Jump to content


Photo
- - - - -

ถ้าเราให้ คนไทยที่ไม่มีการศึกษา หรือ ด้อยการศึกษา มีสิทธิเลือกตั้ง ชาติจะล่มจมแน่นอนครับ......


  • Please log in to reply
115 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 excell_13

excell_13

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 168 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 02:27

..........คุณภาพของประชาธิปไตย = คุณภาพของประชากร.............

คิดง่ายๆนะครับ........... ถ้าคนไทยส่วนใหญ่ฉลาด.........

ประเทศเราจะไม่เป็นอย่างนี้นะครับ..... เราจะเหมือนประเทศญี่ปุ่น ปรับตัวเป็นผู้นำโลกได้ใน 2 Gen
.................................................. เราจะเป็นเหมือนอิสราเอล ที่ทำทะเลทราย ให้เป็น Oasis
.................................................... เราจะเป็นเหมือน ฝรั่งเศษ ส่งออกวัฒนธรรมการใช้ชีวิต
.....................เราจะเหมือนเกาหลีใต้ ที่สามารถพลิกบทบาทเป็นเจ้าตลาด IT แซงญี่ปุ่นในเวลาไม่ถึงสิบปี..............

....................................... "ปัญหาคือ คนไทยส่วนใหญ่โง่ครับ" ........
"แถมไม่ยอมรับด้วยว่าตัวเองโง่"
"แถมมีสิทธิเลือกตั้ง เอาคนประเภทเดียวกันเข้าสภา"
" ดูหน้า ส.ส. แต่ละคนสิครับลักษณะ มันใช้ได้ที่ไหน เฉลิม การุณ สุรพงษ์ "


ทางรอดของชาติทางเดียวคือ "การให้สิทธิการเลือกตั้ง กับคนที่มีวุฒิภาวะ+การศึกษา.....เท่านั้น!"
จึงจะพัฒนาประชาธิปไตยของชาติไทยได้อย่างยั่งยืน และ ถาวร

Edited by excell_13, 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 02:29.


#2 อู๋ ฮานามิ

อู๋ ฮานามิ

    สมาชิกหน้าเก่า

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,018 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 02:42

ผมนึกถึงกระทู้บอร์ดเก่าขึ้นมาทันที

จรัสพงษ์ สุรัสวดี :: บทสัมภาษณ์ซูโม่ตู้ทอลค์โชว์
http://forum.seritha...109e380596777c0

ผมเห็นด้วยในเรื่องของ "คุณภาพของ ส.ส. สะท้อนคุณภาพประชาชนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง"
แต่ ผมขอคิดต่างนิดนึง.....

ผู้ที่จบมาสูง ยังรับใช้การเมืองขี้โกงก็มี
เรียนดี จบมหาวิทยาลัยดังซะเปล่า แต่โลภ อ้างหลักการเพื่อหากินเข้ากระเป๋า

Edited by อู๋ ฮานามิ, 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 02:44.

ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด

 

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ


#3 ก๊องส์ไข่กวน

ก๊องส์ไข่กวน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,012 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 07:06

สงสัยเรื่องนี้จะยาว

#4 หนูน้อยอาเลย์นา

หนูน้อยอาเลย์นา

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 991 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 07:16

ผมเคยเจอแท็กซี่คนนึง เป็นคนนครฯ เขาบอกเขาไม่ค่อยไปเลือกตั้งหรอก แถมไม่ให้ความสำคัญด้วย

ถามว่าทำไม เขาบอก ถ้าจะให้มีการเลือกตั้ง ต้องให้คนในชาติมีการศึกษาอย่างมีคุณภาพเท่าเทียมกันซะก่อน

คาราวะเลย กับความคิดแท็กซี่ปักษ์ใต้คนนี้ B)

หนูน้อยอาเลย์นา น่ารักจุงเบ


#5 เทพเปโตร

เทพเปโตร

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 118 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 07:19

เป็นได้แค่ ถ้า ครับ ชีวิตจริงของการเมือง คือ ใครมีเสียงมากกว่า ก็ชนะ ซึ่งนักการเมืองที่เข้าถึงคนยากจน หรือ คนรากหญ้ามากกว่า ก็มักได้เปรียบ ที่อเมริกา กลุ่มคนที่เลือกโอบามา คือ คนรากหญ้า คนเชื้อสายเม็กซิกัน คนเปอโตริโก ....คนผิวสี ซึ่งโดยปกติ คนโง่ย่อมมีมากกว่าคนฉลาด และคนจน หรือคนกลางย่อมมีมากกว่า คนรวย ซึ่งเหมือนปิรามิด ดังนั้น ผมว่า ประชาธิปัตย์ต้องหาทางเข้าให้ถึงคนกลุ่มนี้ จะดีกว่าไหมครับ ...

#6 mee-sua-man

mee-sua-man

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,218 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 07:51

ขอโทษผมยังเข้าใจทุกคนมีสิทธิเ้ท่าเทียมกันด้วยการเลือกตั้ง การริดรอนสิทธิไม่ควรเพียงเพราะเขาไม่เข้าใจในสิทธิที่มีของเขา ทำไมชาวอินเดียจึงเข้าใจพื้นฐานประชาธิปไตยมากกว่าบ้านเราทั้งที่ฐานะและการศึกษาประชากรส่วนใหญ่จะด้อยกว่าเรา ทำไมชาวเมียนมาร์ถึงเข้าใจในสิทธิของเขามากกว่าเรา ผมขอคิดเองว่าประชากรเราคงคิดแบบคนฟิลลิปปินส์ละ สมัยก่อนอีสานเป็นแผ่นดินที่มีการต่อสู้่มากสุด และมุมานะเข้าถึงการศึกษาเพื่อสิทธิของเขาที่พึงจะมี สะท้อนออกมาทางนวนิยายในยุคนั้น เช่นของ ศรีบูรพา ขณะที่ปัจจุบันนักศึกษาของเราที่ถูกทำลายขบวนการไปตั้งแต่ช่วงปี 2525 ก็ไปหลุดอยู่ที่ความสะดวกสบายในแนวสมัยนิยม

#7 พันไมล์

พันไมล์

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,261 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 08:30

คิดได้ แต่เป็นไปไม่ได้

ก็คนกลุ่มนี้ ที่เป็นฐานเสียงของพรรคการเมืองบางพรรค

หากินกับศพ หากินกับความลำบากยากจน และด้อยโอกาส

"When injustice becomes law, resistance becomes duty." - Thomas Jefferson

"เมื่อผู้รักษากฎหมายอยู่ฝ่ายเดียวกับโจร การประจานจึงกลายเป็นภารกิจ" - Me.haha.gif


#8 MMMP

MMMP

    ราชาโพย

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,874 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 08:40

ไอ้เรื่องจำกัดสิทธินี้ มันไม่ใช่ประชาธิไตยครับ
อย่างที่ผมเคยบ่นๆตั้งแต่ปีที่แล้ว ว่าวิธีแก้มันควรแก้วิธีการหาเสียง
ใช้วิธีการเลือกแบบ สว คือห้ามผู้เลือกตั้งหาเสียง
การหาเสียงแบบโชว์นโยบายทำได้เฉพาะหัวหน้าพรรค และในการหาเสียงใหญ่เท่านั้น
ห้ามติดประกาศว่าจะทำนั้นนี้นู้น แต่ให้ติดว่าผู้สมัครเคยทำงานอะไรมาบ้าง
มีเกียรติคุณอะไรที่น่าสนใจจะเข้ามานั่งบริหารบ้านเมือง ไม่ใช่เอาตาสีตาสา ใส่สูทแดง เดินเข้าสภา ทั้งที่ผลงานอะไรก็ไม่มี
แม้แต่ตลกยังได้เป็น สส ดารา ยังเป็น สส คนพวกนี้เคยทำอะไรให้ประเทศ ถึงขนาดที่ต้องเลือกเหรอครับ
เมื่อเจอวิธีการหาเสียงแบบนี้ ผู้ที่การศึกษาต่ำ ก็ต้องดิ้นรนในการอ่านมากขึ้น ไม่ใช่แค่เอาตัวหนังสือไม่กี่ตัว สั้นๆมาติดตามเสาไฟฟ้า ป้ายรถเมลล์
แล้วมีดอกจันเยอะๆ แบบที่ผ่านๆมา
นักการเมืองยื่นปลา พระราชายื่นเบ็ด นักการเมืองแจกแท็บเบล็ต กษัตริย์แนะเคล็ดวิชานักการเมืองห่วงอำนาจ มหาราชห่วงประชา นักการเมืองสร้างสัญญา องค์เจ้าฟ้าสร้างสรรค์ธรรมนักการเมืองหาเรื่องกิน องค์ภูมินทร์หาเรื่องทำ นักการเมืองยุให้รำฯ ในหลวงย้ำให้ทำดี

#9 นายตัวเกร็ง

นายตัวเกร็ง

    Monkey Godfather Lv.3

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,901 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 08:41

การศึกษาไม่ได้การันตีว่าคนมันจะดีครับ
แล้วก็ไม่มีหลักประกันว่าจะไม่โดนหลอก
คนเลวๆก็จบด็อกเตอร์เยอะแยะ...
อย่าพยายามใช้ทัศนคตินี้เอามาตัดสินครับ
เพราะนี่คือทัศนคติที่นักวิชาการแดงเอามาโจมตี
ปลุกระดมคนรากหญ้าเพราะวาทกรรมแบบนี้
ทุกคะแนนเสียงมันจะดีถ้าทุกคนเห็นแก่ชาติมากกว่าตัวเอง

เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<


#10 butadad

butadad

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,119 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 08:51

สมมติว่า เขต ก มีผู้มีสิทธิ์ 100 คน
ออกมาเลือกตั้ง 51 คน
เลือกพรรค A 31 คน
เลือกพรรค B 20 คน
พรรค B ได้เป็น สส คุณว่ามันมาจากเสียงส่วนใหญ่หรือไม่

ถ้าไม่แก้ปัญหา ไม่เข้าใจ ข้อบกพร่องนี้ ก็อยู่กันไปแบบนี้แหละครับ

#11 10APR10

10APR10

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 681 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 09:07

ถ้าทำอย่างที่ว่าแล้วเลือกตั้งออกมายังไม่ดีอีกทำไง...?

คนจบปริญญาเอกก็จะบอกอย่าให้คนจบปริญญาตรีมีสิทธิ์เลือกตั้ง




เพราะมันโง่ :lol: :lol: :lol:




* เกิดมาจนเรียนน้อยอยากได้อยากมี ไม่ผิดดอก......

#12 sanskrit_shower

sanskrit_shower

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,741 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 09:11

โชคดีที่อาทิตย์นี้เฮนไตไม่อยู่ ไม่งั้นกรุว่า งานนี้ยาว

#13 Charlie

Charlie

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,449 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 09:40

คนไม่มีความรู้แต่คิดดี ผมก็สนับสนุนครับ พยายามให้ความรู้คนที่ไม่รู้เพื่อให้เค้าเข้าใจสาระของหน้าที่และการมีส่วนร่วมที่ถูกต้องจะดีกว่า การแบ่งปันเป็นสิ่งดีครับ

คนดีจริงไม่โกงที่วัด ไม่ยุแยงให้คนแตกแยก ไม่หลอกคนอื่นให้มารับเคราะห์ตายแทน


#14 BearFamily

BearFamily

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 849 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 09:50

ถ้าทำอย่างที่ว่าแล้วเลือกตั้งออกมายังไม่ดีอีกทำไง...?

คนจบปริญญาเอกก็จะบอกอย่าให้คนจบปริญญาตรีมีสิทธิ์เลือกตั้ง




เพราะมันโง่ :lol: :lol: :lol:




* เกิดมาจนเรียนน้อยอยากได้อยากมี ไม่ผิดดอก......

ไม่ผิดครับถ้าไม่ทำอะไรที่ผิด กม. หรือเกินตัวเกินพอดี
เช่น ขายเสียง เห็นได้ง่ายๆ เลยครับ เงินง่าย
ขายยา ส่วนใหญ่ก็คนจนเรียนน้อย อยากได้อยากมี
ขายตัว ก็แบบเดียวกัน
ส่วนเรื่องเกินพอดีนั้นก็อย่างเช่น เกษตรกร บางกลุ่มที่ทุ่มหมดตัว เพราะหวังกำไร
สุดท้ายฝนตกน้อย หรือน้ำท่วม ขาดทุน หรือของล้นตลาดเพราะโลภมากเห็นว่าราคาดีเลยผลิตมากไป
ก็ไปบังคับให้รัฐช่วย ผมขอใช้คำว่าบังคับ เพราะพี่แกขู่จะปิดถนนอย่างเดียว เอาเวลาที่มานั่งประท้วงไปทำมาหากินดีกว่า
นั่นแหละครับ ปัญหาของคนไทยส่วนใหญ่คือการขาดการศึกษา ทั้งด้านความรู้และด้านจริยธรรม
ถ้ามีการเสริมสร้างความรู้และความเป็นคนให้มากกว่านี้ก็จะลดปัญหาเหล่านี้ได้

แต่คงยากสำหรับประเทศไทยที่จะทำอะไรแบบนี้หากการเมืองยังเป็นเพียงแค่เกมของนักการเมืองทั้งหลาย
ถ้านักการเมืองไทยตั้งใจทำเพื่อปรัเทศจริงโดยไม่หวังผลประโยชน์ส่วนตัวหรือพวกพ้อง ป่านนี้ประเทศไทยเจริญไปไหนต่อไหนแล้วครับ

#15 beta

beta

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 460 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 09:53

บางทีเขาก็ไม่ได้อยากโง่นะ ต้องไปศึกษาว่าสมัยก่อน ประเทศเราทำกันยังไง กับคนชั้นล่างบ้าง
ถ้าไปสัมผัสจริงๆ เขาไม่ได้โง่นะครับ บางเรื่องเขาเก่งกว่าคุณด้วยซ้ำ แค่เก่งกันคนละด้าน
บางที เขาก็รู้ทั้งรู้ว่าโดนหลอกครับ ไม่ได้โง่ แต่โดนหลอกแล้วมีตังค์ใช้อ่ะ ใครไม่อยากโดนบ้าง

ผมว่า ประเทศไทย คงไม่สามารถออกจากวังวนนี้ไปอีกนาน ตราบใดที่คนจนยังมีมากที่สุดในประเทศ และ พท. ให้เงินเขาใช้

คงต้องรอให้เจ็บเจียนตาย เจ๊งกันก่อน ถึงจะ จำ

กลัวอย่างเดียว มันถลุงไปจะเจ๊ง แล้วเปลี่ยนรัฐบาล ซึ่ง พรรคเก่าแก่ก็จะไปช่วยฟื้นฟู จนพอมีเงินให้มันกลับถลุงอีก

ช่วยเจ็บแล้วจำ ด้วยนะครับ

#16 สุกี้น้อย

สุกี้น้อย

    หล่อสุดในเสรีไทย 55

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,636 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 09:53

ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง....ผมคงไม่มีสิทธิ์เลือกตั้ง....ผมจบแค่ ป.ตรีแต่ยังไม่มีวุฒิภาวะ :P

ว่าแต่ว่า วุฒิภาวะนี่เขาดูกันอย่างไรว่ามีหรือไม่มี มีเกณฑ์อะไรตัดสิน

ไม่ชอบใจที่จขกท.ดูถูกคนชาติเดียวกันว่าโง่.....คุณกล่าวหาว่าคนไทยส่วนใหญ่โง่ คุณลองบอกซิว่าแล้วจะทำอย่างไรให้เขาฉลาดได้อย่างใจคุณ

คนโง่กันคนฉลาดนี่เอาอะไรเป็นเส้นแบ่งครับ เอาอะไรเป็นเกณฑ์ :(

#17 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 09:54

:) มันก็ไม่ง่ายอย่างนั้นนะ ถ้าเอาระดับการศึกษาแบบไทยๆมาเป็นเกณฑ์นะครับ อย่าลืมว่าปัญหาทุกวันนี้ส่วนหนึ่งมาจากระบบการศึกษาแบบไทยๆด้วย คนรวยเข้าเรียนในที่ๆคนรวยด้วยกันเรียน จนกลายเป็นค่านิยมว่า รร. นี้ดีเพราะคนรวยเรียนเยอะ รร. นี้ดังเพราะมาตรฐานดีแล้วต่อมาคนรวยก็ใช้อภิสิทธิ์เข้าไปเรียนกันจนเป็นค่านิยมไปอีกแบบก็เยอะ ถ้ายกตัวอย่างญี่ปุ่นที่อ้างถึงมา ทำยังไงให้เกษตรกรบ้านเรามีค่านิยมอุดมการณ์แบบเกษตรกรของเค้า...ตรงนี้ผมว่าน่าเข้าไปศึกษาดูมากกว่านะ...เค้าทำยังไง...

เมื่อก่อนเราดูแค่ละคร, หนังญี่ปุ่นเราจะเห็นนะครับ คนบ้านเค้าเข้ามหาวิทยาลัยกันได้แค่บางส่วนเพราะจำนวนจำกัด พอโตมาได้ลองศึกษาดูข้อมูลจริงๆ เค้าให้ความสำคัญกับ "อาชีวะ" มากกว่า อาชีวะสร้างชาติของเค้า ไม่ได้มีแค่คำสวยหรูอย่างที่บ้านเราเอาเค้ามาใช้...แต่วลี...ก็เหมือน ปชต. บ้านเรานั่นแหละที่มันมีแค่ชื่อ จริงๆแล้วแปลว่าอะไร คนทั้งแผ่นดินยังตาบอดคลำช้างกันอยู่เลย...
:) Sometime...Sun shine through the rain...

#18 plunk

plunk

    สลิปงินเดือนอยู่ไหนอ่ะ ไอ้คางครูด?

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,862 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 09:56

ก็ดีนะครับ ให้คนที่มีความคิด เค้าตัดสินใจ อีกอันก็คือ เสียภาษี มีสิทธิเลือก
ทำได้ทันที ไม่ต้องกู้ พรรคไหนเห่าไว้ตอนหาเสียงวะ?และกระทู้ในตำนานของ คนขี้โกหก http://webboard.seri...้สลิปเงินเดือน/

#19 ขาวหรือดำ

ขาวหรือดำ

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 153 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 10:12

เห็นด้วยกับ เจ้าของกระทู้ครับ อยากเสนอแนวคิดนิดหน่อยเผื่อว่าจะมีใครเอาไปคิดบ้าง
1.ควรมี ส.ส.ที่เป็นตัวแทนของกลุ่มวิชาชีพด้วย เหตุผลคือ วิชาชีพใดไม่มีอยู่ในสภาก็จะเสียเปรียบวิชาชีพที่มีตัวแทนอยู่
2.ทำอย่างไรให้มีองค์กรภาคประชาชนที่เข้มแข็ง และมีแหล่งเงินทุนสนับสนุน โดยรัฐต้องสนับสนุนด้วย
3.ทำอย่างไรให้มีคนดี มีคุณธรรม มาเป็น ส.ส. ให้มากๆ ถ้าจะให้แข่งกับนักเลือกตั้งแบบที่เป็นอยู่คงเป็นไปไม่ได้เลย นักเลือกตั้ง มีเงิน มีหัวคะแนน มีนโยบายหลอกกิน มีอิทธิพล คนดีที่ไหนจะผ่านด่านพวกนี้ได้

#20 Novice

Novice

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,353 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 10:20

เคยเสนอไปหลายครั้งแล้ว เลิกวิธีกากบาทเลือกคน เปลี่ยนมาใช้วิธีเขียนชื่อแทน คืออย่างน้อยเวลาจะเลือกใครมันควรจะต้องรู้จักคนที่จะเลือกใช่ไหมครับ

ไอ้วิธีกากบาทเลือกผมคิดว่าเป็นวิธีที่มักง่าย และดูถูกคนมาก ถ้ายังไม่รู้จักคนที่เราจะเลือกแล้วเราเลือกมันเข้าไปได้ยังไงนี่เป็นสิ่งที่ผมสงสัยมานานแล้ว

#21 isa

isa

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 447 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 10:30

การศึกษาเป็นเรื่องรองครับ ที่สำคัญก็คือจิตสำนึกของความเป็นคนชั้นกลางต่างหาก

ในความคิดของผม ปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็นปัญหาของการปะทะของความคิดทางการเมือง 2 แบบ คือการเมืองแบบระบบประชาธิปไตยอิสระของคนชั้นกลางในเมือง กับการเมืองแบบอุปถัมภ์ ของคนต่างจังหวัด นายทุนกินรวบ และนักธุรกิจการเมือง

การเมืองแบบคนชั้นกลางเป็นการเมืองแบบผูกพันกันด้วยหน้าที่ และระบบ แบ่งแยกชัดเจน แต่ละฝ่ายทำหน้าที่ของตนสมบูรณ์แล้วก็จบกัน เช่นประชาชนมีหน้าที่ชำระภาษีครบถ้วน ทำหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมาย แค่นี้ถือว่าจบแล้ว เพราะประชาชนแต่ละคนก็มีงานการในหน้าที่ตัวเองอยู่แล้ว ส่วนงานอื่นๆโดยเฉพาะส่วนที่เป็นสาธารณะ เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารหรือฝ่ายการเมือง การรักษาความปลอดภัยก็เป็นหน้าที่ของตำรวจ หากเกิดเหตุบกพร่องในส่วนใดส่วนหนึ่ง ส่วนนั้นก็ต้องปรับปรุงแก้ไข ไม่ใช่ไปโยนให้ส่วนอื่น และส่วนอื่นก็ไม่ควรจะไปเสือกกะโหลก แน่นอนว่าคนที่อยู่ในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ก็จะเลือกประชาธิปัตย์ เพราะเป็นพรรคการเมืองที่ใกล้เคียงกับรูปแบบนี้มากที่สุด

ส่วนการเมืองแบบอุปถัมภ์เป็นไปแบบตรงกันข้าม จะเป็นการเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน และหาประโยชน์ซึ่งกันและกัน มาจากอุปนิสัยรากหญ้าที่จะแบ่งเป็นสองกลุ่มคือกลุ่มผู้นำ และกลุ่มพึ่งพิง ถ้าจะดูตัวอย่างง่ายๆก็ครอบครัวดาราดังๆบางคน ที่มีคนทำมาหากินอยู่คนเดียว แต่มีเครือญาติเข้ามาเกาะกินอีรุงตุงนังนั่นแหละครับ แต่ด้วยความที่เขาเคยชินกับระบบนี้ เลยไม่รู้สึกว่ามันผิด คนที่เป็นผู้นำก็รู้สึกว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องให้คนอื่นพึ่งพา คนที่เป็นผู้พึ่งพิงก็รู้สึกว่ามันเป็นหน้าที่ของผู้นำที่ต้องให้ตัวเองพึ่งพา (สรุปว่าโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง) แต่ก็จะมีผู้นำบางประเภทที่ “เป็นงาน” ก็จะถือโอกาสหาประโยชน์คืนจากผู้พึ่งพาบ้าง ในรูปแบบต่างๆ

และเมื่อคนรากหญ้าถูกปลุกให้เข้ามาใช้สิทธิในทางการเมืองโดยที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงแนวความคิดให้เป็นระบบ ก็เอาแนวความคิดแบบอุปถัมภ์นี้เข้ามาด้วย ผลก็คือระบบการเมืองนี้มองทรัพยากรของชาติเป็นเป้าหมาย แล้วก็มองว่าผู้แทนของตนคือผู้นำที่จะเข้ามากอบโกยทรัพยากรจากส่วนกลางลงไปยังท้องถิ่นตัวเอง ยิ่งมากยิ่งดี ผู้นำที่ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้พึ่งพิง ต่อให้ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศมากแค่ไหน ก็ยังเป็นผู้นำที่เลว

และปัจจุบันแนวความคิดที่สองก็ยิ่งเข้มแข็ง ด้วยการเข้ามาของนักธุรกิจการเมืองที่เห็นช่องโหว่ตรงนี้ และฉกฉวยมันมาใช้ประโยชน์ ตลอดจนการกระจายอำนาจผ่านการปกครองส่วนท้องถิ่น แทนที่จะปลุกจิตสำนึกประชาธิปไตย กลับกลายเป็นการสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็งของระบบอุปถัมภ์แทน และการบริหารประเทศแบบประชานิยม ยิ่งสอดคล้องกับการเมืองระบบอุปถัมภ์ เปิดโอกาสให้ผู้นำจากท้องถิ่นได้กอบโกยทรัพยากรจากส่วนกลางในลักษณะมือใครยาวสาวได้สาวเอา โดยมีผู้พึ่งพิงรากหญ้าเป็นฐานอำนาจที่แข็งแกร่งอยู่ข้างหลัง

และที่ยิ่งทำให้สับสนยิ่งขึ้นก็คือ เหล่านักคิดนักเขียนปีกซ้ายทั้งนักวิชาการ ทั้งสื่อ ที่แทนที่จะช่วยกันพัฒนารากหญ้าให้ขึ้นมาเป็นคนชั้นกลาง กลับโลกสวยไม่ลืมหูลืมตา กลับปลูกฝังแนวคิด "ปล้นคนรวย-ช่วยคนจน" ให้กับสังคม เลยกลายเป็น"ลงโทษคนขยัน ให้รางวัลคนขี้เกียจ "สังคมอุดมไปด้วยคนที่จ้องจะหาผลประโยชน์จากคนที่ตนมองว่าฐานะดีกว่า และคนที่ถ้าฐานะดีกว่า ถ้าไม่หาผลประโยชน์คืน ก็ขาดทุนไป

ทุกวันนี้ ไม่แปลกที่เราจะนั่งแท็กซี่ พอถึงที่หมาย แท็กซี่กลับไม่ยอมทอนเงิน แถมมองหน้ากวนโอ๊ยบอกว่า "รวยแล้วก็แบ่งกันบ้างสิ" หรือพวกสื่อที่นั่งเทียนเขียนคอลัมน์บางรายที่ด่าคนเมืองมันเสียทุกเรื่อง เพียงเพราะเห็นว่าคนเมืองมีโอกาสมากกว่าในสังคม (ภาษีเงินได้กรูก็จ่ายเยอะ ภาษีมูลค่าเพิ่มกรูก็จ่าย ภาษีจ๊อบกรูก็จ่าย บริจาคทุนการศึกษากรูก็ให้ ทอดกฐิน ใส่ซองกรูก็ใส่ จะเอาไงกับกรูอีก) เพียงแค่เป็นกลยุทธ์ทางจิตวิทยาง่ายๆก็คือ...ทำให้มันรู้สึกผิดเข้าไว้ แล้วจะได้ล้วงกระเป๋าเงินมันได้ง่ายๆ มันจะได้ไม่หือ...เท่านั้นเอง

และยิ่งสร้างความสับสนให้กับสังคมโดยการกล่าวหาว่าคนชั้นกลางที่เชิดชูราชวงศ์ นับถือศาสนานั้น เป็นพวกระบบอุปถัมภ์ ทั้งๆที่คนชั้นกลางนับถือสถาบัน หรือศาสนาในแง่สัญลักษณ์และสิ่งเชิดชูจิตใจ และเป็นฝ่ายเกื้อหนุนการทำงานของสถาบันต่างหาก ไม่ใช่ฝ่ายพึ่งพิง

และตราบเท่าที่ระบบอุปถัมภ์ยังคงอยู่ เราก็ไม่มีทางเซ็ตระบบสังคมให้เป็นระบบระเบียบแบบสังคมตะวันตกหรือญี่ปุ่นได้ เราจะไม่มีคนอาชีพต่างๆที่เป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอาชีพสาธารณะอย่างตำรวจ คนขับรถสาธารณะ รปภ. หรืออื่นๆ... มีแค่พวกกะหลั่วที่แฝงตัวมาทำงานเพื่อหาผลประโยชน์ หรือไม่มีที่ไปเท่านั้นเอง

และตราบเท่าที่สื่อและนักวิชาการยังมั่วแหลกอยู่แบบนี้ เราก็ไม่มีทางหนีหล่มโคลนนี้พ้น


-_-

#22 -3-

-3-

    ตัวละครลับ

  • Moderators
  • 8,707 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 10:32

เปลี่ยนวิธีเลือกตั้งจากหลับตากากบาทเลือกเบอร์ เป็นเขียนสะกดชื่อผู้สมัครให้ถูกต้อง (สะกดผิดตัวเดียวก็ไม่ได้) คงจะดีกว่านี้แหละครับ

เพราะถ้าคิดว่าฐานเสียงตัวเองฉลาด คงไม่มีอะไรแบบนี้ออกมาแน่ :lol:

Posted Image
"I want you to form a contract with me and become magical girls!" - kyubey
 
/人 ‿‿ ◕人\

#23 sudthorn

sudthorn

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 967 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 10:36

คนไทยทุกคนต้องมีสิทธิ์ที่จะดูแลบ้านเมืองเท่ากัน เราไม่ควรที่จะไปคิดคนเราด้อยการศึกษาแล้วไม่ควรมาเลือกตั้ง แต่ความจริงมันไม่ใช่การศึกษาหรอก แต่เป็นการที่คนเราต้องเรียนรู้จริยธรรมจรรยาบรรณ ความถูกต้อง การรับเงินเขาแล้วโหวตให้เขานั้นถูกหรือไม่ สิ่งสำคัญในการเลือกตั้งนั้น สิ่งแรกเลยที่ต้องทำเป็นข้อบังคับเลย คือการดีเบต นโยบายของแต่ละพรรค ต้องดีเบตกันถึงรายละเอียดให้ชัดเจน เราสังเกตุซิพท ไม่เคยยอมออกมาดีเบต มาพูดราบละเอียดของตนเอง การดีเบตนี้ต้องให้นักวิชาการที่ไม่เห็นด้วยจำนวนเกินครึ่งมาเป็นผู้ถาม เพื่อที่จะได้เห็นความเป็นไปได้ของนโยบาย การโกงในเชิงนโยบาย ฯลฯ เพื่อประชาชนจะได้ดูว่าผลที่ออกมาทำเพื่ออะไร และนี่จะเป็นการต่อยอดให้ประชาชนดีเบตกันเองครับผม
คนพูดเท็จ ไม่ทำชั่ว นั้นไม่มี

#24 raffy

raffy

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,517 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 10:41

ถ้าพูดถึงเรื่องการศึกษา จะด้อย หรือจะไม่มี แล้วนำมาส่งผลกระทบอันนี้มันมีเหตุและผลครับ
การศึกษาบ้านเรานั้นเองแหละที่ทำให้เป็นอย่างงี้เอง
บ้่านนอกไกลๆ ขี้หมูขี้หมายังไงขั้นต่ำ ป4 ป 6 มีนะครับ
แต่หลักสูตรเน้นเอาแค่นั้นจริงๆ คืออ่านออกเขียนได้
มันควรจะพอแค่นั้นเหรอครับ
จริงๆ ผมบอกตรงๆว่าเมื่อยุคใหม่ๆเอี่ยมอ่องของทักษิณ ผมชอบเรื่องนี้มาก Brain-based Learning (การพัฒนาการเรียนรู้แบบเต็มสมอง)
นักการศึกษาในยุคช่วงนั้นตื่นตัวมาก ซึ่งมันจะทำให้การเรียนการสอนเปลี่ยนไป
ไม่ต้องมานั่งเรียนแบบท่องเป็นนกแก้ว นกขุนทองอย่างในอดีต
ยกตัวอย่างนะครับ อย่างครูเอาผลส้มมาให้นักเรียนดู 1 ลูก แล้วให้นักเรียนแต่ละคนอธิบายในความคิดหรือความเข้าใจของตนเอง
เชื่อไหมว่านักเรียนแต่ละคนก็จะอธิบายแปลกแตกต่างกันไป นั้นก็คือการได้ใช้สมองของเขาเองอย่างเต็มที่
เมื่อเด็กได้หัดใช้ และใช้สม่ำเสมอ กระบวนการความคิดก็จะซึมซับเข้าไป
แต่เชื่อไหมครับว่า หลังจากนั้นทักษิณก็ล้มเลิกเรื่องนี้ไปเพราะคงรู้ว่าเมื่ออนาคตต่อไปชาวบ้านมันคิดเองได้เมื่อไร
วันนั้นก็ไม่เป็นแบบวันนี้ซิครับ หรือว่าไม่จริงก็ดูเอเชียอาบแดดของพวกมันซิครับ

ผมก็ยังสนับสนุนการเรียนการสอนแนวนี้นะครับ

เพราะผมมั่นใจว่าคนเราที่เก่งได้ในวันนี้ ไม่ใช่เพราะว่าเราเรียนแล้วสอบได้ที่ 1 ทุกคนนิ
แต่มันอยู่ที่ความคิดและจินตนาการของคนแต่ละคนมากกว่า เมื่อกระบวนความคิด คิดได้ และคิดเป็น

Edited by raffy, 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 10:44.


#25 promotion

promotion

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,761 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 10:43

ก็จริงนะครับ แต่จริงๆแล้ว ระดับการศึกษาเองก็ไม่ได้ชี้วัดถึงความรู้ผิดชอบชั่วดีเหมือนกัน แต่อย่างน้อยก็อาจช่วยเรื่องการคิดอย่างเป็นเหตุผลล่ะนะ

#26 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 10:48

แยกให้ออกก่อนระหว่าง

การศึกษาและความโง่

ไม่อย่างนั้น คนที่มีการศึกษาน้อย แปลว่า โง่


ชาวบ้านทั่วไป ที่มีการศึกษาน้อย ไม่ได้หมายความว่า โง่
แต่อาจได้รับ ข้อมูล ข่าวสาร ไม่ครบถ้วน

ชาวบ้าน ไม่โง่หรอกครับ


เราถึงได้มี คำว่า ภูมิปัญญาชาวบ้าน


Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy


#27 sendou tiger

sendou tiger

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 490 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 10:49

ผมว่าไม่ได้หรอกครับ จบสูงๆ แต่เลวๆ มีเยอะไป
เพราะงี้ ถึงต้องพัฒนา คุณภาพการศึกษาควบคู่ไปกับ คุณธรรม ไงครับ
จะเห็นได้ว่า ยุคไหนเอ่ย ไม่เคยใส่ใจปลูกฝังคุณธรรม เลย

#28 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 10:49

มันก็ยากจะแก้ไข.เพราะคนที่ควรแก้ไข.เขาไม่แก้ไข.

ให้การศึกษาหรือเปล่า?? ให้ความรู้ที่ถูกต้องหรือเปล่า?

ว่ากันตั้งแต่ ปี 75 มาแล้ว แค่คนรอบ ๆ กรุงเทพฯ

ยังถามว่า(ประชาธิปไตย เป็นใคร ? ลูก พระยาพหลฯ-

หรือ ? ขอรับ )ญาติผู้ใหญ่กลับจากไปราชการหัวเมือง-

มาเล่าผู้ใหญ่ด้วยกันฟัง(ตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไร)แต่-

มาตอนนี้ ..คำถามเหล่านั้นมันยังก้องอยู่ในหู แม้ว่า-

ท่านผู้เล่าเรื่องจะไปสวรรค์นานแล้ว. แต่คำพูดของท่าน

ยังเหมือนเดิมเพียงแต่ ยุคสมัยมันต่างกัน คำว่า..ประชา-

ธิปไตย ) มันก็มีความหมายแค่ (กลุ่มใคร ? )เท่านั้นเอง

ชาวบ้าน ไม่ต้องกล่าวถึง ..100 คน อ่าน กม. รธน. สัก

10 คน ถึงหรือเปล่า ?..มีแต่คน กล่าวอ้างกันตลอด ว่า กลุ่มนั้นกลุ่มนี้ ..

ไม่เป็น.ประชาธิปไตย..แถมด้วย..เรามาเรียกร้อง.ประชาธิปไตย..เราเองก็ยังไม่รู้เลย

ว่าบ้านเมือง ( ตอนไหนที่เป็น ประชาธิปไตย ) เผาบ้านเผาเมือง ก็ว่าจะเอาประชา-

ธิปไตย..!!! ( บ้านเมือง วายวอด..ก็ว่าเอาประชาธิปไตย คืนมา..) อะไรของมัน??

เอะอะโวยวาย จะเอาประชาธิปไตย ( ได้เข้าไปนั่งในสภาฯแล้วก็.เงียบ. ) นั่นหรือ?

คือ ประชาธิปไตย ??????? คิดถึงปี 75 .....คิดถึงปี 55 ... ต่างกันตรงไหน ???



  • -3- likes this

#29 Leeporter ขี้แพ้

Leeporter ขี้แพ้

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 1,493 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 10:53


Plato's Five Forms of Government or the Five Regimes

In The Republic, Plato describes the five forms of government from best to worse and advocates that the ideal state is aristocratic. The five forms of government are:
  • Aristocracy this is the best form of government, according to Plato, in which the ruler is a philosopher, someone whose soul has been educated through the contemplation of arts and the exercise of the intellect. Having studied philosophy, this ruler would know the true virtues and, therefore, he would be able to lead people towards wellness and prosperity. Since the ruler would be virtuous, he would not want to deceive and abuse the citizens;
  • Timocracy this is the form of government ruled by warriors in which all the political decisions aim to bring military power and status. Timocrats may seek virtues just as the aristocrats, but they also pursue power, which can lead them to wars and combats. Timocracy, according to Plato, is a kind of government that arises when aristocracy starts to degenerate;
  • Oligarchy this is the system of government that establishes a division between the rich and the poor. The rich ones, which are fewer, rule and the poor must subject. This, according to Plato, is a problem because rich people are not necessarily virtuous, and when the power is in the hands of non-virtuous people, the rich will attempt to become richer and the poor might become even poorer due to bad policy, generating revolutions;
  • Democracy democracy is the child of oligarchy. Since people cannot agree with the rich ruling and deceiving the poor, people start to believe that if they could choose the ruler, their interest would prevail. The poor are greater in numbers so they elect one of them to be in charge. However, since the masses aren't educated to become virtuous or to exercise the intellect, they are not apt to make political decisions that prioritize their real needs;
  • Tyrannydemocracy naturally degenerates into tyranny and society becomes a total chaos in which there's no rule, no priorities and no laws. Whoever is stronger takes charge and does as he pleases. Nobody is able to remove a tyrant man from the power, as there's no law to be obeyed.
http://suite101.com/...mocracy-a277698

#30 Tiger Lily

Tiger Lily

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 352 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:09

จริงๆ มันผิดตรงแนวทางการสอนของเรามากกว่า การศึกษาขั้นพื้นฐานของเรา เน้นท่องจำ และให้เชื่อทุกอย่างที่ครูสอน ใครมีความเห็นหรือแนวคิดต่างไปจะสอบตกเอาง่ายๆ คนไทยส่วนใหญ่เลยเป็นคนที่ไม่สามารถมองอะไรในมุมแตกต่าง หรือไม่กล้าคิดต่าง รวมถึงขาดพื้นฐานในการวิเคราะห์ด้วย การจำกัดให้คนมีการศึกษามีสิทธิ์เลือกตั้งมันแก้ที่ปลายเหตุ ตอนนี้อาจฟังดูเป็นแนวทางที่ดี แต่ในระยะยาว ไม่ได้ช่วยอะไร
  • -3- likes this
If every man did the little he could — what a different world!Evelyn Beatrice Hall

#31 โคนัน

โคนัน

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,836 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:11

..........คุณภาพของประชาธิปไตย = คุณภาพของประชากร.............

คิดง่ายๆนะครับ........... ถ้าคนไทยส่วนใหญ่ฉลาด.........

ประเทศเราจะไม่เป็นอย่างนี้นะครับ..... เราจะเหมือนประเทศญี่ปุ่น ปรับตัวเป็นผู้นำโลกได้ใน 2 Gen
.................................................. เราจะเป็นเหมือนอิสราเอล ที่ทำทะเลทราย ให้เป็น Oasis
.................................................... เราจะเป็นเหมือน ฝรั่งเศษ ส่งออกวัฒนธรรมการใช้ชีวิต
.....................เราจะเหมือนเกาหลีใต้ ที่สามารถพลิกบทบาทเป็นเจ้าตลาด IT แซงญี่ปุ่นในเวลาไม่ถึงสิบปี..............

....................................... "ปัญหาคือ คนไทยส่วนใหญ่โง่ครับ" ........
"แถมไม่ยอมรับด้วยว่าตัวเองโง่"
"แถมมีสิทธิเลือกตั้ง เอาคนประเภทเดียวกันเข้าสภา"
" ดูหน้า ส.ส. แต่ละคนสิครับลักษณะ มันใช้ได้ที่ไหน เฉลิม การุณ สุรพงษ์ "


ทางรอดของชาติทางเดียวคือ "การให้สิทธิการเลือกตั้ง กับคนที่มีวุฒิภาวะ+การศึกษา.....เท่านั้น!"
จึงจะพัฒนาประชาธิปไตยของชาติไทยได้อย่างยั่งยืน และ ถาวร


มันก็แค่ความคิด ทำไม่ได้หรอก และก็ไม่ได้เห็นด้วย ถ้าเอาแค่การศึกษามาวัด เพื่อการเลือกตั้ง

รู้ได้ไงว่าคนไม่มีการศึกษาจะเลือกหรือไม่เลือกเหมือนเรา
รู้ได้ไงว่าคนที่มีการศึกษาจะเลือกหรือไม่เลือกเหมือนเรา

การศึกษาไม่ได้วัดอะไรเลยกับการเลือกตั้ง ไอ้พวก จบ ด๊อก หลายตัว มันไปเลือก พท ก็ยังมี คนจบสูงๆ ไปเลือก พท ก็ยังมี คนไม่มีการศึกษาคนจน ไปเลือกพรรคอื่นที่ไม่ใช่ พท ก็ยังมี

คำตอบมันคงอยู่ที่สามัญสำนึกมากกว่า

#32 promotion

promotion

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,761 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:15

ไอ้เรื่องจำกัดสิทธินี้ มันไม่ใช่ประชาธิไตยครับ
อย่างที่ผมเคยบ่นๆตั้งแต่ปีที่แล้ว ว่าวิธีแก้มันควรแก้วิธีการหาเสียง
ใช้วิธีการเลือกแบบ สว คือห้ามผู้เลือกตั้งหาเสียง
การหาเสียงแบบโชว์นโยบายทำได้เฉพาะหัวหน้าพรรค และในการหาเสียงใหญ่เท่านั้น
ห้ามติดประกาศว่าจะทำนั้นนี้นู้น แต่ให้ติดว่าผู้สมัครเคยทำงานอะไรมาบ้าง
มีเกียรติคุณอะไรที่น่าสนใจจะเข้ามานั่งบริหารบ้านเมือง ไม่ใช่เอาตาสีตาสา ใส่สูทแดง เดินเข้าสภา ทั้งที่ผลงานอะไรก็ไม่มี
แม้แต่ตลกยังได้เป็น สส ดารา ยังเป็น สส คนพวกนี้เคยทำอะไรให้ประเทศ ถึงขนาดที่ต้องเลือกเหรอครับ
เมื่อเจอวิธีการหาเสียงแบบนี้ ผู้ที่การศึกษาต่ำ ก็ต้องดิ้นรนในการอ่านมากขึ้น ไม่ใช่แค่เอาตัวหนังสือไม่กี่ตัว สั้นๆมาติดตามเสาไฟฟ้า ป้ายรถเมลล์
แล้วมีดอกจันเยอะๆ แบบที่ผ่านๆมา


แบบนี้ก็ดีครับ ห้ามหาเสียงในแนวสัญญาว่าจะให้ เหมือนการซื้อเสียงล่วงหน้า

#33 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:18

พูดถึง Platoแล้ว มาดูต่อครับว่า Aristotle (384–322 B.C.E.) พูดอะไรบ้าง

Aristotle ใช้คำว่า ประชาธิปไตย ในความหมายที่เราเรียกว่า ลัทธิเสียงข้างมากนิยม ;Majoritarians
เขาปฎิเสธแนวคิดที่ว่า เป้าหมายทางการเมืองคือการตอบสนองความต้องการของเสียงส่วนใหญ่

การเมืองสำหรับอริสโตเติลสูงส่งกว่านั่น

เป็นการเรียนรู้ที่จะมีชีวิตที่ดี พัฒนาศักยภาพของมนุษย์ให้ต่างจากสัตว์
มองเห็นถึงประโยชน์สาธารณะ สร้างปัญญาปฎิบัติ มีส่วนร่วมในการกำกับดูแลกันเอง
และใส่ใจในโชคชะตาของชุมชนส่วนรวม

Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy


#34 ริวมะคุง

ริวมะคุง

    ห้ามให้อาหารสัตว์

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,577 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:20

คนไร้การศึกษาเขาก็เป็นคนไทยนะครับ

ผมว่าเราต้องพัฒนาการศึกษาดีกว่า
Posted Image

#35 Leeporter ขี้แพ้

Leeporter ขี้แพ้

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 1,493 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:24

พูดถึง Platoแล้ว มาดูต่อครับว่า Aristotle (384–322 B.C.E.) พูดอะไรบ้าง

Aristotle ใช้คำว่า ประชาธิปไตย ในความหมายที่เราเรียกว่า ลัทธิเสียงข้างมากนิยม ;Majoritarians
เขาปฎิเสธแนวคิดที่ว่า เป้าหมายทางการเมืองคือการตอบสนองความต้องการของเสียงส่วนใหญ่

การเมืองสำหรับอริสโตเติลสูงส่งกว่านั่น

เป็นการเรียนรู้ที่จะมีชีวิตที่ดี พัฒนาศักยภาพของมนุษย์ให้ต่างจากสัตว์
มองเห็นถึงประโยชน์สาธารณะ สร้างปัญญาปฎิบัติ มีส่วนร่วมในการกำกับดูแลกันเอง
และใส่ใจในโชคชะตาของชุมชนส่วนรวม



ถูก

คำถามคือทำไมเราจึงคลั่งไคล้กับ democracy มากนัก ทั้งๆ ที่มันเป็นรูปแบบที่แย่สุดเป็นอันดับ 2 รองจาก Tyranny

และในท้ายที่สุด democracy จะพัฒนาไปเป็น Tyranny โดยไม่มีทางเลือก

ทำไมเราจึงอยากวิ่งลงล่าง แทนที่จะอยากวิ่งขึ้นบน

???

Edited by Leeporter, 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:36.


#36 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:39

-เพราะ ประชาธิปไตย เป็นระบอบที่เลวน้อยที่สุดแล้ว

ระบอบอื่นไม่มีตัว guaratee ว่า จะดีหรือเลวกว่าที่เป็นอยู่หรือไม่


และในท้ายที่สุด democracy จะพัฒนาไปเป็น Tyranny โดยไม่มีทางเลือก

-ข้อนี้ผมสงสัยมากว่า ทำไมสรุปได้อย่างนี้

Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy


#37 nnnn43

nnnn43

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,771 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:44

..........คุณภาพของประชาธิปไตย = คุณภาพของประชากร.............

คิดง่ายๆนะครับ........... ถ้าคนไทยส่วนใหญ่ฉลาด.........

ประเทศเราจะไม่เป็นอย่างนี้นะครับ..... เราจะเหมือนประเทศญี่ปุ่น ปรับตัวเป็นผู้นำโลกได้ใน 2 Gen
.................................................. เราจะเป็นเหมือนอิสราเอล ที่ทำทะเลทราย ให้เป็น Oasis
.................................................... เราจะเป็นเหมือน ฝรั่งเศษ ส่งออกวัฒนธรรมการใช้ชีวิต
.....................เราจะเหมือนเกาหลีใต้ ที่สามารถพลิกบทบาทเป็นเจ้าตลาด IT แซงญี่ปุ่นในเวลาไม่ถึงสิบปี..............

....................................... "ปัญหาคือ คนไทยส่วนใหญ่โง่ครับ" ........
"แถมไม่ยอมรับด้วยว่าตัวเองโง่"
"แถมมีสิทธิเลือกตั้ง เอาคนประเภทเดียวกันเข้าสภา"
" ดูหน้า ส.ส. แต่ละคนสิครับลักษณะ มันใช้ได้ที่ไหน เฉลิม การุณ สุรพงษ์ "


ทางรอดของชาติทางเดียวคือ "การให้สิทธิการเลือกตั้ง กับคนที่มีวุฒิภาวะ+การศึกษา.....เท่านั้น!"
จึงจะพัฒนาประชาธิปไตยของชาติไทยได้อย่างยั่งยืน และ ถาวร


ถ้าทำอย่างนั้นก็ไม่ใช่ระบอบ ปชต

Edited by nnnn43, 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:53.

ผู้ที่ขาดคุณธรรม ย่อมไม่มีอุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ ผู้ที่ขาดความรู้ ย่อมไม่มีสายตาอันกว้างไกล พูดคนฉลาดหนี่งคำ พูดคนโง่ร้อยคำ

#38 Leeporter ขี้แพ้

Leeporter ขี้แพ้

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 1,493 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:45

-เพราะ ประชาธิปไตย เป็นระบอบที่เลวน้อยที่สุดแล้ว

ระบอบอื่นไม่มีตัว guaratee ว่า จะดีหรือเลวกว่าที่เป็นอยู่หรือไม่


ทราบได้อย่างไรครับ??

-ข้อนี้ผมสงสัยมากว่า ทำไมสรุปได้อย่างนี้



"Tyranny –democracy naturally degenerates into tyranny"

ตัดที่เน้นมาให้ดูจุดที่เป็น Flaw ของ Democracy

"However, since the masses aren't educated to become virtuous or to exercise the intellect, they are not apt to make political decisions that prioritize their real needs"

มันก็คือที่กำลังเถียงกันอยู่นี่ไง มันเป็น Flaw ของระบบนี้

สิ่งที่จะเกิดตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือ จะเกิดการไม่ยอมรับกันและกัน เริ่มจากผู้มีการศึกษาจะไม่ยอมรับผู้ไม่มีการศึกษา จากนั้นผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่า (ไม่รู้ว่าจะอยู่ฝ่ายไหน) ก็จะกินรวบอำนาจ ไม่ช้าก็เร็ว จะกลายเป็น Tyranny ในที่สุดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

#39 paknam

paknam

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 799 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:46

ควรเริ่มที่ระดับท้องถิ่นก่อน ระดับประเทศคงเป็นไปลำบาก

#40 10APR10

10APR10

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 681 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:48


ถ้าทำอย่างที่ว่าแล้วเลือกตั้งออกมายังไม่ดีอีกทำไง...?

คนจบปริญญาเอกก็จะบอกอย่าให้คนจบปริญญาตรีมีสิทธิ์เลือกตั้ง




เพราะมันโง่ :lol: :lol: :lol:




* เกิดมาจนเรียนน้อยอยากได้อยากมี ไม่ผิดดอก......

ไม่ผิดครับถ้าไม่ทำอะไรที่ผิด กม. หรือเกินตัวเกินพอดี
เช่น ขายเสียง เห็นได้ง่ายๆ เลยครับ เงินง่าย
ขายยา ส่วนใหญ่ก็คนจนเรียนน้อย อยากได้อยากมี
ขายตัว ก็แบบเดียวกัน
ส่วนเรื่องเกินพอดีนั้นก็อย่างเช่น เกษตรกร บางกลุ่มที่ทุ่มหมดตัว เพราะหวังกำไร
สุดท้ายฝนตกน้อย หรือน้ำท่วม ขาดทุน หรือของล้นตลาดเพราะโลภมากเห็นว่าราคาดีเลยผลิตมากไป
ก็ไปบังคับให้รัฐช่วย ผมขอใช้คำว่าบังคับ เพราะพี่แกขู่จะปิดถนนอย่างเดียว เอาเวลาที่มานั่งประท้วงไปทำมาหากินดีกว่า
นั่นแหละครับ ปัญหาของคนไทยส่วนใหญ่คือการขาดการศึกษา ทั้งด้านความรู้และด้านจริยธรรม
ถ้ามีการเสริมสร้างความรู้และความเป็นคนให้มากกว่านี้ก็จะลดปัญหาเหล่านี้ได้

แต่คงยากสำหรับประเทศไทยที่จะทำอะไรแบบนี้หากการเมืองยังเป็นเพียงแค่เกมของนักการเมืองทั้งหลาย
ถ้านักการเมืองไทยตั้งใจทำเพื่อปรัเทศจริงโดยไม่หวังผลประโยชน์ส่วนตัวหรือพวกพ้อง ป่านนี้ประเทศไทยเจริญไปไหนต่อไหนแล้วครับ


นี่หมายถึง15ล้านเสียงที่เลือกพท.
เป็นพวกขายยา ขายตัว ขายเสียงใช่มั๊ย?

ที่คนพวกนี้ไม่เลือกคนที่จขก.สนับสนุนคิดว่าเป็นคนดี
ก็เพราะคนนั้นไม่ใช่คนดีสำหรับเค้าไง
อยากได้เสียงก็ต้องหาเสียงทุกประเทศปชต.ก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น
ไม่ใช่เข้าไม่ถึงเค้าไม่เลือกแล้วบอกให้ตัดเค้าออกไป
เรื่องโกงเลือกตั้ง เลือกตั้งแล้วโกง เลือกแล้วไม่ทำตามที่หาเสัยงต้องไปหาวิธีป้องกันเอาครับ
ผมคิดว่าทุกคนมี1เสียงเท่าๆกัน
คนที่น่าจะผิดคือคนที่ไม่ยอมออกไปเลือกตั้ง(เกือบครึ่ง)ต่างหาก

Edited by 10APR10, 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:49.


#41 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:52


-เพราะ ประชาธิปไตย เป็นระบอบที่เลวน้อยที่สุดแล้ว

ระบอบอื่นไม่มีตัว guaratee ว่า จะดีหรือเลวกว่าที่เป็นอยู่หรือไม่


ทราบได้อย่างไรครับ??

-ข้อนี้ผมสงสัยมากว่า ทำไมสรุปได้อย่างนี้


"Tyranny –democracy naturally degenerates into tyranny"

ตัดที่เน้นมาให้ดูจุดที่เป็น Flaw ของ Democracy

"However, since the masses aren't educated to become virtuous or to exercise the intellect, they are not apt to make political decisions that prioritize their real needs"

มันก็คือที่กำลังเถียงกันอยู่นี่ไง มันเป็น Flaw ของระบบนี้

สิ่งที่จะเกิดตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือ จะเกิดการไม่ยอมรับกันและกัน เริ่มจากผู้มีการศึกษาจะไม่ยอมรับผู้ไม่มีการศึกษา จากนั้นผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่า (ไม่รู้ว่าจะอยู่ฝ่ายไหน) ก็จะกินรวบอำนาจ ไม่ช้าก็เร็ว จะกลายเป็น Tyranny ในที่สุดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้



-ทีรู้ได้ว่าประชาธิปไตยเลวน้อยที่สุดแล้ว
รู้จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา เป็นข้อพิสูจน์ครับ

"However, since the masses aren't educated to become virtuous or to exercise the intellect, they are not apt to make political decisions that prioritize their real needs"

มันก็คือที่กำลังเถียงกันอยู่นี่ไง มันเป็น Flaw ของระบบนี้

สิ่งที่จะเกิดตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือ จะเกิดการไม่ยอมรับกันและกัน เริ่มจากผู้มีการศึกษาจะไม่ยอมรับผู้ไม่มีการศึกษา จากนั้นผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่า (ไม่รู้ว่าจะอยู่ฝ่ายไหน) ก็จะกินรวบอำนาจ ไม่ช้าก็เร็ว จะกลายเป็น Tyranny ในที่สุดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

นี้เป็นความเชื่อส่วนตัว หรือเป็นทฤษฎีหรือเปล่า

ประเทศ อังกฤษ อมริกา ฝรั่งเศสฯลฯ กำลังตกอยู่ในวังวนนี้ด้วย ใช่หรือไม่

Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy


#42 Leeporter ขี้แพ้

Leeporter ขี้แพ้

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 1,493 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:53

Democracy มันเป็นอุดดมคติสำหรับสังคมนักปราชญ์ที่มีจำนวนคนไม่มาก เช่น สภา Jedi
มันไม่ได้ออกแบบมาสำหรับคน 60-70 ล้านคนที่ระดับความคิดแตกต่่างกันสุดขั้วแบบนี้

#43 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:58

Democracy มันเป็นอุดดมคติสำหรับสังคมนักปราชญ์ที่มีจำนวนคนไม่มาก เช่น สภา Jedi
มันไม่ได้ออกแบบมาสำหรับคน 60-70 ล้านคนที่ระดับความคิดแตกต่่างกันสุดขั้วแบบนี้


แล้วระบอบใหนจะดีกว่านี้ครับ

Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy


#44 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:59

Democracy มันเป็นอุดดมคติสำหรับสังคมนักปราชญ์ที่มีจำนวนคนไม่มาก เช่น สภา Jedi
มันไม่ได้ออกแบบมาสำหรับคน 60-70 ล้านคนที่ระดับความคิดแตกต่่างกันสุดขั้วแบบนี้


<_< ประเด็นมันอยู่ตรงนี้แหละครับ บ้านเมืองที่เราเรียกเค้าว่าพัฒนาแล้ว, ต้นแบบผู้เจริญแล้ว เค้าทำให้คนในแผ่นดินเค้า "ส่วนใหญ่" มีพื้นฐานความคิด, จิตสำนึกเรื่อง "การปกครอง" ไปในทางเดียวกัน...เค้าเริ่มจากอะไร ยังไง ใช้เวลาเท่าไหร่
:) Sometime...Sun shine through the rain...

#45 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 12:02

แล้วระบอบใหนจะดีกว่านี้ครับ

Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy


#46 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 12:11

แล้วระบอบใหนจะดีกว่านี้ครับ


-_- ระบอบหมา ระบอบแมวอะไรก็ได้ครับ ที่ผู้บริหารแผ่นดินทำได้อย่างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบันของเราก็พอ...

:mellow: ผู้นำที่ดี ที่ประชาชน "ส่วนใหญ่" พร้อมจะถวายชีวีให้...
:) Sometime...Sun shine through the rain...

#47 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 13:22


แล้วระบอบใหนจะดีกว่านี้ครับ


-_- ระบอบหมา ระบอบแมวอะไรก็ได้ครับ ที่ผู้บริหารแผ่นดินทำได้อย่างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบันของเราก็พอ...

:mellow: ผู้นำที่ดี ที่ประชาชน "ส่วนใหญ่" พร้อมจะถวายชีวีให้...


นี้คือคำอธิบายที่ชัดเจนแล้วไช่ไหม

Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy


#48 best

best

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 741 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 13:26


แล้วระบอบใหนจะดีกว่านี้ครับ


-_- ระบอบหมา ระบอบแมวอะไรก็ได้ครับ ที่ผู้บริหารแผ่นดินทำได้อย่างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบันของเราก็พอ...

:mellow: ผู้นำที่ดี ที่ประชาชน "ส่วนใหญ่" พร้อมจะถวายชีวีให้...

อ่านคำตอบนี้แล้วแทบสำลัก

#49 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 13:28



แล้วระบอบใหนจะดีกว่านี้ครับ


-_- ระบอบหมา ระบอบแมวอะไรก็ได้ครับ ที่ผู้บริหารแผ่นดินทำได้อย่างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบันของเราก็พอ...

:mellow: ผู้นำที่ดี ที่ประชาชน "ส่วนใหญ่" พร้อมจะถวายชีวีให้...


นี้คือคำอธิบายที่ชัดเจนแล้วไช่ไหม


:mellow: หรือไม่ดีจริง?
:) Sometime...Sun shine through the rain...

#50 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 13:32

ขอความรู้หน่อยครับ

-พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นผู้บริหารแผ่นดินหรือไม่
-ผู้นำที่ดี ที่ประชาชนส่วนใหญ่ พร้อมจะถวายชีวิตให้ รวม ทักษิณด้วยหรือไม่

Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy





ผู้ใช้ 2 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 2 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน