<<<ถึงคุณตะนิ่น ตาญี ได้เวลานายตำรวจนายทหารทวนคำสาบานรึยัง>>>
#1
Posted 7 September 2012 - 21:42
จำได้ว่าครั้งหนึ่ง ท่านเล่าว่ามีหลายคนเป็นโรคผิดน้ำ
กระผมก็เดาไปว่า ผิดน้ำพระพิพัฒน์สัตยาหรือไม่
ท่านกรุณาตอบว่า ใช่
ดังนั้น ตอนนี้ใคร่ขอถามท่านว่า
ในเมื่อบ้านเมืองเป็นทุรยศเยี่ยงนี้แล้ว
ดาวบนบ่า กระบี่ข้างกาย และคำสัจที่กล่าวในวันติดยศนั้น
ยังมีผลหรือไม่
เหตุใด คนเหล่านั้น จึงกล้ากำแหงหาญไม่กลัวต่อคำสัตย์สาบานของตน
ได้เวลาทวนคำสาบานรึยัง
- ตะนิ่นตาญี, shamu2011, คนสับปะหลี้ and 4 others like this
ฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
#2
Posted 7 September 2012 - 21:46
POPULAR
ข้าฯ จะรักษามรดกของพระองค์ท่านไว้ด้วยชีวิต
ได้ยินและพอจำได้ 2 ประโยคข้างต้น
- wewe, H-edge, ตะนิ่นตาญี and 10 others like this
If you try hard enough, you can be whatever you want to be.
#3
Posted 7 September 2012 - 21:51
รออยู่นาน..
- ตะนิ่นตาญี likes this
ฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
#4
Posted 7 September 2012 - 23:59
เราต้องรักษาชาติ เราต้องบำรุงชาติ เราต้องสละชีพเพื่อชาติ ตายซะดีกว่าที่จะละทิ้งหน้าที่
Edited by Alanza 4.91, 7 September 2012 - 23:59.
- ตะนิ่นตาญี and อ่อนโลก like this
#5
Posted 8 September 2012 - 00:44
- ตะนิ่นตาญี likes this
อำนาจก็เปรียบเหมือนคมดาบที่ไร้ด้าม ถ้าเราไม่รู้จักปล่อยวางลงเสียบ้าง สุดท้ายมันจะทำลายแม้ตัวเราเอง
ม้าดีที่ "ตายแล้ว"
หาใช่ "ม้าดี"
หากคือ "ม้าตาย"
#6
Posted 8 September 2012 - 00:53
- ตะนิ่นตาญี, Lucas Leiva Benitez Rodger, เงาไม้ and 1 other like this
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
#7
Posted 8 September 2012 - 06:47
จึงไม่ได้ตอบในทันที และเนื่องจากอีกสักครู่หนึ่ง ตะนิ่นตาญี และคุณภรรยา จะต้องออกไปข้างนอก
ดังนั้นจึงใคร่ ขออนุญาต คุณ พิฆาตอสูร และเพื่อนเพื่อน ผลัด ไปเป็นช่วง บ่ายบ่าย-เย็นเย็น ของวันนี้จะเข้ามาเล่าให้ฟัง
ขอบพระคุณ คุณ พิฆาตอสูร และ เพื่อนเพื่อน ที่กรุณา
ตะนิ่นตาญี
วันเสาร์ที่ ๘ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๕
เวลา ๖.๔๗ นาฬิกา
- เพลิง and โจโฉ นายกตลอดกาล like this
#8
Posted 8 September 2012 - 11:36
...และจะเคารพนบนอบ(...ออกชื่อโจรคนนั้น....)เยี่ยงบิดรมารดาผู้ให้กำเนิดด้วย
#9
Posted 8 September 2012 - 15:10
ความอยู่รอดเท่านั้น.......
( ไม่ตาย ก็มีบ้านอยู่ต่างประเทศ )
มีเงินใช้ เสพสุข..มันคิดแค่นั้น...
- ตะนิ่นตาญี, พิฆาตอสูร and โจโฉ นายกตลอดกาล like this
#10
Posted 8 September 2012 - 18:17
POPULAR
หาก ตะนิ่นตาญี จำได้ไม่ผิดผู้ที่ได้รับเกียรติให้เข้าร่วมในพระราชพิธีนี้ จะมีก็แต่
พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการที่ได้รับ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ในชั้นรามาธิบดี เท่านั้น
เอาเท่าที่จำได้ก็มี ท่านประธานองคมนตรีพลเอกเปรม ติณสูลานนท์, ท่านองคมนตรีพลเอกพิจิตร กุลวณิชย์
อดีตอธิบดีกรมตำรวจพลตำรวจเอกเสรี เตมียาเวช, ท่านองคมนตรีพลเอกสุรยุทธ์ จุลลานนท์,
พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ, จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์, จอมพลถนอม กิตติขจร, จอมพลประภาส จารุเสถียร ฯลฯ
ทั้งหมดที่ได้ออกชื่อมานั้น เป็นผู้ที่ได้ดื่ม น้ำพิพัฒน์สัตยา อย่างไรก็ตาม ตะนิ่นตาญี เชื่อว่ามี “ตำรวจ” เพียงไม่กี่ท่านเท่านั้น
ที่ได้รับ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ในชั้นรามาธิบดี และได้เข้าร่วมใน พระราชพิธีศรีสัจจปานกาล เพราะ ผู้ที่จะ ยินดี-ยินยอม เสียสละตัวเอง
เพื่อปกป้องคุ้มครองผู้อื่นนั้น มันทำยาก หรือ พูดกันตรงตรง ความดี นั้นมันทำยาก
สู้ไปคอย ประจบ-ประแจง เลียแข้ง-เลียขา นักการเมือง ที่มีเงิน-ที่มีอำนาจ ดูจะง่ายกว่า
คนเหล่านั้นจึง “ไม่มีเกียรติมากพอ” ที่จะเข้าร่วม ใน พระราชพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ นี้
มาถึงตรงนี้อย่าหาว่า ตะนิ่นตาญี มี อคติ ต่อ ตำรวจ เลย...เพื่อนเพื่อน ของ ตะนิ่นตาญี ที่-
เป็น ตำรวจ ก็เยอะอยู่...หลายคน ประพฤติ-ปฏิบัติ ได้ น่ารัก-เรียบร้อย แต่ที่น่า เตะปาก ก็ไม่น้อย
แต่สิ่งหนึ่งซึ่ง ตะนิ่นตาญี สงสัย เหล่า นายตำรวจ ทั้งหลายจะทราบหรือไม่ ว่า พวกท่านนั้น
เคยได้ถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อหน้า “ธงชัยเฉลิมพลประจำกองตำรวจ” ซึ่ง ล้นเกล้าล้นกระหม่อมในรัชกาลปัจจุบัน
พระองค์ได้ทรงเสด็จพระราชดำเนินด้วยพระองค์เองใน พระราชพิธีตรึงหมุดธงชัยเฉลิมพลประจำกองตำรวจ ที่ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ซึ่งภายในยอดธงนั้นบรรจุด้วย เส้นพระเกศา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และ พระยอดธง เอาไว้
ตำรวจ ทั้งหลายท่านจะเข้าใจไหมหนอว่า นั่นเท่ากับท่านได้ สาบานตน ต่อเบื้องพระพักตร์ของ
ล้นเกล้าล้นกระหม่อมฯ อยู่ทุกปีจนท่านได้เรียนจบออกมา มีหน้า-มีตา อยู่ในสังคมทุกวันนี้
ระวังนะครับ แม้ท่านเหล่า ตำรวจ ทั้งหลาย จะไม่ได้ดื่ม น้ำพิพัฒน์สัตยา แต่ท่านก็ได้สาบานตนไว้
ต่อ เบื้องพระพักตร์ ต่อ ธงชัยเฉลิมพลประจำกองตำรวจ ว่าจะอุทิศตนต่อ ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ ไว้
แล้วเหล่าท่านทั้งปวงจะ ทรยศ ต่อ คำสาบาน เหมือนอย่าง ตำรวจใหญ่ ใน กรุงเทพฯ
ที่ขยันร้องเสียจริงว่า “...ไม่ยอมเป็นมิตร ผู้ผิดกฎหมาย...” พอร้องจบแล้ว ก็ไปขอ
นักโทษชายตามหมายศาล ติด ยศ ให้ ระวังให้ดีเถอะครับ เมื่อใดที่ “กรรม” มันวิ่งตามทัน
สิ่งที่เคยสาบานไว้ต่อหน้า “ธงชัยเฉลิมพลประจำกองตำรวจ” เข้าตัวเมื่อใด อย่าร้องนะครับ
ตะนิ่นตาญี
วันเสาร์ที่ ๘ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๕
เวลา ๑๘.๑๗ นาฬิกา
#11
Posted 8 September 2012 - 18:28
ระวังให้ดีเถอะครับ เมื่อใดที่ “กรรม” มันวิ่งตามทัน
สิ่งที่เคยสาบานไว้ต่อหน้า “ธงชัยเฉลิมพลประจำกองตำรวจ” เข้าตัวเมื่อใด อย่าร้องนะครับ
ตะนิ่นตาญี
วันเสาร์ที่ ๘ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๕
เวลา ๑๘.๑๗ นาฬิกา
http://www.youtube.com/watch?v=LwIzt035RH0
- ตะนิ่นตาญี, พิฆาตอสูร, ไทยทรนง and 3 others like this
If you try hard enough, you can be whatever you want to be.
#12
Posted 8 September 2012 - 19:51
เพิ่งจะทราบเรื่องนี้ก็วันนี้แหละค่ะ เลยลองไปหาข้อมูลอ่านเพิ่มเติมมา ขออนุญาตนำมาแปะไว้เพื่อเป็นความรู้สำหรับคนที่สนใจ
และเตือนใจตำรวจท่านใดที่ได้แวะมาอ่าน
ธงประจำกอง หรือธงชัย หรือธงชัยเฉลิมพล(ตำรวจ)
ธงที่แต่ละหน่วยนำมาใช้นำหน้าขบวนสวนสนาม และสาบานตนในวันดังกล่าว คือ “ธงชัย” หรือ “ธงชัยเฉลิมพล” ซึ่งเป็นตัวแทนของพระเจ้าอยู่หัว นับเป็นประวัติศาสตร์ของตำรวจไทย ที่ “ธงชัย” ทั้งหมดของ ตร. มารวมกันเมื่อวันที่ 13 ต.ค.2550 “ธงชัย” หรือ “ธงชัยเฉลิมพล” หรือ “ธงประจำกอง” ของตำรวจ
ตามที่ได้มีการแก้ไข พ.ร.บ.ธง พ.ศ.2522 นั้น ธงของหน่วยตำรวจ มีเพียง ธงพิทักษ์สันติราษฎร์ เท่านั้น ที่เป็นธงที่ถูกต้องตามกฎหมาย (ซึ่งตำรวจส่วนมากก็คงไม่เคยเห็นเพราะอาจจะยังไม่ได้จัดสร้าง หรือจัดสร้างแล้วแต่ไม่ค่อยได้ออกงานก็ไม่ทราบ) แต่นอกจากธงพิทักษ์สันติราษฎร์แล้ว ตำรวจยังมี "ธงชัย" เป็นธงประจำหน่วย ซึ่งไม่ได้ระบุไว้ใน พ.ร.บ.ธง ดังกล่าว ทั้งๆที่ได้รับพระราชทานมาตั้งแต่ พ.ศ.2495 ซึ่งธงนี้จะเรียกว่า "ธงชัยเฉลิมพล" ก็คงไม่ผิด เพราะได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้านบนบรรจุเส้นพระเกศา(เส้นผม) ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นผู้ตรึงตอกหมุดด้วยพระองค์เอง ทำพิธีในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ธงชัยของตำรวจนี้มีขนาดของธง รูปร่าง ลักษณะ เหมือนกันกับธงชัยเฉลิมพลของทหารทุกประการ แต่เดิมตอนที่ได้รับมาครั้งแรก เรียกว่า "ธงประจำกอง" ซึ่งขณะนั้น ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยังไม่ได้มีสถานะของหน่วยเป็นกองทัพ มีสถานะเป็นเพียง "กองทหารบก" "กองทหารเรือ" "กองทหารอากาศ" และขณะนั้น ก็มี "กองตำรวจ" ด้วย ธงชัยเฉลิมพล ในขณะนั้นจึงเรียกว่า "ธงประจำกองทหารบก" "ธงประจำกองทหารเรือ" "ธงประจำกองทหารอากาศ" และ "ธงประจำกองตำรวจ" ซึ่งมีศักดิ์เท่ากันทุกประการ ต่อมาเมื่อได้มีการตรา พ.ร.บ.ธง พ.ศ.2522 เปลี่ยนให้เรียกชื่อธงประจำกองของของทหารทั้ง 3 เหล่า ให้เรียกว่า "ธงชัยเฉลิมพล" ทั้งหมด โดยไม่ได้กล่าวถึงธงประจำกอง ของตำรวจ เข้าใจว่าขณะนั้นคงมีข้อผิดพลาด โดยผู้เกี่ยวข้องกับการร่างกฎหมาย คงหลงลืมนึกไปว่า ตำรวจก็มีธงประจำกองที่เทียบเท่ากับธงชัยเฉลิมพลของหน่วยทหารทุกประการ เช่นกัน ทำให้ธงประจำกองของตำรวจ ซึ่งได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อปี พ.ศ.2495 ไม่ได้เรียกชื่อว่า ธงชัยเฉลิมพล ตาม พ.ร.บ.ธงฯ ที่ตราออกมา ทั้งๆที่ธงประจำกอง ของตำรวจนั้นมีขั้นตอนการทำธง การได้รับพระราชทาน มีศักดิ์ และมีรูปร่างลักษณะเหมือนกันทุกประการกับธงชัยเฉลิมพล แตกต่างกันเพียงรูปตราภายในผืนธง ที่แตกต่างกันไปตามแต่ละหน่วยทหาร-หน่วยตำรวจ นั้นๆที่ได้รับ
โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ได้เคยมีหนังสือหารือ การเรียกชื่อธงประจำกองของตำรวจไปยังสำนักพระราชวัง เนื่องจากธงประจำกองของตำรวจนั้นมีศักดิ์เท่ากับธงชัยเฉลิมพล ทุกประการ ต่อมาทางสำนักพระราชวังได้มีหนังสือตอบมาว่า ให้เรียกชื่อธงประจำกองของตำรวจที่ได้รับพระราชทานมานั้น ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งที่ได้พระราชทานธง โดยให้เรียกว่า "ธงชัย" ทั้งนี้ ในระเบียบการ ตร.ไม่เกี่ยวกับคดี ยังคงใช้คำว่า "ธงประจำกอง" อยู่โดยยังไม่ได้มีการแก้ไขแต่อย่างใด
เพราะฉะนั้น คำว่า "ธงชัย" ของตำรวจ ก็คือ ธงประจำกอง ตามระเบียบการ ตร. ไม่เกี่ยวกับคดี นั่นเอง และเป็นธงที่มีศักดิ์เท่ากันทุกประการกับ "ธงชัยเฉลิมพล" ซึ่งจะเรียกว่า "ธงชัยเฉลิมพล" ก็คงไม่น่าจะผิดไปจากความเป็นจริง แม้ว่าจะไม่ได้ปรากฏในกฎหมายก็ตาม
ถ้าข้อมูลไม่ผิดพลาด เข้าใจว่าปัจจุบัน “ธงชัย” ของตำรวจน่าจะมีทั้งหมด 13 ธง มีชื่อหน่วยตามที่ระบุไว้ใต้ตามแผ่นดินในธง ดังนี้ คือ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ , โรงเรียนพลตำรวจนครบาล , โรงเรียนพลตำรวจภูธร ภาค 1- 9 (รวม 9 ผืน) , กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน , และผืนสุดท้ายคือ "กองกำกับการ 3 กองบังคับการกองตรวจ" (ซึ่งหน่วยนี้ปัจจุบันไม่มีแล้ว)
นับเป็นประวัติศาสตร์ของตำรวจไทย ที่ธงชัยเฉลิมพลของตำรวจ ทั้ง 13 ผืน ได้ถูกอัญเชิญมาเคียงรวมกันให้(ตัวแทน)เหล่าข้าราชการตำรวจทั้งประเทศ ได้สาบานตน เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2550 ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน
ขอให้ตำรวจ ได้ภาคภูมิใจ ว่า ตำรวจ ก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานธงชัยเฉลิมพล ไม่แตกต่างกับทหาร และขอให้ปฏิบัติตนให้เป็นตำรวจที่ดี รักในเกียรติและศักดิ์ศรี ดูแลรับใช้ประชาชน ให้สมดั่งความไว้พระราชหฤทัยของพระองค์ท่าน นะครับ
หมายเหตุ - ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับธงชัย หรือ ธงประจำกอง ของตำรวจ
http://www.cadetpca....งชัยเฉลิมพล.pdf
http://www.pca.ac.th...cument_a6_1.pdf
ที่มา http://งานปกครอง.sia...icle=A000000007
- ตะนิ่นตาญี, Duke_th1, พิฆาตอสูร and 2 others like this
Now! Restart Thailand
#13
Posted 9 September 2012 - 11:17
ทำไมผมนึกถึงกระทู้นี้ ...........
http://webboard.seri...ีศรีสัจจปานกาล/
ขอบคุณครับ ช่วงนั้นไม่ได้เข้าเวบ สรท. อยู่พักหนึ่ง
ได้อ่านสมใจ
- ตะนิ่นตาญี and อู๋ ฮานามิ like this
ฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
#14
Posted 9 September 2012 - 11:23
เรื่องที่อยากรู้มากขณะนี้ คือ เคยมีตัวอย่างใกล้เคียงกับการได้รับผลเมื่อทวนคำสาบานหรือไม่
ที่อยากรู้เพราะ ตอนนี้เราเหมือนมีความท้อแท้ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่ยำเกรงต่อจริยธรรม และคุณงามความดี
หลายคนก็บอกว่า รอกฎแห่งกรรม
ส่วนตัวไม่เห็นด้วย เราควรทำอะไรบางอย่างอีกหรือไม่ นอกเหนือจากพยายามให้ข้อมูลและเถียงกับเสื้อแดงไปวัน
ที่นึกออกอย่างหนึ่ง คือ พวกทหาร ตำรวจ หรือข้าราชการบางกลุ่มยังกลัวเรื่องลี้ลับอยู่มาก
ถึงกับแอบทำพิธีหลายครั้งหลาย (เรื่องนี้ มีคนเล่าให้ฟัง แต่ไม่อาจยืนยัน)
การที่เราย้ำเรื่องทวนคำสาบานบ่อยๆ อาจทำให้พวกคิดการชั่ว เกิดความกลัว และกลับใจ
จะเป็นคุณแก่บ้านเมือง
เหมือนใช้หลักจิตวิทยาอย่างหนึ่ง
- ตะนิ่นตาญี, p-one and Siren like this
ฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
#16
Posted 9 September 2012 - 12:53
สำหรับผู้ใฝ่รู้ ( แต่คิดว่าก็มี..ตำรวจ..อีกกลุ่มหนึ่ง ) ที่ไม่อยากรู้ หรือ รู้แต่
ไม่ ( ใส่ใจ ) เราก็มีเรื่องหนึ่ง ที่พบเห็นกับหู-ตา ตนเอง ก็อยากจะเล่าสู่
กันฟัง ( เป็นฉากปิด ) ข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้.......
ประมาณ สัก ๔๐ ปีเศษล่วงมาแล้ว บุญมาวาสนาส่ง ได้ไปเป็น
อ. สอนอยู่ วิทยาลัยครูนครปฐม.. ( เห็นจะก่อนเหตุการณ์ ๑๔ ตุลา )
มีเพื่อนมาก. คือ มีเพื่อน ตั้งแต่..อ้อมใหญ่ . ท่าข้าม ( ร.ร..ภปร..) สามพราน
นครชัยศรี. ศรีษะทอง. ธรรมศาลา ( น้ำขาวอร่อย ) มาทางสะพานโพธิ์แก้ว.
เข้าวัดไร่ขิง .ท่าพูด.ดอนหวาย เลยออกมาสาย7 ตลาดใหม่ ฯลฯ เพื่อนมาก
เย็น ยังไม่ทันเลิกงาน ก็มีนัดพบ ( ทำอะไร ) กินเหล้า หลายที่ หลายแห่ง
เข้าเรื่องที (ที่ประจำและบ่อย)คือร้านยัยเอ็ง ท่าข้าม ร้านนี้ไม่มีเงิน เซ็นได้
อีกที่บ่อย คือ ( ศาลา โย้เย้ หน้าประตู ๔ ) ร.ร นายร้อยตำรวจสามพราน
เรื่องที่จะเล่า ตรงศาลานี้แหละ หนุ่มน้อย.หนุ่มมาก. ก็แวะกระดกแก้วกันที่นี่
ลูกหลานอาจารย์ ใน ร.ร ก็มีมานั่งดื่มกันหลายคน ลูกปลัดอำเภอก็มี ขี้เกียจ
บรรยายแล้ว เอาเป็นว่า ( มีนายตำรวจคนหนึ่ง ตอนนั้นน่าจะเป็น นายร้อย )
เมา.. มากหรือน้อยไม่รู้ แต่คำพูดของเขา....เกิดจากเมาหรือเปล่าไม่รับรอง
คำพูดมันออกจากปากมันว่า ( มันก็พูดไปงั้นแหละ บางคนมันก็ไม่พูด ) ก็เป็นที่
รู้กันว่า ( การกระทำสัตย์สาบานต่อหน้า ธงชัยฯ หรือการกระทำสัตย์ ใด ๆ ก็
ตาม ( ก็มีพวกที่ ปาก กับ ใจ ) ไม่ตรงกัน ส่วนเพื่อนคนนี้ ไม่ได้พบกันมา
ประมาณ เกือบ ๕๐ ปีแล้ว ถ้ายังเป็นตำรวจคงเกษียณไปนานแล้ว เมื่อ ๕-๖ ปี
ก่อนเคยผ่านเข้าไปทำธุระที่อำเภอสามพราน. ( หน้าประตู ๔ ) ไม่มีศาลาโย้เย้
แล้ว. เสียงเพลง ( นกไนติงเกล เกาะยอดไม้เอน ฯลฯ ) ร้องกันยามเมา ไม่มี
แล้ว เพื่อนไปไหนหมดแล้ว..แต่เสียงพูด..เสียงเพลง เพื่อน ๆ ยังก้องหู.........
.........มันก็พูดไปงั้นแหละ...บางคนมันก็ไม่พูด.......นี่หรือ พิธีกระทำสัตย์..??
ปัจจุบันนี้ล่ะ..??? ( มันก็พูดไปงั้นเอง...หรือเปล่า ??) พฤติกรรม..มันฟ้องอยู่...
ขอให้คิดกันเอาเองนะ .......จากคำพูดของ (คำรณวิทย์ ) บอกได้ไหม ? ว่า
มันคืออะไร ..??? ตลอดอายุราชการของเขา ได้เงินเดือนจาก ( ภาษีชาวบ้าน )
หรือว่า....( ได้เงินเดือนจากใคร ) คิดใหม่...พูดใหม่...ก็ได้นะ......
- ตะนิ่นตาญี, พิฆาตอสูร, เพลิง and 1 other like this
#17
Posted 9 September 2012 - 13:23
ขอบคุณ คุณตะนิ่น ตาญี และคุณ Siren สำหรับความรู้ครับ
เรื่องที่อยากรู้มากขณะนี้ คือ เคยมีตัวอย่างใกล้เคียงกับการได้รับผลเมื่อทวนคำสาบานหรือไม่
ที่อยากรู้เพราะ ตอนนี้เราเหมือนมีความท้อแท้ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่ยำเกรงต่อจริยธรรม และคุณงามความดี
หลายคนก็บอกว่า รอกฎแห่งกรรม
ส่วนตัวไม่เห็นด้วย เราควรทำอะไรบางอย่างอีกหรือไม่ นอกเหนือจากพยายามให้ข้อมูลและเถียงกับเสื้อแดงไปวัน
ที่นึกออกอย่างหนึ่ง คือ พวกทหาร ตำรวจ หรือข้าราชการบางกลุ่มยังกลัวเรื่องลี้ลับอยู่มาก
ถึงกับแอบทำพิธีหลายครั้งหลาย (เรื่องนี้ มีคนเล่าให้ฟัง แต่ไม่อาจยืนยัน)
การที่เราย้ำเรื่องทวนคำสาบานบ่อยๆ อาจทำให้พวกคิดการชั่ว เกิดความกลัว และกลับใจ
จะเป็นคุณแก่บ้านเมือง
เหมือนใช้หลักจิตวิทยาอย่างหนึ่ง
คุณ พิฆาตอสูร ครับ การดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยา นั้น ไม่ใช่เพียงเป็นการเพียงแค่หวังผลทางด้าน จิตวิทยา เท่านั้น
หากแต่เป็น การประกาศ-การสาบาน ต่อพุทธมงคล-ต่อเทพยดา-ต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ ทั้งปวงที่ได้สิ่งสถิตย์ ณ ใต้หล้าสากลนี้
ว่าตนนั้น จะทำ-จะรักษา ไว้ในสิ่งที่ผู้อื่น ไม่อาจกระทำได้-ไม่กล้าที่จะกระทำได้ เหมือนดั่งตนเอง
ในโบราณกาลนั้นเป็นเพียงการ สาบาน ว่าจะ จงรักภักดีต่อ กษัตริย์ เท่านั้น.....
แต่ในปัจจุบันนี้ ตะนิ่นตาญี มองว่ายิ่งใหญ่และศักดิ์สิทธิ กว่าใน ครั้งอดีตกาล นับถอยหลัง-ย้อนหลัง ไปจนถึงสมัย อยุธยา นู่น
เพราะ การดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยา นี้...เป็นการสาบานตนว่าจะ จงรักภักดี และรักษาไว้ซึ่ง ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ มิให้ผู้ใดมาย่ำยีได้
คุณ พิฆาตอสูร ครับ พระราชพิธีศรีสัจจปานกาล ไม่ใช่เพียงแค่ ขนบธรรมเนียม-ประเพณี-วัฒนธรรม หรือ เป็นการหวังผลในทาง จิตวิทยา เท่านั้น
หากแต่มีผลจริงจริง ทหาร "ใหญ่" คน-สองคน ที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็กำลังรับผลกรรมอันเกิดจาก ทวนคำสาบาน อยู่ทุกวันนี้เขาผู้นั้นต้องมีอันร้อนรุ่ม
จนไม่อาจ กิน-อยู่-หลับ-นอน ได้อย่างมีความสุข จะดื่มน้ำแต่ละครั้งก็ให้เจ็บคอเหลือกำลังดุจดั่งต้องกลืน ใบมีด นี่คือความจริง
ตะนิ่นตาญี แอบได้ยินมาว่า มีนักการเมืองอีกท่านหนึ่งและถือว่าเป็น นักการเมือง เพียงท่านเดียวเท่านั้น ที่ได้รับพระราชทาน พระกรุณา ให้เข้า พระราชพิธีศรีสัจจปานกาล
ซึ่งในปัจจุบันนี้ท่านก็ได้เสียชีวิตไปแล้ว เสียชีวิตด้วยความทนทุกข์ทรมานตามผลแห่ง การทวนสาบาน อย่างแสนสาหัส จริงเท็จประการใดไม่กล้ายืนยัน เพราะไม่ได้เห็นกับตาตนเอง
หากจะย้อนถามกันกลับมาว่า อ้าว...แล้วพวกผิดคำสาบานต่อหน้า ธงชัยเฉลิมพลประจำกองตำรวจ ล่ะ ไม่เห็นพูดถึงเลย
ปั๊ดโธ่...จะต้องให้พูดถึง สัมภเวสี อีกทำไมล่ะครับ เห็นกันอยู่ชัดชัด "ผีเร่ร่อน-เจ้าไม่มีศาล" เป็นตัวอย่างอันดีของผู้ที่ผิดคำสาบานตนต่อหน้า "ธงชัยเฉลิมพลประจำกองตำรวจ"
ส่วน นายตำรวจใหญ่ ใน กรุงเทพฯ นาทีนี้ บุญ ยังมีอยู่พอคุ้มหัวเอาตัวรอด หมดบุญเมื่อไหร่ กรรม มาหาหนักนะครับทั่น หัวหน้าตำรวจ กทม. เดี๋ยวจะหาว่า หล่อ ไม่เตือน
ตะนิ่นตาญี
วันอาทิตย์ที่ ๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๕
เวลา ๑๓.๒๓ นาฬิกา
#18
Posted 9 September 2012 - 20:51
น่าจะเป็นอุทธาหรณ์ให้กับข้าราชการทหารตำรวจทั้งหลายได้พึงตระหนักไว้ก็ดี
เหตุเพราะคนส่วนมากไม่เชื่อในผลของการกระทำผิดคำสัตย์ที่ตามมา
จึงได้อหังการ์ สร้างความเดือดร้อนไปทั่วแทบทุกหย่อมหญ้า
ในเมื่อพวกเขาได้ให้คำสัตย์แล้ว แม้ว่าใจจะไม่เชื่อถือคล้อยตาม
แต่ความเที่ยงตรงต่อหน้าที่ความรับผิดชอบก็มีอยู่
ก็น่าจะถือว่า..ตระบัดสัตย์ได้หรือไม่
เรื่องที่ท่านเล่ามานั้น ทำให้ความร้อนรุ่มในจิตใจเบาบางลงไปมากทีเดียว
แต่นี้ไป..ตั้งตารอ ดู ชม
- ตะนิ่นตาญี, พระฤๅษี and Siren like this
ฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
#19
Posted 10 September 2012 - 23:05
แต่ไม่เคยซื่อสัตย์ในอุดมณ์และคำพูดของตัวเอง...แล้วคุณจะเอาความน่าเชื่อถือจากไหนไปวิพากษ์...
#20
Posted 10 September 2012 - 23:10
คนบางคนก็ดีแต่เขียนในบอร์ด สอน...วิพากษ์คนนั้นที คนนี้ที
แต่ไม่เคยซื่อสัตย์ในอุดมณ์และคำพูดของตัวเอง...แล้วคุณจะเอาความน่าเชื่อถือจากไหนไปวิพากษ์...
แต่บางคนก็ไม่ได้เรียนรู้ไม่ได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของใคร หรือรู้จักเขาดีพอ ก็ไปหมิ่นเกียรติของเขาเสียแล้ว คุณคิดว่าคนพวกนี้โลกทัศน์แคบไหมคับ
อำนาจก็เปรียบเหมือนคมดาบที่ไร้ด้าม ถ้าเราไม่รู้จักปล่อยวางลงเสียบ้าง สุดท้ายมันจะทำลายแม้ตัวเราเอง
ม้าดีที่ "ตายแล้ว"
หาใช่ "ม้าดี"
หากคือ "ม้าตาย"
#21
Posted 10 September 2012 - 23:13
แต่ไม้ทั้งท่อนที่ขวางอยู่ในตาของตัวเอง...กลับไม่รู้สึกอะไร"
ก่อนที่จะไปทักว่าในตาคนนั้น คนนี้ มีฝุ่น โปรดเอาท่อนไม้ในตาของท่านออกก่อนเถอะ แต่ชาตินี้ท่านคงจะไม่มีวันเอามันออกไปได้
#22
Posted 10 September 2012 - 23:21
It's us against the world
#23
Posted 10 September 2012 - 23:21
แล้วถ้า ได้ทั้งรู้จักและเรียนรู้อย่างหนักล่ะ มากพอที่จะรู้ว่าเขาคนนั้นอาจจะไม่มีเกียรติและศักดิ์ศรีเพียงพอที่จะหมิ่นก็ได้ แล้วใครกันที่ควรจะถูกเรียกว่าโลกทัศน์แคบ
คนบางคนก็ดีแต่เขียนในบอร์ด สอน...วิพากษ์คนนั้นที คนนี้ที
แต่ไม่เคยซื่อสัตย์ในอุดมณ์และคำพูดของตัวเอง...แล้วคุณจะเอาความน่าเชื่อถือจากไหนไปวิพากษ์...
แต่บางคนก็ไม่ได้เรียนรู้ไม่ได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของใคร หรือรู้จักเขาดีพอ ก็ไปหมิ่นเกียรติของเขาเสียแล้ว คุณคิดว่าคนพวกนี้โลกทัศน์แคบไหมคับ
#24
Posted 10 September 2012 - 23:28
#25
Posted 10 September 2012 - 23:35
ดิ่งเลย...ไม่มีสอบสวนด้วย
สบายใจได้ ....
ลูกหลานที่รัก จงจำปฏิปทานี้ไว้ “ถ้ามีความจำเป็นเราต้องเสียสละเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และปวงชนชาวไทย แม้แต่ชีวิตก็ต้องยอม”
#26
Posted 11 September 2012 - 00:21
เป็นข้าราชการกินเงินเดือนจากภาษีของประชาชน
แต่กลับไม่ทำหน้าที่ของตนเพื่อประชาชนทำแต่เพื่อตน
อย่างไรเสียเวรกรรมต้องตามทันแน่นอน แค่เวลาเท่านั้นเอง
#27
Posted 11 September 2012 - 02:19
แล้วถ้า ได้ทั้งรู้จักและเรียนรู้อย่างหนักล่ะ มากพอที่จะรู้ว่าเขาคนนั้นอาจจะไม่มีเกียรติและศักดิ์ศรีเพียงพอที่จะหมิ่นก็ได้ แล้วใครกันที่ควรจะถูกเรียกว่าโลกทัศน์แคบ
คนบางคนก็ดีแต่เขียนในบอร์ด สอน...วิพากษ์คนนั้นที คนนี้ที
แต่ไม่เคยซื่อสัตย์ในอุดมณ์และคำพูดของตัวเอง...แล้วคุณจะเอาความน่าเชื่อถือจากไหนไปวิพากษ์...
แต่บางคนก็ไม่ได้เรียนรู้ไม่ได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของใคร หรือรู้จักเขาดีพอ ก็ไปหมิ่นเกียรติของเขาเสียแล้ว คุณคิดว่าคนพวกนี้โลกทัศน์แคบไหมคับ
ผมก็แค่เสนอแนะหรอกนะ เห็นว่าท่านโพสยังน้อย ก็โพสประชดประชันด่าคนอื่นเสียแล้ว โดยไม่ได้เผื่อใจคิดว่า อาจจะเป็นอวตารของใครมาใหม่ ขออภัย!!
อำนาจก็เปรียบเหมือนคมดาบที่ไร้ด้าม ถ้าเราไม่รู้จักปล่อยวางลงเสียบ้าง สุดท้ายมันจะทำลายแม้ตัวเราเอง
ม้าดีที่ "ตายแล้ว"
หาใช่ "ม้าดี"
หากคือ "ม้าตาย"
#29
Posted 11 September 2012 - 11:14
แล้วถ้า ได้ทั้งรู้จักและเรียนรู้อย่างหนักล่ะ มากพอที่จะรู้ว่าเขาคนนั้นอาจจะไม่มีเกียรติและศักดิ์ศรีเพียงพอที่จะหมิ่นก็ได้ แล้วใครกันที่ควรจะถูกเรียกว่าโลกทัศน์แคบ
คนบางคนก็ดีแต่เขียนในบอร์ด สอน...วิพากษ์คนนั้นที คนนี้ที
แต่ไม่เคยซื่อสัตย์ในอุดมณ์และคำพูดของตัวเอง...แล้วคุณจะเอาความน่าเชื่อถือจากไหนไปวิพากษ์...
แต่บางคนก็ไม่ได้เรียนรู้ไม่ได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของใคร หรือรู้จักเขาดีพอ ก็ไปหมิ่นเกียรติของเขาเสียแล้ว คุณคิดว่าคนพวกนี้โลกทัศน์แคบไหมคับ
ผมก็แค่เสนอแนะหรอกนะ เห็นว่าท่านโพสยังน้อย ก็โพสประชดประชันด่าคนอื่นเสียแล้ว โดยไม่ได้เผื่อใจคิดว่า อาจจะเป็นอวตารของใครมาใหม่ ขออภัย!!
อวตารแน่แท้
#30
Posted 11 September 2012 - 22:15
คนบางคนก็ดีแต่เขียนในบอร์ด สอน...วิพากษ์คนนั้นที คนนี้ที
แต่ไม่เคยซื่อสัตย์ในอุดมณ์และคำพูดของตัวเอง...แล้วคุณจะเอาความน่าเชื่อถือจากไหนไปวิพากษ์...
จะวิพากษ์สมาชิกท่านไหนหรือครับ ขอความชัดเจนด้วย
ในเมื่อคนๆหนึ่ง ในความเป็นคน ได้ผิดคำสาบานไปแล้ว จะมีประโยชน์อะไร ที่ะต้องให้มาทบทวนคำสาบานอีก ไร้สาระ ขัดหลักตรรกะ นักปรัชญาอย่างท่าน น่าจะเชี่ยวชาญด้านนี้ดีอยู่แล้ว หรือว่าไม่จริง
ทวนคำสาบาน ไม่ใช่ ให้มาอ่านคำสัตย์สาบานอีกหน
เป็นการบอกให้ระลึกถึงการที่เคยให้คำสัตย์ไว้
แล้วตกลงคุณกำลังหมายถึงใคร
ฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
#31
Posted 12 September 2012 - 00:35
คุณ. เพลิง.. (ไม่มี แค้น นะ ) กระซิบ.
แบบกันเอง ( เวรกรรมนะมันมี ) แต่
( มันช้า ) เพื่อนเอ๋ยยย ...5ๆๆๆๆ
ผมก็รู้ว่ามันช้าก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะหมดความอดทนเมื่อไร
อยากจะเป็นเพลิงเผาไอ้พวกหนักแผ่นดินให้มอดไหม้ไปซะจริงๆ
- พระฤๅษี likes this
#32
Posted 12 September 2012 - 10:14
#33
Posted 15 September 2012 - 23:09
ถึง...คนที่เงียบที่สุด
คนบางคนก็ดีแต่เขียนในบอร์ด สอน...วิพากษ์คนนั้นที คนนี้ที
แต่ไม่เคยซื่อสัตย์ในอุดมณ์และคำพูดของตัวเอง...แล้วคุณจะเอาความน่าเชื่อถือจากไหนไปวิพากษ์...
จะวิพากษ์สมาชิกท่านไหนหรือครับ ขอความชัดเจนด้วยในเมื่อคนๆหนึ่ง ในความเป็นคน ได้ผิดคำสาบานไปแล้ว จะมีประโยชน์อะไร ที่ะต้องให้มาทบทวนคำสาบานอีก ไร้สาระ ขัดหลักตรรกะ นักปรัชญาอย่างท่าน น่าจะเชี่ยวชาญด้านนี้ดีอยู่แล้ว หรือว่าไม่จริง
ทวนคำสาบาน ไม่ใช่ ให้มาอ่านคำสัตย์สาบานอีกหน
เป็นการบอกให้ระลึกถึงการที่เคยให้คำสัตย์ไว้
แล้วตกลงคุณกำลังหมายถึงใคร
#34
Posted 16 September 2012 - 07:22
ถึง...คนที่เงียบที่สุด
คนบางคนก็ดีแต่เขียนในบอร์ด สอน...วิพากษ์คนนั้นที คนนี้ที
แต่ไม่เคยซื่อสัตย์ในอุดมณ์และคำพูดของตัวเอง...แล้วคุณจะเอาความน่าเชื่อถือจากไหนไปวิพากษ์...
จะวิพากษ์สมาชิกท่านไหนหรือครับ ขอความชัดเจนด้วยในเมื่อคนๆหนึ่ง ในความเป็นคน ได้ผิดคำสาบานไปแล้ว จะมีประโยชน์อะไร ที่ะต้องให้มาทบทวนคำสาบานอีก ไร้สาระ ขัดหลักตรรกะ นักปรัชญาอย่างท่าน น่าจะเชี่ยวชาญด้านนี้ดีอยู่แล้ว หรือว่าไม่จริง
ทวนคำสาบาน ไม่ใช่ ให้มาอ่านคำสัตย์สาบานอีกหน
เป็นการบอกให้ระลึกถึงการที่เคยให้คำสัตย์ไว้
แล้วตกลงคุณกำลังหมายถึงใคร
เข้าใจว่า คุณ starry คงกำลังตำหนิ ตะนิ่นตาญี อยู่กระมังครับ
ไม่เป็นไรหรอกครับ ตะนิ่นตาญี ตำหนิ ผู้อื่นได้ วิพากษ์ ผู้อื่น ได้ นั่นก็แปลว่า
ผู้อื่น ก็ย่อมจะต้อง ตำหนิ ตะนิ่นตาญี ได้ วิพากษ์ ตะนิ่นตาญี ได้เช่นกัน อันนี้เป็นเรื่องปกติธรรมดา
อย่างไรก็ตามหาก คุณ starry จะกรุณา เมื่อใดที่เห็นว่า ข้อคิด-ความเห็น ใด ของ ตะนิ่นตาญี ไม่เข้าท่า-ไม่เข้าที
กรุณาระบุชื่อของ ตะนิ่นตาญี ออกมาตรงตรงเถอะครับ อย่าได้ใช้วิธี จุดธูปเชิญ ดีกว่ากระมังครับ
เพราะไม่เช่นนั้นแล้วก็จะสร้างความ เดือดร้อน ให้กับเพื่อนเพื่อนที่เขาไม่ได้รู้ อิโหน่-อิเหน่ ด้วยเลย
ดังที่ได้เรียนแล้วในเบื้องต้น คุณ starry จะ ตำหนิ-ติเตียน ใน ข้อคิด-ความเห็น ใด ของ ตะนิ่นตาญี ก็ย่อมทำได้โดยสุจริต
แต่สิ่งหนึ่งที่ ตะนิ่นตาญี ขออนุญาต "ขัดคอ" นั่นก็คือ ประโยคที่ว่า ไม่ซื่อสัตย์ต่อ อุดมการณ์ ของตนเอง
อุดมการณ์ ของ ตะนิ่นตาญี นั้นมีเพียงประการเดียว นั่นก็คือ ความจงรักภักดีต่อ ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์
เป็นอย่างนี้มาแต่เกิด และไม่มี สิ่งใด-สิ่งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น ลาภ-ยศ-สรรเสริญ ก็ไม่อาจทำให้ อุดมการณ์ นี้ เปลี่ยนไปได้
คุณ starry ทราบดี อยู่แล้วครับ ว่านี่คือ "ความจริง"...อีกครั้งหนึ่งครับ ขออภัยจริงจริงครับหาก ตะนิ่นตาญี เขียน สิ่งหนึ่ง-สิ่งใด
อันอาจทำให้ คุณ starry ไม่พอใจใน ประโยค ที่ ตะนิ่นตาญี ได้เขียนออกไป ขออภัยจริงจริงครับ
ดวงดาวที่พราวแสง แม้นไม่ร้อนแรง ดุจดั่ง แสงตะวัน...ไม่นุ่มนวล ดุจดั่ง แสงจันทรา...แต่ก็ยังคง พร่างพราว อยู่ในนภาไม่ใช่หรือครับ?
ตะนิ่นตาญี
วันอาทิตย์ที่ ๑๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๕
เวลา ๗.๒๒ นาฬิกา
0 user(s) are reading this topic
0 members, 0 guests, 0 anonymous users