ทหารข่มขืนสาวเสื้อแดง เอาเข้าไป
#1
ตอบ 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 12:35
#2
ตอบ 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 12:40
และเรื่องตั้งแต่53 เนี่ยนะ?
#3
ตอบ 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 12:41
#4
ตอบ 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 12:43
#5
ตอบ 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 12:44
วิธีการต้มตุ๋นหาเงินเข้ากระเป๋าแล้วล่ะ
ต้มตุ๋นพวกเสื้อแดงด้วยกันเอง
- P2iUSz, IREM and สิงห์สนามซ้อม like this
#7
ตอบ 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 12:48
ทหารข่มขืน หรือ ข่มขืนทหาร
เอาให้แน่ๆ !!!!
- เดอะอำมาตย์ likes this
#8
ตอบ 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 12:52
ว่าจะโอน เงินไปให้นะ
อืม...
1 บาท
ว่าแต่ว่าค่าโอนแพง
งั้นโอนให้
1 สตางค์ก็พอ....
ดีกว่า เนาะ
#9
ตอบ 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 12:53
- คนกรุงธน, Lucas Leiva Benitez Rodger, IREM and 1 other like this
#10
ตอบ 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 12:55
อนึ่งคุณจรรยาภรณ์ เคย ไปร้องเรียนที่มูลนิธิปวีณามาแล้ว แต่ถูกปฏิเสธให้ความช่วยเหลือ โดยระบุว่าตนแจ้งความเท็จ ทั้งที่มีหลักฐานเอกสารยืนยันว่าถูกข่มขืนจริง
#11
ตอบ 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 13:00
#12
ตอบ 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 13:01
ถ้านางคนนี้ถูกทหารข่มขืนจริง
ก็ควรจะได้รับความยุติธรรม
ทหารนายนั้นก็ต้องถูกดำเนินคดีจนถึงที่สุด
อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล
"กูจะสู้แม้รู้ว่าพวกกูน้อย สู้ไม่ถอยแม้รู้ว่าจะดับสลาย แผ่นดินนี้พ่อกูอยู่ปู่กูตาย กูสุดอายถ้าเสียทีไพรีครอง"
#13
ตอบ 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 13:17
ไม่ได้นั่งดู ( เลยไม่กล้าตัดสิน )..!!!
#14
ตอบ 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 13:36
สถานการณ์มันไม่เอื้ออำนวยให้ทหารทำได้
ลองนึกภาพทหารถอดชุด ถอดรองเท้าคอมแบ็ค วางปืนไว้ตรงไหนตอนข่มขืน
เอ๋!! หรือว่าข่มขืนโดยไม่ถอดชุดไม่ถอดกางเกง เอ..แล้วทหารมันจะเอาปืนวางไว้ตรงไหน
หรือว่า สะพายปืนข่มขืนด้วย
แต่ที่นึกได้คงโดนพวกเสื้อแดงที่เมาเหล้าสี่สิบ ข่มขืนน่าจะเป็นไปได้มากกว่า
ใครมันก็แต่งกายคล้ายทหารได้ตามข่าว
จุดขืนใจ - นางเอ (นามสมมติ) สาวเสื้อแดงชี้จุดที่โดนชายแต่งกายคล้ายทหารตามรูปสเกตช์ ขืนใจบริเวณหน้าอุเทนถวาย นอกจากนี้ยังโชว์ภาพถ่ายหลักฐานบาดแผลจากการตรวจของแพทย์หลังเกิดเหตุด้วย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.53
ปล.เสนอให้ไปยืนเรื่องร้องเรียนกับ โฆษกพร้อมซอง น่าจะได้เรื่องนะครับ
Edited by serithai11, 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 13:37.
#15
ตอบ 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 14:01
1.ความผิดฐานข่มขืนเขาใช้เอกสารเป็นพยานหลักฐานพิสูจน์ความผิด ?อนึ่งคุณจรรยาภรณ์ เคย ไปร้องเรียนที่มูลนิธิปวีณามาแล้ว แต่ถูกปฏิเสธให้ความช่วยเหลือ โดยระบุว่าตนแจ้งความเท็จ ทั้งที่มีหลักฐานเอกสารยืนยันว่าถูกข่มขืนจริง
2.พวกตัวเองเป็นรัฐบาลก็ไปบอกสิ ทำไมไปหาและกล่าวหามูลนิธิเอกชน ?
3.ย้ำอีกครั้ง ไม่มีอะไรอื่น นอกจากโกหกหลอกเอาเงิน
#16
ตอบ 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 14:35
สาวชุดแดงแจ้งจับ"มาร์ค"ลากเข้าโรงแรมข่มขืนแต่ไม่รับผิดชอบ จนท.เร่งตรวจสอบอาจเป็นพวกสติไม่ดี (มติชนออนไลน์)
สาวใหญ่แต่งชุดแดงบุกกองปราบแจ้งจับนายกฯ ข้อหาข่มขืนหลังไม่มีโรงพักไหนยอมรับเรื่อง อ้างทนความไม่รับผิดชอบของ "อภิสิทธิ์" บริหารประเทศต่อไปไม่ไหว และก่อคดีข่มขืนแล้วไม่รับผิดชอบ
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 3 ก.พ. ที่กองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดคดีสาวใหญ่แจ้งจับนายกรัฐมนตรีขอหาข่มขืน มีผู้หญิงแต่งกายด้วยชุดกระโปรงสีแดงทั้งชุด เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนของ กก.1 บก.ป. โดยแจ้งความจำนงว่า ขอแจ้งความจับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา แต่จากการสอบสวนผู้เสียหายรายนี้ให้การวกไปวนมา ทราบชื่อคือ น.ส.ไดอะน่า แสนโม่ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/182 ซ.รามคำแหง 151/1 แขวงและเขตสะพานสูง กทม. สาเหตุที่เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ในครั้งนี้ก็เนื่องจากว่า ทนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ไม่มีความรับผิดชอบ บริหารประเทศต่อไปไม่ไหว เพราะก่อคดีข่มขืนตัวเอง แล้วไม่รับผิดชอบในเรื่องที่เกิดขึ้น
น.ส.ไดอะน่า ให้การต่ออีกว่า เรื่องที่ถูกนายกฯ ข่มขืน นั้นเกิดขึ้นเมื่อปี 2552 เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ที่ย่านเยาวราช ขณะนั้นตนถูกนายอภิสิทธิ์พาเข้าโรงแรมแล้วก่อเหตุข่มขืน หลังจากนั้นก็ไม่ยอมาเจอหน้าอีกเลย
#17
ตอบ 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 14:41
#18
ตอบ 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 14:44
อ้างมา.... จากเวบ http://www.prachatal...ี่ถูกทหารข่มขืน
จุดขืนใจ - นางเอ (นามสมมติ) สาวเสื้อแดงชี้จุดที่โดนชายแต่งกายคล้ายทหารตามรูปสเกตช์ ขืนใจบริเวณหน้าอุเทนถวาย นอกจากนี้ยังโชว์ภาพถ่ายหลักฐานบาดแผลจากการตรวจของแพทย์หลังเกิดเหตุด้วย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.53
ใช่เสื้อแดงคนเดียวกับคนนี้หรือเปล่า
สาวชุดแดงแจ้งจับ"มาร์ค"ลากเข้าโรงแรมข่มขืนแต่ไม่รับผิดชอบ จนท.เร่งตรวจสอบอาจเป็นพวกสติไม่ดี (มติชนออนไลน์)
สาวใหญ่แต่งชุดแดงบุกกองปราบแจ้งจับนายกฯ ข้อหาข่มขืนหลังไม่มีโรงพักไหนยอมรับเรื่อง อ้างทนความไม่รับผิดชอบของ "อภิสิทธิ์" บริหารประเทศต่อไปไม่ไหว และก่อคดีข่มขืนแล้วไม่รับผิดชอบ
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 3 ก.พ. ที่กองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดคดีสาวใหญ่แจ้งจับนายกรัฐมนตรีขอหาข่มขืน มีผู้หญิงแต่งกายด้วยชุดกระโปรงสีแดงทั้งชุด เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนของ กก.1 บก.ป. โดยแจ้งความจำนงว่า ขอแจ้งความจับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา แต่จากการสอบสวนผู้เสียหายรายนี้ให้การวกไปวนมา ทราบชื่อคือ น.ส.ไดอะน่า แสนโม่ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/182 ซ.รามคำแหง 151/1 แขวงและเขตสะพานสูง กทม. สาเหตุที่เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ในครั้งนี้ก็เนื่องจากว่า ทนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ไม่มีความรับผิดชอบ บริหารประเทศต่อไปไม่ไหว เพราะก่อคดีข่มขืนตัวเอง แล้วไม่รับผิดชอบในเรื่องที่เกิดขึ้น
น.ส.ไดอะน่า ให้การต่ออีกว่า เรื่องที่ถูกนายกฯ ข่มขืน นั้นเกิดขึ้นเมื่อปี 2552 เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ที่ย่านเยาวราช ขณะนั้นตนถูกนายอภิสิทธิ์พาเข้าโรงแรมแล้วก่อเหตุข่มขืน หลังจากนั้นก็ไม่ยอมาเจอหน้าอีกเลย
อาชีพใหม่เหรอ ใจคออีนี่จะหากินกะการถูกข่มขืน
#19
ตอบ 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 14:49
[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]
ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556
#21
ตอบ 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 15:00
พอถึงรุ่งเช้าวันที่ 15 พ.ค. เดินออกจากสวนลุมฯ จะกลับบ้าน แต่ปรากฏว่าช่วงเวลาดังกล่าวมีทหารล้อมพื้นที่หมดแล้วทุกด้าน ไม่สามารถออกจากพื้นที่ได้ ขณะนั้นกลัวมาก จนกระทั่งเวลา 18.00 น. มีรถจักรยานยนต์รับจ้างคันหนึ่งมาจอด ถามว่าจะว่าจ้างให้ไปส่งหรือไม่ จึงว่าจ้างให้ไปส่งที่หน้าวัดปทุมวนาราม หลังจากที่ลงหน้าวัดแล้วเดินเท้ามาสี่แยกปทุมวัน พอมาถึงพบด่านเจ้าหน้าที่ มีลวดหนามขวางอยู่กลางถนน จึงเดินเลี่ยงเลี้ยวซ้ายไปทางแยกสามย่าน แต่ก็เจอคนที่เดินไปก่อนย้อนกลับมา เพราะเจอด่านสกัดอีกจึงย้อนกลับมาเช่นกัน
เหยื่อการกระชับพื้นที่ของรัฐบาล กล่าวต่อว่า หลังจากเดินไปสักพักสังเกตเห็นป้ายบอกทางสีเขียวระบุว่าไปราชเทวี จึงเดินไปตามทางก็พบด่านเจ้าหน้าที่อีกบริเวณปากซอยจุฬาลงกรณ์ 12 ถนนพระราม 1 เจ้าหน้าที่ขอตรวจค้นกระ เป๋าสะพาย มีบัตรนปช. และภาพถ่าย พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง จึงกักตัวไว้อยู่เป็นเวลานาน ขณะนั้นหงุดหงิดเพราะอยากกลับบ้าน จึงตะโกนด่าเจ้าหน้าที่ว่าเมื่อไหร่จะปล่อยให้กลับเสียที จากนั้นมีชายแต่งกายคล้ายทหารคนหนึ่งไม่พอใจ เดินตรงเข้ามาลากแล้วพาข้ามถนนมายังริมรั้วหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ก่อนบังคับให้ยกมือขึ้นไว้บนศีรษะ ชกเข้าที่ท้อง 2-3 ครั้ง จนจุกแต่ยังพอรู้สึกตัว
นางเอ กลาวว่า จากนั้นลากตัวไปตรงบันไดทางขึ้นภาควิชาการออกแบบอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นมุมอับ ห่างออกไปประมาณ 5 เมตร ก่อนลงมือข่มขืนกระทำชำเรา หลังจากนั้นยังเตะเพื่อปลุกให้ตื่น เมื่อตื่นขึ้นมาก็ไล่กลับบ้าน พอลุกขึ้นได้ก็รีบวิ่งหนีออกมาจากจุดเกิดเหตุทันที ขณะนั้นถนนโล่งมากไม่มีรถวิ่ง พอเดินไปได้ประมาณ 3-4 ป้ายรถเมล์ รู้สึกเจ็บท้องจึงนั่งพัก กระทั่งมาพบรถสามล้อจึงให้พาไปส่งบ้านพักย่านบางแค มาถึงบ้านเกือบเที่ยงคืน ตอนนั้นคิดอะไรไม่ออก ทําอะไรไม่ถูก ไม่กล้าไปแจ้งความ ไม่กล้าอาบน้ำ เพราะกลัวว่าหลักฐานจะหายไป
เหยื่อความรุนแรง กล่าวอีกว่า จนกระทั่งเช้าวันที่ 16 มิ.ย. จึงเดินทางมาที่พรรคเพื่อไทย เพื่อขอความช่วยเหลือ ได้รับคำแนะนำให้ไปแจ้งความที่สน.ปทุมวัน และเข้าตรวจร่างกายที่ร.พ.กลาง
ปรากฏรอยช้ำจากการถูกกัดเต็มไปหมด รวมไปถึงตรวจพบคราบอสุจิในร่างกาย
แพทย์ให้ยาฆ่าเชื้อและยาคุมกำเนิดมากิน รู้สึกเสียใจมาก และที่มาร่วมชุมนุมกับกลุ่มนปช. เป็นเพราะหลังจากเปลี่ยนรัฐบาลมาทำมาค้าขายไม่ดีเลย จึงมาร่วมชุมนุมตั้งแต่นปช.ปักหลักที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ พอย้ายเวทีมาที่แยกราชประสงค์ ก็ตามมาร่วมชุมนุมด้วย และชุมนุมจนกระทั่งเกิดเหตุร้ายขึ้น
อารายวะ เป็นเดือนแล้ว ยังมีคราบอสุจิ 555+ บ้าไปแล้ว
แต่...ถ้าอ่านทั้งหมดแล้วก็คือ เป็นเรื่องปั้นน้ำเป็นตัวทั้งนั้น มีโดนตามข่มขู่ด้วยนะ ลงรถมอไซค์โดนต่อยกรามแตกอีก
โอโฮ๊ะ แต่งเรื่องไม่เหมือนจริงเร๊ยยยยยย
Edited by คนกรุงธน, 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 15:15.
- My Will, Kyubey, antiseptic and 5 others like this
"น้อมส่งเสด็จสู่พระนิพพาน"
#22
ตอบ 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 15:13
#23
ตอบ 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 15:18
#24
ตอบ 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 15:19
ปล แต่เท่าที่อ่าน เหมือยว่าเป็นแค่คนแต่งชุด ลายพรานแค่นี้หรือเปล่าครับ แล้วใครรู้บ้างว่า คราบอสุจิ นี่อยู่เืกือบเดือนจริงหรือเปล่า แบบวิชาการเลยครับ เพราะถ้ามีก็ตรวจดีเอ็นเองเอาไว้เป็นหลักฐานน่าจะได้ใช่หรือเปล่า
อีกอย่างข้อสังเกตของเพื่อสมาชิกมันก็ยังมีจุดที่ทำให้ เจ้าทุกข์คนนี้ ไม่เครียร์ว่าเรื่องที่เกิดเป็นเรื่องจริงๆ
กฎหมายมันก็แค่สิงที่สร้างมาอย่างมีเป้าหมาย แต่หาก เอาแต่บอกว่ากฎหมายเป็นแบบนี้ แบบนั้น โดยไม่สนใจว่าเป้าหมายจริงๆ นันคืออะไร ก็คงไม่ใช่
#25
ตอบ 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 15:40
#26
ตอบ 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 16:52
"น้อมส่งเสด็จสู่พระนิพพาน"
#27
ตอบ 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 16:59
เยียวยาเฉพาะหน้าให้คุณจรรยาภรณ์ไปบ้างแล้ว ดังนี้
ก. เงินช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล จาก
1. ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค 3000 บาท
2. พรรคเพื่อไทย 20000 บาท
3. อ.ธิดาให้เป็นค่ารักษาตัว 5000 บาท
ข. เงินช่วยการประกอบอาชีพ...เงินยืมจากมูลนิธิกระจกเงา 30000 บาท
แบ่งเป็นค่ามัดจำและค่าเช่า 10000 บาท และค่าอุปกรณ์ค้าขาย 20000 บาท
เพื่อใช้ทำทุนค้าขายข้าวแกง แต่ภายหลังที่เช่าถูกน้ำท่วม..ข้าวของจมน้ำ
เสียหายหมด ขณะนี้ยังไม่สามารถคืนเงินยืมจำนวนนี้ได้
ค. เงินเยียวยาจากกรมพัฒนาสังคมฯจากการโดนแก๊สน้ำตาเมื่อตอนถูก
สลายการชุมนุมปี 53 ซึ่งได้รับเมื่อวันที่ 12 เม.ย.55 จำนวน 175,000 บาท
แต่ต้องนำไปใช้คืนหนี้สินนอกระบบที่หยิบยืมมาประทังชีวิตครอบครัว 5 คน
และรักษาอาการป่วย(โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว)ของมารดาจนหมด
เคยได้รับการช่วยเหลือเยียวยามาแล้ว 233,000 บาท แล้วมันต้องเท่าไหร่คับถึงจะพอ แค่ปีเดียวจ่ายเงิน 175,000 บาทหมดนี่เป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์ผมมากจริงๆ ไม่สิต้องบอกว่าไม่ถึง 5 เดือน คุณทำได้ไงคับนี่
- My Will, someone and itsorachai like this
อำนาจก็เปรียบเหมือนคมดาบที่ไร้ด้าม ถ้าเราไม่รู้จักปล่อยวางลงเสียบ้าง สุดท้ายมันจะทำลายแม้ตัวเราเอง
ม้าดีที่ "ตายแล้ว"
หาใช่ "ม้าดี"
หากคือ "ม้าตาย"
#28
ตอบ 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 17:03
/人= ‿‿ =.u人\
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Hello, I'm a Kyubey /人◕ ‿‿ ◕人\
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Please Make a contract with me and become a Magical girl! /人◕ ‿‿ <人\
ข้าพเจ้าขอสนับสนุนท่านผู้นำที่น่ารักที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ!!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!!
#29
ตอบ 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 18:27
บอกได้คำเดียวครับ ว่า
"งง"
ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด
...แม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี
โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี
...ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย
#30
ตอบ 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 18:34
รู้สึกจะตัวอ้วนๆ ด้วยนะ
#31
ตอบ 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 18:49
ทหารเขาก็คงรู้จักเลือกเหมือนกันนะแหละ
#32
ตอบ 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 19:21
#33
ตอบ 2 กันยายน พ.ศ. 2555 - 20:16
#35
ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2555 - 06:25
ชีวิตคนมันจะอะไรขนาดนั้น นิยายยังแต่งได้ไม่ปานได้อ่านลิงค์ต้นฉบับแล้วนะครับ
อ่านจบได้แต่คิดว่า "ชีวิตเธอโคตรจะดราม่า"
แม่ป่วยหนัก ลูกพิการสมอง สามีซ้อม ถูกข่มขืน
OMG
- G-GEAR53 likes this
#37
ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2555 - 08:10
#38
ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2555 - 08:39
#40
ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2555 - 09:55
นางเอ(นามสมมติของคุณจรรยาภรณ์) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ ผ่านมา เดินทางมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มม็อบเสื้อแดง ที่สี่แยกราชประสงค์ เพราะเป็นคนรักประชาธิปไตย ช่วงกลางคืนจะกลับไปนอนพักผ่อนอยู่ที่บริเวณสวนลุมพินี
พอถึงรุ่งเช้าวันที่ 15 พ.ค. เดินออกจากสวนลุมฯ จะกลับบ้าน แต่ปรากฏว่าช่วงเวลาดังกล่าวมีทหารล้อมพื้นที่หมดแล้วทุกด้าน ไม่สามารถออกจากพื้นที่ได้ ขณะนั้นกลัวมาก จนกระทั่งเวลา 18.00 น. มีรถจักรยานยนต์รับจ้างคันหนึ่งมาจอด ถามว่าจะว่าจ้างให้ไปส่งหรือไม่ จึงว่าจ้างให้ไปส่งที่หน้าวัดปทุมวนาราม หลังจากที่ลงหน้าวัดแล้วเดินเท้ามาสี่แยกปทุมวัน พอมาถึงพบด่านเจ้าหน้าที่ มีลวดหนามขวางอยู่กลางถนน จึงเดินเลี่ยงเลี้ยวซ้ายไปทางแยกสามย่าน แต่ก็เจอคนที่เดินไปก่อนย้อนกลับมา เพราะเจอด่านสกัดอีกจึงย้อนกลับมาเช่นกัน
เหยื่อการกระชับพื้นที่ของรัฐบาล กล่าวต่อว่า หลังจากเดินไปสักพักสังเกตเห็นป้ายบอกทางสีเขียวระบุว่าไปราชเทวี จึงเดินไปตามทางก็พบด่านเจ้าหน้าที่อีกบริเวณปากซอยจุฬาลงกรณ์ 12 ถนนพระราม 1 เจ้าหน้าที่ขอตรวจค้นกระ เป๋าสะพาย มีบัตรนปช. และภาพถ่าย พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง จึงกักตัวไว้อยู่เป็นเวลานาน ขณะนั้นหงุดหงิดเพราะอยากกลับบ้าน จึงตะโกนด่าเจ้าหน้าที่ว่าเมื่อไหร่จะปล่อยให้กลับเสียที จากนั้นมีชายแต่งกายคล้ายทหารคนหนึ่งไม่พอใจ เดินตรงเข้ามาลากแล้วพาข้ามถนนมายังริมรั้วหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ก่อนบังคับให้ยกมือขึ้นไว้บนศีรษะ ชกเข้าที่ท้อง 2-3 ครั้ง จนจุกแต่ยังพอรู้สึกตัว
นางเอ กลาวว่า จากนั้นลากตัวไปตรงบันไดทางขึ้นภาควิชาการออกแบบอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นมุมอับ ห่างออกไปประมาณ 5 เมตร ก่อนลงมือข่มขืนกระทำชำเรา หลังจากนั้นยังเตะเพื่อปลุกให้ตื่น เมื่อตื่นขึ้นมาก็ไล่กลับบ้าน พอลุกขึ้นได้ก็รีบวิ่งหนีออกมาจากจุดเกิดเหตุทันที ขณะนั้นถนนโล่งมากไม่มีรถวิ่ง พอเดินไปได้ประมาณ 3-4 ป้ายรถเมล์ รู้สึกเจ็บท้องจึงนั่งพัก กระทั่งมาพบรถสามล้อจึงให้พาไปส่งบ้านพักย่านบางแค มาถึงบ้านเกือบเที่ยงคืน ตอนนั้นคิดอะไรไม่ออก ทําอะไรไม่ถูก ไม่กล้าไปแจ้งความ ไม่กล้าอาบน้ำ เพราะกลัวว่าหลักฐานจะหายไป
เหยื่อความรุนแรง กล่าวอีกว่า จนกระทั่งเช้าวันที่ 16 มิ.ย. จึงเดินทางมาที่พรรคเพื่อไทย เพื่อขอความช่วยเหลือ ได้รับคำแนะนำให้ไปแจ้งความที่สน.ปทุมวัน และเข้าตรวจร่างกายที่ร.พ.กลาง
ปรากฏรอยช้ำจากการถูกกัดเต็มไปหมด รวมไปถึงตรวจพบคราบอสุจิในร่างกาย
แพทย์ให้ยาฆ่าเชื้อและยาคุมกำเนิดมากิน รู้สึกเสียใจมาก และที่มาร่วมชุมนุมกับกลุ่มนปช. เป็นเพราะหลังจากเปลี่ยนรัฐบาลมาทำมาค้าขายไม่ดีเลย จึงมาร่วมชุมนุมตั้งแต่นปช.ปักหลักที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ พอย้ายเวทีมาที่แยกราชประสงค์ ก็ตามมาร่วมชุมนุมด้วย และชุมนุมจนกระทั่งเกิดเหตุร้ายขึ้น
อารายวะ เป็นเดือนแล้ว ยังมีคราบอสุจิ 555+ บ้าไปแล้ว
แต่...ถ้าอ่านทั้งหมดแล้วก็คือ เป็นเรื่องปั้นน้ำเป็นตัวทั้งนั้น มีโดนตามข่มขู่ด้วยนะ ลงรถมอไซค์โดนต่อยกรามแตกอีก
โอโฮ๊ะ แต่งเรื่องไม่เหมือนจริงเร๊ยยยยยย
การตรวจร่างกายผู้ถูกกระทำชำเรา หรือกรณีฆ่าข่มขืน
ใน กรณีนี้ผู้เสียหาย จะอยู่ในสภาพที่รู้สึกว่าถูกทำร้ายทั้งทางกาย ทางใจ และถูกทำร้ายจากสังคมด้วย พนักงานสอบสวนหรือแพทย์ที่พบหรือตรวจผู้เสียหาย จะ ต้องให้ความเข้าใจ และเห็นใจ ในขณะเดียวกันการดำเนินการใดใดกับผู้เสียหายในขั้นต่อไปต้องทำโดยรัดกุม มีบันทึกแสดงความยินยอม มีพยาน ในขณะเดียวกันพนักงานสอบสวนและแพทย์ก็ต้องบันทึกการตรวจ การซักถาม และการกระทำใดใดต่อผู้เสียหายโดยละเอียดด้วย
พนักงาน สอบสวนต้องบันทึกคำให้การโดยละเอียด ถึง วัน เวลา สถานที่เกิดเหตุ ผู้กระทำ พฤติการณ์ก่อนเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ บันทึกวันเวลาที่มาแจ้งความ โดยมีพยานลงนามในคำให้การด้วย
เนื่อง จากสุขสภาพจิตของผู้เสียหายอาจถูกกระทบมาก อาจมองคนรอบด้านเป็นศัตรู รวมทั้งพนักงานสอบสวนและแพทย์(โดยเฉพาะที่เป็นชาย) ทำให้แปลผลการกระทำของคนเหล่านี้ ไปในทางเสียหายได้ และห้ามพนักงานสอบสวนตรวจหรือขอให้ผู้เสียหายถอดเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มออก เพื่อดูบาดแผลอย่างเด็ดขาด คำถามที่เกี่ยวกับการร่วมเพศ และการตรวจร่างกายเป็นหน้าที่ของแพทย์ และ เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนและแพทย์ที่จะต้องตรวจผู้เสียหายให้เร็วที่สุด เพื่อให้ได้พยานหลักฐานมากที่สุด สถานที่ตรวจควรจะเป็นสัดเป็นส่วน สงบ และไม่พลุกพล่าน
ใน การตรวจของแพทย์ แพทย์ ต้องลง วัน เวลา สถานที่ ที่ทำการตรวจ ชื่อ อายุของผู้เสียหาย เวลาที่เกิดเหตุ ชื่อพนักงานสอบสวนที่นำส่ง ต้องมีบันทึกแสดงความ ยินยอมของผู้เสียหายเป็นลายลักษณ์อักษร ยอมให้แพทย์ทำการตรวจ
แพทย์ ควรเป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการตรวจทางด้านนี้โดยเฉพาะ อาจเป็นสูตินารีแพทย์หรือนิติเวชแพทย์ ไม่ควรใช้แพทย์ฝึกหัด และควรเป็นแพทย์คนเดิมในกรณีที่ต้องมีการตรวจซ้ำหรือต่อเนื่อง ในการตรวจแพทย์ต้องมีผู้ช่วยซึ่งคือพยาบาลอยู่ด้วยตลอดเวลา ถ้าเป็นแพทย์ชายต้องมีพยาบาลเป็นหญิง ถ้าเป็นแพทย์หญิงอาจจะใช้พยาบาลชายได้ ห้ามใช้แพทย์ชายและพยาบาลชาย
แพทย์ต้องซักประวัติการเจ็บป่วยในอดีต ประวัติการรักษาพยาบาล จากนั้นแพทย์ต้องถามเกี่ยวกับการข่มขืนว่า
1) ได้มีการสอดใส่อวัยวะเข้าไปในช่องคลอดหรือไม่
2) ผู้กระทำได้หลั่งน้ำอสุจิหรือไม่
3) ผู้กระทำได้ใส่ถุงยางหรือไม่
4) มีการสอดใส่ทางอื่นเช่นทางปากหรือทางทวารหนักด้วยหรือไม่
5) ผู้เสียหายได้ทำการล้าง หรือทำความ สะอาดอวัยวะเหล่านั้น หรือมีการ อุจจาระ ปัสสาวะก่อนมารับการตรวจหรือไม่
แพทย์ต้องประเมินสภาพทางจิตใจผู้เสียหาย ก่อนตรวจร่างกายควรตรวจเสื้อผ้าชุดที่ใส่ในขณะเกิดเหตุ (ถ้า ผู้เสียหายได้เปลี่ยนชุดแล้วควรขอมาทำการตรวจ เท่าที่จะทำได้) ตรวจร่างกายผู้เสียหายทั่วไปเพื่อตรวจบาดแผลทางกาย เน้นร่องรอยที่ฝ่ามือ เล็บมือ แขน ขา และต้นขาด้านในซึ่งอาจเป็นหลักฐานแสดงการขัดขืนต่อการร่วมเพศ บาดแผลที่อวัยวะเพศอาจเป็นหลักฐานแสดงการร่วมเพศ ขณะ ตรวจต้องเก็บพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น น้ำอสุจิ เส้นขน คราบอสุจิ ซึ่งในกรณีนี้การตรวจเสื้อผ้าอย่างละเอียดจะมีประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะอาจพบคราบอสุจิ หรือเศษเส้นผมเส้นขนติดอยู่ หรืออาจพบหลักฐานอื่นๆที่อาจใช้ในการพิสูจน์ตัวผู้กระทำผิด
การ ตรวจเสื้อผ้ายังอาจให้ประโยชน์ ในกรณีที่มีการฉีกขาดกระดุมขาดหายไป เพราะอาจร่วงหล่นในบ้าน หรือติดไปกับตัวผู้ข่มขืน เสื้อเปื้อนดินโคลนลักษณะใด มีใบไม้หรือสิ่งอื่นใดติดมากับเสื้อผ้าหรือไม่ ซึ่งอาจใช้ยืนยันสถานที่เกิดเหตุได้
การเก็บวัตถุพยานหรือพยานหลักฐานจากผู้เสียหายควรต้องระบุด้วยว่า คราบที่ส่งนั้นเป็นคราบที่เก็บมาจากส่วนใดของร่างกาย เช่น คราบหมายเลข 1 เก็บโดยใช้สำลีชุบน้ำกลั่นเช็ดจากต้นขาด้านใน คราบหมายเลข 2 เช็ดจากหน้าท้องบริเวณสะดือ ฯลฯ
การ ตรวจอวัยวะสืบพันธ์ แพทย์จะต้องสังเกตตั้งแต่ ขนหัวเหน่า ว่ามีสภาพยุ่งเหยิงเพียงใด มีขนของผู้ข่มขืนปนเปื้อนอยู่ด้วยหรือไม่ บันทึกบาดแผลต่างๆตั้งแต่หน้าขา บริเวณรอบอวัยวะเพศ ทั้งบาดแผลถลอก ช้ำ และฉีกขาดว่าเป็นที่ตำแหน่งใด การใช้เครื่องมือสอดเข้าช่องคลอดต้องไม่ใช้สารหล่อลื่นหรือน้ำยาต่างๆ การไม่ปรากฏบาดแผลที่อวัยวะสืบพันธ์ไม่ได้หมายความว่าไม่มีการข่มขืน เพราะสถิติของต่างประเทศพบว่ามีบาดแผลที่อวัยวะสืบพันธ์เพียง 18%เท่านั้น
การตรวจหาตัวอสุจิ ในผู้เสียหาย พบว่า ส่วนใหญ่จะตรวจพบตัวอสุจิที่มีชีวิต(เคลื่อนไหว)ได้ประมาณภายใน 6 ชั่วโมงหลังการข่มขืน มีโอกาสพบได้ภายใน 12 ชั่วโมง และถ้าโชคดีมากอาจจะพบได้ถึง 24 ชั่วโมง(ในกรณีนี้มักต้องตรวจโดยการเก็บจากคอมดลูก)
ตัวอสุจิที่ตายแล้ว(ไม่เคลื่อนไหว) อาจพบได้ ภายใน 24 ชั่วโมง และถ้าโชคดีอาจพบได้ ภายใน 2-3วัน และจะพบจำนวนน้อย (แพทย์ต้องตรวจโดยเก็บจากคอมดลูกเช่นกัน) ฉะนั้นการตรวจพบว่ามีตัวอสุจิที่ไม่เคลื่อนไหว ควรเชื่อว่าเกิดจากการรวมเพศภายใน 1หรือ 2 วัน
ตามรายงานจากต่างประเทศ พบเฉพาะส่วนหัวของตัวอสุจิ(อสุจิที่สลายตัวแล้ว) ได้นานถึงภายใน 6 วันและสามารถตรวจพบตัวอสุจิจากคอมดลูก นานถึง 7 วันหลังการข่มขืน
การตรวจตัวอสุจิจากทวารหนักและช่องปากพบได้ยากกว่าและภายในเวลาที่สั้นกว่าด้วย
การส่งผ่านหลักฐานในการตรวจไปห้องปฏิบัติการณ์ ต้องมีบันทึกการรับส่งเป็นทอดๆ ว่าได้ส่งให้ใครรับไปเวลาเท่าใดถึงใคร โดยมีการลงลายมือชื่อรับส่งกันทุกทอด เพื่อยืนยันว่าไม่มีการปลอมแปลงหลักฐาน
จากนั้นจึงให้การรักษาเกี่ยวกับบาดแผล การเลือดออก การฉีกขาด การป้องกันการตั้งครรภ์ การป้องกันการติดเชื้อกามโรค และรักษาสภาพจิตใจ
ในกรณีที่ผู้เสียหายมีสภาพปรวนแปรทางจิตมาก ควรแนะนำให้นอนในโรงพยาบาล ไม่ควรปล่อยให้กลับบ้าน
กรณีฆ่าข่มขืน
การฆ่าข่มขืนเกิดน้อย แต่เมื่อเกิดขึ้น มักเป็นคดี”สะเทือนขวัญ” สังคม ทั่วไปจะให้ความสนใจมาก การสืบสวนทำได้ค่อนข้างยากลำบากเพราะมักเป็นการกระทำที่ไม่ได้วางแผนเอาไว้ ก่อน แต่มักเป็นการกระทำของคนแปลกหน้าต่อคนแปลกหน้า และมักทำคนเดียว เบาะแสในการสืบจึงมีน้อย
การ ข่มขืนโดยตัวของมันไม่ได้ทำให้ตาย เมื่อมีการตาย แสดงว่ามีการทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตายด้วย วิธีการมักเป็นการบีบคอหรือรัดคอเป็นส่วนใหญ่ อาจจะมีการใช้มีดแทง หรือ การใช้กำลัง เช่น จับศีรษะโขกพื้น ชกต่อยทุบตี ทำให้อวัยวะภายในฉีกขาดถึงแก่ความตาย เป็นต้น
การตรวจศพที่ถูกข่มขืน-ฆ่า
ต้องดำเนินการตั้งแต่ที่เกิดเหตุ ควรจับต้องตัวศพให้น้อยที่สุด, เอาถุงกระดาษใส่มือศพทั้งสองข้างเพื่อป้องกัน สิ่งที่อยู่ในมือหลุด หายไป , ร่าง ของศพควรใส่ถุงใส่ศพ หรือ ถูกห่อไว้เป็นอย่างดี เพื่อป้องกันวัตถุพยานหล่นหาย ในขณะเดียวกันก็ป้องกันสิ่งอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องติดมากับศพระหว่างการนำส่ง เมื่อมาถึงสถานที่ตรวจศพแล้ว ห้ามเจ้าหน้าที่ถอดเสื้อผ้าศพ หรือ พิมพ์ลายพิมพ์นิ้วมือศพ ก่อนที่แพทย์จะทำการผ่าศพ จำไว้เสมอว่า ในการข่มขืนและฆ่านั้น เป็นการฆาตกรรมประเภทเดียวที่ ผู้ กระทำและผู้ถูกกระทำอยู่ใกล้ชิดกันมากที่สุด โอกาสที่สิ่งต่างๆในแต่ละคนจะไปติดอีกคนหนึ่งได้ง่ายมาก พนักงานสอบสวนต้องให้แพทย์ทราบถึงสภาพบริเวณที่เกิดเหตุและต้องบอกสิ่งที่ สงสัยและ ต้องการทราบเป็นกรณีพิเศษด้วย
การผ่าศพ
แพทย์จะตรวจเสื้อผ้าก่อน เพื่อดูว่ามีสิ่งใดติดมากับเสื้อผ้าหรือไม่ เช่น เส้นผม เศษกระจก เศษสี ดินโคลน ฯลฯ บันทึกส่วนของเสื้อผ้าที่ฉีกขาดว่าเข้าได้กับบาดแผลที่เกิดขึ้นหรือไม่อย่างไร เพื่อช่วยบอกว่าบาดแผลที่เกิดขึ้นเกิดในขณะที่ยังสวมเสื้อผ้าอยู่หรือไม่ หรือบริเวณเสื้อผ้าที่ขาดหายไปโดยละเอียด แพทย์จะบันทึกสิ่งต่างๆที่เก็บได้จากเสื้อผ้าลงในถุงพลาสติก โดยแยกเป็นถุงๆไป เช่น เศษเส้นผม จากไหล่เสื้อข้างขวาของศพ นามบัตรเก็บจากกระเป๋ากางเกงด้านขวา กระดุมหนึ่งเม็ดจากกำมือข้างขวา ฯลฯ
จากนั้นตรวจร่างกายภายนอกโดยละเอียด ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า บันทึกบาดแผลต่างๆเช่นเดียว กับการตรวจในผู้มีชีวิต และควรสังเกต ร่อยรอยการใช้ฟันกัดบน ลำตัวศพ ซึ่งอาจใช้เป็นเครื่องตรวจสอบกับพิมพ์ฟันของผู้ต้องสงสัยได้
ตัดเล็บเพื่อตรวจเนื้อเยื่อ เก็บขนหัวเหน่าที่แปลกปลอม เก็บเส้นผม ขนหัวเหน่า เลือดปัสสาวะของศพเพื่อตรวจการวางยา ตรวจหมู่เลือด และ DNA เก็บ ตัวอย่างจากช่องคลอด อาจจะตรวจอสุจิมีชีวิต(ถ้าเหตุเพิ่งเกิดขึ้น)โดยใส่บนกระจกแล้วหยดน้ำเกลือ ตรวจทางกล้องจุลทรรศน์ อาจจะพบตัวอสุจิที่เคลื่อนไหวอยู่ได้ ใช้ไม้พันสำลีป้ายจากช่องคลอดแล้วป้ายบนกระจกสองแผ่น ใช้ไม้พันสำลีป้ายในช่องคลอดอีกสองอัน(ควรทิ้งให้แห้งแล้วใส่ถุงกระดาษแข็ง ไม่ควรใส่ในหลอดแก้ว) ป้ายจากทวารหนักและช่องปากอีก อย่างละ 2 อัน ใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำเกลือ เช็ดตามส่วนของร่างกายที่สงสัยว่ามีคราบอสุจิเก็บแยกส่วนไว้
โดยปกติการตรวจหาตัวอสุจิในรายถูกข่มขืนและฆ่านี้ ตัวอสุจิจะพบในช่องคลอดผู้ตายได้ในระยะเวลานานกว่าในคนมีชีวิต คืออาจพบได้ถึง 2 อาทิตย์ ส่วนน้ำอสุจิ (โดยการตรวจ แอซิดฟอสฟาเตส)ส่วนใหญ่จะพบภายใน 24 ชั่วโมงแรกเท่านั้น ถ้าโชคดีอาจจะพบได้นานถึง 3 วัน
ฉะนั้น ถ้าตรวจพบตัวอสุจิแต่ไม่พบน้ำอสุจิ แสดงว่าการข่มขืนอาจมีมาหลายวันแล้ว(สัมพันธ์กับเวลาตาย)เมื่อตรวจพบเนื้อเยื่อของผู้ต้องสงสัยแล้วการตรวจต่อไปด้วยการตรวจเปรียบเทียบทางสารพันธุกรรมสามารถช่วยในการพิสูจน์ตัวบุคคลได้มาก ในปัจจุบันการผ่าศพ แพทย์ต้องให้ความสำคัญเกี่ยวกับบาดแผลที่ทำให้เสียชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบีบคอตายเพราะบาดแผลภายนอกอาจพบน้อยมาก(ดังกล่าวใน เรื่องการตายจากขาดอากาศแล้ว)เกี่ยวกับการข่มขืน ถ้าจำเป็นอาจจะผ่าศพโดยตัด ทวารหนักช่องคลอด มดลูกรังไข่ และกระเพาะปัสสาวะ ออกมาทั้งพวง เพื่อตรวจแต่ละส่วนโดยละเอียด
อนึ่ง
มาตรา 276 ผู้ใดข่มขืนกระทำชำเราหญิงซึ่งมิใช่ภรรยาตน โดยขู่เข็นด้วยประการใดใด โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยหญิงอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้หญิงเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคแรกได้กระทำโดยมีหรือใช้อาวุธปืนหรือวัตถุระเบิด หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ สิบปีถึง ยี่สิบปี
มาตรา 277 ….กระทำชำเราเด็กหญิงอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กหญิงนั้นยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี
….ถ้าการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตายต้องระวางโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต
การกระทำชำเราหมายถึงการที่ของลับของชายเข้าไปภายในของลับของหญิงเกินกว่า หนึ่งองคุลี โดยจะสำเร็จความใคร่หรือไม่ก็ ตาม (คำพิพากษาฎีกาที่ 1133/2509)
ใช้เฉพาะช่องสังวาสหรืออวัยวะสืบพันธ์เท่านั้นไม่ใช้กับช่องทวารหนัก(คำพิพากษาฎีกาที่ 1048/2518)
ที่มา : http://writer.dek-d....64733&chapter=8
Edited by คนผ่านมา, 3 กันยายน พ.ศ. 2555 - 09:56.
สิทธิตามระบอบประชาติปไตยมีไว้สำหรับให้เสื้อแดงผู้เรียกร้องประชาติปไตยเท่านั้น
ผู้อื่นห้ามใช้มิเช่นนั้นจะโดนประชาติปไตยลงโทษ
#41
ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2555 - 11:04
แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องจริง ขอให้เธอโดนยิ่งกว่าเรื่องที่เธอแต่งเป็นสิบเท่า
#42
ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2555 - 11:08
"ความดี กับ ความเลว
ความจริง กับ คำโกหก
ความถูกต้อง กับ การทำผิดกฎหมาย"
ถ้าเกิดเป็น คน ไม่ได้เกิดเป็น ควาย มันไม่ต้องให้ทายหรอก ว่าจะเลือกอย่างไหน
#43
ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2555 - 11:09
เจตนารมณ์ส่วนตัว
- ไม่ใช้ถ้อยคำที่คำหยาบคาย
- ไม่ต่อล้อต่อเถียงอย่างไม่มีเหตุผล
#44
ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2555 - 11:10
ไม่รู้การประท้วงเรียกร้องของพวกท่านๆ เนี้ยจะดึงให้มันตกต่ำไปถึงไหน
ล่อเอาเรท X มาเล่นด้วยอีก
เดี๋ยวก็คงมีแบบโดนทหาร อัดถั่วดำ มาเรียกร้องอีกมั้งเนี้ย
#45
ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2555 - 12:49
#46
ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2555 - 14:19
#47
ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2555 - 15:59
นางเอ(นามสมมติของคุณจรรยาภรณ์) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ ผ่านมา เดินทางมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มม็อบเสื้อแดง ที่สี่แยกราชประสงค์ เพราะเป็นคนรักประชาธิปไตย ช่วงกลางคืนจะกลับไปนอนพักผ่อนอยู่ที่บริเวณสวนลุมพินี
พอถึงรุ่งเช้าวันที่ 15 พ.ค. เดินออกจากสวนลุมฯ จะกลับบ้าน แต่ปรากฏว่าช่วงเวลาดังกล่าวมีทหารล้อมพื้นที่หมดแล้วทุกด้าน ไม่สามารถออกจากพื้นที่ได้ ขณะนั้นกลัวมาก จนกระทั่งเวลา 18.00 น. มีรถจักรยานยนต์รับจ้างคันหนึ่งมาจอด ถามว่าจะว่าจ้างให้ไปส่งหรือไม่ จึงว่าจ้างให้ไปส่งที่หน้าวัดปทุมวนาราม หลังจากที่ลงหน้าวัดแล้วเดินเท้ามาสี่แยกปทุมวัน พอมาถึงพบด่านเจ้าหน้าที่ มีลวดหนามขวางอยู่กลางถนน จึงเดินเลี่ยงเลี้ยวซ้ายไปทางแยกสามย่าน แต่ก็เจอคนที่เดินไปก่อนย้อนกลับมา เพราะเจอด่านสกัดอีกจึงย้อนกลับมาเช่นกัน
เหยื่อการกระชับพื้นที่ของรัฐบาล กล่าวต่อว่า หลังจากเดินไปสักพักสังเกตเห็นป้ายบอกทางสีเขียวระบุว่าไปราชเทวี จึงเดินไปตามทางก็พบด่านเจ้าหน้าที่อีกบริเวณปากซอยจุฬาลงกรณ์ 12 ถนนพระราม 1 เจ้าหน้าที่ขอตรวจค้นกระ เป๋าสะพาย มีบัตรนปช. และภาพถ่าย พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง จึงกักตัวไว้อยู่เป็นเวลานาน ขณะนั้นหงุดหงิดเพราะอยากกลับบ้าน จึงตะโกนด่าเจ้าหน้าที่ว่าเมื่อไหร่จะปล่อยให้กลับเสียที จากนั้นมีชายแต่งกายคล้ายทหารคนหนึ่งไม่พอใจ เดินตรงเข้ามาลากแล้วพาข้ามถนนมายังริมรั้วหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ก่อนบังคับให้ยกมือขึ้นไว้บนศีรษะ ชกเข้าที่ท้อง 2-3 ครั้ง จนจุกแต่ยังพอรู้สึกตัว
นางเอ กลาวว่า จากนั้นลากตัวไปตรงบันไดทางขึ้นภาควิชาการออกแบบอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นมุมอับ ห่างออกไปประมาณ 5 เมตร ก่อนลงมือข่มขืนกระทำชำเรา หลังจากนั้นยังเตะเพื่อปลุกให้ตื่น เมื่อตื่นขึ้นมาก็ไล่กลับบ้าน พอลุกขึ้นได้ก็รีบวิ่งหนีออกมาจากจุดเกิดเหตุทันที ขณะนั้นถนนโล่งมากไม่มีรถวิ่ง พอเดินไปได้ประมาณ 3-4 ป้ายรถเมล์ รู้สึกเจ็บท้องจึงนั่งพัก กระทั่งมาพบรถสามล้อจึงให้พาไปส่งบ้านพักย่านบางแค มาถึงบ้านเกือบเที่ยงคืน ตอนนั้นคิดอะไรไม่ออก ทําอะไรไม่ถูก ไม่กล้าไปแจ้งความ ไม่กล้าอาบน้ำ เพราะกลัวว่าหลักฐานจะหายไป
เหยื่อความรุนแรง กล่าวอีกว่า จนกระทั่งเช้าวันที่ 16 มิ.ย. จึงเดินทางมาที่พรรคเพื่อไทย เพื่อขอความช่วยเหลือ ได้รับคำแนะนำให้ไปแจ้งความที่สน.ปทุมวัน และเข้าตรวจร่างกายที่ร.พ.กลาง
ปรากฏรอยช้ำจากการถูกกัดเต็มไปหมด รวมไปถึงตรวจพบคราบอสุจิในร่างกาย
แพทย์ให้ยาฆ่าเชื้อและยาคุมกำเนิดมากิน รู้สึกเสียใจมาก และที่มาร่วมชุมนุมกับกลุ่มนปช. เป็นเพราะหลังจากเปลี่ยนรัฐบาลมาทำมาค้าขายไม่ดีเลย จึงมาร่วมชุมนุมตั้งแต่นปช.ปักหลักที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ พอย้ายเวทีมาที่แยกราชประสงค์ ก็ตามมาร่วมชุมนุมด้วย และชุมนุมจนกระทั่งเกิดเหตุร้ายขึ้น
อารายวะ เป็นเดือนแล้ว ยังมีคราบอสุจิ 555+ บ้าไปแล้ว
แต่...ถ้าอ่านทั้งหมดแล้วก็คือ เป็นเรื่องปั้นน้ำเป็นตัวทั้งนั้น มีโดนตามข่มขู่ด้วยนะ ลงรถมอไซค์โดนต่อยกรามแตกอีก
โอโฮ๊ะ แต่งเรื่องไม่เหมือนจริงเร๊ยยยยยย
ไม่ได้อาบน้ำเป็นเดือนด้วย
#48
ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2555 - 16:10
#49
ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2555 - 17:04
#50
ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2555 - 19:35
แล้วเงินที่เจ๊เสื้อแดงคนนี้ได้จากเสื้อแดงก็เยอะมาก ได้จากพรรคเพื่อไทย 2หมื่น จากแก๊งค์ลายจุดอีก 3หมื่น ได้เงินชดเชยจากโดนแก๊สน้ำตาอีกตั้งเกือบ 2แสน บาท นี่ไม่ได้บาดเจ็บอะไรนะ แค่มาชุมนุมกับเสื้อแดง 2 เดือน เจ๊ทำรายได้สูงมาก สุดยอด
ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน