สมาชิกสหกรณ์สวนยางสตูลยิ้มร่าไร้ผลกระทบราคายางตก
#1
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 09:15
สตูลยืนยันราคายางพาราไม่กระทบต่อชาวสหกรณ์แต่อย่างใด ได้ราคาน้ำยางตกกิโลกรัมละ 80 กว่าบาทไร้ปัญหา ก่อนทำเป็นแผ่นยางรมควันขายผ่าน อ.ส.ย. กิโลกรัมละ 104 บาท...
เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2555 นายชำนาญ เมฆตรง ประธานสหกรณ์กองทุนสวนยางอุไดเจริญ 1 อ.ควนกาหลง จ.สตูล และเป็นประธานชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยางสตูล กล่าวถึงสถานการณ์ราคายางพาราตกต่ำ จนเกษตรหลายพื้นที่ในภาคใต้ ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องรัฐบาลให้ช่วยเหลือ ว่า สำหรับ จ.สตูล ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากตัวแทนชาวสวนยางพาราในต่างจังหวัด เพื่อให้เข้าร่วมชุมนุมแต่อย่างใด และสำหรับชาวสวนยางพารา จ.สตูล ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ สวนยางพาราใน จ.สตูล ไม่ได้รับผลกระทบจากราคายางพาราที่ตกต่ำ เพราะขณะนี้ทางสหกรณ์สวนยางต่างๆ ใน จ.สตูล ซึ่งมีทั่วทุกพื้นที่ ได้ซื้อน้ำยางพาราสดจากสมาชิกในราคาที่สมาชิกพอใจ หรือตก กก.ละ 80 กว่าบาทขึ้นไป จากนั้นทางสหกรณ์ต่างๆ จะนำน้ำยางพาราสดที่รับซื้อจากสมาชิก มาทำเป็นยางแผ่นรมควัน และนำไปขายให้กับรัฐบาล โดยผ่าน อ.ส.ย. หรือองค์การสวนยาง ในราคา กก.ละ 104 บาท เมื่อได้กำไรจะมีการแบ่งปันผลกำไรในสิ้นปี ดังนั้น ชาวสวนยางพาราสตูลที่เป็นสมาชิกสหกรณ์สวนยางต่างๆ จึงไม่เดือดร้อน
อย่างไรก็ตาม สำหรับชาวสวนยางพารา จ.สตูล ที่สังกัดเป็นสมาชิกสหกรณ์ มีประมาณ 3000 กว่าครัวเรือน หรือประมาณเกือบๆ 1 แสนไร่เท่านั้น ในขณะที่ใน จ.สตูล มีผู้ประกอบการทำสวนยางพาราทั้งสิ้นประมาณ 4 แสนไร่ ซึ่งมีผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์ มากกว่าผู้เป็นสมาชิกสหกรณ์ สำหรับราคาท้องตลาดสำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์นำไปขายนั้น ราคาน้ำยางพาราสด ตกกก.ละ 74 บาท ยางพาราแผ่นตก กก.ละ 80 กว่าบาทเท่านั้น พวกเขาจึงมีผลกระทบและได้รับความเดือดร้อน.
http://www.thairath....tent/edu/284520
#2
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 09:20
ร้อยซาวเท่านั้นชาวสวนยางถึงจะยิ้ม
ปล.ที่่ 1
โกงชาวนา ฆ่าเด็กตาย ขายแผ่นดิน โคตรชั่วตระกูลชิน...!
#3
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 09:24
- พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน likes this
#4
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 09:30
ผมมีสวนยางที่สตูลอยู่แปลงนึง ก่อนนี้กรีดได้ขายน้ำยางราคาดีกว่านี้
มาวันนี้ราคาตก จะบอกว่าไม่เดือดร้อนก็ว่าได้เพราะมีอาชีพอื่นอยู่
แต่คนงานที่กรีดยางหรือชาวสวนคนอื่นๆ ซึ่งมีรายได้ทางเดียว
จะบอกว่าไม่เดือดร้อนก้ไม่ถูกนัก
ถ้าหากค่าครองชีพ มันถูกก็ไม่ว่า ก็ไม่เดือดร้อนนัก
แล้วที่สตูลเนี่ย แจกเกอร์ รู้ป่าวว่า ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงมันไม่ได้แพงเหมือนที่อื่น
ดังนั้น ระดับความเดือดร้อนย่อมน้อยกว่าที่อื่นไปด้วย
ลองชาวสตูลใช้น้ำมันราคาเท่ากทม.สิ
ได้มีออกมาม็อบแน่ๆ
#5
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 09:35
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#6
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 09:36
รัฐบาลก็รับซื้อยางทั่วประเทศราคานี้สิ แค่นี้ราคายางก็ขึ้นแล้วนำไปขายให้กับรัฐบาล โดยผ่าน อ.ส.ย. หรือองค์การสวนยาง ในราคา กก.ละ 104 บาท
- Bookmarks likes this
[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]
ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556
#7
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 09:37
แปลกแต่จริงรายได้น้อยลง แต่ "ยิ้มร่า"
Edited by เด็กเลี้ยงควาย, 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 09:37.
" ประกาศบอยคอต ช่อง 3 ไม่ว่าจะข่าว ละคร หรือการ์ตูนลูก กรูไม่ดู !!! "
#8
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 09:38
น้ำมันแถวสตูล เขาลักลอบนำเข้าจากมาเลย์ มีขายกันข้างถนนให้เกลื่อนครับแน่ใจเรอะว่ายิ้มร่า ราคา104บาทก็แค่พออยู่ได้ในภาวะน้ำมันสองลิตรร้อย ข้าวราดแกง40บาท
ร้อยซาวเท่านั้นชาวสวนยางถึงจะยิ้ม
ปล.ที่่ 1
95 กะดีเซล ลิตรละ 25 -28 บาท ถ้าขับรถข้ามด่านเข้าไปเติม 97 ก็ลิตรละ 27 บาท เป็นสินค้า OPOP ครับ อิอิ
(ตามชายแดน ในมาเลย์ รัฐไม่อนุญาตให้ปั๊มขาย 95 กับรถไทยครับ เขาติดกล้องไว้
ถ้าพบถึงขั้นยกเลิกใบอนุญาตปั๊มไปเลย ในมาเลย์ 95 ลิตรละ 18 บาทครับ แต่ถ้าเราขับเข้าไปในเที่ยวลึกๆเข้าไป
ก็สามารถเติมได้ ครับ)
ดังนั้น ผมว่าค่าน้ำมันเชื้อเพลิงของสตุล จึงไม่คอยกระทบกับชาวสตูลเท่าไหร่
#9
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 09:40
สตูลยืนยันราคายางพาราไม่กระทบต่อชาวสหกรณ์แต่อย่างใด ได้ราคาน้ำยางตกกิโลกรัมละ 80 กว่าบาทไร้ปัญหา ก่อนทำเป็นแผ่นยางรมควันขายผ่าน อ.ส.ย. กิโลกรัมละ 104 บาท...
เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2555 นายชำนาญ เมฆตรง ประธานสหกรณ์กองทุนสวนยางอุไดเจริญ 1 อ.ควนกาหลง จ.สตูล และเป็นประธานชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยางสตูล กล่าวถึงสถานการณ์ราคายางพาราตกต่ำ จนเกษตรหลายพื้นที่ในภาคใต้ ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องรัฐบาลให้ช่วยเหลือ ว่า สำหรับ จ.สตูล ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากตัวแทนชาวสวนยางพาราในต่างจังหวัด เพื่อให้เข้าร่วมชุมนุมแต่อย่างใด และสำหรับชาวสวนยางพารา จ.สตูล ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ สวนยางพาราใน จ.สตูล ไม่ได้รับผลกระทบจากราคายางพาราที่ตกต่ำ เพราะขณะนี้ทางสหกรณ์สวนยางต่างๆ ใน จ.สตูล ซึ่งมีทั่วทุกพื้นที่ ได้ซื้อน้ำยางพาราสดจากสมาชิกในราคาที่สมาชิกพอใจ หรือตก กก.ละ 80 กว่าบาทขึ้นไป จากนั้นทางสหกรณ์ต่างๆ จะนำน้ำยางพาราสดที่รับซื้อจากสมาชิก มาทำเป็นยางแผ่นรมควัน และนำไปขายให้กับรัฐบาล โดยผ่าน อ.ส.ย. หรือองค์การสวนยาง ในราคา กก.ละ 104 บาท เมื่อได้กำไรจะมีการแบ่งปันผลกำไรในสิ้นปี ดังนั้น ชาวสวนยางพาราสตูลที่เป็นสมาชิกสหกรณ์สวนยางต่างๆ จึงไม่เดือดร้อน
อย่างไรก็ตาม สำหรับชาวสวนยางพารา จ.สตูล ที่สังกัดเป็นสมาชิกสหกรณ์ มีประมาณ 3000 กว่าครัวเรือน หรือประมาณเกือบๆ 1 แสนไร่เท่านั้น ในขณะที่ใน จ.สตูล มีผู้ประกอบการทำสวนยางพาราทั้งสิ้นประมาณ 4 แสนไร่ ซึ่งมีผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์ มากกว่าผู้เป็นสมาชิกสหกรณ์ สำหรับราคาท้องตลาดสำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์นำไปขายนั้น ราคาน้ำยางพาราสด ตกกก.ละ 74 บาท ยางพาราแผ่นตก กก.ละ 80 กว่าบาทเท่านั้น พวกเขาจึงมีผลกระทบและได้รับความเดือดร้อน.
http://www.thairath....tent/edu/284520
ยินดีด้วยนะคะ ที่ชาวบ้านในสตูล อ ควนกาหลง ไม่เดือดร้อนเรื่องราคายางพารา
แต่ดิฉันไม่เห็นว่าเรื่องนี้มันจะยกให้เป็นเครดิตผลงานกับรัฐบาลเลยนี่ค่ะ
ชาวบ้านเค้ารวมกลุ่มกันจัดตั้ง สหกรณ์ ทำกันมานานแล้ว บางทีนานกว่าที่รัฐบาลชุดนี้มาฟอร์มทีมกันอีกด้วยซ้ำ
คุณ jagger ก็ช่างขยันโพสต์เรื่องเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยมุมดีๆๆ แล้วโยงให้เป้นเครดิตของรัฐบาลเหรอค่ะ
อันนี้ไม่ make sense นะคะ
อืม ถ้างั้นทำไมรัฐบาลไม่เอา model ของชาวบ้านควนกาหลง ไปใช้ทั่วไปประเทศหล่ะค่ะ
จะมาแฮป เอาidea ของพวกเค้ามาเป็นความดีความชอบตอนรัฐบาลตัวเองเชลียร์ขึ้นมา
มีอำนาจ ดิฉันว่ามันตลกนะคะ
#10
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 09:41
แล้วยางมันมีที่สตูลที่เดียว????
เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<
#11
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 09:49
คนดีจริงไม่โกงที่วัด ไม่ยุแยงให้คนแตกแยก ไม่หลอกคนอื่นให้มารับเคราะห์ตายแทน
#12
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 09:49
อย่างไรก็ตาม สำหรับชาวสวนยางพารา จ.สตูล ที่สังกัดเป็นสมาชิกสหกรณ์ มีประมาณ 3000 กว่าครัวเรือน หรือประมาณเกือบๆ 1 แสนไร่เท่านั้น ในขณะที่ใน จ.สตูล มีผู้ประกอบการทำสวนยางพาราทั้งสิ้นประมาณ 4 แสนไร่ ซึ่งมีผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์ มากกว่าผู้เป็นสมาชิกสหกรณ์ สำหรับราคาท้องตลาดสำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์นำไปขายนั้น ราคาน้ำยางพาราสด ตกกก.ละ 74 บาท ยางพาราแผ่นตก กก.ละ 80 กว่าบาทเท่านั้น พวกเขาจึงมีผลกระทบและได้รับความเดือดร้อน.
http://www.thairath....tent/edu/284520
Edited by voodoo, 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 09:51.
#13
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 09:50
คืออย่างแรก
ชาวสวนยางพารา จ.สตูล ที่สังกัดเป็นสมาชิกสหกรณ์ มีประมาณ 3000 กว่าครัวเรือน หรือประมาณเกือบๆ 1 แสนไร่เท่านั้น ในขณะที่ใน จ.สตูล มีผู้ประกอบการทำสวนยางพาราทั้งสิ้นประมาณ 4 แสนไร่ ซึ่งมีผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์ มากกว่าผู้เป็นสมาชิกสหกรณ์
ท้ายข่าวบอกแรกยึดเป็นมาตรฐานไม่ได้
และ ลืมไปไหม สมัยอภิสิทธิ์มัน 140 บาท
ะนำไปขายให้กับรัฐบาล โดยผ่าน อ.ส.ย. หรือองค์การสวนยาง ในราคา กก.ละ 104 บาท
งง หายไป 40 บาทยิ้มร่าตรงไหน?
#14
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 09:51
ช่วงนี้ คนเป่านกหวีดเสียงดังกันเยอะ ปีนี้เลยกลายเป็น " ปี แสบ หู "
#15
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 09:58
ในขณะที่ใน จ.สตูล มีผู้ประกอบการทำสวนยางพาราทั้งสิ้นประมาณ 4 แสนไร่ ซึ่งมีผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์ มากกว่าผู้เป็นสมาชิกสหกรณ์ สำหรับราคาท้องตลาดสำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์นำไปขายนั้น ราคาน้ำยางพาราสด ตกกก.ละ 74 บาท ยางพาราแผ่นตก กก.ละ 80 กว่าบาทเท่านั้น พวกเขาจึงมีผลกระทบและได้รับความเดือดร้อน
เฮ้ย..ตั้งมู้ก็ระวังๆหน่อยดิ
เสียหายถึงท่าน ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ นะแบบนี้
ถามอีกทีนะ เกษตรกรชาวสวนยางสตูล เดือนร้อนหรือไม่เดือดร้อน ?
The most valuable things in life are not measured in monetary terms.
The really important things are not houses and lands, stocks and bonds, automobiles and real estate,
but friendships, trust, confidence, empathy, mercy, love and faith.
#16
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 10:00
#17
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 10:04
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืช มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมมีมติแทรกแซงราคามะพร้าวแห้งกะเทาะเปลือก 9 พันตันในราคากิโลกรัมละ 21 บาท โดยให้คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรระดับจังหวัดเป็นผู้กำหนดจุดรับซื้อ และให้เอกชนมารับซื้อมะพร้าวแห้งในจุดดังกล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้อนุมัติให้ช่วยเหลือค่าขนส่งจากจุดรับซื้อไปยังโรงงานตามความเหมาะสมด้วย โดยโครงการนี้มีระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันนี้จนถึงเดือนตุลาคมนี้ ใช้งบประมาณ 40 ล้านบาทจากคณะกรรมการนโยบายช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) โดยไม่ต้องนำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา
"ราคามะพร้าวที่รับซื้อในตลาดกลางขณะนี้อยู่ที่ 3-4 บาทต่อลูก ต้นทุนของเกษตรกรอยู่ที่ 6.19 บาทต่อลูก หากรัฐบาลเข้าไปแทรกแซงจะรับซื้อในราคา 21 บาทต่อกิโลกรัม เกษตรกรจะสามารถขายมะพร้าวในราคา 7 บาทต่อลูก โดยรัฐบาลแบกรับภาระ 2 บาทต่อลูก หรือ 6 บาทต่อกิโลกรัม เชื่อว่าจะพยุงราคาต่อไปได้เรื่อยๆ"
นายบุญทรงกล่าวว่า ที่ประชุมยังมีมติให้ความเห็นชอบกรอบระยะเวลาการนำเข้าถั่วเหลืองตามที่กระทรวงพาณิชย์ออกระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการออกหนังสือรับรองแสดงการได้รับสิทธิชำระภาษีตามพันธกรณีภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) สำหรับสินค้ากากถั่วเหลือง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2555 เป็นต้นไป โดยตามระเบียบจะต้องซื้อถั่วเหลืองในประเทศจำนวน 1 แสนตันให้หมดก่อนจากนั้นจึงนำเข้า ซึ่งทุกปีประเทศไทยต้องนำเข้าเมล็ดและกากถั่วเหลืองประมาณ 10 ล้านตัน
ข่าวเมื่อ 7 ส.ค.55
ว่ากันในเรื่องมะพร้าว เมื่อช่วงต้นปีราคามะพร้าวอยู่ที่ประมาณ 15 บาทต่อลูก (ราคาจากสวน)
จนกระทั้งถึงปลายเดือน มิ.ย.55 ราคามะพร้าวตกลงเหลือ 6 - 7 บาทต่อลูก ก่อนที่ รมต.พานิชย์จะแถลงข่าว ว่าราคาในท้องตลาดอยู่ที่ 3-4 บาทต่อลูก (แต่ราคาในตลาด 6-7 บาทต่อลูก) เมื่อ 7 ส.ค.55
สรุปคือ รมต.พานิชย์ พยุงราคามะพร้าวให้อยู่ที่ 7 บาทก่อนที่แถลงข่าว หรือ...ไม่ได้มีการพยุงราคาแต่อาศัยการโกหก....แบบ white lie
ส่วนเรื่องยาง
สตูลยืนยันราคายางพาราไม่กระทบต่อชาวสหกรณ์แต่อย่างใด ได้ราคาน้ำยางตกกิโลกรัมละ 80 กว่าบาทไร้ปัญหา ก่อนทำเป็นแผ่นยางรมควันขายผ่าน อ.ส.ย. กิโลกรัมละ 104 บาท... jagger คงไม่เคยเข้าไปเจอชาวสวนยาง
ยางเค้าขายกันมีขายกันแบบน้ำยางสด และยางแผ่นดิบ ยางก้อน (ขี้ยาง)
เอาหละ jagger มีปัญญาคิดไหม คิดว่าคงไม่มี
น้ำยางดิบกรีดจากต้นขายได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาและแรงงานมาก กรีด >> เทใส่ปี๊บ >> ใส่รถขาย
ยางก้อน(ขี้ยาง) ราคา แค่กรีดยางทิ้งไว้ ปล่อยให้แห้งเก็บขาย.....
ยางแผ่นนำเอาน้ำยางมารีดเป็นแผ่นต้องใช้แรงงาน และกระบวนการมากกว่าน้ำยางสด + ค่าแรง ค่าใช้จ่ายอื่น ราคาเพิ่มขึ้น
ยางแผ่นรมควัน ยางแผ่นเอาห้องรมควัน + ค่าแรง เชื่อเพลิงในการรมควัน ราคาเพิ่มขึ้น
เมื่อมีการแปรรูปจากน้ำยาง >>> ยางแผ่น ย่อมทำให้มูลค่ายางขึ้นเป็นปกติ ไม่ได้มีอะไรแปลกที่ราคามันจะขึ้นจาก 80 (น้ำยาง) เป็น 104 (ยางแผ่น) นอกจาก ควายเท่านั้น ที่ลงทุนแปรรูปให้มูลค่าสินค้าลดลง
Edited by kuuga, 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 10:27.
#18
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 11:29
สตูลยืนยันราคายางพาราไม่กระทบต่อชาวสหกรณ์แต่อย่างใด ได้ราคาน้ำยางตกกิโลกรัมละ 80 กว่าบาทไร้ปัญหา ก่อนทำเป็นแผ่นยางรมควันขายผ่าน อ.ส.ย. กิโลกรัมละ 104 บาท...
เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2555 นายชำนาญ เมฆตรง ประธานสหกรณ์กองทุนสวนยางอุไดเจริญ 1 อ.ควนกาหลง จ.สตูล และเป็นประธานชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยางสตูล กล่าวถึงสถานการณ์ราคายางพาราตกต่ำ จนเกษตรหลายพื้นที่ในภาคใต้ ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องรัฐบาลให้ช่วยเหลือ ว่า สำหรับ จ.สตูล ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากตัวแทนชาวสวนยางพาราในต่างจังหวัด เพื่อให้เข้าร่วมชุมนุมแต่อย่างใด และสำหรับชาวสวนยางพารา จ.สตูล ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ สวนยางพาราใน จ.สตูล ไม่ได้รับผลกระทบจากราคายางพาราที่ตกต่ำ เพราะขณะนี้ทางสหกรณ์สวนยางต่างๆ ใน จ.สตูล ซึ่งมีทั่วทุกพื้นที่ ได้ซื้อน้ำยางพาราสดจากสมาชิกในราคาที่สมาชิกพอใจ หรือตก กก.ละ 80 กว่าบาทขึ้นไป จากนั้นทางสหกรณ์ต่างๆ จะนำน้ำยางพาราสดที่รับซื้อจากสมาชิก มาทำเป็นยางแผ่นรมควัน และนำไปขายให้กับรัฐบาล โดยผ่าน อ.ส.ย. หรือองค์การสวนยาง ในราคา กก.ละ 104 บาท เมื่อได้กำไรจะมีการแบ่งปันผลกำไรในสิ้นปี ดังนั้น ชาวสวนยางพาราสตูลที่เป็นสมาชิกสหกรณ์สวนยางต่างๆ จึงไม่เดือดร้อน
อย่างไรก็ตาม สำหรับชาวสวนยางพารา จ.สตูล ที่สังกัดเป็นสมาชิกสหกรณ์ มีประมาณ 3000 กว่าครัวเรือน หรือประมาณเกือบๆ 1 แสนไร่เท่านั้น ในขณะที่ใน จ.สตูล มีผู้ประกอบการทำสวนยางพาราทั้งสิ้นประมาณ 4 แสนไร่ ซึ่งมีผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์ มากกว่าผู้เป็นสมาชิกสหกรณ์ สำหรับราคาท้องตลาดสำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์นำไปขายนั้น ราคาน้ำยางพาราสด ตกกก.ละ 74 บาท ยางพาราแผ่นตก กก.ละ 80 กว่าบาทเท่านั้น พวกเขาจึงมีผลกระทบและได้รับความเดือดร้อน.
http://www.thairath....tent/edu/284520
อืมเห็นด้วยครับ มีชาวสวนที่ยิ้มร่าซึ่งเป็นสมาชิกและไม่มีผลกระทบ1ใน4 ของชาวสวนยาง ส่วนอีก3ใน4ที่เดือดร้อน จะทำงัยกับคนที่เดือดร้อนดี
หรือว่าพอใจให้เป็นแบบนี้
#19
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 11:37
เจตนารมณ์ส่วนตัว
- ไม่ใช้ถ้อยคำที่คำหยาบคาย
- ไม่ต่อล้อต่อเถียงอย่างไม่มีเหตุผล
#20
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 14:20
#21
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 14:56
ต้นยางมีมากไปต้องเผา ต้องเผา ต้องเผา
มีคนใส่ร้าย ปล่อยข่าวดิสเครติสรัฐบาล ดิสเครดิสรัฐบาล ดิสเครดิสรัฐบาล
โอมจงเชื่อกรู เชื่อกรู เชื่อกรู เพี้ยง !
สิ่งที่ควรปฏิรูปที่สุดไม่ใช่การเมือง แต่เป็นนักการเมือง
" นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา "
#22
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 15:05
ชักอิจฉาชาวสตูลแล้วละสิ นี่ขนาดทุกเขตของอุดรมีแต่ ส.ส.เพื่อไทยนะ แต่ราคายางตกเอาๆ
#23
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 15:13
1-สตูลอยู่ในพื้นที่รับซื้อยางจากโครงการถลุงเงิน30000ล้านบาทเพื่อมาพยุงราคายาง แต่ทำได้แค่3000พันครัวเรือน ถ้าเฉลี่ยออกมาต้องใช้เงินครัวเรือนละ10ล้านบาทเชียวนะ
2-สตูลจะยอมสละตัดยางตามที่รมว.เต้นเสนอไหม เพราะได้รับผลกระทบราคายางน้อยสุด
เอ็งขอเป็น"ขี้ข้าโจร" ข้าเลือกเป็น"ข้าธุลีพระบาท" เอ็งขอเป็น"ไพร่" ข้าเลือกเป็น"พสกนิกร"
#24
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 15:17
ที่อุดร ไปขายมาเมื่อวาน 38 บาท
ชักอิจฉาชาวสตูลแล้วละสิ นี่ขนาดทุกเขตของอุดรมีแต่ ส.ส.เพื่อไทยนะ แต่ราคายางตกเอาๆ
ยางอะไรครับ ราคามันต่ำจัง
The most valuable things in life are not measured in monetary terms.
The really important things are not houses and lands, stocks and bonds, automobiles and real estate,
but friendships, trust, confidence, empathy, mercy, love and faith.
#25
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 15:23
มารูปเดียวกับข้าวหมูแดง แพง ก็เอาที่ๆราคาไม่แพงมาออก แล้วบอกว่า ทั้งประเทศไม่แพงคิดไปเอง นี้ก็คือ ยางถูกที่นั่น ที่นี่ไม่เดือดร้อน พวกที่ไปร้อง เพราะการเมือง 555
สตูลยืนยันราคายางพาราไม่กระทบต่อชาวสหกรณ์แต่อย่างใด ได้ราคาน้ำยางตกกิโลกรัมละ 80 กว่าบาทไร้ปัญหา ก่อนทำเป็นแผ่นยางรมควันขายผ่าน อ.ส.ย. กิโลกรัมละ 104 บาท...
เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2555 นายชำนาญ เมฆตรง ประธานสหกรณ์กองทุนสวนยางอุไดเจริญ 1 อ.ควนกาหลง จ.สตูล และเป็นประธานชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยางสตูล กล่าวถึงสถานการณ์ราคายางพาราตกต่ำ จนเกษตรหลายพื้นที่ในภาคใต้ ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องรัฐบาลให้ช่วยเหลือ ว่า สำหรับ จ.สตูล ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากตัวแทนชาวสวนยางพาราในต่างจังหวัด เพื่อให้เข้าร่วมชุมนุมแต่อย่างใด และสำหรับชาวสวนยางพารา จ.สตูล ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ สวนยางพาราใน จ.สตูล ไม่ได้รับผลกระทบจากราคายางพาราที่ตกต่ำ เพราะขณะนี้ทางสหกรณ์สวนยางต่างๆ ใน จ.สตูล ซึ่งมีทั่วทุกพื้นที่ ได้ซื้อน้ำยางพาราสดจากสมาชิกในราคาที่สมาชิกพอใจ หรือตก กก.ละ 80 กว่าบาทขึ้นไป จากนั้นทางสหกรณ์ต่างๆ จะนำน้ำยางพาราสดที่รับซื้อจากสมาชิก มาทำเป็นยางแผ่นรมควัน และนำไปขายให้กับรัฐบาล โดยผ่าน อ.ส.ย. หรือองค์การสวนยาง ในราคา กก.ละ 104 บาท เมื่อได้กำไรจะมีการแบ่งปันผลกำไรในสิ้นปี ดังนั้น ชาวสวนยางพาราสตูลที่เป็นสมาชิกสหกรณ์สวนยางต่างๆ จึงไม่เดือดร้อน
อย่างไรก็ตาม สำหรับชาวสวนยางพารา จ.สตูล ที่สังกัดเป็นสมาชิกสหกรณ์ มีประมาณ 3000 กว่าครัวเรือน หรือประมาณเกือบๆ 1 แสนไร่เท่านั้น ในขณะที่ใน จ.สตูล มีผู้ประกอบการทำสวนยางพาราทั้งสิ้นประมาณ 4 แสนไร่ ซึ่งมีผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์ มากกว่าผู้เป็นสมาชิกสหกรณ์ สำหรับราคาท้องตลาดสำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์นำไปขายนั้น ราคาน้ำยางพาราสด ตกกก.ละ 74 บาท ยางพาราแผ่นตก กก.ละ 80 กว่าบาทเท่านั้น พวกเขาจึงมีผลกระทบและได้รับความเดือดร้อน.
http://www.thairath....tent/edu/284520
อืมเห็นด้วยครับ มีชาวสวนที่ยิ้มร่าซึ่งเป็นสมาชิกและไม่มีผลกระทบ1ใน4 ของชาวสวนยาง ส่วนอีก3ใน4ที่เดือดร้อน จะทำงัยกับคนที่เดือดร้อนดี
หรือว่าพอใจให้เป็นแบบนี้
#26
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 16:18
จขกท.ลืมไปหรือเปล่าว่าภาคใต้มี 14 จังหวัด
สตูลยืนยันราคายางพาราไม่กระทบต่อชาวสหกรณ์แต่อย่างใด ได้ราคาน้ำยางตกกิโลกรัมละ 80 กว่าบาทไร้ปัญหา ก่อนทำเป็นแผ่นยางรมควันขายผ่าน อ.ส.ย. กิโลกรัมละ 104 บาท...
เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2555 นายชำนาญ เมฆตรง ประธานสหกรณ์กองทุนสวนยางอุไดเจริญ 1 อ.ควนกาหลง จ.สตูล และเป็นประธานชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยางสตูล กล่าวถึงสถานการณ์ราคายางพาราตกต่ำ จนเกษตรหลายพื้นที่ในภาคใต้ ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องรัฐบาลให้ช่วยเหลือ ว่า สำหรับ จ.สตูล ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากตัวแทนชาวสวนยางพาราในต่างจังหวัด เพื่อให้เข้าร่วมชุมนุมแต่อย่างใด และสำหรับชาวสวนยางพารา จ.สตูล ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ สวนยางพาราใน จ.สตูล ไม่ได้รับผลกระทบจากราคายางพาราที่ตกต่ำ เพราะขณะนี้ทางสหกรณ์สวนยางต่างๆ ใน จ.สตูล ซึ่งมีทั่วทุกพื้นที่ ได้ซื้อน้ำยางพาราสดจากสมาชิกในราคาที่สมาชิกพอใจ หรือตก กก.ละ 80 กว่าบาทขึ้นไป จากนั้นทางสหกรณ์ต่างๆ จะนำน้ำยางพาราสดที่รับซื้อจากสมาชิก มาทำเป็นยางแผ่นรมควัน และนำไปขายให้กับรัฐบาล โดยผ่าน อ.ส.ย. หรือองค์การสวนยาง ในราคา กก.ละ 104 บาท เมื่อได้กำไรจะมีการแบ่งปันผลกำไรในสิ้นปี ดังนั้น ชาวสวนยางพาราสตูลที่เป็นสมาชิกสหกรณ์สวนยางต่างๆ จึงไม่เดือดร้อน
อย่างไรก็ตาม สำหรับชาวสวนยางพารา จ.สตูล ที่สังกัดเป็นสมาชิกสหกรณ์ มีประมาณ 3000 กว่าครัวเรือน หรือประมาณเกือบๆ 1 แสนไร่เท่านั้น ในขณะที่ใน จ.สตูล มีผู้ประกอบการทำสวนยางพาราทั้งสิ้นประมาณ 4 แสนไร่ ซึ่งมีผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์ มากกว่าผู้เป็นสมาชิกสหกรณ์ สำหรับราคาท้องตลาดสำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์นำไปขายนั้น ราคาน้ำยางพาราสด ตกกก.ละ 74 บาท ยางพาราแผ่นตก กก.ละ 80 กว่าบาทเท่านั้น พวกเขาจึงมีผลกระทบและได้รับความเดือดร้อน.
http://www.thairath....tent/edu/284520
Edited by P2iUSz, 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 16:19.
#27
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 16:23
ขี้ยาง เพราะไม่มีเครื่องมือทำยางแผ่น หรือน้ำยางดิบ กรีดเสร็จ เช้าหยอดกรดแล้วขายเป็นก้อน เขาเรียกขี้ยางครับ
ที่อุดร ไปขายมาเมื่อวาน 38 บาท
ชักอิจฉาชาวสตูลแล้วละสิ นี่ขนาดทุกเขตของอุดรมีแต่ ส.ส.เพื่อไทยนะ แต่ราคายางตกเอาๆ
ยางอะไรครับ ราคามันต่ำจัง
แต่ก่อนได้ 80-90 บาท เมื่อวาน 38 บาทเฉยเลย
#28
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 16:33
ขี้ยาง เพราะไม่มีเครื่องมือทำยางแผ่น หรือน้ำยางดิบ กรีดเสร็จ เช้าหยอดกรดแล้วขายเป็นก้อน เขาเรียกขี้ยางครับ
ที่อุดร ไปขายมาเมื่อวาน 38 บาท
ชักอิจฉาชาวสตูลแล้วละสิ นี่ขนาดทุกเขตของอุดรมีแต่ ส.ส.เพื่อไทยนะ แต่ราคายางตกเอาๆ
ยางอะไรครับ ราคามันต่ำจัง
แต่ก่อนได้ 80-90 บาท เมื่อวาน 38 บาทเฉยเลย
น่าจะอยู่ราวๆ 60 - 66 บาทนะ
38 นี่ พ่อค้ารับซื้อถูกมากเลย
http://www.thainr.co...detail=pr-local
Edited by MIRO, 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 16:35.
The most valuable things in life are not measured in monetary terms.
The really important things are not houses and lands, stocks and bonds, automobiles and real estate,
but friendships, trust, confidence, empathy, mercy, love and faith.
#29
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 16:49
---------------------------------------
#30
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 19:10
#31
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 19:14
ควนกาหลงมีสมาชิก 3,000 คน แก้ปัญหาได้ตัวเอง รัฐเอาหน้าว่าเป็นผลงาน
แถมเอาผลงานส่วนน้อย (3,000 จากทั่วประเทศ) มาแอบอ้างว่าแก้ปัญหาได้
นอกจากหน้าด้านแล้ว ยังตอแหล ถ้านับกัน เขาเป็นเสียงส่วนน้อยนะเฟ้ย
ช่วยไปแก้ได้ให้ได้เกิน 50% ของชาวสวนยางแล้วค่อยมาโม้ หุๆ หน้าไ่ม่อาย
หรือไม่ก็ "โกหก" ไปเลยว่า "แก้ปัญหาได้แล้ว" แบบตัวเลขเศรษฐกิจไง
ผลงานยิ่งใหญ่ "โกหก" ว่าทำได้ แต่จริงๆ ทำไม่ได้ หน้าด้านไม่มีใครเกินแล้ว
Edited by Ixora, 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 19:16.
- ช่อมัลลิกา likes this
#32
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 19:33
#33
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 20:03
สสสสสสสสสส บายยยยยยยยยยยยย ไปปปปปปปปปปปปปป นอนหลับละทีนี้
สตูลยืนยันราคายางพาราไม่กระทบต่อชาวสหกรณ์แต่อย่างใด ได้ราคาน้ำยางตกกิโลกรัมละ 80 กว่าบาทไร้ปัญหา ก่อนทำเป็นแผ่นยางรมควันขายผ่าน อ.ส.ย. กิโลกรัมละ 104 บาท...
เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2555 นายชำนาญ เมฆตรง ประธานสหกรณ์กองทุนสวนยางอุไดเจริญ 1 อ.ควนกาหลง จ.สตูล และเป็นประธานชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยางสตูล กล่าวถึงสถานการณ์ราคายางพาราตกต่ำ จนเกษตรหลายพื้นที่ในภาคใต้ ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องรัฐบาลให้ช่วยเหลือ ว่า สำหรับ จ.สตูล ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากตัวแทนชาวสวนยางพาราในต่างจังหวัด เพื่อให้เข้าร่วมชุมนุมแต่อย่างใด และสำหรับชาวสวนยางพารา จ.สตูล ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ สวนยางพาราใน จ.สตูล ไม่ได้รับผลกระทบจากราคายางพาราที่ตกต่ำ เพราะขณะนี้ทางสหกรณ์สวนยางต่างๆ ใน จ.สตูล ซึ่งมีทั่วทุกพื้นที่ ได้ซื้อน้ำยางพาราสดจากสมาชิกในราคาที่สมาชิกพอใจ หรือตก กก.ละ 80 กว่าบาทขึ้นไป จากนั้นทางสหกรณ์ต่างๆ จะนำน้ำยางพาราสดที่รับซื้อจากสมาชิก มาทำเป็นยางแผ่นรมควัน และนำไปขายให้กับรัฐบาล โดยผ่าน อ.ส.ย. หรือองค์การสวนยาง ในราคา กก.ละ 104 บาท เมื่อได้กำไรจะมีการแบ่งปันผลกำไรในสิ้นปี ดังนั้น ชาวสวนยางพาราสตูลที่เป็นสมาชิกสหกรณ์สวนยางต่างๆ จึงไม่เดือดร้อน
อย่างไรก็ตาม สำหรับชาวสวนยางพารา จ.สตูล ที่สังกัดเป็นสมาชิกสหกรณ์ มีประมาณ 3000 กว่าครัวเรือน หรือประมาณเกือบๆ 1 แสนไร่เท่านั้น ในขณะที่ใน จ.สตูล มีผู้ประกอบการทำสวนยางพาราทั้งสิ้นประมาณ 4 แสนไร่ ซึ่งมีผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์ มากกว่าผู้เป็นสมาชิกสหกรณ์ สำหรับราคาท้องตลาดสำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์นำไปขายนั้น ราคาน้ำยางพาราสด ตกกก.ละ 74 บาท ยางพาราแผ่นตก กก.ละ 80 กว่าบาทเท่านั้น พวกเขาจึงมีผลกระทบและได้รับความเดือดร้อน.
http://www.thairath....tent/edu/284520
ยินดีด้วยนะคะ ที่ชาวบ้านในสตูล อ ควนกาหลง ไม่เดือดร้อนเรื่องราคายางพารา
แต่ดิฉันไม่เห็นว่าเรื่องนี้มันจะยกให้เป็นเครดิตผลงานกับรัฐบาลเลยนี่ค่ะ
ชาวบ้านเค้ารวมกลุ่มกันจัดตั้ง สหกรณ์ ทำกันมานานแล้ว บางทีนานกว่าที่รัฐบาลชุดนี้มาฟอร์มทีมกันอีกด้วยซ้ำ
คุณ jagger ก็ช่างขยันโพสต์เรื่องเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยมุมดีๆๆ แล้วโยงให้เป้นเครดิตของรัฐบาลเหรอค่ะ
อันนี้ไม่ make sense นะคะ
อืม ถ้างั้นทำไมรัฐบาลไม่เอา model ของชาวบ้านควนกาหลง ไปใช้ทั่วไปประเทศหล่ะค่ะ
จะมาแฮป เอาidea ของพวกเค้ามาเป็นความดีความชอบตอนรัฐบาลตัวเองเชลียร์ขึ้นมา
มีอำนาจ ดิฉันว่ามันตลกนะคะ
ประโยชน์สูงสุดของประชาชน คือกฏหมายสูงสุดของประเทศ ...วิชา มหาคุณ
#34
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 20:05
สตูลยืนยันราคายางพาราไม่กระทบต่อชาวสหกรณ์แต่อย่างใด ได้ราคาน้ำยางตกกิโลกรัมละ 80 กว่าบาทไร้ปัญหา ก่อนทำเป็นแผ่นยางรมควันขายผ่าน อ.ส.ย. กิโลกรัมละ 104 บาท...
เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2555 นายชำนาญ เมฆตรง ประธานสหกรณ์กองทุนสวนยางอุไดเจริญ 1 อ.ควนกาหลง จ.สตูล และเป็นประธานชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยางสตูล กล่าวถึงสถานการณ์ราคายางพาราตกต่ำ จนเกษตรหลายพื้นที่ในภาคใต้ ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องรัฐบาลให้ช่วยเหลือ ว่า สำหรับ จ.สตูล ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากตัวแทนชาวสวนยางพาราในต่างจังหวัด เพื่อให้เข้าร่วมชุมนุมแต่อย่างใด และสำหรับชาวสวนยางพารา จ.สตูล ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ สวนยางพาราใน จ.สตูล ไม่ได้รับผลกระทบจากราคายางพาราที่ตกต่ำ เพราะขณะนี้ทางสหกรณ์สวนยางต่างๆ ใน จ.สตูล ซึ่งมีทั่วทุกพื้นที่ ได้ซื้อน้ำยางพาราสดจากสมาชิกในราคาที่สมาชิกพอใจ หรือตก กก.ละ 80 กว่าบาทขึ้นไป จากนั้นทางสหกรณ์ต่างๆ จะนำน้ำยางพาราสดที่รับซื้อจากสมาชิก มาทำเป็นยางแผ่นรมควัน และนำไปขายให้กับรัฐบาล โดยผ่าน อ.ส.ย. หรือองค์การสวนยาง ในราคา กก.ละ 104 บาท เมื่อได้กำไรจะมีการแบ่งปันผลกำไรในสิ้นปี ดังนั้น ชาวสวนยางพาราสตูลที่เป็นสมาชิกสหกรณ์สวนยางต่างๆ จึงไม่เดือดร้อน
อย่างไรก็ตาม สำหรับชาวสวนยางพารา จ.สตูล ที่สังกัดเป็นสมาชิกสหกรณ์ มีประมาณ 3000 กว่าครัวเรือน หรือประมาณเกือบๆ 1 แสนไร่เท่านั้น ในขณะที่ใน จ.สตูล มีผู้ประกอบการทำสวนยางพาราทั้งสิ้นประมาณ 4 แสนไร่ ซึ่งมีผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์ มากกว่าผู้เป็นสมาชิกสหกรณ์ สำหรับราคาท้องตลาดสำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์นำไปขายนั้น ราคาน้ำยางพาราสด ตกกก.ละ 74 บาท ยางพาราแผ่นตก กก.ละ 80 กว่าบาทเท่านั้น พวกเขาจึงมีผลกระทบและได้รับความเดือดร้อน.
http://www.thairath....tent/edu/284520
ไม่รู้นะ ทำไมได้ราคานี้ แต่ที่อื่นที่ประท้วงน่ะเขาไม่ได้ราคานี้ ..ไมใช่หรือครับ
ประโยชน์สูงสุดของประชาชน คือกฏหมายสูงสุดของประเทศ ...วิชา มหาคุณ
#35
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 20:13
ยินดีด้วยนะคะ ที่ชาวบ้านในสตูล อ ควนกาหลง ไม่เดือดร้อนเรื่องราคายางพารา
แต่ดิฉันไม่เห็นว่าเรื่องนี้มันจะยกให้เป็นเครดิตผลงานกับรัฐบาลเลยนี่ค่ะ
ชาวบ้านเค้ารวมกลุ่มกันจัดตั้ง สหกรณ์ ทำกันมานานแล้ว บางทีนานกว่าที่รัฐบาลชุดนี้มาฟอร์มทีมกันอีกด้วยซ้ำ
คุณ jagger ก็ช่างขยันโพสต์เรื่องเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยมุมดีๆๆ แล้วโยงให้เป้นเครดิตของรัฐบาลเหรอค่ะ
อันนี้ไม่ make sense นะคะ
อืม ถ้างั้นทำไมรัฐบาลไม่เอา model ของชาวบ้านควนกาหลง ไปใช้ทั่วไปประเทศหล่ะค่ะ
จะมาแฮป เอาidea ของพวกเค้ามาเป็นความดีความชอบตอนรัฐบาลตัวเองเชลียร์ขึ้นมา
มีอำนาจ ดิฉันว่ามันตลกนะคะ
คลายกับชาวบ้านบางระจันอะครับ หวังจะให้รัฐบาลมาช่วยชาวบ้านตายก่อน อยากจะรอดต้องรวมกลุ่มช่วยหลือกันเอง
- ช่อมัลลิกา likes this
#36
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 20:37
#37
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 21:11
จขกท.ฮีๆๆๆๆ ทำสวนยางหรือไม่ ...น่าเชื่อนะไทยรัฐ
สตูลยืนยันราคายางพาราไม่กระทบต่อชาวสหกรณ์แต่อย่างใด ได้ราคาน้ำยางตกกิโลกรัมละ 80 กว่าบาทไร้ปัญหา ก่อนทำเป็นแผ่นยางรมควันขายผ่าน อ.ส.ย. กิโลกรัมละ 104 บาท...
เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2555 นายชำนาญ เมฆตรง ประธานสหกรณ์กองทุนสวนยางอุไดเจริญ 1 อ.ควนกาหลง จ.สตูล และเป็นประธานชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยางสตูล กล่าวถึงสถานการณ์ราคายางพาราตกต่ำ จนเกษตรหลายพื้นที่ในภาคใต้ ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องรัฐบาลให้ช่วยเหลือ ว่า สำหรับ จ.สตูล ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากตัวแทนชาวสวนยางพาราในต่างจังหวัด เพื่อให้เข้าร่วมชุมนุมแต่อย่างใด และสำหรับชาวสวนยางพารา จ.สตูล ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ สวนยางพาราใน จ.สตูล ไม่ได้รับผลกระทบจากราคายางพาราที่ตกต่ำ เพราะขณะนี้ทางสหกรณ์สวนยางต่างๆ ใน จ.สตูล ซึ่งมีทั่วทุกพื้นที่ ได้ซื้อน้ำยางพาราสดจากสมาชิกในราคาที่สมาชิกพอใจ หรือตก กก.ละ 80 กว่าบาทขึ้นไป จากนั้นทางสหกรณ์ต่างๆ จะนำน้ำยางพาราสดที่รับซื้อจากสมาชิก มาทำเป็นยางแผ่นรมควัน และนำไปขายให้กับรัฐบาล โดยผ่าน อ.ส.ย. หรือองค์การสวนยาง ในราคา กก.ละ 104 บาท เมื่อได้กำไรจะมีการแบ่งปันผลกำไรในสิ้นปี ดังนั้น ชาวสวนยางพาราสตูลที่เป็นสมาชิกสหกรณ์สวนยางต่างๆ จึงไม่เดือดร้อน
อย่างไรก็ตาม สำหรับชาวสวนยางพารา จ.สตูล ที่สังกัดเป็นสมาชิกสหกรณ์ มีประมาณ 3000 กว่าครัวเรือน หรือประมาณเกือบๆ 1 แสนไร่เท่านั้น ในขณะที่ใน จ.สตูล มีผู้ประกอบการทำสวนยางพาราทั้งสิ้นประมาณ 4 แสนไร่ ซึ่งมีผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์ มากกว่าผู้เป็นสมาชิกสหกรณ์ สำหรับราคาท้องตลาดสำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์นำไปขายนั้น ราคาน้ำยางพาราสด ตกกก.ละ 74 บาท ยางพาราแผ่นตก กก.ละ 80 กว่าบาทเท่านั้น พวกเขาจึงมีผลกระทบและได้รับความเดือดร้อน.
http://www.thairath....tent/edu/284520
#38
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:24
ราคาขี้ยางจะอยู่ประมาณครึ่งหนึ่งของราคายางแผ่นซึ่งตอนนี้ราคายางแผ่นอยู่ที่ 70 กว่าบาทต่อกิโลราคาขี้ยางก็ประมาณนั้นล่ะคับ
ขี้ยาง เพราะไม่มีเครื่องมือทำยางแผ่น หรือน้ำยางดิบ กรีดเสร็จ เช้าหยอดกรดแล้วขายเป็นก้อน เขาเรียกขี้ยางครับ
ที่อุดร ไปขายมาเมื่อวาน 38 บาท
ชักอิจฉาชาวสตูลแล้วละสิ นี่ขนาดทุกเขตของอุดรมีแต่ ส.ส.เพื่อไทยนะ แต่ราคายางตกเอาๆ
ยางอะไรครับ ราคามันต่ำจัง
แต่ก่อนได้ 80-90 บาท เมื่อวาน 38 บาทเฉยเลย
น่าจะอยู่ราวๆ 60 - 66 บาทนะ
38 นี่ พ่อค้ารับซื้อถูกมากเลย
http://www.thainr.co...detail=pr-local
ขายขี้ยางบางครั้งอาจเสียเปรียบพ่อค้าอาจโดนหักเปอร์เซ็นต์น้ำหนักได้
ว่าแต่กองทุนสวนยางจะรับซื้อยางไปทำไมตั้งกิโลละ 104 บาทจะเอาไปขายกับใครเนี่ยราคาส่งออกปัจจุบันยังอยู่แค่ 86 บาทต่อกิโลเอง
- MIRO likes this
#39
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:32
แต่ควายฉลาดกว่าโคเยอะเลยนะครับควายยอมเป็นควายวันยังค่ำ
#40
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:40
แต่ควายฉลาดกว่าโคเยอะเลยนะครับ
ควายยอมเป็นควายวันยังค่ำ
ไม่เคยได้ยินนะ ว่าโง่เหมือนโค เคยได้ยินแต่โง่เหมือนควาย สงสัยไม่ได้เป็นคนไทยหรือเปล่า เลยไม่ได้เคยได้ยินคำนี้ โง่เหมือนควาย (แดง)
Edited by โคนัน, 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:56.
#41
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 23:20
ถ้าโคนั้นฉลาด เขาก็ฝึกให้ไถนาแล้ว มันมีต่อมเหงื่อเยอะสามารถอยู่แดดได้ ไม่เหมือนควาย แต่ทำไมคนโบราณในแถบนี้ถึงไม่เอามันมาฝึกไถนานะ??? นั่นก็เพราะควายมันฉลาดก็โคหลายขุมเลยนะสิครับ เขาถึงเอาควายมาฝึกไถนายังไงล่ะ ฝึกควายง่ายกว่าฝึกโคไม่เคยได้ยินนะ ว่าโง่เหมือนโค เคยได้ยินแต่โง่เหมือนควาย สงสัยไม่ได้เป็นคนไทยหรือเปล่า เลยไม่ได้เคยได้ยินคำนี้ โง่เหมือนควาย (แดง)
#42
ตอบ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 23:41
ถ้าโคนั้นฉลาด เขาก็ฝึกให้ไถนาแล้ว มันมีต่อมเหงื่อเยอะสามารถอยู่แดดได้ ไม่เหมือนควาย แต่ทำไมคนโบราณในแถบนี้ถึงไม่เอามันมาฝึกไถนานะ??? นั่นก็เพราะควายมันฉลาดก็โคหลายขุมเลยนะสิครับ เขาถึงเอาควายมาฝึกไถนายังไงล่ะ ฝึกควายง่ายกว่าฝึกโค
ไม่เคยได้ยินนะ ว่าโง่เหมือนโค เคยได้ยินแต่โง่เหมือนควาย สงสัยไม่ได้เป็นคนไทยหรือเปล่า เลยไม่ได้เคยได้ยินคำนี้ โง่เหมือนควาย (แดง)
ที่บ้านผมสมัยก่อนที่ยังไม่มีรถไถก็ใช้โคนะครับ เลี้ยงง่ายดี ไม่ต้องมีปลักให้มันแช่ด้วย เลี้ยงควายยากกว่าเลี้ยงโคนะครับ แค่หาหญ้า+น้ำให้มันกินก็พอ ไม่ต้องมีปลักให้แช่ สาเหตุที่เขาไม่ค่อยใช้โคไถนา เพราะแรงมันน้อยครับ ไม่แข็งแรงเท่าควาย เวลาจะไถนาต้องเทียมทีละสองตัว แล้วต้องฝึกให้มันสามัคคีกันด้วย จึงจะไถนาได้ ซึ่งควายมันฝึกให้มันสามัคคีแบบโคไม่ได้นะครับ
Edited by ทัชชี่, 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 23:43.
ประชาธิปไตยแบบแดง: 1. ไม่ใช่แดง เป็นประชาธิปไตยไม่ได้ 2. เสียงส่วนใหญ่ คือเสียงถูกต้อง 3. กฎพวกพ้องต้องเหนือกฎหมาย 4. เบื้องสูงมีไว้เหยียบย่ำ 5. ใครทำก็ผิด แต่แดงต้องไม่ผิด 6. คิดร้ายต่อทักษิณย่อมชั่ว 7. มั่วบิดเบือนหลอกพวกเดียวกัน 8. ปั้นน้ำเป็นตัวแล้วแถ
#43
ตอบ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 00:00
ถ้าโคนั้นฉลาด เขาก็ฝึกให้ไถนาแล้ว มันมีต่อมเหงื่อเยอะสามารถอยู่แดดได้ ไม่เหมือนควาย แต่ทำไมคนโบราณในแถบนี้ถึงไม่เอามันมาฝึกไถนานะ??? นั่นก็เพราะควายมันฉลาดก็โคหลายขุมเลยนะสิครับ เขาถึงเอาควายมาฝึกไถนายังไงล่ะ ฝึกควายง่ายกว่าฝึกโค
ไม่เคยได้ยินนะ ว่าโง่เหมือนโค เคยได้ยินแต่โง่เหมือนควาย สงสัยไม่ได้เป็นคนไทยหรือเปล่า เลยไม่ได้เคยได้ยินคำนี้ โง่เหมือนควาย (แดง)
พึ่งรู้นะเนี้ย วัดว่าไถนาได้ไม่ได้อยู่ที่ความฉลาด แบบนี้หมาฉลาดสักตัวสองตัว คงไปใช้ไถนาได้ บอกแล้วควายก็ยังเป็นควายแดงวันยังค่ำ
#44
ตอบ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 00:09
อย่างไรก็ตาม สำหรับชาวสวนยางพารา จ.สตูล ที่สังกัดเป็นสมาชิกสหกรณ์ มีประมาณ 3000 กว่าครัวเรือน หรือประมาณเกือบๆ 1 แสนไร่เท่านั้น ในขณะที่ใน จ.สตูล มีผู้ประกอบการทำสวนยางพาราทั้งสิ้นประมาณ 4 แสนไร่ ซึ่งมีผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์ มากกว่าผู้เป็นสมาชิกสหกรณ์
แน่ใจนะว่าจะ "ยิ้มร่า"
#45
ตอบ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 00:11
ขอโทษครับถ้าโคนั้นฉลาด เขาก็ฝึกให้ไถนาแล้ว มันมีต่อมเหงื่อเยอะสามารถอยู่แดดได้ ไม่เหมือนควาย แต่ทำไมคนโบราณในแถบนี้ถึงไม่เอามันมาฝึกไถนานะ??? นั่นก็เพราะควายมันฉลาดก็โคหลายขุมเลยนะสิครับ เขาถึงเอาควายมาฝึกไถนายังไงล่ะ ฝึกควายง่ายกว่าฝึกโค
ไม่เคยได้ยินนะ ว่าโง่เหมือนโค เคยได้ยินแต่โง่เหมือนควาย สงสัยไม่ได้เป็นคนไทยหรือเปล่า เลยไม่ได้เคยได้ยินคำนี้ โง่เหมือนควาย (แดง)
เป็นแนวคิดที่ตื้นไปครับ ควายฉลาดกว่าวัว มีหนังสือเล่มใหนบอกคุณเหรอครับ ในชีวิตผมเคยเห็นทั้งวัวและควาย
ไถนาทั้งสองสายพันธ์ ทำได้ดีทั้งสองสายพันธ์ แตกต่างกันบ้างก็ตรงที่คุณบอก ควายชอบแช่ปลัก ชาวบ้านเขาเรียกควายปลัก
แต่ยังมีควายแม่น้ำด้วยนะครับ วัวทนแดด ควายชอบน้ำ แต่ไม่เคยมีกูรูหรือหนังสือเล่มใหนบอกไว้ว่าควายฉลาดกว่าวัว
รู้จริงหรือเปล่าครับ
#46
ตอบ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 01:00
ข่าวไม่ดีเยอะแยะ ทำเป็นไม่เห็น ???
Edited by gears, 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 01:00.
#47
ตอบ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 08:47
ใครเอาไปทำพันธ์ ลูกออกมา ไม่ขาดหุ้น ก็ ไม่เข้าหวัน
#48
ตอบ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 13:50
เท่าที่สังเกตควายมันข้ามถนนเป็น และถ้ากลอนคอกเป็นกลอนเสียบเสร็จควายครับ พี่เล่นปลดแล้วออกมาเดินเล่นสบายใจซะอย่างนั้นขอโทษครับ
เป็นแนวคิดที่ตื้นไปครับ ควายฉลาดกว่าวัว มีหนังสือเล่มใหนบอกคุณเหรอครับ ในชีวิตผมเคยเห็นทั้งวัวและควาย
ไถนาทั้งสองสายพันธ์ ทำได้ดีทั้งสองสายพันธ์ แตกต่างกันบ้างก็ตรงที่คุณบอก ควายชอบแช่ปลัก ชาวบ้านเขาเรียกควายปลัก
แต่ยังมีควายแม่น้ำด้วยนะครับ วัวทนแดด ควายชอบน้ำ แต่ไม่เคยมีกูรูหรือหนังสือเล่มใหนบอกไว้ว่าควายฉลาดกว่าวัว
รู้จริงหรือเปล่าครับ
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีโคที่ฉลาดนะ แต่เป็นส่วนน้อย
ขอสร้างคำขวัญใหม่เลยนะครับ
ʻʻทนทายาดดุจแมลงสาบ ฉลาดเป็นกรดดั่งโคʼʼ
#49
ตอบ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 14:57
เท่าที่สังเกตควายมันข้ามถนนเป็น และถ้ากลอนคอกเป็นกลอนเสียบเสร็จควายครับ พี่เล่นปลดแล้วออกมาเดินเล่นสบายใจซะอย่างนั้น
ขอโทษครับ
เป็นแนวคิดที่ตื้นไปครับ ควายฉลาดกว่าวัว มีหนังสือเล่มใหนบอกคุณเหรอครับ ในชีวิตผมเคยเห็นทั้งวัวและควาย
ไถนาทั้งสองสายพันธ์ ทำได้ดีทั้งสองสายพันธ์ แตกต่างกันบ้างก็ตรงที่คุณบอก ควายชอบแช่ปลัก ชาวบ้านเขาเรียกควายปลัก
แต่ยังมีควายแม่น้ำด้วยนะครับ วัวทนแดด ควายชอบน้ำ แต่ไม่เคยมีกูรูหรือหนังสือเล่มใหนบอกไว้ว่าควายฉลาดกว่าวัว
รู้จริงหรือเปล่าครับ
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีโคที่ฉลาดนะ แต่เป็นส่วนน้อย
ขอสร้างคำขวัญใหม่เลยนะครับ
ʻʻทนทายาดดุจแมลงสาบ ฉลาดเป็นกรดดั่งโคʼʼ
ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าควาย หรือโคที่เป็นสัตว์สี่เท้า ก็ฉลาดและมีคุณประโยชน์กว่าพวกเสื้อแดงที่ถูกเปรียบว่าเป็นดั่
ควาย ชาบูๆ
#50
ตอบ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 15:01
เท่าที่สังเกตควายมันข้ามถนนเป็น และถ้ากลอนคอกเป็นกลอนเสียบเสร็จควายครับ พี่เล่นปลดแล้วออกมาเดินเล่นสบายใจซะอย่างนั้น
ขอโทษครับ
เป็นแนวคิดที่ตื้นไปครับ ควายฉลาดกว่าวัว มีหนังสือเล่มใหนบอกคุณเหรอครับ ในชีวิตผมเคยเห็นทั้งวัวและควาย
ไถนาทั้งสองสายพันธ์ ทำได้ดีทั้งสองสายพันธ์ แตกต่างกันบ้างก็ตรงที่คุณบอก ควายชอบแช่ปลัก ชาวบ้านเขาเรียกควายปลัก
แต่ยังมีควายแม่น้ำด้วยนะครับ วัวทนแดด ควายชอบน้ำ แต่ไม่เคยมีกูรูหรือหนังสือเล่มใหนบอกไว้ว่าควายฉลาดกว่าวัว
รู้จริงหรือเปล่าครับ
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีโคที่ฉลาดนะ แต่เป็นส่วนน้อย
ขอสร้างคำขวัญใหม่เลยนะครับ
ʻʻทนทายาดดุจแมลงสาบ ฉลาดเป็นกรดดั่งโคʼʼ
อยากเห็นที่บอกว่า ควาย ปลดกลอนออกมาเดินเล่นหน่อยครับ
เอามาสอนพวกนี้บ้างเพราะเปิดประตูไม่เป็น
“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.” - Mahatma Gandhi
สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด
ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน