มาตรา ๑๗ ให้คณะกรรมการ ป.ป.ท. มีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) เสนอนโยบาย มาตรการ และแผนพัฒนาการป้องกันและปราบปรามการทุจริตใน
ภาครัฐต่อคณะรัฐมนตรี
(๒) เสนอแนะและให้คำปรึกษาแก่คณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการปรับปรุงกฎหมาย กฎ
ข้อบังคับ หรือมาตรการต่าง ๆ เพื่อป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ
(๓) เสนอแนะต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการกำหนดตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ซึ่งต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามพระราชบัญญัติประกอบ
รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
(๔) ไต่สวนข้อเท็จจริงและชี้มูลเกี่ยวกับการกระทำการทุจริตในภาครัฐของเจ้าหน้าที่ของรัฐ
(๕) ไต่สวนข้อเท็จจริงและสรุปสำนวนพร้อมทั้งความเห็นส่งพนักงานอัยการเพื่อฟ้อง
คดีอาญาต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ
(๖) จัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปีเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร
วุฒิสภา และคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทราบด้วย
(๗) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อดำเนินการตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ท. มอบหมาย
(๘) ปฏิบัติการอื่นตามพระราชบัญญัตินี้ หรือการอื่นใดเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปราม
การทุจริตในภาครัฐตามที่คณะรัฐมนตรีหรือคณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมาย
อำนาจคือ ... ไต่สวน แล้ว บอก รัฐบาล ปปช อัยการ... ไม่ใช่ ลงพื้นที่ ได้ข้อสงสัย ... แล้วแถลงข่าว...
ว่าเจอนั่นเจอนี่...
ถามว่า ข้อที่สงสัยกันนั้นว่า ทุจริต... เป็นของเท็จจริง หรือ ข้อสงสัย...
ถามว่า สิ่งที่แถลง เป็น ผลสุดท้ายของการ ไต่สวน หรือ ผลเบื้องต้น...
เอ่อ...แต่เฮนไตโพสไว้ที่ความเห็นที่แล้วว่า "สิ่งที่ต้องทำคือ แจ้งฝ่ายการเมืองให้แก้ไข ก่้อน เพราะเป็น นโยบายจากฝ่ายการเมือง..."
มันก็ไม่มีในมาตรา 17 ที่เฮนไตอ้างมานะครับ