เรื่องเล่าฟางเส้นสุดท้าย คุมกำเนิดแดงแค่1เก้าอี้ 'ตู่'รอวัดใจถ้าแห้วรมต. ขู่ตั้งพรรคการเมืองสู้เอง 
"ไทกร" ปูด "ฟางเส้นสุดท้าย" เรื่องราวในวงเหล้าของ "โจกแดง" สุดมันส์ แฉ "ตู่-จตุพร" ปูดถูก "ผู้ใหญ่ขอร้อง" ไม่ให้เคลื่อนไหว อ้างไม่อยากซ้ำเติมสถานการณ์ พร้อมปูด "แดงถูกคุมกำเนิด" ให้เก้าอี้รมต.แค่ที่เดียว ประกาศลั่น "ต้องวัดใจ" หากปรับครม.ไม่มีชื่อ ก็ทางใครทางมัน ขอไปตั้ง "พรรคการเมือง" ขึ้นมาสู้
วันที่ 30 ส.ค. 2555 เวลาประมาณบ่าย 2 โมง นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำกลุ่มอีสานกู้ชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค "ไทกร พลสุวรรณ" ในหัวเรื่อง "ฟางเส้นสุดท้าย!" โดยบอกเล่าเรื่องราวในวงเหล้าและท่าทีของคนเสื้อแดง หลังศาลอาญามีคำสั่งถอนประกันตัว "เจ๋ง ดอกจิก" เพียงคนเดียวว่า
เรื่องเล่าจากโต๊ะข้าว ณ บ้านหลังหนึ่งในซอยวัชรพล 10
ไม่กี่วันหลังจากศาลถอนประกัน "เจ๋งดอกจิก" คนเดียว แกนนำนปช.คนอื่นรอดหมด แกนนำนปช.ทั้งหลายก็ไปสุมหัวกันที่บ้านหลังนี้เพื่อร่ำสุรา,ไวน์, และกับแกล้มนาๆชนิด
จตุพรหน้าแดงหลังซัดไวน์ไปหลายแก้ว สูบไปป์พ่นควันโขมงเหมือนป๊อบอาย มีคนในวงข้าววงเหล้าถามเขาเรื่องเจ๋งดอกจิกจะเคลื่อนไหวอย่างไร? จตุพร ตอบเพียงว่า "ผู้ใหญ่ขอร้องให้หยุดเคลื่อนไหวก่อน ผู้ใหญ่ไม่อยากให้ซ้ำเติมสถานการณ์"
มีคนในวงเหล้าแสดงความไม่พอใจ จากนั้นก็พูดคุยกันเรื่องปรับครม. แล้วการคุยเรื่องนี้ก็เริ่มออกรสออกชาด
พรรคไม่รักษาสัญญาบ้างล่ะ!
นายกฯยิ่งลักษณ์ตั้งใจถ่วงเวลาบ้างล่ะ!
นายกฯสมชายขัดขวางบ้างล่ะ!
หลังนั่งฟังอยู่นานจตุพรจึงพูดขึ้น "เขาต้องการคุมกำเนิดเรา มากที่สุดให้เสื้อแดงตำแหน่งเดียว"
"ถ้าน้องตู่จะเป็นต้องเอาน้องเต้นออก" หัวการ์ดเสื้อแดงเสริมข้อมูล
"มันต้องวัดใจกัน" จตุพรสวนขึ้น "พวกเราสู้ให้ทุกอย่าง ถ้าไม่รักษาสัญญาก็อยู่ด้วยกันไม่ได้"
จะทำยังไง? แกนนำคนหนึ่งถาม
"ถ้าแนวทางการเมืองไปด้วยกันไม่ได้เสื้อแดงก็ต้องไปตั้งพรรคของตัวเอง" จตุพรย้ำ
แล้วน้องตู่คิดว่าเมื่อไหร่?
"ปรับครม.ครั้งนี้คือเครื่องพิสูจน์ ถ้าผิดสัญญาก็ถือว่าจบ!"
พวกเราต้องมาคอยดูกันว่านางยิ่งลักษณ์และนายสมชายจะกลัวคำขู่ของจตุพรกับพรรคพวกหรือไม่ อีกไม่นานคงรู้ครับ
"แรมโบ้อีสาน" หนุน "ตู่" นั่งรมต. อ้างไม่ได้เป็นรองใคร
ด้านนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ "แรมโบ้อีสาน" แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวถึงกรณีที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มนปช. ให้สัมภาษณ์ในทำนองว่า พร้อมจะรับตำแหน่งรัฐมนตรี หากมีการปรับ ครม. และบาดแผลจากการต่อสู้ไม่ใช่ข้อตำหนิในเรื่องคุณสมบัติของการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ว่า ส่วนตัวมองว่า แกนนำคนเสื้อแดงทุกคนมีความรู้ ความสามารถ ผ่านประสบการณ์ทางการเมืองในการต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยมายาวนาน นอกจากนี้นักการเมืองบางคนในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้มีประสบการณ์ทางการเมืองอะไรมากมายก็ยังเป็นรัฐมนตรีได้ หรือแม้แต่คนเลี้ยงช้างอยู่จ.บุรีรัมย์ ก็ยังเป็นรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์มาแล้ว อย่างไรก็ตาม แกนนำคนเสื้อแดงไม่เคยคิดที่จะไปก้าวล่วงการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี และผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทย เพียงแต่หากถามในเรื่องของคุณสมบัตินั้น ตนยืนยันว่า แกนนำคนเสื้อแดงทุกคนมีความเหมาะสม
"เรื่องบาดแผลจากการต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยนั้น ถือเป็นเรื่องธรรมดา เพราะแม้แต่นายอภิสิทธิ์เองก็ยังมีข้อหาสั่งฆ่าประชาชนจากการสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ในชีวิตของคนที่เล่นการเมืองนั้นไม่มีใครที่ไม่เคยมีบาดแผล เพียงแต่ว่าจะเอาตรงนี้มาเป็นกฎกติกาห้ามไม่ให้ใครเป็นรัฐมนตรีนั้นคงไม่ได้ ต้องดูที่ความรู้ ความสามารถถึงจะถูกต้อง ทั้งนี้ ในอดีตที่ผ่านมาคนที่เป็นรัฐมนตรีแต่จบการศึกษาแค่ระดับ ป.4 ก็เคยมีมาแล้ว แต่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช.นั้น ก็จบการศึกษาถึงระดับปริญญาตรี ไม่ได้เป็นรองใคร ดังนั้นเรื่องนี้ขอให้เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่จะตัดสินใจว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะให้นายจตุพรเป็นรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าแกนนำคนเสื้อแดงไม่เคยต่อรองหรือเรียกร้องใดๆ ทั้งสิ้น และแกนนำคนเสื้อแดงจะได้เป็นรัฐมนตรีกี่คนนั้นก็ไม่ใช่ปัญหา และไม่ได้เป็นโควตาของแกนนำคนเสื้อแดงด้วย"นายสุภรณ์ กล่าว
http://thaiinsider.i...itics/19509--1-
ตู่ สู้ๆๆ ตู่สู้ตาย ตู่ ไว้ลาย สู้ตายสู้ๆๆ
