ก็ลองอ่านบทความนี้ดู เพราะมีรายละเอียดไว้ ทั้งนายใหญ่ ยี้ปึ๊ง เจ๊มิ่ง
ที่ได้เคยพูดเอาไว้. แล้วเอามาเทียบดูกับตอนนี้ว่า หนักหนาสาหัสกว่าหรือไม่.
ย้อนอดีต"ดีแต่กู้"ตีแสกหน้าเพื่อไทย
17 ตุลาคม 2555
โดย...ธนพล บางยี่ขัน
รัฐบาลยิ่งลักษณ์มีแผนจะกู้เงินก้อนมหึมา 2 ล้านล้านบาท ล่าสุด กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และ รมว.คลัง ระบุว่า ในการประชุมสภาสมัยหน้า หรือต้นปี 2556 กระทรวงการคลังจะเสนอร่าง พ.ร.บ.กู้เงินลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจในอนาคตอีก 7 ปี ตามแนวทางที่ วีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) เห็นชอบไว้
นับเป็นยอดสูงเป็นประวัติศาสตร์!!
ย้อนอดีตไม่ถึง 2 ปี พรรคเพื่อไทยสมัยเป็นฝ่ายค้าน เคยถล่มรัฐบาลอภิสิทธิ์ว่า “ดีแต่กู้” คู่ขนานไปกับ “ดีแต่พูด” จนกลายเป็นตราบาปติดตัวพรรคประชาธิปัตย์จนยากจะทำความเข้าใจชี้แจง
ครั้งนั้นรัฐบาลอภิสิทธิ์ออก พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 วงเงิน 4 แสนล้านบาท เพื่อต่อสู้วิกฤตการเงินโลกที่เกิดขึ้นปลายปี 2551-2552
จากนั้นมาทั้ง “เพื่อไทย” และ “เสื้อแดง” ก็หยิบยกจุดนี้มาเป็นหนึ่งในไม้ตายถล่มประชาธิปัตย์ กับงบประมาณที่ส่วนหนึ่งกู้มาดำเนินการโครงการไทยเข้มแข็ง จนพบเห็นป้าย “ดีแต่กู้” นำมาชูปะท้วงในหลายพื้นที่
“มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์” ขุนพลเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย เมื่อสมัยยังเป็นฝ่ายค้าน เปิดฉากถล่มรัฐบาลประชาธิปัตย์ในศึกซักฟอกเดือน มี.ค. 2554 ว่า ในรอบ 76 ปี หลังเปลี่ยนแปลงการปกครองปี 2475 ประเทศไทยมีนายกฯ 26 คน มีหนี้รวมกัน 8.7 แสนล้านบาท แต่นายกฯ อภิสิทธิ์ คนเดียวทำงานแค่ 2 ปี มีหนี้ 1.49 ล้านล้านบาท
“หนี้สาธารณะสูงถึง 4.3 ล้านล้านบาท ทำให้คนไทยต้องแบกหนี้ 6.4 หมื่นบาทต่อคน หากยังใช้เงินมือเติบแบบนี้ ความหายนะของคนไทยรออยู่ข้างหน้า”
ขณะที่ “อภิสิทธิ์” ได้ยกเหตุผลเรื่องตัวเลขท่องเที่ยว หรือการส่งออกที่สูงสุดในประวัติศาสตร์ และยืนยันว่ารัฐบาลต้องกู้เพื่อกอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจ
พร้อมโยงว่าหนี้ส่วนหนึ่งเพราะรัฐบาลเพื่อไทยทำงบประมาณปี 2552 เป็นงบประมาณแบบขาดดุลถึง 3 แสนล้านบาท และหักล้างว่ารัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีหนี้สาธารณะเทียบกับจีดีพีอยู่ 42.75% ขณะที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เมื่อเดือน ม.ค. 2554 อยู่ที่ 41.94%
ในศึกซักฟอกครั้งนั้น “สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล” สมัยยังเป็น สส.เชียงใหม่ เพื่อไทย อภิปรายว่า อภิสิทธิ์ และกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง ยังขาดประสบการณ์ ขาดความเข้าใจชีวิตคนจน ไม่รู้วิธีหาเงิน ไม่รู้จักทำมาหากิน เพราะไม่เคยอดอยาก
“ขอเตือนรัฐบาลอย่านำพาประเทศล่มจม มุ่งแต่กู้เงิน แต่ต้องเร่งหารายได้เข้าประเทศ” สุรพงษ์ กล่าว
ถัดมาในการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มเสื้อแดงเดือน มิ.ย. 2553 ที่ท้องสนามหลวง เพื่อเรียกร้องให้อภิสิทธิ์ยุบสภา พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกฯ ได้โฟนอินมายังกลุ่มผู้ชุมนุมโจมตีรัฐบาลอภิสิทธิ์ดุเดือด
“รัฐบาลติด 3 อย่าง ประกอบด้วย 1.กู้หนี้ 2.ขึ้นภาษี และ 3.ไล่บี้คนอื่น หากกู้เงินมาแล้วต้องมีเป้าหมาย ไม่ใช่เงินขาดก็กู้ ปกติเวลากู้ต้องคิดว่าจะทำรายได้อะไร ยิ่งเอาไปใช้ในโครงการถนนไร้ฝุ่น ขุดคลอง ลอกคลอง ทำให้นึกถึงการกู้|มิยาซาวาที่ไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน” พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
“ดีแต่กู้” จึงเป็นวาทกรรมที่บูเมอแรงย้อนกลับมาถล่มรัฐบาลเพื่อไทยเสียเอง เมื่อพรรคเพื่อไทยพลิกกลับมาเป็นรัฐบาลได้ “กู้เงิน” ทำลายสถิติรัฐบาลประชาธิปัตย์ไปหลายช่วงตัว และยังไม่มีวี่แววว่าจะหยุดกู้
เริ่มตั้งแต่การกู้ในงบประมาณที่รัฐบาลตั้งงบขาดดุลไว้ทั้ง 2 ปี งบปี 2555 ขาดดุล 4 แสนล้านบาท งบปี 2556 ขาดดุล 3 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ รัฐบาลเพื่อไทยที่สะบักสะบอมไปกับวิกฤตน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว ได้ขออนุมัติงบประมาณผ่าน พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท เพื่อฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ ด้วยเหตุผลเร่งด่วนที่ไม่ต้องการให้มหาอุทกภัยสร้างความเสียหายซ้ำรอยเดิม แต่ล่าสุดกลับพบว่างบดังกล่าวกลับเบิกจ่ายไป 1,550 ล้านบาทเท่านั้น
ถัดมาที่ พ.ร.ก.ที่ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) 3 แสนล้านบาท และนำไปปล่อยกู้ให้สถาบันการเงินเพื่อปล่อยกู้ให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม และ พ.ร.ก.จัดตั้งกองทุนประกันภัย 5 หมื่นล้านบาท
ต่อเนื่องด้วยแนวคิดที่เตรียมแผนโยกหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ 1.14 ล้านบาท ไปอยู่กับธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อจะได้ซุกตัวเลขให้กรอบหนี้สาธารณะลดลง และเปิดช่องให้สร้างหนี้ใหม่ได้เพิ่มเติม
สอดรับกับรัฐบาลมีแผนเตรียมดัน พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เร่งดำเนินการเมกะโปรเจกต์หลายด้าน โดยเฉพาะการลงทุนในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในระยะยาว
งานนี้อาจเข้าทำนองว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง ซึ่งวาทกรรม “ดีแต่กู้” ที่ “เพื่อไทย” เคยถล่มรัฐบาลประชาธิปัตย์มาอย่างต่อเนื่องนั้น เวลานี้กำลังจะย้อนกลับมาใส่รัฐบาลเพื่อไทยอย่างรวดเร็ว
http://www.posttoday...แสกหน้าเพื่อไทย
ฤๅ ไพร่แดงส่วนใหญ่จะเป็นพวกความจำสั้น
หรือไม่ก็ถูกน้ำท่วมปากกันหมดแล้ว...
Edited by Suraphan07, 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 15:11.