พยัคฆ์ที่ไม่จมน้ำผงาด (The Unsinkable Tiger Rises) เมื่อผลการทดสอบระบายน้ำดีเกินคาด!
#1
Posted 6 September 2012 - 08:39
ผลทดสอบระบายน้ำฉลุย "รอยล" ยิ้มพอใจขุดลอกคูคลองได้ผล
วันนี้ (5 ก.ย.) นายรอยล จิตรดอน ผอ.สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.) ในฐานะคณะอนุกรรมการติดตาม วิเคราะห์สถานการณ์น้ำและจัดสรรน้ำ ในคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เปิดเผยว่า ภายหลังจากคณะทำงานเริ่มปฏิบัติการเดินเครื่องทดสอบประสิทธิภาพการระบายน้ำ ในพื้นที่ปลายน้ำ ตั้งแต่เวลา 14.02 น. โดยสั่งเปิดประตูน้ำคลองทวีวัฒนา 50 เซนติเมตร และเพิ่มขึ้นตามลำดับ เพื่อจากปล่อยน้ำจากคลองมหาสวัสดิ์เข้าคลองทวีวัฒนา โดยระดับน้ำที่คลองมหาสวัสดิ์ก่อนเปิดประตูน้ำอยู่ที่ 94 เซนติเมตร ทั้งนี้การสั่งการเริ่มตั้งแต่นายปลอดประสพ โฟนอินเข้ามายังศูนย์ปฏิบัติการฯ แจ้งความพร้อม ผู้แทนจาก กทม. ประสานกับกรมชลประทาน เพื่อเปิดประตูระบายน้ำในระดับที่กำหนดไว้ หรือที่ 50 เซนติเมตร และเพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยให้ข้อมูลเป็นระยะ พร้อมทั้งสรุปสถานการณ์การทดสอบทุก 1 ชั่วโมง
โดยข้อมูลระดับน้ำที่คลองทวีวัฒนาเมื่อเวลา 14.10 น. เพิ่มจาก 60 เซนติเมตร เป็น 66 เซนติเมตร ส่วนน้ำที่ปลายคลองทวีวัฒนาตัดกับคลองภาษีเจริญ อยู่ที่ 22 เซนติเมตร จากเดิม 20 เซนติเมตร ส่วนระดับความเร็วของน้ำที่เพิ่มขึ้นหลังใช้เรือผลักดันน้ำ เมื่อเวลา 14.35 น. ระดับความเร็วของน้ำอยู่ที่ 15 ลบ.ม/วินาที ระดับน้ำในคลองทวีวัฒนาอยู่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ 4-5 เซนติเมตร ซึ่งข้อมูลระดับน้ำทั้งหมดจะส่งตรงเข้ามายังศูนย์ปฏิบัติการ การทดสอบฯ ที่ สสนก. ซอยรางน้ำ อาทิ ข้อมูลจากเครื่องวัดระดับน้ำอัตโนมัติทั้ง 11 สถานี สถานีเรดาห์วัดน้ำฝนทั้งในและนอกพื้นที่ โดยกรมอุทกศาสตร์
ดร.รอยล กล่าวอีกว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.20 น. ได้มีฝนตกในบริเวณที่ทำการทดสอบ ประมาณ 5.5 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งต่ำกว่าค่าที่ตั้งไว้ และน้อยกว่าปริมาณฝนเมื่อวาน (4 กย.) ซึ่งอยู่ที่ 16 มิลลิเมตร จึงไม่มีผลต่อการทดสอบ และเมื่อเวลา14.50 น. คณะทำงานได้ตัดสินใจปล่อยน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 12 ลบ.ม. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการขุดลอกคูคลองที่ดำเนินการไปก่อนหน้านี้เป็นไปอย่างถูกต้อง และได้ผลเกินคาด โดยระดับน้ำคลองทวีวัฒนาตัดกับคลองภาษีเจริญ อยู่ที่ 20 เซนติเมตร เมื่อเวลาประมาณ 15.00-16.00 น.
หลังจากนั้นได้ปล่อยน้ำเข้าสูงสุดตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ พร้อมทั้งเปิดเครื่องผลักดันน้ำทั้งระบบ ก่อนที่คณะทำงานจะตัดสินใจยุติการทดสอบในเวลา 17.00 น. ซึ่งเร็วกว่ากำหนดการเดิม 1ชั่วโมง โดยรอให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นผู้สั่งการปิดประตูระบายน้ำคลองทวี วัฒนา เนื่องจากได้รับข้อมูลทดสอบที่เพียงพอแล้ว โดยระดมสูบน้ำที่ผ่านคลองทวีวัฒนาออกทางแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนน้ำที่ผ่านคลองพระยาราชมนตรี จะสูบลงคลองสนามชัย โดยใช้เครื่องสูบน้ำของกรมชลประทาน
ดร.รอยล กล่าวสรุปผลการทดสอบครั้งนี้ ว่า ขณะเดินเครื่องผลักดันน้ำบางส่วน ทำให้ประสิทธิภาพการระบายของคลองฝั่งตะวันตกเพิ่มขึ้น จาก 7 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เป็น 11 ลูกบาศก์เมตร/วินาที และขณะที่เดินเครื่องผลักดันน้ำเต็มศักยภาพ ประสิทธิภาพการระบายน้ำอยู่ที่ 17 ลบ.ม. ต่อวินาที ซึ่งไม่ทำให้เกิดน้ำท่วม และจากการติดตาม ทุกจุดไม่พบการล้นตลิ่งขณะทดสอบ แม้จะมีฝนตกลงมาในระดับปานกลาง.
http://www.dailynews...politics/153551
#2
Posted 6 September 2012 - 08:53
ประชาธิปไตยแบบแดง: 1. ไม่ใช่แดง เป็นประชาธิปไตยไม่ได้ 2. เสียงส่วนใหญ่ คือเสียงถูกต้อง 3. กฎพวกพ้องต้องเหนือกฎหมาย 4. เบื้องสูงมีไว้เหยียบย่ำ 5. ใครทำก็ผิด แต่แดงต้องไม่ผิด 6. คิดร้ายต่อทักษิณย่อมชั่ว 7. มั่วบิดเบือนหลอกพวกเดียวกัน 8. ปั้นน้ำเป็นตัวแล้วแถ
#3
Posted 6 September 2012 - 08:54
- -3-, David_GinoLa and pream like this
#4
Posted 6 September 2012 - 08:55
สงสารเดี๋ยวเบิกบัตรเติมเงินไม่ได้
เพราะไม่มียอดวิว
#6
Posted 6 September 2012 - 08:59
#7
Posted 6 September 2012 - 09:05
ผมมีนักวิชาการที่ออกมาวิจาร์ณหลังการทดสอบจะเอาไหม?ตอนนี้นักวิชาการมุดหนีลงรูไปหมด ก่อนหน้าที่ออกมาวิจารณ์คัดค้านการทดสอบ กลัวว่าปล่อยน้ำแล้วจะทำให้บ้านเรือนเสียหาย ตอนนี้หายไปไหนหมดครับ
อ่านไม่หมดเสียมากกว่า
ผมชักสงสัยสำนวน พยัคผงาด มันตรงกับพยัคติดปีกของปุก เหลือเกิน
#8
Posted 6 September 2012 - 09:07
#9
Posted 6 September 2012 - 09:11
55555555555555555555555
ถามจริง ดร รอยล ทดสอบครั้งนี้ ต้องการผลไรว้า ลงทุนไปเท่าไร อย่าแค่
ปล่อยน้ำออกมาแล้ว บอก ไชโย น้ำไม่ท่วมแล้ววุ้ย มัน เด็ก ๆ อ่ะ
5555555555555555555555555
#10
Posted 6 September 2012 - 09:14
#11
Posted 6 September 2012 - 09:16
แถมเหน็บปชช.กทม.ขี้กลัวตื่นเต้นตกใจกันไปได้ ...
ดูถูกนักวิชาการน้ำ แล้วมีแม่ของไอตัวไหนที่บอกว่าให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยรบ.นี้
หอกหักเอ้ย ใครจะอยากเข้ามาช่วยฟะ เห็นค วายกะเห้ เดินกันเพ่นพ่าน
สรุปมาได้.........
คุณต้องลงมือ จึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลง "คานธี"
กฏของเสียงข้างมาก จะใช้กับเรื่องของมโนธรรมไม่ได้ "คานธี"
#12
Posted 6 September 2012 - 09:16
จากการทดสอบสรุปผล ปีนี้ "เอาอยู่"น้ำไม่ท่วมแน่นอนถึงฝนจะตกหนัก
ไม่ท่วมที่ไหนหรือครับ กรุงเทพที่เดียวใช่หรือเปล่า
สำหรับผม ถ้าน้ำมันมาอย่างปี แล้ว ยังไงมันก็ท่วมครับ จากใจเลย
- ฉันรักเมืองไทย likes this
กฎหมายมันก็แค่สิงที่สร้างมาอย่างมีเป้าหมาย แต่หาก เอาแต่บอกว่ากฎหมายเป็นแบบนี้ แบบนั้น โดยไม่สนใจว่าเป้าหมายจริงๆ นันคืออะไร ก็คงไม่ใช่
#13
Posted 6 September 2012 - 09:18
แต่หากอยากจะมีความรู้เพิ่มดูที่
http://webboard.seri...ๆท/page__st__50
#14
Posted 6 September 2012 - 09:18
คุมปล่อยน้ำเองถ้าท่วมก็ควายละ
แต่เอ๊ะ ก็ควายมันปล่อยน้ำนี่หว่า
#15
Posted 6 September 2012 - 09:19
ถ้าเจอปริมาณน้ำเหมือนปีที่แล้ว ระบบที่สร้างขึ้นมาก็อาจจะใช้ไม่ได้ผล
อาจจะท่วมเหมือนเดิม แต่จะท่วมในระยะเวลาที่สั้นลง
ซึ่งน้ำท่วมแล้วความเสียหายยังไงก็ต้ิองเกิด
จะเรียกว่า พยัคฆ์ไม่จมน้ำผงาด ไม่ได้ เพราะเป็นเพียง พยัคฆ์ลอยคอเหนือน้ำเท่านั้น
Edited by Majestic, 6 September 2012 - 09:19.
#16
Posted 6 September 2012 - 09:20
- เดอะอำมาตย์ and ฉันรักเมืองไทย like this
"ถึงเวลาแล้วที่ใครมีอาวุธชนิดไหนก็ต้องจับขึ้นมาใช้รบกับมัน”
#17
Posted 6 September 2012 - 09:30
ปล.อวยพรกันเองครึ้นเครงในกะลา
Edited by บุคคลทั่วไป, 6 September 2012 - 09:31.
#18
Posted 6 September 2012 - 09:34
ปาหี่ผลาญงบ ทดสอบปล่อยน้ำ แล้วกระโดดโลดเต้นร้องเย้ๆ ปีนี้น้ำไม่ท่วมว๊อย
เด๊๋ยวเจอของจริงเข้าให้ ไอ้ปลอดมันจะว่ายังไง ยังไม่มีใครลืมคำที่มันพ่นเอาไว้ "ดอนเมืองน้ำไม่ท่วมแน่นอน เอารถมาจอดได้เลย"
#20
Posted 6 September 2012 - 09:35
อย่ามาร้อง "เอ๋งๆๆ" เหมือนหมาอีกนะ....
#21
Posted 6 September 2012 - 09:35
#22
Posted 6 September 2012 - 09:36
การที่ทางรัฐบาล จะทำการทดสอบระบายน้ำเข้ากรุงเทพมหานคร ในวันที่ 5-7 กันยายน นี้เป็นการปล่อยน้ำเพียง 20-30% แต่คลองสามารถรับน้ำได้ถึง 100% ก็สามารถรองรับน้ำได้อยู่แล้ว เพราะน้ำปล่อยมาแค่เล็กน้อย และบุคคลทั่วไป ก็สามารถคำนวณได้ว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่ง แต่หากจะทดลองน้ำบ่า โดยนำหลักการของมืออาชีพแล้ว ต้องมีแบบจำลอง และทดลองในห้องแล็บเท่านั้น อีกทั้งเชื่อว่า เรื่องดังกล่าว ก็อาจจะเป็นเพียงการโปรโมทผลงานของรัฐบาล และหากมีพายุเข้า รัฐบาลคงไม่ทำการทดลอง
"จะทดลองน้ำบ่า มันทดลองไม่ได้ เพราะว่า ถ้าน้ำบ่าคือ ท่วมเลย เพราะฉะนั้น โดยหลักการแล้ว ต้องมีแบบจำลองที่สร้างในห้องแล็บ แล้วก็ทดลองน้ำบ่ามา นี้คือมืออาชีพเค้าทำกัน" นายเสรี กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายเสรี ยังกล่าวว่า การทดลองดังกล่าว จะไม่เกิดประโยชน์อะไรต่อประชาชน และเชื่อว่าปีหน้าน้ำจะแล้งอย่างแน่นอน เนื่องจากปีนี้ มีน้ำในเขื่อนเพียง 40% พร้อมทั้งให้คิดเอาเองว่า ทดลองปล่อยน้ำจะเสียน้ำโดยเปล่าหรือไม่
http://news.sanook.c...กรุง-แค่โปรโมท/
AMAZING coup d'etat , THAILAND ONLY ..
#23
Posted 6 September 2012 - 09:37
#24
Posted 6 September 2012 - 09:39
แต่ก้ออยู่ที่ว่า...ที่ทดสอบไป..จะเอาอยู่ หรือเปล่า กับของจริงที่กำลังมา
เรื่องทดสอบ..มันก้อแค่เรื่องปาหี่ของไอปลอดมันเท่านั้น
พยายามสร้างภาพให้ตัวมันดูดีเท่านั้นแหล่ะ เรื่องหมกเม็ดมีอีกเพียบ
รอ...พยัคฆ์ปีกหัก...ตกมาคอหักตายดีกว่า
ลูกหลานที่รัก จงจำปฏิปทานี้ไว้ “ถ้ามีความจำเป็นเราต้องเสียสละเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และปวงชนชาวไทย แม้แต่ชีวิตก็ต้องยอม”
#25
Posted 6 September 2012 - 09:44
บ้านอยู่อำเภออะไรวานบอก...เอาท่วมแค่ไหนก็ได้นะครับ
เดี๋ยวคุยกับน้องฝนให้นะครับ
ประชาธิปไตยแบบแดง: 1. ไม่ใช่แดง เป็นประชาธิปไตยไม่ได้ 2. เสียงส่วนใหญ่ คือเสียงถูกต้อง 3. กฎพวกพ้องต้องเหนือกฎหมาย 4. เบื้องสูงมีไว้เหยียบย่ำ 5. ใครทำก็ผิด แต่แดงต้องไม่ผิด 6. คิดร้ายต่อทักษิณย่อมชั่ว 7. มั่วบิดเบือนหลอกพวกเดียวกัน 8. ปั้นน้ำเป็นตัวแล้วแถ
#26
Posted 6 September 2012 - 09:46
ขนของหนีน้ำเหนื่อยฟรี...ไม่น่าหลงเชื่อแมงสาปเลยตรู
#27
Posted 6 September 2012 - 09:47
/人= 3 =人\
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Hello, I'm a Kyubey /人◕ ‿‿ ◕人\
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Please Make a contract with me and become a Magical girl! /人◕ ‿‿ <人\
ข้าพเจ้าขอสนับสนุนท่านผู้นำที่น่ารักที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ!!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!!
#28
Posted 6 September 2012 - 09:47
#29
Posted 6 September 2012 - 09:50
ทำตัวเหมือนเจ้ากรมกร๊วก หรือวิทยุกรมประชาสัมพันธ์ยุคโบราณสังคโลกปลอม
เสรี เตือน กทม.น้ำท่วมปีนี้ไม่มาก แต่มาเร็ว-แรงขึ้น
ดร.เสรี เตือน กทม.-ปริมณฑล เสี่ยงน้ำท่วม แม้ปริมาณน้ำไม่มาก แต่มาเร็วและแรงขึ้น เหตุพื้นที่ตอนบนทำคันกั้นน้ำหมด จวก แผนป้องกันน้ำของรัฐบาลยังไม่ชัดเจน ต่างฝ่ายต่างทำ ไม่ประสานงานกัน
คนไทยต้องกลับมาเกาะติดสถานการณ์อุทกภัยอีกครั้ง หลังจากเมื่อช่วง 2 สัปดาห์ก่อน ได้เกิดน้ำท่วมในหลายจังหวัดทางภาคเหนือ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า หากพื้นที่ต้นน้ำไม่สามารถบริหารจัดการน้ำให้ดีแล้ว ก็มีสิทธิ์ที่เกิดอุทกภัยใหญ่เป็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอย่างปีที่แล้วได้ ฉะนั้น ช่วงเวลานี้ หลายคนจึงเริ่มหวั่นวิตกถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และสงสัยว่า ปีนี้จะเกิดอุทกภัยครั้งแรกเหมือนในปีที่แล้วหรือไม่
เพื่อไขข้อข้องใจในเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวเว็บไซต์ "มติชนออนไลน์" ได้ไปสอบถาม รองศาสตราจารย์ ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยภัยธรรมชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต ที่ทุกคนรู้จักกันดีในสถานการณ์น้ำท่วมปีที่ผ่านมา
คำถามแรกที่คนเมืองสงสัยมากที่สุดก็คือ ปีนี้น้ำจะท่วมกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเหมือนปีที่แล้วหรือไม่ ดร.เสรี กล่าวว่า ขณะนี้ ความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีไม่เกิน 20% แต่ต้องมีข้อมูลเรื่องฝน เรื่องพายุเข้า ความรุนแรงของมรสุมเข้ามาเป็นปัจจัยให้คำนวณได้แม่นยำขึ้น
อย่างไรก็ตาม ดร.เสรี ระบุว่า หากปีนี้น้ำจะท่วม น้ำคงมาในระดับปี พ.ศ.2549 คือ ปริมาณน้ำน้อยกว่าปีที่แล้ว แต่ความรุนแรงอาจมากขึ้นก็ได้ และน้ำจะมาเร็วขึ้น เนื่องจากพื้นที่ในจังหวัดด้านบน เช่น นิคมอุตสาหกรรม ชุมชนเทศบาล ป้องกันน้ำกันหมด ยกคันขึ้นสูง 50 เซนติเมตร เกือบทั้งหมด ทำให้น้ำที่เจอคันกั้นมีระดับสูงขึ้น หากล้นมาได้ น้ำจะมาเร็วและแรงขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่เป็นพื้นที่ต่ำ ต้องรับน้ำที่มาแรงขึ้นแน่นอน
ถ้าเช่นนั้น โครงการทำแนวป้องกันน้ำจะสามารถช่วยป้องกันน้ำท่วมได้มากน้อยแค่ไหน เรื่องนี้ ดร.เสรี ระบุว่า ยังประเมินได้ยากมาก เพราะเหลือเวลาอีกแค่ 5 เดือน แต่บางแห่งยังทำโครงการไม่เสร็จ บางแห่งก็ยังทำไม่ได้ ชาวบ้านในพื้นที่รับน้ำนองก็ยังไม่ทราบว่าที่ดินของตัวเองจะต้องรับน้ำ รัฐบาลยังไม่ประกาศ เพราะมาตรฐานการจ่ายเงินต่างกัน และไม่ชัดเจน กลัวจะเกิดความขัดแย้งเพิ่มขึ้นมาอีก
นอกจากนี้ ดร.เสรี ยังระบุด้วยว่า การจัดการในระดับล่างยังไม่มีการสานต่อ เพราะข้าราชการในพื้นที่ไม่อยากไปเผชิญปัญหา ขณะเดียวกัน คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาน้ำท่วมก็ยังมีความคิดเห็นที่ไม่สอดคล้องกันหลายเรื่อง ดังนั้น รัฐบาลควรแจ้งให้ประชาชนเตรียมตัว เพราะประชาชนในหลายพื้นที่คิดว่าโครงการของภาครัฐทำได้ จึงไม่ได้เตรียมตัวไว้เผื่อโครงการทำไม่สำเร็จ
เมื่อถามว่า การเตรียมการเรื่องฟลัดเวย์ไปถึงไหน ดร.เสรี กล่าวว่า สำหรับฟลัดเวย์จะทำเป็นฟลัดเวย์ถาวร ทั้งฝั่งขวาและฝั่งซ้าย แต่เรื่องเส้นทางยังมีการเก็บไว้เป็นความลับอยู่ เพราะกลัวจะเกิดปัญหาเรื่องการเก็งกำไร แต่เท่าที่ทราบมาก็คือ นักการเมืองซื้อไปหมดแล้วจึงไม่ต้องห่วงเรื่องเก็งกำไร ส่วนฟลัดเวย์น้ำจะทำเป็นคันกั้นชั่วคราว ยาวประมาณ 350 กิโลเมตร ป้องกันไล่มาตั้งแต่แม่น้ำป่าสัก ลงมาคลองพระยาบันลือ จะผ่าน 3 เส้นทาง คือ
จุดที่ 1 กั้นริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งหมด ตั้งแต่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาลงมาถึงปทุมธานี หากใครอยู่ริมน้ำเจ้าพระยาต้องสังเกตว่า ทางราชการได้ไปเสริมถมถนนหรือยัง
จุดที่ 2 จะทำคันดินริมฝั่งซ้ายของแม่น้ำท่าจีน เพื่อป้องกันพื้นที่อุตสาหกรรม ส่วนปล่อยฝั่งขวาเป็นไปตามธรรมชาติ
จุดที่ 3 ทางด้านฝั่งตะวันออก จะมีการทำคันจากคลองระพีพัฒน์ลงไปคลอง 13 และลงไปคลองด่าน ดังนั้น ในปีนี้ คนที่อยู่ฝั่งซ้ายของคลองแปดริ้ว จะเจอกับสภาพน้ำท่วม
ผอ.ศูนย์วิจัยภัยธรรมชาติ กล่าวด้วยว่า หน่วยงานที่จัดการเรื่องน้ำมีแนวคิดออกมาว่าให้ใช้จังหวัดนครปฐมเป็นฟลัดเวย์ ซึ่งแนวคิดนี้ถูกต่อต้านจากชาวบ้านเป็นอย่างมาก เพราะไปตรงจุดไหนก็ไม่มีใครอยากทำคันกั้น หลักคิดง่าย ๆ ก็คือ สมมติบ้านเราอยู่ฝั่งนี้แล้วไปทำดินกั้น อีกฝั่งน้ำจะไม่ท่วม มันเป็นไปไม่ได้ แสดงให้เห็นว่าการบริหารจัดการผิดตั้งแต่หลักคิดแล้ว ทำให้โครงการป้องกันน้ำยังทำไม่สำเร็จ เพราะเกิดความขัดแย้ง ทีนี้ เมื่อกั้นน้ำไม่ได้ มีช่องโหว่เป็นจุด ๆ ยังไงเสียน้ำก็ทะลักมาท่วมเหมือนเดิม และอาจจะท่วมหนักในพื้นที่ท้ายน้ำ เพราะเหลือเวลาอีกไม่มาก คันกั้นน้ำทำไม่เสร็จแน่นอน
ทั้งนี้ ดร.เสรี ยังกังวลเป็นอย่างมากว่า ผู้บริหารข้างบนยังไม่ค่อยรู้ว่า ในแต่ละท้องถิ่นมีปัญหาอะไรบ้าง ทำไมหลายพื้นที่ถึงยังทำคันกั้นน้ำไม่ได้ แม้นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ไปดู แต่ภาพที่เห็นเป็นคนละเรื่องกับสิ่งที่ตนลงไปดูในพื้นที่ เพราะคนข้าง ๆ นายกฯ ก็พูดแต่ "ดีครับนาย ได้ครับผม" ทั้งที่ความจริงต้องให้ข้อเท็จจริง เพื่อแก้ไขปัญหา ข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ตนเคยประชุมกับนายกฯ ตั้งแต่เดือนมกราคม และขอให้ประเมินขั้นตอนก่อนจะออกมาเป็นแผนแม่บท แต่สุดท้ายก็ไม่มีการประเมิน จนวันนี้ ผ่านมา 6 เดือน ก็เห็นแล้วบางแผนนำไปปฏิบัติไม่ได้ แล้วก็เกิดคำถามตามมาว่า ทำไมทำไม่ได้ ตอนนี้ไม่มีใครตอบได้ว่า ถ้าน้ำมาเหมือนเดิมจะท่วมหรือไม่ท่วม
ดร.เสรี ยกตัวอย่างเช่น บางระกำโมเดล ที่ทุกคนบอกป้องกันน้ำท่วมได้ แต่ตอนนี้น้ำท่วมบางระกำกว่า 600 ล้านลูกบาศก์เมตร ทั้งที่พื้นที่บ่อน้ำมี 30 ล้านลูกบาศก์เมตร ข้อมูลที่ออกมาจึงเพี้ยนไปหมด ส่วนเรื่องแผนเผชิญเหตุที่บอกมาว่าเตรียมไว้แล้ว ตนก็ได้ถามว่า แผนเผชิญเหตุเป็นอย่างไร หากมีคำสั่งให้ปิดประตูน้ำ แต่มีชาวบ้าน 1,000 คน ออกมาคัดค้านไม่ยอมให้ปิดประตูน้ำ จะทำเช่นไร ข้าราชการกลับตอบว่า ให้หนี แม้จะผิดคำสั่งผู้บังคับบัญชา แต่ก็ดีจะได้ย้ายไปอยู่ที่อื่น สรุปว่านี่คือแผนเผชิญเหตุใช่หรือไม่
หลายคนสงสัยว่า การสร้างเขื่อนป้องกันนิคมอุตสาหกรรมเป็นเรื่องที่ถูกต้องทางวิทยาศาสตร์หรือไม่ ดร.เสรี ชี้ว่า เป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะนิคมอุตสาหกรรมเป็นพื้นที่ที่สำคัญ อย่างปีก่อนเสียหายไปกว่า 1 ล้านล้านบาท เพียงแต่ทำไปแล้วไม่ออกมาบอกประชาชนว่า น้ำจะไปท่วมบ้านเรือนประชาชนหรือไม่ และไม่มีใครกล้าลงไปเผชิญความขัดแย้ง ทำให้พื้นที่รอบนิคมฯ มีความขัดแย้งเกิดขึ้น เพราะไม่มีการประเมิน หากประเมินว่า คันกั้นนิคมฯ จะทำให้น้ำรอบนอกสูงขึ้นอีกเท่าไหร่ก็ต้องบอกประชาชนไปตรง ๆ และควรจ่ายเงินชดเชยให้ประชาชนที่ต้องแบกรับน้ำแทนนิคมฯ ด้วย
ดร.เสรี กล่าวด้วยว่า ปัญหาสำคัญคือหน่วยงานราชการยังประสานงานกันเองไม่ลงตัว ประชาชนยังไม่รู้ข้อมูล เช่น กรณีจังหวัดสุพรรณบุรี และชัยนาทเมื่อปีก่อน มีการตกลงในจังหวัดสุพรรณบุรีว่า น้ำจะเข้าทุ่งหลัง 15 กันยายน ให้รีบเก็บเกี่ยว แต่คนชัยนาทไม่รู้เรื่องนี้ พอน้ำทะลักท่วมตลาดวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท แต่ในจังหวัดสุพรรณบุรียังไม่ท่วม คนก็พากันไปพังประตูน้ำ เพื่อให้น้ำเข้าทุ่งเร็ว ๆ สุดท้าย จังหวัดสุพรรณบุรีก็ถูกน้ำท่วมหนัก นี่คือความขัดแย้งที่บานปลาย ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการภัยพิบัติในทุกภาคส่วนต้องมาคุยกันก่อน
สุดท้าย ผู้สื่อข่าวให้ ดร.เสรี ประเมินว่า มาถึงวันนี้ รัฐบาลเตรียมตัวรับอุทกภัยได้กี่เปอร์เซ็นต์แล้ว ดร.เสรี ยอมรับว่า วัดได้ยากมาก เพราะตอนนี้แต่ละฝ่ายต่างคนต่างทำ เราไม่มีทางรู้ได้ว่า ชุมชนนี้จะป้องกันได้สูงระดับไหน จะทำเขื่อนกั้นน้ำสูงได้แค่ไหน งบประมาณอยู่ไหนก็ไม่มีใครรู้ แต่ที่แน่ ๆ ก็คือ หากน้ำท่วมมาอีก น้ำเหล่านี้จะไหลลงสู่พื้นที่ด้านล่างคือกรุงเทพมหานครและปริมณฑลอย่างแน่นอน แต่คนที่ถูกท่วมปีที่แล้วจะป้องกันได้ เพราะผ่านเหตุการณ์มาแล้ว ส่วนคนที่ไม่เจอน้ำท่วมปีที่แล้วจะชะล่าใจไม่ทำอะไร จึงเสี่ยงที่จะถูกน้ำท่วมในปีนี้
http://thaiflood.kap.../view42558.html
AMAZING coup d'etat , THAILAND ONLY ..
#30
Posted 6 September 2012 - 09:50
ปล่อยน้ำ 3 ลบม./วินาที
อยากจะถ่มน้ำลายฟะ...
ทำแอ๊คอ๊าด...แล้วมาบอกว่าสำเร็จ
ของจริงที่เขาทำกันแต่ก่อนปล่อยน้ำมากกว่านี้อีก
แต่ขอโทษเขาไม่เห็นมาสร้างภาพแบบนี้เลย
ไปเช็คกับกรมชลฯดูได้
ที่ทำใหญ่โตก็ไม่มีอะไรหรอกจะบอกให้
งบป้องกันน้ำท่วมที่กู้เอาไปใช้ มันมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันแบบงานนี้บ้างละ
#31
Posted 6 September 2012 - 09:54
ตอนนี้นักวิชาการมุดหนีลงรูไปหมด ก่อนหน้าที่ออกมาวิจารณ์คัดค้านการทดสอบ กลัวว่าปล่อยน้ำแล้วจะทำให้บ้านเรือนเสียหาย ตอนนี้หายไปไหนหมดครับ
จขกท. ดีจั๋ยด้วยนะ.. ปล่อยน้ำเท่านี้..ทำดีใจ โธ่ไม่น่าเล้ย
Edited by Tango, 6 September 2012 - 09:55.
#33
Posted 6 September 2012 - 10:08
น้ำไม่ท่วมคือสำเร็จแล้ว?
...รากเอ้ย
- ปล่อยน้ำไม่ถึง 1 ใน 3 ของปริมาณที่กำหนด จะทดลองเชิงประจักษ์ได้อย่างไร เอาบัญญัติไตรยางค์คิดเหรอ?
- ปล่อยให้น้ำท่วมบางพื้นที่จากการส่งน้ำมาทดลองโดยไม่บอกเขาก่อนแล้วไม่รับผิดชอบความเสียหายเนี่ยะนะ
คือความสำเร็จ? - เอาเครื่องดันน้ำตัวเท่ามดมาทดลองดันในคลองแคบๆ ทำทำไม จะบัญญัติไตรยางค์เอาเหรอ?
- น้ำถูกผลักดันลงทะเลเปล่าๆปลี้ๆ พอคนถามถึงกรณีถ้าเกิดปีนี้แล้งแทนล่ะจะทำไง ก็เป็นใบ้
- วันนี้ฝนเริ่มตกหนักให้เห็นในกรุงเทพฯแล้ว การทดลองจะเป็นยังไงยังไม่มีใครรู้ อย่าเพิ่งบ้า
- คลองลาดพร้าวที่ไอ้สมาชิกพรรคเพื่ิอไทยมาติดป้ายประกาศทั่วเขตว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลน่ะ ได้ทำหรือยัง?
Edited by ม่านน้ำ, 6 September 2012 - 10:13.
#34
Posted 6 September 2012 - 10:11
"ความดี กับ ความเลว
ความจริง กับ คำโกหก
ความถูกต้อง กับ การทำผิดกฎหมาย"
ถ้าเกิดเป็น คน ไม่ได้เกิดเป็น ควาย มันไม่ต้องให้ทายหรอก ว่าจะเลือกอย่างไหน
#35
Posted 6 September 2012 - 10:26
เจตนารมณ์ส่วนตัว
- ไม่ใช้ถ้อยคำที่คำหยาบคาย
- ไม่ต่อล้อต่อเถียงอย่างไม่มีเหตุผล
#36
Posted 6 September 2012 - 10:31
น้ำที่ทดสอบ 3 ลบม/วินาที
ข้อมูลที่เขื่อนภูมิพล บอกว่าำจะเริ่มแล้งจึงชะลอการระบายน้ำให้เหลือการปล่อยออกที่ี 3 ล้าน ลบ ม/ วัน
หารด้วยมันสมองน้อยๆ 3,000,000/24/60/60= 34.7 ลบม/วินาที นี่เขื่อนเดียวนะครับ
10 เท่า ของที่ทดสอบแบบไม่มีัจัยด้าน น้าฟ้า(ฝน)และ น้ำท่า(จากแหล่งอื่นมาแจม)
ปีที่แล้วเพราะอยากได้น้ำเยอะ(กะทำนา3ปี/ครั้งเข้าโครงการจำนำ)เลยเก็บไว้จนล้นเขื่อน
พอดีพายุมาแค่ไม่เกิน 5ลูกมั้งเลยปรับแผนไม่ทันปล่อยออกมาพร้อมกันทุกเขื่อน
อย่าเถียงว่ารัฐบาลเก่าเขากักน้ำไว้แกล้งอีกนะครับ
วันที่สั่งเก็บน้ำต่อมีมติครม ยุคไว้ลาย รับรองกรณีนี้ด้วย
แต่สรุปว่า ปีนี้ปล่อยน้ำเล่นๆ โดยความคิดอะไรไม่รู้(แต่เสียงบนะ)
โดยที่ต้องดึงน้ำออกมาจากระบบชลประทาน ที่กำลังกลัวเกิดภาวะภัยแล้ง
เคราะห์ซ้ำกรรมซ้อน ปีนี้ถ้าไม่มีมรสุมเข้า โดนภัยแล้งเต็มๆ
- ฉันรักเมืองไทย likes this
#37
Posted 6 September 2012 - 10:33
เอ่อ พยัคฆ์คุดอะไรครับ
น้ำที่ทดสอบ 3 ลบม/วินาที
ข้อมูลที่เขื่อนภูมิพล บอกว่าำจะเริ่มแล้งจึงชะลอการระบายน้ำให้เหลือการปล่อยออกที่ี 3 ล้าน ลบ ม/ วัน
หารด้วยมันสมองน้อยๆ 3,000,000/24/60/60= 34.7 ลบม/วินาที นี่เขื่อนเดียวนะครับ
10 เท่า ของที่ทดสอบแบบไม่มีัจัยด้าน น้าฟ้า(ฝน)และ น้ำท่า(จากแหล่งอื่นมาแจม)
ปีที่แล้วเพราะอยากได้น้ำเยอะ(กะทำนา3ปี/ครั้งเข้าโครงการจำนำ)เลยเก็บไว้จนล้นเขื่อน
พอดีพายุมาแค่ไม่เกิน 5ลูกมั้งเลยปรับแผนไม่ทันปล่อยออกมาพร้อมกันทุกเขื่อน
อย่าเถียงว่ารัฐบาลเก่าเขากักน้ำไว้แกล้งอีกนะครับ
วันที่สั่งเก็บน้ำต่อมีมติครม ยุคไว้ลาย รับรองกรณีนี้ด้วย
แต่สรุปว่า ปีนี้ปล่อยน้ำเล่นๆ โดยความคิดอะไรไม่รู้(แต่เสียงบนะ)
โดยที่ต้องดึงน้ำออกมาจากระบบชลประทาน ที่กำลังกลัวเกิดภาวะภัยแล้ง
เคราะห์ซ้ำกรรมซ้อน ปีนี้ถ้าไม่มีมรสุมเข้า โดนภัยแล้งเต็มๆ
มีข้อมูลอ้างอิงได้นะครับเรื่องการปล่อยน้ำ
http://www.manager.c...D=9550000107602
#38
Posted 6 September 2012 - 10:39
และจริง ๆ ต้องบอกว่า ท่วมก็หมาแล้วครับ
สุดท้ายก็ ปาหี่หลอกควาย ตามถนัด
#39
Posted 6 September 2012 - 10:53
เอ่อ คุณ jagger ค่ะ อีกแล้วนะคะ ยกเครดิตให้รัฐบาลหน้าตาเฉยเลย
จริงๆคุณน่าจะชื่นชม กทม โดยผู้ว่าคุณชายนะคะที่ทดสอบการปล่ายน้ำเมื่อวานนะคะ
ก็ใครที่ไหนหล่ะค่ะบอกว่า การทดลองปล่อยน้ำของผู้ว่ากทม เมื่อวาน เหมือนเป็นการก่อกวนการทดสอบ
การปล่อยน้ำของรัฐบาลจากตจว มา
พอเป็นไปด้วยดี..คุณบอกเป็นผลงานรัฐบาลอีกแล้ว ..แต่ถ้ามันท่วมเสียหายขึ้นมา
คุณก็คงจะโยนกลองมาที่ผู้ว่ากทมอีกแหง๋ๆๆเลย
เอากระพวกที่เชลียร์ตุ๊ดรัฐบาลนี้ซีค่ะ หน้าด้านหน้าทน เอามาเป็นผลงานตัวเองตลอดเลยนะคะ
#40
Posted 6 September 2012 - 11:07
ปั้นข่าวเข้าว่า ข้านี่ละ พระเอก(รตอ ปลอมตัวมา)
ที่แท้ก็ สามล้อเหวงๆ สวมชุดรปภ
#41
Posted 6 September 2012 - 11:08
#42
Posted 6 September 2012 - 11:15
Edited by Charlie, 6 September 2012 - 11:27.
คนดีจริงไม่โกงที่วัด ไม่ยุแยงให้คนแตกแยก ไม่หลอกคนอื่นให้มารับเคราะห์ตายแทน
#43
Posted 6 September 2012 - 11:25
แล้วพยัคฆ์ที่จมน้ำไปแล้วล่ะ ??? จะไม่พูดถึงหน่อยหรือ ???
- ฉันรักเมืองไทย likes this
#44
Posted 6 September 2012 - 11:27
#45
Posted 6 September 2012 - 11:32
หมดไปเท่าไรว๊ะ ? ปล่อยน้ำมา---
กี่ โอ่ง..?? ( ซดแฟแก้เซ็งดีก่า ).
#46
Posted 6 September 2012 - 11:48
ชาวนาบางปะอินลอยคอเกี่ยวข้าวหนีน้ำท่วมกว่าพันไร่
หลังฝนกระหน่ำ-เจ้าพระยาหนุนสูง
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 5 กันยายน ว่า แปลงนาข้าวปรังของชาวนาที่อยู่ในพื้นที่ลุ่ม ของตำบลบ้านสร้าง
และตำบลสามเรือน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก
จากน้ำในคลองชลประทานระพีพัฒน์ ที่รับน้ำมาจากเขื่อนพระราม 6 และเป็นคลองชลประทานฝั่งตะวันออก
ล่าสุด พบว่าได้สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวนาทั้ง 2 ตำบลเป็นอย่างมากในขณะนี้ น้ำประมาณมาก
จากคลองระพีพัฒน์ไหลเข้าคลองโพธิ์และไหลต่อมายังทุ่งในในสองตำบล บวกกับช่วงนี้มีฝนตกหนัก
ติดต่อกันหลายวัน อีกทั้งมีการปิดประตูน้ำปากคลองโพธิ์ที่ตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน เพราะระดับน้ำ
ในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับสูงเช่นกัน ทำให้น้ำในทุ่งบางปะอินไม่มีทางไหลออก ส่งผลให้ระดับน้ำในทุ่งบางปะอิน
มีระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ข้าวนาปรังที่ปลูกอยู่ในพื้นที่ลุ่มในเบื้องต้นกว่า 1,000 ไร่ ที่กำลังออกรวงแก่
ใกล้จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว ต้องมาถูกน้ำท่วมรวงจมน้ำ ชาวนาต้องช่วยกันใช้เคียวมาเก็บเกี่ยวรวงข้าวที่จมน้ำ
ใส่เรือบรรทุกขึ้นฝั่งก่อนลำเรียงขึ้นรถนำไปตากให้แห้งด้วยความเสียดาย
นางมณี รื่นบุตร อายุ 60 ปี ทำนาปรังกว่า 30 ไร่ กล่าวว่าน้ำทุ่งขึ้นเร็วมาก และท่วมข้านาปรังเสียหาย
โดยแปลงนาข้าวของเพื่อนบ้านอีกหลายรายก็มีสภาพไม่ต่างไปจากของตน ต้องช่วยกันนำเรือลอยคอเกี่ยวข้าวหนีน้ำ
กันตลอดทั้งวัน ในขณะนี้ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ให้การช่วยเหลือชดเชยเงินเพื่อบรรเทา
ความเดือดร้อน เนื่องจากน้ำที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วส่วนหนึ่งเกิดจากภาครัฐที่ปล่อยน้ำลงคลองระพีพัฒน์มากเกินไป
จนล้นทะลักมาท่วมแปลงนาข้าว
ด้านนายศุภฤกษ์ กลั่นกล้า นายก อบต. สามเรือน กล่าวว่า กำลังเร่งสำรวจความเสียหายเสนอไปยังอำเภอ
และจังหวัดเพื่อขอรับการช่วยเหลือ เพราะน้ำท่วมสร้างความเสียหาย และจะต้องเร่งประชุมร่วมระหว่างองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่สองฝั่งคลองโพธิ์ที่ได้รับผลกระทบและหน่วยงานกรมชลประทานในการหาทางแก้ไข
น้ำที่ไหลเข้ามามากและไม่มีทางออก ซึ่งล่าสุดชาวนาเสนอให้เปิดประตูระบายน้ำบ้านหว้าเพื่อดันน้ำลงเจ้าพระยาได้
เพราะว่าระดับน้ำในคลองโพธิ์สูงกว่าระดับน้ำเจ้าพระยาถึง 1 เมตรเช่นกัน
http://www.matichon....atid=&subcatid=
ถือเสียว่า เป้นกระทู้แปะข่าวก้แล้วกันนะครับ
ผมขออนุญาติเอามาแปะด้วยคน
- David_GinoLa likes this
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
#47
Posted 6 September 2012 - 11:53
นี่นับเป็นความกรุณาของรัฐบาลหรือเปล่าครับ แล้วจะนับเอามาเป็นผลงานตอนปลายปีด้วยหรือเปล่าครับ
#48
Posted 6 September 2012 - 11:55
ปีนี้น้ำไม่ท่วมหรอกครับ สำหรับพื้นที่ กทม.
และจริง ๆ ต้องบอกว่า ท่วมก็หมาแล้วครับ
สุดท้ายก็ ปาหี่หลอกควาย ตามถนัด
จากรูป... ปีที่แล้ว... เราน่าจะรู้ตัวตั้งแต่... เดือน ... มีนาแล้ว...
"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"
"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"
"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"
#49
Posted 6 September 2012 - 12:05
#50
Posted 6 September 2012 - 12:07
เป็นตั้งแต่ยอดยันโคนเลย
0 user(s) are reading this topic
0 members, 0 guests, 0 anonymous users