นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวภายหลังทราบคำตัดสินของศาลอาญา คดีนายพัน คำกอง อายุ 43 ปี คนขับแท็กซี่ชาวยโสธร เสียชีวิตบริเวณสำนักงานขายคอนโดไอดีโอ เสียชีวิต ในพฤษภาคม 2553 ว่า
กรณีนี้ ดีเอสไอ จะมีคำสั่งว่า ผู้ตายถูกกระสูนปืนของฝ่ายทหาร ซึ่งศาลได้มีคำสั่งผูกไว้ว่า เป็นการปฎิบัตามคำสั่งของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ดังนั้น จะมีการทำสำนวน 2 แนวทาง คือ 1.ทหารที่ยิงประชาชนตกเป็นผู้ต้องหา 2.ทหารคนดังกล่าวถูกกันเป็นพยาน เนื่องจากเป็นการกระทำผ่านคำสั่งของผู้บังคับบัญชา คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตผู้อำนวยการ ศอฉ. ซึ่งถูกดำเดินคดี ในข่ายฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามประมาลกฎหมายอาญามาตรา 288,289 และมาตรา 59 ซึ่งระบุว่า เป็นการกระทำที่มีเจตนาเล็งเห็นผลว่า มีผู้เสียชีวิตได้
นายธาริต กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม กฎหมายให้ผู้ที่ถูกกล่าวหา สามารถแก้ข้อกล่าวหาว่า เป็นการกระทำเพื่อป้องกันหรือระงับเหตุร้าย ซึ่งเรื่องนี้ จะไม่เป็นได้อยู่ที่ดุลยพินิจ ของดีเอสไอ ตำรวจ และอัยการ โดยเรื่องจะต้องส่งไปยังศาล เพื่อให้ดำเนินการต่อไปอย่างแน่นอน
