"เชื่อว่า คนเสื้อแดง ทักษิณ จะเกลียดผมเข้าไส้"
#1
Posted 17 September 2012 - 18:55
ค้นความจริงฉบับสุดท้าย "ดร.คณิต" เปิดลิ้นชักแห่งความลับ 20 ปี "เชื่อว่าคนเสื้อแดง ทักษิณจะเกลียดผมเข้าไส้"
updated: 05 ก.ย. 2555 เวลา 20:35:50 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ รายงานพิเศษ
แม้ คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) จะสิ้นสุดวาระไปแล้วเมื่อวันที่ 30 ก.ค. แต่ "ดร.คณิต ณ นคร" ยังถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในกลเกมการเมืองขณะนี้
เพราะทั้ง "ความจริง-ความลับ" ในมือ คอป.ถือเป็นอาวุธสำคัญที่ฝ่ายการเมือง ยังจ้องจะหยิบไปขยายแผลทางการเมือง สร้างความผิดให้คู่ตรงข้ามตกเป็น "จำเลย" โดยสมบูรณ์
หนึ่ง พรรคเพื่อไทยยังรอ "ความจริง" ภายใต้รายงานความคืบหน้าฉบับสมบูรณ์ของ คอป. เพื่อเพิ่มน้ำหนักความผิดให้ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ-สุเทพ เทือกสุบรรณ" กรณีลงนามคำสั่งกระชับพื้นที่ ในเหตุการณ์การชุมนุมปี 2553 ทำให้มีคนตาย 98 ศพ
สอง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ยังรอ "ความลับ" ของ ดร.คณิต ครั้งที่ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบ ศึกษา และวิเคราะห์การกำหนดนโยบายปราบปรามยาเสพติดให้โทษ และการนำนโยบายไปปฏิบัติจนเกิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ชื่อเสียง และทรัพย์สินของประชาชน (คตน.)
เพื่อเปิดข้อมูลจากรายงานค้นหาความ จริง ลาก "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" เข้าสู่ข้อหา "ฆ่าตัดตอน" ในฐานะผู้ประกาศทำสงครามขั้นแตกหักเพื่อเอาชนะยาเสพติด
ทั้ง 2 คดี 2 จำเลย ฝ่ายการเมืองต้องการลาก "คนผิด" ไปไกลถึงกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อให้ศาลอาญาระหว่างประเทศหรือศาลโลกเป็นผู้ตัดสิน
แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ "ดร.คณิต" ตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายการเมือง
ปี 2535 ครั้งที่นั่งเก้าอี้รองอัยการสูงสุด เขาถูกฝ่ายการเมืองเชิญไปช่วยค้นหาความจริงหลังเหตุการณ์ "พฤษภาทมิฬ" ร่วมกับคณะของนายโสภณ รัตนากร อดีตประธานศาลฎีกา
"ดร.วิษณุ (เครืองาม) รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในขณะนั้นได้โทรศัพท์มาหาผมที่บ้าน เพื่อเชิญให้ผมไปร่วมกระบวนการค้นหาความจริง โดยท่านกล่าวกับผมสั้น ๆ ว่า สาเหตุที่ต้องเป็นผม เพราะดูมีความเป็นกลางสูงที่สุดในขณะนั้น"
หลัง ทำงานอย่างเข้มข้นร่วม 4 เดือน รายงานฉบับสมบูรณ์ก็เสร็จสิ้น แต่ "ความจริง" ดังกล่าวก็สูญหายไปพร้อมกับกาลเวลา ไม่เคยได้รับการเปิดเผยข้อมูลจากฝ่ายการเมือง
ปี 2550 ภายหลังเหตุการณ์รัฐประหาร พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้แต่งตั้ง คตน. โดยมอบหมายให้ "ดร.คณิต" รับผิดชอบ เพื่อค้นหาความจริงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีความผิดใน "คดีฆ่าตัดตอน" หรือไม่
"เราทำงานกัน อย่างได้ผล สุดท้ายสามารถบ่งชี้ชัดได้ว่า กรณีดังกล่าวเป็นความผิดฐานอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ (Crime against humanity) ได้เกิดขึ้น หลังจากที่มีคนตายหลายพันคน"
แต่ 1 ปีให้หลัง รายงานค้นหาความจริงเรื่องฆ่าตัดตอนก็ลอยหายไปกับสายลมอีกครั้ง เมื่อนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น มีคำสั่งไม่ต่ออายุให้คณะทำงาน คตน.
เป็น 2 ครั้งที่ "ความจริง" ในมือ ดร.คณิต ถูกฝ่ายการเมืองเก็บเข้าลิ้นชักแห่งความลับ
กระทั่ง ล่าสุดกับการแต่งตั้ง คอป. เพื่อค้นหาความจริงในช่วงเหตุการณ์ชุมนุมเดือนพฤษภาคม ปี"53 ดร.คณิตตัดสินใจเข้ารับตำแหน่งเพื่อค้นหาความจริงอีกครั้ง โดยคำชักชวนจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น
จาก บทเรียนทั้ง 2 ครั้งก่อนหน้านี้ ทำให้เขามีข้อแม้กลับไปว่า "ยินดีที่จะทำหน้าที่ค้นหาความจริง แต่จะไม่ขอเข้าข้องเกี่ยวกับการค้นหาว่าใครผิด-ใครถูก เพราะนั่นคือบทบาทในชั้นของกระบวนการยุติธรรม"
เมื่อสัญญาทั้งหมดลง ตัว "ดร.คณิต" จึงเดินสาย เชื้อเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วยตนเอง โดยมีหลักตั้งต้นว่า ในคณะทำงานต้องมีคนจากทุกสี ทุกฝ่าย เพื่อให้มีข้อมูลในมาตรฐานเดียวกัน
"จาตุรนต์ ฉายแสง" คือชายคนแรกที่เขาอยากพบ เพราะความสัมพันธ์เกี่ยวโยงกันตั้งแต่สมัยก่อตั้ง "พรรคไทยรักไทย" โดยเฉพาะครั้งที่ทำงานร่วมกันในกระทรวงยุติธรรม ถือว่าบุคคลนี้รู้มือกันดีอยู่แล้ว
"วีระ มุสิกพงศ์-สนธิ ลิ้มทองกุล" เป็นกลุ่มแกนนำ 2 ฝ่าย 2 สี ที่มีความจำเป็นต้องมีอยู่ในคณะทำงานเดียวกัน เพื่อให้การลงความเห็นจากทั้งหมด ไม่เกิดผลลัพธ์เป็น 2 มาตรฐานให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ทั้ง 3 คนให้คำตอบ "ปฏิเสธ" ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน คณะทำงานในฝันของ "ดร.คณิต" จึงไม่เกิดขึ้น สุดท้ายจึงเกิด 12 คอป.ขึ้นจนถึงปัจจุบัน
หลังผ่านร้อน-หนาวบนเก้าอี้ "ค้นหาความจริง" มาร่วม 20 ปี ดร.คณิตสามารถสรุปบทเรียน กลั่นเป็นข้อเสนอแนะที่สำคัญได้ 6 ประการ ดังนี้
1.ความ วุ่นวายหลังเหตุการณ์รัฐประหาร ปี 2549 หากต้องการทำให้บ้านเมืองกลับมาสงบอย่างสันติได้นั้น จำเป็นต้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณเสียสละเพื่อชาติ ยุติบทบาททางการเมือง เนื่องจากเป็นชนวนเหตุที่สำคัญของเหตุการณ์ทั้งหมด
2.รัฐบาลต้องเดิน หน้าแก้ไขภาพการหักดิบกฎหมายให้มีความกระจ่างชัด เพื่อลบความทรงจำในแง่ลบของประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นในตัวตุลาการให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม
3.กรณี ที่ศาลโลกที่คนเสื้อแดง และ ปชป.กำลังดำเนินการอยู่นั้น มีความเห็นว่าไม่สามารถทำได้ จนกว่ารัฐบาลไทยจะได้ลงสัตยาบันใน "ธรรมนูญกรุงโรม" ซึ่งหากศาลโลกเข้ามาเกี่ยวข้องในตอนนี้ จะเสี่ยงที่ทำให้ประเทศเสียเกียรติภูมิในที่สุด
4.ควรตระหนักว่าที่ ผ่านมา มีนักการเมือง พนักงานรัฐจำนวนไม่น้อย หลบหนีกระบวนการยุติธรรมไปต่างประเทศ ยกตัวอย่างผู้ใหญ่คนหนึ่งในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ถูกพิพากษาลงโทษจำคุก แต่สุดท้ายหนีออกนอกประเทศจนคดีหมดอายุความ
5.ขอยกตัวอย่างกรณีการ ทุจริตเรื่องหนึ่ง มี 2 สามีภรรยา ชื่อ Gerald and Patricia Green ร่วมกันทำทุจริตกับหัวหน้าหน่วยงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สุดท้ายศาลในประเทศสหรัฐอเมริกาตัดสินให้มีความผิด ทำเรื่องให้ไทยส่งตัวอดีตผู้ว่าการคนดังกล่าวในฐานะ "ผู้ร้ายข้ามแดน" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 20
6.ควรปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม อาจต้องแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายพิจารณาความอาญาให้ศาลไทย ดำเนินคดีในลักษณะ "การพิจารณาโดยไม่มีตัวจำเลย" ในคดีบางประเภท เช่น คดีความผิดเกี่ยวกับคอร์รัปชั่น เกี่ยวกับการก่อการร้าย เพื่อป้องกันไม่ให้มีการหลบหนีออกนอกประเทศอย่างไม่มีความผิด
ทั้ง หมดคือข้อเสนอ-ข้อเท็จจริงส่วนตัวของประธาน คอป.ที่เตรียมเปิดเผยอย่างเป็นทางการ พ่วงท้ายกับผลการค้นหาความจริงฉบับสมบูรณ์ ในวันที่ 17 กันยายนนี้
ทั้ง หมดเป็นความจริงในใจจาก "ดร.คณิต" ที่ยังคงเป็นห่วงว่า หากข้อเสนอแนะสุดท้ายถูกเผยแพร่ อาจถูกฝ่ายการเมืองเก็บเข้าลิ้นชักเป็นครั้งที่ 3
โดยเฉพาะบทสนทนาในวงประชุมครั้งสุดท้ายที่มีกรรมการคนหนึ่งอ้างถึงว่า
"หลัง แถลงข่าวเสร็จ ขอให้คณะกรรมการแยกย้ายกันทันที เพราะผมเชื่อว่าหลังรายงานฉบับนี้ถูกเผยแพร่ คนเสื้อแดงและคุณทักษิณจะเกลียดผมและพวกคุณเข้าไส้"
- plunk, nhum, Lucy Van Pelt and 6 others like this
"น้อมส่งเสด็จสู่พระนิพพาน"
#2
Posted 17 September 2012 - 19:13
- pakorn likes this
#3
Posted 17 September 2012 - 19:16
คอป.สรุปรายงานเหตุการณ์แดงก่อม็อบเผาเมือง ปี 53 ฉบับสมบูรณ์ ยืนยันมีชายชุดดำจริง ใช้ เอ็ม 79 และปืนเล็กยาว ถล่มทหารตาย 8 ตำรวจอีก 2 กลุ่มรักษ์สีลมอีก 1 โดยมีหลักฐานชายชุดดำพัวพันธ์กับ “เสธ.แดง” และการ์ด นปช. ระบุแกนนำแก๊งเสื้อแดงไม่พยายามควบคุมความรุนแรง ขณะที่ศอฉ.บกพร่องไม่ประเมินผลการปฏิบัติการในสถานการณ์จริง
ตามไปอ่านรายละเอียดได้
http://www.manager.c...D=9550000114521
- RaRa likes this
"น้อมส่งเสด็จสู่พระนิพพาน"
#5
Posted 17 September 2012 - 19:27
เลือกเอาเลยครับว่าจะแถแบบไหนสำหรับพี่น้องแดงของเรา
#6
Posted 17 September 2012 - 19:32
อ้าว......
มีชายชุดดำจริงเหรอเนี่ยยยยย
แล้วอย่างนี้ ธาริต จะทำไงเนี่ย
ก็ออกมาเสียงแข็งว่า "ไม่มี๊..ไม่มี"
หลักฐานสำคัญคืออ้างตามเหวงฮะ
#7
Posted 17 September 2012 - 19:38
...โดยเฉพาะบทสนทนาในวงประชุมครั้งสุดท้ายที่มีกรรมการคนหนึ่งอ้างถึงว่า...
"หลังแถลงข่าวเสร็จ ขอให้คณะกรรมการแยกย้ายกันทันที เพราะผมเชื่อว่าหลังรายงานฉบับนี้ถูกเผยแพร่ คนเสื้อแดงและคุณทักษิณจะเกลียดผมและพวกคุณเข้าไส้"
555555555555555+
"น้อมส่งเสด็จสู่พระนิพพาน"
#8
Posted 17 September 2012 - 19:46
#9
Posted 17 September 2012 - 20:13
ผมชอบตอนสุดท้ายที่บอกว่า
...โดยเฉพาะบทสนทนาในวงประชุมครั้งสุดท้ายที่มีกรรมการคนหนึ่งอ้างถึงว่า...
"หลังแถลงข่าวเสร็จ ขอให้คณะกรรมการแยกย้ายกันทันที เพราะผมเชื่อว่าหลังรายงานฉบับนี้ถูกเผยแพร่ คนเสื้อแดงและคุณทักษิณจะเกลียดผมและพวกคุณเข้าไส้"
555555555555555+
กฏหมู่กำลังจะอยู่เหนือกฏหมาย 100% แล้วสินะ ..เอวัง ประเทศไทย
#10
Posted 17 September 2012 - 20:28
การกล่าวหา มาร์คและเทือก คงทำไรไม่ได้ เพราะประเทศไทยไม่ได้ลงสัตยบรรณ อันนี้ชัดเจน..มาร์คไปเรียนอังกฤษ ก็ขอวีซ่าเข้าประเทศด้วยพาสปอร์ตไทย
แต่การที่ ปชป. ไปยื่นเรื่องฆ่าตัดตอนนั้น ยังสรุปยาก....เพราะทักษิณ ได้แสดงตัวชัดในการเดินทางเข้าหลายประเทศด้วยพาสปอร์ตมอนเตรเนโกร ซี่งได้ให้สัตยบรรณรับรองเขตอำนาจแล้ว....รอดูกันต่อไป
- TIK Tik tik and Strangerman like this
#11
Posted 17 September 2012 - 20:44
เขาเกลียดทุกคน ที่ไม่เลียไข่พ่อแม๊วเค้าอยู่แล้ว
#13
Posted 17 September 2012 - 21:11
เจตนารมณ์ส่วนตัว
- ไม่ใช้ถ้อยคำที่คำหยาบคาย
- ไม่ต่อล้อต่อเถียงอย่างไม่มีเหตุผล
#14
Posted 17 September 2012 - 21:50
If you try hard enough, you can be whatever you want to be.
#15
Posted 17 September 2012 - 22:01
- พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน, อู๋ ฮานามิ, ant and 1 other like this
#16
Posted 17 September 2012 - 23:21
ตอนนี้ยังคิดไม่ออก กำลังงงกับความเห็น คอป.ที่ให้แม้วเป็นสัมภเวสี อยู่ต่างแดนต่อไป
แล้วเมื่อไหร่จะได้กลับมาอย่างเท่สักทีล่ะ
Edited by ant, 17 September 2012 - 23:22.
#17
Posted 17 September 2012 - 23:30
ควายแดง หมูหมานักเห่า นักตั้งกระทู้ควายจอมขยัน ทั้งหลาย มาตอบกันหน่อย
กรูรู้พวกมรึงก็มาอ่าน อย่าหลบ อย่าป๊อด จะเอาผ้าถุงแม่คลุมหัวกันอยู่ทำไม มามา
หายหัวหมด
รัฐประหาร ปกป้องชีวิตไทย พอกันที ประชาธิปไตย ด้วย M79
#18
Posted 18 September 2012 - 08:14
ของ หมวดเจี๊ยบ แน่
#19
Posted 18 September 2012 - 08:53
....
บอดสีดำ
#20
Posted 18 September 2012 - 12:10
#21
Posted 18 September 2012 - 12:15
ไอ้คณิต *คุณ*ได้ดีเพราะใคร อย่าลืมบุญคุณ ดูท่านคำรณวิทย์เป็นตัวอย่าง *คุณ*ควรทำตัวแบบไหนน่าจะรู้ อย่าให้เค้าว่าอกตัญญูเลย
อย่าลืมบุญคุณของ เงินเดือนจากภาษีประชาชน ไม่ใช่บุญคุณของนักโทษชายหนีคดี
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
#22
Posted 18 September 2012 - 12:28
(ประชาชน ทั้งประเทศ )เพราะ..เงินเดือนของคุณ
ได้มาจาก ( ภาษี ของประชาชน ) ทั้งประเทศ...
- อู๋ ฮานามิ likes this
#23
Posted 21 September 2012 - 09:07
http://www.thaipost....ws/210912/62651
สั่งปิดตาชาวโลก ‘เหวง’ชง‘ยงยุทธ’เบรกคอป.ห้ามเผยแพร่ภาษาอังกฤษ!
21 September 2555 - 00:00
"สม ชาย" ระบุยูเอ็นจับตารัฐบาลจะนำข้อเสนอ คอป.ไปใช้มากน้อยแค่ไหน โต้คนวิจารณ์ให้ไปอ่านโดยละเอียด "มาร์ค" จี้นายกฯ แสดงจุดยืนชัดเจนจะได้รู้ปรองดองคือนิรโทษกรรม น.ช.ทักษิณอย่างเดียว "ปูนิ่ม" ไม่มีความเห็นโยน ปคอป.ดูขั้นตอนปฏิบัติ "เหวง" ชง "ยงยุทธ" สอบความถูกต้องสั่งระงับการเผยแพร่ฉบับภาษาอังกฤษ อ้างป้องกันต่างชาติเข้าใจผิด "ธาริต" ตีบทเศร้าดีเอสไอถูกโจมตีจนขวัญเสีย ยันดำเนินคดีทุกฝ่ายรู้ ไม่มีใครอยากฆ่าใคร ปูดความลับเคยรายงาน "อภิสิทธิ์" พลเรือนตายจากฝีมือ จนท. 11 ศพ
เมื่อวันพฤหัสบดี นายสมชาย หอมลออ คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) กล่าวถึงกรณีนางนาวี พิลเลย์ ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ออกแถลงการณ์ชื่นชมรายงานฉบับสมบูรณ์ของ คอป. และเสนอแนะให้รัฐบาลนำรายงานไปปฏิบัติ เชื่อว่าในวันแถลงรายงานฉบับสมบูรณ์เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา มีผู้แทนจากยูเอ็นมานั่งฟังด้วย เพราะโดยหลักการของยูเอ็นไม่ต้องการให้มีความรุนแรงและละเมิดสิทธิมนุษยชน
"บทบาทของยูเอ็นก็คือ ติดตามการทำงานของรัฐบาลและภาคสังคมในการที่จะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ ละเมิดสิทธิมนุษยชนอีก โดยจะดูว่ารัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำข้อเสนอแนะของ คอป.ไปใช้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งตรงนี้ถือเป็นหน้าที่ของยูเอ็นอยู่แล้ว" นายสมชายกล่าว และว่า ขณะนี้ได้มีหน่วยงานจากยูเอ็นได้มาติดต่อขอรายงานฉบับสมบูรณ์ภาคภาษาอังกฤษ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการแปล คาดว่าอีกประมาณ 1 เดือน จะสามารถทำการส่งรายงานดังกล่าวไปให้ได้
ส่วนกรณีที่มีการโจมตีรายงานของ คอป.นั้น กรรมการ คอป.กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะสิ่งที่ คอป.ค้นพบและเสนอไปเป็นสิ่งที่ขัดต่อสิ่งที่คนบางกลุ่มเชื่อ จึงทำให้มีการติดใจเกิดขึ้น ดังนั้น จึงอยากขอร้องให้ผู้ที่มีปฏิกิริยาเหล่านี้ได้ไปอ่านรายงานฉบับสมบูรณ์ของ คอป.ก่อน และเท่าที่ตนได้พูดคุยหลายคนก็ยังไม่ทันได้อ่าน บางคนก็แค่พลิกดูรูปแล้วก็มาวิจารณ์ว่าไม่มีผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติ หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ทั้งๆ สิ่งเหล่านี้มีหมด
“คนที่กล่าวหาว่าผมหรือกรรมการ คอป.ทำงานตามใบสั่งนั้น ก็ไปหาหลักฐานมาว่าใครสั่งมา เพราะผมก็ไม่ยังไม่รู้เลยใครสั่งผมได้ ตลอดชีวิตการทำงานผมทำงานตรงไปตรงมา ไม่เคยเอนเอียงไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง” นายสมชายกล่าว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนได้ปรารภกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไว้ในวันที่ไปทำเนียบรัฐบาล สะท้อนมุมมองจากคนภายนอก ซึ่งมีคนที่เป็นชาวต่างประเทศ ว่าควรมีมาตรฐานของการมีคณะกรรมการอิสระแบบนี้ที่มาตรวจสอบข้อเท็จจริง แล้วก็รับผิดชอบต่อสาธารณะ แล้วก็เผยแพร่ เป็นกระบวนการหนึ่งที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศ ในสายตาคนนอก ซึ่งถ้าตั้งใจอ่านแล้วก็ค่อยๆ แกะไปในแต่ละเรื่อง แต่ละเหตุการณ์ แต่ละช่วง มันก็จะต้องเอาสิ่งเหล่านี้มาพูดคุยกันด้วยเหตุด้วยผล
จี้ "ปู" แสดงจุดยืน
เขาบอกว่า ถ้าเราจะปรองดองแล้วก็ต้องมาเริ่มดูแล้วว่าชุดความจริงที่เขารวบรวมมา กับชุดความจริงซึ่งแต่ละฝ่ายถืออยู่ หรือบางกรณีอาจจะฝังอยู่ไปแล้วนั้น จะเอาขึ้นมาดูแล้วก็หาจุดร่วมกันอย่างไร ทั้งนี้ นายกฯ จะต้องแสดงจุดยืนชัดเจนว่าตกลงรายงาน คอป.นั้นจะเดินหน้ากันอย่างไร ถ้าบอกว่าจะหาช่องทางเชิญทุกฝ่ายมาคุยกันก็น่าจะเป็นแนวทางซึ่งทำให้เราพอจะ มีความหวังว่าการปรองดองที่แท้จริงมันพอจะเดินได้ แต่ถ้าบอกว่าไม่เอาเลยเราก็จะได้ทราบว่า คอป.นั้นก็จะไม่สามารถทำอะไรต่อไปได้แล้ว จะได้ชัดกันไปเลย ตกลงคำว่าปรองดอง ของรัฐบาลหมายถึงอะไร ต้องหมายถึงการนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างเดียวใช่หรือไม่
"ถ้านายกฯ ไม่ทำตรงนี้ แล้วปล่อยสภาพเป็นอย่างนี้ ผมว่ามันก็ไม่จบหรอก สถานการณ์บ้านเมืองมันก็ต่อเนื่องกันไปในเรื่องความขัดแย้ง” นายอภิสิทธิ์กล่าว
ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี ยูเอ็นเสนอแนะให้รัฐบาลไทยปฏิบัติตามคำแนะนำของ คอป.ว่า เราต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงต้องทำความเห็นขึ้นมา อันไหนที่ปฏิบัติได้เรายินดีอยู่แล้ว
ส่วนกรณีสมาชิกพรรคเพื่อไทยไม่ยอมรับรายงาน คอป.นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า คงต้องเอาผลนี้ไปหารือในรายละเอียด เพราะจริงๆ แล้วในส่วนของ คอป.เรามีคณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะ กรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) ที่จะเข้าไปดูในรายละเอียด เพราะบางครั้งการเขียนผลมาถือเป็นข้อแนะนำ ข้อเสนอ แต่ส่วนที่เกี่ยวข้องคงต้องไปดูเรื่องของแนวทางปฏิบัติและการทำงานมากกว่า ต้องให้เวลาซึ่งกันและกันในการทำความเข้าใจ และต้องค่อยๆ ดู ทั้งนี้ ในแง่สิทธิเสรีภาพสามารถให้ความคิดเห็นกันได้ แต่การปฏิบัติต้องลงไปในขั้นตอน ว่าไปตามกระบวนการและขั้นตอนของกฎหมาย
“ดิฉันเองยังไม่ขอให้ความเห็น เพราะเราถือว่าข้อแนะนำต่างๆ อะไรที่เราทำได้เราก็ยินดีทำ แต่เราต้องพูดว่าจุดมุ่งหมายที่ทุกคนอยากเห็นคือความสงบสุขและการยอมรับ ฉะนั้นตรงนี้คือขั้นตอนหนึ่งของข้อเสนอ แต่การจะทำให้คนยอมรับต่างๆต้องให้เวลาในการพูดคุยและให้คนปฏิบัติลงไปทำงาน เพื่อให้แผนนั้นเกิดขึ้นจริง" น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวเมื่อถามว่าส่วนตัวนายกฯ ยอมรับได้กับรายงานของ คอป.หรือไม่
ขณะที่ นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ยื่นหนังสือถึงนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ในฐานะประธาน ปคอป. และนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา เพื่อให้พิจารณาข้อสังเกตบางการในรายงาน คอป.ที่อาจไม่ตรงกับความเป็นจริง
โดย นพ.เหวงกล่าวว่า สาเหตุที่รายงานของ คอป.ฉบับนี้ไม่มีความน่าเชื่อถือด้วยเหตุผล 4 ประการ คือ 1.ไม่มีหลักฐานที่เป็นวิทยาศาสตร์ยืนยันข้อสรุปเกี่ยวกับการมีอยู่ของชายชุด ดำในทุกข้อความที่กล่าวถึงชายชุดดำและการปฏิบัติการของชายชุดดำ 2.ตั้งใจที่จะไม่ตรวจสอบและค้นหาความจริงเกี่ยวกับบทบาทในการสลายการชุมนุม ของฝ่ายศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) 3.ตั้งใจที่จะอธิบายถึงความชอบธรรมที่ ศอฉ.และรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในการใช้กองทัพและอาวุธสงครามปราบปรามสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดง และ 4.ตั้งใจละเลยที่จะไม่ค้นหาเกี่ยวกับการใช้ตึกสูงในบริเวณที่มีการสังหาร ประชาชน
สั่งระงับฉบับภาษาอังกฤษ
"ดังนั้น ขอให้ ปคอป.พิจารณาให้ตรวจสอบความถูกต้องและความน่าเชื่อถือด้วย พร้อมกับให้ระงับการเผยแพร่รายงานคอป.ในฉบับภาษาอังกฤษ เพื่อป้องกันไม่ให้ต่างชาติเกิดความเข้าใจผิด" นพ.เหวงกล่าว
ด้านนายยงยุทธกล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ดำเนินการพิจารณาของ คอป.แล้ว เพราะฉะนั้นเมื่อได้รับข้อร้องเรียนของ นพ.เหวง ทาง ปคอป.จะเร่งพิจารณาให้เร็วที่สุด พร้อมกับจะสั่งการให้กรมสารนิเทศแถลงทำความเข้าใจต่อนานาชาติด้วย
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวว่า ในเรื่องความคิดเห็น ไม่ได้บังคับว่าจะต้องเป็นอย่างไร เป็นสิ่งที่ใครจะเชื่ออย่างไร รัฐบาลจะไปดำเนินการอย่างไร ถือเป็นความคิดเห็นเฉยๆ ไม่อยากแสดงความคิดเห็น ขออยู่ตรงกลาง แต่ก็ยอมรับว่าเป็นความเห็นอีกแง่ที่ต้องรับฟังไว้ ส่วนกรณีที่สรุปว่ามีชายชุดดำทุกอย่างขึ้นอยู่ที่หลักฐาน เช่น ชายชุดดำตนก็เห็นว่ามีรูปเหมือนกัน แต่ทาง คอป.บอกว่าชายชุดดำมีเยอะแยะ แต่จะพวกไหน ใคร อย่างไร ต้องว่ากันไปตามหลักฐานที่พิสูจน์ทราบกัน ซึ่งยังเป็นปริศนากันต่อไป
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการดำเนินคดีกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ และ ผอ.ศอฉ. ในข้อกล่าวหาฆ่าคนตายโดยเจตนาในเหตุการณ์ชุมนุมของคนเสื้อแดง โดยนายสุเทพได้ออกมาท้าทายให้ตั้งข้อหากับตัวเองว่า ทุกอย่างจะเป็นไปตามขั้นตอนและกระบวนการยุติธรรม เพราะว่าคำสั่งของศาลฎีกามีความชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐทำตามคำสั่งของ ศอฉ. และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 70 หลังจากนี้ พนักงานอัยการเมื่อทราบคำสั่งของศาลฎีกาแล้วก็จะส่งสำนวนชันสูตรพลิกศพไปยัง พนักงานสอบสวนของ บช.น. ให้ดำเนินการสอบสวนเบื้องต้น และส่งเรื่องต่อไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จากนั้นจะส่งเรื่องให้คณะกรรมการคดีพิเศษ ซึ่งมีตนเป็นประธาน เป็นผู้อนุมัติให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นผู้สอบสวน "ยืนยันว่าไม่มีการกลั่นแกล้งนายสุเทพแน่นอน และไม่ต้องออกมาท้าทาย ผมไม่รับคำท้าทาย แต่ผมได้บอกนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ให้ดำเนินการไปตามหลักเกณฑ์และข้อกฎหมายอย่างเข้มงวด ไม่ต้องเกรงกลัวว่าใครจะเป็นนักการเมืองใหญ่โต ซึ่งคาดว่าจะทราบผลเร็วๆ นี้"
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ระบุว่า นายธาริต เพ็งดิษฐ์ มีส่วนร่วมในการตัดสินใจของ ศอฉ.ด้วย จะต้องถูกสอบสวนหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมล่าวว่า นายธาริตเป็นแค่ผู้รับคำสั่ง และไม่ได้เป็นหน่วยกำลังที่ลงพื้นที่ ดังนั้นนายธาริตก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ผู้ที่ออกคำสั่งต่างหากต้องเป็นผู้ที่รับผิดชอบ ใครทำกรรมไว้ก็เตรียมติดคุก
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ แถลงตอบโต้กรณีนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพระบุว่าดีเอสไอตั้งธงมุ่งเล่นงานว่า ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอถูกโจมตีมากจนขวัญเสีย เพราะทำงานตรงไปตรงมา เลยถูกกลุ่มคนเกลียดชังทั้งฝ่ายเชียร์ นปช.และฝ่ายเชียร์นายอภิสิทธิ์กับนายสุเทพ ตลอดจนสื่อมวลชนหลายฉบับ ซึ่งสาธารณชนอาจเข้าใจผิดว่ากระบวนยุติธรรมผิดเพี้ยน เชื่อถือไม่ได้ ตอนนี้นายธาริตเดินไปไหนก็ถูกคนเกลียดหมดไม่ว่าฝ่ายไหน ทั้งนี้ เหตุที่เกิดขึ้นมันต่างคนต่างผิดคนละบริบท ซึ่งเวลา 2 ปี เมื่อทำให้ข้อเท็จจริงนิ่งก่อน ศาลไต่สวนกรณีนายพัน คำกอง เสียชีวิตออกมาแล้ว คดีนายสุเทพ และนายอภิสิทธิ์กำลังจะเป็นคดีที่หนึ่ง
รายงาน"มาร์ค"จนท.ฆ่า11ศพ
อธิบดีดีเอสไอกล่าวย้อนหลังเหตุการณ์ความไม่สงบเมื่อเดือนเม.ย.-พ.ค.2553 ว่าทำให้สูญเสียอย่างมากทั้งชีวิตและร่างกาย ทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ และพลเรือน ซึ่งอาจเกิดจากต้นเหตุความผิดของทั้งสองฝ่าย คือ ฝ่าย นปช.และฝ่ายรัฐ ได้ถูกยกระดับให้เป็นคดีพิเศษ ดังนั้น ดีเอสไอมีหน้าที่ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทุกคนและทุกฝ่าย ยืนยันว่าทำงานตรงไปตรงมา
"ไม่มีใครอยากฆ่าใครหรอก เมื่อผู้รับผิดชอบฝ่ายรัฐในขณะนั้นคือฝ่ายบริหาร ศอฉ.ออกคำสั่งไม่รอบคอบจนอาจเข้าข่ายก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็น ผล ก็ต้องถูกดำเนินคดีเช่นเดียวกันกับกลุ่มฮาร์ดคอร์ของ นปช.ทำผิดกฎหมาย” นายธาริตกล่าว
นายธาริตเปิดเผยความลับว่า ในสมัยนายอภิสิทธิ์ ตนได้เข้าไปพบรายงานนายอภิสิทธิ์ว่าเบื้องต้นพบ 11 ศพแล้วที่เกิดจากเจ้าหน้าที่รัฐทำให้ตายจะต้องส่งศาลไต่สวน ท่านก็บอกเห็นด้วย และสั่งให้ตนชี้แจงกับฝ่ายทหารด้วย ตนก็ดำเนินการให้สอบสวน ก็พบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนขณะนี้ 36 ศพแล้ว ทั้งนี้ยืนยันไม่ได้เปลี่ยนสี
ยังมีความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ เปิดเผยว่า ขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ที่ประเทศอิตาลี และจะเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ในอีก 1-2 วันนี้ เพื่อไปชมการแข่งขันรถฟอร์มูล่าวันตามที่ผู้จัดเชิญ และจะอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ 2-3 วัน น่าจะเป็นช่วงวันที่ 22-24 ก.ย. และทราบข่าวว่าตอนนี้ตั๋วเครื่องบินไปสิงคโปร์ที่นั่งเฟิร์สคลาสเต็มหมดแล้ว ก็ไม่รู้ว่าบรรดาเศรษฐี หรือนักการเมืองไปดูการแข่งขันหรือไปพบอดีตนายกฯ กันแน่ แต่ใครจะไปพบก็ถือเป็นเรื่องปกติ
ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม เปิดเผยด้วยว่า ในวันที่ 23 ก.ย.นี้ ตนจะเดินทางไปประเทศสิงคโปร์อย่างแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ โดยจะเดินทางในวันที่ 22 ก.ย.นี้ เวลาประมาณ 12.00 น. แต่จะไปชมการแข่งขันรถฟอร์มูล่าวัน ไม่ได้ไปพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะท่านคงไม่มีเวลาพบกับตน ถามว่าอยากเจอ พ.ต.ท.ทักษิณไหม บอกได้เลยว่าอยากเจอท่านใจแทบขาด แต่ก็ไม่ได้นัดหมายพบเจอแต่อย่างใด
นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ อดีตอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวกรณีนายคณิต ณ นคร ประธาน คอป. เสนอแนะให้ พ.ต.ท.ทักษิณเสียสละเหมือนนายปรีดี พนมยงค์ ว่า นายคณิตมิได้ศึกษาหรือตระหนักว่าในฐานะนักการเมืองไทย ฯพณฯ ปรีดีได้พยายามกลับเมืองไทยหลายต่อหลายครั้ง และครั้งหนึ่งได้กลับมาทำ “ขบวนการประชาธิปใตย 26 กุมภาพันธ์ 2492/1951” คือยึดอำนาจรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม แต่ล้มเหลว ถูกปราบปรามหนักด้วยอาวุธสงคราม ขบวนการนั้นจึงถูกเรียกว่า “กบฏวังหลวง” จนกระทั่งหลบหนีออกไปได้ และไม่สามารถกลับมาเมืองไทยได้อีกเลย
นายชาญวิทย์ระบุว่า ส่วนครั้งแรกคือ หลัง “รัฐประหาร 2490/1947” ความล้มเหลวครั้งนี้ สมาชิกของเสรีไทย อดีตผู้นำ นักการเมือง “คณะราษฎร” ปีกเสรีนิยม บางคนถูกฆ่า ยิงทิ้ง เช่น ทองอินทร์ ภูริพัฒน์, จำลอง ดาวเรือง, ถวิล อุดล, ทองเปลว ชลภูมิ, เตียง ศิริขันธ์, โผน อินทรทัต, ทวี ตะเวทิกุล, ฯลฯ นี่เป็นการปิดบทบาทฝ่ายเสรีนิยม ฝ่ายนักการเมืองพลเรือน ไปนานแสนนาน
Edited by คนกรุงธน, 21 September 2012 - 09:13.
"น้อมส่งเสด็จสู่พระนิพพาน"
#24
Posted 21 September 2012 - 09:15
ไม่เหมือนคำพูดแกนนำ ล้วนเลื่อนลอย เต็มด้วยอคติ ไม่สำคัญว่าแดงทุรนทุรายจะไม่ยอมรับ
สุดท้ายว่ากันที่ หลักฐานและข้อเท็จจริง ก็ดูว่าพวกนี้จะดิ้นกันอย่างไร
จะเอาม๊อบมาขู่กัน นาทีนี้อย่าเลยครับ ยุคนี้ไม่มีใครกลัวใครหรอก
- rafia likes this
0 user(s) are reading this topic
0 members, 0 guests, 0 anonymous users