ได้เวลาเข้างาน
Thanks: ฝากรูป
เด็จผีแส่จนได้เรื่อง
#51
ตอบ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 19:15
#52
ตอบ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 19:27
คนอย่างเอ็ง ไม่พ้นเลือกบักปอด เป็นหัวหน้าพรรคเดี๋ยวก็บอกถูกว่ากลั่นแกล้งใส่ร้าย เป็นเรื่องการเมือง
เดี๋ยวก็บอกเป็นการบริหารการจัดการเรื่องน้ำท่วม ไม่ให้น้ำไหลย้อนกลับ
ปลิ้นป้อนเหมือนกันหมด พรรคอับปีดีแต่พูด ลิ้วล้อก็โง่เหมือนฟายเชื่อเข้าไปได้อีกเนอะ
ร้อยบาท เอาขี้หมากองเดียว
กล้าเล่นไหม
#53
ตอบ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 19:35
เป็นคนมันต้องคิดซิเว้ย ว่าสมเหตุสมผลหรือเปล่า ไม่ไช่ใครว่าอะไรมา เคี้ยวเอื้องฟังหูห้อย
ผมไม่ทราบจุดไหนของศรีนครินทร์ แต่ดูจากรูปแล้วถ้าอุดตรงที่ลูกศรชี้ ไม่น่าจะมีผล
ถ้าจะอุดกันน้ำคลองเข้าท่อมันต้องอุดที่บ่อพักสุดท้ายที่อยู่ติดกับคลอง และต้องอุดทั้ง 2ฝั่งถนน
แต่จากรูปที่ จขกท นำมาให้ดู นั่นมันกลางเมือง จะไปอุดเพื่ออะไร น้ำมันก็เข้าทางบ่อพัก
บ่ออื่นได้อยู่ดี ยังงงกับวิธีการ ไม่รู้เป็นวิศวกรรมสาขาไหน
รูปที่ จขกท เอามาให้ดู เค้าอุดกันตรงไหนเหรอครับ
ในการป้องกันน้ำคลองใหลย้อน อย่างที่ จนท. กทม.ว่า ด้วยเหตุผลดังที่บอกไปแล้ว
ควายแดงกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญของกรมการระบายน้ำไปแล้ววุ้ยถึงกะลงความเห็นว่า "ไม่น่าจะมีผล" เอ้าหลบเร็ว ควายบุกกรุง!!!
คล้ายๆกะคนของเผาไทยที่ปีที่แล้วจะให้ผันน้ำไปนครนายก.....น้ำไหลจากต่ำขึ้นสูงได้เองตามหลักเผาไทยและควายแดง
จินตนาการซะน้ำ......ท่วม
แล้วเดินตามต้อยๆ อย่างนี้อย่ามาเล่นบอร์ดให้เขาจูงจมูกเลย ไปอยู่ศุนย์อนุรักษ์ดีกว่า
ตกลงถ้าจะกันน้ำเข้าพื้นที่ถนนต้องทำยังไง
“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.” - Mahatma Gandhi
สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด
#54
ตอบ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 20:57
กทม. เขามีสภาของเขาอยู่ ทำไมเด็จผีถึงไม่ไปถาม พวก สก. เขตต่างๆ ของพรรคเผด็จการเพื่อไทยบ้าง
ว่าเขาทำงานกันอย่างไร
ถ้าคิดจะดิสเครดิตเฉพาะตัวผู้ว่า กทม. นั้น เท่ากับรนหาที่แท้ๆ บางเรื่อง สภาเป็นผู้อนุมัติให้ทำ หรือไม่ทำ
ซึ่งในสภาก็มีพวก สก. พรรคเผด็จการเพื่อไทยอยู่หลายตัวพอสมควร บางเรื่อง สก.เขตนั้นๆ ก็ดำเนินการ
ซิกแซกกับทางเขตเอง โดยไม่ผ่านสภา กทม.
ตอนนี้บรรดา สก. ในสภา กทม. ยังปรองดองกันอยู่บ้าง แต่ถ้าเขาอดรนทนไม่ไหวเมื่อไหว คงจะมีการออกมาแฉ
ให้บรรดาพวก สก. พรรคเผด็จการเพื่อไทยหงายหลังกระทบชิ่งไปถึงสภาใหญ่อย่างแน่นอน
ไปปรึกษากันบ้างดีกว่ามั้ย อยากเด่น อยากดัง อย่างเดียว ไม่เอาพรรคพวก แบบนี้พวกเผด็จการเขาชอบทำกันนะ 5555
- Akekun likes this
[color=#000080;]จันทร์เอ๋ย จันทร์เจ้า ขอข้าวขอแกง[/color]
ผมเป็นกลางนะครับ[color=#000080;] [/color]
#55
ตอบ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 21:17
เห็นด้วยครับ ต้องคิด แต่ต้องมีหลักการและเหตุผล หลักฐานมาประกอบ แล้วค่อยชี้ว่าสมเหตุสมผลไหมเป็นคนมันต้องคิดซิเว้ย ว่าสมเหตุสมผลหรือเปล่า ไม่ไช่ใครว่าอะไรมา เคี้ยวเอื้องฟังหูห้อย
ผมไม่ทราบจุดไหนของศรีนครินทร์ แต่ดูจากรูปแล้วถ้าอุดตรงที่ลูกศรชี้ ไม่น่าจะมีผล
ถ้าจะอุดกันน้ำคลองเข้าท่อมันต้องอุดที่บ่อพักสุดท้ายที่อยู่ติดกับคลอง และต้องอุดทั้ง 2ฝั่งถนน
แต่จากรูปที่ จขกท นำมาให้ดู นั่นมันกลางเมือง จะไปอุดเพื่ออะไร น้ำมันก็เข้าทางบ่อพัก
บ่ออื่นได้อยู่ดี ยังงงกับวิธีการ ไม่รู้เป็นวิศวกรรมสาขาไหน
รูปที่ จขกท เอามาให้ดู เค้าอุดกันตรงไหนเหรอครับ
ในการป้องกันน้ำคลองใหลย้อน อย่างที่ จนท. กทม.ว่า ด้วยเหตุผลดังที่บอกไปแล้ว
ควายแดงกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญของกรมการระบายน้ำไปแล้ววุ้ยถึงกะลงความเห็นว่า "ไม่น่าจะมีผล" เอ้าหลบเร็ว ควายบุกกรุง!!!
คล้ายๆกะคนของเผาไทยที่ปีที่แล้วจะให้ผันน้ำไปนครนายก.....น้ำไหลจากต่ำขึ้นสูงได้เองตามหลักเผาไทยและควายแดง
จินตนาการซะน้ำ......ท่วม
แล้วเดินตามต้อยๆ อย่างนี้อย่ามาเล่นบอร์ดให้เขาจูงจมูกเลย ไปอยู่ศุนย์อนุรักษ์ดีกว่า
คิดลอยๆ ก็อย่าพูดครับ ไม่งั้นผมก็นั่งจินตนาการน้ำแตกได้แล้วก็มานั่งแชร์ความคิดเลื่อนลอยได้
"ไม่ไช่ใครว่าอะไรมา เคี้ยวเอื้องฟังหูห้อย
แล้วเดินตามต้อยๆ อย่างนี้อย่ามาเล่นบอร์ดให้เขาจูงจมูกเลย ไปอยู่ศุนย์อนุรักษ์ดีกว่า"
ระวังควายแดงขวิดนะไปแฉเค้าซะหมดเปลือก....แถมพวกนั้นเค้าไม่ได้เล่น เค้าทำเป็นอาชีพ 555+ ดอนยอนะดอนยอ ทำไปได้เล่นพวกตัวเอง
ชายชุดดำป่าวเราอ่า ยิงพวกเดียวกันอ่า
#56
ตอบ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 21:17
POPULAR
จากข่าวที่เด็จพี่ และ ห่วงทรัพย์ ไปรื้อถุงทรายในท่อของกทม. ฟังจากที่ กทม. อธิบายมาผมก็เข้าใจเลย เพราระบบกั้นน้ำแล้วสูบออกของ กทม.เนี่ย ผมใช้ในระบบระบายน้ำทิ้งในอาคารอยูแล้ว ในกรณีที่น้ำภายนอกสูงกว่าภายใน เราต้องกั้นน้ำที่จะระบายออกไว้เพื่อป้องกันน้ำจากภายนอกไหลย้อนเข้ามา แล้วใช้ปั้มสูบออกแทนครับ
ปลอดประสพการณ์มันไม่เข้าใจอะไรแบบนี้หรอกครับ
ภาพคร่าวๆก็แบบนี้ครับ
"กูจะสู้แม้รู้ว่าพวกกูน้อย สู้ไม่ถอยแม้รู้ว่าจะดับสลาย แผ่นดินนี้พ่อกูอยู่ปู่กูตาย กูสุดอายถ้าเสียทีไพรีครอง"
#58
ตอบ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 23:22
#59
ตอบ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 01:23
เป็นคนมันต้องคิดซิเว้ย ว่าสมเหตุสมผลหรือเปล่า ไม่ไช่ใครว่าอะไรมา เคี้ยวเอื้องฟังหูห้อย
ผมไม่ทราบจุดไหนของศรีนครินทร์ แต่ดูจากรูปแล้วถ้าอุดตรงที่ลูกศรชี้ ไม่น่าจะมีผล
ถ้าจะอุดกันน้ำคลองเข้าท่อมันต้องอุดที่บ่อพักสุดท้ายที่อยู่ติดกับคลอง และต้องอุดทั้ง 2ฝั่งถนน
แต่จากรูปที่ จขกท นำมาให้ดู นั่นมันกลางเมือง จะไปอุดเพื่ออะไร น้ำมันก็เข้าทางบ่อพัก
บ่ออื่นได้อยู่ดี ยังงงกับวิธีการ ไม่รู้เป็นวิศวกรรมสาขาไหน
รูปที่ จขกท เอามาให้ดู เค้าอุดกันตรงไหนเหรอครับ
ในการป้องกันน้ำคลองใหลย้อน อย่างที่ จนท. กทม.ว่า ด้วยเหตุผลดังที่บอกไปแล้ว
ควายแดงกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญของกรมการระบายน้ำไปแล้ววุ้ยถึงกะลงความเห็นว่า "ไม่น่าจะมีผล" เอ้าหลบเร็ว ควายบุกกรุง!!!
คล้ายๆกะคนของเผาไทยที่ปีที่แล้วจะให้ผันน้ำไปนครนายก.....น้ำไหลจากต่ำขึ้นสูงได้เองตามหลักเผาไทยและควายแดง
จินตนาการซะน้ำ......ท่วม
แล้วเดินตามต้อยๆ อย่างนี้อย่ามาเล่นบอร์ดให้เขาจูงจมูกเลย ไปอยู่ศุนย์อนุรักษ์ดีกว่า
อ้าวจริงเหรอครับ แล้วรูที่จมูกคุณล่ะครับ เอาห่วงออกรึยังล่ะนิ
• เอือมระอากับบรรดาพี่น้องที่หลงทางจริงๆ เห็นต่างกันยังรับได้ครับ แต่เห็นผิดเป็นชอบแบบนี้มันบัดซบจริงๆ •
• หายนะของประเทศไทย ก็คือการที่ "ควายเลือกควาย" เข้ามาทำลายประเทศ •
#61
ตอบ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 02:01
แล้วดอนยอก็หายวาบ กลับเข้าคอกตามเคย.... หรือว่าวันนี้ไม่ทำโอ?
ครับ แบบนี้ ผมเห็น กทม. ทำมาตั้งแต่ปี 2537 แล้วครับ
เขาอุดท่อแล้วสูบน้ำจาก ปล่องหนึ่งไปอีกปล่องหนึ่ง
ที่แรกคิดว่าเขาทำแปลกๆ พอเดินไปดูใกล้ๆ ก็รู้ว่า เป็นอย่างภาพนี้จริงๆ
ขำไอ้พวกโง่ เชียร์พรรคนั้น ไม่ยอมหาความรู้รอบตัว
***จริงๆ
- BearFamily likes this
#62
ตอบ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 02:02
ขอโทษครับ ลืมภาพ
แล้วดอนยอก็หายวาบ กลับเข้าคอกตามเคย.... หรือว่าวันนี้ไม่ทำโอ?
ครับ แบบนี้ ผมเห็น กทม. ทำมาตั้งแต่ปี 2537 แล้วครับ
เขาอุดท่อแล้วสูบน้ำจาก ปล่องหนึ่งไปอีกปล่องหนึ่ง
ที่แรกคิดว่าเขาทำแปลกๆ พอเดินไปดูใกล้ๆ ก็รู้ว่า เป็นอย่างภาพนี้จริงๆ
ขำไอ้พวกโง่ เชียร์พรรคนั้น ไม่ยอมหาความรู้รอบตัว
***จริงๆ
http://webboard.seri...&attach_id=7000
#63
ตอบ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 09:05
จากเพจของKieng Sajapongขบวนการเสรีไทยเฟซบุ๊ค
จากข่าวที่เด็จพี่ และ ห่วงทรัพย์ ไปรื้อถุงทรายในท่อของกทม. ฟังจากที่ กทม. อธิบายมาผมก็เข้าใจเลย เพราระบบกั้นน้ำแล้วสูบออกของ กทม.เนี่ย ผมใช้ในระบบระบายน้ำทิ้งในอาคารอยูแล้ว ในกรณีที่น้ำภายนอกสูงกว่าภายใน เราต้องกั้นน้ำที่จะระบายออกไว้เพื่อป้องกันน้ำจากภายนอกไหลย้อนเข้ามา แล้วใช้ปั้มสูบออกแทนครับ
ปลอดประสพการณ์มันไม่เข้าใจอะไรแบบนี้หรอกครับ
ภาพคร่าวๆก็แบบนี้ครับ
จากใจจริงนะ ผมว่ากาสรสีชาดดูภาพนี้ไม่รู้เรื่องหรอก มันซับซ้อนเกินกว่าพวกเค้าจะเข้าใจ
#64
ตอบ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 09:09
เซง
#65
ตอบ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 10:10
ถุงปูนหมด.แกก็เลยหางานพิเศษทำ เผอิญมีสาย
รายงานเรื่อง ถุงปูน เอ๊ะ .!! ถุงทราย อันนี้คิดว่า
คนรายงาน คงจะรู้เรื่อง..ถุงทราย..ดี พร้อมซอง
ก็เลยสั่ง( รัว สามลาแล้วออก เชิดฉิ่ง ) ..เสมอเถร.
...วุ๊ยยย ปวดหัว.. เป็นอันว่า..บัดนี้.เชิด...
#66
ตอบ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:51
ถ้ากรณีที่ คลอง ขนานไปกับถนน โอ เค เห็นด้วย แต่ มีข้อสังเกตุในความผิดปกติ(ของภาพสเกตซ์)คือจากเพจของKieng Sajapongขบวนการเสรีไทยเฟซบุ๊ค
จากข่าวที่เด็จพี่ และ ห่วงทรัพย์ ไปรื้อถุงทรายในท่อของกทม. ฟังจากที่ กทม. อธิบายมาผมก็เข้าใจเลย เพราระบบกั้นน้ำแล้วสูบออกของ กทม.เนี่ย ผมใช้ในระบบระบายน้ำทิ้งในอาคารอยูแล้ว ในกรณีที่น้ำภายนอกสูงกว่าภายใน เราต้องกั้นน้ำที่จะระบายออกไว้เพื่อป้องกันน้ำจากภายนอกไหลย้อนเข้ามา แล้วใช้ปั้มสูบออกแทนครับ
ปลอดประสพการณ์มันไม่เข้าใจอะไรแบบนี้หรอกครับ
ภาพคร่าวๆก็แบบนี้ครับ
1. ที่ จนท. กทม.บอกว่า สูบน้ำลงคลองกะจะ ตกลงคลองที่ว่ามันขนานกับ ถนน ศรีนครินทร์ไช่ไหม
แต่ในภาพ(ในกระทู้)ผมไม่เห็นนะ
2. ถ้าคลองกะจะขนานกับ ถนนศรีนครินทร์จริง(ตามภาพสเกตซ์) ถามว่า ระยะทางตั้งแต่ บ่อพัก ใต้ฟุตบาทริมถนนศรีนครินทร์
ไปถึงคลองระยะห่างเท่าไหร่ ถ้าระยะทางห่างมาก ก็จะต้องมีบ่อพักอีกเป็นระยะจนกว่าจะถึงคลอง
แล้วถามว่า ทำไมไม่ไปอุดที่บ่อพักสุดท้ายที่น้ำลงคลอง มาอุดที่บ่อพักใต้ฟุตบาททำไม น้ำมันก็ทลักเข้าทาง
บ่ออื่นได้อยู่ดี
3. จากข้อ 1และ2 ถ้าจะทำตามที่ภาพสเกตซ์ ถามว่าจะต้องอุดกี่บ่อ ในเมื่อตลอดระยะทางตลอด ถนนศรีนครินทร์
คงมีบ่อพักหลายร้อยบ่อ แต่ทำไมถึงเจอถุงทรายแค่บ่อเดียว แล้วมันจะกันน้ำคลองไหลย้อนได้อย่างไร
ในเมื่อไม่ได้อุดทุกบ่อ น้ำคลองก็ทะลักออกทางบ่ออื่นได้อยู่ดี
ผมว่าเรื่องนี้ กทม ออกมาแ้ก้ตัวมากว่า เลยกลายเป็นลิงแก้แห ถ้า กทม. ไม่แก้ตัว ก็ต้องเอาแผนที่มา
แล้วระบุตำแหน่งที่อุดไว้ (ซึ่งน่าจะมีหลายจุด) จะได้ดูกันว่า มันเป็นไปได้ตามที่ กทม.อ้างหรือเปล่า
หรือเพียงแต่แก้ตัวไปเรื่อยเปื่อย
Edited by ดอนยอ, 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:52.
จงกล้าที่จะใช้ปัญญาญาณของตนเอง โดยปราศจากการชี้นำจากผู้อื่น(คานท์)
#67
ตอบ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 12:09
ถ้ากรณีที่ คลอง ขนานไปกับถนน โอ เค เห็นด้วย แต่ มีข้อสังเกตุในความผิดปกติ(ของภาพสเกตซ์)คือ
จากเพจของKieng Sajapongขบวนการเสรีไทยเฟซบุ๊ค
จากข่าวที่เด็จพี่ และ ห่วงทรัพย์ ไปรื้อถุงทรายในท่อของกทม. ฟังจากที่ กทม. อธิบายมาผมก็เข้าใจเลย เพราระบบกั้นน้ำแล้วสูบออกของ กทม.เนี่ย ผมใช้ในระบบระบายน้ำทิ้งในอาคารอยูแล้ว ในกรณีที่น้ำภายนอกสูงกว่าภายใน เราต้องกั้นน้ำที่จะระบายออกไว้เพื่อป้องกันน้ำจากภายนอกไหลย้อนเข้ามา แล้วใช้ปั้มสูบออกแทนครับ
ปลอดประสพการณ์มันไม่เข้าใจอะไรแบบนี้หรอกครับ
ภาพคร่าวๆก็แบบนี้ครับ
1. ที่ จนท. กทม.บอกว่า สูบน้ำลงคลองกะจะ ตกลงคลองที่ว่ามันขนานกับ ถนน ศรีนครินทร์ไช่ไหม
แต่ในภาพ(ในกระทู้)ผมไม่เห็นนะ
2. ถ้าคลองกะจะขนานกับ ถนนศรีนครินทร์จริง(ตามภาพสเกตซ์) ถามว่า ระยะทางตั้งแต่ บ่อพัก ใต้ฟุตบาทริมถนนศรีนครินทร์
ไปถึงคลองระยะห่างเท่าไหร่ ถ้าระยะทางห่างมาก ก็จะต้องมีบ่อพักอีกเป็นระยะจนกว่าจะถึงคลอง
แล้วถามว่า ทำไมไม่ไปอุดที่บ่อพักสุดท้ายที่น้ำลงคลอง มาอุดที่บ่อพักใต้ฟุตบาททำไม น้ำมันก็ทลักเข้าทาง
บ่ออื่นได้อยู่ดี
3. จากข้อ 1และ2 ถ้าจะทำตามที่ภาพสเกตซ์ ถามว่าจะต้องอุดกี่บ่อ ในเมื่อตลอดระยะทางตลอด ถนนศรีนครินทร์
คงมีบ่อพักหลายร้อยบ่อ แต่ทำไมถึงเจอถุงทรายแค่บ่อเดียว แล้วมันจะกันน้ำคลองไหลย้อนได้อย่างไร
ในเมื่อไม่ได้อุดทุกบ่อ น้ำคลองก็ทะลักออกทางบ่ออื่นได้อยู่ดี
ผมว่าเรื่องนี้ กทม ออกมาแ้ก้ตัวมากว่า เลยกลายเป็นลิงแก้แห ถ้า กทม. ไม่แก้ตัว ก็ต้องเอาแผนที่มา
แล้วระบุตำแหน่งที่อุดไว้ (ซึ่งน่าจะมีหลายจุด) จะได้ดูกันว่า มันเป็นไปได้ตามที่ กทม.อ้างหรือเปล่า
หรือเพียงแต่แก้ตัวไปเรื่อยเปื่อย
ตกลงมีบ่อพักรึปล่าวครับ
#68
ตอบ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 12:30
ไม่เข้าใจคำถาม แต่ผมว่าผมอธิบายละเอียดแล้วนะ
ถ้ากรณีที่ คลอง ขนานไปกับถนน โอ เค เห็นด้วย แต่ มีข้อสังเกตุในความผิดปกติ(ของภาพสเกตซ์)คือ
จากเพจของKieng Sajapongขบวนการเสรีไทยเฟซบุ๊ค
จากข่าวที่เด็จพี่ และ ห่วงทรัพย์ ไปรื้อถุงทรายในท่อของกทม. ฟังจากที่ กทม. อธิบายมาผมก็เข้าใจเลย เพราระบบกั้นน้ำแล้วสูบออกของ กทม.เนี่ย ผมใช้ในระบบระบายน้ำทิ้งในอาคารอยูแล้ว ในกรณีที่น้ำภายนอกสูงกว่าภายใน เราต้องกั้นน้ำที่จะระบายออกไว้เพื่อป้องกันน้ำจากภายนอกไหลย้อนเข้ามา แล้วใช้ปั้มสูบออกแทนครับ
ปลอดประสพการณ์มันไม่เข้าใจอะไรแบบนี้หรอกครับ
ภาพคร่าวๆก็แบบนี้ครับ
1. ที่ จนท. กทม.บอกว่า สูบน้ำลงคลองกะจะ ตกลงคลองที่ว่ามันขนานกับ ถนน ศรีนครินทร์ไช่ไหม
แต่ในภาพ(ในกระทู้)ผมไม่เห็นนะ
2. ถ้าคลองกะจะขนานกับ ถนนศรีนครินทร์จริง(ตามภาพสเกตซ์) ถามว่า ระยะทางตั้งแต่ บ่อพัก ใต้ฟุตบาทริมถนนศรีนครินทร์
ไปถึงคลองระยะห่างเท่าไหร่ ถ้าระยะทางห่างมาก ก็จะต้องมีบ่อพักอีกเป็นระยะจนกว่าจะถึงคลอง
แล้วถามว่า ทำไมไม่ไปอุดที่บ่อพักสุดท้ายที่น้ำลงคลอง มาอุดที่บ่อพักใต้ฟุตบาททำไม น้ำมันก็ทลักเข้าทาง
บ่ออื่นได้อยู่ดี
3. จากข้อ 1และ2 ถ้าจะทำตามที่ภาพสเกตซ์ ถามว่าจะต้องอุดกี่บ่อ ในเมื่อตลอดระยะทางตลอด ถนนศรีนครินทร์
คงมีบ่อพักหลายร้อยบ่อ แต่ทำไมถึงเจอถุงทรายแค่บ่อเดียว แล้วมันจะกันน้ำคลองไหลย้อนได้อย่างไร
ในเมื่อไม่ได้อุดทุกบ่อ น้ำคลองก็ทะลักออกทางบ่ออื่นได้อยู่ดี
ผมว่าเรื่องนี้ กทม ออกมาแ้ก้ตัวมากว่า เลยกลายเป็นลิงแก้แห ถ้า กทม. ไม่แก้ตัว ก็ต้องเอาแผนที่มา
แล้วระบุตำแหน่งที่อุดไว้ (ซึ่งน่าจะมีหลายจุด) จะได้ดูกันว่า มันเป็นไปได้ตามที่ กทม.อ้างหรือเปล่า
หรือเพียงแต่แก้ตัวไปเรื่อยเปื่อย
ตกลงมีบ่อพักรึปล่าวครับ
จงกล้าที่จะใช้ปัญญาญาณของตนเอง โดยปราศจากการชี้นำจากผู้อื่น(คานท์)
#69
ตอบ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 12:48
ไม่เข้าใจคำถาม แต่ผมว่าผมอธิบายละเอียดแล้วนะ
ถ้ากรณีที่ คลอง ขนานไปกับถนน โอ เค เห็นด้วย แต่ มีข้อสังเกตุในความผิดปกติ(ของภาพสเกตซ์)คือ
จากเพจของKieng Sajapongขบวนการเสรีไทยเฟซบุ๊ค
จากข่าวที่เด็จพี่ และ ห่วงทรัพย์ ไปรื้อถุงทรายในท่อของกทม. ฟังจากที่ กทม. อธิบายมาผมก็เข้าใจเลย เพราระบบกั้นน้ำแล้วสูบออกของ กทม.เนี่ย ผมใช้ในระบบระบายน้ำทิ้งในอาคารอยูแล้ว ในกรณีที่น้ำภายนอกสูงกว่าภายใน เราต้องกั้นน้ำที่จะระบายออกไว้เพื่อป้องกันน้ำจากภายนอกไหลย้อนเข้ามา แล้วใช้ปั้มสูบออกแทนครับ
ปลอดประสพการณ์มันไม่เข้าใจอะไรแบบนี้หรอกครับ
ภาพคร่าวๆก็แบบนี้ครับ
1. ที่ จนท. กทม.บอกว่า สูบน้ำลงคลองกะจะ ตกลงคลองที่ว่ามันขนานกับ ถนน ศรีนครินทร์ไช่ไหม
แต่ในภาพ(ในกระทู้)ผมไม่เห็นนะ
2. ถ้าคลองกะจะขนานกับ ถนนศรีนครินทร์จริง(ตามภาพสเกตซ์) ถามว่า ระยะทางตั้งแต่ บ่อพัก ใต้ฟุตบาทริมถนนศรีนครินทร์
ไปถึงคลองระยะห่างเท่าไหร่ ถ้าระยะทางห่างมาก ก็จะต้องมีบ่อพักอีกเป็นระยะจนกว่าจะถึงคลอง
แล้วถามว่า ทำไมไม่ไปอุดที่บ่อพักสุดท้ายที่น้ำลงคลอง มาอุดที่บ่อพักใต้ฟุตบาททำไม น้ำมันก็ทลักเข้าทาง
บ่ออื่นได้อยู่ดี
3. จากข้อ 1และ2 ถ้าจะทำตามที่ภาพสเกตซ์ ถามว่าจะต้องอุดกี่บ่อ ในเมื่อตลอดระยะทางตลอด ถนนศรีนครินทร์
คงมีบ่อพักหลายร้อยบ่อ แต่ทำไมถึงเจอถุงทรายแค่บ่อเดียว แล้วมันจะกันน้ำคลองไหลย้อนได้อย่างไร
ในเมื่อไม่ได้อุดทุกบ่อ น้ำคลองก็ทะลักออกทางบ่ออื่นได้อยู่ดี
ผมว่าเรื่องนี้ กทม ออกมาแ้ก้ตัวมากว่า เลยกลายเป็นลิงแก้แห ถ้า กทม. ไม่แก้ตัว ก็ต้องเอาแผนที่มา
แล้วระบุตำแหน่งที่อุดไว้ (ซึ่งน่าจะมีหลายจุด) จะได้ดูกันว่า มันเป็นไปได้ตามที่ กทม.อ้างหรือเปล่า
หรือเพียงแต่แก้ตัวไปเรื่อยเปื่อย
ตกลงมีบ่อพักรึปล่าวครับ
ผมเข้าใจคำตอบครับ แต่ที่ดอนยออธิบายมาอย่างละเอียดนั้น มันอยู่บนพื้นฐานของการมีบ่อพัก ผมเลยสงสัยว่าจริงๆแล้วบริเวณนั้นมีบ่อพักหรือไม่
หรือว่า ตามหลักวิศวกรรมมันยังไงก็ต้องมีบ่อพัก
พอดีผมไฟฟ้าครับ ไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย
#70
ตอบ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 13:24
ถ้ากรณีที่ คลอง ขนานไปกับถนน โอ เค เห็นด้วย แต่ มีข้อสังเกตุในความผิดปกติ(ของภาพสเกตซ์)คือ
จากเพจของKieng Sajapongขบวนการเสรีไทยเฟซบุ๊ค
จากข่าวที่เด็จพี่ และ ห่วงทรัพย์ ไปรื้อถุงทรายในท่อของกทม. ฟังจากที่ กทม. อธิบายมาผมก็เข้าใจเลย เพราระบบกั้นน้ำแล้วสูบออกของ กทม.เนี่ย ผมใช้ในระบบระบายน้ำทิ้งในอาคารอยูแล้ว ในกรณีที่น้ำภายนอกสูงกว่าภายใน เราต้องกั้นน้ำที่จะระบายออกไว้เพื่อป้องกันน้ำจากภายนอกไหลย้อนเข้ามา แล้วใช้ปั้มสูบออกแทนครับ
ปลอดประสพการณ์มันไม่เข้าใจอะไรแบบนี้หรอกครับ
ภาพคร่าวๆก็แบบนี้ครับ
1. ที่ จนท. กทม.บอกว่า สูบน้ำลงคลองกะจะ ตกลงคลองที่ว่ามันขนานกับ ถนน ศรีนครินทร์ไช่ไหม
แต่ในภาพ(ในกระทู้)ผมไม่เห็นนะ
2. ถ้าคลองกะจะขนานกับ ถนนศรีนครินทร์จริง(ตามภาพสเกตซ์) ถามว่า ระยะทางตั้งแต่ บ่อพัก ใต้ฟุตบาทริมถนนศรีนครินทร์
ไปถึงคลองระยะห่างเท่าไหร่ ถ้าระยะทางห่างมาก ก็จะต้องมีบ่อพักอีกเป็นระยะจนกว่าจะถึงคลอง
แล้วถามว่า ทำไมไม่ไปอุดที่บ่อพักสุดท้ายที่น้ำลงคลอง มาอุดที่บ่อพักใต้ฟุตบาททำไม น้ำมันก็ทลักเข้าทาง
บ่ออื่นได้อยู่ดี
3. จากข้อ 1และ2 ถ้าจะทำตามที่ภาพสเกตซ์ ถามว่าจะต้องอุดกี่บ่อ ในเมื่อตลอดระยะทางตลอด ถนนศรีนครินทร์
คงมีบ่อพักหลายร้อยบ่อ แต่ทำไมถึงเจอถุงทรายแค่บ่อเดียว แล้วมันจะกันน้ำคลองไหลย้อนได้อย่างไร
ในเมื่อไม่ได้อุดทุกบ่อ น้ำคลองก็ทะลักออกทางบ่ออื่นได้อยู่ดี
ผมว่าเรื่องนี้ กทม ออกมาแ้ก้ตัวมากว่า เลยกลายเป็นลิงแก้แห ถ้า กทม. ไม่แก้ตัว ก็ต้องเอาแผนที่มา
แล้วระบุตำแหน่งที่อุดไว้ (ซึ่งน่าจะมีหลายจุด) จะได้ดูกันว่า มันเป็นไปได้ตามที่ กทม.อ้างหรือเปล่า
หรือเพียงแต่แก้ตัวไปเรื่อยเปื่อย
ตอบแบบ common sense นะครับ ไม่ได้อยู่ในพื้นที่จริง
บ่อพักที่พอจะเอาถุงทรายใส่ลงไป และวางเครื่องสูบน้ำข้ามไปได้นั้น ไม่จำเป็นต้องอยู่ริมคลองครับ
เหตุผลที่ไม่ไปอุดบ่อพักสุดท้ายและสูบน้ำลงคลองที่จุดนั้น อาจเป็นเพราะ
1. ไม่สะดวกที่จะวางเครื่องสูบน้ำในจุดนั้น เนื่องจากส่วนใหญ่ จุดลักษณะนั้น จะทำ u-turn ใต้สะพาน
และที่ดังกล่าว อาจเป็นที่ของเอกชน ไม่สามารถใช้พื้นที่ได้
2. การรักษาความปลอดภัยของพนักงานเฝ้าเครื่อง ถ้าไปอยู่ริมคลองมากไป อาจไม่ปลอดภัย
3. การขนย้ายเครื่องสูบน้ำ เข้าไปติดตั้งริมคลอง มันลำบากกว่าตั้งริมฟุตบาท การกั้นบ่อพักที่ไกลออกมาจากคลอง ก็ให้ผลไม่แตกต่างกันมากนัก
4. ไม่รู้ว่าคนถามเคยเห็น พนักงานของ กทม. สูบน้ำจริงๆ หรือเปล่า ผมเคยไปช่วยเขาเล็กๆ น้อยๆ เท่าที่จะทำได้
ปล. อย่าถามหาคลิป เพราะเคยช่วยเมื่อปี 2537
และเขาทำแบบนี้มาตั้งแต่สมัยนั้นแล้ว
#71
ตอบ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 13:35
การที่จะวางท่อระบายน้ำระยะทางไกลๆ มันจะต้องมีบ่อพักอยู่แล้วเป็นระยะ เพื่อเป็นบ่อตกตะกอน
ไม่เข้าใจคำถาม แต่ผมว่าผมอธิบายละเอียดแล้วนะ
ถ้ากรณีที่ คลอง ขนานไปกับถนน โอ เค เห็นด้วย แต่ มีข้อสังเกตุในความผิดปกติ(ของภาพสเกตซ์)คือ
จากเพจของKieng Sajapongขบวนการเสรีไทยเฟซบุ๊ค
จากข่าวที่เด็จพี่ และ ห่วงทรัพย์ ไปรื้อถุงทรายในท่อของกทม. ฟังจากที่ กทม. อธิบายมาผมก็เข้าใจเลย เพราระบบกั้นน้ำแล้วสูบออกของ กทม.เนี่ย ผมใช้ในระบบระบายน้ำทิ้งในอาคารอยูแล้ว ในกรณีที่น้ำภายนอกสูงกว่าภายใน เราต้องกั้นน้ำที่จะระบายออกไว้เพื่อป้องกันน้ำจากภายนอกไหลย้อนเข้ามา แล้วใช้ปั้มสูบออกแทนครับ
ปลอดประสพการณ์มันไม่เข้าใจอะไรแบบนี้หรอกครับ
ภาพคร่าวๆก็แบบนี้ครับ
1. ที่ จนท. กทม.บอกว่า สูบน้ำลงคลองกะจะ ตกลงคลองที่ว่ามันขนานกับ ถนน ศรีนครินทร์ไช่ไหม
แต่ในภาพ(ในกระทู้)ผมไม่เห็นนะ
2. ถ้าคลองกะจะขนานกับ ถนนศรีนครินทร์จริง(ตามภาพสเกตซ์) ถามว่า ระยะทางตั้งแต่ บ่อพัก ใต้ฟุตบาทริมถนนศรีนครินทร์
ไปถึงคลองระยะห่างเท่าไหร่ ถ้าระยะทางห่างมาก ก็จะต้องมีบ่อพักอีกเป็นระยะจนกว่าจะถึงคลอง
แล้วถามว่า ทำไมไม่ไปอุดที่บ่อพักสุดท้ายที่น้ำลงคลอง มาอุดที่บ่อพักใต้ฟุตบาททำไม น้ำมันก็ทลักเข้าทาง
บ่ออื่นได้อยู่ดี
3. จากข้อ 1และ2 ถ้าจะทำตามที่ภาพสเกตซ์ ถามว่าจะต้องอุดกี่บ่อ ในเมื่อตลอดระยะทางตลอด ถนนศรีนครินทร์
คงมีบ่อพักหลายร้อยบ่อ แต่ทำไมถึงเจอถุงทรายแค่บ่อเดียว แล้วมันจะกันน้ำคลองไหลย้อนได้อย่างไร
ในเมื่อไม่ได้อุดทุกบ่อ น้ำคลองก็ทะลักออกทางบ่ออื่นได้อยู่ดี
ผมว่าเรื่องนี้ กทม ออกมาแ้ก้ตัวมากว่า เลยกลายเป็นลิงแก้แห ถ้า กทม. ไม่แก้ตัว ก็ต้องเอาแผนที่มา
แล้วระบุตำแหน่งที่อุดไว้ (ซึ่งน่าจะมีหลายจุด) จะได้ดูกันว่า มันเป็นไปได้ตามที่ กทม.อ้างหรือเปล่า
หรือเพียงแต่แก้ตัวไปเรื่อยเปื่อย
ตกลงมีบ่อพักรึปล่าวครับ
ผมเข้าใจคำตอบครับ แต่ที่ดอนยออธิบายมาอย่างละเอียดนั้น มันอยู่บนพื้นฐานของการมีบ่อพัก ผมเลยสงสัยว่าจริงๆแล้วบริเวณนั้นมีบ่อพักหรือไม่
หรือว่า ตามหลักวิศวกรรมมันยังไงก็ต้องมีบ่อพัก
พอดีผมไฟฟ้าครับ ไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย
แต่ระยะไม่แน่ใจว่าห่างกันเท่าไหร่ในแต่ละบ่อ น่าจะประมาณ 20ถึง30 เมตรต่อบ่อ(ไม่แน่ใจ)
จงกล้าที่จะใช้ปัญญาญาณของตนเอง โดยปราศจากการชี้นำจากผู้อื่น(คานท์)
#72
ตอบ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 14:58
การที่จะวางท่อระบายน้ำระยะทางไกลๆ มันจะต้องมีบ่อพักอยู่แล้วเป็นระยะ เพื่อเป็นบ่อตกตะกอน
ไม่เข้าใจคำถาม แต่ผมว่าผมอธิบายละเอียดแล้วนะ
ถ้ากรณีที่ คลอง ขนานไปกับถนน โอ เค เห็นด้วย แต่ มีข้อสังเกตุในความผิดปกติ(ของภาพสเกตซ์)คือ
จากเพจของKieng Sajapongขบวนการเสรีไทยเฟซบุ๊ค
จากข่าวที่เด็จพี่ และ ห่วงทรัพย์ ไปรื้อถุงทรายในท่อของกทม. ฟังจากที่ กทม. อธิบายมาผมก็เข้าใจเลย เพราระบบกั้นน้ำแล้วสูบออกของ กทม.เนี่ย ผมใช้ในระบบระบายน้ำทิ้งในอาคารอยูแล้ว ในกรณีที่น้ำภายนอกสูงกว่าภายใน เราต้องกั้นน้ำที่จะระบายออกไว้เพื่อป้องกันน้ำจากภายนอกไหลย้อนเข้ามา แล้วใช้ปั้มสูบออกแทนครับ
ปลอดประสพการณ์มันไม่เข้าใจอะไรแบบนี้หรอกครับ
ภาพคร่าวๆก็แบบนี้ครับ
1. ที่ จนท. กทม.บอกว่า สูบน้ำลงคลองกะจะ ตกลงคลองที่ว่ามันขนานกับ ถนน ศรีนครินทร์ไช่ไหม
แต่ในภาพ(ในกระทู้)ผมไม่เห็นนะ
2. ถ้าคลองกะจะขนานกับ ถนนศรีนครินทร์จริง(ตามภาพสเกตซ์) ถามว่า ระยะทางตั้งแต่ บ่อพัก ใต้ฟุตบาทริมถนนศรีนครินทร์
ไปถึงคลองระยะห่างเท่าไหร่ ถ้าระยะทางห่างมาก ก็จะต้องมีบ่อพักอีกเป็นระยะจนกว่าจะถึงคลอง
แล้วถามว่า ทำไมไม่ไปอุดที่บ่อพักสุดท้ายที่น้ำลงคลอง มาอุดที่บ่อพักใต้ฟุตบาททำไม น้ำมันก็ทลักเข้าทาง
บ่ออื่นได้อยู่ดี
3. จากข้อ 1และ2 ถ้าจะทำตามที่ภาพสเกตซ์ ถามว่าจะต้องอุดกี่บ่อ ในเมื่อตลอดระยะทางตลอด ถนนศรีนครินทร์
คงมีบ่อพักหลายร้อยบ่อ แต่ทำไมถึงเจอถุงทรายแค่บ่อเดียว แล้วมันจะกันน้ำคลองไหลย้อนได้อย่างไร
ในเมื่อไม่ได้อุดทุกบ่อ น้ำคลองก็ทะลักออกทางบ่ออื่นได้อยู่ดี
ผมว่าเรื่องนี้ กทม ออกมาแ้ก้ตัวมากว่า เลยกลายเป็นลิงแก้แห ถ้า กทม. ไม่แก้ตัว ก็ต้องเอาแผนที่มา
แล้วระบุตำแหน่งที่อุดไว้ (ซึ่งน่าจะมีหลายจุด) จะได้ดูกันว่า มันเป็นไปได้ตามที่ กทม.อ้างหรือเปล่า
หรือเพียงแต่แก้ตัวไปเรื่อยเปื่อย
ตกลงมีบ่อพักรึปล่าวครับ
ผมเข้าใจคำตอบครับ แต่ที่ดอนยออธิบายมาอย่างละเอียดนั้น มันอยู่บนพื้นฐานของการมีบ่อพัก ผมเลยสงสัยว่าจริงๆแล้วบริเวณนั้นมีบ่อพักหรือไม่
หรือว่า ตามหลักวิศวกรรมมันยังไงก็ต้องมีบ่อพัก
พอดีผมไฟฟ้าครับ ไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย
แต่ระยะไม่แน่ใจว่าห่างกันเท่าไหร่ในแต่ละบ่อ น่าจะประมาณ 20ถึง30 เมตรต่อบ่อ(ไม่แน่ใจ)
แสดงว่าตามหลักวิศวกรรมมันต้องมีบ่อพักแน่ๆ ส่วนระยะ 20 ถึง 30 เมตรนั้น ดอนยอยังไม่แน่ใจใช่มั้ยครับ
#73
ตอบ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 15:33
แล้วผมต้องทำไง
ก็ต้องปิดสิครับยอมให้น้ำฝนท่วมบ้านตัวเอง เพราะมันไหลออกไม่ได้ระดับน้ำนอกบ้านมันสูงกว่าในบ้าน
ตอนนี้ผมทำวาลว์ปิดเลยเวลาฝนตกปิดตลอดยอมให้น้ำท่วมประมาณสิบเซ็นติเมตร ถ้าเปิดน้ำสกปรกจากข้างนอกมันจะไหลย้อนเข้ามา
เวลาที่น้ำในท่อระบายน้ำลดลงแล้วค่อยเปิดให้มันไหลออกไป
ถ้าไม่งั้นก็อีกทางเลือกก็คือตั้งเครื่องสูบออกเหมือนที่เขาทำกัน ซึ่งต้องมีต้นทุนเพิ่ม
แต่ผมไม่ทำเพราะคิดเสียว่าเป็นการเอาน้ำฝนมาล้างพื้นให้สะอาดเสียทีเวลาที่เปิดน้ำทิ้งออกไปก็กวาดพื้นไปด้วย
การแก้ปััญหานี้ให้จบก็ต้องถมที่บ้านให้สูงกว่าถนน เหมือนถมดินกรุงเทพให้สูงกว่าระดับน้ำทะเลใครจะทำ
ใครอยากเห็นจะเอาภาพมาให้ดูวันหลัง
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับผม
ถ้าใครไม่รู้ก็รู้ไว้เสียนะครับ
ทำไมไม่ขายข้าว? ข้าวไม่มีขาย คำตอบจาก ศรเพขร ศรสุพรรณ
#74
ตอบ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 23:37
จากเพจของThe Bangkok Governor
"ปราโมทย์" อัด กบอ.
นายปราโมทย์ กล่าวว่า พื้นที่กทม.เป็นวงกว้างและเป็นแอ่งกระทะ ซึ่งแนวทางการป้องกันจะต้องป้องกันปริมาณน้ำไม่ให้เข้าพื้นที่เศรษฐกิจหรือที่เรียกว่าพื้นที่ไข่แดง ขณะที่ปริมาณน้ำฝนจะต้องไม่ให้มีการท่วมขังเป็นเวลานาน ที่ผ่านมา กทม.ได้ทำระบบปิดล้อมย่อย ซึ่งก็อยู่ในสภาวะที่ดีขึ้น ส่วนการนำกระสอบทรายเข้าไปอุดท่อระบายน้ำ ก็เป็นเรื่องของเทคนิคทางวิศวกรรม ไม่ใช่เรื่องมหัศจรรย์ ขณะที่พื้นที่เขตมีนบุรี หนองจอก และลาดกระบัง ขณะนี้ก็ยังไม่มีแผนป้องกัน ทำให้น้ำไม่มีทางออก ดังนั้นจึงต้องมาศึกษาเพื่อทำระบบ ซึ่งรัฐบาลจะต้องเข้าใจ หากไม่เข้าใจจะวนเวียนกับปัญหาการแก้ไขน้ำท่วม
“ส่วนเรื่องการวางกระสอบทรายก็เป็นไปตามการปิดกั้นระบบย่อยในพื้นที่ใหญ่โดยต้องใช้การปิดกั้นในท่อระบายน้ำ เปรียบเทียบได้กับที่กรมชลประทานก็ต้องมีการปิดกั้นน้ำในคลองเช่นกัน”
ซึ่งคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ของรัฐบาลน่าจะเข้าใจ และหากมาเกี่ยวข้องมากอาจทำให้การแก้ปัญหาใหญ่ไม่รุดหน้า กบอ.ต้องมียุทธศาสตร์ใหญ่ ให้หน่วยงานอื่นช่วยขับเคลื่อน การขุดลอกคูคลองจบไปแล้ว อย่าใช้เรื่องนี้เป็นประเด็น เพราะเป็นการเปลืองงบประมาณ จึงเป็นห่วงว่าในอนาคตจะมีอุทกภัยรุนแรงเช่นเดียวกับปี 2554 ยังคงไม่เห็นยุทธศาสตร์ป้องกันน้ำท่วมที่ยั่งยืน มีเพียงแค่แนวคิด ไม่มีอะไรที่เป็นรูปธรรม
“ปีนี้ไม่มีอะไรแล้ว อยู่รอดปลอดภัย แต่ปีอื่นไม่รู้จะเป็นอย่างไร ยุทธศาสตร์ของ กบอ.ยังจับต้องไม่ได้ กบอ.ต้องมาคิดตรงนี้ให้ชัดๆ เราต้องอยู่ตรงนี้ ย้ายเมืองหลวงไม่มีทางไปแล้ว ต้องวางระบบป้องกันน้ำท่วมให้ชัดเจน”
.
"กูจะสู้แม้รู้ว่าพวกกูน้อย สู้ไม่ถอยแม้รู้ว่าจะดับสลาย แผ่นดินนี้พ่อกูอยู่ปู่กูตาย กูสุดอายถ้าเสียทีไพรีครอง"
#75
ตอบ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 23:47
ฮาตรงไหนครับ ตอนน้ำท่วมครั้งที่แล้ว มีแนะนำแบบนี้เหมือนกัน คือ อุด ปิด ทุกรูที่เป็นทางน้ำเอาก้อนหินไปอุดท่อ ไม่ให้น้ำไหลย้อนกลับ ฮา จิงๆ
ที่ผมว่าน่าจะ ฮา คือ คนที่ดูแลเรื่องนี้ แต่ไม่เข้าใจการทำงานในระบบ มากกว่า แถมอวดเก่งอีกต่างหาก ไปหาทางแก้ตัวให้ได้ก่อนว่ามีความสามารถจริง เพราะ ตอนน้ำท่วม พูดตรงไหนปลอดภัยน้ำไม่ท่วม มีรอดไหม ท่วมทุกที่ที่พูด เพราะ อวดเก่ง
#76
ตอบ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 00:30
สมัยยังมีบ้านอยู่ ฝนตกหนักทีไรผึ้งก็ต้องใช้วิธีนี้แหล่ะ เพราะบ้านต่ำกว่าถนนบ้านผมก็ต่ำกว่าถนน เวลาฝนตกระดับน้ำในท่อระบายน้ำมันจะสูงขึ้นมาจนน้ำมนไหลย้อนเข้ามาในบ้าน
แล้วผมต้องทำไง
ก็ต้องปิดสิครับยอมให้น้ำฝนท่วมบ้านตัวเอง เพราะมันไหลออกไม่ได้ระดับน้ำนอกบ้านมันสูงกว่าในบ้าน
ตอนนี้ผมทำวาลว์ปิดเลยเวลาฝนตกปิดตลอดยอมให้น้ำท่วมประมาณสิบเซ็นติเมตร ถ้าเปิดน้ำสกปรกจากข้างนอกมันจะไหลย้อนเข้ามา
เวลาที่น้ำในท่อระบายน้ำลดลงแล้วค่อยเปิดให้มันไหลออกไป
ถ้าไม่งั้นก็อีกทางเลือกก็คือตั้งเครื่องสูบออกเหมือนที่เขาทำกัน ซึ่งต้องมีต้นทุนเพิ่ม
แต่ผมไม่ทำเพราะคิดเสียว่าเป็นการเอาน้ำฝนมาล้างพื้นให้สะอาดเสียทีเวลาที่เปิดน้ำทิ้งออกไปก็กวาดพื้นไปด้วย
การแก้ปััญหานี้ให้จบก็ต้องถมที่บ้านให้สูงกว่าถนน เหมือนถมดินกรุงเทพให้สูงกว่าระดับน้ำทะเลใครจะทำ
ใครอยากเห็นจะเอาภาพมาให้ดูวันหลัง
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับผม
ถ้าใครไม่รู้ก็รู้ไว้เสียนะครับ
#77
ตอบ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 02:10
#78
ตอบ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 07:28
"""โดยบริเวณที่พบกระสอบทรายอยู่ติดกับคลองหัวหมาก ซึ่งขณะนี้มีปริมาณน้ำสูงมาก และลักษณะของคลองมีสภาพสูงกว่าถนน ทางเจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำจึงได้นำกระสอบทรายไปวางในท่อระบายน้ำเพื่อ บล๊อคน้ำไม่ให้ทะลักเข้าท่อระบายน้ำเข้าท่วมถนนศรีนครินทร์ และดำเนินการสูบน้ำที่บล๊อคไว้ลงคลองกะจะรวมถึงได้วางกระสอบทรายเพื่อกั้น ไม่ให้น้ำจากคลองหัวหมากไหลออกมาถนนศรีนครินทร์ด้วย """
"น้อมส่งเสด็จสู่พระนิพพาน"
#79
ตอบ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 07:32
ที่เหลือ อ่านเอง
http://www.mcot.net/...age/423217.html
หนูน้อยอาเลย์นา น่ารักจุงเบย
#80
ตอบ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 07:37
จะด่าใครยังสะกดผิด ใครโง่กันแน่
เดี๋ยวก็บอกถูกว่ากลั่นแกล้งใส่ร้าย เป็นเรื่องการเมือง
เดี๋ยวก็บอกเป็นการบริหารการจัดการเรื่องน้ำท่วม ไม่ให้น้ำไหลย้อนกลับ
ปลิ้นป้อนเหมือนกันหมด พรรคอับปีดีแต่พูด ลิ้วล้อก็โง่เหมือนฟายเชื่อเข้าไปได้อีกเนอะ
ไอ่นี่โดนตัดเงินแน่ๆ "เสือกด่าพวกเดียวกัน"ซะแล้ว เวรแท้ๆ
ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน