น้ำเหนือกำลังมา รัฐบาล กับ กทม. ยังทะเลาะกันเรื่องวิธีระบายน้ำออกจาก กทม.เหมือนเดิม ไม่รู้ปีนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.จะใช้วิธี บวงสรวงแม่พระคงคา พระปางห้ามสมุทร แทนสติปัญญา เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯอีกหรือเปล่า
แค่ฝนตกหนักไม่กี่วัน น้ำป่าก็ไหลหลากเข้าท่วมเรือกสวนไร่นาบ้านเรือนอย่างรุนแรง จนถึงเขตอำเภอเมือง โดยชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ไม่มีการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าใดๆทั้งสิ้น เหมือนอย่างที่คุยโวเอาไว้ตอนหลังน้ำท่วมว่า จะมีระบบแจ้งเตือนภัย ทุกอย่างในภาคประชาชน ยังเป็นไปตามยถากรรมเหมือนเดิม
ภาคเหนือตอนบนน้ำท่วมไล่มาตั้งแต่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง ลงมาจนถึงภาคเหนือตอนล่าง อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิจิตร เพชรบูรณ์ ลงสู่ภาคกลาง นครสวรรค์ ชัยนาท สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา กับอีกหลายจังหวัดในภาคอีสานและภาคตะวันออก

อีกไม่ช้าก็คงไหลมาถึง กรุงเทพฯ นี่เพิ่งจะเริ่มต้นฤดูกาลเท่านั้น
น้ำท่วมหนักที่สุดในตอนนี้คือ จังหวัดสุโขทัย เมื่อน้ำจาก แม่น้ำยม ไหลทะลุกำแพงกั้นน้ำ ท่วมตัวเมืองสุโขทัยสูง 1.5 เมตร เข้าสู่ภาวะวิกฤติ แม้จะมีการระดม “บิ๊กแบ็ก” หนักลูกละเกือบสองตัน เพื่อเอาไปยันรอยรั่วก็เอาไม่อยู่ คุณนพพร ภู่เจริญ รองนายกเทศมนตรีเมืองสุโขทัยธานี บอกว่า การวางบิ๊กแบ็กสกัดน้ำจากแม่น้ำยม ทำไปได้ 50% ก็ต้องหยุด เพราะทานกระแสน้ำจากแม่น้ำยมที่ไหลแรงไม่ได้ รถบรรทุก 6 ล้อ ก็ถูกน้ำท่วมพังไป 3 คัน ต้องหาวิธีป้องกันใหม่ อาจต้องสร้างแนวป้องกันห่างแม่น้ำออกมา 120 เมตร
แต่ คุณปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย หรือ กบอ. ของรัฐบาล กลับให้สัมภาษณ์ตรงกันข้าม ไม่มีน้ำเอ่อล้นในแม่น้ำสายหลัก กรณี น้ำท่วมสุโขทัยถือเป็นเหตุสุดวิสัย (แล้วมันจะท่วมได้ไงถ้าน้ำไม่เอ่อขึ้นมา) อีก 1-2 วัน น้ำจะลด มวลน้ำจากสุโขทัย จะไม่ส่งผลกระทบต่อ นครสวรรค์ และ แม่น้ำเจ้าพระยา (พูดเหมือนปีที่แล้วเปี๊ยบ) ไม่จำเป็นต้องผันน้ำไปทางตะวันออกและตะวันตกตามที่ กทม. เสนอ อาจเป็นการวางยารัฐบาลให้ผันน้ำไปท่วมพื้นที่อื่น
นี่คือ สติปัญญา ของ มือแก้น้ำท่วม ของ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

คุณรอยล จิตรดอน ประธานอนุกรรมการติดตามน้ำ ก็ท่าดีทีเหลวไปอีกคน พูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นว่า น้ำท่วมสุโขทัยสาเหตุเกิดจากน้ำเซาะใต้กำแพงเข้ามา เพราะปริมาณน้ำในแม่น้ำยมยังต่ำกว่ากำแพงกั้นน้ำเกือบ 1 เมตร
เป็นคำตอบที่ ขัดต่อข้อเท็จจริง ที่เกิดขึ้นกับ ชาวสุโขทัย ที่กำลังถูกน้ำท่วม 1.5 เมตร โดยสิ้นเชิง งานนี้ไม่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญให้เปลืองเบี้ยประชุม แค่วิเคราะห์ด้วยสามัญสำนึกว่า น้ำย่อมไหลลงสู่ที่ต่ำ ก็พอจะหาคำตอบได้ ถ้าน้ำในแม่น้ำยมไหลต่ำกว่ากำแพงกั้นน้ำ 1 เมตรจริง ความแรงของน้ำที่เซาะจากใต้กำแพงขึ้นมาจะไหลแรงขนาดบิ๊กแบ็กหนักเกือบ 2 ตัน ยังเอาไม่อยู่หรือ
แม้ พระนครศรีอยุธยา ที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯแค่นี้เอง น้ำจาก แม่น้ำเจ้าพระยา ที่ คุณปลอดประสพ บอกว่ายังรับน้ำได้ วันวานก็ไหลเอ่อเข้าท่วมถึง 4 อำเภอ ในพระนครศรีอยุธยา ไล่ตั้งแต่ บางบาล เสนา ผักไห่ และ อ.พระนครศรีอยุธยา น้ำท่วมถนนสูง 40-60 ซม. แม้แต่ วัดไชยวัฒนาราม น้ำก็เอ่อตลิ่งจน กรมศิลปากร ต้องเร่งติดตั้งกำแพงป้องกันทันที
แต่ ทีมป้องกันน้ำท่วม ของ นายกฯยิ่งลักษณ์ กลับเอ้เตอยู่ในกระทรวงคอยฟังรายงานลูกน้อง แล้วก็ให้สัมภาษณ์เหมือนปีที่แล้วไม่มีผิด ถ้าปีนี้น้ำท่วมอีก แม้จะขอโทษสักร้อยครั้ง ก็คงไม่มีใครให้อภัยแน่นอน.

“ลม เปลี่ยนทิศ”
http://www.thairath....i_remark/290472