Jump to content


Photo
- - - - -

ไอ้ผี.กูมีคำตอบให้มึง!


This topic has been archived. This means that you cannot reply to this topic.
10 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 Huligan

Huligan

    ดาวพยศนภา

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,880 posts

ตอบ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 21:18

หนึ่งในเรื่องย่อวรรณกรรมหนึ่งของ นายผี ที่ผมเพิ่งอ่านเจอจากนิตยสาร สารคดี ฉบับเก่าๆเล่มหนึ่ง
(ปกติผมยอมรับว่าไม่ค่อยได้อ่านงานของพวกเขามากนัก เมื่อเทียบกับหลายๆท่านในนี้)

เมื่อพิจารณาจากลักษณะของงานแนววรรณกรรมเพื่อชีวิตดังที่เสนอมาข้างต้น เราจะพบว่าเรื่องสั้นชื่อคำตอบนั้นอยู่ที่ไหน?จะโดดเด่นมากเป็นพิเศษ เพราะคำตอบที่ได้จากเรื่องสั้นชิ้นนี้มิได้เป็นคำตอบแบบสูตรสำเร็จรูปเหมือนกับเรื่องอื่นๆ
ตามเนื้อเรื่อง ตัวละครเอกของเรื่องเป็นเด็กชื่อเล็ก พ่อและแม่เป็นชาวนาที่อพยพจากอยุธยามาเป็นคนแจวเรือจ้างข้ามฟากจากท่าพระจันทร์ไปบางกอกน้อย เล็กได้ร่วมกันกับเพื่อนบังคับเอาเงินจากผู้โดยสารชาวอิสานในเรือขณะข้ามฟากไปบางกอกน้อย เพื่อไปซื้อยารักษาพ่อที่ป่วยหนักใกล้ตาย จากนั้นจึงล่มเรือจ้างฆ่าเหยื่อทิ้ง เขาถูกจับได้บนฝั่งและถูกตำรวจซ้อมให้บอกชื่อเพื่อน เรื่องมาจบลงตรงความคิดคำนึงของเล็กขณะถูกซ้อม
เพราะอะไร พ่อของเขาจึงจะต้องตาย
เพราะอะไร เพื่อนผู้หวังดีของเขาจึงกลายเป็นคนอำมหิต
และเพราะอะไร เขาจึงกลายเป็นผู้ร้ายฆ่าคนที่ต้องรับกรรม
เขาไม่มีคำตอบสักคำเดียว
ความกลัดกลุ้มซ่านเข้าไปในทรวงอันเล็กและบอบบางของเขา
เพราะอะไรกันโว้ย เล็กตะโกนก้อง แล้วรู้สึกหน้ามืดสิ้นสติไป
..........................................................
ในฉากในเรือ คำพูดของเพื่อนเล็ก ก่อนจะล่มเรือฆ่าปิดปากเหยื่อที่ว่าใครจะยอมตาย..มีชีวิตอยู่ก็ต้องดิ้นไปจนสุดฤทธิ์สะท้อนให้เห็นแนวความคิดแบบ Social Darwinism ที่เชื่อว่ากฎเกณฑ์ในสังคมมนุษย์นั้นเหมือนกฎเกณฑ์ทางธรรมชาติ นั่นคือผู้ที่แข็งแรงกว่าเท่านั้นจึงจะอยู่รอดได้ แต่ในฉากริมฝั่ง เราพบว่าตำรวจจะก่นด่าเล็กตลอดเวลาว่า ไอ้ผู้ร้ายใจแข็ง ใจคอมึงโหดร้ายฆ่าคนกลางแม่น้ำซึ่งก็คือการใช้กฎหมายและศีลธรรมมาเป็นบรรทัดฐานตีความสิ่งที่เกิดขึ้น

จากนิตยสารสารคดีฉบับที่ 155 มกราคม 2541 หน้า 134

Edited by Huligan, 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 21:21.

ทฤษฎีของ เดล คาเนกี ใช้กับเหิ้ยหางแดงไม่ได้*สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง แต่สิ่งที่มองเห็นได้นั้นน่าเชื่อถือมากกว่า*

#2 Huligan

Huligan

    ดาวพยศนภา

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,880 posts

ตอบ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 21:19

คำถามต้องเริ่มไปที่ โรค กับยารักษาโรค ก่อนใช่มั้ย! การที่ไอ้เล็กบังเกิดความหวังว่าจะมียาดีๆไปรักษาพ่อมัน ก็แสดงว่ามันต้องมีข้อมูลอยู่แล้วว่า ยาแบบนั้นมีอยู่จริง
ถ้าไม่มีข้อมูลนี้ แล้วเศือกไปปล้นฆ่า เพื่อหวังน้ำบ่อหน้า(ที่ไม่รู้ว่าจะมีอยู่จริงหรือไม่) แสดงว่ากระบวนทรรศน์หรือตัวกรองข้อมูลในห้วงความคิดของมันห่วยเอง
เอาล่ะ สมมติว่า ยาที่ว่านั้นมีจริง แต่มีราคาแพง ไอ้เล็กมองว่า มันจน ทำให้มันเข้าไม่ถึงยาที่ว่านั่นได้ เพื่อความอยู่รอด มันจึงต้องฝืนกติกาสังคมที่ควรจะเป็น(คือทำมาหากินเพื่อหาเงินมาซื้อ หรือไม่ก็ยอมรับชะตากรรมของพ่อมัน ปล่อยให้ตายไปกับโรค)ด้วยการปล้นฆ่า > ก็ต้องมาลงคำถามต่อว่า ยานั้นใครคิดค้นขึ้นมา? ระหว่างที่เขาคิดค้น เขาต้องพยายามมากเท่าไหร่?ลงทุนไปเท่าไหร่? แล้วถ้าเขาไม่ผลิตออกมาแต่แรก หรือเลิกผลิตเพราะเจอคนแบบไอ้เล็กเกิดขึ้นในสังคม > พ่อไอ้เล็กก็ต้องตายอยู่ดี สรุปคำตอบจากข้อแรกก็คือ ทำไมพ่อมันจึงต้องตาย สาเหตุหลักคือมาจากโรค(หรือจะว่าเป็นชะตากรรมก็ได้) ส่วนเรื่องยากับความจน ก็แค่ปลายเหตุเท่านั้น

ส่วนเรื่องกฎธรรมชาติ หรือกฎหมายมนุษย์ จริงๆก็มีคำตอบให้เข้าใจไม่ยาก ถ้าไอ้เล็กไม่สองมาตรฐาน!
1) ถ้าไอ้เล็กยึดกฎหมายในสังคมเป็นหลัก ไอ้เล็กก็ควรที่จะหาเงินด้วยวิธีถูกกฎหมาย หรือไม่ก็ปล่อยให้พ่อเป็นไปตามชะตากรรม ถ้าไม่สามารถหาเงินได้ทัน(ผมจำได้ว่าเคยได้ยินกลอนพระพยอมท่อนหนึ่งที่กล่าวว่า ตายก็ดีหมดปัญหาถ้ายาแพง) เพราะการที่ไอ้เล็กออกมาปล้นฆ่าคนอื่น บุคคลเหล่านั้นก็อาจจะมีลูก มีครอบครัวให้ห่วงเช่นกัน
2) ถ้าไอ้เล็กจะยึดกฎดาร์วิน นั่นคือใครใหญ่ใครอยู่ ไอ้เล็กคิดว่า เพื่อความอยู่รอดของครอบครัว มันจะทำอะไรก็ได้ ดังนั้น ไอ้เล็กก็ต้องยอมรับชะตากรรมที่สอง คือ การถูกตำรวจจับ ก็เพราะตำรวจใหญ่และแข็งแกร่งกว่ามึง ตอนปล้นเขามึงเป็นผู้ล่า แต่ตอนนี้ตำรวจเป็นผู้ล่าแทน *คุณ*ก็จงยอมรับในชะตากรรมแห่งการเป็นเหยื่อนั้นซะ ไม่ว่าตำรวจจะคิดอย่างไร หรือจะใช้มาตรฐานไหนในการจัดการไอ้เล็กก็ตาม? แต่ไอ้เล็กก็ควรจะยอมรับในมาตรฐานที่มันสร้างขึ้นมาเอง!

Edited by Huligan, 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 21:55.

ทฤษฎีของ เดล คาเนกี ใช้กับเหิ้ยหางแดงไม่ได้*สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง แต่สิ่งที่มองเห็นได้นั้นน่าเชื่อถือมากกว่า*

#3 overtherainbow

overtherainbow

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,295 posts

ตอบ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 21:25

ชอบที่นี่ค่ะ

ตรงที่เหมือนร้านกาแฟจริงๆ

ที่มีคนเปิดเรื่อง และมีคนเห็นด้วยหรือคัดค้าน แบบอริยะ

ไม่ว่าจะยังไง คนอ่านคุ้ม

รออ่านต่อค่ะ

#4 phoosana

phoosana

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,687 posts

ตอบ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 21:44

ฝรั่งยังมี โรบินฮู๊ด เป็นพระเอกด้วย -_-
We love fender.

#5 Huligan

Huligan

    ดาวพยศนภา

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,880 posts

ตอบ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 21:51

คือถ้ากรณี เจ้าหน้าที่รัฐไปรีดไถชาวบ้านก่อน(เช่นกรณีโรบินฮู้ด?) หรือมีนายทุนไปสร้างโรงงานใกล้พื้นที่ทำกิน จนชาวบ้านในพื้นที่เดือดร้อนจากมลภาวะ อันนั้นถ้าพิจารณาตามหลักเหตุผลแล้ว ผมเห็นว่าเขามีความชอบธรรมที่จะต่อต้านรัฐหรือนายทุนที่มาคุกคามครับ...แต่กรณีไอ้เล็กนี่ไม่ใช่อย่างนั้น

Edited by Huligan, 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 21:52.

ทฤษฎีของ เดล คาเนกี ใช้กับเหิ้ยหางแดงไม่ได้*สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง แต่สิ่งที่มองเห็นได้นั้นน่าเชื่อถือมากกว่า*

#6 Siren

Siren

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,336 posts

ตอบ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 23:06

ไม่เคยอ่านเรื่องนี้ค่ะ แต่ถ้าวิเคราะห์จากข้อมูลที่คุณ Huligan สรุปให้ เล็กก็สะท้อนถึงคนส่วนหนึ่งในสังคมที่ใช้วิธีแก้ปัญหาแบบง่ายๆ คือ เมื่อไม่มีก็ไปแย่งชิงมาจากคนอื่น ซึ่งไม่มีความชอบธรรม แถมสิ่งที่เล็กตั้งคำถาม สะท้อนว่า เขาโทษคนอื่นโดยไม่มองตัวเอง

ความดีของเล็กคือ มีความกตัญญูและซื่อสัตย์กับเพื่อน แต่หากจะตั้งคำถามว่า เพราะอะไร ก็ต้องตอบว่า เพราะการแก้ปัญหาโดยไม่ใช้สติปัญญาของเล็กและเพื่อนเอง
หากจะโทษว่าเป็นความเหลื่อมล้ำไม่เท่าเทียมกันของสังคม ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่ง แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่า ไม่มีความเท่าเทียมกันอยู่แล้วไม่ว่าที่ไหนในโลกนี้ คนที่ขาด อาจต้องใช้แรง และความเพียรพยายามมากกว่า แต่หากใช้สติ ปัญญา และความเพียร เข้าสู้ จุดจบของเล็กก็คงไม่เป็นแบบนี้

Now!  Restart Thailand  


#7 10Mz

10Mz

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 570 posts

ตอบ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 23:33

ไอ้เล็กคล้ายๆกับควายแดงหลายๆตัวมั้ยล่ะครับ เพราะจนเลยมารับจ้างก่อม็อบ รับจ้างเผา พอถูกจับก็อ้าง2มาตรฐาน อ้างความเท่าเทียมในสังคม อ้าง บลาๆๆๆๆ

#8 SACRIFICE

SACRIFICE

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 608 posts

ตอบ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 00:04

ถามก่อนว่าพ่อของเล็กเป็นโรคอะไร?

ถ้าเป็นพิษสุราเรื้อรังละ ก็มีคำตอบให้ว่า เพราะพ่อเอ็งกินแต่เหล้า

ถ้าเป็นมะเร็งปอด ก็ตอบว่าพ่อเอ็งดูดแต่บุหรี่

ถ้าเส้นเลือดในสมองตีบตัน ก็พ่อเอ็ง ดูดบุหรี่ และไม่ออกกำลังกาย

หรือถ้าพ่อเล็กเป็นโรคฉี่หนูตาย ก็เพราะพ่อเอ็งไม่ยอมใส่บูท

แต่คนที่น่าสงสารที่สุดไม่ใช่เล็ก แต่เป็นลูกเมีย พ่อแม่ ของลูกเรือชาวอีสานโน่น
THE ONLY THING WORSE THAN LOSING, IS QUITTING.

#9 ดราม่า

ดราม่า

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,395 posts

ตอบ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 01:59

ส่วนมากคนชนิดนายผี เป็นมนุษย์ประเภทชอบโทษคนอื่น

เวลาตัวเองประสบทุกข์อะไร ก็โทษสังคม โทษรัฐบาล โทษการศึกษา โทษไปกระทั้งสถาบัน

ส่วนมากคนชนิดนายผี ไม่เคยมองว่าตัวเองผิด


ที่ตลกก็คือ ทุกวันนี้เรามักเจอคนอย่างนี้ในหมู่เสื้อแดงล้มเจ้า
"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ" อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก “ขอพูดอะไรแรงๆ สักครั้งในชีวิตค่ะ พูดแล้วจะร้องไห้...น้ำท่วมไม่กลัว กลัวอย่างเดียว...ผู้นำโง่ เพราะพวกเราจะตายกันหมด”หนูดี

#10 overtherainbow

overtherainbow

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,295 posts

ตอบ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 10:36

ไม่เคยอ่านเรื่องนี้ค่ะ แต่ถ้าวิเคราะห์จากข้อมูลที่คุณ Huligan สรุปให้ เล็กก็สะท้อนถึงคนส่วนหนึ่งในสังคมที่ใช้วิธีแก้ปัญหาแบบง่ายๆ คือ เมื่อไม่มีก็ไปแย่งชิงมาจากคนอื่น ซึ่งไม่มีความชอบธรรม แถมสิ่งที่เล็กตั้งคำถาม สะท้อนว่า เขาโทษคนอื่นโดยไม่มองตัวเอง

ความดีของเล็กคือ มีความกตัญญูและซื่อสัตย์กับเพื่อน แต่หากจะตั้งคำถามว่า เพราะอะไร ก็ต้องตอบว่า เพราะการแก้ปัญหาโดยไม่ใช้สติปัญญาของเล็กและเพื่อนเอง
หากจะโทษว่าเป็นความเหลื่อมล้ำไม่เท่าเทียมกันของสังคม ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่ง แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่า ไม่มีความเท่าเทียมกันอยู่แล้วไม่ว่าที่ไหนในโลกนี้ คนที่ขาด อาจต้องใช้แรง และความเพียรพยายามมากกว่า แต่หากใช้สติ ปัญญา และความเพียร เข้าสู้ จุดจบของเล็กก็คงไม่เป็นแบบนี้


ส่วนมากคนชนิดนายผี เป็นมนุษย์ประเภทชอบโทษคนอื่น

เวลาตัวเองประสบทุกข์อะไร ก็โทษสังคม โทษรัฐบาล โทษการศึกษา โทษไปกระทั้งสถาบัน

ส่วนมากคนชนิดนายผี ไม่เคยมองว่าตัวเองผิด


ที่ตลกก็คือ ทุกวันนี้เรามักเจอคนอย่างนี้ในหมู่เสื้อแดงล้มเจ้า

ส่วนมากคนชนิดนายผี เป็นมนุษย์ประเภทชอบโทษคนอื่น

เวลาตัวเองประสบทุกข์อะไร ก็โทษสังคม โทษรัฐบาล โทษการศึกษา โทษไปกระทั้งสถาบัน

ส่วนมากคนชนิดนายผี ไม่เคยมองว่าตัวเองผิด


ที่ตลกก็คือ ทุกวันนี้เรามักเจอคนอย่างนี้ในหมู่เสื้อแดงล้มเจ้า


ชอบจริงๆ

ไม่อยากถามต่อว่านายผีคิด หรือรู้สึกอย่างที่เขียน
หรือต้องการแค่หาแนวร่วม
เคยอ่านโลกหนังสือบ้าง บานไม่รู้โรยบ้างหนังสือแนวนี้แต่ของต่างชาติบ้าง
แต่ไม่ฉลาดพอที่จะเข้าใจ ไม่เพราะภาษาสูงเสียจนต้องบีนกระไดอ่าน ก็ไม่รู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปด้วยเพราะไม่มีชีวิตแบบนั้น

เพราะแฟนคลับนายผีคงเยอะ
หนังสือพวกนี้ไม่เคยได้อ่าน
ได้ยินพูดถึงบ้างแต่น้อยมาก ชีวิตประจำวัน ไม่เคยได้รู้สึกร่วมกับเรื่องพวกนี้เท่าไหร่
เพราะแค่หน้าที่ลูกในบ้าน นักเรียนในโรงเรียน เพื่อนที่ดีต่อเพื่อน และพลเมืองคนนึงที่รักษากฏกติกาสังคม ก็แทบหมดไปวันๆอย่างรวดเร็ว

ในเวลาต่อมา
ผ่านวันเวลาแบบนี้จนถึงเวลาที่ต้องมานั่งทบทวนว่า ที่ผ่านมาได้ปล่อยเรื่องอะไรจากความสนใจ
แล้วให้รู้สึกขอบคณโชคชะตาว่า
ให้มาสนใจเรื่องพวกนี้ตอนที่มีสติ สัมปชัญญะแล้ว
โชคดีจัง

#11 Huligan

Huligan

    ดาวพยศนภา

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,880 posts

ตอบ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 23:35

โดยส่วนตัว ผมยังไม่ฟันธง ว่านายผีคิดอย่างไร เพราะในเนื้อเรื่องก็ไม่ได้บอกเจตนารมณ์ผู้แต่งเอาไว้ชัดเจน
แต่ผมจะมาแฉคำตอบในประเด็นต่างๆ ด้วยตัวแปรต่างๆให้ดูว่า ไม่ว่าจะมองในแง่ไหน ไอ้เล็กก็ไร้ความชอบธรรมวันยังค่ำ ไม่ว่าจะด้วยกฎมนุษย์หรือกฎสัตว์ป่า

ยังมีอีกประเด็นที่ผมสังเกตเห็น คือ ผู้ที่สนใจสังคมนิยมในยุคนั้น ยังมีมุมมองบ้องตื้นเพียงแค่ว่า บุคคลทุกคนควรมีสิทธิ์ในการเข้าถึงทรัพยากรณ์หรือปัจจัยการดำรงชีพเหมือนกัน
โดยไม่มองว่า ไอ้ปัจจัยที่ว่ามานั้น มันมีลักษณะดังต่อไปนี้หรือไม่?
1) มันจำเป็นต่อการดำรงชีพหรือไม่?
2) มันเป็นสมบัติที่มีมาแล้วตามธรรมชาติ(เช่นแหล่งน้ำ ที่ดินฯลฯ)หรือไม่ หรือว่ามันเป็นนวัตกรรมที่ต้องผ่านการประดิษฐ์คิดค้นโดยบุคคลหรือกลุ่มบุคคล
ถ้าไม่ผ่านข้อ 1 ก็จบ...สิ่งนั้นไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหาระบบกระจายมันไปยังแต่ละบุคคลแต่อย่างใด
ถ้าผ่านข้อ 1 ผ่านข้อ 2 ด้วย อันนี้ถ้าหาระบบกระจายให้ทั่วถึงได้ก็เป็นการดี(แต่ไม่จำเป็นต้องเท่าเทียม)
ถ้าผ่านข้อ 1 แต่ไม่ผ่านข้อ 2 อันนี้ต้องพิจารณาต่อว่า ใครเป็นผู้ลงทุนลงแรงไป? มันคุ้มไหมที่จะเอาสิ่งเหล่านั้นมาใช้ โดยผู้คิดค้นไม่ได้รับประโยชน์ตอบแทนอย่างคุ้มค่าเลย ดังนั้นในปัจจุบันเราจึงเห็นกฎหมายสิทธิบัตรออกมาคุ้มครองผู้ประดิษฐ์คิดค้น
*ซึ่งประเทศคอมมิวนิสต์เพิ่งมารู้รสชาติเอาก็ตอนหลัง ว่าระบอบนี้ขาดแรงจูงใจที่บุคคลจะสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ(กว่าจะถึงจุดที่ระบอบนี้เผยจุดอ่อนออกมา นายผีก็กลับบ้านเก่าไปแล้ว)
:P

หมายเหตุ > ตั้งชื่อกระทู้ออกแนวหยาบคาย เพราะอยากรู้ว่าพวกควายแดงลิ่วล้อไอ้หงอกจะออกมาดิ้นอีกหรือเปล่า? :D

Edited by Huligan, 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 23:43.

ทฤษฎีของ เดล คาเนกี ใช้กับเหิ้ยหางแดงไม่ได้*สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง แต่สิ่งที่มองเห็นได้นั้นน่าเชื่อถือมากกว่า*