มาตรา 3 “ผู้ถูกลงโทษทางวินัย” หมายความว่า ผู้ถูกลงโทษหรือลงทัณฑ์เพราะกระทำผิดวินัยตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ ประกาศ หรือคำสั่งของกระทรวง ทบวง กรม ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจและให้หมายความรวมถึงผู้ถูกลงโทษหรือลงทัณฑ์โดยคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายซึ่งมีผลเช่นเดียวกับการถูกลงโทษหรือลงทัณฑ์ทางวินัย
มาตรา 5 “ให้ล้างมลทินให้แก่บรรดาผู้ถูกลงโทษทางวินัยในกรณีซึ่งได้กระทำก่อนหรือในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2550 และได้รับโทษหรือรับทัณฑ์ทั้งหมดหรือบางส่วนไปก่อนหรือในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ โดยให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยถูกลงโทษหรือลงทัณฑ์ทางวินัยในกรณีนั้น ๆ”
......................................
กฎหมายชัดๆ เจนๆอย่างนี้
จะตะแบงไปถึงไหน
ในซีกรัฐบาลนักกฎหมายทั้งประเทศสั่งใช้ได้
ในฝ่ายค้านได้แสดงแล้ว
นักกฎหมายใหญ่อิสระทั้งหลาย
นักกฎหมายในมหาลัยดังๆ
ไปตายไหนกันหมด
ช่วยมาบอกเขาทีว่า คุณผิด ยอมรับผิดเถิด
เกิดคุณทำอะไรต่อไปทีนี้ติดคุกนะครับ
หรืออยากให้มันตายในคุก
มหาดไทยนี่ตัวดีเรื่องตะแบง
เรื่องนี้ถ้ารับความจริงตั้งแต่แรกก็จบไปแล้ว
กรรมมาแล้ว รับซะ