

วันที่ 17 ก.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้เดินมายื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้เร่งรัดจับกุม นางภคินี สุวรรณภักดี อดีตรองกรรมการผู้จัดการธนาคารมหานคร ผู้ต้องหาร่วมกันยักยอกทรัพย์ธนาคารมหานคร มารดานายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี สส.ปชป. มูลค่าความเสียหายกว่า 4,100 ล้านบาท โดยมี พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกตร. เดินทางมารับหนังสือแทน
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า วันนี้มายื่นหนังสือให้ทาง ผบ.ตร. เพื่อเร่งรัดจับกุมนางภคินีเนื่องจาก คดีดังกล่าวมีอายุความ 15 ปี นับตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค.2540 จะหมดอายุความในวันที่ 30 ต.ค.2555 ที่ผ่านมาตอนที่ตนเองเป็นฝ่ายค้านได้เรียกร้องให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ดำเนินการในเรื่องนี้ ล่าสุดได้ข้อมูลว่านางภคินีได้เดินทางเข้าออกประเทศเพื่อนบ้านบ่อยครั้งให้ ตร.ดำเนินการตรวจสอบเรื่องการใช้พาสปอร์ตของใคร มีการเปลี่ยนชื่อหรือไม่อย่างไร รวมทั้งมีข่าวว่ามีการปรับเปลี่ยนโฉบหน้าจริงหรือไม่อย่างไร คดีนี้มีผู้กระทำผิด 3 ราย ก็มามอบตัวสู้คดีหมดแล้วเหลือเพียงนางภคินีที่ยังหลบหนีอยู่ ยืนยันว่าไม่ใช่คดีการเมืองที่เอาคืนกัน แต่เป็นความเสียหายของประชาชน ของประเทศชาติและมีการฟ้องร้อง อยากเร่งให้ตำรวจดำเนินคดีจับกุมตัวมารับโทษ
ด้านพล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ยืนยันว่าที่ผ่านมาตำรวจไม่ได้ละเลยน่าจะมีการดำเนินการบางส่วนแล้วหลังรับหนังสือจะดำเนินการส่งเรื่องตามขั้นตอน ส่งเรื่องไปให้ทางกองทะเบียนประวัติอาชญากร ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และโรงพักต่างๆเพื่อดำเนินการจับกุมตัว
ขณะที่มีรายงานข่าวแจ้งความคืบหน้าคดีนี้ว่า ทาง พ.ต.อ.กิตติ สะเภาทอง และพ.ต.อ.ชัยณรงค์ เจริญไชยเนาว์ รองผบก.ปอศ. ผู้ควบคุมคดีดังกล่าว ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนติดตามคดีนี้มาโดยตลอด ทั้งให้ไปเฝ้าบ้านของผู้ต้องหาและญาติที่เกี่ยวทั้งหมด 7 แห่ง ซึ่งยังไม่พบตัวผู้ต้องหาแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามข้อมูลจากชุดสืบสวนสอบสวนมีรายงานแจ้งเข้ามาว่า นางภคินีได้เดินทางออกนอกประเทศไปอยู่ 2 แห่ง คือ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศออสเตรียเลีย แต่ปัญหาเกิดขึ้นในระหว่างที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลได้ปล่อยปะละเลยคดีนี้ไป เพราะอาจจะเป็นมารดาของนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นได้ ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนจะเร่งทำงานอย่างเต็มที่ก่อนคดีนี้จะขาดอายุความวันที่ 30 ต.ค.ต่อไป
http://www.khaosod.c...9PQ==&subcatid=