โกตี๋ ประกาศบุกบ้านพระอาทิตย์แล้ว..
#51
ตอบ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:51
จากนั้นไม่นาน โกตี๋จะถูกยิงตายข้างถนน
เพื่อจุดชนวนสงครามกลางเมืองขึ้น
ตอนนี้ผมว่า รัฐบาลปูเน่ากำลังแย่
โดนทุกด้าน ทั้งเศรษฐกิจ ทั้งการเมือง
และ ทักษิณเองก็ร้อนรนจะรีบกลับมาเคลียร์เงินคืนและล้างความผิด
จากนั้นก็จะขึ้นแท่นบริหารต่อไป
วันนี้มีสภาพอยู่แค่ "ยัน" กันอยู่ระหว่าง 2 ฝ่าย
ยันกันไปนานๆ ทักษิณไม่ได้กลับบ้านซักที แถมรัฐบาลทำท่าจะโชว์ทาสแท้ว่า บริหารประเทศหมาไม่แดก
ก็ต้องทำอย่างนี้ จุดกระแสสร้างข่าวปฏิวัติ เพื่อให้คนเสื้อแดงลืมเรื่องความยากลำบากในปัจจุบัน
และปล่อยอันธพาลเกะกะระราน สร้างเรื่องราวให้มันตีกัน
สุกงอมเต็มที่ ก็เปิดสงครามกลางเมืองซะเลย
จะได้กลับมาเร็วขึ้น
ตอนนี้ แก้รธน. หรือ พรบ. ปรองดอง ก็ดูเน่าแล้ว
มันไม่มีทางอื่นหรอก นอกจาก ยึดอำนาจจากการก่อสงครามกลางเมืองขึ้นมา
ผมค่อนข้างจะมั่นใจ ว่า "โกตี๋จะถูกยิงตายเหมือนเสธ.แดง"
เพื่อเอาศพมาสร้างชนวนการรบ
เมื่อรบกัน คนก็จะลืมเรื่อง ความล้มเหลวและห่วยแตกของรัฐบาลปูเน่า
ลืมว่า รัฐบาลนี่เป็น หุ่นร่างทรงของ ทักษิณ ซึ่งก็เป็นความห่วยแตกในการบริหารของทักษิณด้วยเช่นกัน
ถ้ารบกันได้
ทักษิณและปูก็ลอยตัว
แล้วถ้าชนะ ก็มีแต่ความยินดีปรีดา กลบเกลื่อนความเน่าของรัฐบาลได้สนิทเลย
น่าเสี่ยงเปิดไพ่ใบนี้นะ
- kon_thai likes this
แผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ทั้งกษัตริย์ยังทรงคุณธรรมอันสูงส่ง
จำคำนี้ไว้ไปบอกยมบาลเวลาเจ้าลงนรกก็แล้วกัน
#52
ตอบ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 12:29
เจตนารมณ์ส่วนตัว
- ไม่ใช้ถ้อยคำที่คำหยาบคาย
- ไม่ต่อล้อต่อเถียงอย่างไม่มีเหตุผล
#53
ตอบ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 12:40
คุณอาจจะคลั่งเหมือนหมาบ้า กับบางสิงที่เกิดขึ้นในชีวิต
คุณอาจจะสบถ สาปแช่งโชคชะตา
แต่เมื่อวาระสุดท้ายมาถึง คุณก็ต้องปล่อยให้มันเป็นไป
Curious Case Of Benjamin Button
#54
ตอบ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 16:36
ครับ ก้ถูกของคุณนะ เขายังไม่ได้ไป รอดูตามที่คุณว่าดีกว่า แต่ไอ้ที่ประกาศว่าจะไปบุกบ้านคนอื่นเนี่ย มันเข้าข่ายข่มขู่มั๊ย
ผมยังจำคำถาม ของ Hentai ได้นะ.....ที่ถามว่า เราจะไช้กฏหมายหรือกฏหมู่ปกครองบ้านเมือง Hentai ว่าไงครับกับกรณีนี้ หรือการยกพวกไปบุกบ้านคนอื่นมันเป็นการกระทำที่ถูกกฏหมาย
ถ้าเค้าไป... แล้วไป อยู่ตรงทางเท้า... ประท้วงอย่าง สงบ อหิงสา ... ไมทราบว่า ท่านจะใช้ กฏหมายอะไร ไปดำเนินการกับเค้าครับ...
ถ้าเค้าไป... แล้วไป บุกสำนักงาน ทำลายข้าวของ... ไปทำสิ่งผิดกฏหมาย.. แบบนี้ ตำรวจก็ต้องจัดการ... เจ้าของพื้นที่ก็ต้องฟ้องร้องตาม สิทธิ...
- ถ้า เป็นคดีแพ่ง แต่ผู้เสียหายไม่ร้อง.... เป็น ความผิดของ กฏหมายหรือ...
- ถ้าเป็น คดีอาญาแต่... ตำรวจไม่จับ... ปชป มี ก็ว่ากันไป...
ว่าแต่... เค้าไปหรือยังครับ.... เหตุยังไม่เกิด.... รอเกิดก่อน ดูว่าใครทำอะไรอย่างไรก่อนดีไหม...
#55
ตอบ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 16:50
ได้สิ ถ้าบุกรุกเข้าไปในเขตรั้ว โดยเจตนาร้ายมีอาวุธ (ถือไม้ก็มองเป็นอาวุธได้ถ้าใช้ทุบตี ทำร้ายหรือทำให้เสียทรัพย์)
ผมยังจำคำถาม ของ Hentai ได้นะ.....ที่ถามว่า เราจะไช้กฏหมายหรือกฏหมู่ปกครองบ้านเมือง Hentai ว่าไงครับกับกรณีนี้ หรือการยกพวกไปบุกบ้านคนอื่นมันเป็นการกระทำที่ถูกกฏหมาย
ถ้าเค้าไป... แล้วไป อยู่ตรงทางเท้า... ประท้วงอย่าง สงบ อหิงสา ... ไมทราบว่า ท่านจะใช้ กฏหมายอะไร ไปดำเนินการกับเค้าครับ...
ถ้าเค้าไป... แล้วไป บุกสำนักงาน ทำลายข้าวของ... ไปทำสิ่งผิดกฏหมาย.. แบบนี้ ตำรวจก็ต้องจัดการ... เจ้าของพื้นที่ก็ต้องฟ้องร้องตาม สิทธิ...
- ถ้า เป็นคดีแพ่ง แต่ผู้เสียหายไม่ร้อง.... เป็น ความผิดของ กฏหมายหรือ...
- ถ้าเป็น คดีอาญาแต่... ตำรวจไม่จับ... ปชป มี ก็ว่ากันไป...
ว่าแต่... เค้าไปหรือยังครับ.... เหตุยังไม่เกิด.... รอเกิดก่อน ดูว่าใครทำอะไรอย่างไรก่อนดีไหม...
เจ้าของมีสิทธิ์ปกป้องทรัพย์สินได้
http://www.pattanaki...25904&Ntype=136
เมื่อมีปืน แล้วต้องรู้จักคำว่า ป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย
มีปืนแล้วยิงคนตาย แบบไม่มีความผิดเลย ก็คือยิงเพื่อป้องกันสิทธิของตนเอง
หรือผู้อื่น ให้พ้นจากภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย
และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำไปพอสมควรแก่เหตุ การกระทำนั้น
เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นไม่มีความผิด ตามความในประมวล
กฎหมายอาญามาตรา ๖๘
จึงขออนุญาตท่านลงข้อความทางกฎหมาย
เพื่ออธิบายรายละเอียดของการป้องกันตัวให้สมาชิกได้ทราบเป็นความรู้ครับ
เพราะเป็นสิ่งสำคัญกับคนมีปืน ที่จะต้องรู้ และนำเอาไปใช้ปฏิบัติให้ถูกต้อง
หลักเกณฑ์ของการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย ( มี ๔ ข้อ ) คือ
๑ . มีภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย
เช่น มีคนมาปล้น มาจะฆ่า จะทำร้าย เป็นต้น
ระวัง หากเขามีสิทธิทำร้ายเราได้ เช่นพ่อมีสิทธิว่ากล่าว / ตีลูก เมื่อเราทำผิดบิดามารดา
ลงโทษเรา /ตีเรา ไม่ถือเป็นภยันตรายตามข้อ ๑ นี้ เราตอบโต้แล้วอ้างป้องกันไม่ได้
มีฎีกา ที่ ๔๒๙/๒๕๐๕ ว่าพระตีลูกศิษย์ ลูกศิษย์ตอบโต้ ฆ่าพระ ไม่เป็นป้องกัน
กรณีเห็นเมียกำลังนอนกอดกับชายชู้ ถือเป็นภยันตรายที่มาละเมิดตามข้อ ๑ แล้ว
แต่ก็แยกว่า ถ้าภริยาจดทะเบียนสมรสกับเรา เราฆ่าชู้ เป็นป้องกัน ( ฏีกาที่๓๗๘/๒๔๗๙ )
แต่ถ้าไม่ได้จดทะเบียน ไม่เป็นป้องกัน แต่อ้างบันดาลโทสะตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๗๒ เพื่อให้ศาลลงโทษน้อยลงได้ ( ฎีกาที่ ๒๔๙/๒๕๑๕ )
แม้จะมีภยันตรายตามข้อ ๑ แล้วก็ตาม แต่ผู้ที่จะอ้างป้องกันได้
จะต้องไม่มีส่วนผิดในการก่อให้เกิดภยันตรายดังกล่าวขึ้นด้วย คือ
- ไม่เป็นผู้ที่ก่อภัยขึ้นในตอนแรก
เช่น ฎีกาที่ ๒๕๑๔/ ๒๕๑๙ จำเลยชกต่อยก่อน แล้ววิ่งหนี เขาไล่ตามต่อเนื่อง
ไม่ขาดตอน จำเลยยิงเขาตาย อ้างป้องกันไม่ได้
- ไม่เป็นผู้ที่สมัครใจเข้าวิวาทกัน
เช่นฎีกาที่ ๒๓๒๒/๒๕๒๒ จำเลยโต้เถียงกับคนตาย แล้วก็ท้าทายกัน
สมัครใจเข้าชกต่อยต่อสู้กัน แม้คนตายจะยิงก่อน แล้วจำเลยยิงสวน
ก็อ้างป้องกันไม่ได้
- ไม่เป็นผู้ที่ยินยอมให้ผู้อื่นกระทำต่อตนโดยสมัครใจ
เช่น ให้เขาลองของคุณไสย์ คงกระพัน แล้วจะไปโกรธตอบโต้ภายหลัง
อ้างป้องกันไม่ได้
- ไม่เป็นผู้ที่ไปยั่วให้คนอื่นเขาโกรธก่อน
เช่นไปร้องด่าพ่อแม่ ด่าหยาบคายกับเขาก่อน พอเขาโกรธมาทำร้ายเรา
เราก็ตอบโต้ เราอ้างป้องกันไม่ได้
๒. เป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง
เช่น เขากำลังจะยิงเรา เราจึงต้องยิงสวน
ฎีกาที่ ๒๒๘๕ / ๒๕๒๘ จำเลยกับคนตายคุยตกลงกันเรื่องแบ่งวัว จำเลยชวน
ให้ไปคุยตกลงกันที่บ้านกำนัน คนตายไม่ยอมไป กลับชักปืนออกมาจากเอว
จำเลยย่อมเข้าใจว่าจะยิงตน จึงยิงสวน ๑ นัด เป็นป้องกัน
ฎีกาที่ ๑๗๓๒ /๒๕๐๙ คนตายชักมีดพกจากเอวมาถือไว้ แล้วเดินเข้ามาหาจำเลย
ระยะกระชั้นชิด จำเลยยิงสวน ๑ ที คนตายยังเดินต่อเข้ามาอีก จึงยิงสวน อีก ๑ ที
ล้มลงตาย เป็นป้องกันสมควรแก่เหตุ
ฎีกาที่ ๑๗๔๑/ ๒๕๐๙ คนตายจับมือถือแขนคู่หมั้นจำเลย พอจำเลยมาเห็น
คนตายก้มหยิบมีดพร้าที่วางใกล้ๆ ยาว ๑๒ นิ้ว ด้ามยาวอีก ๑๒ นิ้ว
แสดงว่าคนตายจะทำร้ายทันทีเมื่อหยิบมีดได้ จำเลยใช้มีดฟันตนตายไป ๑ ที
ป้องกันพอแก่เหตุ
ฎีกาที่๑๖๙ / ๒๕๐๔ คนตายเมาสุราร้องท้าทายจำเลยให้มาต่อสู้กัน
จำเลยไม่สู้ คนตายถือมีดดาบปลายแหลมลุยน้ำข้ามคลอง จะเข้าไปฟันจำเลย
ถึงในบ้าน จำเลยไม่หนีเพราะบ้านตัวเอง และใช้ปืนยิงสวนไป ๑ นัด
ขณะที่คนตายอยู่ห่าง ๖ ศอกถึง ๒ วา เป็นป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
-ฎีกานี้วางหลักว่า ผู้รับภัยไม่จำเป็นต้องหลบหนีภยันตราย ก็อ้างป้องกันได้
๓. ผู้กระทำจำต้องกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนเองหรือผู้อื่น ให้พ้นภยันตรายนั้น
ข้อนี้ตามที่อธิบายข้างต้นไปแล้ว
๔. ต้องเป็นการกระทำป้องกันสิทธิที่ไม่เกินขอบเขต
ไม่งั้นจะเป็นการป้องกันที่เกินสมควรกว่าเหตุ หรือเกินกว่ากรณีแห่งการ
จำต้องกระทำเพื่อป้องกัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๖๙ ไป
ซึ่งจะทำให้ยังมีความผิดอยู่
แบบไหนไม่เกินกว่าเหตุ ยากมากครับ ต้องแล้วแต่พฤติการณ์แห่งคดีที่เกิดขึ้น
ฎีกาที่ ๘๒๒ / ๒๕๑๐ คนตายเป็นฝ่ายก่อเหตุก่อน จะเข้ามาชกต่อยทำร้ายจำเลย
จำเลยจึงเอาปืนยิงลงพื้นดินไป ๑ นัด เพื่อขู่ให้คนตายกลัว แต่คนตายไม่หยุด
กลับเข้ามากอดปล้ำใช้แขนรัดคอแล้วแย่งปืนจำเลย จำเลยจึงยิงขณะชุลมุนนั้น
ไป ๑ นัด ตาย เป็นป้องกันที่พอสมควรแก่เหตุ ไม่มีความผิด
ฎีกาที่ ๙๔๓ /๒๕๐๘ คนร้ายจูงกระบือออกจากใต้ถุนบ้านแล้ว มีปืนลูกซองมาด้วย
จำเลยร้องถามแล้ว คนร้ายหันปืนมาทางจำเลย จำเลยยิงสวนทันที
ศาลฎีกาบอกว่า คนร้ายหันปืนมาแล้ว อาจยิงได้ และถ้าจำเลยไม่ยิง คนร้ายก็อาจเอา
กระบือไปได้ เป็นป้องกันที่พอสมควรแก่เหตุ
ฎีกาที่ ๑๒๕๖ /๒๕๓๐ คนตายบุกรุกเข้าไปฉุดลูกสาวในบ้านจำเลย
เมื่อมารดาเด็กเข้าห้ามถูกคนร้ายตบหน้า แล้วจะฉุดพาลูกสาวออกบ้าน
จำเลยยิงไปทันที ๔ นัด เป็นป้องกันที่พอสมควรแก่เหตุ
ฎีกาที่ ๖๐๖ / ๒๕๑๐ คนตายเข้ามาชกจำเลย จำเลยล้มลง คนตายเงื้อมีด
จะเข้าไปแทง จำเลยยิงสวน เป็นป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
เทียบกับ
ฎีกาที่ ๒๗๑๗/ ๒๕๒๘ คนตายยืนถือมีดอยู่ห่าง ๒ วา ยังไม่อยู่ในลักษณะพร้อมที่
จะฟันทำร้ายจำเลย การที่จำเลยด่วนยิงคนตายไปก่อน
เป็นป้องกันจริง แต่เกินสมควรแก่เหตุ
ฎีกาที่ ๔๕๔๔ / ๒๕๓๑ คนตายบุรุกเข้าไปในบ้านจำเลยยามวิกาล
เมื่อจำเลยได้ยินเสียงผิดปกติ คว้าปืนลงมาดู คนตายยิงทันที
จำเลยยิงสวน เป็นป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
ฎีกาที่ ๑๘๒ / ๒๕๓๒ ก.ถือไม้ไปที่บ้านจำเลย ร้องท้าทายให้จำเลยมาสู้กัน
ก.เดินเข้าหาจำเลย จำเลยตกใจกลัวว่า ก. จะเข้ามาเอาไม้ตีทำร้าย จึงวิ่งไปเอาปืน
แล้วเล็งยิงไปที่ขา ก. รวม ๓ นัด เมื่อรู้ว่ากระสุนถูกที่ขา ก. จำนวน ๑ นัด
จำเลยก็ไม่ยิงซ้ำ เป็นป้องกันที่พอสมควรแก่เหตุ
คราวนี้มาดูกรณีที่ถือว่าเกินสมควรกว่าเหตุ
ฎีกาที่ ๒๙๘๓ / ๒๕๓๑ คนตายขับมอเตอร์ไซด์กลับบ้าน พบจำเลยระหว่างทาง
จำเลยพูดทวงหนี้คนตาย คนตายโกรธเคืองต่อว่าจำเลย พร้อมเดินเข้าไปหาจำเลย
ด้วยมือเปล่าเพื่อจะทำร้าย ระยะห่างประมาณ ๑ วา จำเลยใช้ปืนยิง ๑ นัด
เป็นป้องกันตัวจากการจะถูกทำร้าย แต่เกินกว่าเหตุเพราะคนตายมือเปล่า
ฎีกาที่ ๖๔ / ๒๕๑๕ ก.และ ข.มือเปล่าไม่มีอาวุธ เข้ารุมชกต่อยจำเลย
จำเลยใช้ปืนยิง ในระยะติดพันกันนั้นรวม ๓-๔-๕ นัด จน ก. ตาย
เป็นป้องกันจริง แต่เกินกว่าเหตุ
ฎีกาที่ ๔๐๕ / ๒๔๙๐ จำเลยเฝ้าไร่พืชผัก คนตายเข้าไปในไร่ เวลากลางวันเพื่อ
จะลักพืชผัก จำเลยจึงใช้ปืนยิงคนตาย เป็นป้องกันจริง แต่เกินกว่าเหตุ
ฎีกาที่ ๑๓๔๓ / ๒๔๙๕ ยิงคนร้ายขณะกำลังวิ่งหนีและพาเอาห่อของที่ลักไปด้วย
โดยคนร้ายไม่ได้ทำอะไรแก่ตนเลย เป็นป้องกัน แต่เกินสมควรแก่เหตุมาก
ฎีกาที่ ๒๙๔ /๒๕๐๐ ยิงคนร้ายที่จูงกระบือในเวลากลางคืน ตรงนั้นมืดมาก
โดยคนร้ายไม่ได้แสดงกริยาต่อสู้ เป็นป้องกันที่เกินสมควรกว่าเหตุ
ฎีกาที่ ๒๗๑๗ / ๒๕๒๘ คนตายเข้ามาลักลอบตัดข้าวโพดในไร่จำเลย
ในตอนกลางคืน โดยคนร้ายเอามีดมาด้วย แต่ขณะที่จำเลยมาเห็น คนตายยืนถือมีด
ห่างประมาณ ๒ วา ยังไม่อยู่ในลักษณะพร้อมที่จะฟันทำร้าย จำเลยด่วนยิง
จึงเป็นการป้องกันที่เกินกว่าเหตุ
ฎีกาที่ ๑๘๙๕ / ๒๕๒๖ คนตายเมาสุรา เดินถือปืนตรงเข้าไปหาบิดาจำเลย
พูดทำนองจะฆ่าบิดา จำเลยจึงสกัดกั้นยิงคนตายไปก่อน ๑ นัด แล้วกระโดด
เข้าแย่งปืนคนตายมาได้ แต่กลับเอาปืนคนตายนั้นมายิงคนตายซ้ำอีก ๓ นัด
จึงเกินกว่าเหตุ
ฎีกาที่ ๖๒๐ / ๒๕๓๒ คนตายถือมีดทำครัวบุกรุกเข้าไปในห้องจำเลยจะทำร้าย
แต่การที่จำเลยใช้ปืนยิงคนตายถึง ๕ นัด เป็นการเกินกว่าเหตุ
ครับเป็นเกร็ดความรู้ทางกฎหมายเล็กๆน้อยๆ ที่นำมาฝากกันครับ ...
ที่มา : http://www.gunsandgames.com
"น้อมส่งเสด็จสู่พระนิพพาน"
#56
ตอบ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 16:57
บุกไปเลย พาพวกไปเยอะๆ ถล่มพังบ้านและสถานี astv ให้ราบ เผาไปเลยยิ่งดี
#57
ตอบ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 16:58
ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน