อนึ่งขอให้ทุกท่านทำใจให้ปลอดโปร่งโล่งสบาย ทิ้งโทสาและฉันทาคติทั้งหลายอ่านด้วยใจอุเบกขา เรื่องทั้งหมดที่เรียมจักเล่าล้วนสมมุติขึ้นทั้งปวง
อันการเกณฑ์ทหาร บางคนบ้างไม่อยากเป็น ต่างก็หาทางหลบเลี่ยง
รับราชการหนึ่ง ๑ เป็นหมอ คุณครู พยาบาล เพื่อหลีกเว้น
เรียนรักษาดินแดน ๑ เพื่อได้ยศว่าที่ จักได้ไม่ต้องเกณฑ์
ยัดเงินสินบน ๑ เพื่อให้ได้ใบผ่านการเกณฑ์
หนีหลบพลางแอบซ่อน ๑ จนกว่าโทษจักพ้นไป
เรื่องมีอยู่ว่า ณ เมืองดงบังดก มีกระทาชายนามว่า ยุงบินชุม ได้เป็นถึงเสนาฯ กินเบี้ยตำแหน่งนายกเมือง ประวัติแต่หนหลังฟังดูน่าพิกล ถึงวัยเกณฑ์ทหารเขาเว้นไม่ได้เป็นเพราะตำแหน่งอันชอบด้วยเหตุคือเป็นครู พอสอนได้ยามฤกษ์อันพอเหมาะจึงขอลากิจงานเพื่อศึกษา แต่ด้วยเหตุการณ์ผกผันจึงได้ออกจากอาชีพครู
อันว่าใจผู้ปกครองชน ย่อมต้องยอมเผชิญความกลัวปกป้องราชประชาพล หากมีใจที่จะหลบเลี่ยงภัยศัตรูแห่งนคราแล้วนั่นจะใช่นักปกครองฤๅ ถ้าว่าใจของยุงบินชุมหากบริสุทธิ์ก็น่าล้วนยินดี แต่ใจคนหาหยั่งจะวัดได้ เหตุก็ไม่ได้ผิดจากมณเฑียรบาล แต่ว่ามันก็พิกลจากเสนาฯ ธรรม
ท่านทั้งหลายโปรดครวญคิดไว้ลองตรองดู
แสดงว่าบุญญาบารมียังน้อยอยู่คือเป็นคนธรรมดา ถ้าบารมีมากต้องเอาพัสดีมาบ้าน ..
ผลออกมาไม่ต้องเป็นตาหาน ..เรียกว่าไปเกณฑ์ตาหานหรือเปล่า