“ คำว่าชายชุดดำไม่ใช่ว่าต้องใส่ชุดดำ พอไม่ใส่ชุดดำแล้วบอกว่าไม่ใช่ มันก็คงไม่ใช่นะ จะชุดอะไรก็ได้ แต่วันนั้นพูดกันว่าชุดดำ เพราะแต่งชุดดำวันนั้น วันที่เกิดเรื่องวันแรก (10 เม.ย.) หลังจากนั้น มันก็ไม่ได้แต่ง แต่จะถามว่าแล้วมีรูปที่มันยิงหรือไม่ ใครจะไปถ่ายรูปมันได้ ก็ต้องรอรูปจากสื่อมวลชน ทหารออกไปในตอนนั้นไม่คิดว่าจะมีคนใจร้ายแบบนี้ออกมาเท่านั้นเอง และเมื่อเขาใจร้ายใส่เรา เราก็ยังไม่ได้ตอบโต้ ผมถามว่าลูกน้องที่นอนเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลว่าเห็นคนยิงเขาหรือไม่ คนที่ท้องทะลุ ที่เป็นผู้บังคับกองพัน นายสิบ และ ยังมีพิการอีกหลายคน ซึ่งเขาบอกว่าเขาก็เห็น แต่พวกนั้นอยู่ข้างหลังประชาชน ซึ่งผมก็ไม่ได้โทษว่าเป็นพวกใคร ผมก็ถามว่าทำไมไม่ยิงสู้ ยิงไม่ได้เหรอ เขาก็บอกว่ายิงไม่ได้ เพราะถ้ายิงก็จะโดนประชาชนที่ขวางหน้าอยู่ ผมก็ถามว่าผู้ที่อยู่ข้างหน้าเป็นใคร เขาก็บอกว่าเป็นประชาชนที่มาประท้วง มาเดินขบวนทั้งหมด เขาก็เป็นคนไทยเหมือนกันซึ่งทำร้ายเขาไม่ได้ ผมฟังแล้วผมก็สะอึก นั่นคือลูกน้องผม และยังมีที่เจ็บและตาย ก็ว่ากันไป”ผบ.ทบ.ระบุ
ชายชุดดำโกหกกันไม่ได้
พล.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ทุกอย่างต้องว่าไปตามกระบวนการยุติธรรมที่ถูกต้อง จึงไม่มีประโยชน์ที่จะพูดว่าชุดดำ หรือ ชุดไม่ดำ ถ้าพูดกันตามหน้าหนังสือพิมพ์ ไม่น่าจะจบ อยากให้ลดกันไปสักข้างหนึ่ง ซึ่งตนก็ลดลงไปข้างหนึ่งแล้ว ซึ่งท่านต้องเห็นใจตน เพราะลูกน้องบาดเจ็บล้มตาย ลูกเมียเดือดร้อน เขาร้องมาให้กองทัพบกปกป้อง เกียรติยศ และศักดิ์ศรีของเขา ที่ไปหาว่าเขาไปยิงประชาชน ซึ่งเขาไม่ได้ยิง เขาบอกกับตนอย่างนี้
ผบ.ทบ.ระบุว่าได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ และ ใช้กระบวนการยุติธรรมในการชี้แจง หากผิดก็ต้องรับผิด ถ้าหากไม่ผิดจะให้เขารับผิดมันก็ไม่ใช่ คนเราย่อมรู้ตัวเองดีว่าใครทำอะไร อย่างไร ก็ไปหากัน มันโกหกกันไม่ได้ตลอดไปหรอก
ไอ้พวกแกล้งโง่ ชอบถามกันจัง ตอนสลายการชุมนุมไม่เห็นมี่ชายชุดดำ..
มาไล่มาด่า มาทำร้ายเค้าแท้ ๆ ....แต่เค้าไม่กล้ายิง เพียงเค้าไม่มีใจอำมหิตพอจะยิง
มีแต่ไอ้พวกชาติชั่วเท่านั้นแหละที่กล้ายิงคนที่มาสนับสนุนตัวเอง
Edited by 55555, 13 October 2012 - 07:53.