477 ความเห็นในกระทู้นี้

[amplepoor]

เรื่องชายชุดดำ หรือที่เรียกอีกอย่างว่ากองกำลังติดอาวุธ
ซึ่งเสื้อแดงเพียรพยายามปฎิเสธว่า ไม่มี๊ ไม่มี....แต่พวกเรามั่มใจว่ามี

วันที่ 13 ตค นี้ อภิสิทธิ์จะเผยความจริงเรื่องนี้
เรามาตั้งกระทู้ถกกันล่วงหน้าเลยดีกว่า
สิ่งที่เราต้องทำก็คือ พิสูจน์ว่ามีกองกำลังนี้อยู่จริง
โดยสมมติว่าเป็นการไต่สวนในศาล

ผมขอตั้งกรอบเพื่อรับข้อมูลไว้ดังนี้ ท่านที่สนใจ ก็เชิญเติมข้อมูลเข้ามา
อนึ่ง มีกระทู้คุณเบิร์ดที่กล่าวถึงชายชุดดำอยู่แล้ว ผมจะวางลิ้งค์ให้เปิดดูประกอบกันไปเลยนะครับ

ชายชุดดำ...ก็แค่คำกล่าวอ้าง

http://webboard.seri...แค่คำกล่าวอ้าง/
-------------------
กรอบในการตามล่าหาชายชุดดำ

1 คำเรียกนี้ มาจากใหน เมื่อไร โดยใคร

2 ลักษณะทางกายภาพ และพฤติกรรมของชายชุดดำ

3 ผลงานของชายชุดดำ

4 ความเชื่อมโยงกับนปช.
4.1 ความเชื่อมโยงโดยตรง
4.2 ความเชื่อโยงโดยอ้อม

5 หลักฐานที่พิสูจน์การมีอยู่จริงของกองกำลังนี้

6 ข้อหักล้างจากนปช.
------------------

ท่านอื่นจะเพิ่มเติมก็ยินดีนะครับ

ผมหวังว่า ถ้าเรามีกรอบที่ชัดเจน แล้วหาหลักฐานไปตามกรอบเหล่านี้
น่าจะพาไปสู่ข้อเท็จจริงได้

[amplepoor]

เท่าที่ผมจำได้
บนเวที มีการเอ่ยถึงกองกำลังไม่ทราบฝ่าย ว่ามาช่วยพวกตน

และมีคลิบเสื้อแดง พูดออกมาดังๆ ว่า

แ ม่ ง ใครวะ มาช่วยพวกเรา

กรูอยากกราบ......

นั่นคือเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เมษายน
ซึ่งน่าจะเป็นวันแรก ที่มีการเรียกขานกองกำลังติดอาวุธเหล่านี้

[promotion]

ถ้าติดตามรายการข่าวช่วงนั้น ก็จะรู้ชัดเจนเลยว่ามีชัวร์ๆ

[susu]

ดำผสมสีแดง ภาพของปีศาจชัดเจน

[สุกี้น้อย]

รอติดตามครับ...ชอบจริงๆกระทู้คุณamplepoor....ผมไม่มีหลักฐานและความรู้พอที่จะมาถกได้...ขอติดตามอย่างเดียวละกันครับผม

[55555]

ผมกำลังนั่งอ่าน จุลสาส์นราชดำเนิน " โศกนาฏกรรม พฤษภา 53 " หน้า 33 โดย ปรีชาพล อินทรโชติ โปรดิวเซอร์

ข่าว ทีวีไทย ประจำแถวสวนลุมช่วงสลายการชุมนุม


http://www.tja.or.th...&id=556:2553-53


ไม่ใช่แค่พวกที่ฝึกจาก เสธ.แดงหรอก....แต่เก่งกว่านั้น



บางส่วนจากเนื้อหา ( เขาพูดถึงทหารฝ่ายรัฐซึ่งถูกยิงที่ท้องจากตึกฝั่งตรงข้าม)

"ผมเชื่อว่าฝ่ายตรงข้ามก็มีการวางตัวในที่สูง โดยคนที่สูงในระดับเดียวกันจะมองไม่เห็น

ถ้าเป็นชุดที่อยู่ข้างล่างผมว่ามองสไนเปอร์ไม่เห็นแน่นอน อีกอย่างทหารที่ถูกยิง(ฝ่ายรัฐ)ก็ถือว่าเค้ามีความเชี่ยวชาญในการวางตัว ฉะนั้นโอกาสที่เขาจะถูกตรวจการณ์พบจากบุคคลที่ไม่ได้รับการฝึกมาเนี่ย ผมว่าเป็นเรื่องยากมันเหมือนกับว่ามันฝึกกันมาในตำราเดียวกัน ฉะนั้น การวางตัวหาเหลี่ยมจึงเหมือนกัน เหมือนหนังเรื่อ enemy of the gates ลักษณะเดียวกัน มันต้องอ่านว่าฝ่ายตรงข้ามวางตัวอยู่ที่ไหน อย่างไร ผมว่าเขาก็มองแบบนี้"

Edited by 55555, 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 15:04.

[นารายณ์สังหาร]

เก็บข้อมูล อิอิ

[amplepoor]

ลักษณะทางกายภาพ และพฤติกรรมของชายชุดดำ

ในคืนเกิดเหตุ สื่อทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว สามารถจับภาพการปฎิบัติงานของกองกำลังนี้ได้
นี่เป็นหลักฐานที่ปฎิเสธมิได้

ภาพนิ่งนั้น ตีพิมพ์ในนิวยอร์คไทมส์
ส่วนภาพเคลื่อนไหว อัลจาซีเราะห์ เป็นผู้เผยแพร่

แต่หลักฐานสำคัญที่สุด เป็นของผู้ใดไม่มีใครทราบ
เผยแพร่ในยูทุบ ชื่อว่า สันติ อหิงสา ด้วยอาก้าและ M79
ในแชนแนลของคุณ rattanachot2010

และอีกคลิบหนึ่ง ถ่ายที่ไกล้โรงเรียนสตรวิทย์ มีเสียงแกนนำเดินประกาศว่า
สิ่งที่จะเห็นต่อไปนี้ ให้เก็บไว้ในใจ ใครถามก็บอกว่า ไม่รู้ไม่เห็น


ปล
1 ผมขอลำดับความไปก่อน รูปและคลิบจะตามมา หรือใครอยากช่วยก็ขอขอคุณล่วงหน้า

2 การลำดับความ จะพยายามเรียงตามเวลาก่อนหลัง
ท่านที่จะลงข้อมูล ขอความกรุณา กำกับวันเวลาด้วยนะครับ

[Moon]

http://www.youtube.com/watch?v=EjYo86w0EVQ

คลิปเดียวได้คำตอบตามกรอบหลายข้อเลย



อันนี้น่าจะดีกว่า

Edited by Moon, 8 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 21:53.

[amplepoor]

เราไม่พบว่ากองกำลังนี้ มีรูปแบบการแต่งกายที่บ่งชี้ได้ชัดเจน
ลักษณะร่วม ดูเหมือนมีสองประการ คือ

1 ใส่หมวกไหมพรมปิดทั้งหน้า เห็นแต่ลูกตา

2 ใส่ถุงมือ

ทุกคนเป็นชายวัยฉกรรจ์ ทั้งนี้โดยสังเกตจากอนาโตมี่
มีหลายคนใส่เสื้อแจ๊ตเกตคลุม ซึ่งมีตราของนปช
บางมีเข็มขัดกระเป๋ารอบตัว บางคนมีเป้หลัง และบางคนอาจจะมีเสื้อเกราะ

อาวุธที่ใช้ เท่าที่เห็นจากรูปและคลิบ คืออาก้า และเอ็ม 79

พวกนี้เข้ามาสู่พื้นที่ด้วยรถตู้สีขาว
(สมาชิกท่านหนึ่งเคยลงข้อมูลตรงนี้ไว้)

กำลังพล
ไม่สามารถระบุได้แน่ชัด
แต่คลิบสันติ อหิงสานั้น แสดงชัดว่าทำงานเป็นกลุ่ม 4-5 คน

[RaRa]

กระทู้คุณภาพแน่ๆ แบบนี้

[amplepoor]

เยี่ยมครับคุณ moon


เวลาชัดเจนคือ 20.10 น.

[ก๊องส์ไข่กวน]

เมธี
เป็นหนึ่งในั้น

[Stargate-1]

ชายชุดดำเผาช่อง 3 ทำอย่างเป็นระบบ
Uploaded by bushidowww1 on Jun 6, 2010
http://www.youtube.com/watch?NR=1&v=u9QkDSsk12E&feature=endscreen
http://play.kapook.com/vdo/show-94019
คลิป เสื้อแดง เผาช่อง3 ดารา พนักงานหนีอลหม่านก่อน เสื้อแดงบุก
เสื้อแดง เผาช่อง3 ดารา พนักงานหนีอลหม่านก่อน เสื้อแดงบุก
เหตุการณ์ เสื้อแดง เผาช่อง3 อาคารมาลีนนท์ ถนนพระราม 4 ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีไทยทีวีสีช่อง 3 - ข้อความจากคนโพสท์คลิป คุณaunaunaunaunaun - เหตุการณ์เผาช่องสาม วันที่19 พค. 2553 หลังจากแกนนำนปช.มอบตัว ถ่ายจากหน้าบ้านตอนท้ายของคลิปมีพี่ช่างแต่งหน้าที่รู้จักกันหนีมา จากช่องสาม มาขออาศัยแป๊บนึง เลยมีดาราติดมาด้วย

http://www.youtube.com/watch?v=WR2gPKvBRX8&feature=related

Edited by Stargate-1, 8 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 22:03.

[กีรเต้]

กระทู้มาแรงอีกแล้ว

[RaRa]

คลิปที่ท่าน Moon นำมา ได้หลายอย่าง ที่ ท่านแอมฯ ต้องการเลยครับ

[ubol boy]

ยืมภาพเขามา แบ่งกันดูครับ

Attached Images

• 

Edited by ubol boy, 8 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 21:44.

[Moon]

คลิปนี้น่าจะ้เป็นคลิปแรก (ถ้าจำไม่ผิด) ที่มีการพูดถึงคนกลุ่มอื่นที่มีอาวุธและไม่ใช่ทหาร

[NongGrace]

มาลงชื่อค่ะ คลิปคุณ Moon ดูจาก iphone ไม่ได้เหรอคะ

[amplepoor]

จากคลิบ ระบุชื่อไว้ ทำให้ตามข่าวได้

-----------------------
http://www.dailynews.co.th/crime/4946
ศาลยกฟ้องแนวร่วมเสื้อแดงซุกระเบิดในรถ

วันอังคารที่ 27 ธันวาคม 2554 เวลา 13:11 น.



วันนี้(27 ธ.ค.) ที่ห้องพิจารณา 907 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.3543/2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายเสกสรร วรปีติเจริญกุล อายุ 38 ปี อาชีพขับรถตู้วิน ชาวกรุงเทพมหานคร ซึ่งเคยตกเป็นผู้ต้องสงสัยคดีระเบิดห้างบิ๊กซี สาขาราชดำริ เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันมีวัตถุระเบิด และเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 , 371 และ พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ฯ พ.ศ.2490

คดีนี้คำฟ้องโจทก์ระบุพฤติการณ์ความผิด สรุปว่า ระหว่างปลายเดือน เม.ย.-14 พ.ค.53 จำเลยกับพวกอีก 2 คน ที่ยังหลบหนี ร่วมกันมีวัตถุระเบิดเป็นขวดเครื่องดื่มชูกำลัง ยี่ห้อคาราบาวแดง, เอ็ม 150, กระทิงแดงบรรจุน้ำมันเบนซิน ผูกติดกับลูกพลาสติกสลับสีและดินดำ หุ้มด้วยเทปพันสายไฟ รวม 51 ขวด, ถังดับเพลิงยี่ห้อต่างๆบรรจุปุ๋ยยูเรีย และฝักแคระเบิดสีขาว กับเชื้อปะทุสภาพใช้งานได้จำนวน 4 ถัง วงจรระเบิดทำด้วยโทรศัพท์มือถือ สวิตช์เปิด-ปิด แบตเตอรี่ ขนาด 9 โวลท์ 7 เครื่อง ซึ่งมีลักษณะเป็นระเบิดแสวงเครื่อง, เครื่องจุดระบิดแบบ M 60 จำนวน 3 เครื่อง มีใช้ในราชการทหาร-ตำรวจ ลูกระเบิดยิงขนาด 40 มม. แบบเอ็ม 79 ชนิดระเบิดลูกปราย 1 นัด กระสุนปืนขนาด .45 รวม 20 นัด และอื่นๆ เหตุเกิดที่แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. ต่อมาวันที่ 14 พ.ค.53 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดวัตถุระเบิด อาวุธปืน และเครื่องกระสุน รวมทั้งอุปกรณ์สำหรับประกอบวัตถุระเบิดหลายรายการเป็นของกลาง กระทั่งวันที่ 4 ส.ค.53 จำเลยเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน และให้การปฏิเสธ

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์และจำเลย นำสืบหักล้างกันแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า นายธนเดช หรือไก่ เอกอภิวัฒน์ ได้ครอบครองรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค ต่อมาวันที่ 14 พ.ค.53 เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นรถดังกล่าวที่จอดไว้พบอุปกรณ์ประกอบระเบิดและ เครื่องกระสุนปืนตามฟ้อง ซึ่งการสอบสวนทราบว่ารถยนต์ดังกล่าวเป็นรถที่มีผู้แจ้งหายไว้ที่ สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่

โดยโจทก์ มีพี่สาวของนายธนเดช เป็นพยานเบิกความว่า ช่วงที่เห็นรถจอดไว้ที่บ้านริมน้ำย่านรามอินทรา จำเลยและนายกิตติศักดิ์ หรืออ้วน สุ่มศรี ที่ขับรถตู้วินเดียวกัน จะมารับน้องชายไปร่วมชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งบางครั้งจะมีการขับรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค ออกไปบ้าง โดยโจทก์ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าตรวจค้นรถยนต์ ร่วมเบิกความเป็นพยาน แต่ทางพิจารณา โจทก์ไม่ได้นำสืบให้เห็นว่าขณะจำเลยร่วมชุมนุมซึ่งเป็นสิทธิขึ้นพื้นฐานตาม รัฐธรรมนูญ จำเลยได้กระทำการไม่สงบหรือรุนแรง หรือใช้อาวุธอย่างไร ซึ่งการที่จำเลยจะขับรถไปรับนายธนเดช ไปร่วมชุมนุมก็ถือเป็นปกติที่เป็นเพื่อนกันและมีอุดมการณ์เดียวกัน แต่โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานและไม่ได้นำสืบให้เห็นว่าจำเลยร่วมซุกซ่อนอุปกรณ์ ประกอบระเบิดที่อยู่ในรถยนต์ฮอนด้าซีวิคแต่อย่างใด ลำพังพยานซึ่งเป็นพี่สาวของนายธนเดช และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าตรวจค้น ยังไม่อาจนำมาอนุมานและสันนิษฐานในทางที่เป็นร้ายต่อจำเลยได้ว่ากระทำผิด ขณะที่ผลการตรวจรอยนิ้วมือแฝงและสารพันธุกรรม(ดีเอ็นเอ)ที่ได้จากรถยนต์ดัง กล่าวก็ไม่ตรงกับจำเลย จึงยังไม่เห็นความสัมพันธ์โยงพยานหลักฐานกับจำเลย พยานหลักฐานเท่าที่โจทก์นำสืบมา ยังรับฟังไม่ได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลย กระทำผิดตามฟ้อง จึงพิพากษายกฟ้อง แต่ให้ริบของกลางทั้งหมด
-----------------------

ถึงแม้ศาลยกฟ้อง แต่ผมอยากให้สนใจเหตุการณ์นี้

ระหว่างปลายเดือน เม.ย.-14 พ.ค.53 จำเลยกับพวกอีก 2 คน ที่ยังหลบหนี ร่วมกันมีวัตถุระเบิดเป็นขวดเครื่องดื่มชูกำลัง ยี่ห้อคาราบาวแดง, เอ็ม 150, กระทิงแดงบรรจุน้ำมันเบนซิน ผูกติดกับลูกพลาสติกสลับสีและดินดำ หุ้มด้วยเทปพันสายไฟ รวม 51 ขวด, ถังดับเพลิงยี่ห้อต่างๆบรรจุปุ๋ยยูเรีย และฝักแคระเบิดสีขาว กับเชื้อปะทุสภาพใช้งานได้จำนวน 4 ถัง วงจรระเบิดทำด้วยโทรศัพท์มือถือ สวิตช์เปิด-ปิด แบตเตอรี่ ขนาด 9 โวลท์ 7 เครื่อง ซึ่งมีลักษณะเป็นระเบิดแสวงเครื่อง, เครื่องจุดระบิดแบบ M 60 จำนวน 3 เครื่อง มีใช้ในราชการทหาร-ตำรวจ ลูกระเบิดยิงขนาด 40 มม. แบบเอ็ม 79 ชนิดระเบิดลูกปราย 1 นัด กระสุนปืนขนาด .45 รวม 20 นัด และอื่นๆ เหตุเกิดที่แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. ต่อมาวันที่ 14 พ.ค.53 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดวัตถุระเบิด อาวุธปืน และเครื่องกระสุน รวมทั้งอุปกรณ์สำหรับประกอบวัตถุระเบิดหลายรายการเป็นของกลาง กระทั่งวันที่ 4 ส.ค.53 จำเลยเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน และให้การปฏิเสธ

ลายนิ้วมือนั้น อาจจะผิดพลาด แต่อาวุธ ไม่ผิดแน่
มันเกี่ยวข้องกับใคร

คดีนี้ อาจจะเป็นหลักฐานแรกที่เชื่อมโยงถึงกองกำลังติดอาวุธของนปช.
แต่ไม่มีการขยายผล และไม่รู้ว่าอัยการอุธรณ์หรือไม่

[amplepoor]

http://www.youtube.com/watch?NR=1&v=u9QkDSsk12E&feature=endscreen
http://www.youtube.com/watch?v=WR2gPKvBRX8&feature=related
ชายชุดดำเผาช่อง 3

ลงข้อมูลแล้ว กรุณาลงความเห็นด้วยครับ
พวกเราจะได้ทราบประเด็นและช่วยกันพิจารณาต่อได้

อ้อ อย่าลืมวันเวลาด้วยครับ

[เพลิงสีนิล]

ก่อนหน้าจะมีการตาย ทำไมต้องเปลี่ยนจากการสวมเสื้อแดงเป็นสัญลักษณ์ มาเป็น ชุดหลากสีทั่วๆ ไป

[นารายณ์สังหาร]

ก่อนอื่นต้องนิยามก่อนว่า ชายชุดดำมีลักษณะทางกายภาพอย่างไร เราจะเห็นพวกลากดำนาแถเอาบ่อยๆว่าไม่เห็นมีชายใส่ชุดดำสักคน....

ในที่นี้ชายชุดดำคือ กองกำลังติดอาวุธ ที่เป็นปฏิปักษ์ ต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการสลายการชุมนุม ซึ่งไม่จำเป็นต้องใส่ชุดสีดำเสมอไป หลายคนใส่เสื้อลายพรางคล้ายทหาร.....แต่ส่วนมากไม่ใช่การ์ด นปช. ที่เดินกร่างๆ ....พวกนี้จะเงียบๆ และอยู่ตามด่านเสื้อแดง .....จากการที่เฝ้าดูอยู่พักใหญ่เก้บข้อมูลได้ราวๆนี้นะครับ (ซึ่งผมเขียนในรายงานส่งให้หน่วยไปแล้ว)

1. พวกนี้รู้ยุทธวิธีทหาร รู้วิธีการเข้าปฏิบัติงานในลักษณะของชุดจู่โจมขนาดเล็ก มีการปฏิบัติเหมือนหน่วยทหาร
2. พวกนี้ชำนาญการใช้อาวุธมากในระดับหนึ่ง สามารถยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ทหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ขีดความสามารถไม่เทียบเท่าหน่วยรบพิเศษ
3. พวกนี้มี พลซุ่มยิง ในอาคารสูงเช่นเดียวกัน เนื่องจากมีการตรวจพบลักษณะสิ่งผิดปกติ ในเขตยึดครองของคนเสื้อแดง (พลซุ่มมยิงด้วยกันจะหากันเจอ เพราะเรียนมาเหมือนกัน อยู่ที่ว่า ใครจะไหวพริบดีกว่า)
4. พวกนี้สามารถใช้อาวุธหนักได้แม่นยำมาก (M-79 แม่นมากจริงๆ แสดงว่าต้องได้รับการฝึกมาอย่างดีและยิงจนชำนาญ ไม่ใช่เพิ่งฝึก) สามารถหยอดลงกลางเป้าหมายได้ในนัด ที่ 2 เท่านั้น บางครั้งก็ลูกเดียวโดนเลย
5. วันที่ 19 พ.ค. คนพวกนี้อาศัยช่วงชุลมุน หลบหนีไปได้บางส่วน ตั้งแต่ช่วงเช้าเพราะรู้แล้วว่าไม่สามารถต่อสู้กับทหารที่ใช้การรบเต็มรูปแบบและใช้หน่วยรบพิเศษได้ (ใครมันจะอยากตายล่ะ เพราะรู้แล้วว่า งานนี้ส่งรบพิเศษเข้ามา) แต่มีบางส่วนยังทำการต่อสู้เจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะพลซุ่มยิง บนที่สูงยังคงอยู่ในพื้นที่ชุมนุม (โดนเบิร์นไป 2 จุด มีจุดหนึ่ง ยืนยันได้ว่ามี พลซุ่มยิงฝ่ายเสื้อดำเสียชีวิตแน่นอน 1 คน อีกคนหนึ่งหนีไปได้)


ต่อจากนี้เป็นความเห็นส่วนตัว ... ถ้าให้ผมเดา ผมเดาว่าน่าจะเป็นทหารพรานที่ปลดแล้ว เพราะมีความสนิทสนมกับเสธ.แดงเป็นพิเศษ ....ที่สำคัญ..หลังจากเสธ.แดง โดนยิง...ผมสังเกตเห็นว่า หลายๆจุดที่เคยเฝ้าระวัง กำลังบางส่วนหายไป ผมเดาว่าหนี..เพราะรู้แล้วว่าทหารเอาแน่ และแม่ทัพถูกเด็ดหัวไปแล้ว (โดยใครก็ไม่รู้)

[Moon]

คลิปนี้ตามกรอบ

ข้อ

4 ความเชื่อมโยงกับนปช.
4.1 ความเชื่อมโยงโดยตรง
4.2 ความเชื่อโยงโดยอ้อม

5 หลักฐานที่พิสูจน์การมีอยู่จริงของกองกำลังนี้

ภาพและเสียงกีร์ ภาพและเสียงประชาชน ภาพและเสียงการ์ด นปช ท้่ายคลิป เสียงเสธแดง

Edited by Moon, 8 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 22:05.

[kon_thai]

ขอเอาข่าวนี้มาลงครับ..อาจจะยาวนะครับ..แต่...

เว็บไซต์เอเชียไทมส์ออนไลน์ www.atimes.com เคยมีรายงานพิเศษ Unmasked: Thailand's men in black ยืนยันถึงการดำรงอยู่และปฏิบัติการของกองกำลังติดอาวุธชุดดำ ในพื้นที่การเคลื่อนไหวของเสื้อแดง

โดยผู้สื่อข่าวต่างชาติ 2 คน ได้แก่ นายเคนเนธ ท็อดด์ รูอิซ และ นายโอลิวิเยร์ ซาร์บิล มีโอกาสได้เข้าไปอยู่ในเต็นท์ซุ่มซ่อนตัวของ "นักรบชุดดำ" ภายในพื้นที่ชุมนุมของเสื้อแดง เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2553

"...ร่างบึกบึนกำยำซึ่งมีเคราที่ถักเป็นกระจุกผู้หนึ่ง เท้าแขนลงบนพนักพิงของเก้าอี้พลาสติก และกรอกคำพูดเข้าไปในวิทยุรับส่งคุณภาพสูงระดับที่ใช้กันในหน่วยทหาร ขณะที่ริมฝีปากของเขายังคงคาบบุหรี่เอาไว้ "แฮปปี้เบิร์ธเดย์" เขาพูดเป็นภาษาอังกฤษ ไม่กี่อึดใจต่อมาก็มีเสียงระเบิดกัมปนาทขึ้นจากจุดที่อยู่ห่างออกไปในเขตใจกลางกรุงเทพฯ-เมืองหลวงของประเทศไทยแห่งนี้ กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลกลุ่มย่อมๆ ที่อยู่รายล้อมเขาต่างอยู่ในอารมณ์ของความสะใจ พากันตะโกนอย่างพร้อมเพรียงกันว่า "แฮปปี้เบิร์ธเดย์" ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมงต่อจากนั้น จะมีการเฉลิมฉลองด้วยการเปล่งรหัสลับทำนองเดียวกันนี้อีกหลายๆ หนทีเดียว

วันเวลาในขณะนั้นคือ 5 วันก่อนวันที่ 19 พฤษภาคม อันเป็นวันที่กองทัพจะส่งยานลำเลียงพลหุ้มเกราะบุกเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพฯ เพื่อปราบปรามสลายการยึดครองพื้นที่ของพวกเสื้อแดงอย่างเด็ดขาด...

...พวกเขาอนุญาตให้เราสองคนเข้าไปข้างในโลกลึกลับของพวกเขาได้ โดยตั้งเงื่อนไขเพียงข้อเดียว นั่นคือ ถ้าเราขืนถ่ายภาพใดๆ แล้ว พวกเขาจะฆ่าเราทิ้ง

สมาชิกกองกำลังเหล่านี้ไม่ใช่การ์ดรักษาความปลอดภัยสวมชุดดำตามปกติซึ่งว่าจ้างมาโดยแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กลุ่มประท้วงต่อต้านรัฐบาล ที่โดยทั่วไปแล้วจะไม่พกพาอาวุธปืน แต่สมาชิกกองกำลังเหล่านี้เป็นกลุ่มจารบุรุษลึกลับที่มีอาวุธหนักเต็มเพียบ กระนั้น พวกเขาก็มีสายสัมพันธ์เชื่อมโยงอยู่กับบุคคลระดับแกนนำของ นปช. หรือที่รู้จักเรียกขานกันในนามว่า พวกเสื้อแดง ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ตามคำบอกเล่ายอมรับของกลุ่มคนติดอาวุธเหล่านี้เอง...

...ขณะที่ดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ณ วันที่ 14 พฤษภาคม เบื้องหลังป้อมปราการที่กำหนดเขตด้วยแนวรั้วเครื่องกีดขวางอันสร้างขึ้นจากไม้ไผ่และยางรถยนต์ ในบริเวณใจกลางของย่านการค้าระดับท็อปแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ชายเหล่านี้รับประทานบะหมี่ร้อนๆ และพูดกระซิบกระซาบกันอย่างหงุดหงิดกังวลใจเกี่ยวกับพลแม่นปืนของกองทัพ นักซุ่มยิงของฝ่ายทหารกำลังทำให้กลุ่มคนเหล่านี้รู้สึกโกรธเกรี้ยว

ยี่สิบสี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้น กรุงเทพฯ ตกอยู่ในภาวะสับสนอลหม่าน หลังจากที่บุรุษผู้ซึ่งชายเหล่านี้ระบุว่าเป็นผู้ออกคำสั่งต่อพวกเขาโดยตรง นั่นก็คือ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล นายทหารกบฏแห่งกองทัพบก ได้ถูกกระสุนปืนยิงใส่จนล้มคว่ำ (และในที่สุดก็เสียชีวิตลงในเวลาอีกหลายวันต่อมา) ด้วยฝีมือของนักซุ่มยิง ขณะที่ พล.ต.ขัตติยะกำลังพูดกับนักข่าวผู้หนึ่ง ทางฝ่ายรัฐบาลนั้นได้ปฏิเสธเรื่อยมาว่าไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบการลอบสังหารคราวนี้

พล.ต.ขัตติยะ นายทหารนอกแถวนามกระเดื่อง ได้รับการยกย่องนับถือจากพวกเสื้อแดงจำนวนมาก เขามักจะพูดอย่างชื่นชมถึงกลุ่มกองกำลังที่เขาเรียกขานว่าเป็น "นักรบโรนิน" (โรนิน Ronin คือนักรบซามูไรที่ไร้เจ้าไร้มูลนายที่จะสวามิภักดิ์ด้วย) ในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ เขาคุยอวดกับพวกผู้สื่อข่าวว่า กำลังฝึกอบรมอดีตทหารจำนวนหนึ่งที่ไม่เปิดเผยว่ามีจำนวนเท่าใด เพื่อให้มาทำหน้าที่พิทักษ์คุ้มครองพวกเสื้อแดง แต่ต่อมาเขาก็กลับออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้นำของอดีตทหารเหล่านี้

เมื่อขาดไร้ซึ่งการนำของ พล.ต.ขัตติยะ เสียแล้ว เห็นได้ชัดเจนว่าระเบียบวินัยภายในป้อมค่ายของพวกเสื้อแดงอยู่ในสภาพเสื่อมทรุด แอลกอฮอล์ถูกนำมาดื่มกินกันอย่างเสรี และกลายเป็นการเติมเชื้อให้เกิดการใช้อารมณ์โกรธขึ้งเข้าใส่กัน รวมถึงการต่อสู้กันด้วยกำปั้น ก่อนหน้านี้ในวันนั้นเอง นักรบโรนินผู้หนึ่งได้ยิงปืนไรเฟิลสังหารแบบ ทาร์-21 (TAR-21) ทำในอิสราเอล ซึ่งยึดมาได้จากฝ่ายทหารเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เข้าใส่เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพลำหนึ่งที่มาบินอยู่เหนือที่ชุมนุม...

..."ไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย ไม่ใช้ความรุนแรง มีแต่สันติภาพและประชาธิปไตย" เป็นข้อความในแผ่นป้ายที่แขวนเอาไว้ด้านนอกของแนวเครื่องกีดขวางซึ่งทำจากยางรถที่กองสุมอย่างไม่เป็นระเบียบ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้คนที่อยู่ข้างในแล้ว มันเป็นความลับที่ทราบกันไปทั่วอยู่แล้วว่ากลุ่มคนถืออาวุธเหล่านี้เป็นใคร เช่นเดียวกับที่ไม่ใช่ความลับอะไรเลยในเรื่องมีระเบิดจำนวนหนึ่งวางเอาไว้ ตามแนวเครื่องกีดขวาง และเชื่อมโยงเข้าด้วยกันโดยสายไฟสีทึมๆ สกปรก พร้อมที่จะสร้างความเสียหายอย่างหนักหน่วงแก่ทหารในกองทัพรัฐบาลที่จะยกกำลังบุกเข้ามา

...กลุ่มคนเหล่านี้มีไม่ถึงครึ่งหนึ่งที่เป็นกองกำลังกึ่งทหาร พวกเสื้อดำธรรมดาที่เหลือเป็นพวกที่ทำหน้าที่สนับสนุนและจัดหาจัดเตรียมสิ่ง ต่างๆ ที่พวกถืออาวุธต้องการ บางคนทำหน้าที่ติดต่อประสานงาน คนอื่นๆ จัดหาน้ำ, กาแฟ, เครื่องดื่มชูกำลังเอ็ม150 นักรบโรนินเหล่านี้จัดโครงสร้างเหมือนเป็นทหารหน่วยหนึ่ง โดยมีทั้งพลวิทยุสื่อสารและพลพยาบาลครบครัน พวกเขาดูน่าจะผ่านการฝึกอบรมเรื่องการใช้วัตถุระเบิดและอาวุธยุทโธปกรณ์ ต่างๆ มาแล้ว ดังเห็นได้จากการที่พวกเขามีความรู้ในการจัดการกับระเบิดพลาสติก ตลอดจนมีความสามารถที่จะวางระเบิดเอาไว้รอบๆ แนวที่ตั้งในแบบที่สามารถจุดชนวนระเบิดจากที่ไกลออกไปได้

...ปืนไรเฟิลสังหารทั้งแบบเอ็ม16 และ เออาร์-15 ถูกนำออกมาจากที่ซุกซ่อนในสภาพที่ห่อด้วยผ้าพลาสติก บางกระบอกก็ถูกนำออกมาจากภายในชุดเครื่องแต่งกายของพวกเขาเอง ภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที กลุ่มติดอาวุธเหล่านี้ก็บรรจุกระสุนเข้าไปแมกกาซีน และเสียบแมกกาซีนเข้าที่จนเสร็จเรียบร้อย

กระสุนกำลังเหลือน้อยแล้ว พวกเขาพูดกันเช่นนั้น นักรบแต่ละคนจึงได้รับกระสุนติดตัวคนละไม่เกิน 30 นัด ถึงแม้เราจะไม่ได้เห็นเครื่องยิงระเบิดเอ็ม79 แต่ก็ได้ยินพวกนักรบโรนินพูดคุยกันถึงกระสอบบรรจุลูกระเบิดใบใหญ่เทอะทะที่พวกเขากำลังถืออยู่ เมื่อเวลาเคลื่อนผ่านเลย 3 ทุ่มไปนิดเดียว นักรบทั้ง 12 คนก็พากันลุกขึ้นและรีบเร่งออกไปอย่างเงียบๆ เพื่อเข้าสู่ความมืดมิดของรัตติกาล กระทำหน้าที่ในการสร้างความบาดเจ็บล้มตายและในการหว่านเพาะความปั่นป่วนวุ่นวายอีกวาระหนึ่ง..."

หนึ่งในแก้ว 3 ประการของขบวนการเสื้อแดง คือ กองกำลังติดอาวุธชุดดำ มีอยู่จริง!

นายอริสมันต์และพวก น่าจะเป็นจิ๊กซอว์สำคัญ เพราะเคยปราศรัยมัดตัวเองไว้ก่อนหน้านี้!

[Moon]

รายชื่อกองกำลังติดอาวุธ ทั้งที่จับได้ และยังจับไม่ได้ พร้อมคำสารภาพ
ว่าใครทำอะไรอย่างไร เป็นลูกน้องใคร ใครสั่ง ใครจ่ายตังค์

มีผู้สารภาพว่าเป็นคนที่ยิงในช่วงเสื้อเหลืองและสลิ่มชุมนุมด้วย

[Moon]

6 ข้อหักล้างจากนปช.

รายงานของ คปอ. เท่ากับเป็นใบสั่งฆ่าย้อนหลัง

[Apichai]

ซ้ำ

Edited by Apichai, 8 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 22:41.

[Apichai]

4. พวกนี้สามารถใช้อาวุธหนักได้แม่นยำมาก (M-79 แม่นมากจริงๆ แสดงว่าต้องได้รับการฝึกมาอย่างดีและยิงจนชำนาญ ไม่ใช่เพิ่งฝึก) สามารถหยอดลงกลางเป้าหมายได้ในนัด ที่ 2 เท่านั้น บางครั้งก็ลูกเดียวโดนเลย

เป็น M79 แบบดัดแปลง ผลิตที่ อยุธยา

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) แถลงกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เข้าตรวจค้นที่บริษัท ฟูจิออโต้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผลิตอะไหล่รถยนต์ ที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา พบสิ่งประดิษฐ์เทียมอาวุธ ภาษาชาวบ้านเรียกว่า “อีโบ๊ะ” เป็นการหล่อเหล็กเทียมที่สามารถนำมาใช้แทน ระเบิด M 79 ได้ จำนวน 100 ชิ้น


http://www.mcot.net/...page/31836.html

[Nong]

ขอบคุณกระทู้คุณภาพ

พร้อมลงชื่อติดตามค่ะ

[พอล คุง]

ติดตามอย่างกระชัดชิด

[plunk]

สืบ โดย เริ่มต้นจาก อารี ไกรนรา คนเดียว ก้น่าจะรู้แล้วนะครับ

[kon_thai]

[amplepoor]

เยี่ยมครับ
ข้อมูลไหลมาเรื่อยๆ เมื่อเราวางกรอบให้ชัดแล้ว การสางหารากเง่าก็ง่ายขึ้น
ขอเสนอตัวเชื่อมสำคัญอีกคน
สมัย วงศ์สุวรรณ แห่งสมานเมตตาแมนชั่น

สมัยเป็นแดงฮาร์ดคอร์จากหางดง เชียงใหม่
พบชื่อครั้งแรก ในหมู่ผู้บาดเจ็บวันที่ 10 เมษา โดนกระสุนยางที่แก้มขวา ที่สะพานมัฆวาน

พบชื่ออีกครั้ง เมื่อเป็นทรากศพจากระเบิดของตัวเองที่สมานเมตตาแมนชั่น 5 ตุลา 2553
คนไกล้ชิดยืนยันว่ามาร่วมชุมนุมตั้งแต่ 12 มีนาคม บาดเจ็บแล้วก็ยังไม่กลับบ้าน
ระเบิดที่พบ เป็น TNT 10 กิโล

ตามฟอร์ม
แดงเชียงใหม่รีบออกมาบอกว่าไม่เกี่ยวข้อง แล้วก็ป้ายสีรัฐบาล
นายศรีวรรณ จันทร์ผง แกนนำกลุ่ม นปช.แดงเชียงใหม่ กล่าวถึงเหตุระเบิดที่สมานเมตตาแมนชั่น จ.นนทบุรี ซึ่ง นายสมัย วงศ์สุวรรณ เจ้าของห้องเช่าเป็นคนเสื้อแดงว่า

ไม่มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ แม้ภรรยานายสมัยจะยืนยันว่านายสมัยได้เข้าร่วมกิจกรรมของคนเสื้อแดงใน จ.เชียงใหม่ แทบทุกครั้ง แต่ตนเองก็ไม่รู้จักเพราะมวลชนคนเสื้อแดงมีนับหมื่นนับแสน คงจะรู้จักเฉพาะคณะทำงานของกลุ่มเท่านั้น

เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในครั้งนี้และหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมาอาจเป็นความ พยายามของรัฐบาลที่ต้องการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในกรุงเทพฯ และเห็นว่ารัฐบาลต้องเร่งคลี่คลายคดีเพื่อให้คำตอบกับสังคมให้ได้ เพราะทุกวันนี้บ้านเมืองไม่สงบก็เพราะรัฐบาลให้คำตอบกับสังคมไม่ได้ ทั้ง คดีฆ่าคนเสื้อแดง 91 ศพ คดีลอบฆ่าพล.ต.ขัติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง รวมถึงเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นซึ่งรัฐบาลมีความพยายามโยนความผิดให้กับคนเสื้อ แดง

ประเด็นนี้มีเรื่องต้องสืบสวนอีกมาก
1 ระเบิดมาจากใหน
2 ผู้ตายไปเรียนรู้การทำระเบืดมาจากใหน
3 การทำระเบิดมักจะมี"ลายมือ" ได้ตรวจสอบต่อหรือไม่ว่ามีส่วนเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดครั้งอื่นหรือไม่

ไทยรัฐลงข่าวต่อเนื่องไว้ น่าสนใจ
----------------------------
พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รอง ผบ.ตร.( ปป 3 )ในฐานะ ผอ.ศบร.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุระเบิดสมานเมตตาแมนชั่นว่า ในส่วนผู้ต้องหาที่ได้ออกหมายจับไปแล้วสองคน คือ นายกษิ ดิฐธนรัชต์ และนางอัมพร ใจก้อน โดย รรท.ผบช.ภ.1 และ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา ( สบ.10 )ได้จัดชุดติดตามตัวอยู่ โดยเชื่อว่าน่าจะได้ตัวในเร็วๆ นี้ เพราะยังคงหลบหนีอยู่ในประเทศ หากได้ตัวทั้งสองมาแล้วเชื่อว่าพยานหลักฐานจะ กระจ่างขึ้นในระดับหนึ่ง ส่วนพยานที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีนี้ บช.ภ.5 ได้นำตัวมาสอบสวนแล้ว โดยมีความคืบหน้าไปในระดับหนึ่ง ส่วนตัวละครที่เกี่ยวข้องที่อยู่ทางภาคใต้นั้นได้นำตัวมาสอบปากคำหมดแล้ว เช่นกัน แต่ทั้งหมดยังให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และมีความเชื่อมโยง จนทำให้คดีคืบหน้าไปพอสมควร หากหลักฐานทั้งหมดพร้อมจนสามารถนำไปสู่การออกหมายจับได้ จะประสานไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไปหม่" ของเขาได้ปรากฎชัด ระเบิดดังสนั่น เขาพลาดจนต้องสังเวยชีวิตตน คาดว่าตาย 4 สาหัส 2 และบาดเจ็บอีกนับสิบ น่าสะเทือนใจยิ่ง!!

[ปุถุชน]

6 ข้อหักล้างจากนปช.

รายงานของ คปอ. เท่ากับเป็นใบสั่งฆ่าย้อนหลัง

ผมเข้าไปดูบางคลิป....
1.พิธีกรของ Voice TV แต่งกาย แต่งหน้า เซ็กซี่ มีราคา ดูดีกว่า Blue Sky.....
2.หญิงเลี้ยงแกะ....
3.พยายามทำลายความเชื่อถือของ คอป.
4."ใบบอก"ไม่ได้ส่งให้"บัตรเติมเงิน"โดยตรง อ่านและฟังจากที่นี่ได้....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

Edited by ปุถุชน, 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 00:56.

[ฟังทั้งสองฝ่าย]

ขอเอาข่าวนี้มาลงครับ..อาจจะยาวนะครับ..แต่...

เว็บไซต์เอเชียไทมส์ออนไลน์ www.atimes.com เคยมีรายงานพิเศษ Unmasked: Thailand's men in black ยืนยันถึงการดำรงอยู่และปฏิบัติการของกองกำลังติดอาวุธชุดดำ ในพื้นที่การเคลื่อนไหวของเสื้อแดง

โดยผู้สื่อข่าวต่างชาติ 2 คน ได้แก่ นายเคนเนธ ท็อดด์ รูอิซ และ นายโอลิวิเยร์ ซาร์บิล มีโอกาสได้เข้าไปอยู่ในเต็นท์ซุ่มซ่อนตัวของ "นักรบชุดดำ" ภายในพื้นที่ชุมนุมของเสื้อแดง เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2553

"...ร่างบึกบึนกำยำซึ่งมีเคราที่ถักเป็นกระจุกผู้หนึ่ง เท้าแขนลงบนพนักพิงของเก้าอี้พลาสติก และกรอกคำพูดเข้าไปในวิทยุรับส่งคุณภาพสูงระดับที่ใช้กันในหน่วยทหาร ขณะที่ริมฝีปากของเขายังคงคาบบุหรี่เอาไว้ "แฮปปี้เบิร์ธเดย์" เขาพูดเป็นภาษาอังกฤษ ไม่กี่อึดใจต่อมาก็มีเสียงระเบิดกัมปนาทขึ้นจากจุดที่อยู่ห่างออกไปในเขตใจกลางกรุงเทพฯ-เมืองหลวงของประเทศไทยแห่งนี้ กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลกลุ่มย่อมๆ ที่อยู่รายล้อมเขาต่างอยู่ในอารมณ์ของความสะใจ พากันตะโกนอย่างพร้อมเพรียงกันว่า "แฮปปี้เบิร์ธเดย์" ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมงต่อจากนั้น จะมีการเฉลิมฉลองด้วยการเปล่งรหัสลับทำนองเดียวกันนี้อีกหลายๆ หนทีเดียว

วันเวลาในขณะนั้นคือ 5 วันก่อนวันที่ 19 พฤษภาคม อันเป็นวันที่กองทัพจะส่งยานลำเลียงพลหุ้มเกราะบุกเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพฯ เพื่อปราบปรามสลายการยึดครองพื้นที่ของพวกเสื้อแดงอย่างเด็ดขาด...

...พวกเขาอนุญาตให้เราสองคนเข้าไปข้างในโลกลึกลับของพวกเขาได้ โดยตั้งเงื่อนไขเพียงข้อเดียว นั่นคือ ถ้าเราขืนถ่ายภาพใดๆ แล้ว พวกเขาจะฆ่าเราทิ้ง

สมาชิกกองกำลังเหล่านี้ไม่ใช่การ์ดรักษาความปลอดภัยสวมชุดดำตามปกติซึ่งว่าจ้างมาโดยแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กลุ่มประท้วงต่อต้านรัฐบาล ที่โดยทั่วไปแล้วจะไม่พกพาอาวุธปืน แต่สมาชิกกองกำลังเหล่านี้เป็นกลุ่มจารบุรุษลึกลับที่มีอาวุธหนักเต็มเพียบ กระนั้น พวกเขาก็มีสายสัมพันธ์เชื่อมโยงอยู่กับบุคคลระดับแกนนำของ นปช. หรือที่รู้จักเรียกขานกันในนามว่า พวกเสื้อแดง ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ตามคำบอกเล่ายอมรับของกลุ่มคนติดอาวุธเหล่านี้เอง...

...ขณะที่ดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ณ วันที่ 14 พฤษภาคม เบื้องหลังป้อมปราการที่กำหนดเขตด้วยแนวรั้วเครื่องกีดขวางอันสร้างขึ้นจากไม้ไผ่และยางรถยนต์ ในบริเวณใจกลางของย่านการค้าระดับท็อปแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ชายเหล่านี้รับประทานบะหมี่ร้อนๆ และพูดกระซิบกระซาบกันอย่างหงุดหงิดกังวลใจเกี่ยวกับพลแม่นปืนของกองทัพ นักซุ่มยิงของฝ่ายทหารกำลังทำให้กลุ่มคนเหล่านี้รู้สึกโกรธเกรี้ยว

ยี่สิบสี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้น กรุงเทพฯ ตกอยู่ในภาวะสับสนอลหม่าน หลังจากที่บุรุษผู้ซึ่งชายเหล่านี้ระบุว่าเป็นผู้ออกคำสั่งต่อพวกเขาโดยตรง นั่นก็คือ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล นายทหารกบฏแห่งกองทัพบก ได้ถูกกระสุนปืนยิงใส่จนล้มคว่ำ (และในที่สุดก็เสียชีวิตลงในเวลาอีกหลายวันต่อมา) ด้วยฝีมือของนักซุ่มยิง ขณะที่ พล.ต.ขัตติยะกำลังพูดกับนักข่าวผู้หนึ่ง ทางฝ่ายรัฐบาลนั้นได้ปฏิเสธเรื่อยมาว่าไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบการลอบสังหารคราวนี้

พล.ต.ขัตติยะ นายทหารนอกแถวนามกระเดื่อง ได้รับการยกย่องนับถือจากพวกเสื้อแดงจำนวนมาก เขามักจะพูดอย่างชื่นชมถึงกลุ่มกองกำลังที่เขาเรียกขานว่าเป็น "นักรบโรนิน" (โรนิน Ronin คือนักรบซามูไรที่ไร้เจ้าไร้มูลนายที่จะสวามิภักดิ์ด้วย) ในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ เขาคุยอวดกับพวกผู้สื่อข่าวว่า กำลังฝึกอบรมอดีตทหารจำนวนหนึ่งที่ไม่เปิดเผยว่ามีจำนวนเท่าใด เพื่อให้มาทำหน้าที่พิทักษ์คุ้มครองพวกเสื้อแดง แต่ต่อมาเขาก็กลับออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้นำของอดีตทหารเหล่านี้

เมื่อขาดไร้ซึ่งการนำของ พล.ต.ขัตติยะ เสียแล้ว เห็นได้ชัดเจนว่าระเบียบวินัยภายในป้อมค่ายของพวกเสื้อแดงอยู่ในสภาพเสื่อมทรุด แอลกอฮอล์ถูกนำมาดื่มกินกันอย่างเสรี และกลายเป็นการเติมเชื้อให้เกิดการใช้อารมณ์โกรธขึ้งเข้าใส่กัน รวมถึงการต่อสู้กันด้วยกำปั้น ก่อนหน้านี้ในวันนั้นเอง นักรบโรนินผู้หนึ่งได้ยิงปืนไรเฟิลสังหารแบบ ทาร์-21 (TAR-21) ทำในอิสราเอล ซึ่งยึดมาได้จากฝ่ายทหารเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เข้าใส่เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพลำหนึ่งที่มาบินอยู่เหนือที่ชุมนุม...

..."ไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย ไม่ใช้ความรุนแรง มีแต่สันติภาพและประชาธิปไตย" เป็นข้อความในแผ่นป้ายที่แขวนเอาไว้ด้านนอกของแนวเครื่องกีดขวางซึ่งทำจากยางรถที่กองสุมอย่างไม่เป็นระเบียบ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้คนที่อยู่ข้างในแล้ว มันเป็นความลับที่ทราบกันไปทั่วอยู่แล้วว่ากลุ่มคนถืออาวุธเหล่านี้เป็นใคร เช่นเดียวกับที่ไม่ใช่ความลับอะไรเลยในเรื่องมีระเบิดจำนวนหนึ่งวางเอาไว้ ตามแนวเครื่องกีดขวาง และเชื่อมโยงเข้าด้วยกันโดยสายไฟสีทึมๆ สกปรก พร้อมที่จะสร้างความเสียหายอย่างหนักหน่วงแก่ทหารในกองทัพรัฐบาลที่จะยกกำลังบุกเข้ามา

...กลุ่มคนเหล่านี้มีไม่ถึงครึ่งหนึ่งที่เป็นกองกำลังกึ่งทหาร พวกเสื้อดำธรรมดาที่เหลือเป็นพวกที่ทำหน้าที่สนับสนุนและจัดหาจัดเตรียมสิ่ง ต่างๆ ที่พวกถืออาวุธต้องการ บางคนทำหน้าที่ติดต่อประสานงาน คนอื่นๆ จัดหาน้ำ, กาแฟ, เครื่องดื่มชูกำลังเอ็ม150 นักรบโรนินเหล่านี้จัดโครงสร้างเหมือนเป็นทหารหน่วยหนึ่ง โดยมีทั้งพลวิทยุสื่อสารและพลพยาบาลครบครัน พวกเขาดูน่าจะผ่านการฝึกอบรมเรื่องการใช้วัตถุระเบิดและอาวุธยุทโธปกรณ์ ต่างๆ มาแล้ว ดังเห็นได้จากการที่พวกเขามีความรู้ในการจัดการกับระเบิดพลาสติก ตลอดจนมีความสามารถที่จะวางระเบิดเอาไว้รอบๆ แนวที่ตั้งในแบบที่สามารถจุดชนวนระเบิดจากที่ไกลออกไปได้

...ปืนไรเฟิลสังหารทั้งแบบเอ็ม16 และ เออาร์-15 ถูกนำออกมาจากที่ซุกซ่อนในสภาพที่ห่อด้วยผ้าพลาสติก บางกระบอกก็ถูกนำออกมาจากภายในชุดเครื่องแต่งกายของพวกเขาเอง ภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที กลุ่มติดอาวุธเหล่านี้ก็บรรจุกระสุนเข้าไปแมกกาซีน และเสียบแมกกาซีนเข้าที่จนเสร็จเรียบร้อย

กระสุนกำลังเหลือน้อยแล้ว พวกเขาพูดกันเช่นนั้น นักรบแต่ละคนจึงได้รับกระสุนติดตัวคนละไม่เกิน 30 นัด ถึงแม้เราจะไม่ได้เห็นเครื่องยิงระเบิดเอ็ม79 แต่ก็ได้ยินพวกนักรบโรนินพูดคุยกันถึงกระสอบบรรจุลูกระเบิดใบใหญ่เทอะทะที่พวกเขากำลังถืออยู่ เมื่อเวลาเคลื่อนผ่านเลย 3 ทุ่มไปนิดเดียว นักรบทั้ง 12 คนก็พากันลุกขึ้นและรีบเร่งออกไปอย่างเงียบๆ เพื่อเข้าสู่ความมืดมิดของรัตติกาล กระทำหน้าที่ในการสร้างความบาดเจ็บล้มตายและในการหว่านเพาะความปั่นป่วนวุ่นวายอีกวาระหนึ่ง..."

หนึ่งในแก้ว 3 ประการของขบวนการเสื้อแดง คือ กองกำลังติดอาวุธชุดดำ มีอยู่จริง!

นายอริสมันต์และพวก น่าจะเป็นจิ๊กซอว์สำคัญ เพราะเคยปราศรัยมัดตัวเองไว้ก่อนหน้านี้!

ตรงข้อความสีแดง น่าจะเป็นกลุ่มที่ฆ่าประชาชนครับ เพราะ ถ้าจะไปต่อสู้กับทหาร นั้นหมายถึง สู้จนตัวตาย ผมว่าคงไม่มีใครกล้ายอมพลีกายถวายชีวิต(เปล่าประโยชน์)
และกลุ่มคนกลุ่มนี้น่าจะเป็นตัวระดับหัวแถวด้วย

[amplepoor]

ต่อเนื่องจากกรณีสมานเมตตา ทำให้ได้ตัวละครเพิ่ม
เกี่ยวพันถึงใคร...ลองดูพาดหัวสรุปของ คมชัดลึก
-------------------
'กษิ-วสา'คาย"ส"ชักใยบึ้มแมนชั่นนนท์

เค้นหนัก "กษิ" คายชื่อ "ส." ส.ส.ภาคเหนือชักใยป่วนเมือง ตร.รีดข้อมูล "วสา" มัดคดีบึ้มแมนชั่นนนท์ หิ้วสอบเพิ่ม "สุรชัย" นักธุรกิจจ้างสาวสภาโอนเงิน ส่งนอกเครื่องแบบประกบ "วิสุทธิ์" ดีเอสไอเร่งล่า 6 การเมืองบงการนักรบแดง

[amplepoor]

หมายจับ-จับแล้ว-ยื่นฟ้องศาล
http://www.bangkokbi...้ต้องสงสัย.html
ตรวจสอบฐานข้อมูลฝ่ายรัฐ เมื่อ 24 พ.ค.2553 พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(ผบช.ก.) สรุปการดำเนินคดีกับแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ระหว่าง 14-20 พ.ค.2553 โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค1(บช.ภ.1) กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค7(บช.ภ.7) และ กองบังคับการกองปราบปราบ (บก.ป.) ขอศาลอาญาออกหมายจับและควบคุมตัวบุคคลต้องสงสัย ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ศาลอนุมัติ 66 หมายจับ จับแล้ว 22 หมาย คงเหลือ 44 หมาย

1) กรณีปราศรัยปลุกระดมแยกราชประสงค์(17หมาย) คือ 1.เหวง โตจิราการ(มอบตัว20พ.ค.) 2.นางดารุณี กฤตบุญญาลัย 3.จรัล ดิษฐาอภิชัย 4.ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ(มอบตัว19พ.ค.) 5.นิสิต สินธุไพร(มอบตัว19พ.ค.) 6.วีระ มุกสิกพงศ์(มอบตัว20พ.ค.) 7.ก่อแก้ว พิกุลทอง(มอบตัว20พ.ค.) 8.ขวัญชัย ไพรพนา(มอบตัว19พ.ค.) 9.ชินวัฒน์ หาบุญพาด 10.วิภูแถลง พัฒนภูไท(มอบตัว19พ.ค.) 11.อดิศร เพียงเกษ 12.วรพล พรหมิกบุตร(มอบตัว 14มิ.ย.?) 13.พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ 14.สำเริง ประจำเรือ 15.วิสา คัญทัพ 16.นางไพจิตร อักษรณรงค์ 17.พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล(เสียชีวิต 17พ.ค.)

2) กรณีวิทยุชุมชนนำคลิปเสียงตัดต่อของนายอภิสิทธิ์ เผยแพร่(7หมาย)1.ราตรี หรือชาตรี ชื่นชม 2.พันธุ์ศักดิ์ ซาบุ 3.นางวิกานดา ปักกาสัง(จับกุม7พ.ค.) 4.น.ส.รัศมี มาลาม(จับกุม20พ.ค.) 5.ธาดา บุญสุขศรี 6.ซากิริน บุญมาเลิศ 7.ธนกฤต นาคบรรจง

3) วิทยุชุมชนนำคลิปของนายกรัฐมนตรีออกเผยแพร่(4หมาย)1.ชุติพนธ์ ทองคำ 2.นาวาอากาศเอกพิรัตน์ วัฒนพานิช 3.นิพนธ์ แสงสีนิล 4.น.ส.ดวงมณี บุญรัตน์ (จับกุม9พ.ค.)

4) วิทยุชุมชนภาคเหนือปลุกระดมและขึ้นปราศัยเวทีราชประสงค์(5 ฉบับ) 1.นางกัญญาภัค มณีจักร(ดีเจอ้อม) 2.เพชรวรรต วัฒนะพงศ์ศิริกุล 3.ภูมิใจ ไชยยา 4.นิยม เหลืองเจริญ 5.อภิชาต อินสอน

5) กรรมการสถานีวิทยุชุมชนสนับสนุนปลุกระดม ขึ้นปราศรัยเวทีราชประสงค์(3ฉบับ) 1.น.ส.มาระดี วงศ์ไทย 2.วินัย แสงสีนิล 3.น.ส.กัลยารัตน์ กาวีละ

6) วิทยุชุมชนปลุกระดมโจมตีรัฐบาล(7ฉบับ) 1.ไพโรจน์ แสงศรี 2.ประทีป ใจหาญ 3.สมเกียรติ สาระเนียม 4.ธนานันท์ ศรีสุดดี 5.กิตติ์ดนัย พริ้งกุลเศรษฐ์ 6.พีระ พริ้งกลาง 7.ภูมิกิติ หรือพิเชษฐ์ สุขจินดาทอง(จับกุม18พค.)
บช.น. ร้องขอศาลอาญา ออกหมายจับและควบคุมตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวม 22 ฉบับ ประกอบด้วย
1) กรณีบุกรุกรัฐสภา 1.ยศวริศ ชูกล่อม(เจ๋ง ดอกจิก) (มอบตัว19พค.) 2.พายัพ ปั้นเกตุ 3.สุภรณ์ อัตถาวงศ์ 4.นางศิริวรรณ นิมิตศิลป์(จับกุม20พค.) 5.อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง 6.ธนกฤต ชะเอมน้อย(วันชนะ เกิดดี) 7.พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์

2) ปะทะสี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน 1.เมธี อมรวุฒิกุล(จับกุม22เม.ย.) 2.อารี ไกรนรา(หัวหน้าการ์ดนปช.) 3.อร่าม แสงอรุณ 4.มงคล สารพัน 5.เชน แขนสันเทียะ(มอบตัว16พ.ค.) 6.ชยุต ไหลเจริญ(จับกุม26เม.ย.) 7.ธนเดช เอกอภิวัชร์ 8.วายุภักดิ์ โนรี(จับกุม1พ.ค.) 9.ภาสกร หรือสมนึก ศิริรักษ์(จับกุม1พ.ค.) 10.พ.ต.ท.ศุภชัย ผุยแก้วคำ(จับกุม1พ.ค.) 11.เรืองอำนาจ พุทธิวงศ์(จับกุม17พ.ค.) 12.มีชัย สินนาค(จับกุม4พ.ค.)

3) ออกหมายจับเพิ่มเติม เมื่อ 18 พ.ค. ได้แก่ 1.สมชาย ไพบูลย์ 2.นาวิน บุญเสรษฐ(อดีตส.ส.พิจิตร) 3.นางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ

บช.ภ.1 ขอ ศาลแขวงสมุทรปราการ หมายจับและควบคุมตัวตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กรณีวิทยุชุมชนปลุกระดมมวลชนและโจมตีรัฐบาล คือ นายพงษ์อัมพร บรรดาศักดิ์

24 มิ.ย.2553 ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงตามหมายจับ พ.รก.ฉุกเฉิน
1) กรณีก่อเหตุยุยงก่อความไม่สงบเรียบร้อย ออกหมายจับ 84 หมาย จับกุมได้ 35 หมาย คงเหลือ 49 หมาย
2) หมายคดีอาญา ตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขออนุมัติศาล 886 หมาย จับกุมแล้ว 200 คงเหลือ 686 หมาย
3) ฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน กระทำความผิดซึ่งหน้า จับได้ 417 คน
รวมคดีทั้งสิ้นจนถึงวันที่ 23 มิ.ย.2553 จำนวน 2,730 คน จับกุมแล้ว 1,984 คน ต้องสืบสวนจับกุมอีก 744 ราย

ล่าสุด 2 ส.ค.53 อธิบดีกรมสอบสวนพิเศษ(ดีเอสไอ) เปิดเผยว่าคดีก่อเหตุความไม่สงบมีทั้งสิ้น 253 คดี จำหน่ายคดีแล้ว 27 คดี เหลือคดีต้องสอบสวนต่อ 226 คดี สอบสวนแล้วเสร็จ 25 คดี อยู่ระหว่างการสอบสวน 210 คดี มีผู้ต้องหารวม 573 คน จับได้ 213 คน หลบหนี 359 คน เสียชีวิต1คน(เสธ.แดง)

สอบสวนเสร็จแล้ว แบ่งเป็นคดีก่อการร้าย 21คดี สั่งฟ้องแล้ว19 คดี ไม่ฟ้อง 1 คดี งดสอบ 1 คดี และคดีเกี่ยวกับอาวุธยุทธภัณฑ์ 4 คดี สั่งฟ้องทั้ง 4 คดี

ผู้ต้องหาก่อการร้ายยังหลบหนี15 คน 1.พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร 2.พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ 3.,อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง 4.สุภรณ์ อัตถาวงศ์ 5.อดิศร เพียงเกษ 6.พายัพ ปั้นเกตุ 7.อารี ไกรนารา 8.ชินวัฒน์ หาบุญพาด 9.มงคล สารพัน 10.อร่าม แสงอรุณ 11.ว่าที่ร.ต.สุรภัศ จันทิมา 12.จักรชลัช คงสุวรรณ 13.อัครพล ขันทกาญจน์ 14.ศักดา แก้วผูกนาค 15.อรรณพ แซ่ตัน

รับโอนมาเป็นคดีพิเศษ 253 คดี แบ่งเป็น 1.คดีก่อการร้ายและเหตุร้ายต่างๆ 141 คดี 2.การข่มขู่บังคับรัฐ 21 คดี 3.ทำร้ายประชาชน 75 คดี และ4.อาวุธยุทธภัณฑ์ 16 คดี

ย้อนไป 1 ส.ค.53 ตำรวจแถลงเปิดตัว นางสาวปฏิภัค เอกอภิวัชร์(เป็ด) อายุ 41 ปีให้การโยงถึงผู้ต้องสงสัย ได้แก่ นายกิตติศักดิ์ สุ่มศรี(อ้วน) นายเสก(ไม่รู้ชื่อ/นามสกุลจริง) และนายธนเดช เอกอภิวัชร์(ไก่) น้องชายของนางสาวปฏิภัค ร่วมมือด้วย และพบเลขโทรศัพท์ของนายผัน(ไม่รู้นามสกุล) ซึ่งเชื่อว่าเป็นคนในเครื่องแบบ เกี่ยวข้องระเบิดที่หน้าบิ๊กซี ราชดำริ

ปาอึพรรคปชป.- ปาอึบ้าน"นายกฯอภิสิทธิ์"
20 ก.ค.53 สุรชัย เกิดดี 45 ปี อยู่ย่านวัดหลวง วงศ์สว่าง บางซื่อ ปาถุงอุจจาระตกใส่ฐานพระแม่ธรณีบีบมวยผม สัญลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นคนเดียวกับเมื่อ 2 มี.ค.53 ปาอุจาระใส่ประตูเข้าอาคาร ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมทย์ อ้างโกรธ ร้องเรียนถูกวิทยุสื่อสารตำรวจรบกวนต่อนายกฯ แต่ไม่ดำเนินการ

1 ก.พ.53 ประมาณ 13.00 น. คนปาถุงอุจจาระใส่บริเวณบ้านพักส่วนตัวนายกรัฐมนตรี ในซอยสุขุม 33 จำนวน 4 ถุง ตำรวจจับได้ชื่อ นายวิวิทวิน เตียวสวัสดิ์ อายุ 43 ปี อาชีพค้าของเก่าและวัตถุโบราณ อ้างไม่พอใจเคยร้องเรียน สน.ลาดพร้าว ให้ดำเนินคดีกับบ้านข้างๆ มั่วสุมสูบบุหรี่ ควันบุหรี่ทำให้ลูกสาว 2 คนไม่สบาย ศาลตัดสินจำคุก 10 วัน สารภาพลดโทษเป็นกักขังแทน 5 วัน

9 มีนาคม 53 คนปาอุจจาระใส่บ้านพักส่วนตัวนายกฯอีกครั้ง จับได้ชื่อ นายคำพอง ซามาตร์ อายุ 56 ปี นำขี้วัวถ่อมาจากนครพนม 2 ถุง ปาได้ถุงเดียว ตำรวจคุมตัวได้ก่อน อ้างว่าระบายแทนตำรวจที่ทำงานหนักเหนื่อย

กิจกรรมแนวร่วมเสื้อแดง
16 มี.ค.53 สมโภชน์ ประสาทไทย, ฉลอง แสงราษฎร์เมฆินทร์(ฉลอง น้อยแสง) และนางสาวปาราดา ฉิ่งอินทร์ นำจัดเวทีปราศรัยลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี คู่ขนานกับเวทีกรุงเทพฯ

17 มี.ค.53 ฉลอง น้อยแสง แกนนำนปช.หนองน้ำใส อ.สีคิ้ว นำ 25 คนไปสาดเลือดใส่รูปพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ที่หน้าบ้านแม่ทัพ และอนุวัฒน์ ทินราช และ สมโภชน์ ประสาทไทย ถูกวางตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย นครราชสีมา นำคนเสื้อแดงในนามภาคีเครือข่าย 23 กลุ่มโคราช มาชุมนุมกรุงเทพฯ ด้วย

20 เม.ย.53 นางซาบีน่า ซาห์ ประธานชมรมคนเสื้อแดง51 นายอุทัย คุ้มตะบุตร รองหน.กลุ่มมวลชนรักประชาธิปไตยขอนแก่น นำคน 500 คนนำท่อซีเมนต์และสิ่งกีดขวางสกัดขบวนรถไฟ ทหารกรมทหารราบที่ 8 ค่ายสีหราชเดโชชัย ต่อมา 21 พ.ค. ศาลออกหมายจับ เธอหนีหาย

25 เม.ย.53 กลุ่มนปช.แดงเชียงใหม่ นำโดย จ.ส.ต.พิชิต ตามูล เลขาธิการ นปช.แดงเชียงใหม่ คนเสื้อแดงร่วม 100 คนจัดขบวนรถจักรยานยนต์ รถยนต์ มาไล่พวกหลากสีที่ทำกิจกรรมแอโรบิก ที่สวนสุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อีกวัน 28 เม.ย.53 อภิชาติ อินสอน(ดีเจอ้วน) แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 นำคนกว่า 200 คนไปล้อมศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่

25 เม.ย.53 เสื้อแดงปทุมธานี 500 คน นำโดย นายกร ลำลูกกา ดีเจวิทยุชุมชนคนเสื้อแดงปทุมธานี เอฟเอ็ม 93.65 เมกกะเฮิร์ต ยึดรถเมล์ปิดถนนตั้งด่าน

25 เม.ย.53 เสื้อแดงอุบลฯ ประมาณ 3,000 คนรถยนต์กว่า 300 คันำไปราชธานีอโศก ต.บุ่งไหม อ.วารินชำราบ ประท้วง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เผาโลงไม้ และเผาเรือลากจูงโบราณ คุมตัวชาย 7 คนอ้างว่าเป็นการ์ดพันธมิตรฯ ไป มีนายพิเชษฐ์ ทาบุดดา เป็นแกนนำ

29 เม.ย.53 ประมาณ 21.00 น. ชุดเคลื่อนที่เร็ว สน.บางมด จับ โยธิน นันทา(เล่) อายุ 22 ปี ต.ห้วยขมิ้น อ.ด่านช้าง สุพรรณบุรี และนายบี(สมมติ) 17 ปี ค้นได้ระเบิดMK-2(น้อยหน่า) 2 ลูกซ่อนกระบอกไม้ไผ่ ปืนอัดลมแบบไลด์ 1 กระบอก จยย.ฮอนด้า คลิก ษกย 349 กทม. อ้างระเบิดซื้อมาและจะนำไปทิ้ง โยธิน เคยต้องโทษคดียาเสพติด

17 พ.ค.53 ด่านตรวจร่วมซอยพญานาค จับการ์ดนปช. 2 คน 1.ประสงค์ มณีอินทร์ 55 ปี อยู่แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว 2.โกวิทย์ แย้มประเสริฐ 55 ปี ต.บ้านใหม่ อ.เมืองปทุมธานี สกัดรถกระบะโตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ ปว 2816 กรุงเทพฯ ยึดของกลาง เช่น มีด ขวาน ระเบิดขวด ระเบิดปิงปอง ประทัดยักษ์ วิทยุสื่อสาร บัตรนปช. กล้อง ซองใส่เงินเขียนชื่อการ์ดชื่อจังหวัด ซองเงินอ้างจ่ายคนงาน แต่ปฏิเสธเรื่องอาวุธ

17 พ.ค.53 สน.พญาไท จับนายโชคอำนวย สุรการ 43 ปี พร้อมปืนปากกา วิทยุสื่อสาร กล้อง ผ้าพันคอ นปช. หมวกโม่ง ยอมรับเพิ่งออกคุก 2 เดือน อยากสมัครเป็นการ์ดนปช.



26 มิ.ย.53 สมบัติ บุญงามอนงค์(บก.ลายจุด) ถูกจับกุมตามหมายศาล ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถูกขัง 14 วัน ต่อมา 9 ก.ค.ศาลอาญามีคำสั่งไม่รับคำร้องให้ขยายเวลาควบคุมตัวต่อ อนุญาตให้ประกันตัว 3 หมื่นบาท

แนวร่วมสื่อแดง-แนวร่วมโจมตีสถาบัน
ตำรวจนำหมายจับศาลอาญาที่ 767/2553 (1เม.ย.53) ค้นอัสสกานต์คอนโด ซ.รามคำแหง 107 ถ.สุขาภิบาล 3 ลาดพร้าว จับนายธันย์ฐวุฒิ ทวีวโรดมกุล(หนุ่ม) 38 ปี ใช้นามแฝง“เร้ดอีเกิ้ล” เผยแพร่รายการลักษณะหมิ่นประมาทสถาบันกษัตริย์ ลงเว็บไซต์ norporchorusa และ norporchorusa2 และถ่ายทอดโทรทัศน์พีเพิลชาแนล คนจัดรายการคือ ชูพงษ์ ถี่ถ้วน หรือฉายา"ชูพงษ์เปลี่ยนระบอบ"

14 ม.ค.52 นายสุวิชา ท่าค้อ 34 ปี ถูกจับที่นครพนม รับสารภาพโพสต์ข้อความลงในอินเตอร์เน็ตหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ศาลตัดสินความผิด 2 กระทง จำคุก 20 ปี ลดโทษกึ่งหนึ่ง ไม่รอลงอาญา ต่อมา 28 มิ.ย. มีพระบรมราชโองการ พระราชทานอภัยโทษ ตามที่ทูลเกล้าถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ

29 เม.ย.53 จับกุม นายวิภาส รักสกุลไทย(ก้อง) นักธุรกิจระยอง ตามหมายจับศาลอาญา ความผิดฐานหมิ่นประมาทสถาบันเบื้องสูง และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยระหว่าง 19 มี.ค. ถึง 12 เม.ย.53 โพสต์ภาพและข้อความไม่เหมาะสมในเว็บเฟสบุ๊ค ศาลอนุญาตฝากขังครั้งแรก 12 วัน

6 พ.ค.53 น.ส.ปภัสชนัญญ์ ฉิ่งอินทร์ สถานีวิทยุชุมชนพลังแผ่นดิน(FM 104.50 MHz) นางวิภา วงศ์สินธร จัดรายการ "สบาย สบายกับคนเสื้อแดง" เข้าพบ พลตรี ศักดิ์ศิลป์ กลั่นเสนาะ รองแม่ทัพภาคที่ 2 และ พันเอก มารุต ลิ้มเจริญ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 2 ตามคำสั่งแม่ทัพภาคที่ 2 ห้ามจัดรายการปลุกระดม

23 พ.ค.53 ตำรวจถือหมายจับศาลอาญา ความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เข้าจับ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาฯ แนวร่วมนปช. และบรรณาธิการ Red News ที่บ้านพัก ศาลอนุญาตฝากขังรวม 2 ขัง 14 วัน แต่ครั้งที่สามศาลยกคำร้องขอฝากขัง

3 มิ.ย.53 ประสิทธิ วิชัยรัตน์(จอ ใจเดียว) 53 ปี อยู่ต.นากลาง อ.นากลาง หนองบัวลำภู และ จักรพงษ์ แสนคำ(ก้อง) 23 ปี ต.หนองหาน อ.หนองหาน อุดรธานี ดีเจวิทยุชมรมคนรักอุดร 97.50 เมกะเฮิรตซ์ เข้ามอบตัวตามหมายจับศาลแขวงอุดรธานี เป็นคนสนิท"ขวัญชัย ไพรพนา"

ผู้ต้องหา มือปฏิบัติการ
ตำรวจถือหมายค้นศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ 79/2553(วันที่ 22 ม.ค.53) ค้นบ้านนายพรวัฒน์ ทองธนบูรณ์ (เคทอง) พบกระสุนเอ็ม 16 ในซอง 9 นัด กระสุนขนาด 9 มม. 24นัด ซองกระสุน 9 มม. 1 อัน และต่อมาหนีหมายจับ ข้อเผยแพร่คลิปภาพเสียงข่มขู่ให้ประชาชนหวาดกลัว กระทั่งถูกจับคุมขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เป็นคนสนิท เสธ.แดง มีชื่อเป็นกรรมการบริหารพรรคขัตติยะธรรม ทำหน้าที่เป็นโฆษกพรรคด้วย
27 เม.ย.53 ตำรวจจับ นายชยุต ใหลเจริญ การ์ดนปช. เป็นคนขับรถยนต์นำชายหลายคนสวมชุดสีดำและสวมโม่งใช้อาวุธสงครามมาที่ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จากนั้นมีการซุ่มยิงทหารในวันที่ 10 เม.ย. โดยตามค้นอาวุธสงครามที่ถูกปล้นไป เช่น ปืน 62 กระบอก เช่น ปืนทราโว่ 25 กระบอก ปืนลูกซอง 27 กระบอก ปืนเอ็ม16 จำนวน 9 กระบอก
20 มี.ค.53 คนร้ายยิงจรวดอาร์พีจีใส่กระทรวงกลาโหม แต่พลาดพวกตัวเองบาดเจ็บ 2 คน ต่อมา ศาลมีหมายจับ ส.ต.ต.บัณฑิต สิทธิทุม อดีต ตชด.สระแก้ว อายุ 43 ปี และจับได้ 30 เม.ย.
22 เม.ย.53 จับ นายเมธี อมรวุฒิกุล ได้ของกลางปืนทราโว่ ของทหารที่แจ้งความถูกปล้นเมื่อ 10 เม.ย.กันไว้เป็นพยาน
29 เม.ย.53 ศาลพิพากษา จำเลย วรวุฒิ อุบลบาล อายุ 44 ปี โยธิน เรณูรัตน์ อายุ 24 ปี บุญเกิด ประสพโชค อายุ 37 ปี สมพงษ์ ทับเนียม อายุ 44 ปี บุญเหลือ โพธิตะ อายุ 60 ปี ประสาน กู้ฉินชัย อายุ 55 ปี จรัญ ต้นพรหม อายุ 49 ปี และ ณัฎฐพร ศิริพจนากุล อายุ 46 ปี ผู้ชุมนุม นปช. ที่เดินขบวนไปตลาดไท(28 เม.ย.) และปะทะกับเจ้าหน้าที่รัฐ บริเวณอนุสรณ์สถานแห่งชาติกองทัพอากาศดอนเมือง จำคุก 6 คน ๆ ละ 4 เดือน รับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง ส่วนนายจรัญให้ปรับเพิ่มอีก 500 บาทฐานพกพาอาวุธมีด ไม่รอลงอาญา ศาลอนุญาตประกันตัวคนละ 40,000 บาท
ศาลอนุญาตให้คุมตัวผู้ต้องหาก่อเหตุที่ อนุสรณ์สถานฯ อีก 7 คน 1.พนมรักษ์ ไพรศรี 2.จรรยงค์ แซ่ห่าน 3.สายันต์ เสียงหวาน 4.สุเทพ มุละศิวะ 5.ธงชัย เหรียญประยูร 6.สอน กลิ่นพิมาย และ 7.ชาตรี แสงโลกีย์
ระหว่างเกิดเหตุปะทะที่อนุสรณ์สถานฯ (28 เม.ย.) ตำรวจและทหารไล่จับชายขับขี่จักรยานยนต์มีพิรุธ ทิ้งรถหนีไป ค้นรถพบกล่องโฟมใส่กระสุนเอ็ม 79 จำนวน 63 นัด ถุงพลาสติกตกอยู่มีกระเป๋าเงินและบัตร จ.ส.ต.ปริญญา มณีโคตม์ และบัตรประชาชน นายไทยรัฐ ศรีสมัย อายุ 26 ปี ชาวสกลนคร และนายจุฑา พรหมพิทักษ์
29 เม.ย. พล.ต.ท.กฤษดา พันธุ์คงชื่น ผบช.ภ.1 และนายตำรวจระดับสูงไปค้นห้องพัก จ.ส.ต.ปริญญา มณีโคตม์ ที่บ้านพักตำรวจ สภ.คูคต เลขที่ 519/34 แขวงคลองถนน เขตสายไหม ในห้องพักพบปืนพก 2 กระบอก ในรถเก๋งมาสด้า สีแดง รุ่น 323 ทะเบียน กค 7163 สระบุรี(ปลอม) ถุงปุ๋ยในรถใส่ปืนเอ็ม 16 จำนวน 3 กระบอก ซองกระสุน 100 อัน ปืนเอ็ม 79 จำนวน 3 กระบอก ตัวปืนเอ็ม 79 กว่า 10 กระบอก ฯลฯ
3 มิ.ย.53 ศาลอนุมัติหมายจับ นายจรัญ ลอยพูล(ยักษ์ใหญ่) อายุ 39 ปี ส่วนสูง 190 ซ.ม. อยู่ต.งิ้วลาย อ.เมืองลพบุรี การ์ด นปช. และถูกควบคุมระหว่างรักษาตัวถูกยิงบาดเจ็บที่โรงพยาบาลตำรวจ
ตามที่โทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นเผยแพร่ชายชุดดำสะพายปืนอยู่ในเหตุการณ์ปะทะ ตำรวจสงสัยจะเป็นนาย ศรชัย ศรีดี การ์ดนปช. สูงประมาณ 180 ซ.ม. อายุประมาณ 35-40 ปี
ศรชัย ศรีดี เป็นใคร? ก็คือคนที่ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ จตุพร พรหมพันธุ์ พาไปมอบตัวกับ ผบช.น. ฐานตกเป็นผู้ต้องหาทำร้าย ส.อ.อำนวย ทองรินทร์ ปฏิบัติหน้าที่ดูแลการชุมนุม(เหตุเกิด 25 ก.พ.52) รวม 4 คน ได้แก่ นางนฤมล วรุณรุ่งโรจน์, กิตติศักดิ์ จีนขจร,ประจวบ บุญสันเทียะ และ ศรชัย ศรีดี เมื่อ 7 มี.ค.52 นั่นเอง
8 มิ.ย.53 ผบก.ภ.จว.เชียงราย ออกหมายเรียก 5 คน ได้แก่ 1.นายทรงธรรม คิดอ่าน ชาวต.เวียงกาหลง อ.เวียงป่าเป้า เชียงราย 2.นายอรรถกร กันทไชย ชาวต.ป่าก่อดำ อ.แม่ลาว เชียงราย 3.นายธนิต บุญญนสิรีเกษม ชาวต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก 4.นายวิทยา ตันติภูวนาท ชาวต.เวียง อ.เมืองเชียงราย 5.นางพิมพ์นารา หนองพาณิชย์ ชาวต.ในเวียง อ.เมืองน่าน
16 มิ.ย.53 ศาลจังหวัดพัทยา ชลบุรี ตัดสินจำคุก นางนิชนันท์ วังคะฮาต หรือน้ำ อายุ 41 ปี อยู่หมู่ 11 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา ชลบุรี และ นายชูกลิ่น พรมเขียว หรือติ่ง อายุ 51 ปี อยู่หมู่ 3 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา คนละ 2 ปี ปรับคนละ 40,000 บาท ให้การเป็นประโยชน์ลดโทษกึ่งหนึ่ง โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปีและคุมประพฤติ เป็นแกนนำปิดถนนและเผายางรถ
9 ก.ค.53 แถลงข่าวจับผู้ต้องหาเผาศาลากลางจังหวัดขอนแก่น และสถานีโทรทัศน์สทท.ขอนแก่น ได้อีก 2 คน 1.สุทัศน์ สิงห์บัวขาว 29 ปี ชาวตำบลสาวะถี อ.เมืองขอนแก่น นายสุทัศน์ถูกยิงตอนบุกบ้านนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ 2.อุดม คำมูล ชาวตำบลป่ามะนาว อ.บ้านฝาง ขอนแก่น ทั้งสองปฏิเสธข้อกล่าวหา
9 ก.ค.53 สน.วังทองหลาง แถลงจับ นายอธิวัฒน์ ยวงรัมย์(ต๋อง) 44 ปี หน้าบ้านเลขที่ 53/36 หมู่บ้านเอื้ออาทรบึงกุ่ม ซอยเสรีไทย43 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม ตามหมายศาล ตามภาพขึ้นเวทีปราศรัยใต้ทางด่วนลาดพร้าวกับพวก 5 คน
17 มิ.ย.53 ศาลอาญารับฟ้อง ตาม อัยการศาลแขวง6(ปทุมวัน) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายซาเวจ เจฟฟีย์ ฮักห์ สัญชาติอังกฤษ และนาย คอลแชล คอนเนอร์ เดวิด สัญชาติออสเตรเลีย จำเลยที่1-2 จำเลยปฎิเสธ ศาลนัดสืบพยานโจทก์ช่วง ส.ค.- ก.ย.
22 มิ.ย.53 ประมาณ 15.00 น. เกิดระเบิดใกล้พรรคภูมิใจไทย นายเอนก สิงขุนทด อายุ 26 ปี อยู่อ.ด่านขุนทด นครราชสีมา คนเข็นผลไม้บรรทุกถังแก๊สดัดแปลงบรรจุระเบิด บาดเจ็บสาหัส นำไปสู่การจับนายเดชพล พุทธจง กับ นายกำพล คำคง ผู้ต้องหาร่วมกันก่อเหตุวางระเบิด
26 มิ.ย. ตำรวจนำตัวนายเดชพล กับนายกำพล มาสอบปากคำและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ สรุปได้ว่า 18 พ.ค.รู้จักกับ "อ้อ"ที่ย่านคลองเตย ซึ่งเกิดปะทะกัน รู้ว่า"อ้าย"ขายเสื้อแดงอยู่ ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว และรู้จักกันวันเผาห้างเซนเตอร์วัน ย่านอนุสาวรีย์ชัย ระบุนายอ้ายอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ไปเจอกันที่ชลบุรี วางแผนระเบิด นายเดชพลชวนนายกำพล มาร่วม นายกำพลไปชวน นายอเนก สิงขุนทด การ์ดนปช.แหลมฉบัง มาร่วม
อ้อ วริศรียา บุญสม อายุ 42 ปี กับ อ้าย นายกอบชัย บุญปลอด อายุ 41 ปี หลังวางระเบิดพลาดเผ่นหนีเข้ากัมพูชาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ถูกออกหมายจับ กัมพูชาใจดีเรียกทางการไทยบินไปรับตัวที่เสียมราฐ
29 มิ.ย.53 ตำรวจ จับ ยงยุทธ ท้วมมี 55 ปี อยู่ซ.เพชรเกษม 28 แขวงคูหาสวรรค์ เขตภาษีเจริญ ตามหมายจับลงวันที่ 21พ.ค.53) เดินตามช่วยส่องไฟฉายให้ เสธ.แดงแจกลายเซ็น และเดินตามตรวจแนวรบราชประสงค์ ศาลอนุญาตฝากขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
15 ก.ค.53 ตำรวจชุดอรินทราช 26 บุกจับกุมนายสุรชัย เทวรัตน์(หรั่ง) 26 ปี อยู่เลขที่ 27 หมู่ 2 ต.ร่อนทอง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้ที่ห้องพักเลขที่ 17 โรงแรมม่านรูด ฟอร์ยูรีสอร์ท ต.ทะเลชุบศร อ.เมืองลพบุรี ตามหมายจับศาลอาญาลงวันที่ 19 พ.ค.53 ดีเอสไอ ตั้งข้อหาก่อการร้าย เกี่ยวข้อง 8 คดียิงอาวุธสงคราม
22 ก.ค.53 จับกุม สิบตรีรชต วงศ์ยอด(กบ) ผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย ศาลอนุญาตให้ฝากขัง คุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตามสอบสวนว่า หรั่ง-กบ สนิทนับเป็นคู่หูกัน ใกล้ชิด เสธ.แดง ยอมรับเป็นครูฝึกให้กลุ่มนักรบพระเจ้าตาก
--------------------
ข้างบนนี่ กรุงเทพธุรกิจสรุปคดีเกี่ยวกับนปช. ฮาร์ดคอร์ไว้
หลายรายถูกยกฟ้องเพราะหลักฐานอ่อน ซึ่งน่าสงสัยอย่างมาก เช่นบางคนถูกจับพร้อมอาวุธมากมาย แต่ทำสำนวนยังงัยให้นกฟ้องได้ เช่นคดีนี้ สรุปโดยผู้จัดการ
----------------------------
คดีนี้โจทก์ฟ้อง เมื่อวันที่ 28 ต.ค.53 ระบุพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า ระหว่างปลายเดือน เม.ย.-14 พ.ค.53 จำเลยกับพวกอีก 2 คนที่ยังหลบหนีร่วมกันกระทำผิดกฎหมายหลายกรรมโดยมีวัตถุระเบิดลักษณะเป็นขวด เครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อคาราบาวแดง, เอ็ม 150, กระทิงแดงบรรจุน้ำมันเบนซิน ผูกติดกับลูกพลาสติกสลับสีและดินดำ หุ้มด้วยเทปพันสายไฟ รวม 51 ขวด, ถังดับเพลิงยี่ห้อต่างๆ บรรจุปุ๋ยยูเรีย และฝักแคระเบิดสีขาว กับเชื้อปะทุสภาพใช้งานได้จำนวน 4 ถัง วงจรระเบิดทำด้วยโทรศัพท์มือถือ สวิตช์เปิด-ปิด แบตเตอรี่ ขนาด 9 โวลท์ 7 เครื่อง ซึ่งมีลักษณะเป็นระเบิดแสวงเครื่อง, เครื่องจุดระบิดแบบ M 60 จำนวน 3 เครื่อง มีใช้ในราชการทหาร-ตำรวจ ลูกระเบิดยิงขนาด 40 มม. แบบเอ็ม 79 ชนิดระเบิดลูกปราย 1 นัด กระสุนปืนขนาด .45 รวม 20 นัด และอื่นๆ เหตุเกิดที่แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. ต่อมาวันที่ 14 พ.ค.53 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดวัตถุระเบิด อาวุธปืน และเครื่องกระสุน รวมทั้งอุปกรณ์สำหรับประกอบวัตถุระเบิดหลายรายการเป็นของกลาง กระทั่งวันที่ 4 ส.ค.53 จำเลยเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน และให้การปฏิเสธ

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานนำสืบทั้งสองฝ่ายแล้วข้อเท็จจริงรับฟังได้ ว่า นายธนเดช หรือไก่ เอกอภิวัฒน์ ได้ครอบครองรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค ต่อมาวันที่ 14 พ.ค.53 เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นรถดังกล่าวที่จอดไว้พบอุปกรณ์ประกอบระเบิดและ เครื่องกระสุนปืนตามฟ้อง ซึ่งการสอบสวนทราบว่ารถยนต์ดังกล่าวเป็นรถที่มีผู้แจ้งหายไว้ที่ สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ โดยโจทก์ มีพี่สาวของนายธนเดช หรือไก่ เบิกความเป็นพยานว่า ช่วงที่เห็นรถจอดไว้ที่บ้านริมน้ำ เห็นจำเลย และนายกิตติศักดิ์ หรืออ้วน สุ่มศรี ที่ขับรถตู้วินเดียวกัน มารับน้องชายไปร่วมชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งบางครั้งจะมีการขับรถยนต์คันดังกล่าวออกไปบ้าง ถ้าไม่ขับรถตู้ โดยโจทก์ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าตรวจค้นรถยนต์ ร่วมเบิกความเป็นพยาน แต่ทางพิจารณาโจทก์ไม่ได้นำสืบให้เห็นว่าในการร่วมชุมนุมซึ่งเป็นสิทธิขึ้น พื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ จำเลยได้กระทำชุมนุมโดยไม่สงบหรือรุนแรง หรือใช้อาวุธอย่างไร ซึ่งการที่จำเลยจะขับรถไปรับนายธนเดช หรือไก่ ไปร่วมชุมนุมก็ถือเป็นปกติที่เป็นเพื่อนกันและมีอุดมการณ์เดียวกัน แต่โจทก์ไม่มีประจักษ์พยาน และไม่ได้นำสืบให้เห็นว่าจำเลยร่วมซุกซ่อนอุปกรณ์ประกอบระเบิดที่อยู่ในรถ ยนต์ฮอนด้าซีวิคแต่อย่างใด

ลำพังพยานซึ่งเป็นพี่สาวของนายธนเดช และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าตรวจค้น ยังไม่อาจนำมาอนุมานและสันนิษฐานในทางที่เป็นร้ายต่อจำเลยได้ว่ากระทำผิด ขณะที่ผลการตรวจรอยนิ้วมือแฝงและสารพันธุกรรมที่ได้จากรถยนต์ดังกล่าวก็ไม่ ตรงกับจำเลย จึงยังไม่เห็นความสัมพันธ์โยงพยานหลักฐานกับจำเลยพยานหลักฐานเท่าที่โจทก์นำ สืบมา ยังรับฟังไม่ได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง จึงพิพากษายกฟ้อง แต่ให้ริบของกลางทั้งหมด
--------------------
ดูของกลางสิครับ มันคงไม่งอกมาเปล่าๆ เพื่อให้ถูกจับแน่ๆ
วัตถุระเบิดลักษณะเป็นขวด เครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อคาราบาวแดง, เอ็ม 150, กระทิงแดงบรรจุน้ำมันเบนซิน ผูกติดกับลูกพลาสติกสลับสีและดินดำ หุ้มด้วยเทปพันสายไฟ รวม 51 ขวด, ถังดับเพลิงยี่ห้อต่างๆ บรรจุปุ๋ยยูเรีย และฝักแคระเบิดสีขาว กับเชื้อปะทุสภาพใช้งานได้จำนวน 4 ถัง วงจรระเบิดทำด้วยโทรศัพท์มือถือ สวิตช์เปิด-ปิด แบตเตอรี่ ขนาด 9 โวลท์ 7 เครื่อง ซึ่งมีลักษณะเป็นระเบิดแสวงเครื่อง, เครื่องจุดระบิดแบบ M 60 จำนวน 3 เครื่อง มีใช้ในราชการทหาร-ตำรวจ ลูกระเบิดยิงขนาด 40 มม. แบบเอ็ม 79 ชนิดระเบิดลูกปราย 1 นัด กระสุนปืนขนาด .45 รวม 20 นัด และอื่นๆ เหตุเกิดที่แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

สนับสนุนการตอกย้ำกระทู้"ค้นความจริง"แบบนี้ครับ
ตอกย้ำให้ถี่ ขุดให้ลึก ดึงหลักฐานมาแบกันจะจะเลย เยี่ยมมากๆ


ทั้งคลิป ทั้งภาพถ่าย ทั้งคำพูดของเสื้อแดงในเหตุการณ์ ทั้งข้อเขียนจากสื่่อต่างๆ ไปในทิศทางเดียวกันชัดเจนขนาดนี้
ว่าชายชุดดำมีจริง และชายชุดดำก็เป็นพวกเดียวกับเสื้อแดงนั่นแหละ
แล้วพวกดีเอสไอตั้งแต่หัวหน้ายันลูกน้อง กล้าพูดได้ยังไงว่าไม่มีชายชุดดำ
ผมขอเน้นตรง "กล้า" คือมันพูดจาหักหลักฐานทิ้งลงท่อหมดนี่...ไปได้อยู่แล้ว แต่ "กล้า" พูดได้ไง ในเมื่อหลักฐานทนโท่อยู่อย่างนั้น
ยิ่งยุคสมัยนี้เป็นโลกไซเบอร์ ข้อมูลข่าวสารมันค้นได้หมด และดำรงอยู่นานด้วย
ดีเอสไอกล้าประกาศกับสาธารณะได้ไงว่าชายชุดดำไม่มี????!!!!!

Edited by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 04:09.

[pooyong]

สื่อต่างๆ ก็รายงานชัดเจน แต่ควายแดงทำเป็นมองไม่เห็น

[นารายณ์สังหาร]

ถ้าถามความเห็นผมเรื่อง M-79 ที่ผลิตเองนั้น โดยส่วนตัวผมมองว่า น่าจะใช้สำหรับการ์ดทั่วไป ที่อยากโชว์พาว ยิงอาวุธหนักมากกว่าครับ (เพราะในหลายครั้ง มันก็ยิงแบบไร้ความแม่นยำ)

ซึ่งน่าจะเป็นคนละส่วนกับที่พวกชุดดำใช้

เนื่องจากการผลิตอาวุธในระดับของมาตรฐานในระดับกองทัพนั้น ยากที่ชาวบ้านทั่วไปจะทำได้ครับ และมันจะมีผลมากในเรื่องของความแม่นยำ และความทนทานของเครื่องยิงชนิดนั้นๆ นอกเสียจากว่า ชาวบ้านที่ผลิต จะมีต้นแบบและวัตถุดิบ เกรดเดียวกับที่ผู้ผลิตหลักมี ...

[กีรเต้]

เอามาฝากครับ อาจจะคนละเรื่องกัน ข่าววันนี้

จับอาวุธปืนเถื่อนพร้อมด้วยเครื่องกระสุนหลายรายการ

พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รองผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบก.น.2 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผบก.น.2 พ.ต.อ.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผกก.สน.คันนายาว เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์ระเบิด(อีโอดี) เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.น.2 และสน.คันนายาว เข้าตรวจสอบห้องเลขที่ 189/1 อาคาร39 แฟลตเอื้ออาทรปัญญาอินทรา ถ.ปัญญาอินทรา แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม.หลังสืบทราบว่าห้องดังกล่าวซุกอาวุธสงคราม ที่เกิดเหตุภายในห้องดังกล่าวซึ่งอยู่ชั้น 1 ของอาคาร โดยปิดห้องล็อกไว้ไม่มีผู้อยู่อาศัย เจ้าหน้าที่พบกล่องพลาสติกขนาดใหญ่ กล่องกระดาษ กล่องเล็ก กระเป๋าเป้ขนาดใหญ่ และกระสอบถุงปุ๋ยวางอยู่ระเบียงหลังห้อง และตามมุมของห้องจำนวนมาก ตรวจสอบพบบรรจุชิ้นส่วนอุปกรณ์อาวุธปืนสงครามขนาดเอ็ม16 และอาก้า รวมทั้งชนิดอื่นๆ เป็นลำกล้องปืน ไกปืน ฯลฯอยู่ในกระสอบถุงปุ๋ย ส่วนกล่องพลาสติกบรรจุแมคกาซีนปืนเอ็ม16กับอาก้าประมาณ 100 อัน ในกล่องกระดาษและกล่องเหล็กพบเครื่องกระสุนปืนเอ็ม16 และอาก้าประมาณ 1 หมื่นนัด ลูกระเบิดขว้างMK2 หรือระเบิดน้อยหน่า 5 ลูก หัวลูกระเบิดปืนคอที่เปิดใช้งานแล้ว 1 หัว ชุดจุดชนวนระเบิดพร้อมฝักแค 3 ชุด เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

พล.ต.ต.ปริญญา เปิดเผยว่า เมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมาประธานชุมชนเอื้ออาทรดังกล่าวได้พบข้าวของในห้อง ดังกล่าวซึ่งผิดสังเกต เมื่อมองจากด้านหลังห้องจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาวมาตรวจสอบ โดยเจ้าหน้าที่สายตรวจของสน.คันนายาวมาพบว่าเป็นวัตถุอันตรายต้องสงสัย จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่หน่วยอีโอดี และเจ้าหน้าที่ พฐ.มาร่วมตรวจสอบ เมื่อมาตรวจก็พบชิ้นส่วนอาวุธสงคราม และเครื่องกระสุนจำนวนมาก รวมทั้งระเบิดขว้างและชุดจุดชนวนระเบิด โดยห้องดังกล่าวไม่มีคนอยู่อาศัย ห้องมีลักษณะฝุ่นเกาะเกรอะกรัง แต่ลูกกรงด้านหลังมีลักษณะถูกงัด สามารถเข้าออกจากทางด้านหลังห้องได้

พล.ต.ต.ปริญญา กล่าวอีกว่า ห้องดังกล่าวมีเจ้าของที่ซื้อไว้นานแล้ว ทราบว่าเป็นอดีตข้าราชการที่เกษียณไปแล้ว ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการ เมื่อซื้อห้องนี้ก็ปล่อยให้เช่า โดยเจ้าแรกที่เช่าเป็นผู้หญิงทำงานเป็นแม่บ้านของธนาคารแห่งหนึ่ง และได้ย้ายออกไปเมื่อปี 2552 จากนั้นได้มีผู้หญิงมาเช่าอยู่ต่อทำงานเป็นแคดดี้ที่สนามกอล์ฟปัญญาอินทรา ก่อนจะย้ายออกไปเมื่อช่วงน้ำท่วมปลายปี 2554 แล้วก็ปล่อยทิ้งร้างไว้ไม่มีคนมาเช่าต่อ

"เครื่องกระสุนอาวุธสงคราม เหล่านี้น่าจะมีคนมาซุกซ่อนไว้ และของจำนวนมากมีน้ำหนักเยอะทำคนเดียวหรือขนย้ายคนเดียวไม่ได้ ส่วนคนที่เช่าแล้วย้ายออกไปคนล่าสุดจะรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องหรือไม่นั้นเจ้า หน้าที่กำลังตรวจสอบ โดยจะตรวจสอบทั้งหมดตั้งแต่เจ้าของห้อง เจ้าของโครงการ รวมทั้งคนมาเช่า นอกจากนี้ยังให้ พฐ.นำของเหล่านี้ไปตรวจหาลายนิ้วมือแฝง รวมทั้งตรวจลานิ้วมือแฝงในห้องด้วยเพื่อนำตัวคนกระทำผิดมาดำเนินคดีข้อหา ครอบครองอาวุธสงคราม ส่วนอาวุธสงครามและเครื่องกระสุนเชื่อว่าน่าจะเป็นของหน่วยงานราชการ ยังไม่ทราบว่าเป็นของทหารหรือตำรวจ ของเหล่านี้ต้องถูกขนออกมาแล้วมาซุกซ่อนไว้" รองผบช.น.กล่าว

รอง ผบช.น. กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกันก็เป็นไปได้ว่ามีคนรู้ว่าห้องดังกล่าวไม่มีคนอยู่ จึงได้งัดเหล็กดัดเข้าทางด้านหลังนำของดังกล่าวมาซุกซ่อนไว้ก็เป็นได้ ซึ่งจะมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมถึงผู้เกี่ยวข้องกับห้องนี้ทั้งหมดมาสอบ


ลิ้งค์ ครับ

http://breakingnews.nationchannel.com/home/read.php?newsid=653405

[หนูน้อยอาเลย์นา]

มาตามครับ

[hidden dragon]

[hidden dragon]

[hidden dragon]

[hidden dragon]

[hidden dragon]

[hidden dragon]

[peefanta]

ลงชื่อติดตามด้วยคนครับ