มติป.ป.ช.เชือด'ทักษิณ' ส่งศาลฎีกาคดียึด'ทีพีไอ'
คณะกรรมการ ป.ป.ช.เสียงข้างมาก 6 ต่อ 2 ฟัน "ร.อ.สุชาติ-ทักษิณ" ผิดฐานใช้อำนาจ ก.คลังเข้าไปบริหารกิจการเอกชน แต่ราย "ร.อ.สุชาติ" ถึงแก่กรรม สั่งจำหน่ายคดีคงเหลือเพียงส่งอัยการสูงสุดฟ้อง "ทักษิณ" ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงถึงผลการประชุม ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ที่ผ่านมา ที่โดยได้พิจารณาเรื่องกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กับพวกเห็นชอบให้กระทรวงการคลังเข้าเป็นผู้บริหารแผนคนใหม่ของบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือทีพีไอ โดยมิชอบ
นายกล้านรงค์ แถลงว่า ป.ป.ช. ได้พิจารณา 5 ประเด็น คือ 1. พ.ต.ท.ทักษิณ เห็นชอบให้ ร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยินยอมให้กระทรวงการคลัง เป็นผู้บริหารแผนของบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) โดยมิชอบ หรือไม่ ซึ่ง ป.ป.ช.มีมติว่า กระทรวงการคลัง เป็นส่วนราชการ ตาม พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 มีหน้าที่ต่างๆ ตามที่กำหนด โดยไม่มีหน้าที่บริหารกิจการของเอกชน การที่ ร.อ.สุชาติ ยินยอมให้กระทรวงการคลังเข้าไปเป็นผู้บริหารแผนของทีพีไอ จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ
แต่ปรากฏว่าในระหว่างการไต่สวน ร.อ.สุชาติ ถึงแก่กรรม สิทธินำคดีอาญามาฟ้อง จึงย่อมระงับไป ป.ป.ช.จึงมีมติให้จำหน่ายเรื่องออกจากสารบบ
ประเด็นที่ 2 พ.ต.ท.ทักษิณ และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รู้เห็นหรือทราบเรื่องที่กระทรวงการคลังยินยอมเข้าเป็นผู้บริหารแผนคนใหม่ของทีพีไอ ตามที่ศาลล้มละลายกลางร้องขอ แต่ไม่คัดค้านหรือทักท้วงเป็นการปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริตหรือไม่ อย่างไร ป.ป.ช.โดยเสียงข้างมาก 6 ต่อ 2 เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เห็นชอบให้กระทรวงการคลังเข้าเป็นผู้บริหารแผนทีพีไอ และเสนอชื่อ พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ และนายทนง พิทยะ เป็นคณะผู้บริหารแผน อันเป็นการกระทำนอกเหนืออำนาจหน้าที่ของกระทรวงการคลัง เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ระบบราชการ
การกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงมีมูลความผิด ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ส่วนนายสมคิดข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่ารู้เห็นหรือยินยอม ในการที่กระทรวงการคลังเข้าเป็นผู้บริหารแผนด้วย ให้ข้อกล่าวหาตกไป
นายกล้านรงค์ กล่าวว่า ในกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ส่งเรื่องต่อไปที่อัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ส่วนประเด็นที่ 3 ผู้แทนกระทรวงการคลัง ที่เข้าไปเป็นคณะผู้บริหารได้กระทำการที่สนับสนุน ร.อ.สุชาติ ในการยินยอมให้กระทรวงการคลังเป็นผู้บริหารแผนหรือไม่ จากข้อเท็จจริงพบว่า ไม่ปรากฏว่าคณะผู้บริหารแผนได้ร่วมกระทำผิด โดยยินยอมให้กระทรวงการคลังเป็นผู้บริหารแผนแต่อย่างใด คณะผู้บริหารแผนเพียงแต่ได้กระทำตามที่ได้รับการแต่งตั้งเท่านั้น ข้อกล่าวหานี้จึงไม่มีมูลและตกไปด้วยเสียงเอกฉันท์
ประเด็นที่ 4 ผู้แทนกระทรวงการคลังที่เป็นคณะผู้บริหารแผนได้กำหนดค่าตอบแทนให้แก่ตนเอง ที่ปรึกษา และการอนุมัติให้ว่าจ้างและจ่ายเงินตอบแทนให้บริษัท ซินเนอจี โซลูชั่น จำกัด เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริตหรือไม่อย่างไร จากข้อเท็จจริงพบว่า ผู้แทนกระทรวงการคลังที่เข้าไปเป็นผู้บริหารแผน ได้รับเงินค่าตอบแทนจากบริษัท ทีพีไอ ตามที่ศาลล้มละลายกลางได้พิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว และค่าตอบแทนก็ต่ำกว่าเงินค่าตอบแทนเมื่อครั้งที่นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ กับพวก เป็นผู้บริหารแผนชั่วคราวกับเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ส่วนการที่ได้อนุมัติให้ว่าจ้างและจ่ายเงินตอบแทนให้บริษัท ซินเนอจี ศาลล้มละลายกลางได้พิจารณาแล้วว่า บริษัทซินเนอจี ได้ดำเนินการต่างๆ ตั้งแต่กระทรวงการคลังมีหนังสือยินยอมเป็นผู้บริหารแผน จึงมีสิทธิเรียกเก็บเงินค่าบริการ ข้อกล่าวหาจึงไม่มีมูล และตกไปด้วยเสียงเอกฉันท์
และประเด็นที่ 5 ผู้แทนกระทรวงการคลังที่ไปเป็นผู้บริหารแผน ได้กำหนดราคาซื้อขายหุ้นเพิ่มทุนในราคาต่ำ อันเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง หรือโดยทุจริตหรือไม่ จากข้อเท็จจริงพบว่า ศาลล้มละลายกลางได้ให้สิทธิเด็ดขาดกับกระทรวงการคลังในการจัดหาผู้ร่วมทุนตามแผนฟื้นฟู การกำหนดราคาซื้อขายหุ้นเพิ่มทุน ศาลล้มละลายกลางได้ให้ความพิจารณาเห็นชอบแล้ว เงินที่ได้จากการขายหุ้นเพิ่มทุนมากกว่าจำนวนขั้นต่ำที่จะได้รับจากการขายส่วนทุนที่กำหนดไว้ตามแผน ดังนั้น ตามที่กล่าวหาว่าผู้บริหารแผนได้กำหนดราคาการซื้อขายหุ้นเพิ่มทุนของทีพีไอในราคาต่ำ อันเป็นเหตุให้บริษัทและผู้ค้ำประกันหนี้ได้รับความเสียหาย จึงไม่มีมูลให้ข้อกล่าวหาตกไป ด้วยเสียงเอกฉันท์
ทำแบบยึดทีพีไอ