้กับครูและเด็กคนอื่นๆ ส่วนตัวเองก็กลับไปทำธุระของตน ในสถานะผู้ใหญ่คุณอาจจะคิดว่ามีเด็กตั้งเยอะแยะลูกเราไม่ได้อยู่คนเดียว แต่ในความคิดของเด็กคนที่ไม่รู้จักเท่ากับเขาไม่มีตัวตน การกระทำแบบนี้จะทำให้เด็กกลายเป็นคนขาดความมั่นใจ
อันดับ 03 ... การตอกย้ำซ้ำเติมความผิดพลาด
พ่อ แม่จำนวนมากมักคิดว่าการดุ การด่า พูดจาซ้ำเติม คือวิธีของการที่จะทำเห็นเด็กจดจำและเรียนรู้ความผิดพลาด แต่ไม่ใช่เลยวิธีที่ถูกต้องที่สุดคือ การปลอบเมื่อเขาทำผิดพลาด แล้วค่อยอธิบายข้อผิดพลาดว่าเกิดจากอะไร มีผลเสียยังไง มีวิธีการแก้ไขแบบไหน เพราะการตอกย้ำนั้นจะทำให้เด็กรู้สึกฝังใจ กลัวต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆ กลัวความผิดพลาดจนกลายเป็นคนขี้ระแวงได้อันดับ 02 ... การใช้ความรุนแรง
เชื่อเถอะมันหมดยุคของ ไม้เรียวสร้างคนแล้ว ตีให้ตายเด็กสมัยนี้ก็ไม่เปลี่ยนแปลงหรอก แต่จะเป็นการซ้ำเติมให้เด็กมีปมภายในใจหนักขึ้นไปอีก ความรุนแรงที่พ่อแม่ทำกันเอง หรือความรุนแรงที่พ่อแม่ทำต่อเด็กล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ไม่ดีทั้งสิ้น การทำแบบนี้จะยิ่งทำให้เด็กเิกิดอาการต่อต้านหนักขึ้นไปอีก และในอนาคตเด็กอาจจะเป็นบุคคลที่ใช้ความรุนแรงก็เป็นได้อันดับ 01 ... คิดเอง เออเอง และไม่เข้าใจลูกของตัวเอง
ผู้ใหญ่ หลายท่านมีบททดสอบง่ายๆ เลยที่จะให้ทุกท่านทำ หยิบกระดาษขึ้นมาแผ่นหนึ่งแล้วหาคำตอบต่อไปนี้ 1.ลูกมีเพื่อนสนิทชื่ออะไร 2.ลูกชอบกินอะไร 3.ลูกไม่ชอบกินอะไร 4. สีโปรดของลูก 5.ลูกไปเที่ยวกับครอบครัวครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ 6.เบอร์โทรศัพท์ของลูก 7.ลูกไม่อชบสิ่งมีชีวิตอะไรมากที่สุด 8.ของขวัญชิ้นล่าสุดที่ซื้อให้ลูกคือ 9.ลูกเกิดวันไหนเดือนอะไรปีไหน 10.โตขึ้นลูกอยากเป็นอะไร ตอบคำถาม 10 ข้อต้องถูก 8 ข้อขึ้นไปคุณถึงจะเป็นพ่อแม่ที่รู้จักลูกตัวเองจริง
แต่ถ้าจะทดสอบว่าเข้าใจลูกตัวเองรึเปล่า ตอบคำถามแค่ข้อเดียว 1.ทำไมคุณถึงเลือกคำตอบเหล่านั้นมาตอบ 10 ข้อแรก ถ้าคุณบอกได้แปลว่าคุณเข้าใจลูกของคุณแต่ถ้าไม่ได้ คุณก็แค่เอาใจใส่เขามากขึ้น สังเกตุเวลาลูกของคุณยิ้ม สังเกตเวลาลูกของคุณร้องไห้ สังเกตเวลาลูกของคุณอยู่กับความเงียบแล้วคุณจะรู้จักลูกของคุณมากขึ้น
ข้อมูลทั้งหมด 10 อันดับที่ให้ไปนั้นเป็นเพียงแนวทางในการเลี้ยงลูก
การเลี้ยงลูกที่ดีไม่ได้หมายความว่าห้ามตี ห้ามดุ ห้ามว่านะ สามารถทำสิ่งเหล่านั้นได้แต่ต้องเพียงแค่พอดีไม่มากเกินไป ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ ใช้ความจำเป็นให้มากกว่าความต้องการ
http://www.raja.co.th/show.php?id=598
อ่านแล้ว ผมสรุปเลยนะว่า
ไม่ว่าพ่อ แม่ จะปฎิบัติต่อผู้เป็นลูกเช่นไร ลูก ได้กำเนิดมาจากพ่อ แม่ ในฐานะที่เป็นลูกมีหน้าที่กตัญญูครับ ตั้งใจทำสิ่งที่ดีตอบแทนพ่อแม่ไม่มีเหตุผลข้ออ้างใด มา อ้างเพื่อจะไม่ทดแทนบุญคุณพ่อ แม่ ได้
เกิดเป็นคน พ่อ แม่ มีบุญคุณเกินกว่าจะตั้งแง่ได้ครับ ถ้าเป็นชาวพุทธอย่างน้อย ต้องรู้จักทำความดีให้สมกับที่ได้โอกาสมาเกิดเป็นคน ชาติหนึ่งชาติใดจะได้มีโอกาส บรรลุธรรมหลุดจาก วัฎสงสารบ้าง
- กรกช, ryukendo and จูกัดขงเบ้ง like this
#59
ตอบ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 22:43
คนอย่าง ไอ้หงอก เคยคิดเรื่องดีๆที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติได้บ้างมั้ย?!?
Edited by วิญญูชน, 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 22:44.
#60
ตอบ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 23:38
ไอ้
@Nantawat Kiettunyarat สาวกเจียมฯ
มันกระโดดงับเต็มที่พูดอย่างกับโครงการนี้มีจริง...ปรากฎว่าไอ้สมศักดิ์ เจียมฯเคยพูดไว้และแค่สมมุติเฉยๆในนี้ ผมก็อำมันไปเรื่อยๆนะ
อย่างในกรณีตัวอย่างที่เพิ่งยกมา
สมมุติว่า การที่ "หมู่บ้าน ก. มีน้ำใช้ เพราะโครงการพระราชดำริ" ต่อให้เป็นจริงก็ตาม แต่ต้อง ทุ่มเงิน 100 ล้านบาท เพื่อให้ได้ผลลัพท์ "ที่ดี" นี้ (สร้างทางระบายน้ำไปให้ ปรับพื้นที่ สร้างทาง สร้างถนน ฯลฯ)
ในขณะที่ หมู่บ้าน ก. มีประชากรเพียง 10 หลังคาเรือน คือ ประมาณ 40-50 คน เท่านั้น
แต่ขณะเดียวกัน มีความต้องการน้ำ หรือความต้องการอย่างอื่น (ไฟฟ้า, ถนน, โรงเรียน ฯลฯ) ในหมู่บ้านอื่น ในอำเภออื่น ในจังหวัด อื่น เป็นต้น
http://www.facebook....312691825414468
ก็ขำดีนะ ที่สาวกมันเถียงตั้งนานยังไม่รู้ตัวว่า ศาสดามันแค่สมมุติ มันก็ไม่เคยคิดจะตรวจสอบเลยนะว่าไอ้เจียมฯพูดไว้ตรงไหน ตะแบงมันลูกเดียว
Edited by ดราม่า, 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 00:03.
- หมาเน่า likes this
#61
ตอบ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 23:53
ไม่นึกว่าสาวกสมศักดิ์ เจียมฯมันจะคลั่งเป็นหมาบ้าขนาดนี้
Edited by ดราม่า, 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 23:53.
#62
ตอบ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 00:07
ก่อนจะเข้าไปสั่งสอน สมเจียม คงต้องด่าเป็นไทยคำ อังกฤษคำ ด้วยครับเพราะเห็นเวลา ไปร่วมเสวนาบ้าบอกับพวก ตาสว่างนี่ แทบจะพูดพล่ามออกมาเหมือนมันเป็นฝรั่งพูดไทยแล้วไม่สันทัด เฮ้อออออออ แค่ไปเรียนเมืองนอกมาแค่เนี้ยะลืมกำพืด หรือไม่อีกทีคงคิดว่าคงเจ๋งมากที่ใช้คำฝรั่งจนพวกสาวกชาบูเพราะแปลแทบไม่ออก ไอ้พวกสาวกนี่ก็พอกันแปลไม่ออกโดนหลอกให้คิดว่ามันเจ๋งเฮ้อออออออออ อีกรอบ คนเรียนเมืองนอกมามากกว่ามันยังไม่พูดอย่างนี้เลย
ความเห็นของผมเอง โพสต์ไว้ตั้งนานแล้ว คำสอนของอาจารย์สมัยเรียนมัธยมปลาย ทุกวันนี้ยังจำได้อยู่
http://webboard.seri...112-มีอะไรบ้าง/
พูดไทยคำอังกฤษคำ คิดว่าตัวเองหัวสูง ผมว่าอวดภูมินะครับ
อาจารย์คนหนึ่งเคยสอนผมว่า
"คนรู้ลึก รู้จริง ไม่โอ้อวด ย่อมอธิบายเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย ด้วยคำพื้นๆ ธรรมดา
แต่คนที่รู้แบบงูๆ ปลาๆ หรือต้องการอวดรู้ จะอธิบายเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก
ด้วยศัพท์แสงสารพัดจนชาวบ้านฟังไม่เข้าใจ"
Edited by อู๋ ฮานามิ, 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 00:09.
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
#63
ตอบ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 00:30
ง่ายที่สุดคือพระราชดำรัสที่มอบให้กับชาวไทยเป็นตัวอย่างที่ง่ายที่สุด แนวความคิดต่างๆที่ดำรัสออกมา เกิดจากการทรงงานหนักจนชำนาญและรู้อย่างแท้จริงแล้วจึงมอบให้กับเรา
โครงงานพระราชดำริเองก็มาจากพระราชกรณียกิจในพื้นที่จริงที่ได้ทำมาหลายสิบปีจนทราบดีแล้วจึงเกิดขึ้น
ลำพังสองอย่างด้านบนนี้ คนที่นั่งอยู่เฉยๆไม่ทำอะไรเลย รู้หรือเพียงผิวเผิน ทำไม่ได้หรอกครับ ต้องคนที่รู้จริงปฏิบัติจริแล้วถึงจำทำได้
สมศักดิ์ เจียมฯเป็นคนมีแต่อคติ คนแบบนี้หลีกเลี่ยงไม่ไปต่อความยาวจะดีกว่า
- ดราม่า likes this
#64
ตอบ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 06:55
"...ตามปกตินักเรียนชั้นม.8ก็เป็นปีสุดท้ายของโรงเรียนเมื่อสิ้นปีต่างก็แยกย้ายกันไปสิ้นเมื่อกระนี้อะไรจะมาดีไปกว่าเราจะร่วมมือกันทำอะไรให้เป็นอนุสรณ์ขึ้นสักอย่างหนึ่งเป็นส่วนรวมเพื่อจะได้เป็นอนุสรณ์แค่สำนักศึกษาเป็นอนุสรณ์แค่ครูอาจารย์และเป็นอนุสรณ์แค่พวกเราชาวสวนกุหลาบโดยทั่วหน้า…"
http://library.sk.ac.th/osk/bs.html
แต่ไอ้สมศักดิ์ เจียมฯมันทำหนังสือรุ่นของมันอย่างนี้
แล้วเนื้อหาไม่ได้มีอะไรตรงคอนเซ็ปของหนังสืออนุสรณ์เลย แถมยังถอนหงอกครูบาอาจารย์ที่สอนมันมาด้วยการสั่งสอนเรื่องการศึกษา ที่ตลกคือคำนำหน้าชื่อในหนังสือมันเอาออกหมดโดยอ้างว่าเท่าเทียมกัน... แค่คำว่าอาจารย์มันยังไม่ให้มีในหนังสือมันเลย (คลั่งตั้งแต่เด็ก)
ตามที่ได้กล่าวไปบ้างแล้วว่า"สมานมิตร17"ฉบับศึกแบ่งเป็น2เล่มคือเล่มแรกมีรูปคณาจารย์และนักเรียนในระดับชั้นต่างๆเหมือนกับสมานมิตรที่แล้วๆมา(แต่ถ้าสังเกตดูดีๆตรงรายชื่อภายในเล่มจะเห็นว่ายศและบรรดาศักดิ์นำหน้าเช่นอาจารย์ มล. มรว.จะหายไปจะใช้เพียงนายนางสาวเพื่อให้เสมอภาคกันทุกคน Zenithขอเสริมครับ)แทรกด้วยบทกลอนสั้นๆและกลอนเปล่าซึ่งก็มักจะเกี่ยวกับการสึกษาหรือมิฉะนั้นก็เกี่ยวกับระบบการเรียนการสอนในโรงเรียนเองเช่นบทความเรื่อง"การศึกษาคืออะไร"ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการศึกษาที่แท้จริงคืออะไรดังเช่น
http://www.osknetwor...article&sid=569
ตลกมั๊ย ผ่านมาหลายสิบปี ไอ้สมศักดิ์ มันก็ไม่เห็นจะมาพัฒนาวงการการศึกษาบ้านเราอะไรเลย วันๆก็ดีแต่เล่นเฟสบุ๊คท้าตีท้าต่อยเขาไปทั่ว แล้วกินเงินเดือนจากภาษีไปวันๆ
พ่อแม่ตัวเองเอามาด่าโชว์ ครูบาอาจารย์ของมันก็โดนถอนหงอกทุกคน เพื่อนๆต่อต้านมันก็ไม่สน คือผมอยากถามว่า"มึงเกิดมาทำไมเนี๊ย"
#65
ตอบ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 07:39
ลูกของเพื่อนสนิทไปร่วมกิจกรรมที่อาจารย์มธ.ชักชวนเด็กมัธยมให้เลือกมธ.
อาจารย์พูดกับลูกเพื่อนว่าที่มธ.นับถือแต่ท่านปรีดีนะ เราไม่เอาสถาบันฯ
เด็กกลับบ้านมาถามพ่อว่าทำไมอาจารย์พูดอย่างนั้น เพื่อนผมไปไม่เป็นเลย
ได้แต่มาเล่าให้เพื่อนๆฟังว่าสิ้นหวังกับธรรมศาสตร์แล้ว
#66
ตอบ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 09:44
ผู้ที่แยกแยะ ผิด ชอบ ชั่ว ดี ได้ดีกว่าคนปกติทั่วไปก็ต้องผู้ที่มีศีลธรรมสูง
ผู้ที่มีศีลธรรมสูงก็ต้องพระสงฆ์ที่ปฎิบัติดี
คนที่มีอคติกับในหลวงเคยสังเกต หรือคิดถึงตรงนี้กันบ้างไหมว่า...
ทำไมพระสงฆ์ที่มีชื่อเสียง ที่คนไทยให้การยอมรับว่าเป็นพระปฏิบัติดี ต่างก็ชื่นชมในหลวง
ทั้งหลวงปู่แหวน ทั้งหลวงตามหาบัว ทั้งพระอาจารย์วัน อุตตโม
โดยเฉพาะพระอาจารย์วัน อุตตโม ถึงกับบอกว่า " มีแต่คนไม่ฉลาดเท่านั้น ที่ไม่รู้ว่าในหลวงพระองค์นี้ดีอย่างไร "
ก็เพราะผู้ทรงศีล ย่อมเข้าใจได้ว่า ผู้ใดมีศีลธรรมสูง ตรงนี้คือเหตุผลที่เข้าใจง่ายๆ
ผู้มีศีลธรรมสูง คือคนดี และจะไม่ทำในสิ่งที่ไม่ดี
ผู้ที่มีศีลธรรมศุง จะมีจิตสำนึกสูง คิดถึงผู้อื่นอยู่เสมอ และมีความยับยั้งชั่งใจในการทำผิด
ผู้มีศีลธรรมสูง จะเกรงกลัวต่อบาป เชื่อในเรื่องกฏแห่งกรรม
คนที่เชื่อในกฏแห่งกรรมก็จะไม่ทำอะไรผิดๆ เพราะกลัวผลกรรมตามสนอง
เรื่องจากเขาเล่าว่า หรือจากจินตนาการที่คิดว่า
ในหลวงอยู่เบื้องหลังเรื่องไม่ดีต่างๆ มันจึงเป็นไปไม่ได้
เรื่องบางเรื่องที่ไม่สามารถหาหลักฐานได้ แต่เราใช้สติปัญญาคิด พิจารณาด้วยเหตุผล
จากองค์ประกอบต่างๆ เราก็สามารถหาคำตอบได้
ที่จริงมันมีเหตุผลอีกมากมายหลายมุมมอง ที่จะทำให้เราเข้าใจได้ว่า ในหลวงเป็นอย่างไร
การมีเหตุผลที่ดี ต้องมาจากศีลธรรม
พระพุทธเจ้ายืนยันเหตุผลตรงนี้ได้เป็นอย่างดี
เพราะพระองค์ตรัสรู้ได้ ก็เพราะเหตุผล
และหลักคำสอนของพระองค์ ก็คือ หลัก เหตุ และ ผล
และบุคคลที่ผมคิดว่ามีเหตุผลที่สุดในช่วงชีวิตที่ผมได้เห็น ก็คือ ในหลวง
พระราชดำรัสในหลวง ลองไปไล่อ่านดูเถอะ ล้วนมีเหตุ มีผล และแฝงด้วยคุณธรรมทั้งนั้น
ทุกพระราชดำรัสถ้านำมาใช้ก็ย่อมเกิดประโยชน์กับผู้ที่ใช้ และส่วนรวม
อาจดูว่าเป็นคำง่ายๆแต่รับรองได้ว่า ถ้าคนไร้เหตุผล หรือไร้ศีลธรรม ไร้คุณธรรมคิดไม่ได้หรอก
และพระราชดำรัสของพระองค์มีมาร่วม 40-50 ปีแล้ว พระองค์มีเหตุผล มีศีลธรรม มีคุณธรรมมานานแล้ว
ในหลวงถือศีล 8 เคยอ่านกันบ้างไหม ? 1 สัปดาห์ถือศีล 8 1 วัน
ในหลวงกตัญญูเคยอ่านกันบ้างไหม ? 1 สัปดาห์กินข้าวกับแม่ 6 วัน อีก 1 วันถือศีล 8
โครงการพระราชดำริของพระองค์ผมไม่แน่ใจว่ากี่โครงการ บางที่ก็ว่า 4000 บางที่ก็ 3000
ผมก็ขอเลือกอันที่น้อยละกัน
1 โครงการ การใช้เวลาศึกษาค้นคว้าก็คงแตกต่างกัน แล้วแต่ขนาด
ก็ลองประมาณคร่าวๆ ว่า 1 โครงการใช้เวลาศึกษาค้นคว้า 1 สัปดาห์
1 สัปดาห์ มี 7 วัน เอา 7 x 3000 = 21000 วัน
1 ปีมี 365 วัน เอา 365 หาร 21000 = 57.5
เท่ากับพระองค์ทำงานเพื่อคนไทย 57 ปีโดยไม่มีวันหยุด
เหตุผลทั้งหมดตรงนี้ถ้าใครอ่านแล้วยังคิดว่าในหลวงไม่ดี
ก็แสดงว่าสมองมีปัญหากับความเข้าใจเรื่องความดีแล้ว
Edited by กรกช, 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 19:14.
- ตะนิ่นตาญี, ดราม่า and > mj < like this
#67
ตอบ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 10:33
หน้าตา เหมือนพวกเสียสติ
#68
ตอบ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 17:07
ลองไล่ดูมีหลายเฟสแล้ว
http://www.facebook....&type=1
http://www.facebook....6&type=1&ref=nf
แม้กระทั้ง เพจWe love the King of Thailand มันก็ยังพาพวกไปรังแกเขา
https://www.facebook...9&type=1&ref=nf
ช่วงนี้สงสัยวัยทอง ซ่าผิดปรกติ
#69
ตอบ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 17:21
ยิ่งปล่อย ยิ่งเหลิงยิ่งได้ใจ นับวันยิ่งออกมาดูหมิ่นท้าทาย สถาบัน องคืพระมหากษัตริย์มากขึ้นๆ
และดีกรีเริ่มมากขึ้นๆทุกทีๆ จากที่เคยหลลตามซอกหลืบของสังคม ตอนนี้รู้สึกว่าจะกล้าหาญ
โผล่หัวออกมานอกถ้ำมากขึ้นๆ
ทำไม กฏหมายถึง ปล่อยนิ่งเฉยกับคนๆๆนี้
- hahaha likes this
#70
ตอบ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 17:29
มันฝังเข้าไปใน ( ขดกระโหลก ) แล้ว
#71
ตอบ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 17:54
.....................
คนที่มีอคติกับในหลวงเคยสังเกต หรือคิดถึงตรงนี้กันบ้างไหมว่า...
ทำไมพระสงฆ์ที่มีชื่อเสียง ที่คนไทยให้การยอมรับว่าเป็นพระปฏิบัติดี ต่างก็ชื่นชมในหลวง
ทั้งหลวงปู่แหวน ทั้งหลวงตามหาบัว ทั้งหลวงพ่ออุตมะ
โดยเฉพาะหลวงพ่ออุตมะถึงกับบอกว่า " มีแต่คนไม่ฉลาดเท่านั้น ที่ไม่รู้ว่าในหลวงพระองค์นี้ดีอย่างไร "
.................
สังคมไทย เริ่มที่แยกแยะ และให้คำจำกัดความของคำว่า ความดี กันไม่ได้แล้ว
หลายหลายคน เห็นว่า-เชื่อว่า วัตถุ คือความดีสูงสุด ใครมีวัตถุมากคนนั้นดีมาก
ไม่อยากโทษว่า ระบบ ไม่ดี แต่อยากให้โทษที่ ตัวตนของตนเอง มากกว่า ที่แยกแยะไม่ได้ ว่า สิ่งใดถูก-สิ่งใดผิด
เมื่อหลายหลายคนไม่อาจแยกแยะได้ว่า สิ่งใดถูก-สิ่งใดผิด นั่นเป็นเหตุแห่งการไม่แยกแยะว่า ชั่ว กับ ดี นั้นต่างกันอย่างไร
บางครั้งบางหน ตะนิ่นตาญี ก็ไม่เข้าใจตัวเองอยู่เหมือนกัน "ทำไมเราจึงต้องไปสั่งสอนให้คนที่ไม่รู้ผิด-รู้ชอบ"
เหมือน ตักน้ำรดหัวสาก ให้กับคนอย่าง สมศักดิ์ เจียม ไร้ค่า-เสียดายเวลา เพราะไม่ว่าเราจะมีหลักฐานดีเพียงใด
เหตุผล ถูกต้องมากน้อยแค่ไหน เขาก็ยังปฏิเสธที่จะยอมรับในความจริงที่เห็นอยู่ตำตา ด้วยเหตุแห่ง ความเกลียดชัง นี้เอง
คนอย่าง สมศักดิ์ เจียมฯ จึงจมปลักอยู่กับความทุกข์อันเหมือน ถูกเปลวไฟแห่งความเกลียดชัง เผาผลาญอยู่เป็นอนันต์
ไม่มีวันได้รับความสงบสุขที่แท้จริงได้ สิ่งที่ พระอาจารย์วัน อุตตโม ได้กล่าวไว้ตามที่ คุณ กรกช ได้อ้างมาว่า...
"มีแต่คนไม่ฉลาดเท่านั้น ที่ไม่รู้ว่าในหลวงพระองค์นี้ดีอย่างไร" ขออนุญาต เติมไว้อีก ๑ คำ "มีแต่ คนไม่ฉลาด และ คนชั่ว เท่านั้น ฯลฯ
ตะนิ่นตาญี
วันอังคารที่ ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
เวลา ๑๗.๕๔ นาฬิกา
หมายเหตุแก้ไขจาก หลวงพ่ออุตมะ เป็น พระอาจารย์วันอุตตโม ตามที่ คุณ กรกช ได้แจ้งไว้ในความเห็นที่ ๗๓
เมื่อวันพุธที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
เวลา ๗.๑๖ นาฬิกา
Edited by ตะนิ่นตาญี, 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 07:16.
- Duke_th1 likes this
#72
ตอบ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 18:07
#73
ตอบ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 19:21
ที่จริงพระอาจารย์วัน อุตตโม วัดถ้ำพวง อ.ส่องดาว จ.สกลนคร เป็นผู้พูดประโยคที่ว่า
" มีแต่คนไม่ฉลาดเท่านั้น ที่ไม่รู้ว่าในหลวงพระองค์นี้ดีอย่างไร "
ไม่ใช่หลวงพ่ออุตมะ ตามที่ผมแสดงความเห็นไว้ และผมได้เข้าไปแก้ไขในความเห็นของผมแล้ว
แต่เนื่องจากคุณ ตะนิ่นตาญี ได้โควทประโยคตรงนั้นมา ผมไม่สามารถเข้าไปแก้ไขได้
ก็ขอรบกวนคุณ ตะนิ่นตาญี ช่วยแก้ไขเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องด้วยครับ ขอบคุณครับ
- ดราม่า likes this
#74
ตอบ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 20:49
#75
ตอบ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 09:11
คือคนเรามีความสามารถคนละด้านแตกต่างกันไป
แต่ละสาขาอาชีพก็จะมีความชำนาญในด้านนั้นๆ
เรื่องทำนา ก็ต้องชาวนา
เรื่องเครื่องยนต์ ก็ต้องช่างยนต์
เรื่องกฎหมายก็ต้องตำรวจ ทนาย ศาล
เรื่องโกงบ้านโกงเมือง ก็ต้องนักการเมืองไทย
และเช่นกัน เรื่องแยกแยะ ผิด ชอบ ชั่ว ดี คนดี คนชั่ว ก็ต้องพระสงฆ์ผู้ทรงศีล หรือคนที่มีศีลธรรม
ฯลฯ
ทีนี้มาดู อ.สมศักดิ์
อ.สมศักดิ์ แกมีความรู้ประวัติศาสตร์ แต่เรื่องศีลธรรมแกไม่มี
อ.สมศักดิ์ สามารถด่าพ่อแม่ตัวเองหยาบคายโชว์ชาวบ้านได้ ยืนยันเหตุผลตรงนี้ได้เป็นอย่างดี
คิดตามเหตุผลจิตใจแกต่ำกว่าสัตว์เดรัจฉานอีก เพราะสัตว์เดรัจฉานมันยังรักพ่อแม่มัน
แต่แกด่าได้แม้กระทั่งพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดตัวเอง
และเมื่อแกไร้ศีลธรรมผิดมนุษย์มนาแบบนี้ เรื่องคุณงามความดีก็ไม่ต้องไปพูดถึง แกไม่เข้าใจหรอก
จึงไม่ต้องแปลกใจ ที่ในหลวงทำเพื่อคนไทยมาร่วม 60 ปี แต่แกยังมาตั้งคำถามแบบนั้น
คนไร้ศีลธรรม ก็ย่อมไม่เข้าใจเรื่องศีลธรรม
คนไร้ศีลธรรม ก็ย่อมไม่เข้าใจผู้มีศีลธรรม
เป็นเหตุผลที่เข้าใจได้ไม่ยาก
#76
ตอบ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 09:15
ความจริงไม่อยากจะกล่าวถึงคนที่ชื่อสมศักดิ์นี่อีกเลย เพราะเป็นคนไร้ราคาทีพยายามโก่งคอบอกขายตัวเอง
แต่ตรรกกะหลายอย่างมันน่าสมเพชจริงๆ ก็ขอออกความเห็นไว้สักหน่อย
สมศักดิ์บอกว่า
ผมเพียงอยากถามทิ้งท้ายไว้ว่า เวลาคุณเชือ่กัน หรือพูดกันว่า "ในหลวงทรงทำดี" บ้าง "ทรงงานหนักบ้าง" มีคุณต่อประเทศชาติบ้าง ฯลฯ รู้ได้อย่างไรครับ? พิสูจน์ได้อย่างไรครับ
จากนั้นก็ขยายความว่า
อย่างถ้านักการ เมืองสักคน ข้าราชการสักคน มาโฆษณาแบบที่เพิ่งยกตัวอย่างมา ("ผมทำงานหนัก" ผมทำความดี ผมทำประโยชน์ ไม่มีผม หน่วยงานผมอยู่ไมได้ ฯลฯ)
โอย มัยมันงั่งอย่างนี้
ประโยคแรก มันมาจากคนนอกยกย่องในหลวง ประโยคสองมันตัวเองยกย่องตัวเอง มันเอามาเทียบกันไม่ได้ นี่สมองคนระดับจบปริญญาเอก สามัญสำนึกแบบเด็กมัธยมยังไม่มีเลย สมองแกคงเล็กจิ๋วจนคิดได้แต่วิธีโต้แย้ง โดยไม่เหลือที่ให้ไตร่ตรองข้อโต้แย้งนั้นว่ามันสิ้นคิดหรือไม่
เรื่องหนึ่งที่สมศักดิ์ชอบปิดทองใส่หน้าตัวเองก็คือ ชอบยกว่าผมเก่งในเรื่องนี้ ผมศึกษาเรื่องนี้ ผมเขียนบทความเกี่ยวกับสิ่งนี้ ***ไพร่แดงนี่เป็นอย่างนี้หมดหรือ นายด๊อกอะไรอีกคนที่ทำบริษทประเมินที่ดินก็แบบเดียวกัน อ้างความเก่งของตัวเอง โดยตัวเอง เพื่อตัวเอง คนเก่งจริงน่ะ มันต้องมาจากคนอื่นยกย่อง เรื่องง่ายๆ แค่นี้ยังไม่รู้ แม้แต่มารดามันหรือลูกกระเป๋งมันยกย่องมัน สากลเขายังไม่ถือว่าน่าเชื่อเลย สากลเขาใช้การประเมินที่เข้มงวดและโปร่งใสตรวจสอบได้
อย่างเช่นที่สากลประเทศเขายกย่องในหลวงกันน่ะ เขาโง่นักหรือ เขาไม่รู้เลยหรือ ว่าคนที่เขายกย่องนั้น พึงยกย่องอย่างไร แล้วการที่คนไทยยกย่องในหลวงต่อเนื่องกันมาหกสิบปี ทุกคนโง่หมดเลยหรือ มีแต่ไพร่แดงฉลาดอยู่พวกเดียว จึงตาสว่างลบหลู่ในหลวง
เอาละ ทีนี้ ในแง่ที่สมศักดิ์อ้างตัวเองเป็นนักวิชาการ สมศักดิ์บอกได้ใหมว่าทำไมเราจึงไม่ควรเชื่อเรื่องที่สมศักดิ์เห็นว่าไม่ควรเชื่อ สมศักดิ์มีอะไรดีหรือ เราจึงต้องเชื่อคุณ เท่าที่ผ่านตาข้อเขียนของเขา สมศักดิ์ไม่เคยแสดงข้อมูลเลยว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ไม่เหมาะกับประเทศไทยในยุคประชาธิปไตยอย่างไร แต่ขนาดไม่เคยแสดงภูมิรู้อะไรพวกนี้เลย กลับกล้าเสนอแปดข้อเกี่ยวกับสถาบัน
เอาละ คุณเสนอได้ ผมก็เสนอได้ ผมเห็นว่า แปดข้อนี้ จะต้องทำเพื่อให้บ้านเมืองเจริญ
๑ ใหียกเลิกงานสอนของสมศักดิ์ทั้งหมด เพราะได้พบแล้วว่าเรื่องหญ้าปากคอกเช่นคุณบวรเป็นใคร เขายังไม่รู้จัก แล้วเขาจะไปรู้จักประชาธิปไคยได้อย่างไร
๒ ให้ถอนตำแหน่งอาจารย์ เพราะเขาไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของโลกนั้น นักศึกษาเขาเลือกตั้งอาจารย์นะครับ สมศักดิ์ควรจะรู้เรื่องนี้ คนอื่นไม่ต้องสมาทานศีลข้อนี้ เพราะคนอื่นไม่ได้กระสันประชาธิปตวยมากเท่ากับไพร่แดงอย่างสมศักดิ์ อ้อ จานแก้งนิติเรี่ยราดก็ต้องไล่ออกหมด แล้วสมัครรับเลือกคั้งเข้ามาเหมือนกัน
๓ ให้ตรวจสอบทรัพย์สินของสมศักดิ์และคนที่เกี่ยวข้องกับเขาทั้งหมด เนื่องจากเขาทำตัวเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน เผยแพร่ความรู้ที่เขารู้ไม่จริง ตกที่นั่งแชร์ลูกโซ่ หรือแก๊งค์หลอกแรงงานไปนอก
๔ ให้สมศักดิ์ ถอนนามสกุลทิ้งไป ห้ามใช้ เพราะนามสกุลเป็นการคิดค้นของพระมหากษัตริย์ ในเมื่อไม่ยอมรับกษัตริย์แล้ว ก็ควรมีความเป็นลูกผู้ชายที่จะไม่รับในพระมหากรุณาธิคุณข้อนี้ คนอะไรหน้าไม่มียางอาย
๕ ไม่อนุญาตให้สมศักดิ์ใช้ภาษาไทย เพราะเท่าที่มีหลักฐานมาถึงขณะนี้ พาสาไทนี้แต่ก่อนไม่มี พ่อขุนรามคำแหงหาไคร่ในใจ....ทรงสร้างให้ใช้ พ่อขุนรามเป็นกษัตริย์ กษัตริย์ไม่ดี แล้วใช้ของจากสถาบันที่ไม่ดีได้ยังงัย
๕.๑ ข้อนี้เสริมให้ สมศักดิ์ควรจะใช้ภาษาเยอรมัน หรือให้ดีก็ภาษายิว เพราะคลาน ม๊ากส์เป็นเยอรมันยิว อันนี้แนะนำด้วยความหวังดีนะจ๊ะ
๖ ให้ถอนพาสปอร์ตของสมศักดิ์ เพราะใช้คำว่าราชอาณาจักรไทย แปลว่าประเทศนี้เป็นอาณาจักรแห่งราชา ในเมื่อไม่ยอมรับก็ไม่ควรหน้าด้านทนอยู่ ต่อเมื่อไหร่ล้มล้างได้แล้ว ค่อยกลับเข้ามา
๗ สมศักดิ์ไม่ควรใช้ธนบัตรและเงินตราไทยอีกเช่นกัน เขาควรจะพกเงินหยวน เงินด่อง เงินกีบ อารัยพวกนี้
เอาละ แค่นี้คงพอสมควรแก่เหตุละนะ
ด้วยความปราถนาดีต่อลูกเจ๊กที่อพยพเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร เผื่อจะรู้บ้างว่าคนไม่ใช่หมา หมายังรู้บุญรู้คุณ เป็นชายชาตรีควรจะรักบ้านเกิดรักรากเง่า อย่าไปหลงตำราต่างด้าวที่เขาเขียนโดยในสมองไม่เคยรู้เลยว่าสยามประเทศเป็นอย่างไร เราไม่ใช่สากกะเบือที่ยอมให้เขาเหลาเอาๆ จนหัวป้านปราศจากความเฉียบแหลม
ทั้งหมดนี้เป็นภาษาคนง่ายๆ ไม่ใช่ภาษาไดอาเล็กติก อ่านไม่รู้เรื่องก็กรรมเวรละเว้ยเฮยยย
ยังมีอีกปมที่ควรจะวิจารณ์ต่อ คือสมศักดิ์ยกประเด็นว่า ที่พูดๆ กันว่า ในหลวงเป็นคนดี ในหลวงทำงานหนักน่ะ คนพูดพิสูจน์ได้ใหม
อันนี้ผมว่า สมศักดิ์ท่านเอาตีนเป็นหัวนะ คือกลับเอาผลมาตั้งเป็นเหตุ ทำไมคนพูดจะต้องพิสูจน์ล่ะ คนไม่เชื่อสิต้องเป็นฝ่ายพิสูจน์ เหมือนผมบอกว่าสมศักดิ์เป็นคนเก่ง คนไม่เห็นด้วยก็ต้องบอกว่าไม่จริง ไอ้นี่โง่จะตาย ว่าแล้วก็ยกหลักฐานมาแฉเป็นเรื่องๆๆๆๆๆๆๆ นี่ๆๆๆๆๆๆๆ มันต้องอย่างนี้จึงจะเอารากลงดินเอากิ่งชี้ฟ้า
เอาละเพื่อไม่ให้ผมตกหลุมพรางนายคนนี้ จนเผลอหมิ่นสถาบันเสียเอง ผมจะขอสมมติว่าเรากำลังคุยกันเรื่องพระเจ้านิรนามละกัน ประชาราษฏร์ในประเทศนั้นพากันบอกว่าพระเจ้านิรนามเป็นกษัตริย์ที่ดี ทรงทำงานหนักเพื่อราษฏร ราษฎรจึงรัก
ปรากฏว่ามีนายวิกลจริตคนหนึ่งชื่อสมสัด โต้แย้งว่าที่พวกท่านพากันสรรเสริญพระเจ้านิรนามนั้น ท่านพิสูจน์ได้ว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ หรือ
ปัญหาก็คือราษฎรที่กล่าวยกย่องพระเจ้านิรนามนั้น มีจำนวนตั้งหลายสิบล้าน นายสมสัดถามขึ้นมาลอยๆ อย่างนี้ เกิดเขาตอบมาสิบห้าล้านคำตอบ สมสัดตรวจสอบได้หรือว่าทั้งหมดโกหก โกหกมากหรือน้อย โกหกกี่คน
จะเห็นว่า สมสัดใช้ความเจ้าเล่ห์ทางตรรกะ สร้างคำถามที่ไม่มีผลในทางปฏิบัติ ให้คนอื่นต้องแบกภาระอันไร้สาระนี้เล่น โดยนึกว่าตัวเองฉลาดล้ำเลิศ
ยิ่งกว่านั้น สมสัดยังแอบซ่อนระเบิดนามธรรมไว้ในการโต้แย้งนี้ เพราะคำว่าดีหรือการยกย่องน่ะ มันเป็นการเสนอทางด้านอารมณ์ความรู้สึก ประชากรหลายสิบล้านคนเขาไม่ใช่นักวิจัย จะได้มาวงเล็บภาษาต่างด้าวแม่มมันทุกประโยคเพราะนึกว่าเท่ มีอ้างอิงมันทุกบันทัดและใช้หนังสือที่ชาวโลกเขาไม่ใช้ มาประกอบการแสดงความเห็น ชาวบ้านเขาพูดออกมาจากประสบการณ์ส่วนตัว จะผิดจะถูกก็เป็นความรับผิดเฉพาะตัว เขาไม่ได้เอาคำถ่มถุยของตัวไปแปะตามเว็บต่างๆ เนื่องเพราะไม่มีคนเขายอมพิมพ์เป็นเล่ม แปะเพราะอยากจะเป็นศาสดา ชาวบ้านเขาเพียงแต่สะท้อนความรู้สึกนึกคิดตามสำนึกที่เขาได้รับการอบรมบ่มนิสัยมา และเขาเห็นว่าพระเจ้านิรนามนั้นถูกโจมตีอย่างไม่เป็นธรรม เขาเจ็บร้อนแทน เรื่องมันตรงไปตรงมาแค่นี้เอง
สมสัดเองแหละ ที่แย้งเขาเรื่องการประเมินความดี ก็จะต้องเสนอแนวเทียบเรื่องคุณงามความดีของมนุษย์ และค่านิยมทางสังคม ตลอดจนเกณฑ์เทียบทางประวัติศาสตร์ออกมา เพื่อรองรับความเห็นของตน โห ประเด็นนี้ ได้วงเล็บภาษาพ่อภาษาแม่มารดามันได้เพี่ยบเลยยย นี่หวังดีนะเนี่ยะ รีบทำ รีบทำ
แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็แปลว่า สมสัดไม่มีความรู้เรื่องคุณงามความดีเลย เชอะ ยังจะมาพูดเรื่องนี้อีก
นายรวยความจน เพิ่งงัวเงียออกมาจากห้องสมุด (แกไปงีบมาน่ะ) เห็นดังนั้น รู้สึกว่านายสมสัดนี่ฉลาดจริง ฉลาดในเรื่องโง่ๆ
นายรวยความจนก็เลยย้อนกลับไปว่า สมสัด ผู้คนเขาบอกถึงคุณงามความดีของพระเจ้านิรนามมานานนักหนาแล้ว เอางี้ละกัน สมสัดยกคำสรรเสริญที่ตัวเองเห็นว่าไม่จริง เอามาอธิบายสักข้อหนึ่งก่อน ได้ใหม จะมาทำตัวแอนนี่ พูดเอาแต่ได้หาว่าผู้ชายคนหนึ่งมาทำผิดกับเธอ แล้วปล่อยให้ผู้ชายคนนั้นเป็นฝ่ายพิสูจน์ว่าไม่ได้ทำผิด หรือทำไปแต่ไม่ผิด โห ง่ายไปป่าว วิธีแบบนี้สมสัดไม่ใช่หน้าตัวเมียไม่ควรทำ สมสัดเป็นตัวผู้ควรจะองอาจผึ่งผาย บอกมาเลยว่าที่นาย ก. นายข. กล่าวยกย่องพระเจ้านิรนามว่าดีอย่างนั้นอย่างนี้นั้น ไม่จริง ที่จริงคือเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ นี่สิจึงจะเป็นชายสมชาย
สิ่งที่นายรวยความจนแย้งมานี้ ไม่ใช่ของแปลกประหลาด แกไปเจอมาตอนที่แอบงีบในห้องสมุดนั่นแหละ หนังสือที่แกเอามาหนุนนอน มันชื่อว่าระเบียบวิธีวิจัยทางประวัติศาสตร์ หนังสือนี้สอนไว้ว่า ก่อนที่เราจะเอาอะไรมาเป็นหลักฐาน เราต้องพิสูจน์ความเท็จของมันก่อน ไมใช่พิสูจน์ความจริง หนังสือนี้เขาสอนว่าไม่มีความจริงในวิชาประวัติศาสตร์ มีแต่ข้อมูลที่ยังพิสูจน์ความเท็จไม่ได้ นักประวัติศาสตร์มีหน้าที่ชี้ความเท็จนั้นออกมา อย่างเช่น นายสมสัดอาจจะเอาหนังสือยอดเยี่ยมที่ชื่อว่า ประวัติศาสตร์ที่เพิ่งมั่ว....อ้าว ไม่ใช่เหรอ อ้อ ประวัติศาสตร์ที่เพิ่งสร้าง เป็นหนังสือดีมากคือไม่มีใครยอมพิมพ์ให้อีก ต้องหาอ่านเอาตามที่เขาแจกฟรี อิอิ สมสัดจะต้องเอามาชี้ข้อที่โกหกออกมา ซึ่งมีอยู่มาก ให้ได้ ถ้าชี้ออกมาได้ก็ชื่อว่าเข้าถึงปรัชญาแห่งประวัติศาสตร์นิพนธ์ สามารถออกไปเชิดคอแบบกิ่งก่าได้ทองกับโลกภายนอกได้ บอกกับชาวโลกว่า ข้านี่แหละนักประวัติศาสตร์
นี่คือทางลัดที่สมสัดจะเอาไปใช้ นายรวยจนก็ไม่หวงห้าม
แต่ถ้าชี้ออกมาไม่ได้ ก็ควรจะหุบปาก อย่าส่งเสียงอะไรที่เกี่ยวเนื่องไปในทางใช้มันสมองกับเรื่องอดีต หรือที่เพิ่งเกิดอีก
รำคาญ ข้าพเจ้าจะนอน
http://forum.seritha...6&topic=4351.50
#77
ตอบ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 09:21
- > mj < likes this
ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน