Jump to content


Photo
- - - - -

คน 4 รุ่น กับปัญหาชายแดนใต้


This topic has been archived. This means that you cannot reply to this topic.
3 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 sigree

sigree

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,883 posts

ตอบ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 08:43

ผมกำลังคิดว่าจะอธิบายอย่างไรต่อปัญหาชายแดนใต้ที่เปลี่ยนไป ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราควรมองปัญหาอย่างปัจจุบันที่สุด และเข้าใจความเปลี่ยนแปลงที่เปลี่ยนไป

ผมของแบ่งปัญหาตามวัยของคน ซึ่งผมเชื่อว่าหลายคนจะเริ่มมองปัญหาอย่างเข้าใจในพัฒนาการของมัน


รุ่น ทวด

คนรุ่นนี้ปัจจุบันอายุราวๆ 70 ปีขึ้นไป คนกลุ่มนี้เป็นคนกลุ่มที่ไม่มีความรู้อะไรมากนัก มีผู้รู้ไม่มากจะว่าไปเป็นยุคแห่งการเริ่มต้นการเรียกร้องเอกราช คนกลุ่มนี้ทันได้เห็นประเทศมาเลเซียเริ่มต่อต้านอังกฤษจนสร้างชาติได้ และนำแนวคิดนั้นมาใช่งาน

ผมกล้าพูดว่าคนรุ่นนี้ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับเอกราชของปัตตานี จะว่าไปในยุคนี้เองที่ชาวบ้านส่วนใหญ่รับรู้เสมอถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลึกๆ ใคร อะไร ยังไง

รู้ลึกกว่าเจ้าหน้าที่ด้วย

ในยุคนี้ ผู้ว่า สส กำนัน ผู้ใหญ่เป็นชาวพุทธทั้งหมด ประวัติศาสตร์ปัตตานีห้า่มพูด คนมีฐานะในพื้นที่คือ คนจีน คนไทย ต่ำสุดคือชาวมลายู

ภาษายุคนี้คือ มลายู

รุ่น ปู-ย่า

คนวัย 45-60 ปี การต่อสู้ที่ยาวนานของรุ่นทวด ทำให้คนรุ่นนี้คิดเปลี่ยนไปบ้าง พวกเขาเห็นการต่อสู้ที่ผ่านมาว่าไม่เห็นจุดหมาย ส่วนใหญ่เรียกร้องใหม่คือ สิทธิ์ในการมีส่วนร่วมการปกครอง เป็นข้าราชการและอื่น

คนรุ่นนี้ต่างจากคนรุ่นที่แล้วตรงเริ่มเน้นการศึกษาที่มากกว่าแค่การศึกษาทางศาสนา สอบเข้าราชการ ลงสมัคร สส

คนรุ่นนี้ส่วนใหญ่จะเห็นด้วยกับเอกราชของปัตตานีแต่ลดลงกว่ารุ่นทวด จะว่าไปในยุคนี้เองที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็รับรู้เสมอถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลึกๆ ใคร อะไร ยังไง

รู้ลึกกว่าเจ้าหน้าที่ด้วย เพราะสายสัมพันธ์กับคนยุคก่อน

การเปิดโอกาศทางราชการทำให้เหตุการณ์ในยุคนี้เริ่มเบาลง พร้อมๆกับข้อเรียกร้องด้านเอกราชเปลี่ยนไปเป็น รัฐในการคุ้มครอง

ในยุคนี้ ผู้ว่า สส กำนัน ผู้ใหญ่เป็นชาวมลายูทั้งหมด ส่วนข้าราชการระดับบนในพื้นที่ยังคงเป็นชาวพุทธ ชาวพื้นเมืองได้เพียงระดับกลางและล่าง ประวัติศาสตร์ปัตตานียังคงห้ามพูดในสาธารณะ แต่มีการรับรู้แล้วในด้านวิชาการ คนมีฐานะในพื้นที่คือ คนจีน คนไทย และ ชาวมลายู ฐานะเริ่มใกล้ๆกัน

ภาษายุคนี้ใช่ 2 ภาษา มลายูและไทย

รุ่น พ่อ-แม่

คนวัย 30-45 ปี การเข้ารับราชการและได้เป็น สส กำนันและอื่นๆ ทำให้คนรุ่นนี้คิดเปลี่ยนไปสุดโต่ง และแบ่งชาวมลายูพื้นเมืองเป็น 2 ส่วนอย่างชัดเจน คือในเมืองและชนบล
คนรุ่นนี้ไม่เหมือนคนรุ่นที่แล้วที่ถูกจำกัดหลายอย่าง เขาโตมาพร้อมกับกับการได้เห็นกลุ่มวาดะได้เป็น รมต ประธานสภา

คนรุ่นนี้โดยเฉพาะในเมือง เป็นกลุ่มแรกที่มีทางเลือกที่จะเป็น

คนรุ่นนี้ส่วนใหญ่จะเฉยๆกับเอกราชของปัตตานีส่วนใหญ่เน้นทำมาหากิน จะว่าไปในยุคนี้เองคนส่วนใหญ่ไม่รับทราบอีกแล้วถึงความเป็นไปของโจรใต้

ในยุคนี้ ผู้ว่า สส กำนัน ผู้ใหญ่เป็นชาวมลายูทั้งหมด ส่วนข้าราชการระดับบนในพื้นที่ปนเปชาวไทย และคนพื้นเมือง ประวัติศาสตร์ปัตตานีสามารถพูดถึงได้อย่างเปิดเผย

คนมีฐานะในพื้นที่คือ คนมลายู คนจีน และ คนไทย เนื่องจากการเกื้อกูลกันของคนพื้นเมืองทำให้ปัจจุบัน คนร่ำรวยส่วนใหญ่คือคนพื้นเมือง ปัจจุบันไม่มีปรากฏการณ์ ร้านขายเครื่องไฟฟ้าหรือมอเตอร์ไซค์ ไล่คนพิ้นเมืองออกจากร้าน(ไม่มีเงินมาลูยคลำ)อีก เพราะลูกค้าส่วนใหญ่คือ คนพื้นเมือง

คนชนบลมีบางส่วนที่ตามทันยุคสมัยที่คนพื้นเมืองร่ำรวย

แต่

ทั้งเมืองและชนบล(ส่วนใหญ่ชนบล)ต่างมีคนที่ตกขบวนการพัฒนาและเติบโตนี้พวกเขายังหลงอยู่ในยุคของปู่-ย่า ต่างกันเพียงพวกเขารอให้ใครมากระตุ้นการกอบกู้เอกราชอีกครั้งเท่านั้น

และขณะเดียวกัน การพูดถึงเรื่องปัตตานี แม้จะทำให้คนพื้นเมืองส่วนใหญ่รู้สึกดีและภูมิใจ แต่ก็ทำให้บางคนไปเป็นแนวร่วมด้วยเช่นกัน


รุ่น ปัจจุบัน

คนวัย 15-30 ปี

คนรุ่นนี้ไม่ต่างจากรุ่นพ่อ-แม่นัก พวกเขาเห็นโอกาศและมีทางเลือกที่จะเป็น

อย่างไรก็ดี ก่อนพวกเขาเริ่มต้นชีวิตของตัวเอง(ทำงาน)เหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น มุมมองของพวกเขาคือขอให้จบ จบทางไหนก็ได้ขอให้จบเป็นพอ

แน่ละหลายคนเข้าสู่การเป็นแนวร่วม แต่ไม่ใช่ส่วนใหญ่.

อย่างไรก็ดี แม้เหตุจะรุนแรง แต่เศรษฐกิจในพื้นที่กลับเติบโตและพัฒนาอย่างเห็นได้ชัดทำให้คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในพื้นที่ เพราะพอหางานทำได้

ผมไม่อาจแน่ใจคนกลุ่มนี้นักเพราะปัจจุบันพวกเขายังมีบทบาทน้อยและไม่ชัดเจน

แต่น่าสนใจว่าในพื้นที่มีคนทั้ง 4 กลุ่มปนเปกันไป ทางราชการมองคนเพียงแนวคิดเดียวไหม?

#2 Yasuhiro

Yasuhiro

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,745 posts

ตอบ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 08:52

ถามครับ ในมุมมองของคุณ Sigree มันมีทางไหนบ้างครับ ที่จะลดอัตราการเข้าร่วมเป็นแนวร่วม และขอทราบความเห็นเกี่ยวกับประเด็นในเรื่องอัตลักษณ์ครับ เพราะว่าเป็นประเด็นที่สำคัญ และนำมาใช้ในการปลุกระดมเพื่อการเคลื่อนไหวต่างๆได้

"Hoot": When I go home people'll ask me, "Hey Hoot, why do you do it man? What, you some kinda war junkie?" You know what I'll say? I won't say a goddamn word. Why? They won't understand. They won't understand why we do it. They won't understand that it's about the men next to you, and that's it. That's all it is.
Quote from Black Hawk Down


#3 sigree

sigree

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,883 posts

ตอบ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 09:07

ผมคิดว่า รัฐมาถูกทางในเรื่องเปิดเผยความเป็นปัตตานี และไม่กดอัตลักษณ์

คนส่วนใหญ่พอใจยุคปัจจุบันที่พวกเขาสามารถทำทุกอย่างได้ในแง่อัตลักษณ์และศาสนา นั้นทำให้เงื่อนไขดั่งเดิมที่เป็นเรื่องอัตลักษณ์หายไป

อย่างไรก็ดี ผมคือหนึ่งในหลายๆคน ย้ำว่าหลายคนที่ถูกทาบทามให้เข้าร่วม ซึ่งแต่ละคนจะถูกทาบทามด้วยวิธีที่ต่างๆกันออกไป และผมพบว่าไม่ใช่ผมคนเดียวที่ปฎิเสธ

ปัจจุบันหัวใหญ่นั้นไม่ได้พิ่มขึ้น ที่มากขึ้นคือฝ่ายปฎิบัติการ ซึ่งถูกเชิญชวนหลายๆวิธี

จำที่ผมบอกว่า หลายคนตกขบวนการเติบโตและพัฒนาได้ไหม? คนเหล่าชักจูงง่าย โทษเหตุของรัฐที่ทำให้พวกเขาตกต่ำ(คล้ายวิธิแดงไหม?)และบางส่วนใช่ยาเสพติดเข้าล่อ

ผมมองภาครัฐปัจจุบันยังพูดน้อยมากเรื่องงานและอนาคตที่เหมาะสม

ขอย้ำคำว่าเหมาะสม ยังไม่มีหน่วยงานใดเสนอสิ่งที่เหาะสมกับคนเหล่านั้นเลย

#4 Yasuhiro

Yasuhiro

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,745 posts

ตอบ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 10:28

ถามต่อครับ ว่าคนในพื้นที่โดยเฉพาะคนในรุ่น 15-30 ปี ได้รับการศึกษาที่สามารถนำมาใช้ในการประกอบอาชีพได้ มีจำนวนมากน้อยแค่ไหนครับ พอดีผมเคยได้ยินมาว่าหลายคนเรียนจบในด้านทางศาสนามา ซึ่งจุดนี้มันก็ทำให้หางานทำยาก ซึ่งผมยอมรับว่าจุดนี้ผมอาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อนไปอย่างมาก ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดคุณ Sigree เป็นผู้ประกอบการ ผมเลยอยากทราบว่าคนในรุ่นนี้มีฝีมือมากพอที่จะเข้าทำงานในภาคการผลิตได้หรือไม่ครับ และถ้าจะให้รัฐไปพัฒนาและสร้างงานที่นั่้น คุณ Sigree คิดว่าส่วนใหญ่เหมาะกับงานในด้านไหนครับ

"Hoot": When I go home people'll ask me, "Hey Hoot, why do you do it man? What, you some kinda war junkie?" You know what I'll say? I won't say a goddamn word. Why? They won't understand. They won't understand why we do it. They won't understand that it's about the men next to you, and that's it. That's all it is.
Quote from Black Hawk Down