
ผลทดสอบระบายน้ำฉลุย "รอยล" ยิ้มพอใจขุดลอกคูคลองได้ผล
วันนี้ (5 ก.ย.) นายรอยล จิตรดอน ผอ.สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.) ในฐานะคณะอนุกรรมการติดตาม วิเคราะห์สถานการณ์น้ำและจัดสรรน้ำ ในคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เปิดเผยว่า ภายหลังจากคณะทำงานเริ่มปฏิบัติการเดินเครื่องทดสอบประสิทธิภาพการระบายน้ำ ในพื้นที่ปลายน้ำ ตั้งแต่เวลา 14.02 น. โดยสั่งเปิดประตูน้ำคลองทวีวัฒนา 50 เซนติเมตร และเพิ่มขึ้นตามลำดับ เพื่อจากปล่อยน้ำจากคลองมหาสวัสดิ์เข้าคลองทวีวัฒนา โดยระดับน้ำที่คลองมหาสวัสดิ์ก่อนเปิดประตูน้ำอยู่ที่ 94 เซนติเมตร ทั้งนี้การสั่งการเริ่มตั้งแต่นายปลอดประสพ โฟนอินเข้ามายังศูนย์ปฏิบัติการฯ แจ้งความพร้อม ผู้แทนจาก กทม. ประสานกับกรมชลประทาน เพื่อเปิดประตูระบายน้ำในระดับที่กำหนดไว้ หรือที่ 50 เซนติเมตร และเพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยให้ข้อมูลเป็นระยะ พร้อมทั้งสรุปสถานการณ์การทดสอบทุก 1 ชั่วโมง
โดยข้อมูลระดับน้ำที่คลองทวีวัฒนาเมื่อเวลา 14.10 น. เพิ่มจาก 60 เซนติเมตร เป็น 66 เซนติเมตร ส่วนน้ำที่ปลายคลองทวีวัฒนาตัดกับคลองภาษีเจริญ อยู่ที่ 22 เซนติเมตร จากเดิม 20 เซนติเมตร ส่วนระดับความเร็วของน้ำที่เพิ่มขึ้นหลังใช้เรือผลักดันน้ำ เมื่อเวลา 14.35 น. ระดับความเร็วของน้ำอยู่ที่ 15 ลบ.ม/วินาที ระดับน้ำในคลองทวีวัฒนาอยู่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ 4-5 เซนติเมตร ซึ่งข้อมูลระดับน้ำทั้งหมดจะส่งตรงเข้ามายังศูนย์ปฏิบัติการ การทดสอบฯ ที่ สสนก. ซอยรางน้ำ อาทิ ข้อมูลจากเครื่องวัดระดับน้ำอัตโนมัติทั้ง 11 สถานี สถานีเรดาห์วัดน้ำฝนทั้งในและนอกพื้นที่ โดยกรมอุทกศาสตร์
ดร.รอยล กล่าวอีกว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.20 น. ได้มีฝนตกในบริเวณที่ทำการทดสอบ ประมาณ 5.5 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งต่ำกว่าค่าที่ตั้งไว้ และน้อยกว่าปริมาณฝนเมื่อวาน (4 กย.) ซึ่งอยู่ที่ 16 มิลลิเมตร จึงไม่มีผลต่อการทดสอบ และเมื่อเวลา14.50 น. คณะทำงานได้ตัดสินใจปล่อยน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 12 ลบ.ม. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการขุดลอกคูคลองที่ดำเนินการไปก่อนหน้านี้เป็นไปอย่างถูกต้อง และได้ผลเกินคาด โดยระดับน้ำคลองทวีวัฒนาตัดกับคลองภาษีเจริญ อยู่ที่ 20 เซนติเมตร เมื่อเวลาประมาณ 15.00-16.00 น.
หลังจากนั้นได้ปล่อยน้ำเข้าสูงสุดตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ พร้อมทั้งเปิดเครื่องผลักดันน้ำทั้งระบบ ก่อนที่คณะทำงานจะตัดสินใจยุติการทดสอบในเวลา 17.00 น. ซึ่งเร็วกว่ากำหนดการเดิม 1ชั่วโมง โดยรอให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นผู้สั่งการปิดประตูระบายน้ำคลองทวี วัฒนา เนื่องจากได้รับข้อมูลทดสอบที่เพียงพอแล้ว โดยระดมสูบน้ำที่ผ่านคลองทวีวัฒนาออกทางแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนน้ำที่ผ่านคลองพระยาราชมนตรี จะสูบลงคลองสนามชัย โดยใช้เครื่องสูบน้ำของกรมชลประทาน
ดร.รอยล กล่าวสรุปผลการทดสอบครั้งนี้ ว่า ขณะเดินเครื่องผลักดันน้ำบางส่วน ทำให้ประสิทธิภาพการระบายของคลองฝั่งตะวันตกเพิ่มขึ้น จาก 7 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เป็น 11 ลูกบาศก์เมตร/วินาที และขณะที่เดินเครื่องผลักดันน้ำเต็มศักยภาพ ประสิทธิภาพการระบายน้ำอยู่ที่ 17 ลบ.ม. ต่อวินาที ซึ่งไม่ทำให้เกิดน้ำท่วม และจากการติดตาม ทุกจุดไม่พบการล้นตลิ่งขณะทดสอบ แม้จะมีฝนตกลงมาในระดับปานกลาง.
http://www.dailynews...politics/153551